Saturday, 24 May 2025
PoliticsQUIZ

“ประวิตร” ระบุมาเลฯ ยังไม่ประสานทางการไทย กรณีเตรียมผลักดันคนไทยลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศ พร้อม โยนจนท. เอาผิดผู้ประกอบการย่านทองหล่อ ปล่อยคนแออัดจนโควิดระบาด

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ตามแนวชายแดน ว่า ขณะนี้ไม่มีอะไร เมื่อมีการเข้ามาก็ตรวจสอบและรับ ซึ่งต้องยอมรับว่าถึงขณะนี้มีการผลักดันคนที่ลักลอบเข้าเมืองไม่ถูกต้องตามกฎหมายออกมา อาทิ คนที่ไม่มีพาสปอร์ต วีซ่า หรือพวกหลบหนีเข้าเมืองก็ต้องผลักดันออกมา ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยถ้ามีการทำผิดกฎหมายก็ต้องจับกุม ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานและตัวเลขคนที่หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ส่วนทางมาเลเซียและกัมพูชา ยังไม่มีรายงานเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่าทางประเทศมาเลเซียได้มีการประสานทางการไทยเข้ามาแล้วหรือยัง ในการผลักดันคนไทยที่หลบหนีเข้าเมืองกลับประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มีการประสานอะไรเข้ามา ทั้งนี้พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค4 ลงไปดูพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว

นอกจากนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประชาชนเรียกร้องให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดผับผิดกฎหมายย่านทองหล่อ รวมทั้งเอาผิดกับประกอบการด้วย ว่า ต้องให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ว่าทำผิดหรือทำถูกอย่างไร ส่วนเรื่องการเอาผิดผู้ประกอบการที่ปล่อยให้มีคนเข้าไปอยู่อย่างแออัดนั้นเจ้าหน้าที่ต้องแล และดูว่าอันไหนผิดกฎหมายก็ทำตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนการดูแลเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติในพื้นที่ ก็มีการดูแลอยู่แล้ว

ครม.ขยาย “เราชนะ” อีก 1เดือน ปรับเป้าเพิ่ม 32.8 ล้านคน

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference วันที่ 20 เมษายน 2564 นี้ มีวาระทางด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจ คือ กระทรวงการคลัง จะเสนอขอขยายระยะเวลาการใช้เงินในโครงการเราชนะเพิ่มอีก 1 เดือน จากเดิมสิ้นสุดเดือน พ.ค. 64 เป็นสิ้นสุด 30 มิ.ย. 64 เพื่อให้ผู้ที่เพิ่งได้รับสิทธิ คือ ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้พิการ ผู้สูงวัย ซึ่งได้รับวงเงินไปเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีเวลาใช้เงินมากขึ้น และยังเสนอขออนุมัติงบเพิ่มเติม เนื่องจากมีผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 31.1 ล้านคน อยู่ที่ 32.8 ล้านคน

ส่วนวาระอื่น ๆ ที่สำคัญ สำนักงบประมาณ เสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท โดยประมาณการจัดเก็บรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท และการกู้งบประมาณขาดดุล 700,000 ล้านบาท ฉบับ ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน ด้าน กระทรวงพลังงาน เสนอร่างกฎกระทรวงคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว 

ขณะที่กระทรวงคมนาคม เสนอผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในปีงบประมาณ 2563 นโยบายของคณะกรรมการ และโครงการและแผนงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในอนาคต ทางด้านกระทรวงเกษตรฯ เสนอร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการยาง และกระทรวงพม. เสนอการขอต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารออมสิน วงเงิน 500 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย

เดินหลง...ในดงโซเชียล​ By รัตนา & โกสินทร์

เปิดโซเชียลมาเห็นภาพ ท่านเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอเกาะพะงัน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้จัด 'โรงพยาบาลสนาม'​ แล้ว ได้แต่ปลงสังขาร 'อนิจจา วต สังขารา'​ สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง

นั่นก็เพราะวัดคงยังเป็นที่พึ่งพิงให้ประชาชนได้เสมอในทุกสถานการณ์ มองมุมหนึ่งก็รู้สึกสงบถึงขั้วหัวใจ อากาศแม้จะร้อนแต่ก็เย็นสบาย ยิ่งมีเสียงสวด “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา” ให้ฟังยามนอนพักสังเกตุอาการ คงได้เจริญสติด้วยใจระทึกว่า ทำไมน้อ! ถึงติดเชื้อโควิดได้

ว่าแต่พอพูดถึงเรื่องการกักตัวในพื้นที่​ รพ.สนามแล้ว​ ก็ได้แต่ถอนหายใจ!

