Sunday, 29 June 2025
TheStatesTimes

“ชัยวุฒิ”เข้าใจ “วิเชียร”ทิ้ง พปชร. ยัน ไม่ขัดแย้งอะไร ชี้ มาพร้อม “อุตตม-สนธิรัตน์” อยากกลับไปช่วยงานทีมเดิม ลั่น อย่าติดมาก การเมืองมีย้ายเข้า-ออก

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลาออกจากพรรคพปชร.ว่า นายวิเชียร เป็นอดีตนายทะเบียนและผู้ร่วมก่อตั้งพรรค เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ และพรรคให้โอกาสทำงานในสภาฯและอีกหลายอย่าง ที่ผ่านมาทำงานกันด้วยดีมาตลอด และช่วยพรรคหลายเรื่อง ไม่เคยมีความขัดแย้งอะไร การออกไปเข้าใจว่านายวิเชียร เข้ามาพร้อมกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาฯพรรค มาเป็นทีมเดียวกันจึงอยากออกไปช่วยงานนายอุตตม 

'ดอน' เผย 'ไบเดน' ส่งหนังสือเชิญไทยร่วมประชุมที่สหรัฐฯแล้วตั้งแต่ ม.ค. แย้ม'บิ๊กตู่'จ่อบินไปเอง วอนอย่าโยงเรื่องกำหนดการเวที'อาเซียน-สหรัฐฯ' เอี่ยวประเด็นรัสเซีย-ยูเครน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงความคลุมเครือเกี่ยวกับกำหนดการจัดประชุมสุดยอดสหรัฐอเมริกาและผู้นำอาเซียน สมัยพิเศษ ที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า อาเซียนมีประเทศคู่เจรจาหลายประเทศ หลาประเทศมีการพบกันในระดับผู้นำ ที่ผ่านมาประเทศรัสเซีย เราก็เคยไปในฐานะผู้นำ  คราวนี้เรื่องของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เราติดตามกัน เขาได้มีการพูดคุยถึงการวางกำหนดการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 แต่จัดวันลงตัวไม่ได้ เพราะการให้มีผู้นำของประเทศอาเซียน 10 ประเทศมาอยู่ร่วมกันนั้นเป็นไปได้ยาก

ขณะที่ฝ่ายสหรัฐฯยังไม่มีความพร้อมในช่วงเวลานั้น จึงได้เลื่อนกำหนดการประชุมดังกล่าวออกไป ดังนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น  แต่หลายคนกลับนำไปโยงกับเรื่องสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เพราะการหารือเรื่องกำหนดการดังกล่าวมีมาก่อนเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน  ทั้งนี้การพบกันระหว่างผู้นำของอาเซียนทั้ง 10 ประเทศกับประเทศคู่เจรจาก็มีกันมาตลอด ตนจึงขออย่าไปโยงกับเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

 นายดอน กล่าวอีกว่า  อย่างไรก็ตาม กำหนดการประชุมดังกล่าวนิ่งแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ติดช่วงของเวลารอมฎอน จึงทำให้ได้มีการปรับเวลาอีกครั้ง กระทั่งล่าสุดการประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าอย่าไปอ่านเรื่องนี้มาก บางคนนำไปโยงกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ตลอดเวลา เพราะในความเป็นจริงการจะติดต่อประสานงานผู้นำทั้ง 10 ประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ติดต่อไปแล้วทั้ง 10 ประเทศจะเห็นพ้องได้ทันที

เมื่อถามว่าฝ่ายสหรัฐฯได้ออกหนังสือเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ไปร่วมการประชุมดังกล่าวได้ส่งมาถึงรัฐบาลไทยแล้วหรือไม่  นายดอน กล่าวว่า  หนังสือเชิญออกมาตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯส่งถึงนายกรัฐมนตรีของไทยอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน  ทั้งนี้การพบปะกันระหว่างผู้นำประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาจะทำให้เกิดความแข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียนเอง  อย่างไรก็ตาม หลังเดือนพ.ค.นี้ เรามีกำหนดการที่ผู้นำอาเซียนจะพบสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งได้นัดหมายกันมานานแล้ว โดยอาจจะมีขึ้นในปลายปีนี้ หรือต้นปี 2566 แต่ตอนนี้ยังหาวันที่ลงตัวไม่ได้ แต่ขอให้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ลุยตรวจห้องเย็นรอบใหม่ กันผ้ากักตุนหมูทำราคาพุ่ง

นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ พร้อมหน่วยงานเครือข่าย ได้สนธิกำลังไล่ตรวจสอบห้องเย็นรอบใหม่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์-18 เมษายน 2565 สรุปผลการตรวจสอบและการดำเนินการตามกฎหมาย พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 โดยพื้นที่ที่เข้าตรวจสอบรอบใหม่จำนวน 2 แห่ง ในจังหวัดชลบุรี และสุราษฎร์ธานี ตรวจพบซากสุกรจำนวน 704 กิโลกรัม 

รวมจำนวนตรวจพบซากสุกรที่พบในห้องเย็นรอบใหม่รวมสะสมตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ -18 เมษายน 2565 รวมทั้งสิ้น 19,893,522.33 กิโลกรัม จากห้องเย็นทั้งหมด 738 แห่ง (รอบแรกผลการตรวจสอบซากสุกรสะสมตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม – 24 กุมภาพันธ์ 2565 พบซากสุกรจำนวน 25,378,161.810 กิโลกรัม)

สำหรับรายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม (สัปดาห์ที่ 15/2565) สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศราคาสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม ณ วันพระที่ 16 เมษายน 2565 การบริโภคชิ้นส่วนสุกรดีขึ้นในช่วงสงกรานต์ แต่หลายภูมิภาคยังคงราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มเท่ากับวันพระก่อนหน้า ต้นทุนการผลิตไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 98.81 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับมติการนำเข้าข้าวโพดตามกรอบ WTO และลดอากรขาเข้าที่ 0% ยังคงต้องผ่านขั้นตอนการเห็นชอบ ก่อนเข้าอนุมัติคณะรัฐมนตรีในขั้นสุดท้ายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย

มนัญญา ดึง 'ปปง.-DSI' ร่วมตรวจสอบ ยึดทรัพย์ โกงสหกรณ์ 620 ล้านบาท คาดคนเอี่ยว เผ่นออกนอกประเทศแล้ว เผย วิษณุ รับปากดูข้อกม.บริหารจัดการสินทรัพย์ 

เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดกรณีเจ้าหน้าที่ยักยอก เงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ว่า เรื่องนี้เราได้มีการติดตามทุกสัปดาห์ จากการตรวจสอบขณะนี้พบยอดความเสียหายเป็นเงิน 620 ล้านบาท ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานอื่น ๆ เข้ามาร่วมตรวจสอบ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาร่วมในการตรวจสอบด้วยคาดว่าคดีน่าจะมีความคืบหน้า และยึดทรัพย์ได้เร็วขึ้น โดยในวันที่ 20 เม.ย.จะเชิญสน.ที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมสอบถามว่ายังมีความต้องการข้อมูลในส่วนใดเพื่อประกอบการพิจารณาคดีหรือไม่ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ พร้อมให้ข้อมูลอยู่แล้ว 

น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ตนได้สอบถามกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงความเป็นไปได้ในการจัดให้มีระบบการบริหารจัด การทรัพย์สินที่ยึดมาได้จากหลายๆกรณีดีกว่าปล่อยทิ้งเอาไว้ซึ่งมีแต่จะเสื่อมโทรมและราคาลดลง ดังนั้นจะทำอย่างไรให้สามารถเข้าไปบริหารจัดการในเวลารวดเร็วระหว่างที่รอศาลพิจารณาตัดสินหรือขายทอดตลาด ว่าจะไปดูซึ่งเรื่องนี้นายวิษณุระบุว่าจะมีการกลับไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลกองทุนนั้นจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องการปรับเปลี่ยนระเบียบต่างๆ ไป มานั้น เอื้อประโยชน์ให้กับใครหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมามีผลกับสหกรณ์ฯ โดยขณะนี้ เริ่มปรับมาให้สมาชิกสหกรณ์ฯ สามารถตรวจสอบทางบัญชีผ่านระบบออนไลนได้แล้ว จากเดิมเป็นการแจ้งรายงานทางจดหมาย ซึ่งมีผู้ตอบกลับมาไม่มาก 

