Sunday, 29 June 2025
Politics

‘สมชัย ศรีสุทธิยากร’ ท้า ‘บิ๊กตู่’ กล้า ๆ หน่อย สั่งการใช้ค่ายทหารเป็นรพ.สนาม ช่วยผู้ป่วยโควิดล้น เหน็บสั่งทุกกระทรวงระดมแก้ปัญหาได้แต่ลืมกลาโหม

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาระบุว่า “ค่ายทหารมีไว้ทำไม” ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง โทรมาหาแลกเปลี่ยนความคิดว่า ในภาวะที่โรงพยาบาลขาดเตียง คนป่วยล้น คนติดใหม่เป็นหมื่น คนตายรายวันเป็นร้อย โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามเท่าที่มีอยู่ในภาวะล้นเกินกว่าที่จะรองรับได้อีกแล้ว ทำไมไม่เอาพื้นที่ในค่ายทหาร ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศมาสนับสนุนเป็นโรงพยาบาลสนาม

เลยลองค้นดูว่า ประเทศไทยมีค่ายทหารและหน่วยงานของทหารมิใช่น้อย ดังนี้

ทัพภาค 1 มี 26 ค่ายทหาร

ทัพภาค 2 มี 16 ค่ายทหาร

ทัพภาค 3 มี 23 ค่ายทหาร

ทัพภาค 4 มี 12 ค่ายทหาร

ทั้งนี้ ยังไม่รวม กทม. ที่ยังเป็นที่ตั้ง พล. 1 รอ. พล. ม. 2 รอ. และเหล่าสนับสนุนการรบ เหล่าช่วยรบ และยังมีสนามกอล์ฟของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ที่กระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

“วันนี้ยังไม่เห็นการพยายามใช้ทรัพยากรเหล่านี้เพื่อมาช่วยแก้ปัญหา ผู้ใหญ่ใจดี ท่านเลยตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลควรให้ประเด็นนี้เป็นอีกทางเลือกหรือไม่ ผมเลยตั้งข้อสังเกตตามไปว่าอาจเป็นวันนี้ นายกรัฐมนตรีอาจยังไม่มีโอกาสคุยกับรมว. กลาโหม เมื่อวาน (20 กรกฎาคม) ในที่ประชุม ครม. ท่านสั่งทุกกระทรวงให้ระดมทรัพยากรมาแก้ปัญหาโควิด สั่งรัฐมนตรีทุกกระทรวง แต่ลืมสั่ง รมว.กลาโหม” นายสมชัย ระบุ

นายสมชัย ระบุทิ้งท้ายว่า "กล้า ๆ หน่อย คุณประยุทธ์"


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_2840196

https://www.facebook.com/185853798130698/posts/4016186958430677/?d=n


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ในพิธีปฐมนิเทศน์นิสิตใหม่จุฬา ทุกคณะ รุ่น 105 'เพนกวิน' ชี้ นักศึกษาคือคนส่วนมากและสำคัญที่สุด

จากพิธีปฐมนิเทศน์นิสิตใหม่จุฬา ทุกคณะ รุ่น 105 ทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.64 ที่ผ่านมานั้น ได้มีการเชิญผู้ต้องหาในคดี ม.112 ทั้งปวิน, เพนกวิน, รุ้ง ร่วมพิธีโดยการอัดคลิปมาเผยแพร่ ที่น่าสนใจคือคำพูดของนายเพนกวิน มีอยู่ตอนหนึ่งพูดว่า

ทริกดี ๆ ของการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยคือการแจก 'ค_ย' ให้ผู้บริหาร เจ้าของมหาวิทยาลัยทุก ๆ คนที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งผมคิดว่าก็เป็นกันทุกมหาวิทยาลัย นิสิตนักศึกษาคือประชากรส่วนมาก ดังนั้นเสียงของนิสิตนักศึกษามันต้องดังที่สุด สำคัญที่สุด

