Saturday, 21 June 2025
TheStatesTimes

ขอนแก่น - ม.ขอนแก่น ผลิตชุด "พีเอพีอา" อุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ สนับสนุนการทำงานของชุดพีพีอีและหน้ากากพีเอ็ม 2.5 ใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และเริ่มทดลองใช้งานในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 เม.ย.2564 ที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รศ.ดร.จีรนุช เสงี่ยมศักดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มข.พร้อมด้วย นพ.อภิชาติ โซ่เงิน อายุรแพทย์ โรคระบบทางเดินหายใจ รพ.ศรีนครินทร์  คณะแพทยศาสตร์ มข. ร่วมทำการทดสอบอุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ หรือ พีเอพีอาร์ (PAPR)  ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มข. ได้ทำการวิจัยและประดิษฐ์ขึ้น ชุดแรก จำนวน 10 ชุด สำหรับการให้บุคลากรทางการแพทย์นำไปใช้งานสำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลสนาม จ.ขอนแก่น แห่งที่ 1 ( หอพัก 26 มข.) อยู่ในขณะนี้

รศ.จีรนุช เสงี่ยมศักดิ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มข. กล่าวว่า การปฎิบัติงานในปัจจุบันของบุคลากรทางการแพทย์นั้น ชุดพีพีอี เป็นชุดที่สามารถกรองเชื้อได้แต่ว่าในลักษณะของการกรองอากาศที่เข้าไปให้กับผู้ที่สวมใส่นั้นจะต้องสวมใส่หน้ากาก N95 เพิ่มเข้าไป ทำให้มีลำบากที่จะหายใจต่อการใช้งาน ทีมงานวิจัยร่วมระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ และ คณะแพทยศาสตร์ มข. จึงได้ร่วมกันวิจัยและผลิตชุดดังกล่าวขึ้นมาที่จัดเป็นชุดที่จ่ายอากาศบริสุทธิ์ที่มีความสามารถในการกรองเชื้อไวรัสได้มากกว่า96%  ในลักษณะของหมวกแรงดันบวก โดยผ้าที่ใช้ต้องเป็นผ้าร่มกันน้ำกันลม  เพื่อให้ภายใน สามารถจ่ายลมแรงดันบวก จากด้านหลัง และออกแบบท่อให้นำอากาศมาด้านหน้า เพื่อความสะดวกในการหายใจ และยังมีฟิวเตอร์ ที่สามารถกรองไวรัสได้ ดังนั้นผู้ที่อยู่ในห้องที่มีอากาศไม่บริสุทธิ์หรือในห้องติดเชื้อผู้ที่สวมใส่จะหายใจได้สะดวกกว่าโดยไม่ต้องใส่หน้ากากN95 โดยที่สามารถสวมหน้ากากที่ใช้ในทางการแพทย์แบบปกติได้

ขณะที่ นพ.อภิชาติ โซ่เงิน อายุรแพทย์ โรคระบบทางเดินหายใจ รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวว่า  กรณีที่มีโรคระบาดที่เราไม่มั่นใจว่าจะแพร่กระจายทางระบบทางเดินหายใจ ทุกครั้งที่มีโรคอุบัติใหม่จะต้องคิดเสมอว่าน่าจะเป็นโรคที่แพร่กระจายทางเดินหายใจ ดังนั้นผลงานวิจัยที่ร่วมกันคิดค้นขึ้นชุดนี้จึงมีความสำคัญในทุกครั้งที่มีโรคระบาดที่เกิดขึ้น ในยุคที่เจอมาไม่ว่าจะเป็นH5n1 ,H1n1 ,ซ่าร์ส จนกระทั่งมาถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 " โดยเฉลี่ย 10ปีจะเจอโรคแบบนี้สักครั้งซึ่งชุดนี้จะมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุดที่มีความปลอดภัยสูงสุดและทำให้ดูแลคนไข้ได้มากกว่าชุดพีพีอีโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรกลุ่มอื่นที่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในห้องที่ผู่ป่วยมีการหายใจเช่น เจ้าหน้าที่รังษีเทคนิคที่เข้าไปเอ๊กซ์เรย์ปอดคนไข้หรือแม้กระทั่งแม่บ้านที่เข้าไปเก็บขยะหรือของเสียอะไรก็ตามที่ออกมาจากห้องถ้ามีชุดพอและเหมาะสมกับทุกฝ่ายที่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลคนไข้ในห้องที่มีท่อช่วยหายใจกับผู้ป่วยแยกโรคดังกล่าว"

