Thursday, 19 June 2025
TheStatesTimes

บขส. - รถไฟ เริ่มคึกคึก หลังคนทยอยเดินทางสงกรานต์

บรรยากาศการเดินทางช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 9 เมษายน 2564 นี้ หลาย พื้นที่เริ่มมีคนทยอยเดินทางออกต่างจังหวัด โดยเฉพาะบริเวณสถานีขนส่ง ล่าสุด นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยตัวเลขผู้โดยสารเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 8 เมษายน 2564) บขส. ได้จัดรถบขส.,รถร่วม,รถตู้ (เที่ยวไป) จำนวน 3,443 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร จำนวน 40,017 คน ส่วนเที่ยวกลับ ได้จัดรถ บขส., รถร่วม, รถตู้ จำนวน 3,470 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร จำนวน 31,868 คน 

ส่วนในวันที่ 9 เมษายน 2564 บขส. ประเมินว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนา ประมาณ 50,000 คน โดย บขส. ยังคงจัดรถโดยสารรองรับการเดินทางในเที่ยวไปกว่า 5,000 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้กว่า 100,000 คน  

ขณะที่ สถานีรถไฟ โดยบรรยากาศที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในวันที่ 9 เม.ย. นี้ ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับหนาตาขึ้น ส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย จะให้บริการขบวนรถพิเศษเพิ่มเติม มีทั้งประเภทรถนอนปรับอากาศ และรถนั่งชั้น 3 ไป - กลับ รวม 16 ขบวน แบ่งเป็นเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 9 - 14 เม.ย. 2564 (เที่ยวไป 8 ขบวน) และวันที่ 10 และ 15 เม.ย. 2564 (เที่ยวกลับ 8 ขบวน) รวมทั้งยังได้มีการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ ซึ่งทำให้สามารถรองรับปริมาณการเดินทางของประชาชนได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน

ศบค.มท. แจ้งทุกจว. อนุญาตผ่อนคลายเฉพาะการซ้อมชนโค ชนไก่ กัดปลาโดยไม่มีผู้เข้าชมในสนาม

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564  ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ด้วยคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ให้กระทรวงมหาดไทยหรือหน่วยงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย พิจารณาผ่อนคลายกิจกรรมตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) กรณีสนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามฝึกซ้อมหรือแข่งขันหรือการจัดกิจกรรมอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน โดยให้สามารถจัดการฝึกซ้อมหรือแข่งขันได้แบบไม่มีผู้ชม และปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด และเพื่อให้การดำเนินการตามมติครม.เป็นไปในแนวทางเดียวกันทุกจังหวัด 

รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค ไก่ชน และปลากัด ได้กลับมาประกอบอาชีพอีกครั้ง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าฯ และผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาอนุญาตผ่อนคลายกิจกรรมพื้นบ้านได้เฉพาะการซ้อมชนโค ชนไก่ และกัดปลา โดยไม่มีผู้เข้าชมในสนาม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และต้องปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากพบว่ากิจกรรมใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุข ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาสั่งปิดเป็นรายกรณีต่อไป

ข่าวด่วนจากสำนักพระราชวังบักกิ้งแฮม ได้ประกาศข่าวเศร้าว่า เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระสวามีแห่งสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษได้สิ้นพระชนม์อย่างสงบด้วยสิริอายุ 99 พรรษา

#เจ้าชายฟิลิป_พระสวามีสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่_2

#สิ้นพระชนม์

ทางการอังกฤษจะเริ่มพิธีไว้อาลัย ลดธงครึ่งเสาในสถานที่ราชการทุกแห่งตั้งแต่วันนี้

เจ้าชายฟิลิป ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธ พระธิดาองค์โตของพระเจ้าจอร์จ ที่ 6 ในปี 1947 ก่อนที่จะเถลิงราชบัลลังก์เป็นสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 2 ในปี 1952

ทั้ง 2 พระองค์มีพระโอรส และพระธิดาร่วมกัน 4 พระองค์ ได้แก่...

