Saturday, 14 June 2025
TheStatesTimes

‘ธนกร’ รับ ‘สมศักดิ์’ ชวนเข้าร่วมรัฐบาล ชี้ หากไปต้องไปทั้งพรรค มั่นใจ!! ไม่มีงูเห่า

(11 ส.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า มีการชักชวนเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ตนกับนายสมศักดิ์ อยู่กันมานานเป็นเหมือนครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่คนละพรรคกันแต่ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิม ได้พูดคุยและพบกันบ่อยครั้ง มีกิจกรรมที่ชอบ เตะฟุตบอลได้เจอกันอยู่แล้วมีการคุยเรื่องการเมือง โดยคุยกันว่าถ้ามาก็ต้องมาทั้งพรรค เป็นการส่งสัญญาณมาทางตน แต่ตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจาของพรรค แต่คนที่จะเจรจาคือหัวหน้าพรรค ตนจึงทำได้แค่ส่งสัญญาณให้พรรคทราบว่าทิศทางการเมืองเป็นแบบนี้ ส่วนการตัดสินใจทางพรรครวมไทยสร้างชาติอาจมีการประสานงานกันอยู่แล้วแต่ตนไม่ทราบ เพราะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้บอก

ซึ่งนายสมศักดิ์ก็ไม่ได้บอกว่าคุยกับหัวหน้าพรรค เลขาพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ แต่เท่าที่ดูมีสัญญาณที่ดี แต่ตนเชื่อว่าการเมืองใกล้ถึงจุดที่จะจบแล้ว เท่าที่ดูบริบทต่าง ๆ คิดว่าอีกไม่นาน คงจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเวลาที่เหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีเงื่อนไขอะไรในการจะร่วมรัฐบาลเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี นายธนกร กล่าวว่า รวมไทยสร้างชาติ มีการทำงานในสภาของ สส.36 คน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว

ส่วนการเจรจาต่อรองต่าง ๆ คงจะไม่มี เพราะทำงานได้อยู่แล้วเพราะเรามีแค่ 36 คน ไม่ใช่มีเป็น 100 คน มีการพูดคุยกันแต่คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร ย้ำว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรคหากจะออกมาเป็นอย่างไร สส.ทั้ง 36 คน พร้อมทำตาม แม้ว่าวันนี้อาจจะมองว่ามีปัญหาอะไรในพรรคหรือไม่มีการแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ นั้นเพราะมาจากหลากหลายความคิดเห็นแตกต่างก็เป็นเรื่องปกติแต่เชื่อว่าคุยกันได้หมด

ทั้งนี้ ส่วนตัวหากมีปัญหาอะไรแม้ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะไม่ยุ่งและเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว เลิกก็คือเลิกเลย แต่ตนก็ยังไปปรึกษาในหลายเรื่องเพราะตนอยู่กับ พลเอก ประยุทธ์ มานานแม้ว่าเลิกเล่นการเมืองไปแล้วในอนาคตทางการเมืองของตนก็ยังมีการปรึกษาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร และ พลเอก ประยุทธ์ ได้แนะนำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทุกครั้งที่พูดไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนท่านจะให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก นึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ท่านพูดแบบนี้ตลอด

เมื่อถามว่า หากจะเข้าร่วมรัฐบาลถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค 36 คน ไม่มีงูเห่าใช่หรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่า ตนมั่นใจว่า ไม่มี ถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค เพราะการเมืองมันควรเป็นอารยธรรมทางการเมืองที่ดี แม้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ควรที่จะมีงูเห่า งูจงอาง อะไรแล้ว

บ้านรักไทย สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศจีน ล่องเรือไม้โบราณ ชมวิวรอบทะเลสาบ แบบชิลๆ

บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวไทยเชื้อสายจีนยูนนาน ที่ตั้งอยู่บนดอยสูง ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร ความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ ก็คือมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลย

เมื่อมาถึงที่หมู่บ้านแห่งนี้แล้ว กิจกรรมที่ต้องทำก็คือ การล่องเรือไม้โบราณรอบทะเลสาบ เพื่อชมภาพบรรยากาศของหมู่บ้านที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาสวยงามมาก

นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน ก็มีทั้งที่พักและร้านอาหาร รวมถึงร้านขายของมากมาย ในสไตล์จีนยูนนาน เรียกได้ว่าเมื่อเข้าไปที่นี่แล้ว จะรู้สึกเหมือนว่าหลุดเข้าไปในเมืองจีนเลยก็ว่าได้ เป็นเสน่ห์ของหมู่บ้านรักไทยที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ

หมู่บ้านแห่งนี้ เงียบสงบ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขา ชิมอาหารพื้นเมือง และล่องเรือชมทะเลสาบได้ วันหยุดนี้ ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมจะไปเที่ยวที่ไหน THE STATES TIMES ขอแนะนำเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน

ที่ตั้ง : ตำบล หมอกจำแป่ อำเภอ เมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

พิกัด : https://goo.gl/maps/6fpyehrWZ2eD4d6b8

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘ไอซ์ รักชนก’ ขอบคุณ ‘วัน อยู่บำรุง’ ยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน

หลังจากเป็นกระแสดรามาและเกิดวิวาทะกันขึ้น ระหว่าง น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ สส.กทม. เขตบางบอน-จอมทอง-หนองแขม พรรคก้าวไกล กับ นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย

แต่ล่าสุดเหมือนรอยร้าวของทั้ง 2 คนจะจบลงแล้ว เมื่อ น.ส.รักชนก รีโพสต์ของนายวัน ที่แม้จะไม่ได้เป็น สส. แต่ยังลงพื้นที่ทำงานให้กับประชาชนอยู่ โดยในโพสต์นั้น นายวันระบุว่า “ทางเดิน คสล.คลองสรศักดิ์ข้างโรงงานมิตซูมารุ บางบอน 5 ที่ผมประสานเขตบางบอนมาซ่อมแซม บัดนี้เรียบร้อยแล้วครับ #ใจถึงพึ่งได้ #ป๋าวันไม่ทิ้งประชาชน #ผู้แทนนอกสภา”

หลังจาก น.ส.รักชนก แชร์โพสต์ดังกล่าว ยังมีข้อความระบุว่า “พี่วันยังทำพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ยังคงเป็นที่พึ่งให้พ่อแม่พี่น้องเหมือนดังเดิม น่ารักที่สุด ในฐานะ สส.เขตต้องขอบคุณแทนพ่อแม่พี่น้องประชาชนด้วยค่ะ”

‘กรมควบคุมโรค’ ยัน!! ‘วัคซีนโควิด’ มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิด ‘กล้ามเนื้ออ่อนแรง-มะเร็ง’ ตามสื่อโซเชียลอ้าง

(11 ส.ค.66) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีการโพสต์คลิปบนสื่อโซเชียลมีผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 พบภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงทั่วไป หรือเป็นโรคมะเร็ง ว่า กรมฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลและขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ ปัจจุบันยังไม่พบรายงานการเกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือการเกิดมะเร็งที่เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนโควิด และจากข้อมูลรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ จากคณะกรรมการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน (AEFI) ที่ประกอบด้วยทีมผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพิจารณา พบว่า ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ที่พบหลังการฉีดวัคซีน ได้แก่ ไข้ ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดเมื่อยตัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปกติจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว

"ส่วนอาการที่รุนแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ พบอุบัติการณ์ต่ำกว่า 1 ในล้านโดส ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่าการติดเชื้อโควิดที่มีโอกาสป่วยหนักจนเสียชีวิตในผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน" นพ.ธเรศกล่าว

นพ.ธเรศกล่าวว่า นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายที่ไม่เคยฉีดวัคซีนจะมีอาการหลงเหลือในระยะยาว (Long COVID) เนื่องจากในขณะที่ติดเชื้อโควิด ร่างกายมีการสร้างแอนติบอดีบางตัวขึ้นมา ไปจับกับเซลล์ของอวัยวะบางส่วนในร่างกาย และเกิดการทำลายอวัยวะ โดยอาการ Long COVID เป็นอาการเจ็บป่วยที่ไม่มีลักษณะตายตัว อาจเหมือนหรือต่างกันในแต่ละบุคคล เกิดผลกระทบขึ้นได้ทั่วร่างกาย ตั้งแต่ระบบหายใจ ระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด ทำให้ผู้ที่หายป่วยบางรายยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเดิม จะเห็นได้ว่าการติดเชื้อโควิดส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวมากกว่าผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ดังนั้นขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลบิดเบือนดังกล่าว และไม่แชร์ข้อมูลต่อ หากมีปัญหาความปลอดภัยที่อาจเกิดจากวัคซีน กรมควบคุมโรคจะมีการประกาศแจ้งให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อโควิดมีแนวโน้มลดลงมาก หลังประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม ปัจจุบันมีผลงานการฉีดวัคซีนสะสมกว่า 147 ล้านโดส หรือมากกว่าร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดในประเทศไทยลดลงอย่างชัดเจน จากข้อมูลของคณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล ระบุว่า วัคซีนโควิดสามารถปกป้องชีวิตคนในประเทศไทยมากกว่า 490,000 คน ดังนั้น ขอย้ำว่าวัคซีนโควิดช่วยลดอาการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้รับวัคซีน ครอบครัว และสังคม จนปัจจุบันแทบจะไม่มีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสตามด้วยเข็มกระตุ้นติดโควิดเสียชีวิต ซึ่งไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิดต่ำกว่าตัวเลขของประเทศทางตะวันตกหลายเท่า สะท้อนถึงการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่มีประสิทธิภาพจากนโยบายและมาตรการที่ใช้ จนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ

‘สาวลูกครึ่งไทย-ลาว’ เผย มาเรียนหนังสือในไทยไม่ง่าย ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวย หากไม่มีคุณอาคอยหนุนก็หมดโอกาส

เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘Jenny Story’ หรือ ‘คุณเจน’ ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-ลาว ได้ออกมาตอบกลับคอมเมนต์สำหรับคนที่สงสัยว่า 'คนลาวที่มาเรียนอยู่ไทย หรือครอบครัวที่ส่งลูกมาอยู่ไทย เป็นครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย’ ซึ่งคุณเจนได้อธิบายโดยยกตัวอย่างครอบครัวของตนว่าฐานะทางบ้านนั้นไม่ได้ร่ำรวยมากนัก แค่พอมีกินหรือฐานะปานกลาง แต่ได้รับโอกาสจาก ‘คุณอา’ ผู้คอยช่วยเหลือจนมีทุกวันนี้ โดยระบุว่า…

“ครอบครัวเจนพ่อแม่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมีเงินมีทองเยอะขนาดนั้น แต่มีแบบพออยู่พอกิน ไม่ถึงขั้นทุกข์ยากจนไม่มีกินเลยก็ไม่ใช่…ซึ่งก็คือฐานะปานกลางนั่นเอง ส่วนเรื่องที่เจนได้มาเรียนที่ไทย ส่วนหนึ่งคือคุณอาซึ่งเป็นน้องสาวของพ่อแท้ ๆ เป็นคนไทย แต่แม่เป็นคนลาว และพ่อกับแม่ของเจนได้แยกทางกันแล้ว ส่วนกับพ่อยังติดต่อหากันตลอดเวลาที่เจนได้ไปอยู่ลาว มันเลยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกยังคงอยู่ ถึงแม้จะแยกทางกับแม่ไปแล้วก็ตาม ทีนี้คุณอาซึ่งเป็นน้องสาวของพ่อได้มาถามเราว่าอยากเรียนไหม? เพราะเราเรียนจบมัธยมจากลาวมา ถ้าเกิดว่าจะมาทำงานมันก็ทำได้ แต่ว่าคุณอาอยากให้ได้เรียนมหาวิทยาลัย อยากให้ได้เข้าสังคมในมหาวิทยาลัย อยากให้เรียนรู้และเห็นมุมมองหลาย ๆ อย่าง เพื่อจะทำให้เราได้มีข้อเปรียบเทียบว่าการที่เราทำงานมันก็ดีอย่างหนึ่งและการที่เรียนหนังสือมันก็ดีอย่างหนึ่ง เราจะได้เห็นโลกอีกหลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ มุม”

“ดังนั้น คุณอาได้บอกว่าหากอยากเรียนเขาก็จะช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน คนละครึ่งกับแม่ เพราะอยากให้เราลองเรียนดูก่อนว่าไหวหรือไม่ไหว ส่วนตัวยอมรับเลยว่าไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเรียนได้ใน 4 ปีนี้ เพราะปริญญาตรีมันค่อนข้างยาก ทั้งเรื่องภาษาต่าง ๆ ระหว่างไทยกับลาว ซึ่งมันจะมีภาษาพูดที่คล้ายกันอยู่ แต่เรื่องภาษาเขียนมันจะยากในระดับหนึ่ง แม้มีประสบการณ์ในการได้เรียนแล้วเลยคิดว่ามันยังคงค่อนข้างที่จะยากอยู่ เพราะมันมีพยัญชนะที่เยอะกว่าลาว จึงไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะเรียนได้ไหม? ก็ยัง 50/50 เพราะอะไรหลาย ๆ อย่าง”

