Friday, 6 June 2025
TheStatesTimes

THE STATES TIMES เดินหน้าสู่ปีที่ 3 มุ่ง เลือกตั้งประเทศไทย พร้อมผนึกพันธมิตรสื่อรอบด้าน นำเสนอข้อมูลข่าวสารบนพื้นฐานข้อเท็จจริง

ผ่านพ้นไปอีก 1 ปี กับสำนักข่าวออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ THE STATES TIMES โดยวันนี้ 12 เดือน ธันวาคม เมื่อ 2 ปีก่อน (2020) ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มนำเสนอข่าวสารต่างๆ มาให้แฟนเพจทุกท่านได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง และเรื่องน่ารู้หลากรูปแบบ

ตลอด 2 ปีมานี้ เรามีหลากหลายคอนเทนต์ที่ได้นำเสนอออกมา ผ่านทั้งข่าวสาร บทความ คลิปวิดีโอ ไลฟ์และอื่น ๆ ผสมผสานรสชาติที่ ‘ร้อนแรง’ และ ‘แผ่วเบา’ คละเคล้ากันให้พอกล้อมแกล้ม ซึ่งก็มีทั้งผู้คนที่ชมชอบ ติติง บวกแนะนำปน ๆ กันไป และพวกเราต่างก็นำสิ่งเหล่านี้มาปรับปรุงในทุกเมื่อเชื่อวัน

อย่างไรก็ตาม ในวาระครบรอบ 2 ปีของสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES เริ่มมี ‘แรงส่ง’ จากผลตอบรับของแฟนเพจทุกท่าน ที่ทำให้พวกเราก้าวออกมาได้ไกลในระดับหนึ่ง ซึ่งไกลมากพอที่จะทำให้ THE STATES TIMES TEAMS พร้อม ‘หาเรื่องราว’ ในช่วงเวลาต่างๆ มาบันทึกลงในสำนักข่าวแห่งนี้มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น

ปีที่ผ่านมา เราได้น้อง ๆ วัยใส พาคอนเทนต์หนักๆ ทั้งไทย-เทศ ทั้งเรื่องซีเรียสและเรื่องสีสัน ไปช่วยย่อยให้เสพง่ายยิ่งขึ้นผ่าน THE STATES TIMES  Y World คลิปเล่าข่าวสั้นที่เหล่า Gen Y หลายคนพร้อมจะแวะเวียนมาให้ความรู้กันทุกๆ สัปดาห์

ปีที่ผ่านมา เราก้าวเข้ามาสู่บทบาทผู้เกาะติดสถานการณ์สำคัญ และเหตุการณ์ใหญ่ของประเทศอย่างฉับไว (ไลฟ์สด) โดยทีมข่าวภาคสนาม TST Press อย่าง APEC 2022 หนนี้ สำนักข่าว THE STATES TIMES ได้รับคำชื่นชมจากแฟนเพจและสังคมในระดับหนึ่ง ถึงการเกาะติดประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจทั้ง 21 เขตหนนี้ที่กรุงเทพฯ

ปีที่ผ่านมา เราได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรสื่อมากมายครอบคลุมทั้งเนื้อหาการเมือง เศรษฐกิจ ต่างประเทศ  ไลฟ์สไตล์ SME องค์ความรู้ และอื่นๆ เพื่อแชร์เรื่องราว ข่าวสาร และคอนเทนต์ดีๆ ระหว่างกัน เพราะเราเชื่อว่าคอนเทนต์ดีๆ ในสังคมออนไลน์ควร 'ไขว้' กันได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่อยู่บนพื้นฐานของความจริง คอนเทนต์ที่ช่วยจรรโลงความถูกต้อง ไม่เพียงแค่ปั่นกระแสเพื่อทำร้ายสังคมและประเทศชาติ

และปีที่ผ่านมา เราได้พัฒนาคอนเทนต์เชิงความรู้ในรูปแบบ Podcast ผ่านช่องทาง THE STATES TIMES PodCast ที่อยากเป็นเพื่อนคนที่ชอบหาความรู้ใหม่ๆ ที่ฟังได้เพลินๆ ยาวๆ