เพราะที่ไหน ๆ​ ก็จะระงมไปด้วยเสียงบ่นของผู้กักตัว

บางพื้นที่ ที่ไม่มีระบบปรับอากาศ​ ปล่อยให้ร้อน นอนไม่หลับ​ บ่นๆ​ๆ​ กันอยู่นั่น

เห็นภาพแล้วก็ละเหี่ยใจ ทำไมคุณ ๆ​ ดันไม่มองเห็นความลำบากของนักรบเสื้อกาวน์ ที่ต้องสวมชุด PPE มาดูแลคุณกันหน่อยล่ะฮึ?

อยากถามตรงนี้ ว่าใครลำบากมากกว่ากัน ยิ่งมาทราบว่า เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มาจากสถานบันเทิงด้วยแล้ว ใจอยากให้ย้ายไปกักตัวที่ 'ศาลาวัด'​ พร้อมเสียง​ “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา” ให้รู้แล้วรู้รอด จะได้มีสำนึกรับผิดชอบตัวเองกันมากขึ้น

แล้วนี่น่ะ​ ล่าสุด หนู ๆ​ น้อง ๆ บ่นกันเต็มโซเชียล ว่าทำไม รพ.สนาม ถึงไม่มีการกั้นฉากกั้นม่าน ให้เป็นสัดส่วน เชื้อไม่แพร่กันง่ายหรือไง? ทำไมไม่กั้นฉากกั้นห้องหอแบบในต่างประเทศ?

เอ้า!! ตั้งใจฟังนะเด็ก ๆ​ ภาพ รพ.สนามจากต่างประเทศ เป็นการตั้ง รพ.สนาม เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหนัก การกั้นฉากติดม่าน เค้าใช้บังสายตาไม่ให้เห็นการรักษาผู้ป่วยที่อยู่เตียงข้าง ๆ จะได้มีความเป็นส่วนตัวและลดความเครียด ต่างจาก รพ.สนาม ในบ้านเรา ที่ออกแบบใช้งาน สำหรับกักตัว สังเกตอาการ ถ้ามีอาการก็ส่งตัว แยกส่วนเข้า รพ. ดูแล

อีกอย่างหนึ่ง คุณหมอก็เคยบอกแล้วว่า การกั้นม่าน จะเพิ่มความแออัดทำให้ การไหลเวียนของอากาศไม่สะดวก เพิ่มการสะสมของเชื้อในอากาศ ทางที่ดีนอนบนเตียง​ อย่าไปรวมกลุ่มเล่นไพ่กันสนุกสนาน (อย่างที่มีภาพหลุด) หรือถ้าไม่มีอาการเลย ก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตามที่เค้าอนุญาต เหมือนน้อง ๆ ที่ รพ.สนามเชียงใหม่เค้าช่วยกันประกอบเตียงสนามที่ทำจากกระดาษ สำหรับรองรับผู้ที่ต้องกักตัวรายใหม่กันดีกว่า

เข้าใจป่ะ!!

ขอบ่นเรื่อง รพ.สนาม เท่านี้

ไถโซเชียลต่อ​ หลุดกรอบจอของศาลาวัด ก็มาสะดุดข่าวฝรั่งฝังตัวในไทย​ 35​ ปี 'เดวิด สเตร็คฟัสส์'​ นักวิชาการชาวอเมริกัน อดีต ผอ.โครงการ CIEE ขอนแก่น ผู้ดูแล 'The Isaan Record'​ ที่พึ่งถูกยกเลิกวีซ่าไป

ล่าสุดลือกันว่า เจ้าตัว เสนอขอทำงานให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น 'ฟรี'​ เพื่อหวังให้ ม.ขอนแก่น​ ออกหนังสือรับรองการว่าจ้างเพื่อยื่นขอต่อใบอนุญาตทำงาน​ (Work permit) สำหรับขอต่อวีซ่าอยู่ต่อในไทย

ตรงนี้คงขอจับตาดู ว่าจะมีมหาวิทยาลัยอื่นไหมที่สนใจว่าจ้าง นักวิชาการต่างชาติท่านนี้ เพื่อผลิตงานวิจัย​ 'ต่อต้าน ม.112'​ ตามที่เค้าชอบทำวิจัยศึกษาด้านนี้มาตลอด 35 ปี

