Sunday, 22 June 2025
Politics

ศาลให้ประกันตัว ‘สมยศ-ไผ่ ดาวดิน’ แล้ว หลังรับเงื่อนไข หยุดพาดพิงสถาบันกษัตริย์ และห้ามออกนอกราชอาณาจักร

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 เม.ย. 64 ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จำเลยที่ 7 สองแกนนำกลุ่มราษฎร คดีหมายเลขดำอ.287/64 ซึ่งยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112 ,116 กรณีร่วมกันชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 และปักหมุดสนามหลวง

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความของจำเลย พยาน และคำร้องประกอบการพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีเหตุที่จำเลยจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและไม่เชื่อว่าจะหลบหนี อีกทั้งจำเลยยืนยันว่าจะไม่กล่าวพาดพิงหรือก้าวล่วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสอง โดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งสองทำกิจกรรมที่เสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะนำหมายปล่อยตัวจำเลยทั้งสอง ช่วงเย็นวันนี้ (23 เม.ย. 64 ) ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป 


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

กระทรวงแรงงาน เผยปีงบ 64 คนหางานได้บรรจุงานทั่วประเทศแล้ว 152,158 คน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยยอดผู้สมัครงานใช้บริการหางาน 191,564 คน บรรจุงานแล้ว 152,158 คน หรือร้อยละ 79.43 แนะสมัครด้วยตนเองผ่านเว็บ smartjob สะดวก ไม่มีค่าใช้จ่าย ลดความเสี่ยงจากการเดินทาง 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยสถานการณ์การว่างงานของคนไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมาก ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทราบสถานการณ์เป็นอย่างดีและไม่เคยนิ่งนอนใจ ได้กำชับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตลอดว่า ยิ่งมีคนว่างงานมากขึ้น เจ้าหน้าที่ของเรายิ่งต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้คนไทยมีงานทำ มีรายได้ สามารถรับมือจนวิกฤติโควิด-19 นี้ผ่านพ้นไป

“จากสถิติผู้สมัครงานที่ใช้บริการจัดหางานกับกรมการจัดหางานในปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา (ตุลาคม 2563-มีนาคม 2564) มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 191,564 คน ได้รับการบรรจุงาน 152,158 คน หรือร้อยละ 79.43 แบ่งเป็นใช้บริการ ณ พื้นที่กรุงเทพมหานคร 39,495 คน บรรจุ 31,948 คน หรือร้อยละ 80.89 ปริมณฑล 19,075 คน บรรจุ 14,773 คน หรือร้อยละ 77.45 ภาคกลาง 47,708 คน บรรจุ 42,163 คน หรือร้อยละ 88.38 ภาคเหนือ 26,827 คน บรรจุ 21,509 คน หรือร้อยละ 80.18 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 30,540 คน บรรจุ 22,344 คน หรือร้อยละ 73.16 และ ภาคใต้ 27,919 คน บรรจุ 19,421 คน หรือร้อยละ 69.56 โดยสามารถใช้บริการจัดหางาน ณ พื้นที่ที่ต้องการทำงานหรือเลือกสมัครงานผ่านช่องทางการให้บริการจัดหางานรูปแบบออนไลน์ด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ smartjob.doe.go.th หรือ ไทยมีงานทำ.com ได้ตามที่สะดวก โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สะดวกรวดเร็ว และลดความเสี่ยงของโรคโควิด-19 จากการเดินทางไปที่สาธารณะ ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว 

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ได้สั่งการ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัดให้บริการประชาชนที่ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงาน กลุ่มเปราะบาง ตลอดจนผู้ต้องการหางานทำทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน โดยคำนึงถึงความลำบากของคนหางานให้มาก

“ทั้งนี้ กรมการจัดหางานมีการนำบริการที่ครอบคลุมภารกิจทุกด้านของกรมการจัดหางาน เข้าหาประชาชนที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งบริการของรัฐ ทั้งด้านข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน การให้บริการจัดหางาน รวมทั้งการแนะแนวอาชีพ แนวทางการประกอบอาชีพอิสระ และฝึกอาชีพอิสระ ที่เน้นการให้บริการตรงถึงระดับตำบล ชุมชน และครัวเรือนที่ยากจน โครงการจัดหางานเชิงรุกเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ศูนย์บริการจัดหางาน Part-Time  โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชน (Co-Payment) ตลอดจนสนับสนุนเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ย 0% แก่กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน” นายไพโรจน์ฯ กล่าว

เดินหลง...ในดงโซเชียล​ By​ รัตนา​ &​ โกสินทร์

ไม่อยากนั่งรอดู ความล่มสลายของระบบสาธารณสุขไทย แต่ปัญหาความไม่พอเพียงของบุคลากร​ และเวชภัณฑ์​ อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือในการรักษามันเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน

ตรงนี้ก็ไม่ทราบว่า ท่านอนุทิน ชาญวีระกุล จะจัดการอย่างไร ?