ครม. ปรับมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชนด้านพลังงาน ขยายการช่วยเหลือค่าน้ำมัน ทั้งกลุ่มเบนซินและ แก๊สโซฮออล์ แก่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมทั้งลด FT ให้บ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กด้วย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียด ในมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน อันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป ดังนี้

1. การปรับปรุงถ้อยคำมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยการให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า FT) ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน -จากเดิมที่ให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ปรับเป็นโดยให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 ซึ่งจะทำให้มาตรการมีความชัดเจนและเป็นการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้า

2. มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง

-โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมัน “กลุ่มเบนซิน” จากเดิมที่ให้ส่วนลดราคา “น้ำมันแก๊สโซฮอล” แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง) ที่มีใบอนุญาต ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 106,655 คน (จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการขนส่ง ณ วันที่ 22 มีนาคม 65) ในรูปแบบรัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท /คน/เดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 พร้อมทั้งให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับเงินจากโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน โดยภาครัฐจะมีภาระค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 79.992 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขอบเขตการช่วยเหลือค่าน้ำมันครอบคลุมทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮออล์ และสามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างคล่องตัวด้วย

‘ทิพานัน’ ดึงสติ ‘ธนาธร’ หยุดอ้างการเมืองกลั่นแกล้ง ควรใช้สิทธิสู้คดีตามกม. ไม่ใช่ไลฟ์สดว่าถูกกลั่นแกล้ง 

‘ทิพานัน’ ดึงสติ ‘ธนาธร’ หยุดโยนบาปการเมืองกลั่นแกล้ง ยันสังคมมีสิทธิตรวจสอบ ชี้ปมซื้อที่ดินหลายพันไร่ เหตุใดไม่ตรวจสอบเอกสารให้ละเอียด ร่ายยาวพฤติการณ์หนุนฝ่า ม.112

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวเปิดเผยความรู้สึกและความคืบหน้าในคดีความต่างๆ และยอมรับเจ็บปวดที่ถูกกล่าวหาโกงชาติว่า สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมากตั้งแต่นายธนาธรเข้ามาทำงานการเมือง เข้าใจได้ที่นอกจากนายธนาธรจะถูกประชาชนกล่าวหาว่าชังชาติ ตอนนี้ครอบครัวก็ถูกตราหน้าว่าโกงชาติ โกงแผ่นดิน โกงป่า จึงอยากแนะนำให้นายธนาธรใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ หยุดการไลฟ์สื่อสารทางสื่อโซเชียลว่าถูกกลั่นแกล้ง หยุดเพ่งโทษผู้อื่น ขอให้ยอมรับความจริงและทำแบบวิญญูชนคือทุ่มเทเวลาหาพยานหลักฐานไปพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม

น.ส. ทิพานัน กล่าวต่อว่า ที่นายธนาธรกล่าวว่าครอบครัวถูกตราหน้าว่าโกงชาติ โกงแผ่นดิน โกงป่า เพราะตนเองมาเล่นการเมืองนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก่อนที่จะมาลงการเมือง และเมื่อเป็นนักการเมืองก็ต้องยอมรับการตรวจสอบและไม่มีอภิสิทธิ์เหนือประชาชน สังคมก็มีสิทธิ์สงสัยและมีเสรีภาพในการแสดงออกวิจารณ์ถึงเจตนาและการรับรู้ว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน เพราะเป็นครอบครัวนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศ มีกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นปกติทางธุรกิจ การซื้อที่ดินผืนใหญ่จำนวนหลายสิบแปลง พื้นที่หลายพันไร่ย่อมต้องตรวจสอบอย่างละเอียด

