Saturday, 28 June 2025
Politics

‘บิ๊กป้อม’ ควง ‘ธรรมนัส’ ทำบุญพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ วัดโพสพผลเจริญ  ด้าน ปชช.ในพื้นที่รอให้กำลังใจ ตะโกนเรียกนายกฯ คนที่ 30

(30 ก.ค. 66) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในพิธียกช่อฟ้า อุโบสถวัดโพสพผลเจริญ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ และนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ร่วมพิธีด้วยทั้งนี้ ก่อนที่พลเอกประวิตร จะเดินทางมาถึงที่วัดมีฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ทันทีที่พลเอกประวิตร และคณะมาถึงฝนก็ได้หยุด และมีประชาชนมารอให้การต้อนรับจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังขอถ่ายรูป รวมถึงนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอวของพลเอกประวิตร พร้อมส่งเสียงเชียร์บอกให้สู้ๆ และเรียกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อีกด้วย ซึ่งพลเอกประวิตร มีสีหน้า สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส

ต่อมาในเวลา 13.19 น. พลเอกประวิตร พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส และนายสุรทิน ได้ร่วมพิธียกช่อฟ้าอุโบสถฯ จนเสร็จสิ้นพิธี ท่ามกลางคำกล่าว “สาธุ สาธุ สาธุ” จากพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก จากนั้นพลเอกประวิตร ได้นำคณะไปปลูกต้นพยุง ไม้มงคล และร่วมพิธีเสริมดวงชะตาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งในช่วงทำพิธีดังกล่าว ทางวัดขอให้สื่อมวลชนออกไปรอภายนอกโบสถ์ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดี

มีรายงานว่า หลังเสร็จพิธีแล้ว พลเอกประวิตร ยังได้ทักทายประชาชนที่รอให้กำลังใจ ก่อนจะเดินขึ้นรถกลับทันที ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
 

'สส.อรรถกร-พปชร.' ยื่นญัตติด่วนขอสภาฯ ตั้ง กมธ.แก้ไขราคากุ้งตกต่ำ  ช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้ง 'ปัจจัยรุมเร้า-นำเข้าจาก ตปท.พุ่ง'

(31 ก.ค. 66) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนได้เสนอญัตติด่วน เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำ เนื่องจากในขณะนี้ ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั้งขนาดกลาง และขนาดย่อยกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคากุ้งเลี้ยงตกต่ำอย่างรวดเร็ว โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งหลังจากการที่ คณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) หรือบอร์ดกุ้งอนุมัติการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดียเข้ามา โดยอ้างว่าเกษตรกรไทยมีโครงการประกันราคากุ้งอยู่แล้ว

"ปัญหาการขาดทุนจากการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกร เกิดมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูง และ มีโรคระบาดในกุ้ง ประกอบกับราคาประกันขั้นต่ำที่ห้องเย็นตั้งไว้นั้นเท่ากับราคาต้นทุนการผลิตที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้เกษตรกรขายในราคาขาดทุน ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาหนี้สิน" นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า แม้ราคากุ้งจะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp Board) แต่ราคาของจริงไม่ได้ตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด จึงต้องการให้รัฐช่วยลดภาระต้นทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เช่น ค่าอาหารกุ้ง ค่าปู่น ค่าไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง หากภาครัฐไม่ดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม ปัญหาอาจบานปลายได้ 

"ผมจึงขอให้สภาฯ ตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคากุ้งดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยโดยเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดินและประชาชนจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะรักษาความมั่นคง ของประเทศในทางเศรษฐกิจและสังคม โดยญัตติที่ผมเสนอไปได้ถูกบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ทันท่วงที" นายอรรถกร กล่าว

'อานันท์' ชี้!! ตอนนี้ 'สังคมไทย' อยู่ในสภาพที่ไม่ปกติที่สุด ยกกรณี 'สว.' โหวตนายกฯ

(31 ก.ค. 66) จากเพจ ‘Gong Paramet Bhuto’ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า…

คุณอานันท์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง ก็ล้วนแต่มาจากเหตุการณ์ที่ไม่ปกติของสังคมไทย เพราะถ้าเหตุการณ์ปกติ คุณอานันท์ ก็จะไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งแรกปี 2534 ได้เป็นเพราะคณะรัฐประหารไม่กี่คน เห็นว่าท่านภาพลักษณ์ดี ตั้งมาเป็นนายกฯ คงช่วยเรื่องการยอมรับจากสังคม

