Sunday, 29 June 2025
TheStatesTimes

นายกฯ ขอบคุณ จนท.ทุกภาคส่วน เสียสละทำงานช่วงวันหยุดสงกรานต์ กำชับรองรับประชาชน เดินทางกลับจากภูมิลำเนา ย้ำ มาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ทำงานด้วยความเสียสละ อำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในการเดินทางสัญจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 นี้ รวมถึงขอบคุณประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งช่วยในการลดอุบัติเหตุ ป้องกันความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังมีความห่วงใยการเดินทางสัญจรของประชาชน ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยได้กำชับให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองรับประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ที่คาดว่าจะมีการเดินทางจำนวนมากในช่วงระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ จึงได้เน้นย้ำมาตรการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”  เพื่อให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวก ปลอดภัย ลดปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของประชาชนให้ได้มากที่สุด

“โฆษกปชป” วอน อย่าดึงพรรคเข้ามาเกี่ยวข้องคดี “ปริญญ์” ยันประชาธิปัตย์ไม่ส่งเสริมให้ใครทำความผิด

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มการเมืองมีความพยายามเชื่อมโยงโจมตีพรรค จากกรณีของปริญ พานิชภักดิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนที่ต้องแยกออกจากกันคือ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งจะผิดหรือไม่ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม พรรคจะไม่ไปก้าวล่วง และสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้เต็มที่ 

ในส่วนของพรรค หลักการที่ชัดเจนคือเมื่อมีเรื่องที่มีการกล่าวหาสมาชิกพรรค ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายผิดหลักคุณธรรมจริยธรรม พรรคในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมืองมีกระบวนการรองรับอยู่อย่างชัดเจน ขณะนี้มีการติดตามรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พรรคไม่ส่งเสริมให้ใครไปกระทำความผิด ซึ่งหากใครไปกระทำความผิด ไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น

นายกฯ ขอ ประชาชนเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎจราจร ควบคู่ มาตรการป้องกันโควิด-19 ย้ำ สังเกตอาการ-คัดกรองด้วย ATK

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามรายงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย ศปถ. รายงานสรุป 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ สะสม 5 วัน (11 - 15 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ดื่มแล้วขับ ตัดหน้ากระชั้นชิด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ จักรยานยนต์ 81.47% รองลงมา คือรถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 7.17% และรถยนต์นั่ง 2.79% จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุ/ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต สะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 

นายธนกร กล่าวว่า จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม บึงกาฬ ปราจีนบุรี ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้คุมเข้มโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุและมีผู้สูญเสียสูงสุด ให้เข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม

นายธนกร กล่าวว่า ประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นในเส้นทางหลัก และเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ศปถ.ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง คุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ และปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ ตั้งกรวยริมไหล่ทาง ปิดจุดกลับรถ เป็นต้น 

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้ ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ช่วงวันที่ 16-18 เม.ย. 65 ประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ 

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีย้ำขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน หน่วยทหารในพื้นที่ ภาคประชาสังคม รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ชุมชน หมู่บ้าน อาสาสมัครต่าง ๆ และประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อมในช่วงเทศกาลให้เหลือน้อยที่สุด 

"นายกฯ" แนะ ประชาชน ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนเดินทาง หลัง กรมอุตุฯ ประกาศ "พายุฤดูร้อน" 17-18 เมย.นี้

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตือนประชาชนที่จะเดินทางข้ามพื้นที่ ทั้งกลับจากภูมิลำเนาและกลับจากการท่องเที่ยว เพื่อกลับเข้ามาทำงานหลังวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ควรตรวจสอบสภาพภูมิอากาศตลอดเส้นทางการเดินทาง ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 7 ให้ทุกภาคเตรียมรับมือ "พายุฤดูร้อน" ในช่วงวันที่ 17-18 เมษายน 2565  ซึ่งหลายจังหวัดจะมีสภาพอากาศ ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง แนะผู้ขับขี่ควรตรวจเช็คความพร้อมของยานพาหนะก่อนการเดินทาง พักผ่อนให้เพียงพอ ขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด 

เลขาฯสมช. เผย นายกฯ จ่อเรียกถก ศบค. ในสัปดาห์นี้ ประเมินสถานการณ์หลังสงกรานต์-รับเปิดเทอม-ปรับมาตรการเข้าออกประเทศ

