Saturday, 17 May 2025
TheStatesTimes

“ทอ.“เผยความก้าวหน้าโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน (ครั้งที่ 1)

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ต.ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่าตามที่กองทัพอากาศได้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาและจัดทำความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตี โดยมี รองผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธาน มีผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศและเสนาธิการทหารอากาศ เป็นรองประธาน เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2565 คณะกรรมการฯ ได้จัดการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาภารกิจตามกฎหมาย ยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ข้อมูลและได้กำหนดความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตีที่มีคุณภาพ (Quality Air Force) และมีเทคโนโลยีล้ำสมัย (Cutting-Edge Technology) 

โดยเครื่องบินขับไล่โจมตีที่ต้องการ ต้องมีขีดความสามารถของการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations) มีการบริหารจัดการข้อมูลอัตโนมัติ ร่วมกับระบบตรวจจับของกองทัพไทยและฝ่ายพลเรือนได้อย่างสมบูรณ์ มีขีดความสามารถโจมตี ต่อต้านทางอากาศ ปฏิบัติกิจเฉพาะพิเศษ ลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ เพิ่มระยะการปฏิบัติการทางอากาศ และการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีสมรรถนะสูงยุคที่ 5 (The 5th Generation Fighter) มีคุณลักษณะ 5 ประการ ได้แก่ Stealth, Super Cruise, Sensor Fusion, Super Maneuverable และ Synergistic Integrated Avionics พร้อมกำหนดข้อพิจารณาประกอบการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน สรุปดังนี้

1. เป็นเครื่องบินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางทหาร (Military Standard) มาตรฐานจากองค์กรการบินสากล หรือองค์กรมาตรฐานของประเทศผู้ผลิต 
2. เครื่องบิน ระบบต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งใช้งาน ต้องผลิตโดยใช้มาตรฐานทางทหาร และผ่านการพิสูจน์การใช้งานแล้ว มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วไป
3. สามารถผลิตและนำส่งให้แก่กองทัพอากาศในกรอบงบประมาณและตามห้วงระยะเวลาการจัดหา 
4. มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินขับไล่โจมตีและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่บุคลากรของกองทัพอากาศ 
5. บุคลากรของกองทัพอากาศควรได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Offset Scholarship) เพื่อการพัฒนาด้านต่าง ๆ บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน 

“ประวิตร” ถก แก้ปัญหา "สมัชชาคนจน" สั่ง ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ยัน รัฐบาลจริงใจช่วยทุกกลุ่ม 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/ 2565 ผ่านระบบ VDO CONFERENCE 

โดยที่ประชุมเห็นชอบ แต่งตั้งให้ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอนุกรรมการประสานงาน เร่งรัด ติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน และเห็นชอบการออกโฉนดที่ดิน กรณี พ.ร.ฎ.กำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน ทับที่ทำกินของราษฎร อ.ปากน้ำโพ ,อ.พยุหคีรี และ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เห็นชอบจัดหาที่ดินโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จ.ชัยภูมิ เห็นชอบให้จ่ายค่าชดเชย กรณีโรงเรียนหนองขุนศรีวิทยา จ.สุรินทร์ ก่อสร้างทับที่ดินราษฎร เห็นชอบให้จัดหาที่ดินทำกินให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนพื้นป่า กรณีป่าสงวนแห่งชาติ ดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์  รวมทั้งเห็นชอบให้สมาชิกสมัชชาคนจน สามารถตัดโค่นไม้ยางพาราที่หมดสภาพ เพื่อปลูกใหม่ และเข้าถึงสิทธิกองทุนสงเคราะห์สวนยางพาราได้ในพื้นที่ จ.ตรังจ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช

‘เทพไท’ หนุนแนวคิด ‘อานันท์’ รัฐประหาร ไม่ใช่คำตอบ แซะ!! ‘คมช.-คสช.’ เสียของ คว่ำระบบทักษิณไม่ได้อยู่ดี