ครั้งที่ 2 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ก็มาแบบไม่ปกติอีก เพราะคนจากพรรคเสียงข้างมาก แต่งชุดขาวรอประกาศ แต่สุดท้ายกลายเป็นชื่อ ‘นายอานันท์’ แทน ซึ่งกระแสตอนนั้น ก็ไม่มีใครว่าคุณอานันท์ ออกจะดีใจด้วยซ้ำไป ซึ่งมองอีกมุมคุณอานันท์ก็ได้พิสูจน์ว่า นายกฯ มาจากไหนไม่สำคัญ สำคัญว่ามาแล้วได้ทำประโยชน์อะไรกับบ้านเมืองบ้าง ซึ่งคนแบบคุณอานันท์คงไม่มีทางได้เป็นนายกฯ ในสถานการณ์ที่ปกติได้ เพราะท่านไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง

และหากจะว่าไปแล้ว การรัฐประหารเมื่อปี 34 มีเหตุผลและความชอบธรรมน้อยกว่า การรัฐประหารเมื่อปี 57 มาก เพราะปี 34 หยิบยกข้ออ้างเรื่องนักการเมืองคอรัปชั่น เรื่องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นหลัก ไม่ได้มีสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรง มีการสูญเสียชีวิตประชาชน และมีแนวโน้มสู่สภาวะมิคสัญญี เหมือนปี 57 แม้แต่น้อย

แต่ท่านก็ยินยอมพร้อมใจรับตำแหน่งนายกฯ บนวิถีทางไม่ปกติทั้ง 2 ครั้ง ความจริงแล้วหลายคนคาดหวังว่า ด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ และการผ่านโลกมาเกือบจะศตวรรษของท่าน น่าจะเข้าใจเหตุปัจจัยและบริบททางการเมืองของไทยที่เป็นจริงมากกว่าพวกนักท่องตำราที่มีอยู่ดาษดื่นในสังคม

‘เพื่อไทย’ นัดถก ‘8 พรรคร่วม’ 2 ส.ค.นี้ ก่อนโหวตนายกฯ หลังซาวเสียง ‘สส.-สว.’ ลั่นตรงกัน ย้ำ!! ต้องไม่มีก้าวไกล

(31 ก.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการนัดประชุม 8 พรรคร่วมภายหลังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เตรียมออกวาระการประชุมรัฐสภา เพื่อเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ว่า เบื้องต้นจะนัดประชุม 8 พรรคร่วมในวันที่ 2 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย เนื่องจากวันที่ 1 ส.ค.ยังคงเป็นวันหยุด หลายคนยังอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่สะดวกมาร่วมประชุม

อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับทั้ง สว.และ สส.จากพรรคการเมืองต่างๆ จนถึงขณะนี้ ทั้ง สส.และ สว. ยังแสดงความเห็นตรงกันว่าพร้อมจะยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล อยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ พวกเขาก็ยังยืนยันว่าจะไม่ให้เสียงสนับสนุน

‘เพื่อไทย’ ลุยทำการบ้าน!! นัดประชุม สส. 3 ส.ค.นี้ เตรียมความพร้อมโหวต ‘เศรษฐา’ ชิงเก้าอี้นายกฯ

(31 ก.ค. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรค พท. เป็นแกนนำ ที่ผ่านมาพรรค พท. ได้ไปทำการบ้านรับฟังเสียงจากทั้ง สส. และ สว.ในมุมมองเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลตามที่ 8 พรรคร่วมมอบหมาย ซึ่งขณะนี้งานใกล้เสร็จสิ้นแล้วเราจะนัด 8 พรรคพูดคุยกันอีกครั้งแต่ยังไม่กำหนดวันแน่นอนเพราะต้องรอถามความพร้อมของทุกฝ่าย แต่สิ่งที่มีกำหนดแน่นอนแล้ว พรรคเพื่อไทย ที่จะมีการประชุม สส. วันที่ 3 ส.ค. ที่รัฐสภา เตรียมความพร้อม สส. ก่อนการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรายชื่อที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอเพื่อโหวตเป็นนายกฯ ต่อรัฐสภาวันที่ 4 ส.ค. คือ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย

'สุกัญญา มิเกล' ลั่น!! อีก 4 ปี ค่อยจ่ายภาษี จ่ายแล้วไม่ได้ประโยชน์

เมื่อวานนี้ (31 ก.ค. 66) ดารานักร้องเสียงห้าว สุกัญญา มิเกล มาร่วมพิธีบวงสรวง ซีรีส์ High School Bully ที่ ม.กรุงเทพ รังสิต หลังจากเสร็จพิธีกรเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ตั้งแต่ออกมาคอลเอาท์ก็โดนบูลลี่หนัก

ทุกวันนี้ยังโดนบูลลี่อยู่มั้ย? “ก็ยังมีเรื่อยๆ นะ เราอยู่ในโหมดกีฬาสีเหลืองแดงนี่โดนประจำ อยู่ทางไหนอีกฝั่งก็ถล่ม เป็นเรื่องปกติ”

พอก้าวผ่านมาได้แล้วยังเจ็บปวดอยู่มั้ย? “นี่ไปบำบัดจิตมานะ ถ้าไม่ไปบำบัดจิตน่าจะไม่ดีขึ้น แต่ก็ยังเหลือเชื้อบ้าง บางอย่าง คือพอดีมีครูลี่เป็นนักบำบัดไปเรียนมาจากต่างประเทศ เราก็เลยได้ไปอยู่ 3 ครั้ง เหมือนเข้าคอร์สสำหรับเคลียร์จิตใต้สำนึกเลย

หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าเรามองหาสิ่งที่เป็นข้อดีของตัวเรา ดังนั้นเวลาที่เขาบูลลี่หรือด่าเรา เราจะไม่รู้สึก เพราะมันไม่ใช่ความจริง สิ่งที่เป็นจริงคือสิ่งที่เรารู้อยู่ว่าเราทำอะไร และตั้งมั่นว่าเรารับรู้อย่างชัดเจนว่าเราทำอะไร และเราทำเพื่ออะไร มันเป็นผลร้ายหรือผลดีกับใคร

พอเรารับรู้แล้วมันก็เป็นเสียงภายนอก เป็นมุมมองของแต่ละคน ซึ่งเราก็เคารพ ก็ว่าจะฟ้องหลายทีแล้ว แต่ยังไม่กล้าฟ้องใครเลย ชาวเน็ตนี่แหละ พอไปดูโปรไฟล์แล้วแต่ละคนก็น่าสงสารพอๆ กับเราเลย (หัวเราะ)”

พอเราออกมาคอลเอาท์เรื่องการเมืองบ่อยๆ โดนหนักเลยมั้ย? “ก็โดนหนัก เรื่องของงานบางทีบางคนก็อยากได้งานจากเรา แต่พอบรรดาผู้บริหารเห็นก็ไม่เอาก็มี หรือบางร้านที่อยากเอาเราไปเล่นก็กลัวว่าฝั่งตรงข้ามจะมาสร้างปัญหาภายในร้าน ก็เลยไม่เอาเราไปเล่นก็มี”

คิดจะเพลาๆ ลงมั้ย? “เพลาเพื่อ เรายังจ่ายภาษีอยู่ ถ้าไม่จ่ายและมันไม่เอาภาษีเราแล้ว เราจะหยุด บอกว่าไม่จ่ายแล้วไม่ผิดเราจะหยุดเลย อย่างเลือกตั้ง 4 ปีครั้งนึงเนี่ย กะว่าอีก 4 ปีค่อยจ่ายภาษี เพราะจ่ายไปแล้วมันไม่ได้ประโยชน์อะไร เลือกไปแล้วไม่ได้มา”

ตอนนี้สภาพจิตใจกลับมา 100% หรือยัง? “ค่อนข้าง 100 จะมีบางช่วงที่เครียดมากๆ พอเครียดมากๆ อาการดิ่งก็จะกลับมา แต่ดิ่งล่าสุดคือเกี่ยวกับเรื่องชีวิต เรื่องที่อยู่อาศัย แต่มันน้อยมากเลยถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนี้จะเป็นตลอดเวลา เรียกว่าเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง

แต่คนข้างนอกไม่รู้ เพราะเราไม่เคยไปบอกใคร และเวลาที่ไปออกทีวีมีรายการมาเชิญไป เราก็ทำตามหน้าที่ที่เขามีเป้าหมายให้เราไปออก ดังนั้นเราก็เลยไม่เคยแชร์สิ่งที่มันเป็นความจริงของเราเลย

ดังนั้นคนภายนอกก็จะไม่รู้ว่าเกิดสถานการณ์อะไรกับเราบ้าง และเราก็มองว่าคนรุ่นวัยเรา ศิลปินไม่ได้มีหน้าที่มาร้องโวยวายหรือเรียกร้องอะไร มีหน้าที่คือมีงานมาก็ทำตามหน้าที่ และเวลาเจอแฟนคลับ เราดูแลเขา เราให้ความสุขกับเขา ไม่ใช่เอาความทุกข์ของเรามาให้เขาแบบ เราคิดแบบนี้นะ ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเราเจออะไรมาบ้าง”

เรื่องที่อยู่อาศัยคือยังไง? “คือเวลาที่เราไปเป็นฝั่งประชาธิปไตย แล้วเขาไม่พอใจ ก็อยากให้เราออกเร็วๆ ก็ไม่เป็นไร อันนั้นเรื่องของเรา ตอนนี้ก็กำลังทำเรื่องเคลียร์อยู่ ต้องเป็นไปในทางที่ดีสิ (ยิ้ม)”

แฟนหรือคนรอบข้างมีส่วนช่วยมั้ย? “ช่วยมากนะ ลูกชายจะคอยฮีลใจเรา เวลาที่เราย่ำแย่ เขารู้แหละ พอเรามีสถานการณ์ที่เริ่มบีบเรา เขาก็จะมาบอกว่าหม่ามี้ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวมันต้องผ่านไปนะ เขาจะคอยทำเรื่องตลกๆ ให้เราสบายใจ คือไม่ทำตัวสร้างปัญหาให้เราเครียดมากขึ้น

อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ลูกช่วยแม่ได้ ลูกชายตอนนี้ก็วัยรุ่นแล้ว 14 แล้ว เขาเข้าใจมาตั้งแต่ 6-7 ขวบแล้วแหละ เวลาเราถามเขาว่าหนูรู้สึกแย่มั้ย เขาก็จะบอกว่าผมไม่ๆ อย่างนึงเขาอาจจะรู้สึกแหละบางเรื่อง แต่เขาก็พยายามจะแข็งแรงเพื่อเรา”

เหตุผล สั้น ๆ ที่นักการเมือง 'กลัว' รัฐธรรมนูญ 2560

ถูกปลุกปั่นให้กลายเป็นกฎหมายเผด็จการ แต่หากมองเหตุผลอย่างถ่องแท้ ก็เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 สร้างความ 'หวาดกลัว' ต่อบรรดานักการเมือง จนต้องต้องหาแนวร่วม 'ประชาชน' มาช่วยกัน 'ล้มล้าง' ให้สิ้น

อ้างอิง : ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 

‘ไผ่ ลิกค์’ ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้!! ต้องมีกฎหมายรองรับ หลังเยาวชนเริ่มใช้อย่างแพร่หลาย

(1 ส.ค. 66) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุญัตติด่วนที่ตนเสนอไป เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยตนเห็นว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและวิธีรับมือกับการบริโภค และการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สภาพความเป็นจริงเราสามารถพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย มีการนำเสนอเพื่อผลกำไรผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเสียภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์ 

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้รับผลกระทบจากปริมาณการรับซื้อลดลงอย่างมาก ทั้งจากมาตรการด้านสุขภาพและการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จนทำให้ราคาใบยาสูบตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลข้อดีข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า โทษต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นโทษต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด 

"ผมจึงขอเสนอให้สภาฯ มาศึกษา และวางแนวทางเพื่อออกกฎหมายในการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้เด็กและเยาวชนมีการใช้การอย่างแพร่หลาย ทั้งที่แนวทางบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนหรือไม่ มีแต่การกล่าวอ้างว่า ไอของบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องมีการออกมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น" นายไผ่ กล่าว

'ชัยวุฒิ' ปัดตอบ!! สูตรรัฐบาล 265 เสียง 'ไร้กก.-พรรค 2 ลุง' ชี้!! การเมืองเป็นเรื่องตัวเลข ทำให้เกิดได้หลายสูตร

(1 ส.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย เตรียมตั้งรัฐบาล 265 เสียง โดยไม่มีพรรคก้าวไกล และพรรค 2 ลุง คือ พรรค พปชร. และรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า...