‘จักรพรรดิ’ เผย เตรียมย้ายซบภูมิใจไทยพร้อม 9 ส.ส. เพื่อไทย 16 ธ.ค.นี้ บอกตัดสินใจเพราะดูแลแบบพี่น้อง – มีแนวคิดทางการเมืองเหมือนกัน และพรรคเดิมไม่ยอมส่งชื่อชิง ส.ส.เหตุเพราะหวาดระแวงย้ายตามน้องชาย

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายจักรพรรดิ  ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า จะลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อไปเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง พร้อมกับส.ส.อีก 9 คน ของพรรคเพื่อไทยตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1.นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ 2.นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ 3.นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ 4.นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. 5.นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย 6.นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก 7. นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก 8.นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา และ 9.นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมเปิดปฏิบัติการค้น 53 จุดใน 18 จังหวัด ปราบเอเจนซี่เปิดมูลนิธิเอื้อประโยชน์ต่อวีซ่ากลุ่มทุนจีนสีเทา

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบสวนจับกุม กลุ่มทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิงในประเทศไทยโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี แต่แอบแฝงด้วยธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขยายผลสืบสวนจับกุมกลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ และเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอข่าวไปแล้ว นั้น

​จากการสืบสวนขยายผลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่กลุ่มทุนจีนเหล่านี้สามารถเข้ามาภายในราชอาณาจักรและขออนุญาตอยู่ต่อได้นั้น ได้ใช้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา หรือเป็นอาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ เพื่อขยายเวลาในการอยู่ต่อทุกครั้ง โดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีการดำเนินการตามที่แจ้งจริงหรือไม่ จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับกลุ่มเอเจนซี่ที่รับต่อวีซ่าโดยเปิดตัวเป็นมูลนิธิหรือสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่ามีการดำเนินการจริงหรือไม่

​โดยเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.65 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนประสานความร่วมมือไปยัง บช.น. ,บช.ภ.1 , บช.ภ.2 ,บช.ภ.3 ,บช.ภ.4 , บช.5 บช.ภ.7 สตม. และ บช.ทท. เปิดปฏิบัติการเข้าค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 53 จุด อยู่ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ ลำพูน น่าน หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา ยโสธร อำนาจเจริญ ขอนแก่น และอุดรธานี โดยผลการตรวจค้น

กลุ่มที่ 1. มูลนิธิและสถานศึกษา ตรวจยึดเอกสารการสมัครเรียนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบความผิดปกติจำนวนมาก

กลุ่มที่ 2 ผับเบบี้เฟส ซูเปอร์คลับ เอกมัย ตรวจยึด/อายัดทรัพย์ เพื่อตรวจสอบ ลำโพง ยี่ห้อ aike Audio จำนวน 82 ตัว, ไฟสแกน (ไฟ Beam) จำนวน 176 ตัว , เครื่องทำควัน/ไอน้ำ จำนวน 25 ตัว , ไฟสำหรับทำแสงเลเซอร์ จำนวน 10 ตัว  ตรวจยึดทรัพย์ ไฟสแกน (ไฟ Beam) จำนวน 3 ตัว ,กระสุนปืนพลุ จำนวน 261 ชิ้น ,ปืนสำหรับยิงพลุ (กระบอกเล็ก) จำนวน 11 กระบอก ,ปืนสำหรับยิงพลุ (กระบอกใหญ่) จำนวน 2 กระบอก ,น้ำยาสโมค ยี่ห้อ DJ RABBIT จำนวน 10 ลัง (40 แกลลอน) ,น้ำยาสโมค ยี่ห้อ YEROMCA จำนวน 6 ลัง (24 แกลลอน)
ผับ Space Plus และบริษัท สเปซ พลัส คลับ ตรวจยึด/อายัดทรัพย์ เพื่อตรวจสอบ ,ไฟติดตั้งเวที (LED+BEAM) จำนวน 150 ชิ้น , ไฟติดตั้งเวที BEAM XD-LIGHT) จำนวน 35 ชิ้น ,จักรยานออกกำลังกาย (PS300) จำนวน 81 คัน, ไฟสปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ ACME จำนวน 4 ชิ้น, ไฟสปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ ADJ จำนวน 4 ชิ้น, ลูมอม มีไฟ จำนวน 1000 ชิ้น, พลุ แบบยาว(ใช้ไฟฟ้า) (ลังละ 20 อัน) จำนวน  260 ลัง, รถไฟฟ้าเด็กเล่น จำนวน 3 คัน, กำไลข้อมือเรืองแสง (ลังละ 48 อัน) จำนวน 50 ลัง, แก้วน้ำพลาสติก (ลังละ 100 อัน) จำนวน 93 ลัง, ซองกันน้ำโทรศัพท์ (ลังละ 500 อัน) จำนวน 40 ลัง, ถังขยะ (ลังละ 6 อัน) จำนวน 3 ลัง, แก้วน้ำ จำนวน 60 ชิ้น, แก้วน้ำโปเกม่อน จำนวน 60 ชิ้น, แก้วยาว (ลังละ 72 อัน) จำนวน 40 ลัง, น้ำยาควันเวที  DT4 (ลังละ 70 อัน) จำนวน 4 ลัง เพื่อตรวจสอบความผิดตามเกี่ยวกับ พรบ.ศุลกากร