นนทบุรี - สภ.รัตนาธิเบศร์ จับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองโต๊ะกัง 1991ห้างพันธ์ทิพย์จังหวัดนนทบุรีได้แล้ว

เมื่อวันพุธที่ 28 เม.ย.64 เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร  ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พล.ต.ต.ณพล กลัดเข็มเพชร ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร., พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ รอง ผบก.ฯ ปฏิบัติราชการ ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ และดร.ชัยรัตน์ จำนงค์การ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา กต.ตร.ภ.1 ร่วมแถลงข่าวจับกุมและทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองโต๊ะกัง 1991 ห้างพันทิพย์งามวงศ์วาน พื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์

จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ

1.นายวรธนหรือโทน สมปาง อายุ 21 ปี ที่อยู่ 32 ม.4 ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จว.เลย

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

2.นายดำรงหรือดำ ใจภักดี อายุ 57 ปี ที่อยู่ 10 ม.8 ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จว.นครสวรรค์

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน รับของโจร

พฤติการณ์ ด้วยวันที่ 24 เม.ย.64 เวลา 18.28 น. เกิดเหตุคนร้าย จำนวน 1 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงเอาสร้อยทองคำรูปพรรณ ไปจากร้านทองโต๊ะกัง 1991 ห้างพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน ได้สร้อยคอทองคำรูปพรรณ หนัก 1 บาท จำนวน 37 เส้น คิดเป็นมูลค่า 999,000 บาท จากนั้นได้วิ่งหลบหนีและใช้อาวุธปืนชิงเอารถจักรยานยนต์ บริเวณกลางซอยงามวงศ์วาน 25 ต.บางกระสอ อ.เมือง จว.นนทบุรี แล้วขับขี่หลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะพักอาศัยอยู่บริเวณวัดบัวขวัญ จึงได้กระจายกำลังกันพิสูจน์ทราบ จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายวรธนหรือโทน สมปาง อายุ 21 ปี พักอาศัยอยู่ภายในวัดบัวขวัญ ซอยงามวงศ์วาน 25 กับนายดำรง หรือดำ ใจภักดี อายุ 57 ปี ต่อมาพบตัวนายดำรงฯ ยอมรับว่านายวรธนฯ ได้นำทองที่ได้จากการก่อเหตุชิงทรัพย์มาฝากไว้ ต่อมาได้นำไปซุกซ่อนภายในห้องพักและนำทองจำนวน 2 บาท ไปขายที่ร้านทองตลาดท่าน้ำนนท์ ได้เงินมา 49,000 บาท จึงนำตัวไปตรวจค้นห้องพักและพบทองรูปพรรณ จำนวน 29 เส้น, เศษทอง จำนวน 1 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่ จึงยึดเป็นของกลาง และจับกุมตัวนายดำรงฯ ดำเนินคดีข้อหา รับของโจร

ต่อมาสืบทราบว่า นายวรธนฯ หลบหนีไปอยู่ที่ อ.เอราวัณ จว.เลย จึงได้ติดตามไปจับกุมตัวได้ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ จ.162/2564, จ.163/2564 ลงวันที่ 27 เมษายน 2564พร้อมพบของกลาง สร้อยคอทองคำ หนัก 15.21 กรัม จำนวน 1 เส้น และเศษโลหะสีเหลืองคล้ายทอง หนัก 14.68 กรัม

พร้อมตรวจยึดทรัพย์

1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ดรีม ซูเปอร์คัพ ทะเบียน 7 กข 3816 กทม จำนวน 1 คัน (จอดทิ้งไว้บริเวณปากซอยรังสิต นครนายก 39 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี)

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวฯ ณ ร้านทองโต๊ะกัง 1991 ห้างพันทิพย์งามวงศ์วาน จว.นนทบุรี


ภาพ/ข่าว  ปริญญา​  ดวง​สุวรรณ​ ​ / ข่าว​ สยามโฟกัสไทม์

ลพบุรี – ทหารปืนใหญ่ค่ายภูมิพล บริจาคโลหิตสำรองให้โรงพยาบาล ในสถานการณ์โควิด-19

ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล นำกำลังพล ร่วม บริจาคโลหิต ตามโครงการ กองทัพบกบริจาคโลหิต เพื่อชาติ เพื่อเป็นโลหิตสำรองให้กับโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตในการดูแลผู้ป่วย จากวิกฤต COVID 19 ระลอกใหม่