...เจ้าฟ้าชายชาร์ล เจ้าชายแห่งเวลส์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งมกุฏราชกุมาร ทายาทลำดับ 1 แห่งราชวงศ์อังกฤษ

...เจ้าหญิงแอน

...เจ้าขายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ค

...เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเส็ก

และร่วมพระราชกรณียกิจในราชสำนักอย่างยาวนาน จนกระทั่งต้องขอหยุดภารกิจในเดือนพฤษภาคม 2017 เนื่องด้วยปัญหาด้านพระพลานามัยและใช้เวลาส่วนใหญ่ประทับในวัง Sandringham ในเมือง Norfolk

ครั้งสุดท้ายที่ชาวอังกฤษได้เห็น เจ้าชายฟิลิปในสื่ออังกฤษ คือช่วงที่ เจ้าชายฟิลิปเสด็จประทับที่โรงพยาบาล King Edward VII ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2020 นานถึง 1 เดือน และมีรับสั่งให้เจ้าฟ้าชายชาล์ส เสด็จเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์

แต่หลังจากที่เสด็จออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน ก็มีข่าวการสิ้นพระชนม์ในวันนี้

เจ้าชายฟิลิป ถือเป็นสมาชิกในราชวงศ์อังกฤษที่มีบุคลิกเฉพาะตัว เป็นนักกีฬาตัวยง มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ

ริชาร์ด ชาร์เตอร์ส บิชอปแห่งลอนดอน ได้เคยกล่าวถึงเจ้าชายฟิลิปว่า หากมีใครสักคนที่มีโอกาสได้อภิเษกสมรสกับพระราชินีแห่งอังกฤษ หลายคนมักคิดว่าเขาคนนั้นคงมีบุคลิกอันน่าเบื่อ เต็มไปด้วยแบบแผน แต่ท่านดยุคแห่งเอดินบะระ ไม่เป็นเช่นนั้น ท่านมีความสามารถหลายอย่างน่าทึ่ง ที่ไม่เคยทำให้ใครเบื่อ


อ้างอิง:

https://www.bbc.com/news/uk-11437314

https://www.theguardian.com/uk-news/2021/apr/09/prince-philip-duke-of-edinburgh-dies?CMP=fb_gu&utm_medium=Social&utm_source=Facebook#Echobox=1617966382

“ผบ.ทร.” มอบนโยบาย ประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม (VTC) ร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ และหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ที่ห้องประชุม กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ค่ายตากสิน อำเภอเมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี

ในการประชุมกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รอบใหม่ โดย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล/สถานพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม  เพิ่มเติมเพื่อรองรับการแพร่ระบาด ดังนี้ 

1.) ให้โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นโรงพยาบาลหลัก สามารถให้บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการ มีหอผู้ป่วยวิกฤต ห้องแรงดันลบ หอผู้ป่วยรวม และห้องแยก รวมแล้ว 54 เตียง มีขีดความสามารถในการตรวจวินิจฉัย และให้การรักษา ตั้งแต่อาการเล็กน้อย จนถึงขั้นวิกฤติ

2.) ตั้งโรงพยาบาลเฉพาะโรค ได้แก่ โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ และ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ มีหอผู้ป่วยรวม จำนวน 90 เตียง มีขีดความสามารถในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย โดยเน้นในการดูแลในส่วนของกำลังพลกองทัพเรือเป็นหลัก

3.) ให้จัดตั้งคลินิก โรคระบบทางเดินหายใจ ในพื้นที่ หน่วยแพทย์ปฐมภูมิ ที่มีนายแพทย์ปฏิบัติงาน

