Sunday, 8 June 2025
TheStatesTimes

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 5 - 9 ธ.ค. 65 จับตาปัจจัย ‘บวก - ลบ’ พร้อมแนวโน้ม 12 - 16 ธ.ค. 65

ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เฉลี่ยสัปดาห์ล่าสุดลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากท่อ Keystone (622,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่ขนส่งน้ำมันดิบจากเมือง Hardisty รัฐ Alberta ในแคนาดาสู่แถบ Mid-West ในสหรัฐฯ ปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 65 โดยล่าสุดบริษัท TC Energy ผู้ดำเนินการท่อดังกล่าวรายงานการกู้คืนน้ำมันดิบรั่วไหลปริมาณ 2,600 บาร์เรล อย่างไรก็ตามมีการรั่วไหลทั้งหมด 14,000 บาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 65 และขณะนี้ท่อ Keystone ยังคงปิดดำเนินการ

จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 13-14 ธ.ค. 65 ซึ่ง Reuters Poll คาดการณ์ว่าจะมีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Federal Funds Rate: FFR) ขึ้น 0.5% อยู่ที่ 4.25-4.5% และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 15 ธ.ค. 65 ซึ่งกรรมการ ECB นาย Gabriel Makhlouf คาดการณ์ว่าจะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สำหรับการปล่อยสภาพคล่องให้ระบบธนาคารพาณิชย์ (Main Refinancing Operations Rate) อีก 0.5% อยู่ที่ 2.25%

>> ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- Kpler รายงานยุโรปนำเข้าน้ำมันดิบทางทะเล ในเดือน พ.ย. 65 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 300,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 8.86 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อว. จับมือ มช.มุ่งผลักดัน โครงการ U2T สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสื่อมวลชน ตอกย้ำความสำเร็จการทำงานบูรณาการ

อว. มุ่งผลักดัน โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ(มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) (U2T) U2T x RSP @ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผนึกกำลังอุทยานวิทยาศาสตร์ ตอกย้ำความสำเร็จการทำงานบูรณาการ มุ่งเน้นพัฒนาคน ดึงเทคโนโลยีเข้าช่วยสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ยืนหยัดเพื่อส่งเสริมและพัฒนาชุมชน พร้อมยกระดับเศรษฐกิจให้เกิดความยั่งยืน สำหรับ โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) หรือ โครงการ U2T โดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ล่าสุดขึ้นเหนือเยือน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้สำหรับโครงการ U2T ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากการปรับบทบาทมหาวิทยาลัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และชุมชนในพื้นที่ บูรณาการแก้ไขปัญหาในมิติต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาสินค้าให้แก่คนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีการผสานความร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ อว. ที่ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 10 ปี ในการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อเกิดการทำงานที่เป็นรูปธรรม และต่อยอดโครงการ U2T ให้เกิดความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ดร. ดนุช  ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  เป็นประธานในงานแถลงข่าว “โครงการ U2T x RSP @ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) กิจกรรมที่ 2 U2T สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสื่อมวลชน” โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้การต้อนรับคณะ

โครงการ U2T ที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จและนวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้การดำเนินงานโครงการ U2T ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเสริมศักยภาพในการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งมุ่งมั่นเสริมความรู้ให้กับประชาชนในเรื่อง BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว อันเป็นโมเดลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปรับตัวในการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับ BCG ได้ โดยผสานความร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ U2T ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นการโชว์สินค้า แชร์เทคโนโลยี และนำไปต่อยอดต่อไปได้

ดร. ดนุช  ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวถึงการดำเนินโครงการ U2T ในตลอดปี 2565 ว่า “ โครงการ U2T ได้มีการพัฒนาคนในชุมชนครอบคลุมทั้งสิ้น 7,435 ตำบล โดยตลอดการดำเนินงานได้มีผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายมากมายและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน พร้อมเกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ โดยเป็นผลสำเร็จจากการปรับบทบาทมหาวิทยาลัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน นำศักยภาพที่มีทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ งานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการแก้ไขปัญหาและความต้องการของชุมชนที่แตกต่างกัน โดยมุ่งสร้างและบ่มเพาะผู้ประกอบการให้สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญต้องมีความรู้เรื่อง BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว อันเป็นโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับปรุง แปรรูปและต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เกิดความน่าสนใจได้ ซึ่งโครงการ U2T ได้เสริมองค์ความรู้ให้กับคนในชุมชน พร้อมสนับสนุนในทุกมิติเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อันโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์จากของในท้องถิ่นได้รับการการันตีในคุณภาพ เสริมสร้างความมั่นใจในอีกระดับ รวมถึงการเสริมทักษะในด้านการตลาดและบริหารจัดการ โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ จากความร่วมมือของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งตั้งอยู่ใน 44 มหาวิทยาลัย ครอบคลุมทุกภาคทั่วไทย เป็นการเพิ่มศักยภาพของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในมิติของการทำงานร่วมกับโครงการ U2T อีกด้วย”