พลตรี ทวนชัย นัดนะรา ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ นำกำลังพล จากหน่วยขึ้นตรงในพื้นที่ ค่ายภูมิพล ฯ ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เข้าข่ายที่เป็นผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID19 ประกอบด้วย กองพันทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย  กองพันบริการ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 50 นาย  โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย รวม 100 นาย เข้าร่วมบริจาคโลหิต ตามโครงการ   ทบ.บริจาคโลหิต เพื่อชาติ  ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตสำรองไม่เพียงพอต่อการนำที่ใช่ในการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วย ในห้วงสถานการณ์การระบาด Covid 19 ระลอกใหม่ เมษายน 2564 ณ สโมสรนายทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี

โดยมีเจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี และ ทีมแพทย์หมอทหาร จากหน่วยตรวจโรคศูนย์การทหารปืนใหญ่ มาคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจคักกรองกำลังพล ที่เดินทางมาบริจาคโลหิตในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการคัดกรองและเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส COVID 19 ในสถานที่รับบริจาคอย่างเคร่งคัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีการตรวจคัดกรองซักประวัติผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิต มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกำหนดการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่มารอบริจาคโลหิต “Social Distancing” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน ตลอดจนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการถ่ายทอดโรคติดเชื้อ COVID19 ทางโลหิต

โดยได้โลหิตรวมทั้งสิ้น 49 ยูนิต รวม 19,600 ซีซี โดยโลหิตที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นโลหิตสำรอง สำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วย ในโรงพยาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ในพื้นที่รับผิดชอบ รวม 8 จังหวัด ของสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 2 ในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมแก้ปัญหาภาวะโลหิต ขาดแคลน จากสถานการณ์ การแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 รอบใหม่ เมษายน 2564 ตามนโยบายของกองทัพบก


ภาพ/ข่าว  กฤษณ์ สนใจ

ทบ.แจ้งเลื่อนรับทหารใหม่ จากเดิม 1-3 พ.ค. เป็น 1 และ 3 กรกฎาคม 64 สอดคล้องสถานการณ์ COVID คำนึงความปลอดภัยทหารใหม่เป็นสำคัญ

พล.ท. สันติพงศ์ ธรรมปิยะ  โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ กองทัพบกได้ดำเนินการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการประจำปี 2564 ตั้งแต่วันที่ 1-20 เมษายน 2564 ซึ่งการตรวจเลือกเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อยภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 โดยทางราชการได้มีการนัดหมาย

ให้ผู้ที่ผ่านการตรวจเลือกเข้ารายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัด 1/2564 ในห้วงวันที่ 1-3 พฤษภาคม ตามที่ระบุไว้ในหมายนัดเข้ารับราชการทหาร (สด.40)  โดยมีทหารกองประจำการจะต้องเข้ามารับราชการทหาร ผลัดที่ 1/2564  จากทุกเหล่าทัพ จำนวนทั้งสิ้น 45,128 นาย ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 387 นาย, กองบัญชาการกองทัพไทย 545 นาย, กองทัพบก 35,916 นาย (ทหารกองเกินที่มาจากการตรวจเลือก  32,709 นายและจากการรับสมัครฯ ด้วยระบบออนไลน์ 3,207 นาย), กองทัพเรือ 3,701นาย และกองทัพอากาศ 4,579 นาย 

เนื่องจากตั้งแต่ต้นเดือน เมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอก 3 กระจายอยู่เกือบทุกจังหวัด และ ศบค.ได้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด งดหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมการอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากและสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กองทัพบกได้มีการกำหนดมาตรการและเตรียมความพร้อมเพื่อรับทหารกองประจำการเข้าหน่วยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ COVID-19 มาเป็นลำดับ เพราะตระหนักดีว่าการรวมตัวของทหารกองประจำการซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อีกทั้ง ผู้ที่จะต้องเข้ามาประจำการในหน่วยทหารมาจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อาจมีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในหน่วยทหาร แม้จะมีการเตรียมมาตรการรองรับไว้อย่างรอบด้านไว้แล้วก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของผู้ที่จะต้องเข้าประจำการในครั้งนี้ รวมถึงลดการกระจายเชื้อสู่ครอบครัวและประชาชน กองทัพบกจึงได้เสนอข้อพิจารณาตามสายการบังคับบัญชา เพื่อเลื่อนการรับทหารใหม่เข้าประจำการ ใน 1 และ 3 พ.ค.นี้ ออกไปก่อนจนกว่าระดับการแพร่กระจายของ COVID-19 จะลดลง 

