Saturday, 21 June 2025
Politics

“ชวน” เผย ยังไม่ฉีดวัคซีนต้านโควิด บอกรอบุคลากรทางการแพทย์ฉีดให้ครบก่อน ย้ำต้องระมัดระวังตนเอง เข้มพื้นที่สภาฯ หลังหยุดยาวสงกรานต์

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในสภาฯ เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักระลอกใหม่ ภายหลังจากหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้สั่งการไปหมดแล้ว โดยให้เพิ่มความเข้มงวด และมีการทำงานจากบ้าน หรือเวิร์ค ฟอร์ม โฮม ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีข้าราชการสภาฯ คนใดติดเชื้อ

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับส.ส. ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สภาฯ นั้น ได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 16 - 30 เม.ย. โดยมีผู้เข้าชื่อแจ้งความประสงค์สมัครใจจะฉีดประมาณ 200 คน แต่จากการสอบถามรองนายกรัฐมนตรีโดยตรงทราบว่ามีแพทย์ในพื้นที่ต่างจังหวัดยังไม่ได้ฉีด เพราะวัคซีนไม่เพียงพอ แต่เชื่อว่าเมื่อกระบวนการผ่านคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วก็น่าจะทั่วถึง เพราะเท่าที่รับฟังทราบว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ก็น่าจะฉีดวัคซีนได้หมด

เมื่อถามว่า ส่วนตัวได้ฉีดวัคซีนแล้วหรือยัง นายชวน กล่าวว่า ตนรอให้บุคลากรทางการแพทย์ฉีดวัคซีนให้ครบก่อนทุกคน ซึ่งตนก็ได้สอบถามไปว่าเขาจะได้ฉีดกันเมื่อไหร่ เขาก็บอกว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ไม่งั้นจะหาว่านักการเมืองเอาไปก่อน ขณะที่บุคลากรผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อยังไม่ได้ฉีด ตนจึงรอให้เขาเรียบร้อยก่อน

“ไม่ใช่ว่าคนที่ไม่ฉีดแล้วจะติดเชื้อ เราต้องระมัดระวังตัวเอง ก็เห็นใจส.ส. ที่มีความเสี่ยง เพราะสัมผัสคนเยอะ และไปออกงานต่าง ๆ เกือบทุกวัน แต่คนที่เสี่ยงกว่าพวกเราก็มี คือบุคลากรทางการแพทย์แนวหน้า ทั้งนี้วิธีที่ดีที่สุดคือทุกคนอย่าหวังพึ่งวัคซีนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพึ่งตัวเอง หลีกเลี่ยงไม่ไปอยู่ในเหตุการณ์ที่อาจจะติดเชื้อได้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและช่วยสังคมส่วนรวม ส่วนส.ส. ฉีดแล้วเมื่อพบกับชาวบ้านเขาจะมั่นใจหรือไม่ ผมมองว่าขาวบ้านไม่ได้สนใจว่าส.ส. ฉีดหรือไม่ฉีด เพราะอยากมาจับมือและอยากมาอยู่ใกล้มากกว่า” นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้กระบวนการนำเข้าวัคซีนยังเป็นไปได้น้อย ทางสภาฯ มีกระบวนการใดช่วยประสานนำวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติมได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า สภาฯ คงไม่ไปเกี่ยวข้องและสภาฯ ไม่ได้เป็นผู้นำเข้ามา

“บิ๊กป้อม” มาแล้ว ขอเป็นกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ สู้โควิด-19 ดูแลปชช.ทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะห้วหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขอร่วมเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน และเจ้าหน้าที่ทุกคนซึ่งเป็นด่านหน้าช่วยเหลือประชาชน
ที่ร่วมมือปฎิบัติหน้าที่ดูแลและเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในทุกพื้นที่ของประเทศอย่างเข้มแข็ง แม้จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสก็ตาม