ฉะนั้น เราต้องส่งเสียงของเราให้ดัง ๆ แรง ๆ เพื่อให้เขารู้ว่าเรามีตัวตนนะ เราจ่ายเงินให้คุณไปบริหารมหาวิทยาลัย เพราะมีเราเข้าเรียนมันจึงยังมีมหาวิทยาลัยอยู่ ดังนั้น ผู้บริหารจะต้องฟังเสียงนักศึกษา

นักศึกษาเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัย ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ เราจึงต้องตรวจสอบผู้บริหาร นายกรัฐมนตรี หรือคนที่สูงกว่านายกรัฐมนตรี ที่ใช้เงินของเราทำอะไรสักอย่าง ใช้อำนาจเหนือเรา


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/110502

https://www.facebook.com/watch/?v=506587460425983


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ธนกร” ซัด “สุดารัตน์” ดิสเครดิตรัฐบาล สร้างความสับสน จี้ ให้เลิกเอาชีวิต ปชช.มาเป็นเกมส์การเมือง

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่ระบุ เพราะ sunshine law หรือเปล่า ทำให้รัฐบาลไม่ยอมสั่งวัคซีน mRNA ที่สามารถปกป้องชีวิตคนไทยได้ ว่า หลายครั้งที่ตนรู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่มักจะอาศัยจังหวะโจมตีรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมืองต่อการตั้งพรรคใหม่เพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของประขาชน เป็นการใส่ร้ายรัฐบาลแบบไร้เหตุผลรองรับ เหมือนจินตนาการไร้ขอบเขต วันนี้รัฐบาลสั่งวัคซีน mRNA มาแล้ว มีการเซ็นสัญญากับไฟเซอร์ 20 ล้านโดส จะเข้ามาไตรมาส 4 ของปี 64 รวมไปถึงการสั่งโมเดอร์น่าด้วย คุณหญิงสุดารัตน์พยายามโยงเสมือนกับรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในการจัดหาวัคซีน หากคุณหญิงสุดารัตน์จะกล่าวหาใครก็ควรมีหลักฐาน ไม่ใช่พูดขึ้นมาลอยๆ เพื่อให้รัฐบาลเสียหาย ตนขอบอกคุณหญิงสุดารัตน์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่ยอมให้ใครมาหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่เหมือนรัฐบาลในอดีตที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่นจนมีรัฐมนตรีต้องติดคุก

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนการที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวหารัฐบาลว่ามีสัดส่วนการซื้อวัคซีนจากประเทศในกลุ่มที่มี sunshine law น้อย หรือแทบไม่มีนั้นก็ไม่เป็นความจริง อย่าพยายามดิสเครดิตรัฐบาล ไม่มีใครเอาชีวิตของประชาชนมาเป็นเกมส์การเมืองแบบคุณหญิงสุดารัตน์ ประชาชนทราบดีว่าพรรคไทยสร้างไทยเป็นแค่พรรคสาขาของคนแดนไกลใช่หรือไม่ วันนี้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ปัญหาโควิด ไม่ว่าจะเป็นการเร่งจัดหาวัคซีน การรักษาผู้ที่ติดเชื้อ การเยียวยา ฯลฯ แต่ฝ่ายค้านทำเสมือนไม่ต้องการให้รัฐบาลทำงานสำเร็จ ออกมาโจมตีรัฐบาลทุกเรื่อง ขนาดสนับสนุนม็อบให้ชุมนุมประท้วงโดยไม่กลัวจะแพร่โควิด-19 ด้วยซ้ำไป อยากให้เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์บ้าง ทุกคนทำงานหนักมาก พล.อ.ประยุทธ์ทำเต็มที่ ไม่มีท้อ แม้จะถูกตำหนิ ด่าทอ นายกฯก็ไม่เคยท้อ จะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะโควิด-19ให้ได้ เพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน

 

คกก.สรรหาเลขาธิการป.ป.ช. เปิด 3 รายชื่อผู้สมัคร "ประหยัด-นิวัติไชย-อุทิศ"

รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) แจ้งว่า นายนนทิกร กาญจนะจิตรา ประธานคณะกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหา จำนวน 3 ราย ดังนี้ นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายอุทิศ บัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ หากปรากฎภายหลังว่า ผู้สมัครเข้ารับการสรรหารายใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศรับสมัคร หรือผู้สมัครเข้ารับการสรรหารายใดแสดงคุณสมบัติอย่างใดเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบจะถือว่าผู้สมัครรายนั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการสรรหาจะตรวจสอบบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ประวัติ ความประพฤติตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศรับสมัคร ก่อนที่จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสรรหาพร้อมกัน ทั้งกำหนด วัน เวลา และสถานที่เข้ารับการสรรหาทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ป.ป.ช.ต่อไป

“บิ๊กตู่”เข้าทำเนียบรัฐบาล หารือมาตรการช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาช่วงสถานการณ์โควิด 19 “จับตา” ช่วงบ่ายเตรียมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ประชุมร่วมภาคเอกชน 40 บริษัท  ร่วมแก้ปัญหาโควิด 19   

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้าปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาลอีก 1 วัน เนื่องจากมีภารกิจสำคัญช่วงเช้า อีกทั้งต้องประชุมหารือเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์โควิด - 19  ภายหลังสัปดาห์ที่ผ่านมา ครม. ให้กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการไปกำหนดแนวทางการลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เช่น พิจารณาให้ส่วนลดเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เป็นกรณีพิเศษ โดยให้คลอบคลุมทั้งสถานศึกษารัฐและเอกชน  

ทั้งนี้ มีรายงานว่าที่ประชุม ยังจะหารือถึงรูปแบบว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายเป็นการ จ่ายตรงให้ผู้ปกครอง โดยใช้ฐานข้อมูลเรียนฟรี 15 ปี  และจะยกเว้นค่าใช้จ่ายในทุกกลุ่ม หรือมีการยกเว้นกลุ่มใดบ้าง เป็นต้น  รวมถึงจะหารือถึงข้อเสนอโครงการในลักษณะที่กำหนดให้รัฐร่วมสมทบภาระส่วนลดให้แก่สถานศึกษาบางส่วน  รวมถึงรับฟังรายงานสรุปในกรณีที่สถานศึกษาภาคเอกชนประสบปัญหาทางการเงิน  ข้อมูลปัญหาและความต้องการต่างๆเพื่อให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ในการพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาทางการเงินให้แก่สถานศึกษาภาคเอกชนที่มีความเหมาะสมต่อไป

ส่วนในช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. คณะผู้บริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบสิ่งของและเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19 ) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล และ เวลา 14.20 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ 40 ซีอีโอ เรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า

“อัครเดช” ร้อง “บิ๊กตู่”ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนใน จ.ราชบุรี ไม่เป็นธรรม แฉมีเล่นพรรค เล่นพวก จี้หากพบให้ย้ายออกจากจังหวัด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการจัดหาวัคซีน ว่า ขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงไปตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนที่ไม่เป็นธรรมในจังหวัดราชบุรี ที่ผ่านมามีการฉีดวัคซีนให้กับทุกอำเภอแต่สิ่งที่เกิดปัญหาคือการจัดสสรวัคซีนที่ไม่เป็นธรรม จึงขอให้พิจารณาจัดสรรวัคซีนตามสัดส่วนประชากรและตามพื้นที่ระบาด โดยเฉพาะในอำเภอใหญ่ในจังหวัด เช่น ที่อำเภอบ้านโปร่งที่ได้รับการจัดสรรน้อยที่สุด เพียง 5.63% เมื่อเทียบกับอำเภอเมือง อำเภอดำเนินสะดวก บางแพ และโพธาราม ทั้งที่มีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้น 
         
“สิ่งที่ต้องเรียกร้องความเท่าเทียมและเป็นธรรม เพราะทราบว่ามีการเล่นพรรคเล่นพวกในการจัดสรรวัคซีนเกิดขึ้นในจังหวัดราชบุรี จึงขอให้นายกรัฐมนตรีได้ฟังเสียงของประชาชนบ้าง ขอให้ส่งคนลงไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนไม่ใช่จัดสรรวัคซีนแบบนี้ หากพบใครที่ทำผิด เล่นพรรคเล่นพวก ขอให้ดำเนินการย้ายออกจากจังหวัดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับจังหวัดอื่น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบความเชื่อมั่นจากประชาชน เขาไม่ได้ด่าจังหวัด เขาด่ารัฐบาล จึงขอให้ทำจังหวัดราชบุรีเป็นตัวอย่างในการจัดสรรวัคซีนที่เป็นธรรม”นายอัครเดช กล่าว