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 65 พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศปก.ศบค.) กล่าวว่า สถานการณ์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จนถึงปัจจุบันในภาพรวมถือว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชน และภาคเอกชนเป็นอย่างดี  ในขณะที่ส่วนราชการต่างๆ ได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขันตามนโยบายและข้อสั่งการต่างๆ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มอบไว้ โดยให้ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ตั้งแต่การเดินทาง การจัดกิจกรรมสงกรานต์ และการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์หลังสงกรานต์

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังมีความห่วงใย และขอเน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและทุกภาคส่วน ขอให้ให้ความสำคัญกับช่วง 7 วันหลังเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 18 ถึง วันที่ 24 เม.ย.นี้ โดยขอให้ทุกคนที่ได้ร่วมกิจกรรมและเดินทางในช่วงสงกรานต์ได้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองและครอบครัว รักษาระยะห่าง หากไม่มั่นใจขอให้ตรวจ ATK ด้วยตนเอง หรือขอเข้ารับการตรวจ ณ จุดบริการที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน หากพบว่าติดเชื้อขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกไว้ให้แล้ว อย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้มีการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น อย่างไรก็ตาม มาตรการที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันได้เป็นอย่างดีคือการร่วมมือกันบริหารจัดการให้มีการทำงานที่บ้าน หรือ Work from home ของทั้งส่วนราชการและภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดอย่างได้ผล 

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการโรคติดต่อทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ ให้จัดให้มีบริการการตรวจ ATK ให้ประชาชาเข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งให้กำกับแผนการยกระดับแผนการเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ระดับต่างๆ ตามที่ได้เคยสั่งการไว้แล้ว ให้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องการรับแจ้ง การคัดกรอง การบริหารจัดการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) การบริหารจัดการสถานที่กักตัวในระดับชุมชน (Community Isolation) โรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนามระดับต่างๆ ตลอดจนโครงการเจอแจกจบ ที่รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ลดลงนั้น เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามและสั่งการให้มีการเตรียมการในทุกวิถีทางมาตั้งแต่ต้น และผู้เสียชีวิตร้อยละ 90 ยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้กำชับให้มีการดูแลรักษาพยาบาลอย่างเต็มความสามารถเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยอาการหนักมาก มีการรณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยง (กลุ่ม 608) ได้ระมัดระวังและเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคงต้องทำความเข้าใจ และรณรงค์อย่างกว้างขวางต่อไป เพื่อป้องกันให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 น้อยที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสื่อมวลชนทุกสาขา ช่วยการประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจและรณรงค์ให้อย่างกว้างขวางด้วย

ตีไข่ ใส่สี! ‘กห.’ สยบเฟกนิวส์ ยัน ‘แก๊งยากูซ่าไทย’ ถูกจับที่สหรัฐฯ ไม่ใช่ ‘ลูกชายปธ.องคมนตรี’ ย้ำ! แค่คนชื่อคล้าย

โฆษกกลาโหม ยันผู้ต้องหาคนไทย แก๊งยากูซ่าที่สหรัฐฯจับกุม คือ สุขสันต์ จุลนันท์ ไม่เกี่ยวข้อง "สันต์ จุลานนท์" ลูกชายประธานองคมนตรี แค่ชื่อ-นามสกุลคล้ายกัน พบมีคนบางกลุ่มบิดเบือน ทำเสียหายปล่อยข่าวปลอม ย้ำผู้ต้องหาไม่เคยเป็นทหาร ไม่มียศพลเอก

(16 เม.ย. 65) พลเอก คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ชี้แจงถึง กรณีมีการบิดเบือนข่าวการจับกุม 3 คนไทย ที่เป็นแก๊งค์ยากูซ่า ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ผู้ต้องหาชาวไทย คนหนึ่งชื่อ นายสุขสันต์ จุลนันท์ ว่าเป็น นายสันต์ จุลานนท์ ลูกชายพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เพราะมีชื่อและนามสกุลคล้ายกันนั้นว่า ยืนยันว่า ผู้ต้องหา คนดังกล่าว ไม่ใช่ นายสันต์ จุลานนท์ และไม่เกี่ยวข้องใดๆกับ ประธานองคมนตรี

“ตอนนี้ มีการปล่อยเฟคนิวส์ ปล่อยข่าวบิดเบือน ไปเชื่อมโยงกับ บุตรชายประธานองคมนตรี เพิ่อหวังให้เกิดความเสียหาย จากการตรวจสอบกับระบบกำลังพลของกองทัพและทางตำรวจ ยืนยันว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวชื่อนายสุขสันต์ จุลนันท์ ไม่ได้เป็นทหาร และไม่เคยเป็นทหาร และไม่ใช่นายสันต์ จุลานนท์ แต่อย่างใด ขอผู้ไม่หวังดี หยุดบิดเบือนข่าวในทุกช่องทาง" พลเอกคงชีพ ระบุ

