Wednesday, 18 June 2025
Politics

‘ธนกร’ ซัด ‘ปิยบุตร’ สนแต่ปลุกนิรโทษฯ คนผิด ม.112 แต่ไม่เคยหนุนจัดการ ‘คนบิดเบือน-เบื้องหลังเยาวชน’

(17 พ.ค.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจและรัฐบาล ตรากฎหมายนิรโทษกรรมโดยรวมคดีผู้กระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าด้วย หลังเกิดเหตุ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิตในเรือนจำ โดยอ้างว่าคดีนี้มีแรงจูงใจจากการเมือง ว่า ส่วนตัว ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ‘บุ้ง’ ด้วย เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่ตนก็ไม่เห็นด้วยกับทั้งการแก้ไขมาตรา 112 รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดในคดีมาตรา 112 ดังกล่าว เพราะถือเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ และย้ำมาโดยตลอด ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงขอคัดค้านหากมีผู้เสนอให้รวมคดีนี้ เป็นคดีการเมือง เพราะมาตราดังกล่าวถือเป็นความมั่นคงของชาติที่ต้องมีไว้ปกป้องประมุขแห่งรัฐ ซึ่งผู้ใดจะละเมิดมิได้ ซึ่งควรมุ่งไปแก้ไขที่ต้นเหตุ คือผู้ที่ให้ข้อมูลบิดเบือน และอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวมากกว่า หากไม่มีผู้ใหญ่กลุ่มนี้ คอยยุยง ส่งเสริมให้ข้อมูลผิด ๆ คงไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวต้องการให้มีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับการประกันตัวนั้น? นายธนกร กล่าวว่า กฎหมายให้สิทธิขั้นพื้นฐานแก่ผู้ต้องหาตามกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีของ ‘บุ้ง’ นั้น ต้องแยกส่วน เรื่องศาลถอนประกันกับการประกาศอดอาหาร เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการถอนประกัน ตนเชื่อว่า ศาลมีการวินิจฉัยที่รอบคอบพิจารณาจากหลักฐานและพฤติการณ์การกระทำความผิดซ้ำหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นดุลยพินิจของศาล ตนไม่ขอก้าวล่วง

ทั้งนี้ตนเห็นด้วยที่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมมีคดีที่มาจากแรงจูงใจทางการเมือง มีข้อสรุปออกมาค่อนข้างชัดเจนแล้ว ว่า เรื่องการกระทำความผิดตาม ป.อาญา ม.112 นั้น ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย การจะนิรโทษกรรม ควรเป็นคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ทั้งที่เป็นแกนนำและมวลชนที่ร่วมชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน หากเป็นคดีที่ไม่ร้ายแรง ก็เข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรมได้

“คนที่พูดกล่าวหา ให้ร้ายดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำผิดมาตรา 112 แบบซ้ำซาก หากมีการเหมารวมยกเข่งนิรโทษกรรมให้คนเหล่านี้ ถือเป็นการ เหยียบย่ำหัวใจคนไทยมากเกินไป เพราะกฎหมายนี้ มีไว้ปกป้องประมุขของประเทศไม่ให้ถูกละเมิด เชื่อว่า ถ้านิรโทษฯ ให้ไม่มีใครรับได้แน่นอน” นายธนกร กล่าว

'อี้-แทนคุณ' ไขก๊อก ปชป. ขอมุ่งงานด้านการศึกษา-สานสัมพันธ์ไทย-จีน พร้อมทำนุบำรุงศาสนา ช่วยเหลือผู้อื่นให้มากที่สุดก่อนตายตามที่ตั้งใจ

(17 พ.ค. 67) ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Tankhun Jittitsara page' ระบุว่า...

จดหมายลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการที่ได้ส่งให้กับ กกต.เรียบร้อยแล้วครับ

จากนี้ไปขอเป็นคนทำงานด้านศาสนา ศิลปะ การศึกษาและส่งเสริมสายสัมพันธ์ไทย-จีน

ที่สำคัญช่วยเหลือคนอื่นให้มากที่สุดก่อนตายตามที่ตั้งใจไว้ครับ

ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ว่าร้ายหรือดี คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ

และขออภัยหากเคยขัดใจล่วงเกินใครไว้

ขอบคุณมากครับ

'อัษฎางค์' ตั้งคำถาม 'พิธา' ให้สัมภาษณ์ล่าสุดแก่สื่อยักษ์เมืองเบียร์ สะท้อนการเป็นแนวร่วม 'บุ้ง-พวกบ่อนทำลายสถาบันฯ' หรือไม่

(17 พ.ค.67) เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

พิธาให้สัมภาษณ์สำนักข่าว DW ของเยอรมันเรื่องการตายของบุ้งว่า...

นักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวเรียกร้อง ‘หลักนิติธรรมแทนการใช้อำนาจตามกฎหมาย’

“It’s a tragic loss for Thailand as a nation, where a group of young activists was asking for the rule of law instead of rule by law. 

มันเป็นความสูญเสียอันน่าเศร้าของประเทศไทยในฐานะชาติที่มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวซึ่งเรียกร้อง ‘หลักนิติธรรมแทนการใช้อำนาจตามกฎหมาย’

The rule of law กับ The rule by law.
คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร้?

Rule by Law คือ การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือของเผด็จการ เอาไว้บังคับคนอื่น ไม่บังคับกับพวกตัวเอง 

Rule of Law คือ หลักนิติธรรมที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

• หลักนิติธรรม (The Rule of Law) เน้นความยุติธรรม ความเสมอภาค และการคุ้มครองสิทธิของบุคคล โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและชอบธรรมต่อทุกคน

• การปกครองโดยกฎหมาย (Rule by Law) เน้นการใช้กฎหมายเพื่อควบคุมและรักษาอำนาจ โดยอาจทำให้ความยุติธรรมและสิทธิของบุคคลถูกละเลย เพื่อรับใช้ประโยชน์ของผู้มีอำนาจ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยปกครองประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ที่บัญญัติไว้ชัดเจนในเรื่องความยุติธรรม ความเสมอภาค และการคุ้มครองสิทธิของบุคคล โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและชอบธรรมต่อทุกคน

พิธาอ้าง “กลุ่มนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวซึ่งเรียกร้องหลักนิติธรรมแทนการใช้อำนาจตามกฎหมาย” 

พวกเขาเรียกร้องให้มีปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยอ้างว่าคนเห็นต่างทางการเมืองต้องไม่ถูกคุมขัง และได้รับสิทธิ์ประกันตัวนั้น 

ทั้งที่ กลุ่มนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวต่างหากที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การกระทำของคนกลุ่มนี้ ไม่ได้เป็นการแสดงความเห็นต่างทางการเมือง แต่เป็นการกระทำที่ไปดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย

ในทุกประเทศทั่วโลก ไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิส่วนบุคคล เพื่อไปดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายและละเมิดสิทธิของผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละเมิดกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ

การที่พิธาเอาเรื่องนี้ไปให้สัมภาษณ์เพื่อบอกกับชาวโลกผ่านสื่อยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี เป็นการแสดงว่าพิธาและพรรคก้าวไกล เป็นแนวร่วมกับบุ้งและพวก ในการตั้งใจละเมิดกฎหมาย “ด้วยมีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง นำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด” ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล หรือไม่?

อัษฎางค์ ยมนาค

อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ >> https://www.atsadang.com/?p=4309&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2VNX8wssj0A6NN5Cl3WF2bKvLxnjwdpcc8uq4cYatk1RAFycpDUKAlrjE_aem_AQ2wBFNBaNGerlexEENz0B2uKh0SEL6vGFpBuZF6uEowdxe6XCSnSbyXK7Ry2CSCIbe2DzGesxMcRuNbMokXRtdl 

เหตุใด? ‘สส.’ ถึงตัดงบฯ สำหรับ ‘เขาพังไกร’ จ.นครศรีธรรมราช หลังสัญญาจะปรับภูมิทัศน์-สร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาท

ผมก็งงว่า…ทำไมงบประมาณในการปรับภูมิทัศน์บนเขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเสนอโดยองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว (อพท.) ถึงถูกตัดออกไปในงบประมาณปี 67

ถูกตัดในชั้นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ และผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรให้ตัดงบก้อนนี้ออกไป

