Wednesday, 25 June 2025
TheStatesTimes

ชาวลาวเดือด ! ม็อบสามนิ้วพ่นสเปรย์เหยียดเชื้อชาติใส่รถตำรวจ

บนโลกโซเชียลมีเดีย ประชาชนชาวลาวไม่พอใจอย่างมากกับกลุ่มม็อบที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร 2563 ในไทย หลังไปพ่นสีสเปรย์เหยียดเชื้อชาติใส่รถตำรวจ สน.ปทุมวัน

จากกรณีที่ผู้ชุมนุมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร 2563 นำโดย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ 'รุ้ง'​ นำผู้ชุมนุมกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยเพื่อนของตัวเองที่ถูกจับกุม เพราะทำผิดกฎหมาย แต่มีผู้ชุมนุมพ่นข้อความใส่รถตำรวจ สน.ปทุมวัน เสียหาย 8 คัน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 

โดยหนึ่งในนั้นพ่นข้อความว่า “พ่อมึงลาว” ทำให้ นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสเว็บไซต์ข่าวสดอิงลิช แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการเหยียดหรือดูถูกทางชาติพันธุ์ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชาวลาวรายหนึ่งได้โพสต์ภาพรถตำรวจ สน.ปทุมวัน ถูกพ่นสี พร้อมวงคำว่า “พ่อมึงลาว” และข้อความบรรยายแปลเป็นภาษาไทย ระบุว่า “พ่อมึงลาว เป็นคำศัพท์ที่ผู้ประท้วงในไทยใช้ด่าตำรวจ แต่อีกมุมหนึ่งคือการเหยียดเชื้อชาติ เป็นคำศัพท์ดูถูก” 

ทำเอาประชาชนชาวลาวแสดงความไม่พอใจจำนวนมาก ทำนองว่า ประท้วงกลุ่มคนที่กล่าวหาว่าไม่ดี แต่คำพูดและการกระทำมีแต่ท่าทีแข็งกระด้างและรุนแรง บางคนกล่าวว่าแม้แต่คนลาว (ไทยอีสาน) ก็ยังเหยียด


ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000014245
 

เก็บภาษี 'อี - เซอร์วิส , เฟซบุ๊ก และกูเกิล' ดีเดย์ 1 กันยา

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ.2564 ว่าด้วยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) กรณีการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (อี-เซอร์วิส) โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์จากต่างประเทศที่มีรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี จากการให้บริการทางออนไลน์แก่ผู้ใช้บริการในประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มยื่นแบบแสดงรายการ และนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นรายเดือนให้กรมสรรพากรภายใต้ระบบ “ภาษีจ่าย” (pay-only) ห้ามหักภาษีซื้อ โดยไม่ต้องจัดทำใบกำกับภาษีและรายงานภาษีซื้อโดย พ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.2564 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวนั้น จะจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่ให้บริการ e-Service จากต่างประเทศ ได้แก่ การให้บริการดาวน์โหลด หนัง/ภาพยนตร์ เพลง เกม สติกเกอร์ นายหน้า สื่อโฆษณา เป็นต้น 

เช่นเดียวกันกับแพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการในประเทศไทย เช่น Apple , Google, Facebook, Netflix, Line, Youtube Tiktok ซึ่งถือเป็นกลุ่มมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี 

สำหรับข้อดีของกฎหมายฉบับนี้ จะช่วยสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษี ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศ โดยเฉพาะบริการอี-เซอร์วิส อีกทั้งยังช่วยยกระดับการจัดเก็บภาษีของประเทศไทยให้ทัดเทียมนานาประเทศที่หลายประเทศก็มีการจัดเก็บภาษีบริการออนไลน์ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย อีกทั้งยังเป็นการดำเนินการสอดรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล โดยคาดว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าว กรมสรรพากรจะจัดเก็บรายได้ปีละ 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้จากข้อมูลการใช้งานอินเตอร์เน็ตของประชากรไทย พบว่า ปัจจุบันมีการใช้งานและเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากกว่า 75% ของจำนวนประชากร ราว 69 ล้านคน ซึ่งมากกว่า 50% ใช้บริการออนไลน์ ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่มเกมและใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างสร้างความรู้ ความเข้าใจกับผู้ประกอบการ เพื่อดำเนินการจ่ายภาษีให้ง่ายที่สุด และถูกต้องด้วย โดยจะเป็นการจ่ายภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด 



ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/2031664

ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร โพสต์บทกลอนผ่านเฟซบุ๊ก กลอนยกย่อง รปภ.คนกล้า กรีดฝ่ายบริหาร มธ.

ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์) โพสต์บทกลอนผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้

มีคนฝากมา เขียนแทนใจคนไทยหลาย ๆ คน

“องค์กรใบ้ ไร้ผู้กล้า
ซุกหว่างขา ไม่กล้าสู้
ทั้งหนุ่มแก่ แค่นั่งดู
ความอดสู สู่องค์กร
หัวหน้านิ่ง ลูกน้องเงียบ
ยอมให้เหยียบ จนเรียบกร่อน
ความบรรลัย เข้าไชชอน
บทสะท้อน องค์กรทรุด
คงเหลือเพียง รปภ.
กล้าต้านต่อ จรยุทธ์
ยืนปักหลัก พิทักษ์สุด
มุ่งยื้อยุด หยุดพวกพาล
หลายคนฝาก อยากร้องขอ
รปภ. ผู้กล้าหาญ
อยากให้เป็น อธิการ
หรืออาจารย์ ฝ่ายปกครอง”

สุ่มเก็บตัวอย่างเชื้อโควิด เชื้อโควิด-19 อาจอยู่ในฝรั่งเศส ตั้งแต่ พฤศจิกายน 2019

ไม่นานมานี้ได้มีการศึกษาตัวอย่างเซรุ่มหรือน้ำเหลืองของผู้ใหญ่ชาวฝรั่งเศสกว่า 9,000 คน บ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) อาจปรากฏในฝรั่งเศสครั้้งแรกสุด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 เนื่องจากบางตัวอย่างที่เก็บระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2019 ถึงเดือนมกราคม 2020 มีผลตรวจแอนติบอดีต้านไวรัสฯ เป็นบวก 

การวิจัยดังกล่าวนำโดย ฟาบรีส การ์ราต์ ผู้อำนวยการสถาบันระบาดวิทยาและสาธารณสุขปีแยร์ หลุยส์ (iPLESP) และถูกตีพิมพ์ลงวารสารระบาดวิทยายุโรป (EJE) เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา

การศึกษาข้างต้นระบุว่าตัวอย่างเซรุ่มทั้งหมด 9,144 ตัวอย่าง ถูกเก็บระหว่างวันที่ 4 พ.ย 2019 ถึง 16 มี.ค. 2020 จากผู้อยู่อาศัยใน 12 ภูมิภาคบนแผ่นดินใหญ่ของฝรั่งเศส โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมมีอายุเฉลี่ย 55 ปี และร้อยละ 51 เป็นผู้หญิง

“นักวิจัยได้จำแนกผู้เข้าร่วม 353 ราย ที่มีแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ของไวรัสฯ เป็นบวก” และ “พบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ในผู้เข้าร่วม 44 ราย”

ตัวอย่างจากผู้เข้าร่วมที่มีแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจีและแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ 13 ราย ถูกเก็บระหว่างวันที่ 5 พ.ย. 2019 ถึง 30 ม.ค. 2020 โดยตัวอย่างของผู้เข้าร่วมี 7 ราย ถูกเก็บในเดือนพฤศจิกายน 2019 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าการศึกษานี้ชี้ว่าโรคโควิด-19 อยู่ในฝรั่งเศสมาอย่างน้อยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2020 โรงพยาบาลอัลเบิร์ต ชไวต์เซอร์ (Albert Schweitzer hospital) ในเมืองกอลมาร์ทางตะวันออกของฝรั่งเศส แถลงข่าวว่าคณะรังสีแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ได้วิเคราะห์ผลสแกนทรวงอก 2,456 รายการ ที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2019 ถึง 30 เม.ย. 2020 และพบว่ามีผู้ป่วยต้องสงสัยเป็นโรคโควิด-19 รายแรกสุดที่ย้อนไปถึงวันที่ 16 พ.ย. 2019

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2020 อีฟส์ โคเฮน หัวหน้าแผนกผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลสองแห่งในเครือเอพี-เอชพี (AP-HP) แถลงข่าวว่าโรงพยาบาลทั้งสองแห่งได้วิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วยโรคปอดบวม 24 ราย ระหว่างเดือนธันวาคม 2019 ถึงมกราคม 2020 และพบชายคนหนึ่งที่ถูกส่งมารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2019 มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/552418
 

เพนกวินติดคุกโพสต์ไม่ได้ แอดมินเพจเพนกวินโพสต์ปั่นแทน เรือนจำแจงไม่มีอภิสิทธิเหนือใคร