ส่วนตัวแล้ว​ สงสัยคงต้องเร่งกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แกไปได้ดี​ 'นอกบ้านเรา'​ เหมือนเพื่อนนักวิจัย สุรชัย ณ เจแปน จะเป็นการดีที่สุด

ก่อนจะลาจาก​ เจออีกฟีดกระแทกตาในโซเชียล​ต่อเชื่อมกับ​ 'เจ้าพ่ออีสานเรคคอร์ด'​ นายนี้ เพราะดันมีข่าวหลุดแชทหลุด เรื่องลี้ ๆ​ หนี ๆ​ ไปยังต่างแดนของกลุ่มแกน​ 3​ นิ้ว​

โดยหนึ่งในนิ้วอย่าง​ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group - DRG) และกลุ่มคณะราษฎร 63​ ก็เร่งออกมาปฏิเสธว่า ทั้งหมดคือเฟกนิวส์ให้งงงวยกันเบา ๆ​ ว่า...

"ไม่ต้องลงทุนถึงขั้นสร้างแชตปลอมออกมาโจมตีกันแบบนี้ เพราะมันดูไร้สาระมาก และที่สำคัญ ไม่มีใครใช้แชตไลน์คุยกับสถานทูตนะคะ มันไม่ปลอดภัย"

...ใครคือทูตก็ไม่รู้ แล้วใครเป็นคนบอกว่าเป็นทูต

...คุยกับทูตไม่ปลอดภัยอันนี้ก็น่าสนใจ

...แต่เสียดายที่ไม่ยอมบอกต่อว่า ไม่ปลอดภัยจากอะไร เพราะอะไร

ซึ่งใครจะเชื่อไม่เชื่อ แต่เราอยากบอกว่า กลุ่มสามนิ้ว ทั้งลูกเด็กเล็กแดง ไปจนถึงนักวิชาการ ต่างออกมาแก้ข่าวกันอุตลุด ถึงขนาดจับผิดเรื่องภาษาอังกฤษกันแบบขำ ๆ แต่เหงื่อตกเนียน ๆ

แบบนี้มันน่าพิลึกอย่างไรไม่รู้นะจ๊ะ ทั้ง ๆ​ ที่ สาวสวยหลังม็อบ​ ออกมาระบุพิกัดเองเลยว่า ไม่เคยติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตผ่านทางไลน์

เอ!! ถ้าไม่มีฟืนไฟคงไม่มีควันให้เราเห็น ว่าไหม?

เราสอง รัตนา & โกสินทร์ อ่านด้วยสายตาฉงน...งงงวย​


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

'เทพไท'​ เสนอตัดงบสัมมนา-ดูงาน-ก่อสร้าง-ซื้ออาวุธ ในการจัดงบ​ 65 มาแก้ปัญหาโควิด ชี้ไม่ควรออก พรก.เงินกู้อีก เชื่อส.ส.ฝ่ายค้าน-รบ.หนุนแน่

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต​ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่สำนักงบประมาณ จะเสนอร่างพระราชบัญญัติ​ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อขอจัดทำเอกสารงบประมาณ ในวงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท นั้นว่าเป็นวงเงินงบประมาณที่จัดตั้งน้อยกว่า วงเงินงบประมาณ ปี​ 2564 ที่มีวงเงิน​ 3.3 ล้านล้านบาท

โดยการกู้งบประมาณขาดดุล 608,962.5 ล้านบาท ประมาณการรายได้ 2,677,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับวงเงินงบประมาณ ปี​ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ประมาณการรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท และการกู้งบประมาณขาดดุล 700,000 ล้านบาท ประมาณการรายได้จะน้อยกว่า แต่การกู้งบประมาณขาดดุลจะสูงกว่า ซึ่งจะเป็นภาระหนี้ของประเทศต่อไป

นายเทพไท กล่าวต่อว่า อยากจะเสนอให้ครม.มีความรอบคอบในการอนุมัติจัดทำงบประมาณประจำปี 2565 ของสำนักงบประมาณ ควรเตรียมแผนงานโครงการรองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ​ 3 หรืออาจจะมีรอบ​ 4 หรือรอบ​ 5 ตามมาก็ได้ ซึ่งไม่ต้องรื้อแผนงบประมาณในภายหลังอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ รัฐบาลควรปรับลดแผนการใช้เงินงบประมาณของทุกกระทรวง ทบวง กรม มาเป็นงบประมาณที่ใช้ในการแก้ปัญหาประเทศ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตัดงบประมาณในส่วนต่าง ๆ เช่น