"เกษตรฯ." เล็งตั้ง "ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต" ในกรุงเทพ50เขตภายใต้โครงการเกษตรกรรมยั่งยืนเน้นอาหารปลอดภัย เตรียมปั้น "ธุรกิจเพื่อสังคม" เป็นกลไกขับเคลื่อนหวังดันกรุงเทพสู่มหานครสีเขียวแห่งอนาคต

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (Sustainable Urban Agriculture Development Project @ Bangkok)เปิดเผยวันนี้(19เม.ย.)ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการฯ.ซึ่งมีนายดุลมลชัย วิวัฒน์บวรวงษ์  ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย นายพงษ์ศักดิ์ วัฒนสินธุ์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นางสาวปราณิศา บุญค้ำ สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมธนารักษ์  สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย การเคหะแห่งชาติ การรถไฟแห่งประเทศไทย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุม โดยมีนายยงทวี โพธิษา ผู้อำนวยการสำนักงานสวนสาธารณะ ทำหน้าที่เลขานุการฯ การประชุม 

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็วทำให้ประชากรและชุมชนเพิ่มขึ้นประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร (Food Security)เพราะมีพื้นที่เกษตรน้อยและมีพื้นที่สีเขียวไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนประชากรกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติและคุณภาพชีวิตของประชาชน คณะกรรมการบริหารและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงวางโครงสร้างและระบบเป็นกลไกแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาภาคการเกษตรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ด้วยโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง (Sustainable Urban Agriculture Development Project : SUAD Project) ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน

ซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์ “3’s”(Safety-Security-Sustainability เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคงและเกษตรยั่งยืน) โดยมุ่งเน้นการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็น “มหานครสีเขียวแห่งอนาคต” ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติ ในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change) ของโลก และเป้าหมายของโครงการกรุงเทพสีเขียว 2030 (Green Bangkok 2030) ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังสอดรับกับโครงการธนาคารสีเขียว (Green Bank) ที่ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ ซึ่งช่วยให้เกิดการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองเพิ่มขึ้น เป็นการสร้างการขับเคลื่อนให้เกิดในลักษณะองค์รวม

โดยมีตัวอย่างบางโครงการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดตัวโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองพื้นที่วัด (Green Temple) ณ ธรรมสถานวัดพระราม 9 กาญจนภิเษก รวมถึงวัดพระยาสุเรนทร์ บนความร่วมมือระหว่างบ้าน วัดและโรงเรียน (บ.ว.ร.) เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนเมืองใกล้วัดร่วมทำการเกษตรพัฒนาอาหารปลอดภัย สร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนเกิดการแบ่งปัน รวมถึงเป็นรายได้ให้แก่ชุมชนด้วย 

‘รัฐบาล’ ลุยเอาผิดทุจริตโครงการรัฐ ‘เราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง-เราชนะ’ ดำเนินคดีอาญา 435 คดี

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญากับผู้ทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ซึ่งเป็นการรายงานการดำเนินคดีอาญาระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2564 - 1 มกราคม 2565 มีคดีรวมทั้งสิ้น 435 คดี

“ประยุทธ์” ถือฤกษ์สงกรานต์ฟื้นฟูปท. มอบหลักการจัดทำงบฯปี 66  ผุดมอตโต้ “อยู่รอด ปลอดภัย พอเพียง ยั่งยืน” รับมีแนวคิดคนละครึ่งเฟส 5  “ชี้” กู้เพิ่ม ดูความจำเป็น เล็งขยับปลดล็อกมาตรการโควิด เร็วขึ้น “วอน”เข้าใจรัฐบาล ไม่มัวโจมตีกัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า วันนี้เป็นการประชุมครม.ครั้งแรกหลังหยุดสงกรานต์ที่ผ่านไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหน้างาน และอยู่เบื้องหลัง ที่ช่วยดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนตลอดช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นปีใหม่ของไทย และตนเห็นว่าสงกรานต์ปีนี้เป็นสัญลักษณ์เร่ิมต้นใหม่เพื่อขับเคลื่อนประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแผน และโรดแมปหลังโควิด-19 ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การลงทุน การส่งออก รวมถึงการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุ ก็ต้องมีการวางแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุที่จะเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมการทุกมิติอย่างเต็มที่แล้ว
  
