Wednesday, 9 July 2025
Politics

'นิพิฏฐ์' เปิดเหตุผล 4 ข้อ จากมุมนักกฎหมาย 'ทักษิณ' อาจไม่กลับไทย ต่อให้ชนะแลนด์สไลด์

‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ นักกฎหมายมือฉมัง เปิดเหตุผล 4 ข้อ ทักษิณไม่กลับไทย ต่อให้ชนะแลนด์สไลด์

(26 ม.ค. 66) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมายและนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า อนาคตของคุณทักษิณ ชินวัตร คุณทักษิณ ยังคงเป็นคนรวย ที่ล่องลอยไปในโลกนี้ได้เช่นเดิม ยกเว้น เมืองไทยที่ยังแวะเวียนมาไม่ได้ คงได้แต่ชะโงกหน้ามาดูแผ่นดินนี้ เวลานั่งเครื่องผ่านไป-ผ่านมาเท่านั้น ผมมีเหตุผล อธิบาย ดังนี้

1. คดีของคุณทักษิณ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริต คดีเหล่านี้ ไม่มีใครกล้าออกพรบ.นิรโทษกรรม เพราะมีนักโทษคดีทุจริตอยู่เยอะทั้งนักการเมือง,ข้าราชการ หากนิรโทษกรรมคดีทุจริตกันหมด ผมคิดว่าประชาชนคงไม่ยอม เพราะคดีทุนจีนสีเทา คดีกรมอุทยานฯ ก็จะขอร่วมขบวนมาด้วย หรือ จะนิรโทษเฉพาะคุณทักษิณ ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกเช่นกัน

2. คุณทักษิณ จะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ตาม วิ.อาญา มาตรา 261 เป็นการเฉพาะตัว เฉพาะคดีทุจริตที่ถึงที่สุดแล้วเท่านั้น และหากได้รับพระราขทานอภัยโทษ คุณทักษิณก็ยังมีคดีอื่นที่ยังไม่ถึงที่สุดอีกหลายคดี คดีเหล่านั้นก็ขอพระราชทานอภัยโทษไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงที่สุด คุณทักษิณก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีก เราก็ไม่รู้ว่าพอศาลจะตัดสิน คุณทักษิณจะหนีไปอีกหรือเปล่า

‘สมคิด’ ซัด!! ‘บิ๊กตู่’ อ้างลงพื้นที่ทำงาน แต่แฝงหาเสียง ย้อน!! เคยด่านักการเมืองเลวที่สุด แต่ตอนนี้ทำยิ่งกว่า

(26 ม.ค. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272 ที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้า พรรคเพื่อไทยกับคณะเป็นผู้เสนอ จนนำมาสู่การพิจารณาของสภา แม้สุดท้ายจะไม่สามารถแก้ไขได้เพราะสภาไม่ครบองค์ประชุม สภาล่มในที่สุด ทั้งนี้ เป้าประสงค์ของพรรคเพื่อไทยต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ฝ่ายไม่เห็นด้วยก็อ้างว่าเพราะการยกเลิกอำนาจส.ว.อเหลือวาระอีก 1 ปีจะไปแก้ทำไม เรื่องระยะเวลาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือต้องยกเลิกให้ส.ว.มีสิทธิในการเลือกนายกฯ เพราะนายกฯ ควรมาจากส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกฯ มาจากแคนดิเดตที่พรรคคัดสรรมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างน้อยประชาชนก็ได้รับรู้รับทราบโดยสาธารณะ 

‘ชัยวุฒิ’ ลั่น รัฐบาลไม่กลัวอภิปราย พร้อมตอบทุกเรื่อง มั่นใจ!! พรรคร่วมฯ ยังช่วย ‘บิ๊กตู่’ แม้ย้ายไป รทสช.

