Thursday, 26 June 2025
TheStatesTimes

ตาก – อำเภอแม่สอด จัดกิจกรรมรณรงค์เคาะประตูบ้านชวนชาวแม่สอดสมัครฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19

นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวเดินรณรงค์เคาะประตูบ้านชวนชาวแม่สอดไปสมัครเพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมีว่าที่ร้อยตรีหญิงกัญญารัตน์ เชียรธานรักษ์ นายกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สอดและสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย ปลัดอำเภอ สาธารณสุขอำเภอแม่สอด โรงพยาบาลแม่สอด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมการจัดกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 300 คน การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อ ลดการแพร่เชื้อ ลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิด โดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 16,155 คน และกลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค จำนวน 3,928 คน

ในวันนี้ทางนายอำเภอแม่สอดได้นำขบวนรณรงค์เชิญชวนไปรอบเขตเทศบาลนครแม่สอด เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวแม่สอดมาร่วมลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่น่า 2019 หรือ โควิด19 สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค โดยสามารถเข้าไปลงทะเบียนผ่านทางไลน์ หมอพร้อม เวอร์ชั่น 2 หรือลงทะเบียนจองผ่าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลใกล้บ้าน คลินิกหมอครอบครัวโรงพยาบาลแม่สอด คลินิกชุมชนอบอุ่นเทศบาลนครแม่สอด ศูนย์การค้าโรบินสัน แมคโคร โลตัส ห้าแยกกรุ๊ป ฮงล้งมินิมาร์ท ไทยแสงทอง ซ้งการค้า และสุภารัตน์มินิมาร์ท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป โดยจะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในวันที่ 7 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2564 นี้  


ภาพ/ข่าว  วรภา พันลุตัน 
 

กอ.รมน. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐรณรงค์ให้ประชาชนเข้าร่วมการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทำให้เกิดความปลอดภัยต่อประเทศตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

พล.ต. ธนาธิป  สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประเทศไทยในขณะนี้ และโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจำนวนมาก และพบผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้น วัคซีนจึงถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยลดและหยุดยั้งการแพร่กระจายเชื้อที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้

กอ.รมน. โดย พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ศรมน.) จัดประชุมติดตามสถานการณ์การให้บริการวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ามาร่วมในการฉีดวัคซีนมากที่สุด โดยใช้ช่องทาง กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด บูรณาการร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขร่วมรณรงค์แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ระบาด รวมทั้งประชาสัมพันธ์เตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการให้บริการวัคซีน อีกทั้งการเตรียมความพร้อมจุดให้บริการวัคซีนทั้งในและนอกโรงพยาบาลผ่านช่องทางการลงทะเบียนและการรับบริการฉีดวัคซีนตามนโยบายของ พล.อ. ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ทุกคนในประเทศได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากรในประเทศ และให้ความสำคัญในการฉีดวัคซีนที่รัฐบาล ได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป

สำหรับช่องทางการลงทะเบียนและการเข้ารับวัคซีน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 จองผ่าน "หมอพร้อม" (Line OA และ Application) กลุ่มที่ 2 เป็นวิธีเสริมจากระบบหมอพร้อม ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุด ในกรณีที่มีวัคซีนสนับสนุนเพียงพอ โดยให้ลงทะเบียนผ่านสถานพยาบาล หรือ อสม. หรือผ่านองค์กร หรือ การลงทะเบียน ณ จุดฉีด (On Site Registration) กลุ่มที่ 3 การจัดสรรวัคซีนกลุ่มเฉพาะ ได้แก่ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่มีความจำเป็นพิเศษ กลุ่มที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตประจำวัน

สำหรับการจองผ่าน “หมอพร้อม” ขณะนี้ยังเปิดให้จองได้เฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่ม โรคเรื้อรัง คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดระหว่างการรักษา โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ส่วนประชาชนทั่วไปให้เริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 64 การปูพรมฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อต้องการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งมีความจำเป็นที่ประชาชนต้องให้ความสำคัญกับการเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อหยุดเชื้อ เพื่อชาติ โดยวัคซีนจะทำให้การแพร่กระจายเชื้อ อาการป่วยหนัก และการสูญเสียชีวิตลดลง

อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. และรัฐบาลกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมาตรการส่วนบุคคล (D-M-H-T-T-A) ได้แก่ การเว้นระยะห่าง, สวมหน้ากากอนามัย, ล้างมือบ่อย ๆ, ตรวจวัดอุณหภูมิ, สังเกตอาการ และ สแกนหมอชนะ เน้นย้ำการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีการอยู่ร่วมกัน ลดกิจกรรมการชุมนุมสังสรรค์ ทุกประเภท และขอความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนให้ใช้มาตรการการทำงานที่บ้าน (Work from home) ต่อไป จนกว่าการแพร่ระบาดจะลดลง รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการบริหารของทางรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ เพื่อรู้เท่าทันเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

ถอดรหัส 'วันทอง' รอยต่อ 'ความสำเร็จ' ขึ้นแท่น “นัมเบอร์วัน” ละครหลังข่าว | LOCK LENS GURU EP.20

???? GURU : อาจารย์อาทิตยา ทรัพย์สินวิวัฒน์ อาจารย์ประจำสาขานวัตกรรมการสื่อสาร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

▶️ หัวข้อ : ถอดรหัส 'วันทอง' รอยต่อ 'ความสำเร็จ' ของช่องวัน ขึ้นแท่น “นัมเบอร์วัน” ละครหลังข่าว

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021050213

 ???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES 

.

.

ไต้หวัน ประกาศชะลอให้แรงงานเดินทางไปทำงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย ได้รับการประสานจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 รัฐบาลไต้หวันโดยศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน ได้ประกาศการชะลอการเดินทางเข้าไต้หวันชั่วคราวสำหรับแรงงานต่างชาติทุกชาติ ชาวต่างชาติที่ไม่มีบัตรสำหรับการพำนักอยู่ในไต้หวัน (Alien Resident Card : ARC) และชาวต่างชาติที่ต่อเครื่องบินที่ไต้หวัน ยกเว้นในกรณีที่เกี่ยวกับหลักมนุษยธรรม เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2564 เป็นเวลา 1 เดือน ทำให้กระทรวงแรงงานต้องชะลอการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงาน จนกว่าทางการไต้หวันจะประกาศให้แรงงานต่างชาติเดินทางเข้าไปทำงานได้ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไต้หวันได้ยกระดับมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ทั่วเกาะเป็นระดับ 3 เพื่อให้การป้องกันโรคเป็นมาตรฐานเดียวกันแล้ว 

“รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไต้หวันล่าสุด (วันที่ 20 พฤษภาคม 2564) พบว่ามีผู้ติดเชื้อสะสม 2,828 ราย ผู้รักษาหาย 1,133 ราย และผู้เสียชีวิต 15 ราย ซึ่งได้รับการยืนยันจากสำนักงานแรงงานไทย ในไต้หวันแล้วว่า ไม่มีแรงงานไทยและบุคลากรเสียชีวิตหรืออยู่ในรายชื่อผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ดีนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ยังคงห่วงใยและกำชับกระทรวงแรงงานให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพร้อมให้การดูแลแรงงานไทย โดยที่ผ่านมาสำนักงานแรงงานไทยฯ มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารภาครัฐ และวิธีป้องกันตัวจากโรคโควิด-19 ให้แรงงานไทยทราบผ่านแอปพลิเคชันไลน์ Facebook และเว็บไซต์ รวมทั้งขอความร่วมมือจากแรงงานไทยให้ดูแลสุขภาพของตัวเอง หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือ และให้ความร่วมมือกับนายจ้าง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่นายจ้างและหน่วยงานรัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อที่ศูนย์บริการสายด่วนคุ้มครองแรงงาน 1955 หรือใช้บริการกลุ่มไลน์ 1955 E-Line (TH) ของกระทรวงแรงงานไต้หวัน ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลและมาตรการต่างๆ ในภาษาไทย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 การจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศจะดำเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาลโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของแรงงานเป็นอันดับแรก ทั้งนี้แรงงานไทยที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศ จะต้องขออนุญาตเดินทางและไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อได้รับการคุ้มครอง และการดูแลตามสิทธิที่พึงมี ในกรณีที่แรงงานเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ หากประสบอันตราย หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ จะได้รับการเยียวยาและสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ด้วย