เขาพังไกร ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง และ อพท.รับไว้เป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ แต่เมื่อมีการเสนอของบประมาณเพื่อปรับภูมิทัศน์บนเขาพังไกร กลับไม่ได้รับความใส่ใจจากสภาผู้แทนราษฎร ตัดงบทิ้งเฉย ซึ่ง #นายหัวไทร ไม่รู้ถึงเหตุผลในการตัด การชี้แจงของหน่วยงานเสนอของบกรรมาธิการงบฯ เข้าใจหรือเปล่า

กล่าวถึง ‘เขาพังไกร’ ต้องมีตำนานผูกโยงกับช้างแน่นอน เพราะมีคำว่า ‘พัง’ หมายถึงช้างตัวเมีย นครศรีธรรมราช มีเรื่องของช้างหลายเชือก เช่น พลายจำเจิญ พลายดำ ช้างตัวเมียเชือกหนึ่งมาล้มที่เขาพังไกร จึงตั้งชื่อชุมชนย่านนี้ว่า ‘เขาพังไกร’

เขาพังไกร ยังมีจุดชมวิวและมีรอยพระพุทธบาทจำลอง ที่ตั้งบนยอดเขาพังไกร สามารถชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา จึงเป็นจุดขายทางด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนท้องถิ่นเป็นอย่างมาก เหมาะแก่การพัฒนา และยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอ พร้อม ๆ กับการศึกษาเรียนรู้วิถีเกษตร แหล่งทำนาใหญ่ของอำเภอหัวไทร

ตามประวัติศาสตร์การปกครอง เขาพังไกรเคยเป็นที่ตั้งของอำเภอ แต่ต่อมาได้ย้ายไปตั้งที่หัวไทรในปัจจุบัน ‘เขาพังไกร’ ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า ราวปลายกรุงสุโขทัย ตำบลเขาพังไกรขณะนั้นนับเป็นเมืองที่เก่าแก่เมืองหนึ่ง ซึ่งมีความเจริญทางด้านการเกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำในสมัยนั้น จนมาถึงปัจจุบันพื้นที่ ต.เขาพังไกร ก็ยังเป็นแหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ เป็นดินแดน 2 ลุ่มน้ำคือลุ่มน้ำปากพนังและลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จึงมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก 

เขาพังไกรมีอัตลักษณ์การดำรงวิถีชีวิตชาวนาไทยอย่างชัดเจน มีข้าวสายพันธุ์ท้องถิ่นที่ยังมีการปลูกกันอยู่ เช่น ข้าวไข่มดริ้ว ส้มโอทับทิมสยามก็เริ่มขยายพื้นที่ปลูกจากปากพนังมาถึงหัวไทร มาถึงเขาพังไกรแล้ว

เขาพังไกร โดยเฉพาะบนเขาพังไกร จึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการพัฒนา ยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเชื่อมโยงกับชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวิถีชีวิตและประเพณีจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมที่ชุมชนร่วมจัดขึ้น สร้างงานสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ภายใต้การดูแลของ อพท.และท้องถิ่น

รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา (สมัยที่ผ่านมา) พิพัฒน์ รัชกิจประการ เคยเดินทางขึ้นไปร่วมกิจกรรมบนเขาพังไกรมาแล้ว และเคยรับปากจะช่วยผลักดันโครงการปรับภูมิทัศน์และสร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาทมาแล้ว

ผมเองได้ขึ้นไปกราบรอยพระพุทธบาทบนเขาพังไกรมาแล้วสองครั้ง เพิ่งไปมาเมื่อไม่นานมานี้เอง และเพิ่งรู้ว่าบนเขาพังไกรมารอยพระพุทธบาท และรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ไปสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เห็นท้องนาเขียวขจียืนต้นขนานไปกับต้นตาลสูงเด่นเป็นสง่า

แต่น่าเสียดายโครงการปรับภูมิทัศน์และสร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาทบนเขาพังไกร ถูกตัดทิ้งอย่างไม่ไยดีจากสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นไรครับ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

เรื่อง : นายหัวไทร

‘ชัยวุฒิ’ เผย อยากให้เรื่อง ‘บุ้ง’ เป็นอุทาหรณ์ ไม่ให้มีใครตกเป็นเหยื่อขบวนการทางการเมืองอีก

