สหพันธรัฐรัสเซีย ถือเป็นมหาอำนาจพลังงานก๊าซที่ยุโรปต้องใช้ราวปีละ 150 พันล้านลูกบาศก์เมตร โดยขายให้ในราคาแสนจะถูกเหมือนได้เปล่าราว 0.25 ดอลลาห์/ลูกบาศก์เมตร (250 ดอลลาห์/พันลูกบาศก์เมตร) มีท่อบริการส่งให้ถึงประตูบ้านแต่ละชาติ เปิดวาล์วใช้ได้เลยไม่ต้องมีการแปรรูปใดๆ
แต่มาวันนี้ สหรัฐฯ กลับบอกว่ายุโรปซื้อก๊าซถูกไป จงมาซื้อก๊าซเหลว LNG ของตนดีกว่า โดยขายให้ในราคาราว 1.1 ดอลลาห์/ลูกบาศก์เมตร (1,100 ดอลลาห์/พันลูกบาศก์เมตร) แพงกว่ารัสเซีย 4.4 เท่า และซ้ำร้ายก๊าซยี่ปั๊วสหรัฐฯ จะต้องแปรสภาพจากสถานะก๊าซ เป็นของเหลว LNG ก่อนขนส่งมาทางเรือ พ่วงค่าผ่านคลองสุเอซ อียิปต์ เที่ยวละ 1 ล้านดอลลาห์ และประเทศปลายทางต้องมีการสร้างสถานที่จัดเก็บขนาดยักษ์แปรรูปคืนสภาพจากสถานะของเหลวกลับไปเป็นก๊าซดังเดิมอีกขั้นตอนหนึ่ง จึงโดนบวกราคา 2-3 เด้ง!!
แถมตามสัญญาจะต้องใช้เวลานานถึง 7 ปี ถึงปี 2029 ยี่ปั๊วสหรัฐฯ จึงจะส่งให้ยุโรปได้แค่ 50 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ส่วนอีก 100 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ก็ต้องซื้อจากรัสเซียอยู่ดี
เมื่อนำก๊าซจากสหรัฐฯ มาผลิตไฟฟ้า จึงส่งผลให้ค่าไฟฟ้าครัวเรือนครอบครัว 3-4 คน ที่ใช้อย่างประหยัดสุด กระโดดจั๊มพ์แพงขึ้นมหาโหดไปปีละราว 30,000 ดอลลาร์ (กว่า 1 ล้านบาท) รวมถึงกระทบชิ่งไปยังอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยยุโรปที่เกือบ 10% ซึ่งบางประเทศเกินกว่านี้ไปเยอะแล้วด้วย
แต่นั่นก็ไม่ใช่ความเห็นใจที่พี่หมีต้องสน เพราะเกมสงครามพ่วงสงครามพลังงาน คือ แต้มต่อที่ทำมาเพื่อให้คนที่ไม่ง้อต้องถูกเชือดโชว์!!
อย่างล่าสุดโปแลนด์ และ บัลกาเรีย ที่ค้างชำระค่าก๊าซรัสเซียเป็นเงินรูเบิล ก็ถูกบริษัท Gazprom รัสเซีย "เชือดไก่ให้ลิงดู" ไม่ต่อสัญญาขาย พร้อมระงับการจ่ายก๊าซจากท่อยามาลในทันที จนสร้างความตระหนกให้ชาติยุโรปอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่เกินครึ่งกลัวกันหัวหดว่ารัสเซียจะเชือดนิ่มๆ แบบ 2 ชาตินั้นบ้าง จึงแห่กันไปเปิดบัญชีกับ Gazprombank ของรัสเซียร่วม 10 ประเทศ เพื่อเตรียมคุกเข่าศิโรราบจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิล และมีอีก 4 ประเทศ เอาตัวรอดหนีตายจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิลไปก่อนแล้ว เหลืออีก 13 ประเทศใน EU ยังเขิน เก้ๆ กังๆ