“ปัจจุบันคนไทยเดินทางไปทำงานในไต้หวันสูงสุด เป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นประเทศอิสราเอล ญี่ปุ่น ลาว และสาธารณรัฐเกาหลี ตามลำดับ โดยปีงบประมาณ พ.ศ.2564 กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จัดส่งแรงงานไทยเดินทางไปทำงานในไต้หวัน จำนวน 9,107 คน และ Re-entry จำนวน 3 คน รวม 9,110 คน และสำหรับผู้ที่สนใจจะไปทำงานต่างประเทศ สามารถติดตามข่าวสารการประกาศรับสมัครได้ที่เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ www.doe.go.th/overseas หรือติดต่อสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสอบถามสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694” นายไพโรจน์ฯ กล่าว

อะไรอยู่ใต้แมสก์ | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.11

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

.

เชียงราย - กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. จัดการประชุมเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่อง " ปัญหาภัยแล้งซ้ำซากและน้ำท่วมซ้ำซาก " ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ ห้องประชุม กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 0930 - 1200 น. พ.อ. กิตติพล ไพรหิรัญ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ช.ร.(ท.)   เป็นประธานในการประชุมเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่อง " ปัญหาภัยแล้งซ้ำซากและน้ำท่วมซ้ำซาก " ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ ห้องประชุม กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 8 หน่วยงานได้แก่

มทบ.37,ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จังหวัดเชียงราย,ปลัดจังหวัดเชียงราย (กลุ่มงานปกครองจังหวัดเชียงราย),ศูนย์ป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15,ป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย,โครงการชลประทานเชียงราย,นพค.35 , สนภ.3 นทพ. ,สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค1 เชียงราย     

      

ทั้งนี้เพื่อเป็นการระดมความคิดเห็นและนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดเชียงรายที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและภัยแล้ง ปัจจุบันประเทศไทย และจังหวัดเชียงราย เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบ ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากในบางพื้นที่

ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการบริหารในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และต้องมีการบริหารจัดการน้ำเพื่อเก็บกักตุนน้ำไว้ให้ประชาชน และเกษตรกรได้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในปี 2564 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง 

พร้อมนำบทเรียนจากการปฏิบัติงาน ปัญหาอุปสรรคจากปีที่ผ่านมา มาประกอบการวางแผนบูรณาการและแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ถอดรหัส ‘พรรคกล้า’ ต้นแบบ ‘กล้าทำ’ เรื่องที่ควรทำ ในห้วงเวลาที่คนไทยโหยหาคนช่วย ส่วนใครจะไม่จำ ไม่รู้!!

ในระหว่างที่โลกการเมืองภายในประเทศตอนนี้ ยังคงมีวาทกรรมให้โต้ตอบจากการขุดประเด็นอะไรก็ไม่รู้มาพ่นน้ำลายในแต่ละวัน คู่ขนานไปกับการทำงานของคนการเมืองที่ต้องมีส่วนเอี่ยว แบบเดินไป สะดุดไป

พลันหลงให้ต้องเหลือบไปมองดูพรรคการเมืองอื่น ๆ เพื่อพักสายตา ซึ่งช่วงนี้ชื่อ ‘พรรคกล้า’ ก็ลอดเล็ดเข้ามาเป็นระยะ ๆ เพราะดันอดสงสัยไม่ได้ว่า แคมเปญสารพัดที่พรรคนี้งัดออกมาในช่วงประชาชนโหยหาความรักความเมตตาอยู่เนี่ย มันควรเป็นหน้าที่ของใคร?

