Sunday, 8 June 2025
TheStatesTimes

'บิ๊กป้อม' นำทัพลุย 'กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด' เร่งแก้ปัญหาน้ำพื้นที่เสี่ยง-มอบสิทธิ์ที่ดินทำกิน

'บิ๊กป้อม' ลุย 'กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด' เร่งแก้ปัญหาน้ำพื้นที่เสี่ยง-มอบสิทธิ์ที่ดินทำกิน ลั่น ต้องช่วยแก้ปัญหาจำนองขายฝากที่ดิน อย่าให้หลุดมือเกษตรกร

(14 ธ.ค. 65) ที่ศาลากลางจ.กาฬสินธุ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ, นายสันติ พร้อมพัฒน์ และคณะ ลงพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการแก้ปัญหาที่ดินทำกินและการฟื้นฟูแหล่งน้ำ และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ มีตัวแทนหน่วยงานเกี่ยวข้องรอต้อนรับ

โดยรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม พบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำต้นทุนการเกษตร การบริโภคจากการขยายตัวของชุมชนเมือง โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน ซึ่งในปี 61-64 มีแผนงานพัฒนาพื้นที่แล้ว 1,152 โครงการ วงเงินกว่า 3,100 ล้านบาท พื้นที่รับประโยชน์ 107,582 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 48,000 ครอบครัว และอยู่ระหว่างดำเนินการ 165 โครงการ โดยงบกลางกว่า 280 ล้าน ทั้งการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ ระบบกระจายน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม สำหรับปี 66-67 มี 3 โครงการ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 912 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์อีก 3,100 ครอบครัว พื้นที่กว่า 5,800 ไร่

‘อิหร่าน’ สวน!! ไม่เคยส่งออกโดรนพลีชีพไปยังรัสเซีย หลังยูเครนอ้าง แต่ไม่เผยหลักฐานที่รัสเซียใช้งาน

เมื่อ (13 ธ.ค. 65) สำนักข่าวแทสนิม (Tasnim) อ้างอิงโมฮัมหมัดเรซา อัชเตียนี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิหร่าน ระบุว่ายูเครนไม่ได้แสดงหลักฐานอันใด สำหรับสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ารัสเซียใช้โดรนทางทหารของอิหร่านในสงครามยูเครน

อัชเตียนี ระบุว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจากอิหร่านและยูเครนจัดการประชุม เพื่อหารือถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวเมื่อไม่นานนี้ โดยในการประชุมทางเทคนิค ฝ่ายยูเครนไม่ได้เสนอเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวพันกับกรณีดังกล่าว

นอกจากนั้นอัชเตียนี ยังปฏิเสธกรณีชาติตะวันตกกล่าวหาอิหร่านในประเด็นนี้ว่าเป็น “ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง” พร้อมชี้ว่าความร่วมมือทางทหารของอิหร่านและรัสเซียนั้นดำเนินมาอย่างช้านานและอยู่นอกเหนือวัตถุประสงค์เฉพาะ

ย้อนอดีตสตาร์อาภัพ ผู้พลาดแชมป์บอลโลก ฤๅ ‘เมสซี’ จะก้าวผ่านหรือเจ็บซ้ำรอยอีกหน

(14 ธ.ค. 65) หลังฟุตบอลโลก 2022 ผ่านพ้นมาจนถึงโค้งสุดท้ายแล้ว ก็คงได้เห็นหน้าตาทีมชาติที่ผ่านเข้ารอบมาแบบไม่มีข้อกังขาใดๆ ยิ่งเมื่อคืน (13 ธ.ค. 65) กับอีกคู่คำสำคัญในการโคจรมาเจอกันระหว่างทีมชาติอาร์เจนตินา ที่มีดาวเด่นอย่าง ลิโอเนล เมสซี กับทีมชาติโครเอเชีย ที่ทัวร์นาเมนต์นี้ทำผลงานเข้าตาแถมนายประตูก็เหนียวราวกับตุ๊กแก แต่สุดท้ายผลการแข่งขันก็เป็นทีมอาร์เจนตินาที่เป็นฝ่ายคว้าชัย เข้ารอบรอลุ้นในรอบตัดเชือก (ไม่รู้ว่าจะได้เจอฝรั่งเศสหรือโมร็อกโก) 