พลเอกคงชีพ ระบุว่า นายสุขสันต์ จุลนันท์ เป็นคนไทยอาศัยอยู่ในอเมริกา และถือ 2 สัญชาติคือไทยและอเมริกา เป็นคนละคน กับนายสันต์ จุลานนท์ และยืนยันว่า ที่แชร์กันด้วยว่า เป็น พลเอกสุขสันต์ จุลานนท์ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะไม่ได้เป็นทหาร แต่เพียงแต่มีชื่อและนามสกุลคล้ายๆกันเท่านั้น แต่ก็มีการมาเขียนตีไข่ใส่สี สร้างความเสียหาย
 

อายุเฉลี่ยสั้นลง!  'หมอธีระ' ยกงานวิจัยอเมริกา  ชี้! ประเทศโควิดระบาดหนัก ส่งผลประชากรอายุสั้นลง!

(17 เม.ย.65) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...

ทะลุ 504 ล้านคนไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 559,952 คน ตายเพิ่ม 1,567 คน รวมแล้วติดไปรวม 504,190,244 คน เสียชีวิตรวม 6,221,498 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ อิตาลี ญี่ปุ่น และเยอรมัน

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 86.23 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 84.81

การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 39.49 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 38.35

...สถานการณ์ระบาดของไทย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย
ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 4 ของโลก

ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 20.79% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย

...โควิด-19 ทำให้อายุขัยเฉลี่ยของประชากรโลกสั้นลง
งานวิจัยจากอเมริกาโดย Woolf SH และคณะ ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์สากล JAMA Network Open เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา

เปรียบเทียบให้เห็นผลของการระบาดระลอกแรกของโรคโควิด-19 ใน 22 ประเทศทั่วโลก
พบว่าประเทศต่างๆ ที่มีการระบาดหนัก ทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ย่อมทำให้อายุขัยเฉลี่ยของประชากรในประเทศนั้นสั้นลง

ทั้งนี้ในปี 2020 ซึ่งระบาดระลอกแรกนั้น ประเทศที่มีการคุมการระบาดได้ดี (เช่น นิวซีแลนด์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์) จะมีอายุขัยเฉลี่ยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ในขณะที่กลุ่มประเทศที่มีการระบาดหนัก จะทำให้อายุขัยเฉลี่ยลดลง โดยสหรัฐอเมริกาลดลงมากที่สุดถึงเกือบ 2 ปี

งานวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นสัจธรรม และความสำคัญของการควบคุมป้องกันโรค

แน่นอนว่า หากมีการศึกษาผลที่เกิดขึ้นจากระลอกเดลต้าและ Omicron ผลกระทบน่าจะมากกว่าที่เห็นจากระลอกแรก

ปริญญ์เอฟเฟค! ‘ซูเปอร์โพล’ เผย ‘ปริญญ์เอฟเฟค’ เขย่าศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ส่งผลเพิ่มคะแนนนิยม ‘สกลธี-วิโรจน์’ ขณะ ‘ชัชชาติ’ ยังนำ

(17 เม.ย. 65) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ปริญญ์ เอฟเฟค เลือกตั้ง กทม. กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,548 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15 – 16 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 48.5 ติดตามข่าว เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. มากถึงมากที่สุด ร้อยละ 32.3 ติดตามปานกลาง และร้อยละ 19.2 ติดตาม น้อยถึงไม่ติดตามเลย

เมื่อถามถึง การรับรู้ข่าว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ของคน กทม. พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 46.3 รับรู้มากถึงมากที่สุด ร้อยละ 31.3 รับรู้ปานกลาง และร้อยละ 22.4 รับรู้น้อย ถึงไม่รู้เลย

ที่น่าพิจารณาคือ ผลกระทบของข่าว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ต่อการตัดสินใจเลือกตั้งผู้ว่า กทม. หลังจากทดสอบค่านัยสำคัญทางสถิติ พบว่าไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ต่อนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แม้มีค่าติดลบ คือ -.029 ก็ตาม นอกจากนี้ ไม่มีนัยสำคัญต่อผู้สมัครคนอื่นด้วย เช่น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แม้ติดค่าลบจากข่าวนายปริญญ์ฯ เช่นกัน คือ -.054 แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีค่าเป็นบวก คือ +.054 แต่ไม่มีนัยสำคัญ