“ซึ่งคุณอาเลยจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายตั้งแต่เรียนอยู่ปี 1 จนถึงปี 4 ส่วนค่าใช้จ่ายต่อเดือนคือ 5,000 บาท แม่ให้ 3,000 บาท แล้วคุณอาให้อีก 2,000 บาท ซึ่งส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รวมค่าเทอมและไม่ได้รวมค่าหอ ค่าหอนั้นจะจ่ายแยกต่างหากประมาณ 16,000 บาทต่อหนึ่งปีที่เรียน และค่าเทอมประมาณ 22,000 บาทต่อหนึ่งปี รวมทั้ง 4 ปี ก็เป็นเงินที่หลายบาทอยู่ ถ้าเกิดว่าไม่ได้คุณอาและผู้ที่คอยซัปพอร์ตอยู่เบื้องหลังหลาย ๆ คน ก็คงไม่ได้เรียนจนถึงทุกวันนี้”

“และนี่คือข้อสงสัยสำหรับหลาย ๆ คน ที่สงสัยว่าครอบครัวเจนมีเงินไหม ถึงได้มาเรียนอยู่ไทย แบบว่าครอบครัวต้องมีเงินซินะ ถึงส่งลูกมาอยู่ไทยได้…แต่ก็นั่นแหละ…ครอบครัวไม่ได้มีเงินขนาดนั้น แม่เจนจบแค่ ป.2 อาชีพขายของ ส่วนพ่อจบประมาณ ม.3 หรือ ม.4 อาชีพเกษตรกรธรรมดา ถ้าไม่ได้คุณอาส่วนหนึ่งก็คงไม่มีโอกาสได้เรียนในมหาลัย เพราะมันต้องใช้เงินเป็นก้อน ไหนจะค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน แล้วแม่ก็ยังหาเงินอยู่คนเดียว ถ้าเกิดขอเงินเพื่อมาเรียนก็สงสารแม่ ถ้าคุณอาไม่ยื่นมือมาช่วยก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เรียน คุณอาเป็นคนหนึ่งที่ดึงมาเพื่ออยากให้หลานได้เรียนรู้ในรั้วมหาวิทยาลัย อยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นมุมมองอะไรหลาย ๆ อย่างที่มันแตกต่างจากเมื่อก่อนที่เคยอยู่มา ซึ่งเมื่อก่อนเรียนจบจาก สปป.ลาว พอจบ ม.7 จากที่นี่ ก็มาต่อมหาวิทยาลัยอยู่ที่ประเทศไทย ดังนั้น คุณอา คือส่วนหนึ่งที่ทำให้มาถึงทุกวันนี้”

THE STANDARD ออกจดหมายขอโทษถึง 'สนธิ ลิ้มทองกุล' กรณีสื่อสารคลาดเคลื่อน ทำคนไทยเข้าใจ 'สนธิ' หนุนรัฐประหาร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ THE STANDARD ได้นำเสนอข่าว ‘สนธิมองเกมก้าวไกลเหนือชั้น แก้ได้ยาก เดินตามแผนได้ สส. เกินครึ่งสภาในปี 2570 มองทางรอดคือรัฐประหารล้มกระดาน’ โดยนำเนื้อหาดังกล่าวมาจากเพจเฟซบุ๊ก คุยทุกเรื่องกับสนธิ ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อความที่ไม่ครบถ้วนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ผู้อ่านอาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า คุณสนธิ ลิ้มทองกุล สนับสนุนการทำรัฐประหาร ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล

กองบรรณาธิการข่าว THE STANDARD จึงเรียนขออภัยในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในครั้งนี้

กองบรรณาธิการข่าว THE STANDARD

‘โรงแรมรอยัลพลาซ่า’ ถล่ม อุทาหรณ์ต่อเติมอาคารไร้มาตรฐาน

วันนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่า อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถล่ม เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.12 น. ของวันที่ 13 ส.ค. 2536 คร่าชีวิตผู้คนถึง 137 ราย

สำหรับโรงแรมรอยัลพลาซ่า ในอดีตตั้งอยู่ระหว่างถนนจอมสุรางค์และถนนโพธิ์กลาง สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ในขณะเกิดเหตุนั้น ภายในโรงแรมมีการเปิดอบรมสัมมนาอยู่ มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 400 คน ประกอบไปด้วยกลุ่มข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ 47 คน ที่เหลือเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไปที่พักอยู่ในโรงแรมและพนักงานโรงแรม จนเมื่อเวลา 10.12 น. อาคารโรงแรม 6 ชั้น ที่ต่อเติมใหม่ได้พังถล่มลงมา