ถึงแม้ว่าจะเร่งจัดหาวัคซีนมาให้คนไทย​ ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเราไม่มีการบริหารจัดการทรัพยากรทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ​ กว่าที่เราจะได้วัคซีนที่คนแย่งกันทั้งโลก ก็คงเป็นตอนที่เราเหลือกันอยู่น่อยคนเอานะท่าน​ ยังไงๆ​ ทุกอย่างมันต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ​ กัน จะเน้นอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้น้อ!! 

ว่ากันเรื่องวัคซีน ไถหน้าจอ ไปเจอเกรียนลาว แล้วอยากตบกะโหลก  มาหยามเราว่า สปป.ลาว เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว 

ไม่เชื่อไปดู #สปปลาว ได้ เห็นคอมเมนต์เกรียนๆแล้วนั่งขำ ต้นเรื่องบอกว่าลาวได้รับ 2​ พันโดส ไทยเราตามหลังลาว

ส่วนพวกลูกกระจ๊อกก็คอมเมนต์เหยียดไทยไปอีก...

ฮัลโหล!!!! ไม่เกินพรุ่งนี้ เราจะฉีดทะลุ 1 ล้านโดสแล้วจ๊ะหนู.....

ส่วนประเด็นเรื่องวัคซีน​สุดฮือฮาจากปาก​ คุณโทนี่ วูดซัม ที่ออกมาเจื้อยแจ้วฉอเลาะในแอปพลิเคชันคลับเฮ้าส์​เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่บอกจะคุยกับปูติน เรื่องวัคซีนสปุกนิคให้นั้น!! 

ขำก๊ากเลย​ ก็ตรงนี้มันตลกฝืด ออกมาพูดเหมือนอยากตีกิน เอาใจแฟนคลับ ทั้งๆ​ ที่รัฐบาลออกมาพูดว่า จะจัดหาวัคซีน ทั้งของรัสเซีย และสหรัฐอเมริกาไว้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนแล้ว 

ล่าสุดทางเคลมลิน ก็บอกมาแล้วว่าจะรีบส่งมาให้ ส่วนของอเมริกาก็ตกลงเบื้องต้นจะขายและส่งมาให้ 10 ล้านโดส

ตรงนี้พูดเลยว่า คุณูปการของ ชื่อเสียงหมอไทย ที่ทำให้ทุกชาติ อยากให้เราใช้วัคซีนของเค้า จนเมืองไทยของเรา แทบจะเป็นชาติแรกๆ​ ในโลกที่มีการใช้วัคซีนจากหลายเจ้า 

แต่พูดแบบนี้​ ก็อย่าตีความต่อว่าเค้าเอาเรามาเป็นหนูทดลอง เพราะเราไม่ได้ให้ข้อมูลผู้รับวัคซีนแลกเปลี่ยนเหมือนที่หลายๆ​ ประเทศทำหรอกวุ้ย​ เพราะรู้ไหมว่า​ ต่างแดนน่ะเค้าอยากได้การรับรองจากหมอไทยเพื่อความน่าเชื่อถือเสียมากกว่า​ ไม่ได้โม้!! 

แต่ไอ้ส่วนเรื่องทำไมไม่รีบซื้อมาก่อนหน้านี้ ก็อย่าริเก่งกว่าหมออีกละ เพราะการวิจัยผลการทดสอบ มันค่อยๆ​ ออกมาให้ได้วิเคราะห์
นี่อนุมัติเพื่อชีวิตคนนะ ไม่ใช่อนุมัติยาทาสิว​ เบาๆ​ กันหน่อย!! 