เชื่อว่าด้วยความเข้มแข็งในการปฎิบัติหน้าที่ของทุกฝ่ายมั่นใจว่าจะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปได้ ประชาชนทุกคน ถือเป็นส่วนสำคัญที่สามารถสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และให้ประเทศไทยสามารถรอดพ้นจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไปได้โดยการปฎิบัติตนตามคำแนะนำทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็น เว้นระยะห่างทางสังคม งดกิจกรรมการรวมตัวกัน ล้างมือบ่อย ๆ การใส่หน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ลดการเดินทาง เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อและการแพร่ระบาดไปสู่บุคคลอื่น ๆ

รัฐบาลมีเป้าหมายที่ชัดเจน ในการสนับสนุนบุคคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนทั้งเป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ให้สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง ทั้งการจัดหาเตียงรักษาผู้ป่วยให้เพียงพอ รวมทั้งการจัดโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศที่พร้อมให้บริการผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังมีแผนเร่งการนำเข้าวัคซีน และเร่งผลิตวัคซีนในประเทศ เพื่อดำเนินการฉีดป้องกันให้กับประชาชนให้ได้ตามแผนทางการแพทย์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ตามมาตรฐานสาธารณสุขสากล ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดประเทศได้อย่างเป็นทางการได้อย่างรวดเร็วที่สุด

พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 64 ถึงการแถลงข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19

เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564 นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Oak Panthongtae Shinawatra" ระบุว่า ลุงบอกจะแถลงข่าว... คนทั้งประเทศก็รอฟัง นึกว่าจะนำเสนอทางรอด จาก #Covid19

ลุงพูดไปบ่นไป ฟังก็ไม่รู้เรื่อง วัคซีนก็ไม่มา สาระก็ไม่มี ลุงนำพาประเทศฝ่าโควิด เหมือนตาบอดคลำทาง ไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

ประเทศไทย อยากมีบัณฑิต ทำได้ง่ายนิดเดียว ลุงก็ลุกจากเก้าอี้สิครับ ลาออกไปซะ จะได้มีบัณฑิต มาบริหารประเทศบ้าง

#ผนงรจตกม คำ ๆ นี้ ใกล้จะเป็นความจริง ขึ้นมาทุกทีแล้วครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/oakpanthongtae/posts/307193384109060

‘บิ๊กป้อม’ บอก โควิดหายค่อยประชุม พปชร ‘ยัน’ ยังไม่มีความเร่งด่วน

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง การเลื่อนกำหนดการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ ว่า ยังไม่รู้ว่าจะประชุมเมื่อไหร่ โควิด-19 เลิกเมื่อไหร่ก็ประชุมเมื่อนั้น ตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่ต้องประชุมพรรค

“ประวิตร” ระบุมาเลฯ ยังไม่ประสานทางการไทย กรณีเตรียมผลักดันคนไทยลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศ พร้อม โยนจนท. เอาผิดผู้ประกอบการย่านทองหล่อ ปล่อยคนแออัดจนโควิดระบาด

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ตามแนวชายแดน ว่า ขณะนี้ไม่มีอะไร เมื่อมีการเข้ามาก็ตรวจสอบและรับ ซึ่งต้องยอมรับว่าถึงขณะนี้มีการผลักดันคนที่ลักลอบเข้าเมืองไม่ถูกต้องตามกฎหมายออกมา อาทิ คนที่ไม่มีพาสปอร์ต วีซ่า หรือพวกหลบหนีเข้าเมืองก็ต้องผลักดันออกมา ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยถ้ามีการทำผิดกฎหมายก็ต้องจับกุม ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานและตัวเลขคนที่หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ส่วนทางมาเลเซียและกัมพูชา ยังไม่มีรายงานเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่าทางประเทศมาเลเซียได้มีการประสานทางการไทยเข้ามาแล้วหรือยัง ในการผลักดันคนไทยที่หลบหนีเข้าเมืองกลับประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มีการประสานอะไรเข้ามา ทั้งนี้พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค4 ลงไปดูพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว

นอกจากนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประชาชนเรียกร้องให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดผับผิดกฎหมายย่านทองหล่อ รวมทั้งเอาผิดกับประกอบการด้วย ว่า ต้องให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ว่าทำผิดหรือทำถูกอย่างไร ส่วนเรื่องการเอาผิดผู้ประกอบการที่ปล่อยให้มีคนเข้าไปอยู่อย่างแออัดนั้นเจ้าหน้าที่ต้องแล และดูว่าอันไหนผิดกฎหมายก็ทำตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนการดูแลเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติในพื้นที่ ก็มีการดูแลอยู่แล้ว