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เห็นด้วยกับคำให้สัมภาษณ์ของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า รัฐประหารไม่ใช่คำตอบ เพราะไม่ได้ช่วยให้ประเทศพัฒนาขึ้น รัฐประหารมีแต่ทำให้เลวลง การบริหารล้มเหลว เกิดการคอร์รัปชัน ทรัพยากรกระจุกอยู่กับคนชั้นบน เป็นความเห็นที่น่ารับฟังเป็นอย่างมาก ซึ่งนายอานันท์ เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 2 ครั้ง ที่มาจากการรัฐประหารและวิกฤตทางการเมือง ย่อมเข้าใจการเมืองจากการรัฐประหารได้เป็นอย่างดี การออกมาแสดงความเห็นในลักษณะเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า เป็นการพูดอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะผู้มีประสบการณ์จากการเป็นนายกรัฐมนตรีในภาวะวิกฤติถึง 2 ครั้ง จึงเชื่อได้ว่าการรัฐประหารไม่ใช่คำตอบของประเทศจริงๆ

นายเทพไท ระบุว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร และเผด็จการทุกรูปแบบมาโดยตลอด ในช่วงชีวิตเป็นนักการเมือง ก็พบกับเหตุการณ์ของการก่อการรัฐประหาร 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่มีการยึดอำนาจโดยคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. และวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งเป็นความล้มเหลวและเสียของทั้ง 2 ครั้ง หลังการรัฐประหารโดย คมช. มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศเพียง 1 ปี ก็คืนอำนาจให้กับประชาชน จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้น ผลของการเลือกตั้งก็ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายระบอบทักษิณได้ 

รัฐเร่งเครื่องยานยนต์ไฟฟ้า ดันมาตรฐานอีวีเพิ่มรองรับ 

นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุม กมอ. ได้เห็นชอบมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 19 มาตรฐาน เพื่อรองรับนโยบายการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาล หลังจากได้มีการประกาศใช้แล้วจำนวน 116 มาตรฐาน 

สำหรับมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าที่ประกาศเพิ่มอีก 19 มาตรฐาน เช่น มาตรฐานจักรยานยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานระบบแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานระบบการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับโครงข่ายไฟฟ้า มาตรฐานระบบขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า มาตรฐานระบบเบรกของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรฐานวิธีทดสอบที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า

ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า ในปี 2565 สมอ. มีแผนจัดทำมาตรฐานอีกจำนวน 19 มาตรฐาน ได้แก่มาตรฐานเรือไฟฟ้า ชิ้นส่วนสำหรับดัดแปลงรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า  ระบบจอดอัตโนมัติของรถยนต์  และระบบแบตเตอรี่ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น โดยจะเร่งดำเนินการออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านอีวีให้เป็นรูปธรรม 

'นันทิวัฒน์' ฟันธง! สงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่จบง่ายๆ เหตุ 'นาโต' เสี้ยม!! มีแผนหนุนตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

น่าจะเป็นคำถามที่ชาวโลกตั้งตารอคำตอบถึงปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนใกล้จะสิ้นสุดเมื่อใด หรือประเด็นความขัดแย้งของยูเครน-รัสเซีย และรวมถึงนานาชาติที่เข้ามาร่วมเอี่ยวต่อจากนี้ใกล้จะถึงตอนจบแล้วหรือไม่

ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ว่า...

ยูเครนจบแล้วยัง...ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนใกล้จบหรือจบแล้ว

ทางการรัสเซียอ้างว่า ได้ทำลายสนามบิน เครื่องบินของยูเครนหมดสิ้น ยูเครนแอบโยกย้ายเครื่องบินรบไปไว้ในต่างประเทศ โดยถูกระบุว่าเป็นโรมาเนีย

รัสเซียสำทับว่า ประเทศใดอนุญาตให้เครื่องบินรบของยูเครนออกปฏิบัติการ รัสเซียจะพิจารณาว่า ประเทศนั้นๆ เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางทหารกับรัสเซีย ไม่ได้ขู่นะ

รัสเซียระบุว่า อเมริกาและอังกฤษใช้ดินแดนโปแลนด์เป็นจุดในการส่งกำลังบำรุงอาวุธและลักลอบส่งกองกำลังติดอาวุธจากซีเรียที่เรียกว่า Daech เข้ายูเครน

‘กรณ์’ ชวนคนไทยอย่าเสียเวลาเชียร์ใครในสงครามยูเครน-รัสเซีย เพราะไม่เป็นประโยชน์อันใดต่อประเทศ ชี้!! ควรแนะรัฐบาลแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะดีกว่า

ไม่นานมานี้ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก โดยระบุว่า... 