4.) จัดตั้งพื้นที่ เฝ้าระวัง ควบคุมโรค สำหรับกำลังพลกองทัพเรือ ประกอบด้วย
- พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล / ใช้พื้นที่ สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
- พื้นที่สัตหีบ จังหวัดชลบุรี / ใช้พื้นที่ อาคารรับรองของ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
- พื้นที่จังหวัดจันทบุรี และตราด / ใช้พื้นที่ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ค่ายตากสิน
- พื้นที่จังหวัดสงขลา / ใช้พื้นที่ ฐานทัพเรือสงขลา
- พื้นที่จังหวัดนราธิวาส / ใช้พื้นที่ ค่ายจุฬาภรณ์
- พื้นที่จังหวัดพังงา และภูเก็ต ใช้พื้นที่ ฐานทัพเรือพังงา

5.) จัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม ให้การสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุข จังหวัดชลบุรี ระยอง และจันทบุรี ประกอบด้วย
- ที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
- ที่ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
- ที่สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี
และยังให้จัดตั้งคลินิกให้บริการวัคซีน โควิด ให้กับกำลังพล และประชาชนทั่วไป มีการจัดทีมสอบสวนโรค เมื่อพบผู้ป่วยต้องสงสัยในพื้นที่ที่กองทัพเรือรับผิดขอบ และให้มีการจัดทีมคัดกรอง และตรวจ เมื่อได้รับการประสานให้มีการสนับสนุนเพิ่มเติมกับหน่วยงานภายนอก

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือเน้นย้ำให้ข้าราชการกองทัพเรือ เพิ่มความระมัดระวังทั้งแก่ตนเองและสมาชิกในครอบครัวในช่วงสถานการณ์ COVID-19 โดยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดตามที่รัฐบาลกำหนด และมาตรการเพิ่มเติม 18 ข้อ ตามที่ผู้บัญชาการทหารเรือเคยได้ให้ไว้แล้ว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รอบใหม่

“บิ๊กบี้” ตรวจความพร้อม รพ. สนาม 12 พื้นที่ รวม 2,220 พร้อมรับการแพร่ระบาดโควิด-19 

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก เปิดเผยว่า ตามสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงกลาโหม ดำเนินการเตรียมโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่พบคลัสเตอร์ใหม่ในหลายพื้นที่ และมีความรุนแรงกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลต่อปริมาณเตียงในสถานพยาบาลไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วย

ในการนี้ กองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงได้เตรียมความพร้อม โดยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ทั่วประเทศ สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อดูแลรักษาผู้ติดเชื้อและเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด

ทั้งนี้กองทัพบกได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามระยะที่ 1 ใน 12 พื้นที่ รวม 2,220 เตียง โดยพิจารณาจัดตั้งในพื้นที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก, ห่างไกลจากแหล่งชุมชน อาทิ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. จำนวน 200 นาย,กรมพลาธิการทหารบก จ.นนทบุรี 50 เตียง, ค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี 300 เตียง, กรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี 740 เตียง และกองพันทหารเสนารักษ์ในทุกกองทัพภาค อีก 930 เตียง

ซึ่งเป็นการนำศักยภาพของกองทัพ ทั้งด้านบุคลากร ยานพาหนะและสิ่งอุปกรณ์ เตียงสนาม พร้อมเครื่องนอน หมอนมุ้ง ในการจัดการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ พร้อมกันนี้ในปัจจุบันโรงพยาบาลค่ายในสังกัดกองทัพบกทั้ง 37 แห่ง ก็ได้สนับสนุนสาธารณสุขในพื้นที่ บริการคัดกรอง ดูแลรักษาประชาชน รวมทั้งสร้างการรับรู้ ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนตามมาตรการป้อง COVID-19 เพื่อให้ประชาชนได้ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม ลดการแพร่กระจายเชื้อไปในพื้นที่ต่าง ๆ อีกทางหนึ่งด้วย

ซึ่งในวันนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางไปตรวจความพร้อมการเตรียมการโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของCOVID-19 สนับสนุนรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข โดยมุ่งเน้นการดูแลและสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นใน 2 พื้นที่ ได้แก่ กรมพลาธิการทหารบก, กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1

