Sunday, 8 June 2025
Politics

โหลดทันที หมอทวีศิลป์ ย้ำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 17 ยกระดับมาตรการป้องกันโรค ชี้ หากป่วยแล้วตรวจพบว่า ไม่มีแอปพลิเคชัน 'หมอชนะ' ถือว่ามีความผิด

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ระบุว่า นายกฯ ได้ลงนามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 17 เมื่อ (6 ม.ค.) มี 3 ข้อได้แก่ ยกระดับบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และปราบปราม ลงโทษผู้กระทำความผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค

โดยการยกระดับบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ซึ่งต้องรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจอุณหภูมิร่างกาย และติดตั้งแอปพลิเคชันที่กำหนด ตลอดจนยอมรับการกักกันตนเอง ตามระยะเวลาและในสถานที่ที่กำหนด หากอยู่ในข่ายที่ต้องรับการกักกัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ประชาชนจะต้องติดตั้งและใช้ระบบแอปพลิเคชัน 'หมอชนะ' ควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชัน 'ไทยชนะ' หากตรวจสอบแล้ว ไม่พบแอปพลิเคชัน จะถือว่ามีความผิดด้วย ถ้าป่วยแล้วมี 'หมอชนะ' ถือว่าไม่มีความผิด แต่ถ้าไม่มีถือว่ามีความผิดตามพรก.ฉุกเฉิน โดยจะต้องใช้ควบคู่กับแอพไทยชนะด้วย

โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท

ส่วนเรื่องเอกสารรับรองนั้น 5 จังหวัด ที่อยู่ ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะต้องมีการขอเอกสารรับรอง ส่วนจังหวัดที่เหลือไม่จำเป็นต้องมี

กระทรวงแรงงาน ชวนประชาชนใช้แอป “รวมช่าง” บนสมาร์ตโฟน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดต่อช่างซ่อมแซมที่พักอาศัยและอุปกรณ์ที่ชำรุด เว้นระยะห่างลดการเผชิญหน้า สู้ภัยโควิด-19

นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ รัฐบาลและกระทรวงแรงงานภายใต้การนำของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือแรงงานและประชาชนทั่วไปในหลายมาตรการด้วยกัน

สำหรับ กพร. กระทรวงแรงงาน แนะนำบริการแอปพลิเคชัน “รวมช่าง” (Fixer Finder) บนสมาร์ตโฟน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เพิ่มความสะดวกในการติดต่อช่างซ่อมแซมที่พักอาศัยและอุปกรณ์ที่ชำรุด ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และระบบประปาและสุขภัณฑ์ ซึ่งมักพบปัญหาเหล่านี้อยู่เป็นประจำ

ซึ่งมีบริการช่าง 3 สาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 5,183 คน แบ่งเป็น (1) ช่างไฟฟ้า ให้บริการเดินสายไฟฟ้าและติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในอาคาร ที่พักอาศัย เปลี่ยนหลอดไฟ ปลั๊ก สวิตซ์ เบรกเกอร์ (2) ช่างเครื่องปรับอากาศ ให้บริการติดตั้ง ล้างเติมน้ำยาแอร์ และตรวจเช็คความผิดปกติของเครื่องปรับอากาศ และ (3) ช่างประปาและสุขภัณฑ์ ให้บริการเปลี่ยนก๊อกน้ำ ซิ้งค์ ท่อน้ำและติดตั้งสุขภัณฑ์ ซึ่งบริการด้วยราคาที่เป็นธรรมและมีมาตรฐานงานบริการ

นายธวัช กล่าวต่อไปว่า ในสังคมดิจิทัลที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย ได้งานที่ดีมีคุณภาพ แอปพลิเคชัน “รวมช่าง” ตอบโจทย์อย่างยิ่ง คือสามารถติดต่อนัดหมายช่างได้บนสมาร์ตโฟน จะมีฟังก์ชั่นที่ บริการประชาชนผู้ใช้บริการและช่างผู้ให้บริการ ดังนี้