1.) งบการประชุมสัมมนา

2.) งบการศึกษาดูงาน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

3.) งบประมาณการก่อสร้างโครงการใหม่ ยกเว้นโครงการที่มีงบผูกพัน

และ​ 4.) งบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และการก่อสร้างค่ายทหาร เพื่อให้รัฐบาลได้มีเม็ดเงินงบประมาณเพียงพอ ในการเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ช่วงโควิดกำลังระบาด และไม่ควรที่จะใช้พระราชกำหนด​ (พรก.) เงินกู้เพิ่มเติมอีกในอนาคต

“ผมเชื่อว่าถ้ารัฐบาลจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ตามความเหมาะสม และความจำเป็นของสถานการณ์บ้านเมือง ก็สามารถแถลงเหตุผลต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้เข้าใจ อย่างตรงไปตรงมา ก็จะได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างแน่นอน” นายเทพไท กล่าว


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ชวน เผย ทราบแล้ว ช่างไฟสร้างสภาติดโควิด ชี้! เป็นเรื่องของซิโนไทยดำเนินการตรวจ

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ช่างไฟฟ้าที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาติดโควิด-19 จำนวน 3 คน ว่า ตนได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เข้าใจว่าไม่ได้เข้ามาปฏิบัติงานในสภาฯ ซึ่งทางบริษัทซิโน-ไทย ได้ดูแลอย่างเข้มงวด เพราะช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีการประชุม เจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดก็ต้องปฏิบัติตนอย่างเข้มงวด

และที่พนักงานติดเชื้อถือเป็นเรื่องภายในบริษัท โดยปกติแล้วพนักงานที่เข้ามาทำงานในรัฐสภาต้องตรวจคัดกรองทุกคน ตนพยายามบอกเจ้าหน้าที่ว่าอย่าไปเกรงใจ เช่นการลืมหน้ากากอนามัยก็ให้บอกได้เลย มีหน้ากากอนามัยบริการให้สามารถมาขอได้ มีที่ตรวจวัดอุณหภูมิหากผิดปกติก็ไม่ให้เข้ามาในอาคารสภาอยู่แล้ว และการตรวจพนักงานทุกคนเพื่อหาเชื้อโควิด-19 นั้นก็เป็นเรื่องของบริษัทซิโน-ไทย

นายชวน กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมในสภาก็ยังดำเนินไปตามปกติ โดยมีการใช้ประชุมแบบทางไกล ไม่เช่นนั้นงานจะค้าง อย่าไปหวังให้โควิด-19 หมดต้องอยู่กับความจริงโดยใช้วิธีป้องกัน ส่วนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ชุดต่างๆ ช่วงนี้ก็มีการประชุมน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ส่วนที่มีการประชุมก็ใช้การประชุมด้วยระบบทางไกล

ราเมศ เผย เฉลิมชัย ย้ำ ตัวแทน - สาขาพรรคครบทุกเขต พร้อมทุกเวลาลงสนามลต.หากยุบสภา

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการตั้งตัวแทนพรรค และสาขาตามที่กฎหมายกำหนดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ย้ำถึงการดำเนินการตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ไม่จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง หรือยุบสภาเกิดขึ้นในอนาคตว่า  

พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ในทุกสถานการณ์ได้เตรียมความพร้อมตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้ง การตั้งสาขาพรรค ครบทุกเขตเลือกตั้ง พรรคได้ดำเนินการครบทั้งหมดแล้ว เพื่อรองรับการเลือกตั้ง และทำงานให้กับประชาชน

ในส่วนของการเตรียมตัวผู้สมัคร มีผู้สมัครเดิมที่ยังคงทำพื้นที่อยู่ และมีบุคคลที่สนใจในเขตเลือกตั้งหลายเขตเป็นจำนวนมาก พรรคเตรียมบุคลากรไว้ให้ทำงานทำพื้นที่ล่วงหน้า ทำกิจกรรมร่วมกับประชาชน ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆทำงานร่วมกับส่วนกลางอย่างเต็มที่