“กองทัพบกยืนยันความพร้อม และพร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนในการดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งได้เตรียมการวางแผนมาตั้งแต่แรกเริ่มที่พบการระบาดในประเทศ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อสามารถรับมือต่อสถานการณ์ บริหารจัดการได้อย่างทันท่วงที และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส” พล.ท.สันติพงศ์ กล่าว


 

รมว.สุชาติ หารือร่วม ผู้ว่าฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ หารือร่วมเร่งเดินหน้านโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน บูรณาการทุกภาคส่วน ส่งเสริมการมีงานทำ สร้างหลักประกันความมั่นคงแก่แรงงานทุกคน สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่
        
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และนายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน และแนวทางในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย 

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ โดยเริ่มจากปัญหาที่เป็นความเดือดร้อนเร่งด่วนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วทันเหตุการณ์ ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีให้รับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
        
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ผมได้ต้อนรับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน และแนวทางในการปฏิบัติงาน ตลอดจนรับทราบความก้าวหน้า ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะของจังหวัด เพื่อนำข้อมูลไปประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันตามภารกิจของกระทรวงแรงงาน 

ทั้งนี้ รมว.แรงงาน ยังได้เน้นย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 จังหวัดให้บูรณาการทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน อาทิ ด้านส่งเสริมสินค้าเกษตรและสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การยกระดับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบไฟฟ้า น้ำประปา และติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว 

โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะเข้าไปสนับสนุนตามภารกิจ อาทิ การฝึกอบรมฝีมือแรงงานโดยต่อยอดให้พี่น้องแรงงานในพื้นที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ส่งเสริมระบบตลาดออนไลน์ การส่งเสริมการมีงานทำในระดับชุมชนพื้นที่ การพัฒนาทักษะฝีมือ Up – skill Re – skill และ New – skill ตามความต้องการของแรงงานทุกกลุ่ม การคุ้มครองดูแลให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานทั้งแรงงานในระบบและแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิประโยชน์และมีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต เป็นต้น

ขอนแก่น - ประกาศยกเลิกการจัดงานสงกรานต์ทั้งหมดจากเดิมที่จะจัดถึงวันที่ 13 เม.ย. ขณะที่ บขส.ขอนแก่น เสริมเที่ยวรถรับรองประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดคนเดินทางลดลง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งล่าสุดขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 11 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ในโรงพยาบาล รวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 25 ราย ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทางเทศบาลนครขอนแก่นได้ประกาศงดจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียวทั้งหมด ซึ่งจากเดิมได้มีการประกาศงดจัดเฉพาะถนนข้าวเหนียวและขบวนแห่นางสงกรานต์ ยังคงเหลือจัดกิจกรรมสืบสานประเพณี ในวันที่ 8-13 เม.ย.2564 ทำให้ล่าสุดทางเทศบาลนครขอนแก่นได้มีการประกาศยกเลิกการจัดงานทั้งหมด พร้อมทั้งยกเลิกการจัดถนนคนเดินออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยจะได้นำเข้ามติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นในช่วงบ่ายวันนี้และจะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ขณะที่บรรยากาศภายใน บขส.แห่งที่ 3 ถ.มิตรภาพ ในเขตเทศบาลนครอขอนแก่น พบว่ามีประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาซื้อตั๋วขึ้นรถเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกคนที่มาใช้บริการบริเวณหน้าทางเข้าอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะหรือลงทะเบียนในแบบฟอร์มสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งได้มีการตั้งจุดคัดกรองพนักงานขับรถทุกคนให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคและตามกฎระเบียบของทางขนส่ง ทั้งการตรวจหาสารเสพติด การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ การตรวจสุขภาพเบื้องต้นเพื่อให้พนักงานขับรถทุกคนให้บริการประชาชนได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งตรวจเช็คสภาพรถทุกคันให้มีสภาพที่พร้อมให้บริการด้วย