แต่ก่อนที่จะไปลุ้นว่าใครจะได้แชมป์ฟุตบอลโลกในหนนี้ ก็อยากชวนย้อนอดีตถึงเหล่าดาวเด่นที่เคยมีโอกาสคว้า ‘เวิลด์คัพ โทรฟี่’ แต่สุดท้ายก็คว้าได้เพียงความฝัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางสังคม และอาจารย์ ได้แสดงความคิดเห็นไว้ในคลิปวิดีโอ ที่เผยแพร่ทางช่องยูทูบ ‘Suriyasai Channel’ ชื่อว่า ‘เหลียวหลังแลหน้าซุปตาร์ผู้ผิดหวัง ในมหกรรมบอลโลก’ ความว่า…

ย้อนกลับไปเกือบ ๆ 50 ปีที่แล้ว ในปี 1974 ตอนนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ‘โยฮัน ไกรฟฟ์’ เจ้าของฉายานักเตะเทวดา เป็นศูนย์หน้าของเนเธอแลนด์ แต่เขาไม่สามารถพาทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ในฟุตบอลโลกในปี 1974 ได้ ทั้งๆ ที่เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ทุกคนยอมรับในฝีมือ โดยพ่ายแพ้ให้เยอรมัน และได้เป็นเพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น เรียกว่าไปไม่ถึงฝัน

แต่ตำนานนักเตะของเนเธอร์แลนด์ไม่ได้มีแค่ ‘โยฮัน ไกรฟฟ์’ เท่านั้น เพราะหลังจากนั้นก็มีนักเตะดาวรุ่นอีก 3 คน หรือเรียกว่า 3 ทหารเสือ ประกอบด้วย มาร์โก แวน บาสเท่น, แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด และรุด กุลลิท ยุคนั้นเรียกว่ายุคอัศวินสีส้ม และเป็นยุคที่สามารถวิ่งสลับตำแหน่งกันได้ แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาไว้ได้ 

ต่อมาคือ ‘โรแบร์โต บัจโจ’ เป็นกำลังหลักของทีมอิตาลี แต่มาไกลสุดได้แค่รองแชมป์ฟุตบอลโลก เพราะในรอบชิงพ่ายแพ้ให้แก่ทีมชาติบราซิล ซึ่งผลงานที่แฟนบอลจำไม่ลืมคือการยิงจุดโทษข้ามคาน ทำให้ ‘โรแบร์โต บัจโจ’ และทีมชาติอิตาลีไปไม่ถึงฝัน

คนถัดมา คนนี้พิเศษกว่าคนอื่น ๆ เพราะเขามีตำแหน่งเป็นนายทวารและเป็นกัปตันทีมของเยอรมัน ‘โอลิเวอร์ คาห์น’ เตะบอลในนามทีมชาติราว ๆ 15 ปี แต่ไม่เคยเข้าถึงแชมป์ฟุตบอลโลกได้สักครั้ง เพราะในปีที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ เขาพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติบราซิลไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถึงอย่างไร ฝีมือและผลงานก็จัดอยู่ในขั้นซูเปอร์สตาร์ของโลกฟุตบอล

15 ธันวาคม วันชาสากล วันรณรงค์ให้ตั้งราคาสินค้าใบชาอย่างเป็นธรรม กับเครื่องดื่มที่อยู่คู่มนุษยชาติกว่า 2,000 ปี

‘วันชาสากล’ วันที่เกษตรกรผู้ปลูกชา ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมในการค้าชา และเป็นวันแห่งเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั่วโลก!!

