นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยเปิดเผยว่า สวัสดีครับ เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ TNN เรื่องทิศทางของโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (Eastern Economic Corridor) ต่อจากนั้นก็มีโอกาสบรรยายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับผู้อบรมหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลด้านธุรกิจท่องเที่ยว ที่จัดโดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
ประเด็นหนึ่งที่ผมได้แชร์ความเห็นในทั้งสองกิจกรรมนั้น ก็คือทั้งอีอีซี และภาคการท่องเที่ยว จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
ซึ่งโจทย์สำคัญที่เรากำลังเผชิญในปัจจุบัน คือ โครงสร้างเศรษฐกิจที่มีอยู่นั้น นับวันจะอ่อนพลังลง จนไม่สามารถที่จะช่วยแก้ไขปัญหาสั่งสมของประเทศ เช่น ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน รวมทั้งไม่มีพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้หากเราเดินต่อด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิมๆ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราจะเผชิญกับการที่อนาคตของประเทศจะเต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ตลอดจนไม่สามารถก้าวทันโลก และไม่สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชน
ผมขอสรุปประเด็นหลักๆ เกี่ยวกับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งไม่เอื้อต่อการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ดังนี้
1.) เศรษฐกิจฐานรากของประเทศยังไม่เข้มแข็ง ประชากรส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับฐานราก ยังต้องเผชิญปัญหาความยากจน เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ขาดโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เพียงพอกับการดำรงชีพ
2.) เครื่องยนต์หลักในโครงสร้างเศรษฐกิจของไทย ได้แก่ ภาคการส่งออก ซึ่งมีสัญญาณว่าจะเริ่มอ่อนกำลังลง เพราะความได้เปรียบของสินค้าเราในตลาดโลกลดลง เริ่มก้าวไม่ทันคู่แข่ง ความได้เปรียบเดิมๆ เช่น เรื่องค่าแรง ข้อเท็จจริงคือ ค่าแรงในประเทศนับวันสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ก็กำลังเร่งขึ้นมาเป็นคู่แข่งหรือแซงหน้าสินค้าส่งออกที่สำคัญของเราไปแล้ว
3.) นอกจากการส่งออกแล้ว การท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจ ที่สร้างรายได้เข้าประเทศมาโดยตลอด กล่าวได้ว่าการท่องเที่ยวไทยมีศักยภาพสูงมาก ไม่แพ้ประเทศอื่น อย่างไรก็ดี ในโลกที่พฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การท่องเที่ยวต้องไม่พึ่งพาเพียงการโปรโมชั่น เพื่อหวังผลในเชิงปริมาณเป็นหลักเท่านั้น
4.) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งพัฒนา ไม่เพียงโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ถนน ระบบราง การขนส่งทางน้ำ และอากาศ แต่เราต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่จะเป็นพลังในโลกยุคใหม่ด้วย
5.) ทั้งนี้ในระบบเศรษฐกิจใดๆ ก็ตาม คน คือหัวใจสำคัญ ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาคน ให้สามารถตอบโจทย์การปรับโครงสร้างและขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในโลกใหม่ ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันสถานการณ์
ประเทศไทยมีจุดแข็งในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำลังคน ซึ่งโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของจุดแข็งที่เรามีได้อย่างเต็มที่นั้น จำเป็นต้องอาศัยเครื่องยนต์เศรษฐกิจหลัก และโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาด้วยเป้าหมายยุทธศาสตร์ ที่สอดคล้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน
ด้านการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก มีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องมีความสามารถพัฒนาการผลิตสินค้ามูลค่าสูงขึ้นกว่าเดิม ตลอดห่วงโซ่การผลิต นั้นคือ เป็นสินค้าที่มีเทคโนโลยี และนวัตกรรม ทั้งเป็นสินค้าและกระบวนการผลิตที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งในระดับเศรษฐกิจฐานรากไปพร้อมกัน ทำให้เกิดการจ้างงาน การสร้างอาชีพ และการพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะชุมชนในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศอย่างครอบคลุม
ขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก แต่ขณะนี้ทั่วโลกกำลังมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้พลังงานสะอาด หรือพลังงานสีเขียว พลังงานไฟฟ้า ฯลฯ เราจึงสมควรเร่งกำหนดทิศทางการปรับเปลี่ยน ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ เพื่อให้ยังคงบทบาทที่เข้มแข็งในเวทีโลกต่อไปได้ในอนาคต
โดยให้มีความชัดเจน ว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และที่เกี่ยวเนื่อง จะมีเป้าหมายอย่างไร และเกิดขึ้นในรูปแบบใด เพื่อให้ไทยจะยังเป็นที่น่าสนใจของลูกค้า นักลงทุน พันธมิตร ผู้ประกอบการ แต่หากไม่มีการปรับหรือยกระดับที่เหมาะสม การย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถของเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงอนาคตของบุคลากรจำนวนมากที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และที่เกี่ยวเนื่อง
ในทำนองเดียวกัน อุตสาหกรรมอื่นๆของประเทศ จำเป็นต้องได้รับการทบทวนยกระดับ ควบคู่ไปกับการสร้างอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โลจิสติกส์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ครบวงจร การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สินค้าจากเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น
สำหรับการท่องเที่ยวนั้น ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ เราควรมุ่งเน้นพัฒนาการท่องเที่ยวที่จะมีบทบาทสูง ต่อการช่วยยกระดับความเข้มแข็งของชุมชนฐานราก โดยเราสามารถวางยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน ให้เกิดการท่องเที่ยวภาคชนบทอย่างกว้างขวาง และมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับภาคเกษตร และการผลิตสินค้าชุมชน เพื่อให้โอกาสชุมชนนำศักยภาพทั้ง 3 ด้านที่มีอยู่ มาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่