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ ปัญหาอยู่ที่งบประมาณที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน โดยสรุปแล้วเราใช้เงินเหล่านี้ดูแลคนทุกช่วงวัน ตั้งแค่อยู่ในครรภ์ จนกระทั่งถึงผู้สูงอายุ เราใช้งบประมาณในแต่ละปีเป็นเงิน 8 แสนกว่าล้านบาท ฉะนั้นการที่จะให้เพิ่มขึ้นก็อยู่ที่งบประมาณที่เราจะหาได้ในอนาคต ว่าเราจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร เพื่อรองรับการใช้จ่าย นอกจากนี้ ก็ยังมีมาตรการช่วยเหลือด้านการเกษตร พืชหลัก 6 ชนิด เป็นจำนวนหลายแสนล้านบาท ฉะนั้น ในการใช้จ่ายงบประมาณในปี  2565 ที่เหลืออยู่ และการจัดทำงบประมาณในปี 2566 ตนให้หลักการไปแล้วว่าเราจะทำยังไงที่จะนำพาประเทศของเราผ่านปัญหาอุปสรรคและวิกฤติการณ์ที่มันเกิดขึ้น ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศที่เราควบคุมไม่ได้นั้นจะนำไปสู่อนาคตได้อย่างไร โดยใช้หลักการว่าจะทำให้อยู่รอดปลอดภัย พอเพียง และนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต นี่หลักการของผม ที่ได้สั่งการมอบหมายไปกับครม.วันนี้ ว่าต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ในขณะที่รายได้เราก็ลดลงหลายๆเรื่องด้วยกัน ถึงแม้การส่งออกเราจะดีขึ้นก็ตาม 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องการแก้ปัญหาระบบการเงิน การคลัง ทางคณะกรรมการนโยบาบการเงิน(กนง.)ได้รายงานชี้แจงมาแล้วว่าเรายังมีเสถียรภาพที่เข้มแข็งเพียงพอ เพียงแต่ว่างบประมาณที่เรานำมาใช้ในการบริหารประเทศอาจจะต้องลดลงบ้าง แน่นอนว่าต้องเกิดผลระทบ ซึ่งตนก็บอกว่าเราต้องใช้งบประมาณในกาารดูแลกลุ่มเปราะบาง หรือผู้มีรายได้น้อย เป็นจำนวนสูงมาก คงต้องย้อนกลับไปดูผู้ประการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่ไว้ด้วย เนื่องจากเป็นแหล่งจ้างงาน เพื่อให้ได้เกิดห่วงโซ่ไปด้วยกัน เราจึงต้องหามาตรการดูแลไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นการจ้างงานก็จะลดลง รวมไปถึงการพัฒนาฝีมือแรงงานต่างๆเพื่อไปสู่การมีรายได้สูงในอนาคต 