วันที่ 15 ธันวาคมของทุกปีเป็น ถูกยกให้เป็น ‘วันชาสากล’ (International Tea Day) วันนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2548 จุดเริ่มต้นมาจากเกษตรกรผู้ปลูกชากลุ่มเล็ก ๆ ในเบงกอลตะวันตก และหลายรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องถึงสิทธิและความชอบธรรมในการค้าชาของตน โดยในช่วงนั้น แม้ว่าชาจะเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ แต่อุตสาหกรรมค้าชาในประเทศอินเดียกลับมีความอ่อนแอและบริหารจัดการได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ 

กระทั่งองค์กรเพื่อการสื่อสารและการศึกษาของประเทศอินเดีย (CEC – Centre for Communication and Education) ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสิทธิของเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อยในประเทศ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยได้รับความร่วมมือกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติด้วยอีกทาง ในที่สุดจึงสามารถเข้ามาพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ค้าชากลุ่มย่อย ๆ ให้ได้รับความเป็นธรรมในการค้าชาและทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น

ตร. จับมือ ไปรษณีย์ไทย ส่งไซเบอร์วัคซีน เตือน 18 รูปแบบกลโกงแห่งปีที่ต้องระวัง แจกจ่ายทั่วประเทศ เป็นด่านแรกรู้เท่าทันกลโกง

วันนี้ (14 ธ.ค. 65) ที่ เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด  จับมือร่วมลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการประชาสัมพันธ์กลโกงของมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สำหรับแจกจ่ายให้ประชาชน และสถานีตำรวจ ทั่วประเทศ 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยียังมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 600-700 ราย แม้ตำรวจจะเร่งปราบปรามจับกุมทุกมิติมาต่อเนื่อง แต่กลุ่มคนร้ายจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการกลโกง หลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบแตกต่างกัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สูญเสียทรัพย์สิน และกระทบต่อระบบเศรษกิจของประเทศ ตำรวจเพียงหน่วยเดียวจึงไม่สามารถแก้ปัญหา จำเป็นต้องอาศัยภาคีเครือข่ายในการร่วมกันป้องกัน รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะประชาชน ถือเป็นด่านแรกของการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหา จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มไซเบอร์วัคซีนให้ถึงประชาชนโดยเร็วและมากที่สุด ต้องขอบคุณ นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด ที่เข้ามาช่วยผลักดัน ไซเบอร์วัคซีน ให้ถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดย ตร. ได้รวบรวมรูปแบบลักษณะการกระทําผิด แผนประทุษกรรม วิธีการหลอกลวง ที่เกิดขึ้นบ่อย วิธีการป้องกัน และวิธีการตรวจสอบข้อมูลการกระทําผิด ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ สื่อเตือนภัย สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน (Cyber Vaccine) รู้เท่าทันรูปแบบกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพ 18 รูปแบบ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จะเป็นผู้จัดส่ง สื่อประชาสัมพันธ์กลโกงของมิจฉาชีพในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในรูปแบบเอกสาร ขนาด A4 สําหรับแจกจ่ายให้ประชาชน ทั่วประเทศ และโปสเตอร์ ขนาด A3 สําหรับสถานีตํารวจทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจัดส่งสื่อเอกสารประชาสัมพันธ์ภายในเดือนนี้ ระยะแรก จะจัดส่งใบปลิว ขนาด A4 จำนวน 1,500,000 แผ่น ส่งให้กับประชาชนทั่วประเทศ และโปสเตอร์ ขนาด A3 จำนวน 500,000 แผ่น ส่งให้กับสถานีตำรวจทั่วประเทศ 

MEA - PEA - EGAT - OR - EA 5 พันธมิตร ผนึกกำลังยกระดับการให้บริการ EV พัฒนาแอปฯ ดูหมุดสถานีชาร์จข้ามค่ายได้แล้ว

MEA - PEA - EGAT - OR - EA นำร่องพัฒนาแอปฯ ยกระดับการให้บริการ EV ในประเทศไทย ดูหมุดสถานีชาร์จข้ามค่ายได้แล้ว