เพราะดูได้เลยว่า หลายประเทศเค้าดำเนินการตามอย่างที่ไทยเราทำ เรื่องนี้ควรภูมิใจ มากกว่าคิดเล็กคิดน้อยเป็นสมองมด ดูแคลนประเทศตัวเอง

อ้อ!! อีกเรื่องนึงที่ไม่อยากข้าม​ คือ​ เรื่องสายด่วนต่างๆ มีข่าวคุณยาย รอรถพยาบาล จนเสียชีวิต ตรงนี้อ่านฟีดแล้วสลด ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว​ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้บริหารสายด่วนต่างๆ จะเริ่มตื่นตัว ปรับปรุงและแก้ไขปัญหา หรือ จะปล่อยให้เกิดขึ้นต่อ​ เพราะทำอะไรไม่เป็น​ เก่งแต่รับตำแหน่งมาแล้วปล่อยไว้แบบนี้ ประจานภาพเจ้าหน้าที่ทำงานรับสายโดยไม่มีคอมพิวเตอร์​ ทำงานแบบ 'อนาล็อก'​ ไม่เป็น 4.0​ ห่วยเหลือคณา

ส่วนตัวแปลกใจตั้งแต่การแตกเบอร์ 1422 กรมควบคุมโรคแล้ว​ เพราะก่อนหน้านี้ ถ้าเราจำกันได้​ 1422 นี่เทพยังกะเบอร์ฉุกเฉิน 191 สายด่วนในตำนาน ที่ปีก่อน ตอนโควิดระบาด ทุกภาคส่วนต่าง ให้การซูฮก 1422 ถามได้ตอบได้​ และ "ประสานงานให้การช่วยเหลือ" ได้แบบอับดุล ครอบจักรวาล แม้แต่สายด่วน 1111 ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชนหรือ 191 สายด่วนฉุกเฉิน ยังต้องส่งไม้ต่อมาให้ 1422 เป็นแม่ข่าย 

แต่ตอนนี้พูดถึงเบอร์ใหม่​ (1668-1668) มันน่าฉงน ไม่รู้ว่ากลการเมืองเข้าไป​ 'แย่งชื่อ -​ แย่งแสง'​ หาผลงาน จนต้องแตกสายด่วนออกมาหลายเบอร์ สร้างความสับสนให้ประชาชนกันทำไมไม่รู้ เอาซะจนตอนนี้ 1422 ไม่ต่างอะไรกับสายโทรให้ความรู้ ทั้งๆ​ ที่คนจำได้ทั้งเมืองว่า เอาไว้โทรขอความช่วยเหลือเรื่องโควิด
บอกให้ก็ได้​ การแตกสายด่วน มันทำให้เห็นว่า การประสานงานภายในไม่มีเอกภาพ แบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งและแย่งกันทำงาน

รู้ถึงตรงนี้ แล้วน่าสงสารประชาชนพวกเรากันเอง กับการประสานงานที่ล่าช้ายิ่งกว่าสั่งพิซซ่ามากิน

งงจริงๆ กับระบบงานดีๆ ไม่พัฒนา ให้ดีขึ้น แต่เอามาแยกย่อยเอาไว้สร้างผลงาน ฉงนงงงวยกับ กระทรวงหมอวันนี้จริงๆ

พับผ่าเถอะ!! 

“บิ๊กป้อม” ขอบคุณ จนท.และชมรมคนริมน้ำช่วยกำจัดผักตบชวา/วัชพืช ป้องกันน้ำหลากฤดูฝน - ลดผลกระทบการสัญจร พร้อมกำชับ จนท.ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ภายใต้ New Normal เคร่งครัด

เมื่อ 26 เมษายน พ.ศ.2564  พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม./ผอ.กอนช. ได้กล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ และชมรมคนริมน้ำ ซึ่งเป็นจิตอาสาชุมชน ได้ร่วมกันกำจัดผักตบชวาและวัชพืช ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหลักของภาครัฐ ประกอบด้วย กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า และกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่สำคัญอย่างยิ่งมีประชาชนจากชมรมคนริมน้ำ จำนวนมากที่ได้ให้ความร่วมมือ ร่วมใจในการดำเนินกิจกรรมกำจัดผักตบชวา และวัชพืช ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ด้วยดี  สำหรับพื้นที่ที่ได้ดำเนินการกำจัดแล้ว และกำลังดำเนินการอยู่ ในขณะนี้ อาทิ บริเวณ แม่น้ำเจ้าพระยา อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท ,แม่น้ำลพบุรีและคลองพระครู อ.บางปะหัน  ,แม่น้ำน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ในการเดินเรือสัญจรทางน้ำ,การระบายน้ำ และการป้องกันน้ำเน่าเสีย จากความหนาแน่นของผักตบชวา และวัชพืช 

