Tuesday, 10 June 2025
NewsFeed

'ราเมศ' ย้ำ 'เฉลิมชัย' สุจริตไม่คิดโกง พร้อมชี้แจงทุกประเด็น ในสภา

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมชี้แจงในสภาทุกประเด็น ไม่ได้มีความกังวลใด การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบ ถ่วงดุลฝ่ายบริหาร เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีหน้าที่ชี้แจงและวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เวลา 8.30 น. ที่อาคารรัฐสภา ชั้น 3 พรรคได้นัดประชุม ส.ส.ของพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุม การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนจะติดตามการอภิปรายอย่างใกล้ชิด 

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากการชี้แจงในทุกประเด็นแล้ว จะได้ชี้ให้เห็นถึงผลงานจากการทำหน้าที่ มีความสำเร็จในการสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรอย่างไรบ้าง เท่าที่ได้ร่วมเตรียมข้อมูลผลงานในช่วงที่นายเฉลิมชัย ทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือว่ามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้น เรื่องน้ำ เรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง เรื่องการประมง เรื่องยางพารา รวมถึงการมีแนวทางส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืนในทุกๆด้าน การเยียวยาพี่น้องเกษตรกรอย่างเต็มที่ ประการสำคัญ นโยบายเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด รายละเอียดจะได้ชี้ให้เห็นในสภาว่ามีการทำงานอย่างเป็นระบบ ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด การทำงานที่ยึดความสุจริตไม่คิดโกง จึงมั่นใจว่าชี้แจงได้ในทุกประเด็น

บี้ทุกส่วนราชการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในราชการ

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือถึงทุกส่วนราชการได้พิจารณานำมติของที่ประชุมครม. ครั้งล่าสุดเกี่ยวกับแนวทางการนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ราชการ ไปปฏิบัติ เพื่อเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและการใช้พลังงานทดแทนของประเทศไทยเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ที่จำเป็นต้องให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันแก้ไข 

สำหรับแนวทางการดำเนินการนั้น ที่ผ่านมา ครม.ได้เห็นชอบในหลักการให้ทุกส่วนราชการพิจารณาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ที่ขบเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์อีวี มาใช้ในราชการแทนรถยนต์เดิมที่หมดอายุการใช้งานหรือจะต้องจัดซื้อจัดจ้างขึ้นใหม่ เพื่อรองรับภารกิจต่าง ๆ ของหน่วยงานนั้น หรือนำมาสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งใหม่ โดยในระยะแรกให้เริ่มจากหน่วยงานสำคัญที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นก่อน โดยเฉพาะให้ส่วนราชการที่มีที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ถือปฏิบัติตามแนวทางนี้อย่างเคร่งครัดก่อนหน่วยงานอื่น  

ขณะเดียวกันที่ประชุม ครม. ยังได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยให้กระทรวงพลังงาน ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่น ๆ ติดตามและประเมินผลการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของส่วนราชการต่าง ๆ เป็นระยะ อย่างต่อเนื่อง จากนั้นให้รายงานผลการประเมินมาให้กับที่ประชุมครม. รับทราบโดยเร็ว เพื่อจะพิจารณาขยายผลการดำเนินการตามความเหมาะสมไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ต่อไป 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจงกรณีโลกโซเชียลฯ แชร์ข่าวตำรวจกู้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดคดี ‘ผกก.โจ้’ ซ้อมทรมานผู้ต้องหา จมน้ำตาย เป็นข่าวปลอม วอนหยุดแชร์ต่อ เตรียมดำเนินคดีคนปล่อย

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่า เป็นข่าวปลอม 1 กรณี คือ กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ ว่า ‘ร่วมส่งฮีโร่ ขึ้นสวรรค์ หมวดยิ้ม นายทศพร แก้วเกิด’ สายตรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งเป็นผู้กู้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ผกก.โจ้ จมน้ำเสียชีวิต นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานจาก ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ว่า ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นข่าวปลอม เนื่องจาก สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ไม่มีข้าราชการชื่อนามสกุลดังกล่าว อีกทั้งไม่มีข้าราชการตำรวจ ใน สภ.เมืองนครสวรรค์ เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกรณีดังกล่าว สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วตามคดีอาญาที่ 1171/2564 ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทร.สายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’


ที่มา : https://mgronline.com/crime/detail/9640000085406


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'สหรัฐฯ' ส่งโดรนสังหารกลุ่ม 'ไอซิส-เค' อีกครั้ง เพื่อสกัดคาร์บอมสนามบินคาบูล