ไม่นานมานี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ 5 หน่วยงาน ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง / การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค / การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย / บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) และ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันพัฒนาและบริหารจัดการแพลตฟอร์มกลางของสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า 

โดยทั้ง 5 หน่วยงาน ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงโครงข่ายแอปพลิเคชันการจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งในเฟสแรกของความร่วมมือดังกล่าวได้ร่วมกันพัฒนาให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าสามารถค้นหาพิกัดสถานีอัดประจุไฟฟ้าของทั้ง 5 หน่วยงาน ผ่านแอปพลิเคชันทุกเครือข่าย ได้แก่ MEA EV (MEA), PEA VOLTA (PEA), EleXA (EGAT), EV Station PluZ (OR) และ EA Anywhere (EA) ได้สำเร็จ และเปิดทดลองใช้งานเพื่อเก็บข้อมูลสำหรับพัฒนาในเฟสต่อไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เปิดเผยว่า MEA ได้ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 เป็นวาระครบรอบ 10 ปีที่ MEA ขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ EV มีโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาครอบคลุมทั้งในด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้า และรูปแบบยานยนต์ไฟฟ้าต่าง ๆ ตลอดจนการสร้าง MEA EV Application ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้รถ EV อย่างครบวงจร ซึ่ง MEA พร้อมที่จะบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

‘กรุงเทพธนาคม’ วอน BTS หยุดทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถผ่านสื่อ ชี้!! กระบวนการยังอยู่ในขั้นตอนศาลพิจารณา

‘กรุงเทพธนาคม’ แจงปมหนี้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอ BTS หยุดทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถผ่านสื่อ ชี้กระบวนการอยู่ในขั้นตอนศาลพิจารณา พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เร่งแก้ปัญหาหาข้อสรุปโดยเร็ว

(14 ธ.ค. 65) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประแสง มงคลศิริ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยถึงกรณีคดีค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ว่า กรณีผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้ประกาศทวงหนี้ตามสัญญาค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ผ่านสื่อต่างๆ หลายครั้งและหลายรูปแบบ

ข้อเท็จจริง คือ ผู้รับจ้างเดินรถได้ใช้สิทธิฟ้อง กทม.และบริษัท ต่อศาลปกครองมาตั้งแต่ปี 2564 เมื่อผู้บริหารชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่ ได้รีบยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลาส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้คดีในหลายประเด็นอย่างเต็มที่ แต่ศาลยืนยันว่าสิ้นสุดระยะเวลาส่งเอกสารหลักฐานแล้ว จึงปฏิเสธไม่รับเอกสารหลักฐานเข้าสู่สำนวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ศาลชั้นต้นก็กรุณามีคำแนะนำให้คู่ความ 2 ฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แต่ผู้รับจ้างเดินรถยืนยันต่อศาลว่าจะไม่เจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งก็เป็นสิทธิโดยชอบ

ต่อมาศาลได้นัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 7 ก.ย 2565 โดยมีคำตัดสินให้บริษัทแพ้คดีในศาลชั้นต้น บริษัทจึงต้องรีบยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนด 30 วันพร้อมกับส่งเอกสารหลักฐานใหม่ในวันที่ 5 ต.ค.2565 และชำระค่าธรรมเนียมตามระเบียบอุทธรณ์คดี คดีพิพาทนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ในศาลสูงสุด

การที่บริษัทอุทธรณ์ต่อสู้คดีไปสู่ชั้นศาลสูงสุดนั้น ถือว่าได้ใช้สิทธิโดยชอบเสมอกัน มีผลให้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องรอฟังคำสั่งของศาลสูงสุดที่จะให้ความยุติธรรม บริษัทจึงไม่เคยคิดจะนำเนื้อหาคดีไปจัดทำสื่อเผยแพร่สร้างกระแสต่อสังคมหวังกดดันผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย บริษัทไม่เคยนำประเด็นคดีไปจัดอีเวนต์บรรยายฟ้องศาลท้าวมหาพรหมตามความเชื่อส่วนบุคคลให้เป็นกระแสข่าว ทั้งนี้เพราะบริษัทมีความเชื่อมั่นกระบวนการศาลที่ผู้รับจ้างเดินรถเป็นผู้เลือกดำเนินการมาตั้งแต่ต้น