“องอาจ” ขานรับ ครม. ส่งต่อผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนา พร้อมเสนอ 4 แนวทางเคลื่อนย้ายให้สำเร็จ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ครม. มีแนวคิดให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิดกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนาว่า นับเป็นแนวคิดที่ดีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องเตียงรับผู้ป่วยใน กทม. ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดที่สูงต่อเนื่องขึ้นทุกวัน ถึงแม้จะมีองค์กรภาคเอกชน สื่อมวลชน รวมถึง ส.ส. ของแต่ละพื้นที่จะจัดทำโครงการรับผู้ป่วยกลับไปรักษาที่บ้านเกิดกันหลายจังหวัด แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการรองรับความต้องการของผู้ป่วยที่หาเตียงไม่ได้ใน กทม. ดังนั้นการดำเนินงานโดยรัฐบาลและภาครัฐโดยตรงน่าจะช่วยทำให้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดได้มากขึ้น

นายองอาจ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนาทำได้อย่างราบรื่น เป็นไปตามความประสงค์ของ ครม. จึงขอเสนอแนวทางการดำเนินการดังนี้ 1.ควรดูความพร้อมของโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่จะรองรับผู้ป่วยว่ามีขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร 2.ควรสร้างความเข้าใจในชุมชนให้ความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจและเห็นใจผู้ป่วยที่จำเป็นต้องกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด 3.การบริหารจัดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก กทม. ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดต้องบูรณาการประสานงานกันให้เกิดประสิทธิภาพ และ 4.ครม. ควรสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอต่อการทำงาน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จึงขอฝากแนวทางทั้ ง4 ข้อต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบค. กำกับดูแลการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างจริงจังต่อไป

พท.แชร์คลิปภารกิจว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ลงพื้นที่ช่วยปชช. พร้อมสะท้อนวิกฤตโควิดในกทม. 

เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยโพสต์คลิปวิดีโอการทำงานของว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนตลอดการระบาดของโควิด-19 สะท้อนเสียงและภาพความเดือดร้องของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มชุมชนแออัดอย่างชัดเจน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นการสัมภาษณ์ตัวแทนจากทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทย 3 ท่าน ได้แก่ นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา เขตบางกะปิ น.ส.ทิพจุฑา บุนนาค เขตบางพลัด และ น.ส.ทัดดาว ตั้งตรงเจริญ เขตราชเทวี ซึ่งเป็นหนึ่งในว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ที่ติดเชื้อโควิดจากการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน โดยทั้ง 3 คนระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้ช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การระบาดใหญ่ในปี 2563 กระทั่งเกิดการระบาดในระลอก 3 และ 4 ที่รุนแรงมากขึ้น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ทีมงานได้รับแจ้งให้เข้าไปช่วยเหลือมากที่สุด คือ บริเวณชุมชนแออัด ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มผู้ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ประกอบกับมาตรการควบคุมโรคระบาดและการจัดการวิกฤตที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทยจึงเข้าไปประสานงานและช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในทุกด้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ตั้งแต่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัส ประสานเตียงผู้ป่วย ประสานโรงพยาบาลและขนส่งผู้ป่วยไปรับการรักษา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งทีมได้ร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไปแล้วนับ 1,000 เคส

ที่มา : https://fb.watch/v/17kwkcXV_/ https://youtu.be/j61XXfhhBCY

ครม.เพิ่มงบประมาณปี 65 อีก 1.24 แสนล. สู้โควิด-จ่ายหนี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมครม. ได้เห็นชอบการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 65 แยกเป็น การขอเพิ่มงบประมาณ ตามแนวทางและขั้นตอนที่ครม.เห็นชอบเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.64 จำนวน 124,291 ล้านบาท และ การเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ตามที่ได้มีพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2564 จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติภายในสำนักนายกรัฐมนตรี  เพื่อเพิ่มงบประมาณให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ 38 ล้านบาท 