ซึ่งเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามใน ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 21 ประกาศให้ ทหารกองเกินที่ได้รับหมายนัดเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ รวมถึงผู้ที่ผ่านการคัดเลือกโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ)​ งดการเดินทางเพื่อรายงานตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการในวันที่ 1 และ 3 พฤษภาคม 2564 โดยกำหนดให้มารายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการในวันที่ 1 และ วันที่ 3 กรกฎาคม 2564  เป็นการเลื่อนกำหนดการเข้ารับราชการของทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/64 ออกไปอีก 2 เดือน

กองทัพบกจึงขอแจ้งให้ทหารกองเกินที่จะต้องเข้าประจำการผลัดที่ 1/64 ตามหมายนัดเข้ารับราชการทหาร (สด.40) ให้ไปรายงานตัวเพื่อเข้าประจำการ โดยผู้ที่กำหนดให้รายงานตัว 1 พฤษภาคม 64 ก็ให้ไปรายงานตัว 1 กรกฎาคม 64

ส่วนผู้ที่กำหนดให้รายงานตัววันที่ 3 พฤษภาคม 64 ก็ให้ไปรายงานตัววันที่  3 กรกฎาคม 64 หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่เจ้าหน้าที่สัสดีเขต/อำเภอ หรือ กองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน https://sassadee.rta.mi.th โทร. 0-2223-3659

การเลื่อนกำหนดรายงานตัวเข้าประจำการดังกล่าว เพื่อควบคุมและป้องกันโรคในระดับบุคคล หน่วยทหาร และประชาชนทั่วไป  สอดคล้องกับมาตรการของ ศบค. ส่วนสิทธิของทหารกองประจำการ ที่เกี่ยวข้องกับการรับราชการทหารนั้น ยังคงเป็นไปตามปกติ

ตะโกนก้อง “แรมโบ้” ยัน “บิ๊กตู่” ไม่ควรลาออก “โว” ยังไม่เห็นจะมาแทนได้ ขอฝ่ายค้านย้อนดูตัวเองบ้างเรียกร้องให้คนอื่นลาออก เพราะอยากกลับมาเป็นรัฐบาลตัวสั่น

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านออกแถลงการณ์ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก เพราะแก้โควิด-19 ล้มเหลว ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ควรลาออกในเวลานี้ที่บ้านเมืองเกิดสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมาได้แก้ไขปัญหาได้ดีอยู่แล้ว แม้จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ทั้ง นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ ไม่เคยย่อท้อทำงานอย่างหนัก และหากนายกรัฐมนตรีลาออกตอนนี้ก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครเข้ามาแก้ไขปัญหาได้

ในส่วนของการบริหารจัดการวัคซีนนั้นมั่นใจว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ที่จะเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน กระบวนการต่างๆจะเดินหน้าและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้จากการหารือแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนร่วมกับภาคเอกชน ได้จัดตั้ง 4 ทีมขึ้นมาบริหารจัดการ เพื่อเร่งจัดหาและกระจายวัคซีนให้เข้าถึงประชาชนกว่า 50 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรในประเทศ ภายในปี 2564 โดยมีทีมกระจายวัคซีน  ทีมประชาสัมพันธ์ ทีมอำนวยความสะดวก ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ขณะที่การให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจฝ่ายค้านก็ต้องยอมรับว่าต่างประเทศก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ช่วยเหลือประชาชน โดยมีมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่อง

นายเสกสกล กล่าวว่า ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ไม่เคยสนับสนุนพวกพ้อง ทำลายผู้ที่เห็นต่างนั้น ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหาซึ่งหากฝ่ายค้านจะถามหาความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งประเทศก็ต้องถามหาจากฝ่ายค้านมากกว่า เพราะที่ผ่านมาจ้องที่จะทำลายความรัก ความสามัคคีของคนในประเทศ ไม่เคยให้ความร่วมมือ หรือแม้แต่ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ไต่สวนก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แน่ไม่อยากให้ฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากเกินไปในขณะที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤต เชื่อประชาชนไม่เอา ย้อนดูตัวเองด้วยว่าได้ทำอะไรไปบ้างหากเทียบกับนายกรัฐมนตรี

