Wednesday, 11 June 2025
TheStatesTimes

‘อันวาร์ อิบราฮิม’ ขึ้นแท่นนายกฯ มาเลเซียคนใหม่ สางปัญหาเงินเฟ้อ-ศก.ชะลอตัว-ความขัดแย้งต่างเชื้อชาติ

สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียทรงประกาศแต่งตั้งนาย อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านขึ้น เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย โดยจะเข้าพิธีสาบานตนในเวลา 17.00 น. วันนี้ (24 พ.ย.) นับเป็นการยุติความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานถึง 5 วันเต็ม ภายหลังศึกเลือกตั้งทั่วไปที่ไม่มีพรรคใดชนะได้ครองเสียงข้างมาก

การก้าวสู่ตำแหน่งนายกฯ ของ อันวาร์ มีขึ้นหลังจากที่เขาต้องเผชิญมรสุมในเส้นทางการเมืองมานานถึง 30 ปี โดยเริ่มจากการเป็นอดีตศิษย์รักของ ‘มหาเธร์ โมฮาหมัด’ และเคยก้าวไปถึงตำแหน่งรองนายกฯ ก่อนจะถูกตัดสินจำคุกในคดีรักร่วมเพศ พ้นโทษออกมาทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และประสบความสำเร็จในการก้าวขึ้นเป็นนายกฯ มาเลเซียในวันนี้

การเลือกตั้งทั่วไปในมาเลเซียซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้นำมาสู่ภาวะ ‘สภาแขวน’ เนื่องจาก 2 กลุ่มการเมืองใหญ่ได้แก่ กลุ่มแนวร่วมแห่งความหวัง (Pakatan Harapan - PH) ของ อันวาร์ อิบราฮิม และกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ (Perikatan National - PN) ที่นำโดยอดีตนายกฯ มูห์ยิดดิน ยัสซิน ต่างไม่สามารถคว้าจำนวน ส.ส.ได้ถึง 112 ที่นั่งเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นเสี่ยงที่จะซ้ำเติมภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งทำให้มาเลเซียต้องมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ มาแล้วถึง 3 คนในช่วงเวลาแค่ 3 ปี และยังอาจทำให้การกำหนดนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจล่าช้าออกไปอีก

กลุ่ม PH ของ อันวาร์ คว้าที่นั่ง ส.ส.ได้มากที่สุด 82 ที่นั่งจากศึกเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ (19 พ.ย.) ขณะที่กลุ่ม PN ของมูห์ยิดดิน ได้มา 73 ที่นั่ง ส่วน บาริซาน เนชันแนล (BN) ที่เคยผูกขาดการเป็นรัฐบาลปกครองมาเลเซียมานานถึง 60 ปีตั้งแต่ได้รับเอกราชเมื่อปี 1857 กลับได้ ส.ส.เข้ามาเพียง 30 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าทำผลงานได้ย่ำแย่เป็นประวัติการณ์ในศึกเลือกตั้งทั่วไป

‘บิ๊กป๊อก’ ลุยเชียงใหม่ รับฟังปัญหาการทำงานของท้องถิ่น รับปากจะเร่งแก้ปัญหาให้ ส่วนอะไรที่ทำไม่ได้จะบอกกันตรงๆ

พล.อ อนุพงษ์ ลงพื้นที่เชียงใหม่ พบ ผู้บริหาร อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ ยืนยันไม่มีนัยอะไร เพราะการเมืองไม่ใช่อนาคตของตนเอง พร้อมรับปาก จะเร่งพิจารณาขึ้นค่าตอบแทน ให้ อบต. และอีกไม่กี่เดือน จะเป็นแค่ตาแก่ ไปเดินกินก๋วยเตี๋ยวขอ อบต. ดูแลด้วย ลั่นหมดไฟแล้ว พร้อมเผย สัปดาห์หน้าเงินเยียวยาน้ำท่วมเข้า ครม. สัปดาห์หน้า 