ทั้งนี้ในรายละเอียดของการขอเพิ่มงบประมาณ จำนวน 124,291 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นรายจ่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อผูกพันที่เกิดจากกฎหมาย สัญญา ข้อตกลงระหว่างประเทศ และค่าใช้จ่ายเพื่อการชำระหนี้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายตามสิทธิจำนวน 36,771 ล้านบาท และรายจ่ายเพื่อการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รายจ่ายเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หรือค่าบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือเป็นรายจ่ายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังโควิดหรือรายจ่ายที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง และรายจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของหน่วยรับงบประมาณ 87,520 ล้านบาท 

ส่วนการเปลี่ยนแปลงงบประมาณเป็นการปรับลดงบประมาณรายจ่ายเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับภารกิจที่จะต้องโอนจากสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 14 ล้านบาท และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 23 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 38 ล้านบาท อีกทั้ง ครม. ยังรับทราบการเสนอขอเพิ่มงบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายฯ 1,484 ล้านบาทด้วย

“เสกสกล” จวก “หญิงหน่อย” โพสต์รูปผู้ป่วยโชว์โซเชียล เหน็บ อยากช่วยให้ทำเลย อย่าเอาหน้า ป้อง “นายกฯ”ทุกหน่วยไม่เคยนอนหลับ เร่งแก้ปัญหาปชช.

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ภาพผู้ป่วยโควิด-19 รอโรงพยาบาล ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่านายกฯเห็นภาพนี้นอนหลับหรือไม่ ว่า ขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์ ที่มีน้ำใจจะช่วยผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังรอการรักษา เป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ แต่สิ่งที่ไม่สมควรทำคือนำภาพผู้ป่วยมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก เพราะจะทำให้เห็นว่าที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนนั้นไม่จริงใจ แต่อยากให้คนเห็นการทำงานแบบสร้างภาพของตัวเอง หรือเพื่อหาคะแนนเสียงให้ตัวเองดูดี

นายเสกสกล กล่าวว่า ภาพผู้ป่วยไม่ใช่แค่นายกฯ รัฐมนตรี บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่มีใครนอนหลับลง และทุกคนทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตลอดแทบไม่มีเวลาพักผ่อน และถามว่าในสถานการณ์วิกฤต คุณหญิงสุดารัตน์ คงนอนหลับฝันดีอย่างใช่หรือไม่ และหากจะทำตัวเป็นประโยชน์ เป็นผู้ใหญ่ที่คิดเป็น ไม่มีอคติ ให้พาทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทันที ไม่ต้องรอใครสั่ง ลงมือเสียสละช่วยกันได้เลย

"ประชาชนมองออกว่าไม่ได้เกิดจากความจริงใจ ที่อยากจะช่วยคนป่วย ทั้งที่ในภาวะเกิดการระบาดแพร่กระจายของเชื้อโควิด แทนที่ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือประชาชนจับมือกัน แต่นี่กลับสร้างภาพ เพื่อให้ฝ่ายตัวเองด่าทอนายกฯและรัฐบาลในโซเชียล เสมือนปลุกระดมทำลายกัน ขอให้คุณหญิงช่วยลุยลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านในยามทุกข์เช่นนี้ดีกว่าไหม ทำไมต้องมาโพสต์เพื่อประจาน หวังทำลายด้อยค่าคนอื่น สุดท้ายประจานตัวเองหรือว่าคุณหญิงหน่อย คิดว่าประเทศชาติประชาชนเป็นของนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบ มีปัญหาอะไรก็โยนใส่นายกฯต้องรับผิดชอบคนเดียว ถ้าคิดเช่นนั้นคงต้องคืนบัตรประชาชนจะดีกว่า เพราะคงไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย จึงไม่มีจิตสำนึก ไม่เห็นใจประชาชนยามทุกข์ และเอาภาพประชาชนที่เจ็บป่วยมาโพสต์ หวังผลทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตน"นายเสกสกล กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top