กลุ่มที่ 3 ความผิดเกี่ยวกับนายหลิน หลง ตรวจพบเสื้อคล้ายเครื่องแบบทหารพร้อมเครื่องหมายประดับคล้ายยศพันเอก จำนวน 1 รายการ ,ไวน์และสุราต่างประเทศ โดยตรวจยึดตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต และศุลกากร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากช่วงที่ผ่านมา ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเกี่ยวกับการจับกุมกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในการทำธุรกิจในไทย ทำให้พบแผนประทุษกรรมที่เป็นรูปแบบใกล้เคียงกันของกลุ่มดังกล่าว โดยพบว่ากลุ่มดังกล่าวจะใช้เหตุผลในการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยโดยอ้างเหตุจากการศึกษา หรือเป็นอาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ได้มีการดำเนินการตามที่กล่าวอ้าง ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบกลุ่มเอเจนซี่เหล่านี้ เพื่อมิให้คนไม่ดีใช้เป็นเครื่องมือหรือเป็นช่องทางในการอยู่อาศัยเพื่อกระทำความผิดในประเทศไทยเราได้ นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบถึงเจ้าของหรือผู้เปิดมูลนิธิหรือสถานที่เหล่านี้ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยว่า ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนจีนสีเทาหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดจะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

แดนมังกรติดใจ ทุเรียนไทยส่งออกไปจีนกว่า 90% | THE STATES TIMES Y WORLD EP.36

แดนมังกรติดใจ ทุเรียนไทยส่งออกไปจีนกว่า 90%

เกษตรกรไทยรายได้สะบัด คึกคักทั้งประเทศ

.

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World

.

#THESTATESTIMES
#THESTATESTIMESYWORLD 
#YWORLD
#จีน
#ทุเรียน
#ส่งออกทุเรียน

โฆษกรัฐบาล เผย นโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดนใจประชาชน ชี้ผลสำรวจสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุ โครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการลดค่าไฟฟ้า โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ที่ได้ดำเนินการสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2566 (ของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2545 ที่ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติจัดเก็ฐข้อมูลและสถิติตัวเลข รวมทั้งสำรวจและสอบถามประชาชนเกี่ยวกับนโยบายหลัก ๆ ของรัฐบาล โดยเป็นการสัมภาษณ์สมาชิกในครัวเรือนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 6,970 ราย ระหว่างวันที่ 17-31 ตุลาคม 2565 นั้น พบว่า ในประเด็นมาตรการ/โครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในชุมชน/หมู่บ้านมากที่สุด ผลสำรวจระบุ ได้แก่ (1) โครงการคนละครึ่ง (ร้อยละ 75.8) (2) โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ร้อยละ 69.9) (3) มาตรการลดค่าไฟฟ้า (ร้อยละ 59.2) (4) โครงการเราชนะ (ร้อยละ 25.1) และ (5) โครงการ ม.33 เรารักกัน (ร้อยละ 14.8) 