ชัยวุฒิ ย้ำ ประวิตร ลุย เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายแน่ บอก ชอบชื่อนี้ ลั่น รัฐบาล พร้อมตอบอภิปรายทุกเรื่อง ปล่อยฟรีฝ่ายค้าน ชี้ มีข้อบังคับสภาเป็นกรอบ แนะสื่อ ให้เกียรตินายกฯ อย่าถามเสียดสีให้มีอารมณ์

(26 ม.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการประชุมและได้กำหนดการพิจารณาญัตติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 15 - 16 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ ว่า เชื่อว่ารัฐบาลอยากให้มีการอภิปรายเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลพร้อมชี้แจงอยู่แล้วว่าทำอะไรไปบ้าง มีแนวทางอย่างไรที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอนใช่หรือไม่ เพราะขณะนี้มีกระแสข่าวว่าจะยุบสภาก่อน ที่จะอภิปราย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มีการบรรจุวาระการประชุมไปแล้วในวันที่ 15-16 กพ. ซึ่งตนเองก็อยากฟังฝ่ายค้านพูด เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาก็มีข้อมูลดี ๆ เยอะ แต่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องก็เยอะ รัฐบาลก็จะได้ชี้แจงด้วย และเรื่องที่เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลก็จะได้รับฟังและนำไปแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเพราะปัญหาของประชาชนมีจำนวนมาก ทั่วทุกมุมของประเทศ ถึงอย่างไรก็แก้ไม่หมดใครเป็นรัฐบาลก็ทำไม่ได้ทุกเรื่อง ค่อย ๆ ทำไปแต่อย่างน้อยได้ฟังการอภิปรายแล้วพยายามนำปัญหาไปแก้ไขให้ดีที่สุดเป็นประโยชน์ของกลไกการเมืองในระบบรัฐสภา 

เมื่อถามว่าจะไม่ถือว่าเป็นการเสี่ยงเกินไปใช่หรือไม่หากจะปล่อยให้ฝ่ายค้านอภิปรายโดยอาจถูกหยิบประเด็นที่รัฐบาลไม่ได้เตรียมทำการบ้านขึ้นมา นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวตนมองว่า รัฐบาลทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีอะไรตกหล่น หรือบกพร่อง แต่อย่างที่บอกแล้วว่าอาจจะมีปัญหาบางเรื่องที่ยังแก้ไขไม่ได้ หรืออาจจะมีข้อจำกัดบางอย่างซึ่งจะได้ชี้แจงประชาชนต่อไป 

“ผมว่าอย่าไปกลัวการอภิปราย เพราะเดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นเฉพาะต้องอภิปรายในสภา ในสื่อโซเชียล คนก็รู้ทั่วไปหมดอยู่แล้ว เพียงแต่การอภิปรายเป็นกลไกในสภาตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้โอกาสสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ทำหน้าที่ เราต้องเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา เป็นสิ่งที่ดี อย่าไปกลัว” นายชัยวุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าปล่อยฟรีให้ฝ่ายค้านพูดได้เลย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภา ที่มีข้อบังคับอยู่ว่าบางเรื่องพูดไม่ได้ ห้ามผู้เสียดสี ก็มีข้อจำกัดอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จะช่วยดูแลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสภาเหมือนเดิมหรือไม่ ในเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ย้ายสังกัดพรรคแล้ว นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อย่าบอกเพียงพรรคพลังประชารัฐเลย คิดว่าทุกพรรคจะต้องช่วยกัน เพราะเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยกันทำงานในสภาอยู่แล้ว ทั้งชี้แจง ตอบโต้ แก้ปัญหาในสภา ผ่านวิปพรรคร่วมรัฐบาล

‘บิ๊กป้อม’ ประชุมวางแผนงบบูรณาการ 3 คณะรวด เกาะติดแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ – น้ำ - รบ.ดิจิทัล

พล.อ.ประวิตร  ประชุม วางแผนงบบูรณาการ 3 คณะ  เกาะติดแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ -น้ำ-รัฐบาลดิจิทัล  น้อมนำศาสตร์พระราชา สอดรับยุทธศาสตร์ชาติ ย้ำ งานไม่ซ้ำซ้อน ปชช.มีส่วนร่วม/ได้ประโยชน์ตรงความต้องการ

(26 ม.ค. 65) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ปี 67 ทั้ง 3 คณะต่อเนื่องกัน ซึ่งเป็น 3 แผนงาน จากทั้งหมด 11 แผนงาน ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล

การประชุมคณะแรก (คณะที่ 1.1) การขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี สมช.เป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับ กอ.รมน. และ ศอ.บต. โดยที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ กรอบงบประมาณรายจ่ายบูรณาการตามแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา จชต. งบปี67 มีหลักเกณฑ์ในการจัดทำงบฯที่สำคัญ อาทิ ต้องสอดคล้องกับเจตนารมย์และเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีการเชื่อมโยงสนับสนุนซึ่งกันและกัน แบบห่วงโซ่คุณค่า (value chain) คำนึงถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ของ UN รวมถึงให้มีการขยายผลตามแนวศาสตร์พระราชา และยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" เป็นต้น ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ให้นโยบายการทำงาน ต้องลดความหวาดระแวง สร้างกระบวนการยุติธรรมให้เด่นชัด มุ่งเน้นการแก้ปัญหาความยากจน และการพัฒนาการศึกษา ให้เป็นรูปธรรม

ต่อด้วย การประชุมคณะที่สอง (คณะที่ 1.2) แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มี สทนช.เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลัก โดยที่ประชุมได้เห็นชอบ หลักเกณฑ์การพิจารณาแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประจำปี67 ซึ่งต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทฯน้ำ 20 ปี และเป็นแผน/โครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำที่ กนช. เห็นชอบแล้ว รวมทั้งได้พิจารณาเห็นชอบ แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำประจำปี67 ซึ่งจะมี 21 หน่วยงานจาก 8กระทรวง รับผิดชอบ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ให้ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับประโยชน์ อย่างทั่วถึง เท่าเทียมกัน เนื่องจากน้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ต่อทุกคน ทุกพื้นที่ และการบริหาร งป.ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ด้วย

'จิรายุ' โวย 'บิ๊กตู่' ชิ่งตอบกระทู้สด 'ทุนจีนสีเทา' ลั่น!! วันนี้ไม่มา วีกหน้าก็จะถามอีก ขออย่ายุบสภาหนีก่อน

‘จิรายุ’ จวก ‘บิ๊กตู่’ หลังชิ่งไม่มาตอบกระทู้สด 'ทุนจีนสีเทา-ตั๋วนำเที่ยววีไอพี' ยันไม่มาวันนี้ สัปดาห์หน้าก็จะถามอีก ดักคอ อย่ายุบสภาหนีก่อนซักฟอก 152 ลั่น ถ้าจะยุบก็รีบยุบเสาร์ อาทิตย์ นี้เลย!

(26 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้รับหน้าที่ให้ถามกระทู้สด 2 กระทู้ และมีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ด้วย 1 กระทู้ โดยตนและพรรคก้าวไกล จะถามกระทู้เรื่องทุนจีนสีเทาในกรณีที่เข้ามาก่ออาชญากรรมและมีการข่มขู่พยาน รวมถึงตั๋ววีไอพีของนักท่องเที่ยวจีนที่มีการใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการขายบัตรอิดิสการ์ด ซึ่งเป็นบัตรวีไอพีให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ราคา 5 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท ปรากฏว่าผู้ที่ขายคือกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้ขายให้กลุ่มทุนจีนสีเทาหลายคน ที่นักท่องเที่ยวหลายคนใช้สิทธิพิเศษนี้ผ่านตม.เข้ามา และซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา จึงได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีและรมว.ท่องเที่ยวฯ แต่ทั้ง 2 ท่านปฏิเสธและบอกว่าติดภารกิจ ซึ่งเป็นคำยอดฮิต แต่ในรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต้องมาตอบชี้แจงกระทู้ถามสดของที่ประชุมสภาฯ

“ท่านจะอธิบายว่าไม่ทราบล่วงหน้าไม่ได้ เพราะท่านนายกฯจะต้องเตรียมสแตนบายเพื่อที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาตอบแทน ฉะนั้น วันนี้ (26 ม.ค.) แม้ว่าท่านจะไม่มาตอบ แต่ผมก็จะขอถามทิพย์ ถามไปอย่างนั้น ถามท่านประธานไป แม้ท่านประธานจะตอบได้หรือไม่ได้ ก็คงไม่ตอบอยู่แล้ว เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าปลายเทอมของรัฐบาลชุดนี้ ผมไม่เคยเห็นนายกฯมาตอบกระทู้เลย ครั้งที่แล้วมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯมาตอบ ก็ตอบไม่ชัดเจน ผมคิดว่าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ทักท้วงก็รีบ ๆ ยุบสภาไปเลย เสียเวลาประเทศชาติและประชาชน ”นายจิรายุ กล่าว