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่รับผิดชอบดังกล่าวให้เร่งรัดกำจัดผักตบชวา และวัชพืชให้หมดไป อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ดำรงวิถีชีวิตอยู่ริมแม่น้ำลำคลองและต้องใช้การสัญจรทางน้ำ พร้อมขอให้ ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้มาตรการ ของ สธ.อย่างเคร่งครัด ในขณะนี้ด้วย และขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือด้วยดี ตลอดมา

เทพไท ชื่นชม รัฐบาลใช้เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท แจกเงินเยียวยาได้หมด 100% ดีกว่าใช้เงินป้องกันโควิด-19

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ว่าตนได้ติดตามและตรวจสอบ เรื่องการใช้เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทอย่างใกล้ชิด และได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ชี้แจงความคืบหน้าของการใช้เงินตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทต่อประชาชน แต่ก็เงียบหายไป ไม่มีคำชี้แจงใดๆจากฝ่ายรัฐบาล จึงได้ติดตามขอข้อมูลจาก ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบ ติดตามการใช้เงินตามพ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท 

ได้พบความจริงว่า ในส่วนของเงินกู้ 1 ล้านล้านนี้ ประกอบด้วย 3 แผนงาน หรือกลุ่มโครงการ คือ 1.แผนงานที่เกี่ยวกับการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 45,000 ล้าน 2.แผนงานที่เกี่ยวกับการเยียวยา ชดเชย และช่วยเหลือประชาชนรวมถึงเกษตรกร จำนวน 600,000 ล้าน และ 3.แผนงานที่เกี่ยวกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นการบริโภค จำนวน 355,000 ล้าน 

ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ ก็คือเงินกู้ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับอนุมัติวงเงินไปกว่า 20,000  ล้าน แต่เบิกจ่ายไปเพียงกว่า 5,000 ล้านเท่านั้น (25%) แต่โครงการช่วยเหลือเยียวยา และชดเชยให้แก่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงินอนุมัติ 170,000 ล้าน เบิกจ่าย 159,077 ล้าน (93.58%) แต่แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน วงเงินอนุมัติ 9,408 ล้าน เบิกจ่ายเพียง 735 ล้าน (7.82%)

อยากจะตั้งข้อสังเกตการเตรียมการความพร้อมด้านสถานพยาบาลและการเตรียมการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน(โควิด-19) ที่ได้รับวงเงินอนุมัติราว 11,500 ล้าน แต่มีการเบิกจ่ายเพียง 55 ล้านเท่านั้น นับว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลในการใช้เงินกู้เพื่อรองรับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างสิ้นเชิง

เมื่อติดตามและตรวจสอบการใช้เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทของรัฐบาล จะพบข้อเท็จจริงว่า 
1.) งบประมาณด้านสาธารณสุข ที่ใช้รับมือกับโรคไวรัส โควิด-19 มีการเบิกจ่ายน้อยมาก รัฐบาลตั้งอยู่ในความประมาท ประเมินผิดพลาดคิดว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 จะไม่กลับมาระบาดอีก จึงชะล่าใจไม่มีการเร่งรัดการใช้เงินให้เป็นไปตามเป้าหมาย 

2.) งบประมาณด้านการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการเร่งรัดจ่ายเกือบครบ 100% แสดงว่ารัฐบาลได้ใช้เม็ดเงินดังกล่าวในการหาเสียงสร้างความนิยมให้กับรัฐบาล จึงมีการระดมเงินแจกเงินให้กับประชาชนอย่างรวดเร็ว 

3.) งบประมาณที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย รัฐบาลทบทวนโครงการต่าง ๆ ที่ยังไม่มีการใช้เงิน ให้นำเม็ดเงินทั้งหมดมารวมกัน เพื่อใช้ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดมาใช้ในการซื้อเครื่องมือตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด และซื้ออุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ

ราเมศ เผย จุรินทร์ ย้ำ! ทุกภาคส่วนของพรรค ลุยช่วย ปชช สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์เต็มที่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ว่า
ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้สั่งการให้บุคลากรของพรรคทุกคน ในทุกพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ ดูแลผู้ที่ลำบากในสถานการณ์ขณะนี้ ประชาชนจะสะดวกและคุ้นเคยกับบุคลากรของพรรคในพื้นที่อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว หากเมื่อต้องการความช่วยเหลือแล้วได้หาทางช่วยกันก็จะช่วยแบ่งเบา คลี่คลาย ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างมาก 

ด้วยพรรคมีบุคลากรครบทุกพื้นที่ มี ส.ส. อดีต ส.ส. อดีต ผู้สมัคร สาขาพรรค และตัวแทนพรรคประจำแต่ละเขตทั่วประเทศ จะร่วมประสานกันทำงานกับส่วนกลางและรัฐมนตรีของพรรคที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่และเต็มรูปแบบ ขณะนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กับประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ 
หัวหน้าพรรคได้ย้ำให้ทุกองคาพยพของพรรคขับเคลื่อนตามแนวทางดังกล่าวเต็มที่ ติดขัดส่วนไหนให้ประสานหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบแต่ละภาคได้ทุกคน

เมื่อวานนี้พรรคนำโดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นางสาวจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรค นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ได้เปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 (ศปฉ.ปชป.) เพื่อช่วยประสานคลี่คลายปัญหาผู้ป่วยติดเชื้อตกค้างได้ให้เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด ก็จะทำงานร่วมกันกับทุกพื้นที่ ที่ทำการพรรคส่วนกลางยังเปิดทำการไม่มีวันหยุด เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือประชาชน ประชาชนสามารถใช้บริการได้ตลอดเวลา

นายราเมศกล่าวต่อว่า จากที่ได้มีการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายโดยพรรคได้เปิดศูนย์บริการกฎหมายสู้ภัยโควิด 19 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ขณะนี้ก็ยังดำเนินการอยู่ ประชาชนยังใช้บริการช่องทางนี้อยู่ ผ่านทางโทรศัพท์สายตรงกับนักกฎหมายของพรรค โดยให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความเดือดร้อนในเรื่องกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก บางคนต้องถูกเลิกจ้างถูกพักงานเนื่องจากกิจการได้ปิดลงชั่วคราวหรือถึงขั้นไม่ได้ผ่อนจ่ายในภาระต่างๆจนถูกฟ้องคดี มีปัญหาหนี้สินที่จะถูกฟ้องหรือถูกฟ้องแล้ว รวมถึงการมีปัญหาในการเข้าถึงสิทธิต่างๆของรัฐที่ประชาชนพึ่งมีพึ่งได้ หรือบางรายมีหนี้สินเมื่อไม่มีรายได้ก็ต้องการประนอมหนี้หรือชะลอคดีไว้ก่อน และการช่วยร่างสัญญาต่างๆที่เร่งด่วน รวมถึงการสอบถามข้อปฏิบัติตนในพื้นที่ต่างๆ สิทธิที่พึงจะได้รับ ปัญหาข้อร้องเรียนอิ่นๆที่ผ่านมามีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก 

ขณะนี้ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าการช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน พรรคขอเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างประชาชนรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการให้ความช่วยเหลือ ประชาชน และทุกคนมีส่วนช่วยบุคลากรทางการแพทย์ได้ทุกคน โดยการปฎิบัติตนอย่างเคร่งครัดในการป้องกันตนเอง สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ไม่รวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมากในขณะนี้ คนไทยจะสามัคคีมีวินัย จับมือกันก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน พรรคขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน

ปลัดสปน. สั่งเข้ม เพิ่ม เวิร์ก ฟรอม โฮม เป็น 95% - ขยายเวลาถึง 14 พค.

เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด เรื่องการปฏิบัติงานภายในที่พักและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ถึงผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) มีการแพร่ระบาดในวงกว้างทั่วประเทศไทย โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ โดยยังคงส่งผลต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

นายธีรภัทร กล่าวว่า ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้กำหนดให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สปน. ปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ต่อเนื่องระหว่างวันที่ 16 - 30 เมษายน 2564 (จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90) นั้น เมื่อรัฐบาล และ ศบค. ได้ดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ โดยพบว่าสาเหตุสำคัญ คือการติดเชื้อในที่ทำงาน จึงขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ สปน. ปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) และใช้การประชุมผ่านระบบทางไกล (Video Conference) รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของ ศบค. และตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 