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เผยอยากให้เรื่องบุ้ง เป็นอุทาหรณ์ ไม่ให้มีใครตกเป็นเหยื่อทางการเมืองอีก พร้อมระบุ พรรคการเมืองไม่ควรดึงเยาวชนมาเป็นเครื่องมือ เคลื่อนไหวเรื่องสถาบัน 

(17 พ.ค. 67) ที่ห้องประชุมโรงแรมไชยแสง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเปิดงานประชุมใหญ่สาขาพรรคภาคกลาง จังหวัดสิงห์บุรี เวทีประชารัฐร่วมใจเพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้คนไทยทั้งประเทศ

โดยนายชัยวุฒิ กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมประจำปีของสมาชิกพรรคที่จังหวัดสิงห์บุรีเรียบร้อยดี เป็นการประชุมและรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชนเพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป

ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนี้ การเคลื่อนไหวทางการเมืองก็เป็นเรื่องที่นักการเมืองทุกคนให้ความสนใจอยู่แล้วพยายามแก้ไขอยู่ แต่การเคลื่อนไหวบางเรื่องมันเลยต่อเรื่องการเมืองเป็นการทําผิดกฎหมาย เช่น การผิดมาตรา 112 เป็นการจาบจ้วงสถาบัน อาฆาตมาดร้ายสถาบันนั้นมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งก็ถูกดําเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม ผมก็เห็นใจผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน หลายคนก็เป็นเหยื่อของขบวนการแก้ไขมาตรา 112 ผมเห็นใจทุกคน เพราะว่าหลายคนผมได้พูดคุยสอบถามก็ไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือถูกกระทำจากสถาบัน แต่ถามว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรไม่มี แต่ถูกยุยงปลุกปุกปั่นให้เกิดความเข้าใจที่ผิด ได้ออกมาเคลื่อนไหวจนตัวเองเดือดร้อนต้องถูกดําเนินคดี ก็เห็นใจทุกคน แต่ไม่อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง เพราะว่าเป็นเรื่องของกระบวนการที่มีการดําเนินการในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องแล้วไม่เกี่ยวกับการเมือง และที่สําคัญมีหลายคนไปพูดว่ากระบวนการยุติธรรมเราบิดเบี้ยวไม่ให้ประกันตัว ผมก็ติดตามเรื่องนี้อยู่ก็เข้าใจว่าทุกคนก็เคยได้รับการประกันตัว เพียงแต่ว่าบางคนมีเงื่อนไขไม่ให้ทำผิดซ้ำ คือไม่ให้ไปกระทำความผิดอีก ซึ่งหลายคนก็ได้รับการประกันตัว แต่กลับไปทําผิดซ้ำอีก ขัดคําสั่งของเรื่องการประกันตัว ก็ต้องถูกจับเข้าไปในคุกใหม่ ซึ่งอันนี้ก็เห็นใจน้อง ๆ 

แต่บางคนที่รับการประกันตัวก็หนีไปแล้ว เช่น ไมค์ระยองก็หนีไปแล้ว ผมว่าหลายสิ่งหลายอย่างขบวนการนี้มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมายแล้วก็มีการทําผิดซ้ำ ถ้าเราไม่เข้าใจและปล่อยให้กระบวนการเหล่านี้ดําเนินการต่อไปเรื่อย ๆ ผมว่ามันจะกระทบกับความมั่นคง กระทบกับจิตใจของคนไทยหลาย ๆ คนที่เขารับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้

40 สว.แผลงฤทธิ์ จับ 'เศรษฐา-พิชิต' ขึ้นเขียง ส่ง 'ศาลรธน.' ฟัน!! ชี้ขาดคุณสมบัติสิ้นสุด?

ตอนแรกคาดกันว่า การเข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 จะเป็นปฏิบัติการทิ้งทวนสั่งลาของสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ชุดรักษาการ...แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่...เมื่อปรากฏข่าวว่า 40 สว.เข้าชื่อกันเสนอให้ประธานวุฒิฯ ทำหนังสือส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า...

ความเป็นรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรธน.มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160(4)(5) หรือไม่...