สูตรการเมืองมีได้หลายสูตร เกิดได้จากหลายกลุ่มหลายคน และเกิดได้ทุกสูตร เพราะการเมืองเป็นเรื่องของตัวเลข แต่ต้องรอดูว่าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะสรุปออกมาอย่างไร และเวลานี้ยังไม่รู้จะชัดเจนอย่างไร ยังตอบไม่ได้ว่าสูตรดังกล่าวจะเกิดได้หรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นสูตรดังกล่าว พรรคพปชร.มีแนวทางที่จะยกมือโหวตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ อย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องมีการพูดคุยกันในพรรค พปชร.ก่อน และต้องรอดูท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่จะหาหารือกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 2 ส.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาเป็นอย่างไร เวลานี้ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร และเสียงสนับสนุนในสภามีเพียงพอหรือไม่

เมื่อถามว่า หากตั้งรัฐบาล 265 เสียงโดยไม่มีพรรค 2 ลุง รวมถึงพรรคก้าวไกล จะลดแรงต้านของสังคม ทั้งฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องถามว่าสังคมไหน สังคมของใคร เพราะในสังคมก็มีหลายกลุ่ม หลายฝ่าย ตนไม่ทราบว่าจะลดแรงเสียดทานสังคมหรือไม่ เพราะสังคมก็มีหลายกลุ่มที่มีเป้าหมายต่างกัน ดังนั้นต้องรอให้มีเหตุการณ์ตามที่มีกระแสคาดการณ์เกิดขึ้นก่อน

'ณัฐวุฒิ' เชื่อ!! ดร.ทักษิณไม่มีส่วนรู้เห็นกับการยึดอำนาจ ปี 57 ชี้!! แผนการยึดอำนาจ ก่อตัวมาตั้งแต่ช่วงต้น รบ.ยิ่งลักษณ์

(1 ส.ค. 66) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ผมและพี่น้องแกนนำ นปช.ที่ยังคิด คุยร่วมกันอยู่ เห็นตรงกันและเชื่อว่า ดร.ทักษิณ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการยึดอำนาจ ปี 2557

มุมวิเคราะห์ที่แกนนำหลัก 'ทุกคน' เห็นตรงกันตลอด คือ แผนการยึดอำนาจนี้ ก่อตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประยุทธ์พูดเองว่าเตรียมการมา 3 ปี กปปส.ชุมนุมไปสักพัก พวกเราก็พูดตรงกันแล้วว่าจะเกิดรัฐประหาร ทฤษฎีสมคบคิดแบบเดิมจากการยึดอำนาจปี 49 ไล่ลำดับเหตุการณ์เป็นแบบเดียวกัน 

ชุมนุมต่อเนื่อง ยุบสภา บอยคอตเลือกตั้ง ขัดขวางการเลือกตั้ง เลือกตั้งโมฆะ เรียกร้องรัฐบาลนอกกติกา สร้างเงื่อนไขปิดทุกทางออก และยึดอำนาจ 

ความขัดแย้งระหว่างบุคคลเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ประวัติศาสตร์องค์กร นปช. กำลังถูกอธิบายด้านเดียว และถูกบันทึกไปเช่นนั้น ทั้งที่หลายอย่างคลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน 

>> นปช.ไม่ได้ดำรงสภาพหลายปีแล้ว 
เหตุแยกทางคือ การไม่ได้ยึดถือแนวปฏิบัติที่เราทำกันมา มีการตกลงตั้งพรรคการเมืองกับบุคคลอื่น โดยไม่ได้หารือในที่ประชุม 

ไม่มีใครหลอกได้ ถ้าเราคุยในที่ประชุม ตามที่ผมและ อ.ธิดาเรียกร้องหลายรอบ เรื่องพรรคไทยรักษาชาติมาทีหลัง ไม่เกี่ยวกับช่วงเวลาตั้งพรรคเพื่อชาติ ที่ไปตกลงนอกวง ไม่บอกพี่น้องที่สู้มาด้วยกัน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top