จริง ๆ แล้ว พรรคกล้า เป็นพรรคหนึ่งที่เชื่อว่าคนไทยบางส่วน คงมีแอบตามติดอยู่เบา ๆ แต่ก็ไม่ใช่เพราะหัวหน้าพรรคชื่อดัง ไม่ใช่ว่าเพราะเบื่อลุง หรือเซ็ง 3 นิ้วใด ๆ

แต่แค่รู้สึกว่า ในหัวชาวบ้านทั่ว ๆ ไป อยากได้ความช่วยเหลืออะไร พรรคนี้ก็ดันทะลึ่งมีไอเดียคลอดออกมาซัพพอร์ตในวันที่ภาคส่วนซึ่งเกี่ยวข้องยังงง ๆ หรือมึนกับบทบาทตัวเองอยู่เลย (แต่บางคนทำงานดี ๆ ก็มีเยอะนะ)

เพราะตั้งแต่เกิดการระบาดระลอก 3 มานี้ ‘พรรคกล้า’ มีเส้นทางในการทำงานการเมืองนอกสภา ที่ดู OK ไม่น้อย

แถมสิ่งที่เห็นชัด คือ ไม่ใช่แค่การคิด หรือ คุย หรือ วาทกรรมไปเรื่อย แต่คนในพรรคดูจะ ‘เน้นลงมือทำ’ เลยเฮ้ย!! (อันนี้อยากให้นักการเมืองไทยมองเป็นแบบอย่าง)

อย่างเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ พรรคกล้ามีการตั้งทีมช่วยประสานหาเตียงผู้ป่วย มีการตั้งโครงการ ‘กล้าเติมอิ่ม’ ดูแลคนที่จะเดือดร้อน มีการพาทีมไปบริจาคเลือดให้กับสภากาชาด มีการช่วยรณรงค์ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนโดยการทำแคมเปญเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ ‘กล้า ฉีดวัคซีน’ ทุกกิจกรรมมันแอบกระแทกใจคน แม้จะเฉย ๆ กับพรรคนี้

เท่าที่จำได้ บรรดาคนในพรรคนี้ตั้งแต่ หัวหน้า / เลขาธิการพรรค ยันลูกพรรคแต่ละเขต ระดมแรงลงไปไล่เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ น่าจะตั้งแต่ช่วงวันที่ 25 เมษายน 2564 ที่โควิดระลอก 3 เริ่มหนัก

ขอไล่เรียงเท่าที่พอรู้ พรรคนี้เริ่มโครงการ ‘กล้าสู้โควิด’ โดยมีการจัดตั้งศูนย์ประสานสำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิดและมีปัญหาเรื่องประสานหาเตียง มีอาสาสมัคร ประมาณ 10 ท่าน ช่วยในการโทรประสานเตียง ให้กำลังใจและคำแนะนำ โดยสามารถช่วยไปได้หลายร้อยราย

‘กล้าเติมอิ่ม’ เป็นโครงการที่หัวหน้าพรรคเขาริเริ่ม โดยการนำข้าวอิ่ม เกษตรอินทรีย์ ที่ปลูกโดยชาวบ้าน จังหวัด มหาสารคาม มาร่วมกับเชฟหลายท่าน ทำข้าวกล่อง ‘กล้าเติมอิ่ม’ นำแจกตามชุมชนทั่วกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงนำข้าวสาร อาหารแห้งไปบริจาคเพิ่มเติมอีกด้วย นอกจากนี้มีการตั้งครัวอาสาทำข้าวกล่องทั่วกรุงเทพหลายจุดมอบให้ประชาชนหลายหมื่นกล่อง