หนังสือที่ว่าถึงโต๊ะ ศาลรธน.เรียบร้อยแล้ว...ทีนี้ก็มาเปิด รธน.ดูกันอีกครั้ง

มาตรา 170 ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เมื่อ (4) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160

สำหรับมาตรา 160 รัฐมนตรีต้อง...
(4) มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์
(5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ขยายความตามท้องเรื่องก็คือ...เป็นประเด็นเดิมที่สื่อมวลชน-สังคมเคยถูกเถียงกันว่า กรณีนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่เคยถูกคำสั่งศาลจำคุก 6 เดือน (เมื่อปี 2551) ฐานละเมิดอำนาจศาลกรณี 'ถุงขนม' หรือกรณีติดสินบนศาล ยังจะเป็นรัฐมนตรีได้จริง ๆ หรือ...

และต่อมาก็มีการเปิดเผยเอกสารลับการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ประเด็นที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีถามเรื่องคุณสมบัติไปเมื่อเดือน ก.ย.2566 นั้น ถามเฉพาะหรือเพียงว่าขัด รธน.มาตรา 160 (6) ที่ระบุว่าไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (ลักษณะต้องห้ามกรณีลงสมัคร สส.) เท่านั้น...ไม่ได้ถามมาตราอื่น

สรุปว่างานนี้ สว.40 คน เขาได้ทำหน้าที่แทนประชาชนที่คับข้องหมองใจได้ครบถ้วนกระบวนความ เหตุที่ต้องพ่วงนายกฯ ไปด้วย แทนที่จะเป็นรมต.ถุงขนม-พิชิต ชื่นบาน คนเดียว...ก็เพราะนายกฯ เป็นผู้นำความกราบบังคมทูล...ถ้านายพิชิตมีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง นายกฯ ผู้ทูลเกล้าฯ ก็ผิดไปด้วย...ประมาณนั้น...

คนที่ได้ยินคำว่า '40 สว.' ก็สะดุ้งนิดหน่อย เพราะบังเอิญไปตรงกับกลุ่ม 40 สว.เมื่อหลายปีก่อน ที่ค่อนข้างเป็น 'สว.น้ำดี' จากการเลือกตั้งและลากตั้ง...แต่ 40 สว.เฉพาะกิจรอบนี้ก็ดังที่รู้กันว่า...ไม่ใช่...

สายข่าวระบุว่า เมื่อตรวจสอบ 40 รายชื่อแล้วหลายคนเป็น สว.สายเขียว เป็นเตรียมทหารรุ่น 12 เพื่อน 'บิ๊กตู่' นำโดย 'บิ๊กเจี๊ยบ' พล.อ.อรรคนิตย์ หมื่นสวัสดิ์ และยังมี สว.สายทหารรุ่นอื่น ๆ อีก เช่น พล.อ.บุญธรรม โอริส...นอกนั้นก็เป็น สว.ตัวตึงที่คุ้นชื่อกันดี เช่น สมชาย แสวงการ, ประพันธ์ คูณมี, ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม, มหรรณพ เดชวิทักษ์ เป็นต้น

คาดว่างานนี้จะใช้เวลาไม่นาน...เพราะเป็นเรื่องข้อกฎหมายแทบจะล้วน ๆ พูดกันตรงไปตรงมาก็นับว่าชวนเสียวไส้ไม่น้อยเพราะในอดีต นายกรัฐมนตรีของพรรคทักษิณเคยถูกศาล รธน.วินิจฉัย หลุดจากตำแหน่งนายกฯ มาแล้ว 3 คน 

ปี 2551 สมัคร สุนทรเวช คดีทับซ้อนผลประโยชน์จัดรายการชิมไปบ่นไป / ปี 2557 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรกรณีใช้อำนาจมิชอบปลด นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.

ปี 2567 ถ้าเศรษฐาร่วง ก็ต้องบอกว่าเพราะตั้งรมต.ถุงขนม

รวมความแล้ว เดือน พ.ค.-ก.ค. ได้ลุ้นระทึกกัน 3 เรื่องราวเป็นอย่างน้อย...