ครม.ขยาย “เราชนะ” อีก 1เดือน ปรับเป้าเพิ่ม 32.8 ล้านคน

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference วันที่ 20 เมษายน 2564 นี้ มีวาระทางด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจ คือ กระทรวงการคลัง จะเสนอขอขยายระยะเวลาการใช้เงินในโครงการเราชนะเพิ่มอีก 1 เดือน จากเดิมสิ้นสุดเดือน พ.ค. 64 เป็นสิ้นสุด 30 มิ.ย. 64 เพื่อให้ผู้ที่เพิ่งได้รับสิทธิ คือ ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้พิการ ผู้สูงวัย ซึ่งได้รับวงเงินไปเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีเวลาใช้เงินมากขึ้น และยังเสนอขออนุมัติงบเพิ่มเติม เนื่องจากมีผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 31.1 ล้านคน อยู่ที่ 32.8 ล้านคน

ส่วนวาระอื่น ๆ ที่สำคัญ สำนักงบประมาณ เสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท โดยประมาณการจัดเก็บรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท และการกู้งบประมาณขาดดุล 700,000 ล้านบาท ฉบับ ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน ด้าน กระทรวงพลังงาน เสนอร่างกฎกระทรวงคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว 

ขณะที่กระทรวงคมนาคม เสนอผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในปีงบประมาณ 2563 นโยบายของคณะกรรมการ และโครงการและแผนงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในอนาคต ทางด้านกระทรวงเกษตรฯ เสนอร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการยาง และกระทรวงพม. เสนอการขอต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารออมสิน วงเงิน 500 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย

เดินหลง...ในดงโซเชียล​ By รัตนา & โกสินทร์

เปิดโซเชียลมาเห็นภาพ ท่านเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอเกาะพะงัน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้จัด 'โรงพยาบาลสนาม'​ แล้ว ได้แต่ปลงสังขาร 'อนิจจา วต สังขารา'​ สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง

นั่นก็เพราะวัดคงยังเป็นที่พึ่งพิงให้ประชาชนได้เสมอในทุกสถานการณ์ มองมุมหนึ่งก็รู้สึกสงบถึงขั้วหัวใจ อากาศแม้จะร้อนแต่ก็เย็นสบาย ยิ่งมีเสียงสวด “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา” ให้ฟังยามนอนพักสังเกตุอาการ คงได้เจริญสติด้วยใจระทึกว่า ทำไมน้อ! ถึงติดเชื้อโควิดได้

ว่าแต่พอพูดถึงเรื่องการกักตัวในพื้นที่​ รพ.สนามแล้ว​ ก็ได้แต่ถอนหายใจ!

เพราะที่ไหน ๆ​ ก็จะระงมไปด้วยเสียงบ่นของผู้กักตัว

บางพื้นที่ ที่ไม่มีระบบปรับอากาศ​ ปล่อยให้ร้อน นอนไม่หลับ​ บ่นๆ​ๆ​ กันอยู่นั่น

เห็นภาพแล้วก็ละเหี่ยใจ ทำไมคุณ ๆ​ ดันไม่มองเห็นความลำบากของนักรบเสื้อกาวน์ ที่ต้องสวมชุด PPE มาดูแลคุณกันหน่อยล่ะฮึ?

อยากถามตรงนี้ ว่าใครลำบากมากกว่ากัน ยิ่งมาทราบว่า เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มาจากสถานบันเทิงด้วยแล้ว ใจอยากให้ย้ายไปกักตัวที่ 'ศาลาวัด'​ พร้อมเสียง​ “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา” ให้รู้แล้วรู้รอด จะได้มีสำนึกรับผิดชอบตัวเองกันมากขึ้น

แล้วนี่น่ะ​ ล่าสุด หนู ๆ​ น้อง ๆ บ่นกันเต็มโซเชียล ว่าทำไม รพ.สนาม ถึงไม่มีการกั้นฉากกั้นม่าน ให้เป็นสัดส่วน เชื้อไม่แพร่กันง่ายหรือไง? ทำไมไม่กั้นฉากกั้นห้องหอแบบในต่างประเทศ?