ประชาชนที่ใช้บริการ (1) สามารถค้นหาช่างตามประเภทงานที่ต้องการ ระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ รูปภาพที่แสดงตัวตนของช่างอย่างชัดเจน (2) จองเวลาใช้บริการตามที่สะดวกได้อย่างรวดเร็ว (3) ค้นหาช่างที่พร้อมให้บริการที่อยู่ใกล้ตัว (4) สามารถรีวิวและให้คะแนนช่างได้ ส่วนช่างผู้ให้บริการ (1) มีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีงานใหม่เข้ามา (2) มีตารางนัดหมายงาน (3) เช็คประวัติการทำงานที่ผ่านมาได้

ประชาชนที่สนใจสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันโดยการค้นหาคำว่า “รวมช่าง” ได้ใน play store หรือ app store จากนั้นดาวน์โหลดและติดตั้งบนสมาร์ตโฟน ใช้ได้ทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส

พรรคเพื่อไทยตั้งคำถามรัฐบาล ประชาชนจะได้รับวัคซีนแก้โควิด-19 ครบทุกคนหรือไม่ ยืนยันการได้รับวัคซีนป้องกันโรคระบาดร้ายแรงถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่จะได้รับจากรัฐบาล จวกรัฐเอื้อนายทุนใหญ่ เหตุซื้อวัคซีนจีนมีเจ้าสัวไทยถือหุ้น

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ และอสม. ที่ทำหน้าที่ในช่วงเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดนี้ และส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 135 เขต มีความห่วงใย และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เรามีความกังวลการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่อาจจะไม่ทั่วถึงกับประชาชนทุกคนอย่างทันท่วงที

เบื้องต้นเราเห็นด้วยที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงก่อน แต่ประชาชนกลุ่มที่เหลือที่ไม่เข้าเกณฑ์ รัฐได้เตรียมวัคซีนเพียงพอหรือไม่ เมื่อไรประชาชนจะได้รับวัคซีนครบทุกคน เพราะกว่าที่วัคซีนจะออกฤทธิ์เห็นผลต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการได้รับวัคซีนป้องกันโรคระบาดร้ายแรงถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่จะได้รับจากรัฐบาล คนไทยต้องได้รับวัคซีนทุกคน

น.ส.อรุณี กล่าวว่า สำหรับวัคซีนที่รัฐบาลสั่งมาจากบริษัท Sinovac จากจีน มีราคาถูกกว่าผู้ผลิตที่จำหน่ายราคาสูง แต่ราคาถูกนั้นได้มาตรฐานและมีผลต่อการป้องกันโรคได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากมีข่าวว่าทางการบราซิลได้สั่งหยุดทดสอบวัคซีน Sinovac จากจีนในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เพราะทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมา

แต่รัฐบาลไทยยังยืนยันที่จะสั่งซื้อเพราะถูกกดดันจากสังคมกรณีได้รับวัคซีนล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่สั่งซื้อวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน จนเปลี่ยนมาสั่งซื้อกับบริษัท Sinovac ของจีน สะท้อนว่ารัฐบาลนี้การขาดการวางแผนในการรับมือสถานการณ์โควิด-19 อย่างรุนแรง ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าบริษัทเจ้าสัวรายใหญ่ของไทยทุ่มเงิน 1.54 หมื่นล้านบาท เข้าถือหุ้น 15% ในบริษัท Sinovac Life Sciences หน่วยผลิตวัคซีนซิโนแวค เป็นการเตรียมการเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่หรือไม่

น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลต้องเร่งเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดธุรกิจ โดยร้านค้ารายย่อยและโรงงานหลายแห่งเลิกจ้างพนักงาน ปิดกิจการ การจ่ายเงินเยียวยาต้องทำให้รวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจภาคการท่องเที่ยวที่ไม่มีโอกาสฟื้นตัวได้เลย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยเสนอให้รัฐบาลก่อตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยวและพักชำระหนี้ ก่อนที่จะเกิดการระบาดระลอกที่ 2 หากไม่รีบแก้ปัญหาโควิด-19 รอบนี้ อาจจะฝังประชาชนให้ตายทั้งเป็น

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมจัดฟอรั่มพิเศษ “รับมือโควิดอย่างไร ไม่ให้ประเทศพัง” ในวันที่ 11 ม.ค.นี้ เวลา 11.00 น.ที่พรรค พท.เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนหาทางออกเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ในมิติเชิงสังคมและผลกระทบทางเศรษฐกิจ

โดยมีนายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมการนโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกฯ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.พลังงาน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ผอ.ศูนย์นโยบายฯ พรรคเพื่อไทย ร่วมเสวนา โดยจะถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย

National Association of Manufacturers (NAM) สมาคมที่เป็นตัวแทนขององค์กรธุรกิจกว่า 14,000 แห่งในสหรัฐฯ เช่น Exxon Mobil, Pfizer และ Toyota Motor ได้เรียกร้องให้ พิจารณาปลด โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีทันที

หลังก่อหวอดให้เกิดความวุ่นวาย ที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ

Jay Timmons ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NAM กล่าวว่า “ทรัมป์ ได้ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง เพื่อพยายามรักษาอำนาจและตำแหน่งของเขาไว้ และใครก็ตามที่กำลังปกป้องเขา เท่ากับกำลังละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ และปฏิเสธ ระบอบประชาธิปไตย”

ทั้งนี้ กำหนดวันลงจากทำเนียบขาวของ ทรัมป์ คือ วันที่ 20 มกราคม นี้ และโจ ไบเดน จะเข้าสาบานตน และรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างเป็นทางการ แต่จากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีภาคธุรกิจ และสมาชิกสภานิติบัญญัติหลายคนในรัฐสภา เรียกร้องให้มีการแก้ไข้กฎหมายเพิ่มเติมเพื่อปลด 'ทรัมป์' ออกจากตำแหน่ง โดยทันที

สำหรับเหตุรุนแรงในสหรัฐ เกิดจากการที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์โซเชียลปลุกม็อบสหรัฐ ค้านการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จนเกิดความวุ่นวายที่รัฐสภา สหรัฐ


อ้างอิง : https://www.reuters.com/article/us-usa-elections-companies/corporate-group-urges-officials-consider-trumps-removal-to-preserve-democracy-idUSKBN29B2WR

 

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (7 มกราคม พ.ศ.2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 305 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 9,636 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 รายรวมยอดผู้เสียชีวิต 67 ราย รักษาหายเพิ่ม 103 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,521 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 5,048 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 305 ราย เป็นเป็นคนไทย 1 ราย สัญชาติรัสเซีย 1 ราย

เดินทางมาจากต่างประเทศ จากรัสเซีย 1 ราย ,ตุรกี 1 รายผ่านการคัดกรองและเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้

เดินทางมาจากต่างประเทศ ผ่านเส้นทางธรรมชาติ

เป็นคนไทย 1 ราย จากเมียนมา

เข้ารับรักษาตัวที่ รพ.แม่สอด

ผู้ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 193 ราย

ผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุกในชุมชน) 109 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 172 ราย รักษาหายแล้ว 149 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 385 ราย รักษาหายแล้ว 362 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 7.88 แสน ราย รักษาหายแล้ว 6.53 แสน เสียชีวิต 23,296 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 40 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.25 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.01 แสน ราย เสียชีวิต 513 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.28 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.11 ราย เสียชีวิต 2,785 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.81 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.49 แสน ราย เสียชีวิต 9,347 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,780 ราย รักษาหายแล้ว 58,541 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1,505 ราย รักษาหายแล้ว1,353 ราย เสียชีวิต 35 ราย

‘ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ ย้ำชัด พยายามทำทุกอย่างไม่ให้มีบ่อน หากทำผิดกฎหมายต้องถูกลงโทษทั้งหมด มั่นใจคณะกรรมการแก้ปัญหาบ่อนการพนัน ของนายกฯ ชุดนี้ ตอบโจทย์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องบ่อนการพนัน ว่า เราก็ทำไปทุกอย่างแล้ว พยายามทำทุกอย่าง และดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่ตั้งบ่อนเหล่านี้ พยายามเอาคณะกรรมการต่าง ๆ มาดูแล เราก็ไม่อยากให้มีบ่อนหรอก

เมื่อถามว่า การที่มีภาพข่าวโต๊ะบ่อนการพนันร่วงบนถนน แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการที่เข้มข้นขึ้นกับบ่อนการพนันของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่รู้หรอก ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษทั้งหมด

เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้ชื่อของผู้ที่จะมาเป็นประธาน คณะกรรมการแก้ปัญหาบ่อนการพนัน ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งให้ตั้งขึ้นหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ และนายกฯ ไม่ได้มาหารือกับฝ่ายความมั่นคง เมื่อถามว่า การตั้งคณะกรรมการชุดนี้จะตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาบ่อนการพนันได้ดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอบโจทย์อยู่แล้ว

สภาคองเกรสยืนยันชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของ โจ ไบเดน หลังได้รับเสียง Electoral Vote เหนือกว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง 3 เสียงของรัฐเวอร์มอนต์ทำให้ ไบเดน ได้คะแนนเกิน 270 เสียง

ทั้งนี้ วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรปฏิเสธการคัดค้านไม่ยอมรับคะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐจอร์เจียและเพนซิลเวเนีย ซึ่งไบเดนนำทรัมป์ พรรครีพับลิกันยังคัดค้านการรับรองคะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐแอริโซนา เนวาดา และมิชิแกน

“การรับรองคะแนนเสียงของประธานวุฒิสภา จะถือเป็นการประกาศที่เพียงพอแล้วว่า บุคคลที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเป็นใคร วาระจะเริ่มต้นในวันที่ 20 มกราคม 2021” ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวหลังจากการนับคะแนน Electoral Vote สิ้นสุดลง

การรับรองดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้สนับสนุนทรัมป์ก่อการจลาจลโดยบุกเข้าไปในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ผ่านมา โดยการประชุมของสภาคองเกรสในการรับรองคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการหยุดชะงักเป็นเวลาหลายชั่วโมงเมื่อผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้ามา โดยขณะนั้นเพิ่งนับคะแนนไปได้เพียง 12 เสียงเท่านั้น

หลังเหตุการณ์คลี่คลายลง สภาคองเกรสได้ดำเนินการนับคะแนนต่อในเวลาประมาณ 20.00 น. และในที่สุดผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก็สิ้นสุดลง พร้อมกับชัยชนะของไบเดน ที่คะแนน 306 ต่อ 232 เสียง นั่นหมายความว่า โจ ไบเดน กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ

ด้าน แดน สกาวิโน (Dan Scavino) ผู้ช่วยด้านโซเชียลมีเดียของทรัมป์ ได้เป็นตัวแทนทวีต “คำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” แทนเจ้าตัว เนื่องจากบัญชีทวิตเตอร์ถูกแบนชั่วคราว ความว่า

“แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ข้อเท็จจริงก็ทำให้ผมเข้าใจ อย่างไรก็ตาม จะมีการส่งมอบตำแหน่งอย่างถูกระเบียบในวันที่ 20 มกราคม ผมพูดเสมอว่า เราจะต่อสู้ต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่ามีการนับเฉพาะคะแนนเสียงตามกฎหมายเท่านั้น แม้ว่านี่จะเป็นการสิ้นสุดวาระแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประธานาธิบดี แต่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง”


ที่มา: PPTV / CNN / The Guardian

‘ลุงตู่’ เตรียมพาเด็ก ๆ เข้าทำเนียบ พาทัวร์-ทำกิจกรรมร่วมกับตัวแทนเยาวชน นั่งเก้าอี้นายก พร้อมพูดคุยถึงการมีส่วนร่วมกับนโยบายรัฐบาล ผ่านคลิปวิดีโอ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที ในวันเสาร์ที่ 9 ม.ค. น. เวลา 10.00 น.

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการจัดงานวันเด็กของทำเนียบรัฐบาล ว่า การจัดงานวันเด็กในวันเสาร์ ที่ 9 ม.ค.ในปีนี้ทำเนียบรัฐบาลไม่ได้เปิดให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนปีที่ผ่านมา แต่จะรวบรวมกิจกรรมต่าง ๆ ทำเป็นคลิปวิดีโอ เพื่อออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที ให้ประชาชนรับชมในช่วงเวลา 10.00 - 11.30 น.

ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้บันทึกเทปไว้เมื่อวันที่ 6 ม.ค. โดยช่วงแรกเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับตัวแทนเยาวชน และพาเด็ก ๆ ชมห้องทำงานนายกฯ และนั่งเก้าอี้นายกฯ เหมือนเช่นทุกปี ในช่วงที่สองนายกฯ ได้พูดคุยกับเยาวชนที่เป็นตัวแทนเพื่อพูดถึงการมีส่วนร่วมกับนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีเรื่องสารคดี นิทานชุดคุณธรรม และส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่าง ๆ

‘นายสุชาติ ชมกลิ่น’ วอนผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ เชื่อว่าแรงงานที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายเมื่อเข้าสู่ระบบจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มประมง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2464 ว่า ในส่วนของแรงงานเถื่อนนั้นหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อาจไม่เข้าใจ บางกลุ่มอาจจะอยู่ในประเทศไทยหลายปีแล้ว ซึ่งผิดเอ็มโอยู ผิดนายจ้าง เป็นแรงงานเถื่อน ที่ไม่ได้เดินทางกลับประเทศ แต่ไม่ได้เป็นการมุดเข้ามาตามแนวชายแดนทั้งหมด ดังนั้นคำว่าแรงงานเถื่อนอย่าเหมารวมว่าเป็นการมุดเข้ามาทั้งหมด เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลตามด่านถาวร วันนี้ขอฝากขบวนการหรือคนที่นำพาแรงงานเข้ามา ต้องนึกถึงความเป็นอยู่และความปลอดภัยของคนไทยด้วย ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว กระทรวงแรงงานได้มีการตรวจสถานประกอบการและอำนาจหน้าที่ ซึ่งเราให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

ส่วนการดำเนินการกับสถานประกอบการที่นำแรงงานเถื่อนไปทอดทิ้ง รมว.แรงงาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการและกำชับให้กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทยแก้ปัญหา ซึ่งอยู่ในระหว่างการผ่อนผัน แต่ต้องยอมรับความจริงว่าการที่จะบอกให้สถานประกอบการนำแรงงานทั้งหมดมาตรวจโควิด-19 เพื่อตรวจสอบควบคุมโรค คงไม่มีใครกล้านำมาให้ตรวจทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมีมาตรการออกมาเพื่อนำเข้าสู่ระบบ เพื่อไม่ให้สถานประกอบการขาดแรงงาน ขณะเดียวกันจะได้มีการตรวจคัดกรองโรคอย่างเข้มงวด จากนั้นแรงงานทั้งหมดจะเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย หรือรายงานที่อยู่ใต้ดิน ให้ขึ้นมาอยู่บนดินอย่างถูกต้อง ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น จากนั้นก็จะมีการแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาวต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน

เมื่อถามว่าปัจจุบันการจ้างงานในส่วนของแรงงานประมงมีความขาดแคลนจำนวนมากจะแก้ปัญหาอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาทางสมาคมประมง ได้มาพบและขอให้ผ่อนผันเพราะแรงงานประมงไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม แรงงานประมงทุกคนที่มีอยู่ผ่านการคัดกรองอย่างถูกต้อง และยืนยันว่าไม่มีผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่เมื่อคนงานกลับประเทศปัญหาการขาดแคลนแรงงานย่อมเกิดขึ้น

ซึ่งในขณะนี้ยังอนุญาตให้นำเข้าไม่ได้ เพราะการที่จะอนุญาตให้นำคนจากต่างประเทศเข้ามาเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ความพยายามนำแรงงานที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายที่มีอยู่ในประเทศไทย เข้าสู่ระบบก็จะเป็นประโยชน์กับกลุ่มประมง เพราะหลังจากทำบัตรสีชมพูเสร็จ จะสามารถเข้าสู่แรงงานประมงได้ เสียเงินอีกเพียง 100 บาท เพื่อขึ้นทะเบียนประจำเรือ

ทั้งนี้ ระหว่าง วันที่ 15 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่รัฐบาลผ่อนผันให้กับผู้ประกอบการ ที่มีแรงงานไม่ถูกต้องมาขึ้นทะเบียน และหลังจากวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปรัฐจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดจึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือ เราจะทำทุกอย่างเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง

นายเอกศักดิ์ บุญพา ปลัดอำเภอ รักษาการนายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง ออกเอกสารด่วนที่สุด แจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นหญิงอายุ 25 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.วังเหนือ มีประวัติเข้าพื้นที่ในช่วงวันที่ 26-31 ธันวาคม 2563

ทั้งนี้มีการส่งต่อ โพสต์ในเฟซบุ๊กของหญิงคนหนึ่ง ที่ระบุว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง และพบติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกทม.