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปที่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมสัมมนา ‘การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นสู่ความเป็นเมือง ตามหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย" พร้อมกล่าวปาฐกถา ‘บทบาท อบต.กับการพัฒนาฐานรากประเทศไทย’ โดยมี ผู้บริหาร อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนา

โดยสมาคมนายกฯ อบต. แห่งประเทศไทย เสนอข้อเรียกร้อง เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรค และสร้างความเสมอภาคของสมาชิก อบต. โดยขอให้แก้ไขปัญหาการทำงานของอบต. ทั้งการกระจายอำอาจ การบริหารงานบุคคลจากส่วนกลางให้ท้องถิ่นสรรหาบุคลากรได้เอง, ขอเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหาร และ สมาชิก อบต., ขอสวัสดิการเบิกค่าเล่าเรียนบุตร, เพิ่มสัดส่วนการพัฒนา ท้องถิ่น จัดสรรงบประมาณ สำหรับ อบต.ที่ได้งบประมาณ ไม่ถึง 30 ล้านบาท, เพิ่มขีดความสามารถในการใช้งบประมาณ โดยให้ มหาดไทย ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อสามารถคิดเลือกผู้รับจ้างงาน ในวงเงินไม่เกิน 5 ล้าน เพื่อให้ท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐใช้งบประมาณ ได้อย่างรวดเร็ว และกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการใช้งบประมาณจากภาครัฐ 

พลเอกอนุพงษ์ ยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพิ่งเคยพบกับผู้นำท้องถิ่นเยอะขนาดนี้ รู้สึกภูมิใจที่ผู้บริหารท้องถิ่น ปฏิญาณตน ว่าจะทำงานด้วยความโปร่งใส ทำงานเพื่อประชาชน เพื่อชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพราะนั่นคือดวงใจหลักของการบริหารงานท้องถิ่น พร้อมยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญและ นึกถึงหน่วยงานท้องถิ่นเสมอ ว่ามีอุปสรรค ปัญหา ในการทำงานอย่างไรบ้าง ซึ่งก็จะต้องพูดคุย นำปัญหาต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น 

พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ได้มั่นหวังทางการเมือง ดังนั้นสามารถพูดได้ทุกอย่างอย่างเต็มที่ ยืนยันการเมืองไม่ใช่อนาคตของตนเอง และไม่มีนัยอื่น นอกจากการทำงานเป็นหลัก และงานที่ตนเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องปรารถนาที่จะทำให้ดีที่สุด การเดินทางมาเชียงใหม่วันนี้ เพื่อรับฟังปัญหา มองการทำงานของทุกภาคส่วน ไม่ได้มีนัยอะไรทั้งสิ้น 

พลเอกอนุพงษ์ รับปากกับผู้บริหาร อบต. จะเร่งพิจารณา ปรับปรุงเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหารและสมาชิก อบต.ให้แน่นอน แต่เท่าไหร่ต้องไปดูกันอีกที เพราะค่าตอบแทนที่ได้ทุกวันนี้ น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมสั่งการให้ผู้บริหารท้องถิ่นทำหนังสื่อราชการ ร่างหลักเกณฑ์ การพิจารณา ค่าตอบแทน พร้อมพูดติดตลกว่า “คนที่เป็นผู้นำชุมชน ไม่มีค่าตอบแทน ก็จะมาถลกหนังหัวตนอีก” 

ส่วนเรื่องการเพิ่มบุคลลาการ ไม่น่าจะทำได้ เพราะงบประมาณสำหรับบุคลากร เต็ม 40% แล้ว หากเกินกว่านี้ สังคมจะรับไม่ได้ ข้าราชการ 1 คนตั้งแต่บรรจุจนถึงเกษียณ จะใช้งบประมาณ ถึง 30 ล้านบาท และเห็นว่า บางตำแหน่ง ท้องถิ่นไม่ควรทำเอง เพราะ ไม่ใช่งานที่ถนัด ต้องให้หน่วยงานที่ชำนาญ มาทำเพื่อให้เกิดการพัฒนา อย่างมีศักยภาพ เช่น งานด้านโยธา