ดร. ดนุช  ตันเทอดทิตย์ กล่าวเสริมอีกว่า “ในการส่งเสริมศักยภาพของประชาชนจากโครงการ U2T มุ่งหวังให้เกิดการต่อยอด เพื่อสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และสามารถผลักดันให้มีการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมหวังให้ส่งออกนอกประเทศได้อีกด้วย เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการ”
 
 ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่าถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า “การดำเนินโครงการ U2T เป็นความสำเร็จจากการทำงานแบบบูรณาการ ของหน่วยงานต่างๆ ใน อว. ที่พร้อมพัฒนาคนในชุมชนให้เกิดความรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน พิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมในความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นแต่ได้มีการต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนช่วยเสริมทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสร้างความแตกต่าง เมื่อได้รับความร่วมมือจากอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าช่วยในการพัฒนาให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น นับเป็นผลดีกับคนในชุมชนที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่”

'พิธา' ยัน!! ความสัมพันธ์ 'เพื่อไทย' แน่นแฟ้น ชี้!! ค่าแรงต้องขึ้นต่อเนื่องไม่ใช่แค่ช่วงเลือกตั้ง

(14 ธ.ค. 65) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายค่าแรงวันละ 600 บาท ว่า ตนคิดว่า นโยบายค่าแรงเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นตรงกัน เป็นสิ่งที่ตนอยากจะชวนพรรคเพื่อไทยมาทำร่วมกันในระบบประชาธิปไตย ที่มีระบบรัฐสภาซึ่งสามารถเสนอนโยบายของแต่ละพรรคได้ เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดกับประชาชน ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งสองพรรคเห็นผู้ใช้แรงงานเป็นจุดศูนย์กลาง เพราะฉะนั้นในภาพใหญ่เรายืนยันว่าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด รวมถึงในอนาคตอาจจะมีบางอย่างที่เห็นไม่ตรงกันบ้างในเรื่องของการทำงาน แต่ตนคิดว่าน่าจะหาจุดร่วมกันได้ ที่เห็นตรงกันชัดเจนที่สุดคือสวัสดิการความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ใช้แรงงาน

“ผมขอยืนยันว่า เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยมาตลอด ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และหวังว่าในอนาคต เมื่อเราเริ่มแถลงนโบายก็มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกัน ถ้าเราเป็นรัฐบาลร่วมกันก็สามารถที่จะแบ่งงานกันทำได้ และทำงานไปในทิศทางเดียวกัน” นายพิธากล่าว

กรมการแพทย์แผนไทยฯ จับมือ อบจ. เร่งพัฒนาระบบบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระดับปฐมภูมิ เน้นใช้สมุนไพร กัญชา กัญชง ทางการแพทย์แบบบูรณาการ ปี 66 เดินหน้า รพ.สต.กว่า 2,000 แห่ง ทั่วประเทศ

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จับมือ องค์การบริหารส่วนจังหวัด พัฒนาระบบบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระดับปฐมภูมิ เพื่อให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล หรือ รพ.สต. ทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง ใช้สมุนไพร กัญชา และกัญชง เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลผู้ป่วย และ ประชาชน ในชุมชนให้มีสุขภาพดี ตามนโยบายการแพทย์แบบบูรณาการ ปี 2566