นายชาญชัย แซ่ลั้ง ผู้ช่วยนายสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 จ.ขอนแก่น  กล่าสว่า ในช่วงนี้พบว่าจำนวนผู้มาใช้บริการยังเงียบอยู่ เพราะยังไม่ใกล้วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ทาง บขส.เอง ก็ได้เตรียมสำรองเที่ยวรถไว้รองรับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ไว้เพียงพอ เพื่อป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง แต่คาดว่า สงกรานต์ปีนี้ ผู้คนคงจะเดินทางกลับมาเล่นสงกรานต์ที่บ้านลดลง และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารทุกคนปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

สั่งพาณิชย์ตรวจตลาดกันคนโกงขายของแพงช่วงสงกรานต์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และเพิ่มความเข้มงวดมากเป็นพิเศษ แม้จะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ยังมีการเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบประชาชน ตลอดจนให้ช่วยตรวจสอบดูแลร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการของรัฐด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสใช้โครงการของรัฐหาประโยชน์หรือมาเอาเปรียบจนได้รับความเดือดร้อน 

ขณะเดียวกันยังขอให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่ง ต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้  หรือหากประชาชน พบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง 

โดยกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธ การจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายกฯ ไทย - ญี่ปุ่นหารือชื่นมื่นพร้อมต่อยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค  พร้อมจับมือไทยสนับสนุนลดความตึงเครียดในเมียนมาด้วยสันติวิธี และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้หนีภัย

วันที่ 9 เมษายน 2564 ที่ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับนายซูกะ โยชิฮิเดะ (H.E. Mr. Suga Yoshihide) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเข้ารับตำแหน่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่ได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ทราบว่านายกรัฐมนตรีได้เคยทำหน้าที่เป็นประธานร่วมฝ่ายญี่ปุ่นของคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย -ญี่ปุ่น (High Level Joint Commission: HLJC) สมัยที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จึงหวังว่าจะสานต่อความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทย - ญี่ปุ่น ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะกระชับความร่วมมือกับญี่ปุ่นในฐานะประเทศหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าทั่วโลกจะพบกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นยังมีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง โดยไทยได้อำนวยความสะดวกการเดินทางระหว่างนักธุรกิจและประชาชนของทั้งสองฝ่ายตามมาตรการควบคุมโรคของรัฐบาลไทย  

ด้านนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวยินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก พร้อมระบุว่า จากที่มีโอกาสทำหน้าที่สนับสนุนความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับไทย และเคยเยือนไทยเพื่อเข้าร่วม การประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ทั้งนี้ ญี่ปุ่นชื่นชมการจัดการเพื่อควบคุมโควิดของไทย และญี่ปุ่นพร้อมให้ความสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ตู้แช่วัคซีน และบริการขนส่งแก่ไทย และประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ภายใต้ โครงการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าฉุกเฉินผ่านองค์การ UNICEF และ JICA ซึ่งจะช่วยทำให้แจกจ่ายวัคซีนให้แก่ประชาชนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณญี่ปุ่นที่สนับสนุนการค้าการลงทุนกับไทย และให้ความสำคัญกับการลงทุนในเขตEEC มาโดยตลอด รัฐบาลไทยเตรียมการที่จะปรับปรุงแก้ไขอุปสรรคด้านการลงทุนต่าง ๆ พร้อมยกระดับสภาพแวดล้อม การทำธุรกิจภายในประเทศเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่มีศักยภาพและมีความสนใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประสงค์ให้มีความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนให้จัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย - ญี่ปุ่น (High Level Joint Commission: HLJC) ครั้งที่ 5 เพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีส่วนฟื้นฟูสำคัญภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ คือ การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) อนุรักษ์พลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงเชิญชวนให้ญี่ปุ่นพิจารณาไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ ในประเทศไทย 