นายอนุชาฯ กล่าวว่า ส่วนความพึงพอใจต่อการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมา พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจในระดับมาก-มากที่สุด ร้อยละ 42.1 (แบ่งเป็น พึงพอใจมากที่สุด ร้อยละ 7.7 และพึงพอใจมาก ร้อยละ 34.4) และพึงพอใจระดับปานกลางอยู่ที่ ร้อยละ 41 ขณะที่พึงพอใจในระดับน้อย-น้อยที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 14.7 และไม่พึงพอใจ ร้อยละ 2.2 ทั้งนี้ พบว่าประชาชนที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มีความพึงพอใจในระดับมาก-มากที่สุดในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี เช่นเดียวกับกลุ่มอาชีพเกษตรกรและกลุ่มอาชีพอื่น ๆ ได้แก่ พ่อบ้าน แม่บ้าน ผู้เกษียณอายุ นักเรียน นักศึกษา และผู้ว่างงาน มีความเชื่อมั่นในระดับมาก-มากที่สุดในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอาชีพอื่น 

ดราม่าโลกโซเชียล ตู้ชาร์จสาธารณะรถอีวี เสียบแช่คาไว้ทั้ง ๆ ที่ชาร์จไฟแบตเตอรี่เต็มแล้ว ทำให้ผู้อื่นที่จะขับรถมาชาร์จ ไม่สามารถชาร์จได้  ซึ่งก็ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆมากมาย จากประสบการณ์ตรงของแต่ละบุคคล ที่ได้เจอกับเหตุการณ์คล้ายๆกัน

ซึ่งจริง ๆ แล้วช่องชาร์จรถอีวีนั้น มีวัตถุประสงค์ทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้รถอีวีนำรถของตนเองมาชาร์จ เมื่อชาร์จเต็มแล้วก็ควรจะขับไปจอดที่ช่องจอดอื่น เพื่อเปิดให้ช่องชาร์จว่าง เพื่อให้ผู้ใช้รถอีวีท่านอื่นๆ นำรถมาชาร์จได้ แต่กลับมีผู้ใช้รถอีวีบางท่าน ยึดช่องชาร์จ เป็นที่จอดรถ โดยจอดทิ้งไว้ทั้ง ๆ ที่รถของตนเองชาร์จไฟเต็มแล้ว ส่งผลให้ผู้ใช้รถท่านอื่น ๆ เดือดร้อนเป็นอย่างมาก 

หลายท่านก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงแนวทางแก้ไข ไว้ว่า ควรจะมีการคิดเงินค่าปรับในอัตราที่สูงสำหรับผู้ที่จอดรถแช่ไว้ในช่องชาร์จ ทั้ง ๆ ที่ชาร์จเต็มแล้ว โดยอาจจะให้คำนวนเป็นช่วงรายนาที โดยจะมีอัตราค่าปรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นขั้นบันได

ปตท. แข็งแกร่งระดับสากล ติดอันดับดัชนีความยั่งยืน DJSI 11 ปีต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าธุรกิจสู่พลังแห่งอนาคต

ปตท. ติดอันดับดัชนีความยั่งยืน DJSI ถึง 11 ปีอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าดำเนินงานตามแผนธุรกิจมุ่งสู่พลังแห่งอนาคต

วันนี้ (12 ธันวาคม 2565) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ปตท. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI กลุ่มดัชนีโลก (World Index) รวมถึงดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 และยังเป็นองค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรมในกลุ่ม Oil & Gas Upstream & Integrated (OGX) อีกด้วย สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ ปตท. ผ่านการกำหนดทิศทางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับบริบทของโลกที่แปรเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพและนิเวศบริการในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาด และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของ ปตท. 

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างหนักของ COVID-19 ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ได้จัดตั้ง “โครงการลมหายใจเดียวกัน” เพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างครบวงจร ในขณะเดียวกัน ปตท. ยังคงยึดมั่นการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีธรรมาภิบาล รวมทั้งคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม เพื่อให้สังคมไทยเดินหน้าสู่ความยั่งยืนในระดับสากล ภายใต้วิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond”

‘ชลน่าน’ ลั่น ภท. เปิดตัวฟาร์มงูไม่กระทบแลนด์สไลด์ เย้ย ส.ส.ทิ้งพรรค โอกาสได้รับเลือกกลับมาน้อย เชื่อพวกขายตัวภาพติดลบ โวชาวบ้านอยู่กับพท.