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทาน ส.ค.ส. ภาพฝีพระหัตถ์ และพรปีใหม่ ต้อนรับปี ๒๕๖๖ ‘สุขกายสุขใจตลอดปีเถาะ’

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทาน ส.ค.ส. ภาพฝีพระหัตถ์ และพรปีใหม่ รับปีเถาะ 2566 พร้อมปักบนเสื้อ และสินค้าของที่ระลึก วางจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า

(24 พ.ย. 65) เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ ปีเถาะ พ.ศ. 2566 ร้านภูฟ้าอัญเชิญ ส.ค.ส. และพรพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานแด่พสกนิกรชาวไทยทุกคนเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นความสุขกายสุขใจตลอดปีเถาะ พุทธศักราช 2566

ส.ค.ส.พระราชทาน ปีเถาะ พ.ศ. 2566 เป็นภาพวาดฝีพระหัตถ์ กระต่าย และสุนัขเพื่อนรักที่ชอบแหงนหน้ามอง ‘จันทร์ฉาย’ ด้วยกันในคืนวันเพ็ญอย่างมีความสุข สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่าเรื่องราวว่า “ครูของข้าพเจ้าเลี้ยงกระต่ายและสุนัขไว้ด้วยกัน เวลาพระจันทร์เต็มดวง กระต่ายจะยืนสองขาชมจันทร์ สุนัขมายืนสองขาชมจันทร์เป็นเพื่อน”

พร้อมพระราชทานพรว่า “กระต่ายน้อยเพลินมองพระจันทร์เด่น ชวนสุนัขเพื่อนเล่นจ้องจันทร์ฉาย ลมพัดเอื่อยเย็นอุราน่าสบาย ลืมความทุกข์สิ่งร้ายที่ผ่านมา ขอทุกท่านได้รับพรอันประเสริฐ สิ่งดีเลิศที่ท่านปรารถนา จงมาพร้อมดังดวงจิตเจตนา สองสหายและจันทรามาอวยชัย”

ทั้งนี้ ร้านภูฟ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำภาพวาดฝีพระหัตถ์ กระต่าย และสุนัขเพื่อนรักที่ชอบแหงนหน้ามอง ‘จันทร์ฉาย’ มาปักบนกระเป๋าเสื้อโปโล 9 สี และเสื้อทีเชิ้ต 4 สี และนำภาพฝีพระหัตถ์ชุดนี้มาตัดเสื้อฮาวาย 2 สี และเสื้อกันหนาวเพิ่มความอบอุ่นอีก 2 สี เพื่อความสุข สนุกสนาน ร่าเริง และอบอุ่นยิ่ง ตลอดปีเถาะ พุทธศักราช 2566

สำหรับสีเสื้อต่างๆ มีดังนี้ เสื้อโปโล 9 สี
เสื้อโปโลสีเหลือง กระต่ายหมายจันทร์เจ้า
เสื้อโปโลสีฟ้า กระต่ายหมายจันทร์ฉาย
เสื้อโปโลสีส้ม กระต่ายหมายจันทร์เพ็ญ
เสื้อโปโลสีน้ำเงิน กระต่ายหมายจันทร์แรม
เสื้อโปโลสีเขียว กระต่ายหมายจันทร์แจ่ม
เสื้อโปโลสีชมพู กระต่ายหมายจันทร์กระจ่าง
เสื้อโปโลสีขาว แขนเหลือง กระต่ายหมายจันทร์นวล
เสื้อโปโลสีขาว แขนส้ม กระต่ายมณีจันทร์
เสื้อโปโลสีขาวพิมพ์ลาย กระต่ายเพลินจันทร์

เจ้าชายซาอุฯ แจกรถหรูให้นักเตะทุกคน หลังโลกโค่น อาร์เจนตินา ในศึกฟุตบอลโลก

มกุฎราชกุมารซาอุฯ เตรียมแจกรถหรู โรลส์รอยซ์ ราคาคันละกว่า 50 ล้าน ให้นักเตะทุกคน หลังโค่น อาร์เจนตินา ในรอบแรก