"เป็นฝ่ายค้านนานหลายปี คงอยากกลับมามีอำนาจมากกว่า คงอยากเป็นรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีจนตัวสั่น หรือเพราะว่าไปรับธงมาจากคนแดนไกลสั่งการมา คนประเภทนี้ ผมเคยสัมผัสมารู้ทางว่า คิดอะไรอยู่ อีกไม่ถึง 2 ปีคงอดทนไม่ไหว อดอยากปากแห้งหรือเปล่า อดีตตอนเป็นรัฐบาลก็มีแต่ข่าวเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่กลัวประชาชนลุกฮือขึ้นมาไล่อีกรอบ เหมือนตอนอดีตนายกฯ นายทักษิณ นายสมชาย นางสาวยิ่งลักษณ์ จำไม่ได้หรือไง ฝ่ายค้านทุกวันนี้น่าเบื่อหน่าย ชอบทำตามใบสั่ง ไม่สงสารประเทศชาติ  ขอร้องอย่าเอาผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก หัดคิดถึงผลประโยชน์ประชาชนบ้าง

หรือว่า อยากให้คนโกงบ้านโกงเมืองกลับมามีอำนาจอีกครั้ง บ้านเมืองจะได้ฉิบหายเหมือนในอดีต สมองคนเหล่านี้ไม่มีคุณค่าอะไรเลย แก่เกินแกง แก่เพราะอยู่นานจริงๆ ควรหยุดเล่นการเมืองในภาวะวิกฤตความเดือดประชาชนได้แล้ว" นายเสกสกลกล่าว

‘คลัง’ เผย พันธบัตรเพื่อความยั่งยืนของรัฐบาลไทย ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหุ้นลักเซมเบิร์ก

วันที่ 29 เมษายน 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลังกล่าวภายหลังพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ได้รับการจดทะเบียนใน Luxembourg Green Exchange (LGX) ของตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2564 โดยมีนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ร่วมด้วย ว่า พันธบัตรเพื่อความยั่งยืนของรัฐบาลไทยได้รับการจดทะเบียนใน LGX ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ออกพันธบัตร และยังเป็นการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อการลงทุนอย่างยั่งยืนผ่านการเปิดเผยข้อมูลตราสารอย่างครอบคลุมและเป็นมาตรฐานทั้งนี้ การจดทะเบียนพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนใน LGX อยู่ในรูปแบบของ LuxSE Security Official List (LuxSE SOL) ซึ่งเป็นการนำเอาตราสารไปขึ้นทะเบียนไว้ในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่มีการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนตราสาร

“ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติและการแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เป็นจำนวน 100,000 ล้านบาท ในรุ่น ESGLB35DA เพื่อสนับสนุนโครงการขนส่งพลังงานสะอาดในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก และโครงการที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19” นายอาคม กล่าว

สำหรับ การขอจดทะเบียนพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนใน LGX ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) และธนาคารผู้จัดจำหน่าย เพื่อช่วยผลักดันการระดมทุนเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลให้ออกไปสู่สากลและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนให้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดีLGX เป็นตลาดหลักทรัพย์สำหรับตราสารเพื่อความอย่างยั่งยืน (Sustainable Securities) ชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดและมีจำนวนพันธบัตรสีเขียวที่มีการออกในโลกมากกว่า50% ขึ้นทะเบียนอยู่

'สรยุทธ' ได้โพสต์ความในใจผ่านเฟซบุ๊กโดยบอกเล่าความรู้สึกตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำจนกระทั่งได้รับการพักโทษและมีโอกาสกลับมานั่งอ่านข่าวอีกครั้งว่า...

หลังจากได้ปล่อยทีเซอร์เตรียมคัมแบ็คในเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 อีกครั้งของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ไปก่อนหน้า

ล่าสุด สรยุทธ ได้โพสต์ความในใจผ่านเฟซบุ๊กโดยบอกเล่าความรู้สึกตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำจนกระทั่งได้รับการพักโทษและมีโอกาสกลับมานั่งอ่านข่าวอีกครั้งว่า...