วันนี้ 14 ธันวาคม 2565 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพองค์การบริหารส่วนจังหวัด ด้านการแพทย์แผนไทยการแพทย์ทางเลือกและการใช้สมุนไพรทางการแพทย์แบบบูรณาการ โดยมี นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี และ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ผู้บริหาร บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ ได้ร่วมจัดงานในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริหาร บุคลากรด้านสาธารณสุขและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีความรู้ ความเข้าใจ ในด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และสามารถใช้กัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการ ในการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาวิชาการในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหาร บุคลากร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 49 จังหวัด ที่ได้รับการถ่ายโอนไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด และบุคลากรจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัด จำนวน 500 คน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบาย มุ่งกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ได้ออกประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน และให้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯและ รพ.สต. สามารถตอบสนอง ความต้องการทางด้านสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง ซึ่งข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2551จนถึงปัจจุบัน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.สต. รวมแล้ว 3,263 แห่ง จากจำนวนทั้งสิ้น 9,787 แห่งทั่วประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดทิศทางการให้บริการภายใต้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างหลักประกันความต่อเนื่องของบริการ รวมถึงพัฒนาคุณภาพของการบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 นี้ 3 ประเด็นหลัก คือ ประชาชนเชื่อมั่น เน้นให้ประชาชนดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วยด้วยยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 บริการเป็นเลิศ ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก เมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5 และ ภูมิปัญญาสร้างคุณค่า คือ มูลค่าการบริโภคสมุนไพรในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านบาท

สุดประทับใจ!!! ครอบครัวและญาติผู้ป่วยวิกฤติสมองตาย ยินยอมบริจาคอวัยวะหัวใจ ตับ ไต ดวงตา ให้สภากาชาดไทยนำไปใช้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เผยแพร่เรื่องราวสุดประทับใจแห่งปี 2565 หนึ่งชีวิตต่อลมหายใจ สร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ มอบอวัยวะให้กับอีก 6 ชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บริจาคอวัยวะประกอบด้วย หัวใจ, ตับ ,ไต 2 ข้าง ตับอ่อน และดวงตา 2 ข้าง เป็นกรณีตัวอย่าง ผู้ป่วยชายอายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรง ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ได้พยายามดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ รักษาโดยการผ่าตัดสมอง ดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤติ แต่ไม่อาจรักษาให้สมองกลับฟื้นคืนมาได้ อยู่ในภาวะสมองตาย แต่สมรรถภาพของหัวใจ และอวัยวะอื่นๆ ดีมาก ทีมพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยได้ปรึกษาหารือกับบิดา มารดา และญาติผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ถึงแนวทางการรักษา และโอกาสที่สมองจะกลับฟื้นคืนมามีน้อยมาก จึงได้ขอรับบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ

รองนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามโครงการขุดลอกแหล่งน้ำหนองแวง จังหวัดร้อยเอ็ด

เมื่อข่วงหัวค่ำวานนี้ ( 14 ธันวาคม 2565 )เวลา 17.00 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามโครงการขุดลอกแหล่งน้ำหนองแวง ตำบลสะอาดสมบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ,นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ พร้อมด้วย นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องประชาชน ร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น 

ด้วยการปรับปรุงโครงการขุดลอกแหล่งน้ำหนองแวง ได้สั่งการให้ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 54 และกรมทรัพยากรน้ำ เป็นหน่วยดำเนินการขุดลอก ซึ่งมีงบประมาณ 3,064,100 บาท ซึ่งโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองแวง มีขนาดพื้นที่ประมาณ 76 ไร่ เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่ราษฎร ในพื้นที่ใช้ในการอุปโภค - บริโภค และด้านการเกษตร ซึ่งก่อนดำเนินการขุดลอกมีสภาพตื้นเขิน ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ จึงมีความจำเป็นต้องทำการขุดลอก เพื่อฟื้นฟูให้สามารถใช้ประโยชน์ และแก้ปัญหาความเดือดร้อนด้านน้ำของราษฎรในพื้นที่ ซึ่งประชาชนที่ได้รับจากการขุดลอกแหล่งน้ำหนองแวง จะจำนวน 441 ครัวเรือน ประชากร 1,576 คน พื้นที่การเกษตรซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าว ประมาณ 1,000 ไร่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำสำรองในการผลิตน้ำประหมู่บ้านต่อไป

นายกฯ ไทย - ฮังการี พร้อมสานต่อความร่วมมือรอบด้าน ส่งเสริมการค้าการลงทุน พัฒนาธุรกิจด้านการเกษตร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 14 ธ.ค.(เวลาท้องถิ่นกรุงบรัสเซลส์ซึ่งช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 6 ชั่วโมง) ที่อาคาร Europa กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทวิภาคีกับนายวิคเตอร์ ออร์บาน (H.E. Mr. Viktor Orbán) นายกรัฐมนตรีฮังการี ในโอกาสเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - สหภาพยุโรป

นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฮังการีราบรื่นมาโดยตลอด และจะครบรอบ 50 ปี ในปี 2566 โดยขอบคุณรัฐบาลฮังการีที่ให้การสนับสนุนประเทศไทยในกรอบสหภาพยุโรปมาโดยตลอด โดยเฉพาะการเจรจาความตกลง PCA ระหว่างไทยกับ EU จนทำให้สามารถลงนามได้ ซึ่งไทยพร้อมที่จะสนับสนุนฮังการีในเวทีระหว่างประเทศในประเด็นที่ฮังการีให้ความสำคัญ โดยเฉพาะค่านิยมการยึดครอบครัวเป็นศูนย์กลาง พร้อมกันนี้ พร้อมร่วมมือกับฮังการีในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพ เช่น ด้านการสาธารณสุข การพัฒนาประเทศในยุคหลังโควิด-19 การค้าการลงทุน การศึกษา

ด้านนายกรัฐมนตรีฮังการี กล่าวยินดีที่ได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีไทย ชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-ฮังการี ที่เป็นไปอย่างแน่นแฟ้น และเชื่อมั่นว่าไทยและฮังการีจะสามารถต่อยอดความร่วมมือในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพได้อีกมาก ชื่นชมพัฒนาการของไทย ตลอดจนบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่เป็นไปอย่างกระตือรือร้น และสร้างสรรค์

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิ ด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือครอบคลุมสาขาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยมีกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญ ได้แก่ คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำ คณะทำงานร่วมด้านเกษตร คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่า กลไกดังกล่าวจะช่วยขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและการเจริญเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไทยยินดีที่จะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญกับฮังการีในบริบทดังกล่าว

‘อดีตบิ๊ก ศรภ.’ เผยต่างชาติสนใจไทยจัดการ ‘คดีตู้ห้าว’ พร้อมเตือนสติคนไทย อย่ามัวหลงทางเรื่องค่าแรง 600

‘พล.ท.นันทเดช’ เผยทั่วโลกกำลังจับตาดูไทยในการใช้กฎหมายจัดการทุนจีนสีเทา เตือนอย่าไปหลงทางกับเรื่องเล็ก ๆ อย่างค่าแรง 600 บาท

(15 ธ.ค. 65) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ในหัวข้อ ‘ตู้ห้าว’ กำลังเป็น ‘ตู้ว่างเปล่า’ มีเนื้อหาว่า ปรากฏการณ์ของ ‘มาเฟียทุนจีนสีเทา’ กำลังส่งผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างรุนแรงตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ขอย้ำว่าเวลาผ่านมาแล้วถึง 2 เดือน แต่คดีคืบหน้าไปอย่างแผ่ว ๆ ถ้าไม่มีคุณชูวิทย์ ป่านนี้คงจะเงียบไปแล้ว

น่าเศร้าที่สังคมไทยกำลังตกเป็นเหยื่อของคนต่างชาติกลุ่มหนึ่ง องค์กรที่ดูแลสังคม รวมทั้งพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็พลอยเงียบไปด้วย ที่มันแปลก คือ เงียบไปทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล

เช็กชื่อ 31 ส.ส. แห่ยื่นใบลาออก พปชร. คาดเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย 16 ธ.ค.นี้

หลังจากที่มีกระแสข่าวจะมีส.ส.ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งจำนวนมากในวันที่ 13-14 ธ.ค.เพื่อเตรียมไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทยในการประชุมพรรควันที่ 16 ธ.ค.นั้น เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้มี ส.ส.จำนวน 31 คน ยื่นหนังสือลาออกต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยให้มีผลในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 11 คน ได้แก่ 

1.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. 
2.นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. 
3.น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.
4.นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท 
5.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ 
6.นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม 
7.นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี 
8.นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก 
9.นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี กาญจนบุรี 
10.นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี 
11.นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี

พรรคเพื่อไทย จำนวน 7 คน ได้แก่ 
1.นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ 
2.นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. 
3.นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 
4.นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี 
5.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก 
6.นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา 
7.นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา

พรรคก้าวไกล 5 คน ได้แก่ 
1.นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี 
2.นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 
3.นายพีรเดช คําสมุทร ส.ส.เชียงราย 
4.นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 
5.นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top