ในส่วนของความร่วมมือพหุภาคี ญี่ปุ่นเชื่อมั่นบทบาทของไทยการเป็นผู้นำในหลายด้านของภูมิภาค และพร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับไทยเพื่ออนาคตความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (Mekong-Japan Cooperation - MJ) ที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าไทยพร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียนในโอกาสที่ไทยเป็นผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน – ญี่ปุ่น ช่วงปี 2564-2567 ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของไทย และร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดในห้วงที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปคในปี 2565 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับญี่ปุ่นต่อสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นชื่นชมบทบาทของไทยและอาเซียน ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายพร้อมให้การสนับสนุนเมียนมาให้ลดความตึงเครียดของสถานการณ์ด้วยสันติวิธี และยืนยันให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับผู้หนีภัยความไม่สงบในเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม 

เสียง (เพรียก) แห่งสายน้ำปัตตานี... ตอนที่ 3

เช้าแสนอ้อยอิ่งผ่านไปพร้อมกับมื้อเช้าง่าย ๆ คือขนมและกาแฟ รอบนี้เอากาแฟคั่วจากสวนตัวเองลงมาด้วย ตั้งเตาต้มน้ำ พลางบดกาแฟ เทลงในหม้อ เติมน้ำเดือดลงไป รอราวสามนาทีก็นำช้อนเขี่ยผงกาแฟที่ลอยอยู่ให้จมลง ตักเอาฟองและเศษที่เหลือออก แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว นี่ถือว่าเป็นการชงกาแฟที่เรียบง่ายที่สุดและเป็นการเลียนแบบวิธีการทำคัปปิ้ง (อธิบายง่ายสั้นก็คือการดมชิมกาแฟ) นั่นเอง

“เอาเชือกรัดสัมภาระต่าง ๆ ในเรือ “แล้วก็อย่าลืมใส่ชูชีพด้วยนะพี่” บังบิ๊บบอกเช่นนั้น เสียงค้านในใจบอกไม่เห็นจะจำเป็นสักหน่อย น้ำไหลเอื่อยแบบนี้ไม่ต้องแน่นหนาขนาดนั้นก็ได้ แต่เอาน่ะ คนเขาอยู่ในพื้นที่ น่าจะมีเหตุผลมากพอหากเขาแนะนำเช่นนั้น ผมจึงหยิบเชือกออกมามัดกระเป๋าสองสามใบไว้

การพายคายักในวันนี้เริ่มต้นแบบไม่ต้องออกแรงจ้วงไม้พายมากนัก เพราะน้ำไหลเรื่อย สองฝั่งร่มรื่นไปด้วยแมกไม้เขียวขจี อากาศยามเช้าแสนจะเป็นใจ บางครั้งผ่านบ้านเรือนผู้คน เด็กน้อยโบกมือและวิ่งลงมาทักทายคนแปลกถิ่น เป็นภาพที่สวยงาม แต่มีสิ่งที่เห็นแล้วรกสายตามาก คือขยะทั้งหลายโดยเฉพาะพลาสติกที่ลอยไปติดอยู่ตามกิ่งก้านไม้ในช่วงน้ำหลาก เมื่อน้ำลดจึงค้างอยู่เป็นจำนวนมาก เห็นแล้วรู้สึกขัดหูขัดตา สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้วขยะย่อยสลายยากอาจแค่ทำให้รู้สึกไม่สบายตา ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ขยะเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในระบบนิเวศค่อนข้างมาก และถ้าเพียงแค่เราต่างตระหนักว่าการกระทำของเราสามารถทำลายอีกหลายชีวิตโดยไม่ตั้งใจ เราอาจจะระมัดระวังการใช้ชีวิตในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้ก็เป็นได้ เราอาจจะลดการสร้างขยะหรืออย่างน้อยก็พยายามรับผิดชอบด้วยการจัดการขยะที่เราสร้างขึ้นอย่างถูกต้องเหมาะสม