วันที่ผมถูกจำคุก รับโทษตามคำพิพากษา

ผมนึกถึงประโยค อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้

พูดง่าย แต่ทำยากเหลือเกิน โดยเฉพาะทำใจ

ผมพยายามมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยมันก็จบเสียที

วันหนึ่งผมจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

ในคุก ผมพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์

ทั้งกับเรือนจำ ทั้งกับเพื่อน ๆ ผู้ต้องขัง

แม้กระทั่งกับตัวผมเองเพื่อให้เวลามันผ่านไปได้

ในคุกไม่เคยมีความสุข

ขอแค่ทุกข์พอประมาณก็ดีถมไปแล้ว

ผมได้รับมอบหมายให้ทำ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ”

ให้ความรู้เรื่องโควิด-19 เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจนนำไปสู่เหตุวุ่นวาย

ผมเสนอทำรายการ “กำลังใจสู่ชาวเรือนจำ”

เพราะผมอยากเห็นเพื่อน ๆ มีกำลังใจ รอวันเวลาออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก

แน่นอน ผมต้องให้กำลังใจตัวเองด้วยให้อดทน

ก้มหน้ารับโทษตามคำพิพากษา

กระทั่งผมได้รับการพักการลงโทษตามกฎเกณฑ์

ได้ออกมาใช้ชีวิตในโลกภายนอกอีกครั้ง

ผมดีใจที่แฟนข่าวไม่ลืมกัน

โลกเปลี่ยนไปมาก สังคมข่าวสารก็เปลี่ยนไปเยอะ

งานข่าวคืออย่างเดียวที่ผมทำเป็นและการทำงานคือชีวิตของผม

ผมต้องหยุดใช้ชีวิตของผมมานาน ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

ทุกวันตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น

ทุกข์ที่สุดจริง ๆ ครับ

วันที่ผมได้รับการพักการลงโทษ ผมได้รู้ในสิ่งที่ผมเองคาดไม่ถึงจากช่องทางการสื่อสารในโลกยุคใหม่

ทุกคนแสดงออกได้ บอกความรู้สึกได้

ผมได้รู้ว่ามีแฟนข่าวรอคอยการกลับมา

กลับมาทำหน้าที่หน้าจออีกครั้ง

หลายคนรับผมเป็นคนในครอบครัวจริง ๆ

หลายคนบอกว่าดูผมตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเรียนจบ ทำงานทำการ มีลูกมีเต้า

คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมากมายที่ลูก ๆ หลาน ๆ ออกมาบอกว่าท่านรออยู่นะ

วันแรกที่ผมเดินเข้าคุก ผมไม่ได้ร้องไห้

แต่วันแรกที่ผมได้พักการลงโทษ ผมกลับบ้านไปร้องไห้

ผมได้อ่านข้อความต่าง ๆ เสมือนได้พบครอบครัวใหญ่ของผม

เสมือนญาติ ๆ สนิทของผม พากันมารับผมออกจากเรือนจำ

หลายคนบอกน้ำตาไหล และผมก็น้ำตาไหล

พวกเขาน่าจะอยากให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ กลับไปทำหน้าที่พูดคุยกับพวกเขาทุกเช้า

พวกเขาอยากให้ผมกลับไปทำรายการ เป็นคนมานั่งบอกเล่าข่าวให้ฟังทุก ๆ วัน

บางวันฟังแล้วเขาอาจจะชอบใจ บางวันอาจจะไม่ชอบใจ เหมือนที่เคยเป็นมา

เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลูกเป็นหลาน เป็นลุงเป็นอา ยามที่เขาทำกิจวัตรตอนเช้า

หรือแม้แต่เป็นนาฬิกาปลุก

ไม่มีใครรู้ว่ารายการที่ผมกลับมาทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่?

โลกเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนไป

แต่ผมเชื่อของผมว่า ครอบครัวข่าวของผม แฟนข่าวของผม ยังอยากพบอยากเจอกัน

ความผูกพันที่เกิดขึ้นจากความจริงใจต่อกันมายาวนาน

วันนี้ ผมอยากจะกลับมาทักทาย พูดคุย เล่าเรื่อง

อยากจะร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างที่เคยเป็นมา

ขอบคุณที่ติดตามเป็นกำลังใจให้เสมอมาครับ


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3980372595383814&id=1263483477072753

“หมอระวี”สงสารบุคลากรทางการแพทย์ ทำงานเหนื่อยแทบตาย แต่นักการเมืองมัวแต่ทะเลาะแย่งอำนาจ ทำปชช.เบื่อหน่าย วอน รอพ้นวิกฤตจะทะเลาะจนยุบสภาฯก็ไม่มีปัญหา

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ช่วงนี้ข่าวความขัดแย้งระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล หรือในพรรคร่วมรัฐบาลมีความรุนแรงขึ้นทุกวัน จนมีประชาชนหลายคนติดต่อมาปรับทุกข์กับตน ว่า ในภาวะการระบาดโควิดรอบ 3 ที่รุนแรงมาก มีการติดเชื้อวันละกว่า 2,000 คน ติดต่อกันหลายวัน เป็นภาวะวิกฤตสำหรับสถานการณ์สงครามชีวภาพ แทนที่นักการเมืองไทยทุกพรรคจะร่วมมือร่วมใจกัน ร่วมกับประชาชนในการฝ่าฟันให้พ้นวิกฤต แต่นักการเมืองกลับออกมาทะเลาะกันทุกวัน จนประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย บุคลากรทางการแพทย์ทำงานเหนื่อยแทบตาย ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน แต่นักการเมืองเอาแต่ทะเลาะ แย่งอำนาจ แย่งชื่อเสียง แย่งผลประโยชน์กัน

“หมอระวี”สงสารบุคลากรทางการแพทย์ ทำงานเหนื่อยแทบตาย แต่นักการเมืองมัวแต่ทะเลาะแย่งอำนาจ ทำปชช.เบื่อหน่าย วอน รอพ้นวิกฤตจะทะเลาะจนยุบสภาฯก็ไม่มีปัญหานพ.ระวี กล่าวต่อว่า แม้ว่าจะเป็นปกติของพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันมา 2 ปี ย่อมสะสมความเห็นต่าง และข้อขัดแย้งมาเรื่อยๆ แต่ในยามวิกฤตของบ้านเมืองในขณะนี้ นักการเมืองทุกคนของพรรคร่วมรัฐบาล ต้องร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว อดทน อดกลั้น ผนึกกำลังกันพาประชาชนพาพ้นวิกฤตไปให้ได้ดีที่สุดก่อน ความขัดแย้งเอาไว้ทีหลัง ฝ่ายค้านก็เช่นกัน ประชาชนอยากเห็นฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างสร้างสรรค์ก่อประโยชน์ให้ประชาชน ไม่ใช่จ้องโจมตีรัฐบาลทุกลมหายใจ ไม่แยกแยะถูกผิด ข้อดี ข้อเสีย 

“ผมขอเรียกร้องให้นักการเมืองทุกพรรคมาร่วมใจนำพาประเทศ และประชาชนผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน หยุดทะเลาะกันออกสื่อจนทำให้ประชาชนเขาเอือมระอา และหมดศรัทธาเสียที รอต้นปี 2565 ที่ประเทศจะฉีดวัคซีนครบ 70 เปอร์เซ็นต์ เราจะสามารถเปิดประเทศได้ เศรษฐกิจเริ่มฟื้น นักการเมืองฝ่ายค้านและรัฐบาลจะกลับมาทะเลาะกันเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลจะทะเลาะกันจนยุบสภาก็ไม่มีปัญหา” นพ.ระวี กล่าว 

 

“บิ๊กตู่”เข้าตึกไทย หารือ ศบค.ชุดเล็กก่อนนำถก ศบค.ชุดใหญ่บ่ายนี้ “จับตา” ยกระดับยาแรงปรับมาตรการตามโซนสีพื้นที่ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อ-ผู้เสียชีวิตยังสูงต่อเนื่อง

ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตนี และ รมว.กลาโหม ที่ล่าสุดฝ่ายค้านเสนอให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากล้มเหลวในการบริหาร เมื่อเวลา 08.40 น. เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว 

โดย เวลา 09.30 น.ที่ตึกภักดีบดินทร์ นายกรัฐมนตรี บันทึกเทปเนื่องในวันฉัตรมงคล ก่อนที่เวลา 13.30 น.นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) หรือศบค.ชุดเล็ก ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อหารือถึงข้อสรุป รวมถึงการยกระดับมาตรการข้อกำหนดต่างๆ