เมื่อถามว่า แม้ไม่ได้ตั้งกระทู้ถามวันนี้ (26 ม.ค.) ฝ่ายค้านจะพิจารณานำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า เราเอาเวลาอันใกล้ก่อน ในเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ในรัฐธรรมนูญเขียนว่ากระทู้สดต้องรีบถาม ถ้าไม่ถามก็จะเกิดปัญหา การอภิปรายมาตรา 152 หลังวันที่ 15 ก.พ. คิดว่าช้าไป ฉะนั้น สัปดาห์หน้าตนจะยื่นถามอีก

'โรม' เซ็ง!! ไร้คนตอบปม 'หลานประยุทธ์' อาจเอี่ยวทุนจีน จี้!! อย่าให้ 'จันทร์โอชา' อยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม

'โรม' ตั้งกระทู้ถามสด ปมหลานประยุทธ์อาจเอี่ยวทุนจีน แต่ไม่มีใครมาตอบ เปิดความเชื่อมโยง ‘ตู้ห่าว’ เช่ารถทัวร์บริษัทก่อสร้างของ ‘ปฐมพล’ ตั้งคำถาม ตู้ห่าวโดนข้อหาฟอกเงิน ทำไม อสส. ไม่เรียกหลานประยุทธ์มาสอบ ชี้ ‘ประยุทธ์’ ยิ่งเงียบ ประชาชนยิ่งสงสัย จี้ อย่าให้ตระกูลจันทร์โอชา อยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม

(26 ม.ค. 66) รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีทุนจีนสีเทาเกี่ยวพันธุรกิจของหลานชาย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายหลังตั้งกระทู้สดด้วยวาจา แต่ไม่มีรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ 

รังสิมันต์ กล่าวว่า การดำเนินคดีกลุ่มทุนจีนสีเทา เมื่อ 18 มกราคม 2566 อัยการได้มีคำสั่งฟ้อง ‘ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์’ หรือ ‘ตู้ห่าว’ กับพวก ในความผิด 9 ข้อหา ประเด็นที่ตนสนใจคือ ข้อหาฟอกเงิน หรือการปกปิดอำพรางเงินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ให้สืบได้ง่ายว่าต้นทางมันมาจากไหน ซึ่งการฟอกเงินเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในธุรกิจผิดกฎหมาย รวมถึงการค้ายาเสพติด 

รังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับกรณีตู้ห่าว เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลบุกค้นผับจินหลิงแล้วพบว่า เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาขนาดใหญ่ ก็ควรตั้งข้อสงสัยได้แล้วว่ามีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินด้วยการเปิดสถานบริการต่าง ๆ ขึ้นมาบังหน้า แต่เมื่อย้อนไปดูกระบวนการดำเนินคดีที่ผ่านมา ตำรวจกลับไม่เคยแจ้งข้อหาฟอกเงินเลย ทั้งที่มีเวลาสืบสวนกว่า 1 - 2 เดือน เพิ่งจะมีเมื่อ 26 ธันวาคม หลังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เข้ามาร่วมสอบสวน เป็นผลพวงจากการที่ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์’ ไปร้องเรียนขอให้ อสส. รับคดีตู้ห่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเนื่องจากเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งผลกดดันให้ต่อมา ผบ.ตร. ต้องยื่นเรื่องเสนอต่อ อสส. ให้เข้ามารับคดีนี้ 

“พูดง่ายๆ คือถ้าไม่มีใครคอยตามจี้ ตำรวจก็คงไม่ไปเชิญ อสส. เข้ามาร่วมสอบสวน และอาจไม่มีการตั้งข้อหาฟอกเงินกับตู้ห่าวเลยก็ได้” รังสิมันต์กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวว่า การที่ตำรวจไม่ตั้งข้อหาฟอกเงินกับตู้ห่าวตั้งแต่แรก ทำให้เกิดข้อกังขา 2 ประการ หนึ่ง อาจเป็นการเปิดช่องให้มีเวลายักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่จะเป็นของกลางได้ และสอง เกี่ยวพันไปถึงข้อเท็จจริงที่ว่าหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนในธุรกิจเทาๆ ของตู้ห่าวด้วย โดยพบว่าบริษัท เอ็มแอนด์เอ็มทรานสปอร์ตเซอร์วิส จำกัด บริหารโดยพี่ชายของภรรยาตู้ห่าว และระบุที่ตั้งบริษัทเป็นที่เดียวกับที่ตู้ห่าวแจ้งเป็นที่อยู่ตัวเอง จึงชัดเจนว่านี่คือบริษัทในเครือของตู้ห่าว บริษัทนี้ไปเช่ารถทัวร์จำนวนอย่างน้อย 33 คันจาก หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพล จันทร์โอชา ลูกชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ส.ว. และน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์