หญิงคนดังกล่าวเล่าไทม์ไลน์ของตัวเองอย่างละเอียด โดยระบุว่า เดินทางกลับจากเกาหลี และกักตัวครบ 14 วัน โดยตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19

"ไทมไลน์ นะคะ คร่าวๆ

กักตัวที่กลับมาจากเกาหลี ครบ 14 วัน ไม่พบว่าติดเชื้อโควิด

23 ธันวาคม 63 ออกจากการกักตัว เดินทางไปโรงแรมโนโวเทล ประตูน้ำ จากนั้น ไปห้างเอมควอเทียร์ ทานโอมากาเสะ กับน้อง 2 คน เดินซื้อของแถวประตูน้ำ สวมหน้ากากอนามัยตลอด ตอนเย็น ไปนั่งร้าน 76 Garage แถวลาดพร้าววังหิน ไปด้วยกัน 4 คน เสร็จแล้วไปต่อ คลับ เวลาตี 1 Top 1 แถวรัชดา กลับโรงแรมนอนพัก

24 ธันวาคม 63 ตื่นบ่าย ออกไปฉีดดอลลี่อาย แถวรัชดา แวะทำผม ทานข้าว ย่านรัชดา ทุ่มครึ่ง ไปรูฟทอฟ ตรงตึกมหานคร กับน้อง 2 คน กลับประมาน 5 ทุ่ม ละไปทานหมูกระทะ ต่อที่ร้าน แถวๆถนนอโศก ไปต่อคลับ Top1 จนปิดตีสาม มีพี่ชวนไปต่อ คลับ กอตแฮม ถึงตี 5 กลับโรงแรม

25 ธันวาคม 63 ไปเที่ยวคลับ แถวสีลม กับน้อง ไปเจอพี่ อีก 2-3 คน จากนั้นไปต่อ คลับ Top 1 คลับแถวรัชดา กลับมาโรงแรมประมานตี 1-2

26 ธันวาคม 63 เช็กเอาท์โรงแรม เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไป จ. เชียงใหม่ สายการบิน ไทยสไมล์ รอบบิน 16.00น.-17.00น. โดยประมาณ พ่อมารับ แวะเดินตลาด ท่าแพ นั่งกินข้าวกับพ่อ ร้านริมทาง แล้วก็เดินทางกลับ แวะปั๊มเติมน้ำมัน เดินทางไปบ้านที่อำเภอวังเหนือ ถึง 3 ทุ่ม เก็บของที่บ้าน ก่อนขี่มอเตอร์ไซด์ ออกไปบ้าน ป้า เจอญาติ ประมาน 3-5 คน คุยกัน สวมหน้ากากอนามัยตลอด

27 ธันวาคม 63 เช้าไปวัดปงวัง ทำบุญ ตอนบ่ายไปบ้านป้าแตงเจอญาติ 3-5 คน จากนั้น ไปตลาดปงวัง กับพี่ 2 คน ซื้อกับข้าวในตลาด เสร็จปุ๊บกลับมาบ้านป้า ทำกับข้าวกินกัน จากนั้น 1 ทุ่มครึ่ง โทรชวนเพื่อนไปเที่ยว ต่อ ที่ร้านเพลินบาร์ แม่ขะจาน ไปกัน 4 คน มีคนมาที่โต๊ะ และชวนไปนั่งที่โต๊ะ 4-5 คน ขณะดื่ม ไม่ได้สวมแมส จากนั้น กลับบ้าน ประมาณตี 1

28 ธันวาคม 63 ตื่น 11 โมง ไปรับพี่ที่เป็นครูที่โรงเรียนบ้านก่อ ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านทุ่งเป้า แวะซื้อกาแฟ ร้านสามแยก จากนั้นไปส่งพี่กลับโรงเรียน ไปทำธุระเกี่ยวกับรถ ที่เวียงป่าเป้า ต่อ พ.ร.บ.รถฯ แวะนิ่มซี่เส็ง ถามข้อมูลเล็กน้อย จากนั้นเข้าตลาดวังเหนือ ซื้อของกิน นิดหน่อย กลับบ้าน แล้วเดินมาบ้านป้าต่อ ทำปิ้งย่างกินกัน 5-7 คน กลับบ้าน 3-4 ทุ่ม