เอ้า!! ตั้งใจฟังนะเด็ก ๆ​ ภาพ รพ.สนามจากต่างประเทศ เป็นการตั้ง รพ.สนาม เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหนัก การกั้นฉากติดม่าน เค้าใช้บังสายตาไม่ให้เห็นการรักษาผู้ป่วยที่อยู่เตียงข้าง ๆ จะได้มีความเป็นส่วนตัวและลดความเครียด ต่างจาก รพ.สนาม ในบ้านเรา ที่ออกแบบใช้งาน สำหรับกักตัว สังเกตอาการ ถ้ามีอาการก็ส่งตัว แยกส่วนเข้า รพ. ดูแล

อีกอย่างหนึ่ง คุณหมอก็เคยบอกแล้วว่า การกั้นม่าน จะเพิ่มความแออัดทำให้ การไหลเวียนของอากาศไม่สะดวก เพิ่มการสะสมของเชื้อในอากาศ ทางที่ดีนอนบนเตียง​ อย่าไปรวมกลุ่มเล่นไพ่กันสนุกสนาน (อย่างที่มีภาพหลุด) หรือถ้าไม่มีอาการเลย ก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตามที่เค้าอนุญาต เหมือนน้อง ๆ ที่ รพ.สนามเชียงใหม่เค้าช่วยกันประกอบเตียงสนามที่ทำจากกระดาษ สำหรับรองรับผู้ที่ต้องกักตัวรายใหม่กันดีกว่า

เข้าใจป่ะ!!

ขอบ่นเรื่อง รพ.สนาม เท่านี้

ไถโซเชียลต่อ​ หลุดกรอบจอของศาลาวัด ก็มาสะดุดข่าวฝรั่งฝังตัวในไทย​ 35​ ปี 'เดวิด สเตร็คฟัสส์'​ นักวิชาการชาวอเมริกัน อดีต ผอ.โครงการ CIEE ขอนแก่น ผู้ดูแล 'The Isaan Record'​ ที่พึ่งถูกยกเลิกวีซ่าไป

ล่าสุดลือกันว่า เจ้าตัว เสนอขอทำงานให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น 'ฟรี'​ เพื่อหวังให้ ม.ขอนแก่น​ ออกหนังสือรับรองการว่าจ้างเพื่อยื่นขอต่อใบอนุญาตทำงาน​ (Work permit) สำหรับขอต่อวีซ่าอยู่ต่อในไทย

ตรงนี้คงขอจับตาดู ว่าจะมีมหาวิทยาลัยอื่นไหมที่สนใจว่าจ้าง นักวิชาการต่างชาติท่านนี้ เพื่อผลิตงานวิจัย​ 'ต่อต้าน ม.112'​ ตามที่เค้าชอบทำวิจัยศึกษาด้านนี้มาตลอด 35 ปี

ส่วนตัวแล้ว​ สงสัยคงต้องเร่งกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แกไปได้ดี​ 'นอกบ้านเรา'​ เหมือนเพื่อนนักวิจัย สุรชัย ณ เจแปน จะเป็นการดีที่สุด

ก่อนจะลาจาก​ เจออีกฟีดกระแทกตาในโซเชียล​ต่อเชื่อมกับ​ 'เจ้าพ่ออีสานเรคคอร์ด'​ นายนี้ เพราะดันมีข่าวหลุดแชทหลุด เรื่องลี้ ๆ​ หนี ๆ​ ไปยังต่างแดนของกลุ่มแกน​ 3​ นิ้ว​

โดยหนึ่งในนิ้วอย่าง​ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group - DRG) และกลุ่มคณะราษฎร 63​ ก็เร่งออกมาปฏิเสธว่า ทั้งหมดคือเฟกนิวส์ให้งงงวยกันเบา ๆ​ ว่า...