‘กล้าบริจาคเลือด’ ตามที่ สภากาชาดไทยได้แจ้งว่ามีการขาดเลือดจำนวนมาก คนของพรรคกล้าก็โร่ไปบริจาคเลือดกันหลายสิบชีวิต นำโดยคุณเอ๋-อรรถวิชช์ สุวรรณภักดีที่เป็นเลขาธิการพรรค

‘กล้าฉีดวัคซีน’ แคมเปญรณรงค์ล่าสุดของพรรคกระตุ้นให้คนไทยออกมาฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจโดยเป็นการทำแคมเปญเปลี่ยน รูปโพรไฟล์ในช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย ‘กล้าฉีดวัคซีน พร้อมมากพูดเลย’ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากโลกโซเชี่ยลเป็นอย่างมาก

ล่าสุดก็ ‘กล้าหางาน’ ที่ช่วยประชาชนหางาน และช่วยผู้ประกอบการหาคน เป็นการช่วยสู้วิกฤตเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 เพราะมองว่าแค่รับเงินแจกคงไม่พอแดก ซึ่งพรรคกล้าก็ได้เปิดเพจ-ทำงานเชิงรุกพื้นที่ บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หวังช่วยคนไทยนับล้านมีงานทำ

แน่นอนว่าสิ่งที่พรรคนี้กำลังทำ อาจจะไม่ใช่กิจกรรมที่ช่วยคนได้ทั้งประเทศหรอก แต่ถ้านักการเมืองที่เกี่ยวข้องในกระบวนการด้านสังคม สุขภาพ และเศรษฐกิจของประชาชน ซึ่งมีอำนาจล้นพ้นได้ทำ ประโยชน์จะเกิดกับคนไทยได้มากแค่ไหน และควรเป็นบทบาทของใคร? อันนี้ไม่พูด

อย่างไรเสีย คนช่างอคติแบบเรา ก็มองกิจกรรมที่พรรคนี้ได้ทำ เป็นเหมือนกับการหาเสียง หาฐานประชาชนทั่วไปให้รักให้หลง ตามกระบวนการทางการเมือง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่มันเป็นความปกติที่ส่วนตัวแล้วอยากให้เกิดขึ้นบ่อย ๆ แบบ New Normal (ทันสมัยซะด้วย) เพราะสาระสำคัญของสิ่งที่ทำ มันแลดูเป็น ‘การเมืองเชิงสร้างสรรค์’ ที่เหมือนจะห่างหายจากสังคมไทยไปช้านาน

แต่คิดไปคิดมา เอาจริง ๆ พรรคกล้านี่ ถ้าไม่นับหัวหน้าพรรคนี่ คนอื่น ๆ ในพรรค ก็อาจจะไม่ได้มีใครคุ้นตาประชาชนเลย คนในพรรคส่วนใหญ่นี่เรียกว่าใหม่หมดจดในวงการเมืองแทบจะยกแผง ตั้งแต่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. / ส.ส. ทำไปจะได้ใจ จะมีใครจดจำ หรือได้เสียงในวันข้างหน้าแค่ไหนก็บอกยาก

ทว่าการเมืองแบบนี้ เป็นการเมืองภาคประชาชนของโลกยุคใหม่ ยุคที่คนไทยอยากเห็นการเมืองสร้างสรรค์ ต่อให้ต้องพ่ายแพ้หลังวันคืนหมาหอน แต่ก็น่าจะเป็นประกายเล็ก ๆ ให้คนในประเทศยังรู้สึกมีความหวังกับคนที่อยากมานักการเมืองไทย

ถึงกระนั้น!! อนาคตก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก​ แต่ถ้าสิ่งที่เป็นอยู่ในวันนี้กับอนาคตที่จะมาถึง ยังคงสม่ำเสมอได้...

ตราตรึงจิตคนไทยไม่ยาก!!