รายงานข่าวว่า เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน (Muhammad Bin Salman หรือ MBS) มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย ตัดสินใจประทานของขวัญชิ้นใหญ่พิเศษให้แก่เหล่านักบอลทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ภายหลังจากทำผลงานออกมาได้น่าประทับใจ สามารถเอาชนะเต็ง 2 อย่างอาร์เจนตินามาได้ในบอลโลก 2022 รอบแรก ที่ผ่านมา  

โดยชัยชนะเหนืออาร์เจนตินาเรียกว่าหักปากกาเซียนกระจุย ทำให้ทีมชาติอุดีอาระเบีย ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม C ด้วยการเก็บ 3 แต้ม ไม่เพียงเท่านั้น ซาอุดีอาระเบียยังทำลายสถิติ เป็นทีมเอเชียทีมแรกที่ทำคะแนนใส่อาร์เจนตินาไปได้ถึง 2 ประตู ทำให้ทางการถึงขนาดประกาศให้วันที่ 23 พ.ย. เป็นวันหยุดแห่งชาติ เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะครั้งสำคัญนี้

'คนก้าวไกล' ใส่เนกไทแดง ยืนอภิปรายหน้าป้าย พท. หลังถูกอดีตการ์ดวีโว่เสียบเลือกตั้งส.ส. สมัยหน้า

สีสันสภา 'สมเกียรติ ถนอมสินธุ์' ใส่เนกไทแดง ยืนอภิปราย หน้าป้ายพรรคเพื่อไทย กลางสภาฯ คาดย้ายเข้าพท. หลังก้าวไกล ไม่ส่งลงสมัครเลือกตั้งส.ส. สมัยหน้า 

ที่รัฐสภา วันนี้ (24 พ.ย. 65) นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส. กทม. เขตบางนา-พระโขนง พรรคก้าวไกล ได้รับทราบรายงาน กสทช. แต่ไปยื่นอภิปราย ถ่ายทอดปัญหาสายสื่อสารในพื้นที่ ทั้งซอยลาซาล, ซอยสุขุมวิท 97/1 และรถไฟฟ้าสีเหลือง สถานีศรีลาซาล ในป้ายพรรคเพื่อไทย พร้อมสวมเนคไทสีแดงสด หลังจากที่ พรรคก้าวไกล ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งต่อสมัยหน้า และมีอดีตการ์ดวีโว่ มาลงแทนในพื้นที่เขตบางนา-พระโขนง

‘ก้าวไกล’ ฉะ!! ซื้อสิทธิฉายบอลโลกประเคนนายทุน จับพิรุธผู้บรรยายช่องดังเอาแต่ขอบคุณ ‘บิ๊กป้อม’

ก้าวไกล ฉะ กสทช. อนุมัติเงินรัฐซื้อสิทธิฉายบอลโลกประเคนนายทุน ถาม ประวิตรขายนาฬิกาสมทบด้วยหรือ? ถึงได้ขอบคุณออกอากาศทุกแมทช์

(24 พ.ย. 65) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายตั้งคำถามกับการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าลิขสิทธิ์บอลโลก และได้ตั้งคำถามต่อการกำกับดูแลว่าเมื่อรับเงินไปแล้ว นายทุนหรือประชาชนได้ประโยชน์กว่ากัน

โดยปกรณ์วุฒิ เริ่มต้นถึงความย้อนแย้งในการทำหน้าที่ กสทช. ว่าในฟุตบอลโลก 2014 บริษัท RS ลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกมาทั้งหมด โดยเพื่อทำธุรกิจจากการให้ประชาชนซื้อกล่องทีวีดาวเทียม ซึ่ง กสทช. ได้บังคับใช้กฎ Must Have / Must Carry บังคับให้ถ่ายทอดฟุตบอลโลกลงในทุกช่องทางให้ทุกคนชมฟรี