ที่สำคัญรัฐมนตรีก็ได้มีการนำผลงานที่เกิดจากนโยบายของพรรคไปสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในเขตเลือกตั้ง รัฐมนตรีทั้ง 7 คน มีหลายผลงานที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นประกันรายได้พี่น้องเกษตรกร เรื่องชลประทานระบบน้ำ การแก้ปัจภัยแล้ง ด้านสวัสดิการ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็กแรกเกิด เรื่องบ้านมั่นคง รวมถึงการศึกษา รวมถึงเรื่องอื่น ๆ และในส่วนทีมยุทธศาสตร์ และทีมนโยบายพรรคได้มีการเตรียมการคิดนโยบายต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้พี่น้องประชาชนให้เกิดประโยชน์และยั่งยืนที่สุดต่อไป

ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน “นายกอบจ.ชัยนาท” น้องชาย “รมต.อนุชา” รวย 34 ล้าน คล้องหลวงปู่ศุข 3 องค์ มูลค่า 1.5 ล. สะสมปืน 6 กระบอก ทั้งไรเฟิล ปืนยาว ปืนสั้น เมียขับปอร์เช่ คันละ 3.5 ล.

เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 โดยนายอนุสรณ์ แจ้งว่า ตนเองและนางสุภาภรณ์ แสงทอง คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 34,878,245 บาท เป็นของผู้ยื่น 8,110,283 บาท เป็นของคู่สมรส 26,767,962 บาท โดยทรัพย์สินของคู่รวมกัน ประกอบด้วย เงินสด 400,000 บาท เงินฝาก 914,641 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 8,130,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 988,804 บาท ที่ดินของนายอนุสรณ์ 1,976,800 บาท เงินลงทุนของนางสุภาภรณ์ ในบริษัท สวิท คิทเช่น จำกัด และบริษัท เอส คิชเช่น จำกัด 1,100,000 บาท ยานพาหนะของนางสุภาภรณ์ 2 คัน มูลค่ารวมกัน 5,850,000 บาท ได้แก่ เบนซ์มูลค่า 2,500,000 บาท และปอร์เช่มูลค่า 3,350,000 บาท 

ขณะที่รายการทรัพย์สินอื่นที่มีมูลค่าตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไปของทั้งคู่ จำนวน 43 ราย มูลค่ารวมกัน 15,518,000 บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจ อาทิ พระรอดเลี่ยมทอง มูลค่า 600,000 บาท พระหลวงปู่ศุขเลี่ยมทองฝังเพชร 3 องค์ มูลค่า 1,500,000 บาท อาวุธปืน 6 กระบอก ได้แก่ ปืนไรเฟิล 2 กระบอก ปืนเดี่ยวลูกกรด 1 กระบอก ปืนยาวอัดลม 1 กระบอก ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ 2 กระบอก แหวนเพชรทองคำขาว กระเป๋ายี่ห้อหรู นาฬิกายี่ห้อหรู เครื่องเพชร นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ แจ้งว่า ตนเองและคู่สมรสมีหนี้สินทั้งสิ้น 7,580,893 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น และเงินเบิกเกินบัญชี 

ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ แจ้งในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นว่า มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา รวม 6 คน ได้แก่ นางจิตร์ธนา ยิ่งวีลาภา นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย นายอนุรักษ์ โค้วคาศัย นายอนุสรณ์ ผู้ยื่น และนางศศิธร อยู่ประยงค์

ศรีสุวรรณ ยื่น กสชท. สอบ สรยุทธ หวนคืนจอเล่าข่าว ทำได้หรือไม่ ชี้ ส่อขัดจริยธรรม

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่สำนักงาน กสทช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ รักษาการเลขาธิการ กสทช. โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ตามที่พิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจของตนเอง เพื่อเตรียมหวนกลับคืนสู่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง จะกลับมารับหน้าที่พิธีกรข่าว ในเดือนพฤษภาคม 2564 เคยทำหน้าที่พิธีกรรายการดังกล่าวมาหลายสิบปี ก่อนที่จะถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีค่าโฆษณาเกินเวลา และต่อมาได้รับการพักโทษ และปล่อยตัวจากเรือนจำอยู่ในขณะนี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่พิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง ถูกต้องโทษและจำคุกในคดีอาญาอันเกี่ยวกับการสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐกระทำผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยการยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการเป็นเวลา 6 ปี 24 เดือน อันถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมแห่งวิชาชีพ โดยชัดแจ้ง ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งที่บุคคลดังกล่าว จะกลับมาทำหน้าที่อยู่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง เพราะบุคคลที่ทำหน้าที่พิธีกรหรือนักเล่าข่าว ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม โดยมีประวัติที่ไม่ด่างพร้อย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ที่สำคัญรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 34 ประกอบมาตรา 35 ระบุในข้อยกเว้นเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนไว้ว่า ต้องไม่ก่อให้เกิดการขัดต่อศีลธรรมอันดีและขัดต่อจริยธรรมวิชาขีพแห่งตนด้วย อีกทั้งข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ พ.ศ.2553 ซึ่งสอดคล้องกับธรรมนูญสภาการสื่อสารมวลชนแห่งชาติ 2553 ได้กำหนดจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพข่าวไว้ชัดเจนในข้อ 10 ความว่า “ต้องไม่ประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพ หรือดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของผู้ประกอบวิชาชีพข่าว”

