ศรีสุวรรณ ยื่น กสชท. สอบ สรยุทธ หวนคืนจอเล่าข่าว ทำได้หรือไม่ ชี้ ส่อขัดจริยธรรม

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่สำนักงาน กสทช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ รักษาการเลขาธิการ กสทช. โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ตามที่พิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจของตนเอง เพื่อเตรียมหวนกลับคืนสู่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง จะกลับมารับหน้าที่พิธีกรข่าว ในเดือนพฤษภาคม 2564 เคยทำหน้าที่พิธีกรรายการดังกล่าวมาหลายสิบปี ก่อนที่จะถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีค่าโฆษณาเกินเวลา และต่อมาได้รับการพักโทษ และปล่อยตัวจากเรือนจำอยู่ในขณะนี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่พิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง ถูกต้องโทษและจำคุกในคดีอาญาอันเกี่ยวกับการสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐกระทำผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยการยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการเป็นเวลา 6 ปี 24 เดือน อันถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมแห่งวิชาชีพ โดยชัดแจ้ง ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งที่บุคคลดังกล่าว จะกลับมาทำหน้าที่อยู่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง เพราะบุคคลที่ทำหน้าที่พิธีกรหรือนักเล่าข่าว ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม โดยมีประวัติที่ไม่ด่างพร้อย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ที่สำคัญรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 34 ประกอบมาตรา 35 ระบุในข้อยกเว้นเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนไว้ว่า ต้องไม่ก่อให้เกิดการขัดต่อศีลธรรมอันดีและขัดต่อจริยธรรมวิชาขีพแห่งตนด้วย อีกทั้งข้อบังคับสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ พ.ศ.2553 ซึ่งสอดคล้องกับธรรมนูญสภาการสื่อสารมวลชนแห่งชาติ 2553 ได้กำหนดจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพข่าวไว้ชัดเจนในข้อ 10 ความว่า “ต้องไม่ประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพ หรือดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของผู้ประกอบวิชาชีพข่าว”

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องร้องเรียนต่อ กสทช. ให้ดำเนินการตรวจสอบและวินิจฉัยว่า การกลับมาเป็นพิธีกรเล่าข่าวหน้าจอโทรทัศน์ของผู้ที่เคยต้องโทษในคดีอาญา ยังจะสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร และสังคมไทยโดย กสทช.จะสร้างบรรทัดฐานของเรื่องทำนองนี้ไว้อย่างไร