"ไม่ต้องลงทุนถึงขั้นสร้างแชตปลอมออกมาโจมตีกันแบบนี้ เพราะมันดูไร้สาระมาก และที่สำคัญ ไม่มีใครใช้แชตไลน์คุยกับสถานทูตนะคะ มันไม่ปลอดภัย"

...ใครคือทูตก็ไม่รู้ แล้วใครเป็นคนบอกว่าเป็นทูต

...คุยกับทูตไม่ปลอดภัยอันนี้ก็น่าสนใจ

...แต่เสียดายที่ไม่ยอมบอกต่อว่า ไม่ปลอดภัยจากอะไร เพราะอะไร

ซึ่งใครจะเชื่อไม่เชื่อ แต่เราอยากบอกว่า กลุ่มสามนิ้ว ทั้งลูกเด็กเล็กแดง ไปจนถึงนักวิชาการ ต่างออกมาแก้ข่าวกันอุตลุด ถึงขนาดจับผิดเรื่องภาษาอังกฤษกันแบบขำ ๆ แต่เหงื่อตกเนียน ๆ

แบบนี้มันน่าพิลึกอย่างไรไม่รู้นะจ๊ะ ทั้ง ๆ​ ที่ สาวสวยหลังม็อบ​ ออกมาระบุพิกัดเองเลยว่า ไม่เคยติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตผ่านทางไลน์

เอ!! ถ้าไม่มีฟืนไฟคงไม่มีควันให้เราเห็น ว่าไหม?

เราสอง รัตนา & โกสินทร์ อ่านด้วยสายตาฉงน...งงงวย​


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

'เทพไท'​ เสนอตัดงบสัมมนา-ดูงาน-ก่อสร้าง-ซื้ออาวุธ ในการจัดงบ​ 65 มาแก้ปัญหาโควิด ชี้ไม่ควรออก พรก.เงินกู้อีก เชื่อส.ส.ฝ่ายค้าน-รบ.หนุนแน่

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต​ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่สำนักงบประมาณ จะเสนอร่างพระราชบัญญัติ​ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อขอจัดทำเอกสารงบประมาณ ในวงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท นั้นว่าเป็นวงเงินงบประมาณที่จัดตั้งน้อยกว่า วงเงินงบประมาณ ปี​ 2564 ที่มีวงเงิน​ 3.3 ล้านล้านบาท

โดยการกู้งบประมาณขาดดุล 608,962.5 ล้านบาท ประมาณการรายได้ 2,677,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับวงเงินงบประมาณ ปี​ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ประมาณการรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท และการกู้งบประมาณขาดดุล 700,000 ล้านบาท ประมาณการรายได้จะน้อยกว่า แต่การกู้งบประมาณขาดดุลจะสูงกว่า ซึ่งจะเป็นภาระหนี้ของประเทศต่อไป

นายเทพไท กล่าวต่อว่า อยากจะเสนอให้ครม.มีความรอบคอบในการอนุมัติจัดทำงบประมาณประจำปี 2565 ของสำนักงบประมาณ ควรเตรียมแผนงานโครงการรองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ​ 3 หรืออาจจะมีรอบ​ 4 หรือรอบ​ 5 ตามมาก็ได้ ซึ่งไม่ต้องรื้อแผนงบประมาณในภายหลังอีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ รัฐบาลควรปรับลดแผนการใช้เงินงบประมาณของทุกกระทรวง ทบวง กรม มาเป็นงบประมาณที่ใช้ในการแก้ปัญหาประเทศ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตัดงบประมาณในส่วนต่าง ๆ เช่น

1.) งบการประชุมสัมมนา

2.) งบการศึกษาดูงาน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

3.) งบประมาณการก่อสร้างโครงการใหม่ ยกเว้นโครงการที่มีงบผูกพัน

และ​ 4.) งบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และการก่อสร้างค่ายทหาร เพื่อให้รัฐบาลได้มีเม็ดเงินงบประมาณเพียงพอ ในการเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ช่วงโควิดกำลังระบาด และไม่ควรที่จะใช้พระราชกำหนด​ (พรก.) เงินกู้เพิ่มเติมอีกในอนาคต