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมเปิดตัว 43 ส.ส.จาก 9 พรรคที่จะย้ายมาอยู่กับพรรค จะกระทบกับการแลนด์สไลด์ของพรรคพท.หรือไม่ว่า ไม่กระทบแน่นอน ในส่วนของส.ส.ของพรรคที่ย้ายไป เราได้เตรียมผู้สมัครรองรับไว้ครบทุกเขตแล้ว รวมทั้ง ส.ส.ทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาคณะกรรมการวินัยของพรรคไปแล้ว 

ทั้งนี้ ลักษณะของการย้ายพรรคของ ส.ส.ยุคนี้ภาพไม่เป็นบวกกับประชาชนอย่างแน่นอน เพราะประชาชนจะมองว่าเป็นพวก ส.ส.งูเห่า ขายตัวเพื่อเอาผลประโยชน์ พอมีเงินก็ไป ไร้อุดมการณ์ และชอบเอาประชาชนมาอ้างว่าย้ายไปแล้วจะได้งบประมาณมาลงพื้นที่ ถือเป็นการเอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน เชื่อว่า ส.ส.เหล่านี้มีแค่หนึ่งในสามเท่านั้นที่มีโอกาสจะได้กลับมา ซึ่งพรรคก็จะระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อช่วงชิงโอกาส โดยลงพื้นที่อย่างเข้มข้น เข้าถึงประชาชนโดยเฉพาะเขตที่ ส.ส.ย้ายพรรคให้กลับมาเป็นของเราให้ได้ทั้งหมด ตนเชื่อว่าประชาชนยังเป็นพวกเดียวกันกับพรรคพท.อยู่

เมียนมากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ต้องยอมรับว่าการรัฐประหารมีส่วนสำคัญในการทำให้เกิด New Normal ในเมียนมาอย่างแท้จริง ด้วยการที่หลายธุรกิจพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศที่ต้องใช้เงินตราเป็นดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ประเทศโดนแซงชั่นจึงไม่มีเงินดอลลาร์เข้าประเทศ

แม้รัฐบาลของมิน อ่อง หล่าย จะแก้ปัญหาการไหลออกของเงินสหรัฐ โดยการลดการพึ่งพิงการใช้เงินตราดอลลาร์สหรัฐและหันมาจับการค้าขายตรง เช่น บาท-จ๊าด รูปี-จ๊าด หยวน-จ๊าด เป็นต้น แต่การแก้ปัญหาของรัฐบาลนั้น ก็ยังส่งผลต่อผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะผู้ประกอบการชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเมียนมา ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นเป็นผลให้เกิดเงินเฟ้อในระดับสูง ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนเมียนมา

อย่างไรก็ตามกลับยังมีธุรกิจบางธุรกิจที่ปรับตัวโดยการเลือกวัตถุดิบที่มีในประเทศ ลดการใช้วัตถุดิบนำเข้า รวมถึงการเข้าไปทำคอนแทคกับผู้ผลิตโดยตรง เพื่อลดราคาต้นทุนของเขา เพื่อให้ธุรกิจของเขาดำเนินต่อไปได้ 

การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคัก เมื่อยอดนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยในปีนี้ทะลุ 10 ล้านคน ดีเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจภาคการท่องเที่ยวไทยสดใส หลังจากซบยาวในช่วงวิกฤติ Covid-19

รัฐบาลไทยขานรับกระแสขาขึ้นของการท่องเที่ยวไทย จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินทั้ง 7 แห่ง และด่านชายแดนอีก 2 แห่ง ตั้งแต่วันเสาร์ (10 ธันวาคม 2565) ยาวไปจนถึงสิ้นปี เพื่อฉลองความสำเร็จยอดนักท่องเที่ยวทะลุเป้า โดยจะมีการแสดงโชว์งานศิลปวัฒนธรรมไทยอันตื่นตา ตื่นใจ มอบพวงมาลัย และ ถุงของขวัญให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ได้มาร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 10 ล้านที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งกล่าวว่า "ผมเชื่อว่าฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ และวันนี้ฟ้าก็เปิดแล้ว รวมถึงด่านชายแดนของเราเช่นกัน เราจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ และจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นจุดหมายปลายทางให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยเรามีความพร้อมในทุกด้านแล้ว"

ตัวเลขนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน นับเป็นความสำเร็จของการผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปีนี้ เมื่อเทียบกับตัวเลขในปี พ.ศ. 2564 ที่มีนักท่องเที่ยวไม่ถึงล้านคน และคาดว่า ภายในสิ้นปีนี้ ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศมากกว่า 5 แสนล้านบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top