เช้านี้ราคาน้ำมันตลาดโลกกระโดดขึ้น 10% ส่วนเมื่อวานทางประธานาธิบดีปูติน ‘แนะนำ’ ให้งดการส่งออกวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยเคมี ซึ่งนอกจากเป็นผู้ผลิต Potash รายใหญ่แล้ว รัสเซียมีสัดส่วนตลาดการส่งออก Urea และ Ammonia ที่สูงมาก (15% และ 20%)  ปุ๋ยเคมีนอกจากจะราคาสูงขึ้นไปอีก (หลังจากที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงปีที่ผ่านมา) แต่มีแนวโน้มที่จะขาดตลาดได้ 

‘พีรพันธุ์’ ยกย่อง ‘ยิ้ม’ ผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง อาสาช่วยสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ โดยไม่เรียกเงินซักบาท

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า คนดีที่ยังมีในประเทศไทยและในโลก

วันก่อนผมเขียนชื่นชม “ยิ้ม” (นายสุทธิรักษ์ ยิ้มยัง) พนักงานนิติกร การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ “ปิดทองหลังพระ” ในคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ที่เป็นผู้ช่วยคนสำคัญให้ผมทำงานแก้ไขปัญหาคดีค่าโง่โฮปเวลล์ให้พี่น้องชาวไทยจนสำเร็จ จนมีผู้คนชื่นชมและชมเชยยิ้มกันอย่างมากมายแบบที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน

เมื่อวานผมได้ข่าวว่ายิ้มได้รับการเลื่อนระดับ ผมจึงโทรศัพท์ไปแสดงความยินดี ทำให้ได้พูดคุยเรื่องส่วนตัวกันเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี 

ผมจึงได้ทราบจากยิ้มว่ายังมีทีมงานที่การรถไฟที่ผมไม่เคยพบมาก่อน “เสียสละและทุ่มเท” กันอย่างเงียบๆ มาเป็นปีแล้วโดยไม่เคยบ่นไม่เคยเรียกร้องใดๆ 

ไล่เลียงมาตั้งแต่เพื่อนที่มาช่วยขับรถรับส่งยิ้มที่ผมได้เล่าไปแล้ว ซึ่งต่อมากลายสภาพเป็นคนวิ่งเตรียมเอกสารและส่งเอกสารคำร้องต่างๆ ต่อศาลและทุกหน่วยราชการให้ทันเวลาด้วย ชื่อ สุขี ผ่องอำไพ ซึ่งได้รับการเลื่อนระดับพร้อมกับยิ้มด้วย และยังมีน้องๆ ที่มาช่วยยิ้มอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “พู่” “พลอย” “บาส” และลูกจ้างเฉพาะงานอีกหลายคน 

คนเหล่านี้ทุ่มเทและเสียสละเวลาส่วนตัวและประโยชน์ที่พึงได้รับจากการทำงานนอกเวลาและทำงานในวันหยุดเสาร์อาทิตย์มาเป็นปี เพียงเพราะกลัวว่าจะค้นเอกสารและเตรียมข้อมูลให้ผมไม่ทัน เนื่องจากทุกอย่างมีกำหนดเวลาตามกฎหมาย แต่ยิ้มและคนเหล่านี้ไม่เคยบ่น ไม่เคยปริปากแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ผมทราบมาก่อน 

ผมถามยิ้มว่าการรถไฟจ่ายค่าล่วงเวลาอย่างไร ยิ้มบอกว่าไม่ทราบ

อ้าว! ทำไมไม่ทราบ

คำตอบที่คาดไม่ถึง คือ เพราะยิ้มไม่เคยใช้สิทธิเบิกเงินค่าทำงานล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดในคดีนี้เลย

และเมื่อยิ้มซึ่งเป็นหัวหน้าไม่ใช้สิทธิเบิกแล้ว น้องๆ ที่มาช่วยทำงานก็ไม่มีใครกล้าใช้สิทธิเบิกตามไปด้วย เลยไม่รู้ว่าจะได้ค่าตอบแทนนี้เท่าไหร่  