29 ธันวาคม 63 ตื่น 11 โมง เพื่อนมารับไปกินข้าว ที่ร้าน Lake monster อยู่กัน 5-6 ตรงปากทางปงวัง จนถึง 5 โมง กลับไปรับหลานที่โรงเรียนบ้านก่อ แวะตลาดปงวัง ซื้อน้ำ กลับบ้านป้าแตง ต่อกินข้าวเย็นแล้ว เล่นบิงโก ประมาน 5-6 คน

30 ธันวาคม 63 ตื่นบ่าย แวะซื้อขนมจีนร้านพี่น้ำใส แล้วไปทานบ้านป้าแตง ตอนเย็น แวะไปนั่งร้าน ครัวฮั้วหินฮิมต้า แป๊บเดียว ไปต่อร้านน้องในตลาด วังเหนือ ร้านชายสี่มีเล่า นั่งนาน จนร้านปิด

31 ธันวาคม 63 เดินทางไปเชียงใหม่ เวลา 4 โมง นั่งรถกรีนบัสไปลงอาเขตแล้วเรียกแกรบ ไปส่งที่โรงแรม เชน โฮเทล พักคนเดียว จากนั้นเรียกแกรบวิน ไปส่งซื้อรองเท้าส้นสูง ก็กลับมาโรงแรม อาบน้ำ แต่งตัวไปวอร์มอัพคาเฟ่ วันเคาทดาวน์ จนถึง ตี 1 อยู่ด้วยกัน ทั้งโต๊ะ รวม 10 คน ออกมาจากวอร์มอัพ ไปกินหมูทะ หลังอินฟินิตี้ ต่อ ถึง ตี 2-3

1 มกราคม 63 ไปหาเพื่อนที่ โรงแรมสเตย์วิท นิมมาน นั่งทานกาแฟ ในโรงแรม รอเพื่อน จากนั้น ไปทานข้าวต่อ ร้าน zood zood 7-8 คน จากนั้น ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับไปดอยปุย จนถึง 18.00น. กลับเข้าเมือง สามทุ่ม ไปร้านเหล้าท่าช้างต่อ จนถึงเที่ยงคืน ก็กลับ โรงแรม เพื่อนชวนออกไปต่อ แต่คลับไม่สนุก เลยไปกินเหล้าต่อที่โรงแรมเพื่อน ตี 5 ก็แยกกลับโรงแรมตัวเอง นอน

2 มกราคม 63 ไปทานอาหารที่ร้านต๋องเต็มโต็ะ ถึงบ่าย 3-4 โมง จากนั้นขี่มอเตอร์ไซค์ไปต่อที่สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง สองทุ่มครึ่ง ไปร้านเหล้า ฮอมบาร์ จนถึงเที่ยงคืน ไปต่อร้านหมูกระทะ ถึงตี 1-2 กลับโรงแรมนอน

3 มกราคม 63 ไปสนามบินเชียงใหม่ เริ่มรู้สึกว่าตัวเอง ไอ บ่อย ขึ้นเครื่อง เวลาบ่ายโมง ถึง กทม. บ่าย 2 ก็มาหาน้องที่ ห้วยขวาง มีพี่ อีก 2 คน ก็ไปซื้อของใช้ส่วนตัวที่บิ๊กซี ไปทานส้มตำ กลับห้อง นอนพัก

4 มกราคม 63 แยกตัว นอนพัก ที่ห้อง เริ่มมีไข้ ไอเจ็บคอ

5 มกราคม 63 ไปตรวจ ที่โรงเอกชน ย่านโชคชัย 4 กลับห้องนอนพัก ทานยา แยกกักตัว

6 มกราคม 63 พัก กักตัว ทานยา ที่ห้อง

7 มกราคม ผลโควิด-19 ออก ผลเป็นบวก เมื่อพบว่าติดโควิด-19 ก็รีบ มาที่โรงพยาบาล แอทมิดรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง"

ทั้งนี้หญิงสาวคนนี้ยังทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวคาดว่า น่าจะติดมาจากผับดัง ที่เชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top