จากนั้น ช่วงบ่ายเวลา 14.00น. นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. เป็นประธานการประชุมศบค. ชุดใหญ่ ครั้งที่ 6/2564 ผ่านระบบ VDO Conference ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสรุปผลการออกมาตรการ และข้อกำหนดในกิจการกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้ต้องจับตาว่าที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่จะมีการยกระดับมาตรการเข้มข้นขึ้นหรือไม่ ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ที่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่และยอดผู้เสียชีวิตในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับวาระการประชุมสำคัญ ของ ศบค.ชุดใหญ่ วันดียวดันนี้ กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19  ขณะที่ กรมควบคุมโรค รายงานแนวทางการปฏิบัติและการบังคับใช้กฎหมาย กรณีการให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก

“ประเด็นสำคัญคือ มาตรการที่ สมช.โดยศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 เสนอการยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอแผนการให้บริการวัคซีนโควิด - 19” 

และที่ต้องจับตาคือ ประกาศและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 20 ) ,ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 21 ) ,การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ของศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของสำนักงานและศูนย์ปฏิบัติการด้านต่าง ๆ

Update ! 73 จังหวัด/พื้นที่ (72 จังหวัด + กทม.) ที่มีบทลงโทษ กรณีประชาชนไม่ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถาน/สถานที่สาธารณะ เพิ่ม จังหวัดเชียงราย น่าน และกำแพงเพชร

Update ! 73 จังหวัด/พื้นที่ (72 จังหวัด + กทม.) ที่มีบทลงโทษ กรณีประชาชนไม่ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถาน/สถานที่สาธารณะ เพิ่ม จังหวัดเชียงราย น่าน และกำแพงเพชร

ภาคกลางและภาคตะวันออก

1.) กาญจนบุรี (เฉพาะตลาด ตลาดนัด ตลาดน้ำ)
2.) ปราจีนบุรี
3.) เพชรบุรี
4.) สุพรรณบุรี
5.) อยุธยา
6.) สมุทรสาคร
7.) ลพบุรี
8.) สมุทรปราการ
9.) ประจวบคีรีขันธ์
10.) ชลบุรี
11.) สระบุรี
12.) ตราด
13.) นนทบุรี
14.) นครปฐม
15.) จันทบุรี
16.) กรุงเทพมหานคร
17.) ปทุมธานี
18.) ฉะเชิงเทรา
19.) อ่างทอง
20.) สระแก้ว
21.) ชัยนาท
22.) นครนายก
23.) สิงห์บุรี
24.) ราชบุรี

ภาคใต้

1.) สุราษฎร์ธานี
2.) ตรัง
3.) นครศรีธรรมราช
4.) นราธิวาส
5.) ปัตตานี
6.) พังงา
7.) ภูเก็ต
8.) ระนอง
9.) สตูล
10.) สงขลา
11.) ยะลา
12.) กระบี่
13.) พัทลุง
14.) ชุมพร

ภาคเหนือ

1.) สุโขทัย 
2.) ตาก
3.) เพชรบูรณ์
4.) อุตรดิตถ์
5.) ลำปาง
6.) ลำพูน
7.) พิษณุโลก
8.) เชียงใหม่
9.) นครสวรรค์
10.) แพร่
11.) อุทัยธานี
12.) พิจิตร
13.) เชียงราย
14.) น่าน
15.) กำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

1.) ยโสธร
2.) หนองคาย
3.) อุบลราชธานี
4.) ชัยภูมิ
5.) มหาสารคาม
6.) มุกดาหาร
7.) ศรีสะเกษ
8.) สุรินทร์
9.) อุดรธานี 
10.) เลย
11.) อำนาจเจริญ 
12.) บุรีรัมย์
13.) นครพนม
14.) ขอนแก่น
15.) กาฬสินธุ์
16.) นครราชสีมา
17.) บึงกาฬ
18.) หนองบัวลำภู
19.) ร้อยเอ็ด
20.) สกลนคร

นอกจากนี้ จังหวัดสมุทรสงคราม มีประกาศ "ขอความร่วมมือ" ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
ศบค.มท.
ข้อมูล ณ 29 เม.ย.64 เวลา 09.20 น.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top