ที่น่าสนใจคือ มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. สองคนที่ผลการทดสอบ ปริญญ์เอฟเฟค พบว่า มีค่าผลกระทบเป็นบวก และมีนัยสำคัญทางสถิติคือนายสกลธี ภัททิยกุล ได้ +.161 และมีนัยสำคัญทางสถิติกว่าร้อยละ 99 รวมถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ได้รับผลกระทบในทางบวกคือได้ +.091 และมีนัยสำคัญทางสถิติกว่าร้อยละ 90 ตามลำดับ ส่วนผู้สมัครท่านอื่น ทดสอบผลกระทบของ ปริญญ์ เอฟเฟค แล้ว ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ความหมายคือ ไม่มีผลกระทบอะไรต่อการตัดสินใจเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ของคน กทม.

เมื่อถามถึง การตัดสินใจเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ของ คน กทม. เปรียบเทียบระหว่าง ครั้งแรก และ ครั้งที่สอง หลังมีการลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว พบว่าแนวโน้มคนจะเลือก เพิ่มขึ้นทุกคน แต่อันดับสลับกันอยู่บ้าง กล่าวคือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังคงนำเพิ่มจาก ร้อยละ 20.3 ในครั้งที่ 1 มาเป็นร้อยละ 24.5 ในครั้งที่ 2 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.8 ในครั้งที่ 1 มาเป็น ร้อยละ 13.9 ในครั้งที่ 2

รอดนอนคุก! ศาลให้ประกัน ‘ปริญญ์’ วงเงินประกัน 7 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ‘ห้ามออกนอกประเทศ’

(17 เม.ย. 65) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อายุ45 ปี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศ ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล รวม 3 สำนวนเป็นคดีกระทำอนาจาร 2 สำนวน และคดีข่มขืนหญิงอื่น ฯ1 สำนวน คือคดีหมายเลยดำ ข้อหากระทำอนาจาร ฝ.173/2565 ฝ.174/2565 , และข้อหาข่มขืนฯ ฝ.175 /2565

เนื่องจากพนักงานสอบสวน ยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รอผลการตรวจประวัติอาชญากรผู้ต้องหา และอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 17- 28 เม.ย.นี้

โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ ต่อมาทนายความยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 3 สำนวน ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาโดยตีราคาประกันคดีกระทำอนาจารหมายเลขดำฝ.173 และดำฝ.174/2565 สำนวนละ 200,000 บาท

สุดปัง! ‘มิลลิ’ ศิลปินเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นแสดงเวที ‘Coachella 2022’ พาเพลงไทยสู่เวทีโลก

แร็ปเปอร์สาว MILLI หรือ มิลลิ - ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินเดี่ยวไทยคนแรกขึ้นเวที Coachella 2022 พาเพลงไทยสู่เวทีโลก พร้อมกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์เปิดตัวเพลงใหม่

นาทีนี้ความฮอตและร้อนแรง ต้องยกให้แร็ปเปอร์สาวชื่อดัง MILLI หรือ มิลลิ - ดนุภา คณาธีรกุล ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกของไทยขึ้นโชว์บนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella 2022 ที่จัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 16 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย

พร้อมศิลปินไลน์อัพจาก 88rising อย่าง CL สมาชิก 2NE1 , แจ็คสัน หวัง (Jackson Wang)  หรือ แจ็คสัน GOT7 

นิกิ (NIKI) , บีบี (BIBI) , อูทาดะ ฮิคารุ (Utada Hikaru), ริช ไบรอัน (Rich Bryan)และ วอร์เรน ฮิลล์ (Warren Hue) 

เรียกว่าความฮือฮาเริ่มจาก 88rising ค่ายเพลงที่ผลักดันศิลปินเอเชียสู่ระดับโลก ได้ประกาศไลน์อัพ 8 ศิลปินที่จะขึ้นแสดงในเวทีหลักของ Coachella 2022 ซึ่งมี MILLI (มิลลิ) เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ทำเอาแฟนคลับชาวไทยเตรียมปูเสื่อเกาะจอรอส่งเสียงเชียร์กันอย่างตื่นเต้น

และเมื่อถึงเวลาที่ “มิลลิ” ขึ้นแสดง บอกเลยว่า “สุดปัง” ไม่ใช่แค่ชื่อเพลงฮิตอีกต่อไป เพราะ มิลลิ โชว์ความสุดปังต่อสายตาคนทั้งโลกทั้งที่ไปดูสดในงานและที่ดูถ่ายทอดสดผ่านทางยูทูบหลักของงาน
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top