(30 ส.ค. 64) เกิดระเบิดใกล้สนามบินคาบูลของอัฟกานิสถานเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่และพยานระบุเป็นการโจมตีด้วยจรวด ด้านรอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่อเมริกันว่า กองทัพสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางทหารในเมืองหลวงแห่งนี้ โดยส่งโดรนยิงมิสไซล์เด็ดชีพมือระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายเตรียมโจมตีสนามบิน

รายงานรอยเตอร์อ้างคำกล่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันหลายคนที่ขอสงวนนามว่า กองทัพสหรัฐโจมตีเป้าหมายที่อาจเป็นมือวางระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายของกลุ่มไอซิส-เค (กลุ่มรัฐอิสลามในอัฟกานิสถานและปากีสถาน) ที่กำลังเตรียมการโจมตีสนามบินระหว่างประเทศฮามิดการ์ไซแห่งนี้ แต่พวกเขาอ้างว่าข้อมูลที่มีเป็นข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้

มีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนกล่าวถึงระเบิดที่เกิดใกล้กับสนามบินคาบูล และภาพข่าวทางโทรทัศน์เผยกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า ยังไม่มีรายงานว่ามีคนบาดเจ็บล้มตายหรือไม่ พยาน 2 คนบอกว่าดูเหมือนระเบิดจะเกิดจากจรวดยิงโจมตีบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ทางฝั่งเหนือของสนามบิน

รายงานบีบีซีกล่าวว่า ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการของสหรัฐฯ และยังไม่ชัดเจนว่าปฏิบัติการนี้เกี่ยวข้องกับเหตุจรวดโจมตีอาคารใกล้กับสนามบินแห่งนี้หรือไม่

ต่อมาเจ้าหน้าที่อเมริกันหลายคนยืนยันว่า กองทัพสหรัฐฯ ส่งโดรนจากฐานภายนอกอัฟกานิสถานยิงมิสไซล์โจมตีมือระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายของไอซิส-เคที่กำลังพุ่งเป้าโจมตีสนามบิน ส่วนระเบิดที่เกิดตามมาหลังจากจรวดโจมตีโดนเป้าหมายนั้นแสดงให้เห็นว่ารถยนต์เป้าหมายกำลังบรรทุกระเบิดปริมาณมาก

การโจมตีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของกองทัพสหรัฐฯ นับแต่มือระเบิดไอซิส-เค หรือไอเอส-เค โจมตีด้านนอกสนามบินคาบูลเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว คร่าชีวิตทหารอเมริกัน 13 นาย และพลเรือนอัฟกันอีกราว 170 คน

ด้านซาบิฮุลลาห์ มูจาฮิด โฆษกตอลิบัน กล่าวว่า ระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์เป็นการยิงมิสไซล์โจมตีของสหรัฐฯ "รถยนต์คันนี้และคนที่อยู่ในรถโดนฆ่าตายในการโจมตีด้วยโดรน" เขากล่าว และบอกว่า ตอลิบันเปิดการสอบสวนแล้ว เพื่อให้แน่ชัดว่ามีมือระเบิดฆ่าตัวตายขับรถบรรทุกระเบิดจริงหรือไม่


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/598432
https://www.reuters.com/world/asia-pacific/us-carried-out-military-strike-kabul-officials-say-2021-08-29/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

ทบ.เผยทหารใหม่ผลัด 1ผ่านการฝึกเบื้องต้นครบ 6 สัปดาห์ สุขภาพแข็งแรงปลอดภัย พร้อมเสริมทัพช่วยประชาชน คลี่คลายสถานการณ์โควิด-19

ที่กองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) ๆพ.ท.หญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2564 ได้ผ่านการฝึกหลักสูตรทหารใหม่เบื้องต้นของกองทัพบก เป็นเวลา 6 สัปดาห์ เมื่อ 25 ส.ค.64 ที่ผ่านมา และยังคงดำรงมาตรฐานการฝึกและพัฒนาศักยภาพไว้อย่างครบถ้วน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการฝึกเฉพาะหน้าที่แยกขึ้นกองร้อย เพื่อให้มีความรู้เฉพาะตรงตามตำแหน่งที่ได้รับการบรรจุ สามารถปฏิบัติงานร่วมกับกำลังพลของหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ภายใต้มาตรการพิทักษ์พลของกองทัพบก และสอดคล้องกับแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ ศบค.กำหนด โดยตลอดระยะเวลาการฝึกทหารใหม่ หน่วยฝึกได้ดำเนินการตามแนวทาง “Bubble and Seal” อย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการดูแลการฝึกทหารใหม่ให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ซึ่งได้ดำเนินการอย่างเป็นระบบตั้งแต่ตรวจคัดกรองการรับทหารใหม่, การกักตัว 14 วันในหน่วยฝึก, การฉีดวัคซีนให้ทหารและกำลังพลที่เกี่ยวข้องกับการฝึกซึ่งได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล, แยกการฝึกเป็นกลุ่มย่อย หมุนเวียนสถานี จัดสรรพื้นที่ฝึกเป็นระบบปิดแยกออกจากชุมชนทหาร และปรับรูปแบบการฝึกให้มีความอ่อนตัวตามสถานการณ์ภายใต้การดูแลและติดตามอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบกในพื้นที่ ส่งผลให้หน่วยฝึกสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้