'ราชทัณฑ์' ระบุ ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'เพนกวิน' เป็นการโพสต์โดยบุคคลอื่น ‘เหตุ’ ผู้ต้องขังห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจง กรณีการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร ซึ่งถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จนเกิดข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงสามารถโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลได้แม้กระทั่งถูกคุมขังอยู่ และเป็นการได้รับสิทธิพิเศษเหนือนักโทษคนอื่นหรือไม่นั้น

กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ภาพกระดาษพร้อมลายมือของนายพริษฐ์ฯ ที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ในขณะนี้นั้น เป็นข้อความที่นายพริษฐ์ ได้เขียนขึ้น ณ ห้องเวรชี้สองสถานของศาลอาญา และส่งต่อให้แก่ทนายความของตนเอง ภายหลังจากที่ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 17.55 น. ก่อนที่จะถูกนำตัวกลับมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 

ดังนั้น การที่ภาพดังกล่าวไปปรากฏอยู่บนเพจเฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 00.05 น. เป็นการดำเนินการโดยผู้ดูแลหรือแอดมินแฟนเพจ ซึ่งมีได้หลายคน ไม่ใช่การโพสต์โดยตัวนายพริษฐ์ฯ เอง เนื่องจากโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ เป็นสิ่งของต้องห้าม ตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายพริษฐ์ จะมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในความครอบครอง ขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ

นายอายุตม์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้สังคมและประชาชนทุกฝ่ายเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของกรมราชทัณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นมาตรฐานตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะข้อกำหนดแมนเดลา (Mandela Rules) ซึ่งเป็นข้อกำหนดขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง และพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 รวมถึงกฎ ระเบียบ และวินัยต่างๆ ที่ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทุกคนพึงปฏิบัติและได้ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด 


ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/922368

บิ๊กตู่ให้กำลังใจทีมแพทย์ สาธารณสุข เชื่อมือฝ่ายความมั่นคง มั่นใจคุมโควิด-19 ได้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตีเผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ด้านการแพทย์ สาธารณสุข ดูแลคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ รวมถึงยับยั้งการกระทำผิดกฎหมาย และเตรียมพร้อมวัคซีนเพื่อคนไทย โดย ศบค.รายงานว่าสถานที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ทั้งหมด 579 แห่ง แบ่งเป็น State Quarantine (SQ) 152 แห่ง ยังคงมีห้องรับได้ 14,119 ห้อง และ Local Quarantine (LQ) จำนวน 427 แห่ง พร้อมใช้งาน 195 แห่ง เตรียมพร้อม 232 แห่ง สามารถรองรับ 10,257 คน  

โรงพยาบาลสนามจัดตั้งแล้วใน 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ปทุมธานี จ.อ่างทอง จ.สมุทรสาคร จ.จันทบุรี จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ปัจจุบันเปิดให้บริการ 3,092 เตียง Factory Quarantine (FQ) ในจ.สมุทรสาคร 2,389 เตียง  และช่วยคนไทยในต่างประเทศกลับประเทศไทยแล้ว ในช่วง 4  เม.ย.2563 - 8  ก.พ. 2564 จำนวน  167,617 คน จากเที่ยวบินและจากด่านชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ

สำหรับการยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ ตั้งจุดตรวจควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเหล่าทัพและตำรวจทั่วประเทศ 1,522 จุด รวมทั้งจัดชุดสายตรวจคัดกรองบุคคลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่วนการดำเนินการป้องกันและสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย ตั้งจุดตรวจและจุดสกัด จำนวน 127 จุด ตรวจคัดกรองบุคคล จำนวน 9,882 คน 

ด้านความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด–19 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีแผนการกระจายวัคซีน 63 ล้านโดส โดย 2 ล้านโดส ให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และอีก 61 ล้านโดสจะกระจายไปยังจังหวัดที่พบผู้ป่วย และวางแผนฉีดวัคซีน 10 ล้านโดสต่อเดือน มีโรงพยาบาลรัฐและเอกชนให้บริการกว่า 1,000 แห่ง และอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายไปให้บริการ รพ.สต ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้วัคซีนได้ภายในเดือน ก.พ. 2564

“นายกรัฐมนตรี มอบกำลังใจแก่ผู้ปฎิบัติหน้าที่ทุกหน่วยงาน พร้อมย้ำว่าเมื่อทราบปัญหาแล้วต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว และพร้อมเข้าร่วมแก้ปัญหาของทุกหน่วยงาน ด้วยความมั่นใจว่าโควิด-19 สามารถควบคุมได้ เพราะคนไทยร่วมมือกันด้วยดีตามแนวทาง "รวมไทย สร้างชาติ ฝ่าวิกฤตโควิด-19" " นายอนุชา กล่าว