เอาเถอะถือว่าเป็นการสะท้อนมุมมองและความรู้สึกบางด้านจากการพายเรือผ่านแม่น้ำปัตตานีละกัน 

กลับมาที่ไฮไลต์ประจำวันกันอีกครั้ง ซึ่งก็คือดีกรีความตื่นเต้นที่สายน้ำนี้มอบให้ มันค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามช่วงเวลาของวัน ยิ่งพายยิ่งเจอสิ่งที่ทำให้อะดรีนาลีนหลั่งมากขึ้น ก็แก่งทั้งหลายไงล่ะครับ ค่าที่ยังนับว่าเป็นมือใหม่หัดพาย จึงยังคงต้องสะสมชั่วโมงพายเรือ เพื่อสั่งสมความชำนาญและความมั่นใจในการอ่านสายน้ำไปทีละเล็กละน้อย การได้มาเจอโจทย์ประเภทแก่งน้ำเชี่ยวจึงเป็นทั้งเรื่องสนุกและในขณะเดียวกันก็สร้างความกังวลด้วย ยิ่งไปก็ยิ่งเจอแก่งถี่ขึ้น ต้องคอยคัดซ้ายคัดขวาเพื่อให้เรือไหลไปตามร่องน้ำตามที่วางแผนไว้ในใจ พวกเราร้องตะโกนด้วยความดีใจเวลาที่สามารถผ่านแต่ละความท้าทายเล็ก ๆ เหล่านั้นได้ รู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กชายซน ๆ กันอีกครั้ง เชื่อว่าผู้ใหญ่จำนวนมากคงไม่ต่างจากผม ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งเคร่งขรึมเกินเหตุ หลงลืมการหัวเราะร่าเริงและการไม่ต้องจริงจังไปเสียทุกเรื่อง เป็นเหตุให้กลายเป็นพวกแบกโลกอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งเด็กน้อยถูกปลุกให้ตื่นอีกครั้งเมื่อได้กลับมาทำกิจกรรมกลางแจ้งหัวหกก้นขวิดแบบนี้

อย่างที่บอกว่าดีกรีความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นเพราะลำธารสาขาไหลมาสมทบมากขึ้น ผมไม่แน่ใจนักว่าเขาจัดระดับความแรงหรือความเสี่ยงของแก่งกันอย่างไร จึงขอแบ่งแบบระดับตามความเผ็ดของพริกที่ใส่ลงไปในอาหารละกัน จากแก่งประเภทพริกเม็ดสองเม็ด พอคล้อยบ่ายจำนวนพริกขี้หนูหลายเม็ดเริ่มมากจนเผ็ดจัดจ้านแสบร้อนมากขึ้น น้ำลึกมากขึ้น สายน้ำแคบลง เพราะถูกบีบให้ไหลเข้าไปในโตรกหินผา รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลของมวลน้ำที่ทวีการไหลดุดันมากขึ้นตามลำดับ ผมไม่แน่ใจนัก ว่าการยอมปล่อยตัวเองและคายักผ่านลงไปในแก่งเชี่ยวกรากน้ำกระจายแตกฟองสีขาวโดยไม่ได้ตรวจสอบเสียก่อนนั้นเป็นเรื่องดีและสมควรหรือไม่ รู้แค่ว่าการไม่รู้อะไรล่วงหน้าส่งผลให้ยอมเสี่ยงกระโจนลงไปหาความท้าทายเหล่านั้น กระเด้งกระดอนคลอนแคลนเพราะเรือถูกน้ำซัดต่างระดับจนน้ำกระฉอกเข้าเรือแทบครึ่งค่อนลำ ต่อเมื่อพ้นแก่งพวกนั้นมาได้จึงยิ้มกริ่มด้วยความสะใจ ไม่ใช่เพราะชะล่าใจว่าสามารถเอาชนะหรือต่อกรกับธรรมชาติได้ ทว่าเป็นความภูมิใจลึก ๆ ที่สามารถสะสมทักษะการพายเรือได้มากขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้วนั่นเอง แต่สิ่งที่ตรงกันข้าม คือมีอย่างน้อยหนึ่งแก่งในวันนี้ที่ผมยอมเสียเวลากับการไปสำรวจโดยเทียบเรือแล้วเดินเลียบตลิ่งชันด้านข้าง เมื่อมองดูแก่งนั่นแล้วเกิดภาพน่ากลัวขึ้นในหัว กลายเป็นใจฝ่อไปเสียนั่น รำพึงในใจว่าถ้าไม่รู้เห็นก็สิ้นเรื่อง สู้ให้เรือพลิกคว่ำยังจะดีเสียกว่าไหม สรุปก็คือเมื่อภาพในหัวน่ากลัวกว่าความเป็นจริงผมก็เลยต้องยกสัมภาระทุกอย่างเลาะตลิ่งสูงดังกล่าว ลงไปยังท้ายแก่ง ในขณะที่บังบิ๊บอาจอาญกว่าผมหลายเท่า เขาอ่านทางน้ำแล้วตัดสินใจลุยและเขาก็ทำได้!