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ขอนแก่น - เราชนะรอบสอง คึกคักชาวขอนแก่น รูดปี๊ด...ช๊อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น แน่นทุกร้าน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 พ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการใช้จ่ายตามโครงการเราชนะ รอบที่ 2 ภายหลังจากที่รัฐบาลได้โอนเงินให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์วันแรกวันนี้พร้อมกันทั้งประเทศ โดยเฉพาะที่ร้านเต็มสิบ ซึ่งตั้งอยู่ ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ตรงข้าม มทบ.23 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง และเข้าร่วมโครงการเราชนะ ตามที่รัฐบาลกำหนด  พบว่ามีประชาชน พ่อค้า แม่ค้า เดินทางมาซื้อหาสินค้ากันอย่างคึกคัก

นางสุกานดา นาคะปักษิณ เจ้าของร้านเต็มสิบ กล่าวว่า วันแรกของการใช้จ่ายตามโครงการเราชนะวันแรกันนี้ในรอบที่ 2 นั้น พบว่าตลอดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะและได้รับเงินโอนงวดแรก 1,000 บาท ทยอยกันเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง  แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากลูกค้าได้ห่างหายไปนานหลังจากที่เงินตามโครกาเราชนะหมดไปจากรอบแรก

"หลังจากการเงินเราชนะรอบแรกหมดลงประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมาลูกค้าลดลงอย่างชัดเจน แต่แล้ววันนี้หลังจากที่มีการโอนเงินเข้าลูกค้าที่เคยมาใช้บริการก็ได้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งจากการที่สอบถามผู้ที่มาใช้สิทธิทุกคนรู้สึกดีใจ และยิ้มได้ จากการที่ได้รับเงินเยียวยาจากทางรัฐบาลที่จะนำมาใช้จ่ายในการเลือกซื้อสินค้าประเภทต่าง ๆ ในร้านค้าต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ที่จะสามารถช่วยลดค่าครองชีพจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้อย่างมาก"

นางสุกานดา กล่าวต่ออีกว่า จากการสังเกตุพบว่าส่วนมากคนมาซื้อของนั้นจะซื้อกลุ่มสินค้าบริโภค ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง ข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำมันพืช เป็นหลักเพื่อนำกลับไปปรุงอาหารในครอบครัว แต่ที่ขายดีเป็นพิเศาวันนี้คือกลุ่มอาหารสดแช่เย็นเพราะจะได้เก็บไว้อีกหลายวัน และที่สำคัญการที่รัฐบาลโอนเงินเข้ามาในช่วงวันนี้และเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมอย่างมาก เพราะเข้าสุ่ช่วงสิ้นเดือน ที่ทุกคนเงินเดือนเริ่มหมด จึงสามารถนำเงินที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลมาใช้จ่ายได้ในช่วงนี้

แรงงานไทยในอิสราเอล ครวญอยากกลับบ้าน หลังเกิดการปะทะใกล้แคมป์แรงงานไทย แต่ติดขัดต้องลงทะเบียนจองคิว ระหว่างนี้ ได้รับคำเตือนหากได้ยินเสียงเตือนภัย ต้องหมอบ หรือหลบเข้าบังเกอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของนายวิชิต สาลีหอม อายุ 35 ปี แรงงานชาวอำเภอตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ซึ่งทำงานเก็บพืชผลอยู่ในนิคมเกษตรกรรมโอฮัด (Ohad) ในเมืองเอชโคล (Eshkol) ประเทศอิสราเอล ได้วีดีโอคอลพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ หลังแคมป์คนงานในนิคมเกษตรกรรมดังกล่าว ถูกโจมตีด้วยจรวด จนมีแรงงานไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บ