งบพุ่งกระฉูด 5.4 ล้านล้าน หน่วยงานรัฐชงคำของบปี 65 ไม่จำเป็นเบรกได้เบรก

นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณ กำลังพิจารณารายละเอียดคำของบประมาณประจำปี 65 หลังจากทุกหน่วยงานได้เสนอคำขอเข้ามายังสำนักงบประมาณตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีวงเงินรวมกว่า 5.4 ล้านล้านบาท มากกว่ากรอบวงเงินงบประมาณที่ตั้งไว้ 3.1 ล้านล้านบาท โดยขั้นตอนจากนี้สำนักงบประมาณจะพิจารณาและตัดวงเงินให้เหลืออยู่ในกรอบ 3.1 ล้านล้านบาท เพื่อเสนอให้ที่ประชุมครม.ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ เห็นชอบต่อไป 

สำหรับขั้นตอนการพิจารณางบประมาณปี 65 นั้น ล่าสุดยังเป็นไปตามกรอบเวลาตามปฏิทินงบประมาณ โดยหลังจากเสนอครม.วันที่ 9 มี.ค.แล้ว สำนักงบประมาณจะไปปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณอีกครั้งตามข้อสั่งการของครม. จากนั้นจึงไปรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย ก่อนสรุปข้อมูลและจัดทำเป็นร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ เสนอที่ประชุมครม.เห็นชอบ จากนั้นจึงจัดพิมพ์ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ และเอกสารประกอบเสนอครม.อีกครั้ง จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของรัฐสภาในเดือน พ.ค.64

นายเดชาภิวัฒน์ กล่าวว่า "การจัดทำงบประมาณปี 65 ครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะจากนี้ไปจะต้องไปดูในเรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำ ซึ่งจำเป็นต้องปรับลดลงประมาณ 1.5 แสนล้านบาท เพราะกรอบวงเงินงบประมาณปีนี้ลดลงจากปีก่อนถึง 1.8 แสนล้านบาท โดยต้องไปดูเรื่องของค่าใช้จ่ายของทุกหน่วยงานว่าจะปรับลดลงได้มากเท่าใด เช่น การขอเพิ่มอัตรา หรือเพิ่มเบี้ยประเภทต่างๆ  อาจต้องชะลอออกไป แต่ยืนยันว่า ในเรื่องของสวัสดิการที่ประชาชนเคยได้รับทั้ง เบี้ยยังชีพ คนชรา ผู้พิการ เด็กแรกเกิด หรือเบี้ยที่ต้องจ่ายประจำ ยังคงให้เท่าเดิมอยู่ ส่วนเรื่องการดูแลผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ก็ได้เตรียมงบกลางไว้รองรับแล้ว"
 

สาธารณสุขแนะนำ งดมีเพศสัมพันธ์วันวาเลนไทน์ ช่วยตัวเองสกัดโควิด

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก โดยมีการแสดงความรักด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการมอบของขวัญแทนใจ เช่น ดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต เป็นต้น

นอกจากนี้ อาจมีวัยรุ่นบางส่วนตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ทำให้เกิดปัญหาท้องไม่พร้อม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตามมาได้

ทั้งนี้ สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของประเทศไทยในปี 2562 พบว่า อัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคสำคัญ มีแนวโน้มสูงขึ้น ได้แก่ หนองใน ซิฟิลิส หนองในเทียม แผลริมอ่อน และกามโรคของต่อม และท่อน้ำเหลือง ซึ่งโรคที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุดในทุกกลุ่มอายุ คือ โรคหนองใน 14.8 และโรคซิฟิลิส 13.2 

โดยข้อมูลจากรายงานการเฝ้าระวังโรคของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 พบว่า กลุ่มเยาวชนอายุ 15 - 24 ปี มีอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคสำคัญสูงถึง 124.4 ต่อประชากรแสนคน และหากแยกรายโรคพบว่า 

มีอัตราป่วยด้วยโรคหนองในสูงถึง 69.7 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ ซิฟิลิส 41.4 ต่อประชากรแสนคน นอกจากนี้ ผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ง่ายกว่าคนทั่วไป 5 - 9 เท่า และอาจเกิดการตั้งครรภ์โดยไม่ป้องกัน