คนเหล่านี้มีเพียงเงินเดือนกันคนละเล็กคนละน้อย ยังต้องนั่งรถเมล์ ยังต้องดูแลพ่อแม่และครอบครัว แต่พวกเขา “เสียสละและทุ่มเท” กับการเตรียมข้อมูลเตรียมเอกสารต่อสู้กับผู้ที่จ้องจะตะครุบเงินแผ่นดินเป็นหมื่นๆ ล้าน โดยไม่คิดถึงผลตอบแทนของตัวเองเลยแม้แต่น้อยนิด ซึ่งตามปกติน่าจะมีอยู่เพียงในนิทานหรือในภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น

‘จีน’ ผนึก ‘เอเชีย’ ส่งเสริมค้าขายด้วยเงินท้องถิ่น ปูทางสร้างความแข็งแกร่งให้สกุลเงินในภูมิภาค

นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน เปิดเผยว่า จีนจะทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ ในเอเชียเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าและการลงทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาค

การใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าและการลงทุนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยทางการเงินให้กับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียจากผลกระทบต่างๆ จากภายนอก โดยการแลกเปลี่ยนสกุลเงินแบบทวิภาคีในกลุ่มประเทศอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีมูลค่ารวมสูงถึง 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (The People's Bank of China: PBOC) ได้ขยายข้อตกลงแลกเปลี่ยนสกุลเงินแบบทวิภาคีกับธนาคารกลางอินโดนีเซีย (Bank Indonesia: BI) เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อกระชับความร่วมมือทางการเงินและส่งเสริมการลงทุน

"บิ๊กตู่" ห่วงราคาน้ำมันปรับตัวสูงรายวัน “วอน”ช่วยกันประหยัด ใช้รถส่วนตัวเท่าที่จำเป็น วอนติดตามสถานการณ์ทั่วโลกถึงผลกระทบด้วย

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 7 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นรายวันว่า สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกข้างนอกกันเสียบ้าง ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น และมีผลกระทบกับประเทศไทยอย่างไร กลุ่มของเราตัวของเรา ประชาชนแต่ละกลุ่มจะเดือดร้อนอย่างไรบ้าง รัฐบาลพยายามนำสิ่งเหล่านี้มาคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด แต่จะให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือทำให้ทุกคนพอใจมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

แต่เราจะทำให้ทุกคนสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุดในเกณฑ์ที่รัฐบาลสามารถรองรับได้และงบประมาณที่มีอยู่ รวมทั้งตัวบทกฎหมายอีกหลายฉบับ วันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องเตรียมตัวและเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับราคาของพลังงานที่ขึ้นทุกวันทุกคนเห็นตัวเลขอยู่แล้ว รัฐบาลต้องหามาตรการที่เหมาะสม แต่จะดูแลได้ถึงเมื่อไหร่ก็ต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง ถ้ามันยืดยาวออกไปก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ก็ต้องช่วยรัฐบาลบ้าง ช่วยประเทศชาติกันบ้าง

'ศรีสุวรรณ' บุก ป.ป.ช. นำคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เป็นหลักฐานไต่สวน - ชี้มูลความผิด ผู้ว่า รฟม. กับพวก ปม แก้ TOR สายสีส้ม

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มายัง ป.ป.ช. เพื่อนำคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง มาให้ ป.ป.ช.ใช้ประกอบการดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดและหรือลงโทษผู้ว่า รฟม.และคณะกรรมการตาม ม.36 ตามพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2561 ฐานทุจริตต่อหน้าที่หลังใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงทีโออาร์รถไฟฟ้าสายสีส้ม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เคยยื่นเรื่องร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) พิจารณารับกรณีกล่าวหาว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาของคณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.36 แห่งพรบ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 และผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่ (TOR) หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้วอันเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งน่าเชื่อว่าจะมีการกีดกันการเสนอราคา (ฮั้วประมูล) อันอาจเป็นความผิดตามพรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 เป็นคดีพิเศษ ตาม ม.21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ 2547

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แต่การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.36 และผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ม.1 (16) ประกอบพรบ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ 2502 ม.3 ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่และความผิดตามพรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 ม.11 และ ม.12 ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในการไต่สวนและวินิจฉัย ตามพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2561 ม. 4 และ ม.172 ประกอบพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 ม.14 วรรคสอง (1) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) จึงส่งสำนวนทั้งหมดกว่า 1,940 หน้า มาให้ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการต่อไปเมื่อเมษายน 2564 ที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top