แล้วก็มาถึงจุดที่ผมได้รับประสบการณ์เรือคว่ำจนได้ ซึ่งก็ไม่ใช่แก่งใหญ่น่ากลัวแต่ประการใด ความท้าทายคือมันเป็นโค้งน้ำแคบหักศอก ต้องประคองตัวและวางตำแหน่งตัวเองให้ถูกต้องเพื่อให้สมดุล แต่ผมไม่รู้เทคนิค แค่แม่น้ำตบเบา ๆ ทำเอาเรือพลิก ทุกอย่างรวมทั้งตัวผมลอยตุ๊บป่อง ดีที่ใส่ชูชีพไว้ตามคำแนะนำของเพื่อน จึงลอยตัวได้สบาย พยายามคว้าเรือไว้ ส่วนรองเท้าแตะจำปล่อยให้ลอยหายไป บังบิ๊บตามมาช่วยด้วยอีกแรง เพราะถ้าเลยไปอีกหน่อยก็จะเจออีกแก่งหนึ่งแล้วนั่นเอง

โหดสุดของวันนี้คือมหาแก่ง แค่ระยะสั้น ๆ ราวยี่สิบเมตร แต่ต่างระดับราวห้าเมตรในแนวดิ่ง มันคือน้ำตกดี ๆ นี่เอง ที่สำคัญแก่งนี้ยังอยู่ในโตรกแคบ หมายถึงระดับความเผ็ดน่าจะถึงขั้นอุจจาระราดกันได้เลยทีเดียวหากริจะเล่นกับมัน ผมน่ะยอมศิโรราบแต่โดยดีอยู่แล้ว ในขณะที่บังบิ๊บเห็นว่าหากอุปกรณ์และทีมพร้อมเขาอยากวัดใจกับแก่งนี้ดูสักครั้ง ที่แน่ ๆ ไม่ใช่รอบนี้แน่นอน พวกเราจึงแบกเรือและสัมภาระลงไปยังท้ายแก่งกัน จากนั้นจึงประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วออกพายต่อ ผ่านจุดนี้มาแล้วแม่น้ำปัตตานีก็เปิดกว้าง โตรกผาค่อย ๆ หายไป กลายเป็นตลิ่งที่เห็นไกลออกไป แม่น้ำก็เปิดกว้างขึ้น ทว่าก็ยังคงมีแก่งให้ผ่านกันอีกหลายแก่ง อากาศเริ่มเย็น อาทิตย์ลับขอบฟ้า ความมืดเริ่มปกคลุมทั่วบริเวณ พวกเรายังคงไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top