- 29 พ.ค. อัยการจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องทักษิณ ชินวัตร คดีถูกกล่าวหาผิดมาตรา 112
- มิ.ย.-ก.ค. คดียุบพรรคก้าวไกล และรวมทั้งคดี 'เศรษฐา-พิชิต'

ยิ่งถ้าใครไปพลิกคำทำนายของโหราจารย์สำนักต่าง ๆ ในยามนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่าระทึก โดยเฉพาะคำทำนายว่า แถว ๆ ส.ค.-ก.ย. อาจจะเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ไม่ใช่ยึดอำนาจ แต่ก็เหมือนยึดอำนาจ และบางโหรระบุว่า เศรษฐามีโอกาสเก้าอี้หาย...อีกต่างหาก

นานาสถานการณ์ล้วนแล้วแต่กระพริบตาไม่ได้..!!

‘ก้าวไกล’ ออกแถลงการณ์ กรณี ‘บุ้ง’ เสียชีวิต เรียกร้องรัฐบาล 4 ข้อ ย้ำ!! ต้อง ‘ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม-สร้างประชาธิปไตยเข้มแข็ง’ ให้ปชช.

เมื่อวานนี้ (17 พ.ค. 67) พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม (บุ้ง) นักกิจกรรมทางการเมือง เรียกร้องต่อรัฐบาลให้มีบทบาทในการสร้างการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน สร้างหลักประกันในการประกันตัว และคลี่คลายสถานการณ์เพื่อนำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ของสังคม

ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ ระบุว่าในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบพบเจอกับการรัฐประหาร อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ประชาชนจึงตั้งความหวังว่า การนิรโทษกรรมทางการเมือง ตลอดจนการปรับปรุงกฎหมายที่จะปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนจะเป็นวาระที่สำคัญของรัฐบาลนี้

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ปรากฏ การเสียชีวิตของ เนติพร เสน่ห์สังคม จากการอดอาหารประท้วงต่อการไม่ได้รับประกันตัว ย่อมส่งผลให้ความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมเสียหายเป็นอย่างมาก พรรคก้าวไกลจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อกระบวนการยุติธรรมอันเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชน

1) ต่อการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ควรกำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลในการชะลอคดีทางการเมือง เพื่อไม่สร้างความขัดแย้งเพิ่มเติมจนกว่าจะได้ความชัดเจนในการจัดทำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และต้องกำหนดให้สิทธิในการประกันตัว การไม่คัดค้านการประกันตัว หรือมีความเห็นไม่ให้ถอนการประกันตัวของตำรวจในคดีการเมือง ซึ่งสามารถทำได้ทันที เนื่องจากตำรวจอยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีโดยตรง

2) ข้อเสนอต่อการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ขององค์กรอัยการ ให้นายกรัฐมนตรีมีความเห็น หรือรัฐบาลมีมติ ครม. เสนอไปยังอัยการสูงสุด ให้พิจารณาให้สั่งไม่ฟ้องหรือถอนฟ้องได้ตามมาตรา 21 พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ 2553 ประกอบข้อ 7 ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งคดีอาญาที่ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือมีผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ 2554

ทั้งนี้ ข้อ 7 (4) เหตุผลตามความเห็นของรัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรีถึงผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์สำคัญของประเทศ และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2561, ข้อ 7 (5) เหตุผลตามความเห็นของนายกรัฐมนตรีหรือหน่วยงานอื่นถึงผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, ข้อ 7 (6) ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือความสามัคคีของคนในชาติ

ซึ่งนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีสามารถดำเนินการให้บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางการเมืองทั้งหลาย ให้คดีเป็นอันยุติลงไป

3) ข้อเสนอต่อคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามมาตรา 108/1 ให้อำนาจศาลยุติธรรมในการใช้ดุลพินิจพิจารณาให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย ทั้งนี้ การประกันตัว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ การไม่ให้ประกันตัวตามกฎหมายดังกล่าว จะต้องปรากฏว่ามีพฤติการณ์บางอย่าง เช่น มีพฤติกรรมหลบหนี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ซึ่งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี สมควรมีการปรึกษากับประธานศาลฎีกา ในฐานะประมุขของศาลยุติธรรม เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานนี้ เมื่อรัฐบาลมีแนวนโยบายที่จะนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองให้กับประชาชน การชะลอคดีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องหารือกับทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดการดำเนินคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม

4) การนิรโทษกรรมมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน แม้ว่าปัจจุบันจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ของสภาผู้แทนราษฎร แต่ผลการศึกษาดังกล่าว ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายที่จะนำไปสู่การสร้างความปรองดองของสังคมในตอนนี้ได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงสมควรเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเร่งด่วน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างความสมานฉันท์ในสังคมต่อไป

นอกจากการนิรโทษกรรมแล้ว รัฐบาลสามารถเสนอร่างกฎหมายอื่นที่จะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้เกิดการปกป้องสิทธิมนุษยชน ตลอดจนให้ความคุ้มครองในการประกันตัวของประชาชนที่จะสามารถต่อสู้คดีปกป้องสิทธิของตนเองได้อย่างเต็มที่ต่อไป

“สุดท้ายนี้ พรรคก้าวไกลตั้งความหวังว่า รัฐบาลจะดำเนินการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง เหตุการณ์เสียชีวิตอย่างกรณีคุณเนติพร เสน่ห์สังคม ไม่สมควรจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย จะได้กลับมาทบทวน การฟื้นฟูรากฐานกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ตามที่ประชาชนพึงได้รับ” แถลงการณ์พรรคก้าวไกลระบุ

‘เศรษฐา’ ยัน!! เก็บเก้าอี้ รมต.ไว้ให้ ‘รทสช.’ ส่วนเรื่องกระทรวง เดี๋ยวค่อยคุยกัน ย้ำ!! มีจุดหมายเดียวกัน ทำงานเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ของพี่น้องประชาชน

(18 พ.ค. 67) ที่สาธารณรัฐอิตาลี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่าง ลงในสัดส่วนของ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ว่า ก็เก็บไว้ให้พรรครวมไทยสร้างชาติเขา แต่ถึงวันนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่ได้มีการติดต่อมา หากมีการเสนอก็ต้องมีการพูดคุยกันต่อไป แต่ยืนยันว่าเป็นโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ 

เมื่อถามว่าโควตาดังกล่าวหมายถึงจะยังคงเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเดิมใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่เราอยู่ด้วยกัน เราต้องรับฟังความคิดเห็นกันก่อน โดยเฉพาะความคิดเห็นจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านอยากได้อะไร หรือมีความคิดอย่างไร 

“ผมเชื่อว่า ทั้งผมและท่านรองนายกฯพีระพันธุ์ ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน หากคิดว่ากระทรวงที่ท่านเสนอมาจะทำงานได้ อย่างเหมาะสมในกระทรวงอะไร คิดว่าเราพูดคุยกันได้ แต่หากไปกระทบกับพรรคอื่นก็ต้องพูดคุยกันในวงกว้างขึ้นก็เท่านั้นเอง” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เจ้าพ่อเพลงละคร ‘ปิงปอง ศิรศักดิ์’ อด สมัคร ‘สว.’ เผย!! ถูกตัดสิทธิ์ เพราะไม่ได้ไปเลือกตั้งซ่อมฯ

(18 พ.ค. 67) จากกรณี อดีตนักร้องดัง ปิงปอง ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ ที่เพิ่งเปิดตัวว่ามีความประสงค์ จะลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. เมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดวันนี้ ปิงปอง ศิรศักดิ์ ได้โพสต์แจ้งข่าวร้ายทางเฟซบุ๊ก ‘Sirasak Ittipholpanich’ ว่าตนเองนั้น ไม่สามารถลงสมัคร สว.ได้แล้ว โดยระบุข้อความว่า ...

ผมไม่ได้ลงสมัคร สว. แล้วครับ ต้องขอโทษทุกคนเป็นอย่างยิ่ง สาเหตุที่ไม่สามารถลงสมัครได้ เป็นเพราะว่าผมไม่ได้ไปเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาเทศบาลนนทบุรี เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ครับ (ก่อนวันเลือกตั้งใหญ่ในปีที่แล้วหนึ่งสัปดาห์) ซึ่งผมเพิ่งมารู้นี่แหละครับว่ามันมีการเลือกตั้งในวันนั้น

คงต้องโทษตัวเองครับที่เพิ่งมารู้เรื่องเอาตอนนี้ แม้สัปดาห์ที่แล้วจะมีการเลือกตั้งซ่อมอีกครั้ง (ครั้งนี้ผมได้ไปใช้สิทธิ์) ก็ยังไม่สามารถคืนสิทธิ์การสมัคร สว. กลับมาได้ (ในช่วงที่ผ่านมาได้ตรวจเช็กข้อกฎหมายทุกทางแล้วครับ)