"ผมเป็นห่วงการใช้จ่ายเงินของประชาชน วันนี้รายได้ลดลง ขณะเดียวกันราคาสินค้าบริโภค พลังงาน ก็สูงขึ้น ทำให้รายได้ที่เขาได้แต่ละวัน แต่ละเดือนไม่เพียงพอ ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันมันเกือบถึง 50% ของรายได้เขา หรืออาจจะมากกว่าเพราะได้เขาไม่มากนัก เพราะฉะนั้นก็ต้องอยู่ที่พฤติกรรมด้วย ต้องปรับเปลี่ยน เรามีเงินน้อย ก็ต้องเลือกใช้ เลือกกิน ให้เหมาะสมกับสถานะของเราในขณะนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่สนใจในเรื่องของความเหลื่อมล้ำ และพยายามไม่ยกระดับรายตรงนี้ให้มากขึ้น แต่พอดีมีเหตุการณ์เกิดขึ้น หลายอย่างกำลังจะดีขึ้น แต่รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ วันนี้ได้สั่งการให้มีมาตรการต่างๆทยอยออกมาเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ก็จำเป็นต้องหาแหล่งรายได้เพิ่มเติมให้ได้ อันนี้ต้องเข้าใจตรงกัน"นายกฯกล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ได้เร่งรัดให้มีการเจรจาทางการค้าระหว่างหลายประเทศด้วยกัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องได้หารือจากข้อมูลที่ผู้นำระดับสูงและเอกอัครราชทูตมาพบตน ซึ่งเขาสนใจประเทศไทย เพราะเขาเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพ มีทรัพยากร มีความพร้อมหลายอย่างที่เรียกว่า  Sofe Power เขาก็อยากมาอยู่ มาลงทุน เพราะเป็นประเทศไทยปลอดภัย มีอาหารการกินดี มีธรรมชาติสวยงาม เหล่านี้เป็นศักยภาพของไทย ฉะนั้นเราต้องช่วยกันรักษาไว้ให้ได้ วันนี้การเจรจาต่างประเทศต้องไปดูว่พันธสัญญาต่างๆที่เรามีอยู่ จะปรับเปลี่ยนแก้ปัญหากันอย่างไร ต้องทำทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งตนเร่งรัดการเจรจา การทำเอ็มโอยูและข้อตกลง FTA การเจรจาต่างๆก็เดินหน้ามาโดยตลอด เพื่อเร่งการค้าการลงทุน การขยายเศรษฐกิจ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ก็ได้มีการเปิดการเจรจาการบินกับมองโกเลียซึ่งวันนี้นำเข้าครม.แล้ว ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์กับการเดินทาง วันนี้ประเทศไทยเป็นจุดเร่ิมต้นในการเดินทางไปประเทศอื่นๆ ซึ่งเป็นผลดีกับการบินของเรา ดังนั้น เราต้องใช้ประโยชน์ตรงนี้ ซึ่งตนได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีการประชุมเรื่องพลังงานกับกลุ่มเอเซียใต้ ซี่งเราต้องส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการเจรจาความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น ที่เรียกว่า ไจก้า ซึ่งได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี และยกระดับการตรวจโรครักษาผู้ป่วยโควิด-19  การพัฒนาเก็บรักษาวัคซีน ซึ่งมีงบประมาณ 130 ล้านบาท ขณะนี้กำลังเร่งให้ทำโครงการเหล่านี้อยู่ เพื่อใช้เงินตรงนี้ออกมาได้ 

“บิ๊กป้อง” สั่งสนับสนุนอากาศยานปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าและบินสำรวจจุดความร้อน (Hotspot) บริเวณพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

พล.อ.ต. ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ในห้วงเดือนมีนาคม - เมษายน ของทุกปี ภาคเหนือของไทยมักจะประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยมีสถิติพบจุดความร้อนในพื้นที่ป่ามากกว่าปกติ จึงได้มีการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ในการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ป่าและคุณภาพชีวิตของประชาชน

สำหรับการปฏิบัติของกองทัพอากาศในปีนี้ พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ จัดอากาศยานพร้อมกำลังพลของกองทัพอากาศ เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจบินดับไฟป่าและบินสำรวจจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย ตามที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ร้องขอ

ทั้งนี้ กองทัพกาศได้จัดอากาศยาน พร้อมด้วยชุดอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่สำหรับปฏิบัติภารกิจ ได้แก่ 
- เครื่องบินไร้คนขับตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 1 (UAV แบบ RTAF U1) ฝูงบิน 301 กองบิน 3 
- เครื่องบินตรวจการณ์และฝึก แบบที่ 20 (DA-42 MNG) ฝูงบิน 402 กองบิน 4 
- เฮลิคอปเตอร์แบบที่ 11 (EC-725) หน่วยบิน 2033 ฝูงบิน 203 กองบิน 2 
- ศูนย์สนับสนุนทางอากาศโดยตรงที่ 3 (ศสอต.3)
- ชุดเจ้าหน้าที่ควบคุมทางอากาศยุทธวิธี
- เจ้าหน้าที่แปลความภาพถ่ายทางอากาศ
- เจ้าหน้าที่สนับสนุนอื่นๆ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top