รังสิมันต์ กล่าวว่า รถทัวร์เหล่านี้ เมื่อดูประวัติของตู้ห่าวแล้ว น่าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะเอาไปใช้ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ หรือใช้พาคนจีนเข้ามาในไทยเพื่อทำกิจกรรมผิดกฎหมายในสถานบริการของตัวเอง ซึ่งรถทัวร์ 33 คันนี้ หจก.คอนเทมโพรารีฯ ไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ไปเช่าซื้อมาอีกทีหนึ่งผ่านบริษัทลีสซิ่ง โดยติดต่อกับผู้ผลิตรถประจำทางยี่ห้อ 'Sunlong' บริษัทนี้เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษีด้วย  

“ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทำให้เป็นข้อสงสัยว่าการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แจ้งข้อหาฟอกเงินกับตู้ห่าวตั้งแต่แรก และไม่ยอมแจ้งเสียที เพราะอาจทำให้ต้องลากเอาปฐมพล เจ้าของ หจก.คอนเทมโพรารีฯ หลาน พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาด้วย ในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจรถทัวร์ของตู้ห่าว ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเงินจีนเทาด้วย ใช่หรือไม่” รังสิมันต์ กล่าว

‘ลุงหนู’ เผย พร้อมชี้แจงในเวทีซักฟอก ไม่หวั่นยุบสภาฯ เชื่อ!! พรรคร่วมฯ พร้อมเลือกตั้ง

(26 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ ว่า เราพร้อมชี้แจง และทุกคนในคณะรัฐมนตรี ได้รับแจ้งให้ไปเตรียมความพร้อมในการชี้แจงต่อสภาเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการจัดสรรเวลา 8 ชั่วโมง ให้รัฐบาลเพียงพอหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการตกลงกันระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย ต้องยอมรับ จะได้ไม่มีปัญหา 

เมื่อถามว่าเวทีดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ชี้แจงผลการดำเนินงาน และจะถือโอกาสยุบสภาหลังจากนี้ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่ารัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงคงต้องชี้แจง ไม่ใช่เป็นเรื่องถือโอกาสอะไร เพราะได้ชี้แจงในส่วนที่ถูกกล่าวหาให้เกิดความชัดเจนว่าไม่ได้เป็นไปตามนั้น ส่วนที่บอกว่าเป็นการพูดผลงานของตัวเอง ถ้าเกี่ยวข้องกับการอภิปรายก็เป็นสิทธิ์ของทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะแถลงต่อที่ประชุมสภา

‘ลุงหนู’ เผย ‘ศักดิ์สยาม’ ไม่กังวล ปมยื่นฟ้องถอดตำแหน่ง ยัน ไม่ติดใจ ‘เพื่อไทย’ ไล่งับ เข้าใจเรื่องการเมือง

(26 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลง เป็นการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ ว่า นายศักดิ์สยาม ชี้แจงไปแล้วในประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.ย.65 และนายศักดิ์สยาม ชี้แจงข้อกล่าวหาในสภาไปแล้ว และสิ่งที่พิสูจน์ได้คือ นายศักดิ์สยาม ได้รับคะแนนไว้วางใจในประเด็นที่ถูกกล่าวหา คะแนนห่างกับคะแนนไม่ไว้วางใจเป็นร้อยคะแนน จึงน่าจะโอเค ส่วนเรื่องที่จะไปยื่นอะไรเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย หากอยู่ภายใต้กฎหมายสามารถยื่นได้ 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นการดิสเครดิตกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิดจะพิจารณาได้ว่าวัตถุประสงค์เป็นอย่างไร 

ลงชื่อในแถลง ‘ก้าวไกล’ ค้านย้าย ‘หมอสุภัทร’ เสี่ยงผิด รธน.ฐานแทรกแซงแต่งตั้ง โทษถึงขั้นพ้น ส.ส.