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายหน่วยงาน ได้ร่วมค้นหาผู้รอดชีวิตภายใต้ซากตึกโรงแรมรอยัลพลาซ่าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องคลานเข้าไปใต้ซากอาคารที่อาจถล่มซ้ำลงมาได้ทุกเมื่อ ต้องระดมความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

เหตุการณ์ในครั้งนั้น มีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตมากถึง 137 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 300 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษาที่กำลังนั่งประชุมสัมมนาอยู่ภายในห้องประชุม จำนวน 47 คน ที่เหลือเป็นพนักงานโรงแรม แขกที่เข้าพักทั้งชาวไทยและต่างชาติ

Throwback Rooftop Bar นั่งจิบเบาๆที่ดาดฟ้า มองลงมาเห็นวิวสวนลุม เน้นเล่นดนตรีสดยุค 90s

ช่วงนี้กระแส Y2K กำลังมาแรง THE STATES TIMES ขอนำเสนอ Throwback Rooftop Bar บาร์ดาดฟ้าบรรยากาศดี ใจกลางเมือง ย่านสีลม ศาลาแดง ที่ชั้น 9 ตึก Silom Edge ที่นี่คือบาร์ที่จะพาเราย้อนเวลาไปสู่ยุค 90s ไม่ว่าจะเป็น ดนตรีเพราะๆ บรรยากาศสุดชิล ฟีลกินดื่ม Mood&Tone การใช้สีสันในโทนสดใส สีเหลืองตัดกับสีน้ำเงินสด การตกแต่ง รวมไปถึงเมนูอาหารและเครื่องดื่มของที่ร้าน เรียกได้ว่าเปิดเพลงไหนเราก็ร้องตามได้ทุกเพลง และที่สำคัญสามารถมองเห็นวิวสวนลุม ใจกลางสี่แยกสีลม หรือหากอยากนั่งข้างใน ห้องแอร์ ฟังดนตรีสดชัดๆ ก็สามารถนั่งข้างในได้เช่นเดียวกัน รองรับคนได้กว่า 200 คน พร้อมที่จอดรถกว้างขวาง หรือจะเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดงและ MRT สีลม ก็สะดวกสบาย ปลอดภัยไม่ต้องขับรถ

ข้อมูลเพิ่มเติม
พิกัด : ตึก Silom Edge ชั้น 9 ถนนสีลม, 10500

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘ดร.นิว’ แนะ!! ทูตสหรัฐฯ ในไทย ลองเรียนรู้ ม.112 หลัง FBI ส่งคนขู่ ‘ไบเดน’ ไปนอนคุยกับรากมะม่วง

(11 ส.ค.66) กรณีเจ้าหน้าที่ เอฟบีไอ บุกสังหารนายเครก โรเบิร์ตสัน ที่บ้านของเขา ในเมืองโพรโว รัฐยูทาห์ หลังจากโรเบิร์ตสัน โพสต์เฟซบุ๊กข่มขู่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา และอัยการที่ดำเนินคดีอาญากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงนายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โดยมีเนื้อหาดังนี้…

เรียน คุณโรเบิร์ต โกเดค ฉันค่อนข้างกังวลใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศของคุณ การปลิดชีพในรัฐยูทาห์นั้นรุนแรงมากเกินไปสำหรับการแสดงความเกลียดชังต่อประธานาธิบดี ฉันจึงขอแนะนำให้คุณเรียน รู้กฎหมาย ม.112 แล้วนำไปใช้ในฐานะวิธีการที่มีความเจริญมากกว่า สิ่งนี้จะช่วยยกระดับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศของคุณ

Dear Robert Godec, I'm concerned about democracy and human rights in your country. Killing in Utah is too severe for hate speech against the president. I suggest you learn and adopt Article 112 for a more civilized mean. It will promote democracy and human rights in your country.

ดร.ศุภณัฐ โพสต์ข้อความอีกว่า…

ม.112 ยังได้สู้คดีในศาล
แต่ประเทศประชาธิปไตยตัวพ่อโพสต์ขู่ประธานาธิบดี
บุกถึงบ้านแล้วส่งไปนอนคุยกับรากมะม่วง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top