“ผมเชื่อว่าถ้ารัฐบาลจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ตามความเหมาะสม และความจำเป็นของสถานการณ์บ้านเมือง ก็สามารถแถลงเหตุผลต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้เข้าใจ อย่างตรงไปตรงมา ก็จะได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างแน่นอน” นายเทพไท กล่าว


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ชวน เผย ทราบแล้ว ช่างไฟสร้างสภาติดโควิด ชี้! เป็นเรื่องของซิโนไทยดำเนินการตรวจ

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ช่างไฟฟ้าที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาติดโควิด-19 จำนวน 3 คน ว่า ตนได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เข้าใจว่าไม่ได้เข้ามาปฏิบัติงานในสภาฯ ซึ่งทางบริษัทซิโน-ไทย ได้ดูแลอย่างเข้มงวด เพราะช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีการประชุม เจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดก็ต้องปฏิบัติตนอย่างเข้มงวด

และที่พนักงานติดเชื้อถือเป็นเรื่องภายในบริษัท โดยปกติแล้วพนักงานที่เข้ามาทำงานในรัฐสภาต้องตรวจคัดกรองทุกคน ตนพยายามบอกเจ้าหน้าที่ว่าอย่าไปเกรงใจ เช่นการลืมหน้ากากอนามัยก็ให้บอกได้เลย มีหน้ากากอนามัยบริการให้สามารถมาขอได้ มีที่ตรวจวัดอุณหภูมิหากผิดปกติก็ไม่ให้เข้ามาในอาคารสภาอยู่แล้ว และการตรวจพนักงานทุกคนเพื่อหาเชื้อโควิด-19 นั้นก็เป็นเรื่องของบริษัทซิโน-ไทย

นายชวน กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมในสภาก็ยังดำเนินไปตามปกติ โดยมีการใช้ประชุมแบบทางไกล ไม่เช่นนั้นงานจะค้าง อย่าไปหวังให้โควิด-19 หมดต้องอยู่กับความจริงโดยใช้วิธีป้องกัน ส่วนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ชุดต่างๆ ช่วงนี้ก็มีการประชุมน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ส่วนที่มีการประชุมก็ใช้การประชุมด้วยระบบทางไกล

ราเมศ เผย เฉลิมชัย ย้ำ ตัวแทน - สาขาพรรคครบทุกเขต พร้อมทุกเวลาลงสนามลต.หากยุบสภา

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการตั้งตัวแทนพรรค และสาขาตามที่กฎหมายกำหนดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ย้ำถึงการดำเนินการตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ไม่จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง หรือยุบสภาเกิดขึ้นในอนาคตว่า  

พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ในทุกสถานการณ์ได้เตรียมความพร้อมตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้ง การตั้งสาขาพรรค ครบทุกเขตเลือกตั้ง พรรคได้ดำเนินการครบทั้งหมดแล้ว เพื่อรองรับการเลือกตั้ง และทำงานให้กับประชาชน

ในส่วนของการเตรียมตัวผู้สมัคร มีผู้สมัครเดิมที่ยังคงทำพื้นที่อยู่ และมีบุคคลที่สนใจในเขตเลือกตั้งหลายเขตเป็นจำนวนมาก พรรคเตรียมบุคลากรไว้ให้ทำงานทำพื้นที่ล่วงหน้า ทำกิจกรรมร่วมกับประชาชน ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆทำงานร่วมกับส่วนกลางอย่างเต็มที่

ที่สำคัญรัฐมนตรีก็ได้มีการนำผลงานที่เกิดจากนโยบายของพรรคไปสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในเขตเลือกตั้ง รัฐมนตรีทั้ง 7 คน มีหลายผลงานที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นประกันรายได้พี่น้องเกษตรกร เรื่องชลประทานระบบน้ำ การแก้ปัจภัยแล้ง ด้านสวัสดิการ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็กแรกเกิด เรื่องบ้านมั่นคง รวมถึงการศึกษา รวมถึงเรื่องอื่น ๆ และในส่วนทีมยุทธศาสตร์ และทีมนโยบายพรรคได้มีการเตรียมการคิดนโยบายต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้พี่น้องประชาชนให้เกิดประโยชน์และยั่งยืนที่สุดต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top