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ กรมควบคุมโรค ขอให้คู่รักเลือกใช้วิธีแสดงความรัก โดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน และลดการออกนอกบ้าน เช่น ส่งของขวัญให้กัน บอกรักผ่านวิดีโอคอล เป็นต้น 

หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ขอให้ใช้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ขอให้ใช้มาตรการดังกล่าวควบคู่กับการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการติดเชื้อเอชไอวี 

โดยตระหนักถึงการป้องกันตนเอง และคู่ให้ปลอดภัย และใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติในการดูแลสุขภาวะทางเพศ รวมถึงการมีความรับผิดชอบต่อคู่ และสังคม ตามแนวคิด ‘New Normal New Safe SEX: ชีวิตวิถีใหม่กับเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย’ ดังนี้

1.) Safe SEX is No SEX วิธีการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยที่สุด คือ การไม่มีเพศสัมพันธ์ หรือเลือกใช้วิธีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองในที่ส่วนตัว และลดการสัมผัสระหว่างกัน เพื่อปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

2.) One Love รักเดียวใจเดียว และมีเพศสัมพันธ์กับคู่รักที่อยู่ร่วมกันโดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับทุกช่องทาง และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เพิ่งรู้จัก หรือคนที่ไม่รู้สถานะการติดเชื้อ

3.) Testing Together หากมีอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจทันที ไม่ควรซื้อยากินเอง พร้อมทั้งชวนคู่ไปตรวจ และงดการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการดูแลรักษา

4.) Start Condom Safe your SEX พกอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อมตลอดเวลา เช่น ถุงยางอนามัย 

5.) New Normal New Safe SEX ชีวิตวิถีใหม่ โดยการใช้หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เพื่อป้องกันการรับเชื้อโควิด-19 จากการใช้ชีวิตประจำวัน และใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการทำความสะอาดร่างกายก่อน และหลังมีกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเข้าสู่ยุคชีวิตวิถีใหม่กับเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

นพ.โอภาสกล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้ กองโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ได้จัดบริการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ฟรี ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่อาคารบางรัก เขตสาทร กรุงเทพมหานคร สอบถามรายละเอียด โทร. 08 1875 9904


ที่มา: https://www.posttoday.com/social/general/645220

เลือกตั้งซ่อมเมืองคอนเดือด เทพไทเตรียมฟ้องพลังประชารัฐ อ้างบิดเบือนทำประชาธิปัตย์เสียคะแนนนิยม

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ เฟซบุ๊กไลฟ์ จากสภากาแฟศูนย์เรียนรู้ประชาธิปไตย บ้านสำนักขัน อำเภอจุฬาภรณ์ กล่าวถึง การลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต3 จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า… 

เมื่อพรรคพลังประชารัฐ ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมด้วย ก็ถือว่าเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน จึงจำเป็นต้องต่อสู้แข่งขันตามวิถีทางประชาธิปไตย และเมื่อพรรคแกนนำของรัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงมารยาททางการเมือง ก็เป็นจิตสำนึกของแต่ละพรรค ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้พิจารณาและตัดสินได้

ขณะเดียวกันจากการแถลงข่าวของกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ห้องแถลงข่าวอาคารรัฐสภา โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งแทน ไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม เพราะ ส.ส.คนเดิมถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากทุจริตการเลือกตั้ง ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัครลงแข่งอีก ถ้าเป็นพรรคพลังประชารัฐ ก็คงไม่ส่งผู้สมัคร อีกทั้ง ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเป็นที่สอง จึงมีความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัคร เพราะถ้าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เราจะได้ที่หนึ่งได้เป็น ส.ส.ไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ ส.ส.นครศรีธรรมราช 4 ต่อ 4 คนเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนโครงการคนละครึ่ง” 

และยังแถลงข่าวต่ออีกตอนหนึ่งระบุว่า “ไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม แต่เป็นการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากถูกศาลติดสินว่าทุจริตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงมากในทางการเมือง การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้ที่สอง เรายืนยันได้ว่า ถ้าเขาไม่ทุจริตเราก็ได้ที่หนึ่งไปแล้ว และเชื่อว่าจะไม่เป็นรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคประชาธิปัตย์จะได้ คะแนนเสียงพรรคร่วมก็เท่าเดิมเพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน”