ระหว่างพูดคุยนายวิชิต ได้เล่าถึงสถานการณ์ในนิคมเกษตรกรรมที่ทำงานอยู่ และแคมป์แรงงานที่อยู่ใกล้กัน ยังมีแนวโน้มความรุนแรงจากการปะทะของกองกำลังทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ จึงได้รับคำเตือนจากผู้ดูแลนิคมเกษตรกรรมว่า หากได้ยินสัญญาณเตือนต้องรีบหมอบ หรือหลบเข้าบังเกอร์ ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะนิคมตั้งอยู่ใกล้ฉนวนกาซาจุดปะทะ จึงอยากกลับประเทศไทย เพราะตัวเองก็เพิ่งจะมีลูกอ่อนด้วย

ทั้งนี้นายจ้างของนิคมเกษตรกรรมโอฮัด ได้ให้ไปลงทะเบียนไว้แล้ว แต่ต้องรอคิว เนื่องจากต้องทำเอกสารขอเดินทางกลับและต้องรอเครื่องบิน ซึ่งสัปดาห์หนึ่งมีเพียง 2 เที่ยวบิน หากมีทางช่วยเหลือให้เดินทางกลับได้เร็วขึ้น ก็อยากให้ทางการไทยช่วยดำเนินการให้ด้วย เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยจากการปะทะกันของกองกำลังอิสราเอลและปาเลสไตน์ในขณะนี้

สำหรับพื้นที่ ต.นาพิน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี มีชายหนุ่มในตำบลนาพิน เดินทางไปทำงานที่นิคมเกษตรกรรมในประเทศอิสราเอลจำนวนหลายครอบครัว แต่ละรายมีอายุทำงานตั้งแต่ 1-3 ปี

 

ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9640000048639


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

รพ.กรุงเทพ แจ้งจุดฉีดวัคซีนโควิดของรัฐ แบ่ง 2 จุด 'รพ.กรุงเทพ-สยามพารากอน' เริ่ม 7 มิ.ย.นี้

รพ.กรุงเทพ แจ้งสถานที่ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 จากการจัดสรรของรัฐ รับบริการที่ รพ. กรุงเทพ และ สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2564

วันนี้ (20 พ.ค. 64) โรงพยาบาลกรุงเทพ แจ้งผู้รับบริการที่ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐ ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” เนื่องจากในขณะนี้มีการระบาดในวงกว้าง การจัดสรรพื้นที่ภายในโรงพยาบาลในการดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วไปมีอย่างจำกัด และมาตรการความปลอดภัยและเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นสำคัญ และสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ทางโรงพยาบาลฯ ขอแจ้งท่านที่ลงทะเบียนแอปพลิเคชันและไลน์ “หมอพร้อม” สามารถเลือกรับบริการ "ฉีดวัคซีนโควิด-19" ที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐ ของโรงพยาบาลกรุงเทพ ในระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2564 มีจุดบริการฉีดวัคซีน 2 แห่ง คือ

1.) โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้บริการ เวลา 8.00-17.00 น.

2.) โรงพยาบาลกรุงเทพ (สยามพารากอน) รับบริการที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้บริการ เวลา 9.00-16.00 น.

สงวนสิทธิ์สำหรับท่านที่ลงทะเบียนจองผ่านแอปพลิเคชัน หรือไลน์ “หมอพร้อม” เท่านั้น ไม่บริการให้บุคคลที่ไม่ได้จองฉีดวัคซีนผ่านหมอพร้อมล่วงหน้าทุกกรณี หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ที่ได้ลงทะเบียนแล้ว สามารถติดต่อได้ที่ COVID Center รพ. กรุงเทพ โทร. 02-308-7171 (4 คู่สาย) ในเวลาทำการ 08.00-17.00 น.

หมายเหตุ : ภายในพื้นที่การฉีดวัคซีน กำหนดให้มีผู้ติดตาม / ผู้ดูแล 1 คน ต่อผู้รับบริการฉีด* 1 คน (*สำหรับผู้ป่วยสูงอายุมากกว่า 70 ปี หรือผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง) ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยและการเว้นระยะห่างของผู้มารับบริการในพื้นที่ให้บริการอย่างจำกัด


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top