เกาะติดโซนยอดนิยม 'กทม.-ปริมณฑล' ไตรมาส 3 'ห้วยขวาง' ยืนหนึ่งคอนโด 'บางพลี' คึกคักบ้านเดี่ยว

(14 ธ.ค. 65) นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น ณ ช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 พบว่ามีจำนวน 198,024 หน่วย มูลค่า 984,904 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 2,188 หน่วย แต่มูลค่ากลับสูงขึ้น 8,608 ล้านบาท 

โดยเป็นโครงการบ้านจัดสรร 126,325 หน่วย มูลค่ารวม 680,615 ล้านบาท ซึ่งพบว่าบ้านจัดสรรมีการเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 และ 2 ปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวเฮ้าส์ ขณะที่โครงการอาคารชุดมีหน่วยเสนอขายจำนวน 71,699 หน่วย มูลค่ารวม 304,289 ล้านบาท ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 1 และ 2 ปี 2565

สำหรับโซนที่มีหน่วยอาคารชุดเสนอขายสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย...

อันดับ 1 ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง จำนวน 9,921 หน่วย มูลค่า 40,368 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 3) 

อันดับ 2 พระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ จำนวน 8,285 หน่วย มูลค่า 23,259 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 4)

อันดับ 3 เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด จำนวน 7,144 หน่วย มูลค่า16,288 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 6) 

อันดับ 4 ธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด จำนวน  6,893 หน่วย มูลค่า 21,262 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 5) 

‘นักวิชาการ’ ชี้!! สารพัดปัจจัยหนุน ภท.เนื้อหอม ‘มีเอกภาพ-ไร้ขัดแย้ง’ พื้นที่ปลอดภัยเอื้อ ส.ส.แห่ซบ

นักวิชาการ ประสานเสียงวิเคราะห์เหตุ ‘ภูมิใจไทย’ เนื้อหอม ส.ส.แห่ย้ายร่วม เชื่อสารพัดปัจจัยหนุน มีเอกภาพ-ไร้ความขัดแย้ง ดันเป็นพรรคหลักตั้งรัฐบาล

ไม่นานมานี้ รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มองความเคลื่อนไหวดังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่อง 37 ส.ส.จากหลายพรรคการเมือง เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยนั้น ว่า…

อันนี้น่าจะเป็นสัญญาณบวกของพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคเขามีกระแสพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะนักการเมือง คงไม่ย้ายไปพรรคที่ไม่มีอะไรขายเลย แต่ย้ายมาขนาดนี้ แสดงว่า มีจุดขาย ข้อต่อมา คนที่ย้าย เขาคงมีความมั่นใจในนโยบายพรรค ว่าดีพอสู้กับคู่แข่ง ที่เห็นเด่น ๆ คือ เป็นนโยบายที่พูดได้ ทำได้ นอกจากนั้น ผลงานที่ผ่านมาในการผลักดันนโยบายของพรรคได้พิสูจน์ความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จ ตรงนี้ ประชาชนเห็น แม้ว่ามีพรรคการเมืองอื่นพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้นโยบายผ่านเป็นกฎหมาย เพราะบางพรรคกลัวเสียผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจการเมือง แต่พรรคก็สู้ยิบตาเพื่อรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน ที่ต้องไม่ลืม คือ ลักษณะเด่นในการทำงานการเมืองของพรรคภูมิใจไทย คือ ไม่สร้างเงื่อนไขทางการเมือง ไม่มีวาระซ่อนเร้นกับประชาชน มีจุดยืนชัดเจน ทำให้ ส.ส.ลูกพรรคสบายใจในการทำงาน ซึ่งความสบายใจดังกล่าว มันก็มาจากความเป็นเอกภาพในพรรค ที่ไม่มีการกลุ่มมุ้ง ไม่แบ่งก๊ก แบ่งกลุ่ม เพื่อต่อรองเรียกร้องผลประโยชน์ของกลุ่มเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ จนนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคจนพรรคแตก แล้วพรรคพยายามวางบทบาทสถานะทางการเมืองที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร นี่คือ พื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักการเมืองจำนวนไม่น้อย

“ความมีเอกภาพทำให้ลูกพรรคไม่ต้องลำบากใจในการทำงานการเมือง และไม่มีแรงกดดันทางทั้งภายในภายนอก ไม่ต้องวิ่งหาอำนาจอื่น หรือผู้มีบารที่อยู่เหนือพรรคหรือนอกพรรคมากดดันผู้บริหารพรรค จนทำให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นเพียงตำแหน่งสมมติตั้งลอยให้ครบองค์ประกอบเท่านั้น สภาพปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นในพรรคการเมืองอื่นทำให้ ส.ส.เหล่านี้ต้องตัดสินใจทิ้งพรรคการเมืองที่ไม่มีระบบ มีอำนาจซับซ้อนเกินไป หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคไม่มีอำนาจจริงตัดสินใจอะไรไม่ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ส.ส.เหล่านั้นต้องย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยเพราะมีความเป็นระบบมากกว่า อย่างน้อยที่สุดก็มั่นใจได้แน่ว่าหัวหน้าพรรค คือ หัวหน้าพรรคตัวจริง และ มีอำนาจจริง ไม่ใช้ตุ๊กตามนุษย์ที่เขาอุปโลกน์ให้เป็นหัวหน้าพรรคแต่ในนาม จากนี้ พรรคภูมิใจไทย จะกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่รองจากเพื่อไทยที่จะมีบทบาทการเมืองสูงหลังการเลือกตั้ง และในการจัดตั้งรัฐบาลหน้าภูมิใจไทยจะไม่ใช่พรรคตัวแปรอีกต่อไป แต่จะเป็นพรรคที่จะมีอิทธิพลทางการเมืองสูงในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นพรรคที่จะกำหนดวาระการเมืองซึ่งจะทำให้ความขัดแย้ง 2 ขั้วคลี่คลายลงได้ การวางบทบาทในการกำหนดวาระการเมืองเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง 2 ขั้ว คือ การปูทางไปสู่อนาคตทางการเมืองของภูมิใจไทยในสมัยต่อไป”

ด้าน ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต มองว่า นักการเมืองวิเคราะห์แล้วว่า ถนนทุกสายทางการเมือง ทุกค่าย ทุกขั้วกลุ่มการเมืองต่างยอมรับว่าพรรคภูมิใจไทย จะเป็นพรรคที่เติบโตมากขึ้นเป็นเท่าตัว หลังจากการเลือกตั้งปี 2566 อะไรที่ทำให้หลายๆ คนเชื่อเช่นนั้น แน่นอนว่าองค์ประกอบสำคัญยืนยันด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ดังนี้... 

ถอดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ‘เสี่ยโป้’ จำคุก 50 ปี แต่ติดจริงที่ 20 ปี

จากกรณีที่ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา ตัดสินโทษจำคุก ‘เสี่ยโป้’ นั้น ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า…

“นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 1 กระทง จำคุก 3เดือน ฐานเป็นเจ้ามือ จำนวน 3กระทง จำคุก 3เดือน ฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวน ให้เข้าเล่นพนัน จำนวน 14กระทง จำคุกกระทงละ 3 เดือน รวมจำคุก 48 เดือน และฐานฟอกเงิน จำนวน 25 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 50 ปี รวม 4ฐานความผิด เป็นจำคุก 50 ปี 48 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงลงโทษได้ไม่เกินเพดานโทษจำคุก 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2)”

ว่าแต่ หลายท่านคงจะสงสัยว่า เอาเข้าจริงสรุปแล้ว เสี่ยโป้ นั้น จะต้องติดคุกกี่ปีกันแน่?


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top