ซึ่งข้อความทั้งหมดเป็นข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือนใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ประชาธิปัตย์เสียหาย และเป็นการกระทำที่อยู่ในระหว่างมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งซ่อมแล้ว มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงผู้สมัครและพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง เป็นการกระทำผิดตาม พรป.การเลือกตั้ง ส.ส. ตนจะเสนอให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณาแจ้งความดำเนินคดี ต่อศาลอาญา

และยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาวินิจฉัยการกระทำของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และกรรมการบริหารพรรค อยู่ร่วมในการแถลงข่าวด้วย แต่ไม่ได้ห้ามปราม หรือทักท้วง ถือว่าเป็นการรู้เห็นเป็นใจการกระทำดังกล่าวด้วย ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้ และระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ หากมีการใส่ร้าย บิดเบือน พาดพิงทำให้ตน และผู้สมัครหรือพรรคประชาธิปัตย์ได้รับความเสียหาย ก็จะแจ้งความ ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป

รอด COVID-19 มาแล้วก็ต้องฉีด รัฐบาลฝรั่งเศสย้ำเป็นแล้วฉีดซ้ำอีกเข็มเพื่อความชัวร์ ชาติแรกในโลกที่แนะนำแนวทางนี้

กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสออกมาแนะนำชาวเมืองน้ำหอมที่เคยติดไวรัส Covid-19 มาก่อน ถึงแม้จะหายดีเรียบร้อยแล้ว ก็ยังต้องฉีดวัคซีนอีก 1 เข็มเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยจากแนวคิดดังกล่าวนี้ ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นชาติแรกในโลกที่แนะนำให้ฉีดวัคซีนกับประชาชนที่เคยติดเชื้อ Covid-19 มาก่อน

ตอนนี้รัฐบาลฝรั่งเศสได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนได้ถึง 3 ตัว คือ Pfizer Moderna และ AstraZeneca และเริ่มฉีดให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุข และกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งวัคซีนทุกชนิดจะต้องฉีด 2 เข็มเป็นการกระตุ้นให้วัคซีนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ทั้งนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสได้อ้างอิงข้อมูลที่ได้ศึกษาในกลุ่มเล็กพบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 มาก่อน ร่างกายจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันมาแล้วบางส่วน หากฉีดวัคซีนเสริมเข้าไปอีก 1 เข็ม ก็จะช่วยให้เสริมภูมิคุ้มกันได้ดียิ่งขึ้น 

และผลที่ได้จากกลุ่มทดลองย่อยก็พบว่าผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 หลังจากได้รับวัคซีน 1 เข็ม ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้นกันได้เท่ากับ หรือ ดีกว่า คนที่ยังไม่เคยติดเชื้อ Covid-19 และรับวัคซีนไปแล้วถึง 2 เข็ม 

ดังนั้นรัฐบาลฝรั่งเศสจึงแนะนำว่า ต่อให้เคยเป็น Covid-19 มาแล้ว กลับมาฉีดวัคซีนเพิ่มอีก 1 เข็มจะดีกว่า โดยฝรั่งเศสเป็นชาติแรกในโลกที่แนะนำวัคซีนให้กับผู้ที่เคยติดเชื้อ Covid-19 

ตอนนี้ในฝรั่งเศสได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนไปแล้วมากกว่า 2 ล้านคน ในจำนวนนี้กว่า 5.4 แสนคนได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ไปเรียบร้อยแล้ว 

ซึ่งฝรั่งเศสมียอดรวมผู้ติดเชื้อราวๆ 3.43 ล้านคน หายแล้ว 2.38 แสนคน ผู้ที่ยังติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นแบบไม่มีอาการ หรือแสดงอาการเล็กน้อย มีอยู่ประมาณ 3,300 คนที่อยู่ในขั้นวิกฤติ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตด้วย Covid-19 ในฝรั่งเศสมีมากถึง 8 หมื่นคน 

แม้ในวันนี้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฝรั่งเศสกว่า 20,000 คน และรัฐบาลฝรั่งเศสยังคงทำงานภายใต้ความกดดันที่จะต้องควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ให้ได้ในเร็ววัน แม้จะต้องเผชิญกับปัญหากลุ่มที่ต่อต้านมาตรการ Lockdown ของรัฐบาล และกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีนในประเทศ 


อ้างอิง:
https://www.france24.com/en/france/20210212-france-recommends-single-vaccine-shot-for-people-who-have-had-covid-19

https://www.irishtimes.com/news/world/europe/emmanuel-macron-under-pressure-as-covid-vaccination-rollout-falters-1.4478361

https://www.worldometers.info/coronavirus/country/france/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top