'ก้าวไกล' แถลงคัดค้านย้าย 'หมอสุภัทร' จาก ผอ.รพ.จะนะ ไป รพ.สะบ้าย้อย อ้างเป็นเรื่องการเมือง พร้อมจี้ สธ.ทบทวนคำสั่ง ขณะที่ 'พิธา' ลงชื่อในแถลงการณ์เอง เสี่ยงทำผิด รธน.มาตรา 185 แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย ส่อโดนศาลสั่งพ้นสภาพ ส.ส.

เมื่อวานนี้ (26 ม.ค. 66) ที่ผ่านมา หลังจาก นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ. ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 125/2566 เรื่อง ย้ายข้าราชการ โดยการย้ายครั้งนี้ มี นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ ย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สะบ้าย้อย ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนาม คือ วันที่ 25 ม.ค. 2566 เป็นต้นไปแล้วนั้น

พรรคก้าวไกลได้ออกแถลงการณ์ ลงชื่อโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อแสดงจุดยืนต่อเรื่องดังกล่าว มีรายละเอียดระบุว่า “จากกรณีมีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขโยกย้ายข้าราชการ นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

“พรรคก้าวไกลขอแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์สุภัทรเป็นข้าราชการที่ทำงานเป็นปากเสียงแทนประชาชน มีความกล้าหาญในการแสดงความเห็นคัดค้านผู้มีอำนาจ และเปิดเผยข้อมูลสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลคัดค้านการย้าย นพ.สุภัทร และขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งย้ายดังกล่าว มีความสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 185 ที่ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทําการใด ๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้

‘ลุงหนู’ โต้!! ปมย้าย ‘หมอสุภัทร’ ไม่เกี่ยวการเมือง ถาม!! ‘แพทย์ชนบท’ ต้องช่วยพัฒนาพื้นที่ มิใช่หรือ?

(27 ม.ค. 66) จากกรณีที่ นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ.ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 125/2566 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 โยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จะนะ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ รพ.สะบ้าย้อย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นต้นไป ต่อมา นพ.สุภัทร ได้ออกมาให้ความเห็นว่าเป็นการโยกย้ายที่มีประเด็นการเมืองแอบแฝง 

ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เป็นการบริหารจัดการของฝ่ายข้าราชการประจำ และตนก็ไม่ขอก้าวก่ายการทำงานกัน เพราะเป็นอำนาจของท่านปลัดฯ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรัฐมนตรี ซึ่งตามหลักการ การผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจหน้าที่ เป็นเรื่องปกติในระบบราชการ โดยหาก นพ.สุภัทร บอกว่าตัวเองมีผลงาน มีความเก่ง ก็ยิ่งดีใหญ่ จะได้ไปพัฒนา รพ.ที่ต้องการพัฒนา ยิ่งได้คนเก่งไป ยิ่งเป็นผลดีกับชาวบ้าน กับกระทรวงสาธารณสุข

เมื่อถามถึงกรณี พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้าย โดยตั้งข้อสังเกต เป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าหากคนที่ไม่เข้าใจ ก็อาจคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่คนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเรื่องของการทำงาน เป็นอำนาจของปลัด สธ.ในการบริหารจัดการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ทำไมไม่มองว่าการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจ หน้าที่ เป็นเรื่องปกติในระบบราชการ

“หากนพ.สุภัทร บอกว่าตัวเองมีผลงาน มีความเก่ง ก็ยิ่งดีใหญ่ จะได้ไปพัฒนา รพ.ที่ต้องการพัฒนา ยิ่งได้คนเก่งไป ยิ่งเป็นผลดีกับชาวบ้าน กับ สธ. อย่าง 2 ปีที่แล้ว ที่ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ย้ายจาก ผอ.รพ.ขอนแก่น ไป รพ.ร้อยเอ็ด มีประเด็นเกิดขึ้น มีการบอกว่าแย่แน่นอน แต่ทุกวันนี้ รพ.ร้อยเอ็ด กลายเป็น รพ.ที่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้อยู่กับบุคคล คนเก่งไปอยู่ไหนก็ได้ เหมือนรัฐมนตรีฯ อยู่ไหนก็ทำความเจริญได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกย้ายไปไหน ถ้าเรามีความมั่นใจว่า ตอนที่เราอยู่ เราทำความเจริญ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เราไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาทำอะไร หลังจากที่เราย้ายไปแล้ว เวลาที่ใครถูกย้ายแล้วโวยวาย ส่วนใหญ่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ทำอะไรไว้หรือไม่ แล้วกลัวคนมาตรวจสอบ” นายอนุทิน กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top