นายธีรภัทร กล่าวว่า จึงขอให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สปน. ปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) อย่างต่อเนื่องสูงสุด (จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95) ระหว่างวันที่ 26 เมษายน - 14 พฤษภาคม 2564 โดยให้ดำเนินการ คือ ให้รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนัก กอง ศูนย์ ตรวจสอบ และสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในที่พักอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง รายงานผลการปฏิบัติงานให้ กองการเจ้าหน้าที่ทราบทุกวัน เพื่อประมวลผลรายงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทราบตามแนวทางที่ได้ปฏิบัติมา

นายธีรภัทร กล่าวว่า สำหรับงานบริการประชาชน การประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานตามกฎหมาย ขอให้พิจารณาดำเนินการประชุมผ่านระบบทางไกล (Video Conference) ทุกการประชุม , งานรับเรื่องราวร้องทุกข์และการขึ้นทะเบียนองค์กรของผู้บริโภค ขอให้ดำเนินการผ่านช่องทางทั้งโทรสายด่วน 1111 การส่งทางไปรษณีย์ เวปไซต์และระบบออนไลน์ที่กำหนดไว้

นายธีรภัทร กล่าวว่า ให้ติดตามสถานการณ์โควิด-19 และข่าวสารที่เกี่ยวข้องจาก ศบค. ทุกวัน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับคนในครอบครัวและญาติมิตร อย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตัวตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง , ขอให้ปฏิบัติงานอยู่ในที่พักเท่านั้น โดยหลีกเลี่ยงการเดินทาง สำหรับบุคคลที่เคยเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง กิจกรรมที่เสี่ยง ขอให้เน้นย้ำมาตรการกักกันตนเอง (Self Quarantine) อย่างเคร่งครัด หากมีอาการน่าสงสัย ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลในพื้นที่ทันทีและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบด้วย

นายธีรภัทร กล่าวว่า สปน.สนับสนุนการปฏิบัติงานของศบค. ในการติดตามสถานการณ์และควบคุมการลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี จึงได้ให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยประสานงาน ติดตามและสนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกจังหวัด ผ่านระบบการประชุมทางไกล แล้วนำข้อมูลที่ได้เสนอ ศบค. เพื่อบูรณาการและสนับสนุนการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง

นายธีรภัทร กล่าวว่า ขอให้ผู้ที่จะร้องทุกข์และเสนอแนะความคิดเห็น และผู้ขอขึ้นทะเบียนองค์กรของผู้บริโภค ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 มาที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักนายกรัฐมนตรี ผ่านโทรสายด่วน 1111 (24 ชั่วโมง) รวมทั้งส่งทางไปรษณีย์ เวปไซต์ และไลน์ อีกทั้งมอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ ยกระดับการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ประสานความร่วมมือกับสื่อมวลชนทุกสาขา เพื่อติดตามในภาพรวมของสถานการณ์และแนวทางการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

‘บิ๊กตู่’ ถกวงเล็กเร่งกระจายวัคซีน

ด้านความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 เมษายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางเข้า ปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมหารือวงเล็บเกี่ยวกับเรื่องการกระจายวัคซีนที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาสมช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ

ปชป. ตั้งชุด DEM Call Team ช่วยประสานผู้ป่วยโควิด-19 ตกค้าง หลังเปิดศูนย์ฯ มีผู้ขอความช่วยเหลือต่อเนื่อง

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2564 พรรคประชาธิปัตย์ --นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่าหลังจากที่พรรคได้แถลงข่าวเปิดศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 เพื่อช่วยประสานคลี่คลายปัญหาผู้ป่วยติดเชื้อตกค้างได้ให้เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดไปเมื่อวานนี้ พบว่ามีผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และแกนนำชาวบ้านในชุมชนติดต่อผ่านเข้ามาในช่องทางต่าง ๆ ของพรรคอย่างต่อเนื่อง และได้ช่วยเหลือประสานให้มีสถานพยาบาลมารับตัวไปรักษาแล้ว 2 ราย

โดยศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 (ศปฉ.ปชป.) ของพรรค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเข้าไปรับข้อมูล และประสานงานกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยประสานส่งต่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในการดูแลตนเองและการป้องกันการแพร่กระจายของโรคในขณะที่ยังไม่ได้รับการดูแลรักษาในสถานพยาบาล ในฐานะที่ตนเองเป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบประสานข้อมูลผู้ติดเชื้อเพื่อการส่งต่อในพื้นที่ กทม. พบว่าหลังจากเปิดศูนย์ฯ ได้มีผู้ประสานงานร้องขอความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันเวลา และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด จึงประสานกับพรรคตั้งชุด DEM Call Team ที่มีทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีต ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. อดีต ส.ก และทีมยุวประชาธิปัตย์เข้ามาเสริมทีม โดยพยายามให้มีตัวแทนครอบคลุมทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งกรุงเทพโซนเหนือ โซนตะวันออก โซนตะวันตก และกรุงเทพชั้นใน เพื่อให้สะดวกในการประสานและติดตามงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากตนเองแล้วยังมีพลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ นายชนินทร์ รุ่งแสง นางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล  นางสาวชมพูนุท นาครทรรพ ดร.อนันตชาติ บัวสุวรรณ และทีมยุวประชาธิปัตย์อีกหลายท่าน

“เป็นที่น่ายินดีว่า เราสามารถช่วยผู้ป่วยติดเชื้อที่ตกค้างให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลได้แล้ว 2 รายหลังจากที่รอเตียงมาหลายวัน ขอบคุณทุกท่านที่มาช่วยกัน ทุกคนเป็นจิตอาสา มาช่วยด้วยใจ เต็มใจ อยากเห็นบ้านเมืองก้าวข้ามผ่านวิกฤตไปได้ นาทีนี้ไม่มีพรรค ไม่มีพวก มีแต่คนไทยทุกคนที่ต้องช่วยเหลือกันและกันในยามที่ยากลำบาก” นางดรุณวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ DEM Call Team มีหน้าที่หลักในการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐโดยช่วยรับเรื่องราวร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อตกค้างที่ยังไม่สามารถเข้าระบบสาธารณสุขได้ที่จะส่งข้อมูลผ่านมาจากช่องทางทั้งแบบออฟไลน์คือ อดีต ส.ส. อดีต ส.ก และบุคลากรของพรรคในพื้นที่ กทม. และออนไลน์ 2 ช่องทางหลักคือ Facebook : facebook.com/DemocratPartyTH และ Twitter : twitter.com/democratTH เพื่อส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา ภายใต้แนวทางของภาครัฐต่อไป

"ชวน" ชี้สภาฯ ยังต้องเดินหน้ทำงานต่อ แต่ปรับมาตรการประชุมใช้ระบบซูมร่วม ยันถึงเวลาจะชี้แจงการทำงานช่วงเปิดสมัยสามัญ 22 พ.ค.นี้ เผย “เลขาสภาฯ”รายงานในสภาฯมีผู้ติดเชื้อโควิด 1 คน

เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2564 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลภายนอกติดเชื้อโควิด-19 แล้วเข้ามาประชุม และมาปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภาอย่างต่อเนื่อง จะกระทบกับการเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญในวันที่ 22 พ.ค.นี้หรือไม่ว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาชี้แจงกรณีการเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญ แต่จะมีการชี้แจงหลังจากนี้อีกครั้ง

ส่วนงานประชุมอื่นๆของรัฐสภา ตอนนี้ยังคงเป็นไปตามปกติ ส่วนใหญ่เป็นการประชุมผ่านระบบออนไลน์ หรือ ใช้แอปพลิเคชั่นซูม เพื่อไม่ให้การดำเนินงานเกิดความล่าช้า เช่นการประชุมคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภาหรือก.ร. วันนี้(26 เม.ย.)จะมีบุคคลร่วมประชุมจากที่รัฐสภา 8 คนและประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 9 คน ซึ่งยอมรับว่าการทำงานในสถานการณ์นี้จะต้องมีการปรับตัว โดยเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ทางเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อในรัฐสภา 1 คน ส่วนคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ให้กักตัว 14 วัน โดยรัฐสภาเข้มงวดในเรื่องนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ก่อนการประชุมก.ร.วันนี้ นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งกำชับเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างกับผู้เข้าร่วมประชุม ส่วนนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ระบุว่า ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ของสมาชิกวุฒิสภ(ส.ว.) จำนวน 5 คน  และข้าราชการที่ไปร่วมกิจกรรมแจกอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ผู้เดือนร้อนจากวิกฤตโควิด-19 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ผลตรวจยังไม่ออกมา และกำลังติดตามอยู่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top