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องร้องเรียนต่อ กสทช. ให้ดำเนินการตรวจสอบและวินิจฉัยว่า การกลับมาเป็นพิธีกรเล่าข่าวหน้าจอโทรทัศน์ของผู้ที่เคยต้องโทษในคดีอาญา ยังจะสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร และสังคมไทยโดย กสทช.จะสร้างบรรทัดฐานของเรื่องทำนองนี้ไว้อย่างไร

อยากได้ แต่ของส่งไม่ทัน! ‘อนุทิน’ เผย สธ.ติดต่อสารพัดผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 หวังนำเข้าทันเดือนพฤษภาคม 64 แต่ติดปัญหาผู้ผลิตส่งไม่ทัน ย้ำ เดินหน้าลุยฉีดวงกว้างเดือนมิถุนายนนี้ ยืนยันยารักษายังมีเพียงพอ

20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกับบริษัทไฟเซอร์แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องการจัดส่งที่ยังไม่ทันกับความต้องการของไทย ที่ผ่านมา คุยไว้หลายบริษัท และติดปัญหาเดียวกันหมด จะมีแต่ของซิโนแวคที่สามารถจัดหามาได้

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของไทย คือการให้บริการประชาชนในวงกว้างภายในเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยวัคซีนของแอสตราเซนนิกา ภายในอาทิตย์นี้ ทาง อย. จะขึ้นทะเบียนอนุมัติไซต์การผลิตวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นขั้นตอนทางเอกสาร ที่ผ่านมา การผลิตวัคซีนของไทย ได้มาตรฐานดีมาก คิดว่าทุกอย่างสามารถดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนแผนปัจจุบัน ภายในอาทิตย์นี้ จะฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ครบ 100%

เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องจำนวนยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ได้รับรายงานมา ยังมีจำนวนเพียงพอ และตนได้สั่งการให้จัดหาเข้ามาเรื่อย ๆ ยาฟาวิพิราเวียร์ ต้องมีสต็อกอย่างน้อย 5 แสนเม็ด ถึง 1 ล้านเม็ด ส่วนสถานที่รองรับผู้ป่วย มีนโยบายว่า ผู้ติดเชื้อ ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ เราต้องทำทุกทาง เพื่อรักษาชีวิตประชาชน มีความเป็นห่วงเรื่องข่าวสารที่เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นประเด็นที่สังคมสนใจ ขอให้ประชาชนรับข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข ควบคู่กัน เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งอื่น เพราะทางกระทรวงฯ อธิบายตามข้อเท็จจริง โดยผู้ที่ทำงานจริง เข้าใจสถานการณ์จริง

ก่อนหน้านี้ มีหมอจากจังหวัดภาคเหนือ ออกมากล่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่พอ ก็ต้องให้ส่วนกลางชี้แจงว่ามีเพียงพอ จนเข้าใจ ซึ่งคุณหมอได้ออกมาทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว

ส่วนสถานการณ์ การระบาด และมีความกังวลว่า จะมีผู้ป่วยอาการรุนแรงมากขึ้น แล้วเตียงจะพอหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ตอนนี้ ได้เตรียมเตียงไอซียูไว้รองรับแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาจะเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนในต่างจังหวัดมีผู้ป่วยไม่มากก็จะไม่เป็นปัญหา เพราะมีการบริหารจัดการที่กระจายอำนาจไป ซึ่งมีทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาล มีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ อสม. บูรณาการกันทำงาน


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยและอาเซียน ประจำวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยและอาเซียน ยอดผู้เสียชีวิตในไทยเพิ่มขึ้น 4 ราย ยอดติดเชื้อ 1,443 ราย ขณะที่ในอาเซียนยอดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top