ขอโทษทุกคนที่ฝากความหวังไว้กับผม ขอบคุณหลายคนที่เสียเวลาวิ่งหาข้อมูลเพื่อช่วยเหลือผมและขอโทษที่ทำให้เสียเวลาเปล่า ฝากพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้สมัคร สว. ที่เหลือด้วยครับ และหลายคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด ลองเช็กดูด้วยนะครับว่า เคยมีการแจ้งอะไรไปที่บ้านหรือเปล่า อาจจะมีหลายคนที่ไม่รู้เรื่องนี้เพราะมันไม่ใช่การเลือกตั้งใหญ่

‘บิ๊กโจ๊ก’ ขอเดินหน้าทำเพื่อประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน ยัน!! ไม่สมัคร ‘สว.’ เพราะตนเองยังถือว่าเป็น ‘ข้าราชการตำรวจ’ อยู่

(18 พ.ค. 67) ที่จังหวัดสงขลา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดเผยถึง กรณีเปิดรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา ว่าส่วนตัวแล้วยืนยันได้เลยว่า ตนไม่ขอลงสมัคร สว. แต่จะเดินหน้าทำเพื่อประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ประกาศชัดมีโอกาส จะดูแลประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านกฎหมาย สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อกล่าวหาถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ที่ต้องสงสัย ทุจริตต่อหน้าที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ภายใต้หัวข้อ ปฏิบัติการกวาดบ้าน ให้ ป.ป.ช. พื้นที่แรกที่อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา โดยมีประชาชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยต่างนำบัตรประชาชน มาแสดงเจตจำนง เพื่อขอร่วมลงชื่อตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 236 เพื่อขอกล่าวหาตรวจสอบกรรมการ ป.ป.ช.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตั้งแต่หลังยื่นหนังสือจนถึงวันนี้ผ่านไปไม่ถึง 48 ชั่วโมงมีประชาชนมาร่วมลงชื่อแล้วกว่า 6,000 ราย ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกหลังมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการล่าลายรายชื่อเพื่อกล่าวหาตรวจสอบ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้าราชการของรัฐ และจากนี้ไปจะไปต่อในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดพัทลุง และ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนที่จะไปต่อในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นในช่วงสัปดาห์ต่อไป พื้นที่จังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี และปิดท้ายในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ 

ยืนยันว่าปฏิบัติการครั้งนี้ จะใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ ก็จะได้รายชื่อกว่า 20,000 รายชื่อตามเงื่อนไข โดยจะรวบรวมรายชื่อทั้งหมด เพื่อยื่นให้กับประธานรัฐสภา ตามหลักเกณฑ์และหากไต่สวนแล้ว มีเหตุให้เชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาประธานรัฐสภาก็จะส่งเรื่องไปให้ประธานศาลฎีกา เพื่อพิจารณาถอดถอน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะลงสมัคร สว. เนื่องจากคุณสมบัติยังไม่ครบ เพราะจนถึงวันนี้ยังคงทำหน้าที่เป็นตำรวจ ถือเป็นข้าราชการของรัฐ ดังนั้นการออกมารณรงค์ครั้งนี้ก็เป็นเพราะ ประชาชนเรียกร้องให้ออกมาในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผมถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของประชาชนทุกคน 

ที่สำคัญไปกว่านั้นจะเห็นได้ว่าทันทีที่เปิดโครงการปฏิบัติการกวาดบ้านให้  ป.ป.ช. แทบไม่มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. หรือฝ่ายบริหารของ ป.ป.ช. ออกมาร้องคัดค้านหรือเรียกร้องให้เรายุติ แต่กลับส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับการทำหน้าที่ที่ต้องสงสัยว่า ทุจริตต่อหน้าที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ของกรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าวมาเพิ่มเติมให้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนไม่ว่าท่านจะอยู่ภูมิภาคใดของประเทศ  ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ในการช่วยกันปกป้อง ไม่ให้เกิดการกระทำผิด ทุจริตคอรัปชัน ในทุกองค์กรของรัฐ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top