แต่ปี 2022 ระหว่างที่กำลังถึงช่วงใกล้ฟุตบอลโลก ด้วยกฎเกณฑ์ที่ไม่สมเหตุสมผลของ กสทช. ทำให้ไม่มีเอกชนรายใดไปซื้อลิขสิทธิ์มาฉายในประเทศไทย กสทช. จึงต้องใช้งบชจากกองของ กสทช. จำนวน 600 ล้านบาท อุดหนุนให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปดำเนินการ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จนในที่สุด กกท. ก็ต้องไปเจรจากับเอกชนเพื่อลงขันซื้อลิขสิทธิ์ให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลก

แต่แล้วก็เกิดประเด็นจากกรณีที่ บริษัท True จ่ายเงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ 300 ล้านบาท แต่กลับทำข้อตกลงลับ ๆ กับ กกท. นำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ มากมาย

ประการแรก คือ การที่ระหว่างการถ่ายทอด ผู้บรรยายได้ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกอากาศทุกแมตช์ คำถามคือ พล.อ.ประวิตร ช่วยออกเงินด้วยหรือ? มีส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ขายนาฬิกาเพื่อเอามาสมทบเงินค่าซื้อลิขสิทธิ์หรือไม่?

กองสลากฯ ปลดล็อก!! ถูกรางวัลสลากดิจิทัล โอนเงินเข้าบัญชีทุกธนาคารได้ เริ่มงวด 16 ธ.ค.นี้

(24 พ.ย. 65) พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในงวดวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป ผู้ถูกรางวัลสลากดิจิทัล ที่เลือกรับเงินรางวัลผ่านแอปฯ เป๋าตัง สามารถที่จะให้โอนเงินรางวัลเข้าบัญชีใดๆ ของทุกธนาคารได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องรับเงินรางวัลผ่านธนาคารกรุงไทยเท่านั้น และในอนาคตอันใกล้ หากผู้ถูกรางวัลที่ยังไม่ได้ทำรายการเลือกรับเงินรางวัล ภายในงวดนั้นๆ หากพ้น 15 วันไปแล้ว ระบบจะโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคารของผู้ถูกรางวัลโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อสลากดิจิทัล ให้สามารถรับเงินรางวัลเข้าบัญชีต่างๆ ได้ทุกธนาคารไม่จำเป็นต้องมีเฉพาะบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้เพียงอย่างเดียว

ปัจจุบันประชาชนสามารถซื้อสลากได้ทุกหมายเลขที่ต้องการ ในราคา 80 บาท หรือต่ำกว่า 80 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตัง งวดละ 16 ล้านฉบับ และจุดจำหน่ายสลาก 80 กระจายอยู่ทั่วประเทศอีก 1,047 จุด รวมมีสลากที่จำหน่ายไม่เกิน 80 บาท ตามราคาที่กำหนดอย่างน้อย 18.5 ล้านฉบับ ในขณะเดียวกัน ยังคงเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการจำหน่ายสลากของตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจองฯ ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำสลากไปจำหน่ายต่อให้กับแพลตฟอร์มเอกชนต่างๆ หรือไม่ได้จำหน่ายด้วยตนเอง ซึ่งจะมีการตรวจสอบสลากที่ถูกรางวัลจากการที่นำสลากนั้นมาขึ้นเงินรางวัล หากพบว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ซื้อจองรายใด จะใช้มาตรการเด็ดขาดในการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายสลาก รวมถึงการเบิกสลากที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจำหน่ายสลากของสมาคม องค์กร ให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด

ผลลัพธ์ความสำเร็จจาก APEC 2022 ต่อยอดความพร้อมศูนย์ฯ สิริกิติ์ สู่ เวทีโลก

(24 พ.ย. 65) ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงามและภาคภูมิใจ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (29th APEC Economic Leaders’ Meeting and Related Meetings) ภายใต้แนวคิดหลัก ‘เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล’ หรือ ‘Open. Connect. Balance.’ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยให้การต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และผู้แทนจาก 20 เขตเศรษฐกิจ แขกเชิญพิเศษ รวมถึงสื่อมวลชน รวมกว่า 5,000 คน นับเป็นภาพความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยในทุกมิติ 

นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ APEC 2022 Task Force กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “เบื้องหลังความสำเร็จของการจัดงาน APEC 2022 Thailand มาจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน ที่มุ่งมั่นเตรียมความพร้อมมาเป็นเวลาหลายปี รวมถึงคนไทยทุกคนที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดแก่ผู้มาเยือน” 

“ผมในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ APEC 2022 Task Force ขอขอบคุณในทุกความทุ่มเท ที่ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ความสำเร็จของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี 2565 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของไทยในทุกด้าน ที่สำคัญยังยืนยันความพร้อมของไทยในการจัดการประชุมระหว่างประเทศ ด้วยสถานที่จัดงานที่มีมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยี ที่ทันสมัย และบุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพที่พร้อมให้บริการด้วยความอบอุ่นแบบไทย” 

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “ในฐานะสถานที่จัดประชุม ศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยี และบริการ ความสำเร็จในครั้งนี้ได้ตอกย้ำการเป็น “ที่สุดของอีเวนต์แพลตฟอร์ม” ที่สามารถรองรับการจัดงานได้ทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด และยังเป็นพื้นที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน” 

นอกจากด้านพื้นที่แล้ว ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ยังได้รับความไว้วางใจให้บริการจัดงานเลี้ยงรับรองในระดับผู้นำ รัฐมนตรี และผู้เข้าร่วมประชุม ไปจนถึงสื่อมวลชน ตลอดทั้งสัปดาห์การประชุม ภายใต้โจทย์ BCG หรือ Bio-Circular-Green Economy เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว 

คอหวยไม่พลาด!! แห่ส่องเลขทะเบียนรถ 'ลุงตู่' หลังลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

เมื่อเวลา 11.55 น.ที่ จ.เพชรบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี รอให้การต้อนรับ

‘จิราพร’ เย้ย ‘ประยุทธ์’ เป็นแค่คนจัดอีเวนต์เอเปค ประเมินให้สอบตกเพราะ ‘ขาดภาวะผู้นำ - ไม่มีวิสัยทัศน์’

‘จิราพร’ ให้คะแนน ‘ประยุทธ์’ สอบตกจัดเอเปคแค่งานอีเวนต์ เย้ยชูเจรจาการค้าแบบเมกา 20 ปีก่อนยังกล้าโชว์เป็นผลงาน

วันนี้ (24 พ.ย. 65) น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ที่เพิ่งจบลงว่า ในภาพรวมอาจดูเหมือนว่าไทยประสบความสำเร็จในการจัดอีเวนต์ แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สอบตกในด้านสารัตถะและการแสดงภาวะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เพราะประเด็นหลักที่ไทยชูในการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific : FTAAP) ที่แม้จะเป็นแนวคิดที่ดี แต่เป็นเรื่องเก่าที่เคยเสนอเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว การเสนอจัดทำเขตการค้าเสรี FTAAP ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะเคยมีการพูดคุยครั้งแรกตั้งแต่ปี 2547 โดยมีสหรัฐฯ เป็นผู้ริเริ่มเสนอแนวคิด โดยเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วสมาชิก APEC ที่เป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง สหรัฐ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น มีแนวนโยบายการค้าที่ไม่ขัดแย้งกันรุนแรงเหมือนในปัจจุบัน การผลักดันให้จัดตั้ง FTAAP ก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ยิ่งสถานการณ์ปัจจุบันที่มีปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมถึงความขัดแย้งในระดับภูมิภาคระหว่างชาติมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย และสมาชิกชาติตะวันตก ทำให้เป้าหมายการจัดตั้งเขตเสรีทางการค้า FTAAP แทบจะเป็นไปไม่ได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top