นอกจากนี้หน่วยฝึกทหารใหม่ได้เสริมกิจกรรมเรียนรู้เพิ่มพูนทักษะการดำรงชีวิต และการปรับตัวให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ในหน่วยทหาร อาทิ กิจกรรมการพบปะของผู้บังคับบัญชา เพื่อดูแลความเป็นอยู่ การเอาใจใส่และให้คำแนะนำการดำเนินชีวิตในค่ายทหาร, กิจกรรมส่งเสริมสัมพันธภาพของครอบครัวในวันแม่แห่งชาติเพื่อแสดงความกตัญญูต่อบุพการี และดำรงการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวผ่านระบบออนไลน์ตามห้วงเวลาที่เหมาะสม, การจัดประกอบเลี้ยงอาหารมื้อพิเศษเสริมสร้างกำลังใจให้ทหารได้ผ่อนคลายจากการฝึกตลอดจนส่งเสริมการเก็บออมและจัดสรรรายได้หรือเงินเดือนบางส่วนให้กับบุพการีหรือครอบครัว เพื่อช่วยเหลือในสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิค-19 ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้ความสำคัญในด้านสิทธิและสวัสดิการของกำลังพล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารกองประจำการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยส่งเสริมการเรียนรู้ฝึกฝนทักษะด้านต่างๆ, เสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายให้แข็งแรง, ปลูกฝังอุดมการณ์ปกป้อง พิทักษ์ เทิดทูนสถาบันหลักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความตั้งใจมุ่งมั่น มีจิตอาสา ต่อยอดสู่การเป็นทหารอาชีพ และที่สำคัญสามารถดำรงชีวิตในหน่วยทหารได้เป็นอย่างดีตลอดห้วงระยะเวลาประจำการ

ทั้งนี้ กองทัพบกได้ดำเนินการฝึกทหารกองประจำการผลัดที่ 1 ของปี 2564 ให้มีความพร้อมทั้งด้านสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรค มีจิตใจที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น เสียสละ มีคุณลักษณะและอุดมการณ์ของการเป็นทหารอาชีพ พร้อมเป็นกำลังสำคัญของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงและดำรงการสนับสนุนรัฐบาลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน คลี่คลายสถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มขีดความสามารถ 

“บิ๊กบี้” กำชับ กกล.ชายแดน ตรึงกำลังลาดตระเวน พร้อมบูรณาการมุ่งสู่การดำเนินคดีถึงผู้นำพา เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองและขบวนการผิดกฎหมายทุกรูปแบบ

ที่กองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) พ.ต.หญิง จุฑาทิพย์ วุฒิรณฤทธิ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองกำลังชายแดนของกองทัพบกทั้ง 7 กองกำลัง ยังคงเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมามีการเพิ่มกำลังพลและจัดอุปกรณ์เข้าสนับสนุนการเฝ้าระวังและป้องกันพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจภายใต้สถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มที่ และจากการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกห้วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 

โดยผู้บัญชาการกองทัพบก ได้กล่าวขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจของกองกำลังป้องกันชายแดน ในการสกัดกั้นยาเสพติดโดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวัง และพบการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดบ่อยครั้งในภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีผลการจับกุมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ในห้วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สามารถสกัดกั้นยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายตรวจพบการกระทำผิด 136 ครั้ง จับกุมผู้กระทำผิด 155 คน ยึดได้ของกลางยาบ้า 6,517,999 เม็ด, ไอซ์ 423 กิโลกรัม, เฮโรอีน 35 กก., กัญชาแห้ง/สด 2,497 กก., พืชกระท่อม 2,355 กก., ฝิ่น 200 กก. ตลอดจนเฝ้าตรวจสินค้าผิดกฎหมายประเภทอื่นและการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรทุกชนิด เดือนที่ผ่านมายึดของกลาง อาทิ บุหรี่ 5,650 ซอง, ยางพารา 9,550 กก., หน้ากากอนามัย 175,250 ชิ้น และถังออกซิเจน 100 ถัง



สำหรับการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายบริเวณแนวชายแดน ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งกองกำลังชายแดนกองทัพบก คงดำรงกำลังพลและใช้ทุกทรัพยากรที่มีในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด  ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมง

โดยเฉพาะตามเส้นทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เข้าประเทศโดยผิดกฎหมายตามเส้นทางต่าง ๆ โดยในห้วงเดือนที่ผ่านมา พบการกระทำผิด 194 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 700 คน ประกอบด้วย คนไทย 247 คน, กัมพูชา 19, คน ลาว 38 คน, เมียนมา 348 คน เวียดนาม 15 คน จีน 29 คน  บังคลาเทศ/ญี่ปุ่น 1 คน เกาหลีใต้ 2 คน
 
ทั้งนี้จากการทำงานของกองกำลังชายแดนกองทัพบก ยังคงมีการปรับรูปแบบ   ให้เหมาะกับสถานกาณ์ในแต่ละพื้นที่ อาทิ การวางกำลังให้เหมาะสมในพื้นที่เฝ้าระวัง, การใช้เทคโนโลยีในการตรวจตราพื้นที่หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย, การสำรวจเส้นทาง ที่เปลี่ยนแปลงอาจมีเส้นทางธรรมชาติที่สามารถข้ามผ่านได้, การสนับสนุนแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ในชุมชนแนวชายแดนที่ยากต่อการเข้าถึง ตลอดจนยังคงดำรงความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนร่วมกัน  

นอกจากนี้จากนโยบายของกองทัพบกในการบูรณาการร่วมติดตามคดีเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำพาแรงงานผิดกฎหมาย ยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ได้รับโทษตามกฎหมายเพื่อสกัดต้นทางการกระทำผิดให้หมดไปจากประเทศ ขณะนี้ในทุกกองทัพภาค และกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก เป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าติดตามกระบวนการต่างๆเพื่อให้เกิดผลในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ซึ่งการดำเนินการของกองกำลังป้องกันชายแดนในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 

“กองทัพบกยังคงต้องมีการปฏิบัติตนตามมาตรการ ศบค. และมาตรการ“พิทักษ์พล”อย่างต่อเนื่อง เพื่อพร้อมปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศ ตลอดจนสิ่งผิดกฎหมายและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ”พ.ต.หญิง จุฑาทิพย์ กล่าว

“ผบ.ทบ.” กำชับ กำลังพล สนับสนุน สธ. ดูแลอำนวยความสะดวก ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 เสริมภูมิในรพ. พร้อมสั่งจัดชุดเคลื่อนที่ให้บริการปชช. 

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ร.อ.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ที่พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ให้ความสำคัญและสั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศ นำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ในการดูแลช่วยเหลือประชาชน สนับสนุนรัฐบาลบริหารจัดการโควิด-19 อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งการดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อค้นหาคัดแยกผู้ติดเชื้อ ตลอดจนจัดเตรียมสถานที่เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาตามอาการอย่างเหมาะสมโดยเร็วและเพื่อลดความรุนแรงของโรค ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อเริ่มมีแนวโน้มลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากการดูแลตนเอง รับผิดชอบต่อสังคมของประชาชน รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการที่ รัฐบาล และ ศบค. กำหนด ขณะที่ด้านการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพ ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลได้เพิ่มการจัดหาและนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อนำมาจัดสรรบริการฉีดเสริมภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชนกระจายตามพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของกองทัพบก โดยโรงพยาบาลในสังกัดทั้ง 37 แห่งทั่วประเทศ ได้สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และสถานที่ให้กับ กระทรวงสาธารณะสุข และ สาธารณะสุขจังหวัด (สสจ.)  ร่วมส่งเสริมและป้องกันสุขภาพ นำวัคซีนที่แต่ละจังหวัดได้รับการจัดสรรตามแนวทางของกรมควบคุมโรค มาบริการฉีดให้กับประชาชนที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ของผู้ได้รับวัคซีน หรือประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม รวมทั้งช่องทางอื่นๆ ที่ สสจ. กำหนด อาทิ นนท์พร้อม, นครศรีชนะ, โคราชพร้อม, ก๋ำแปงเวียง จ.เชียงใหม่ 

นอกจากนี้ยังได้ปรับรูปแบบบริการฉีดวัคซีนให้มีความเหมาะสมและคล่องตัวต่อผู้รับบริการมากขึ้น ได้แก่ การฉีดวัคซีนโควิด Drive-Thru ให้กับผู้สูงอายุและประชาชนที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว และบริการฉีดวัคซีนโควิดเคลื่อนที่ ตามบ้านเรือนประชาชนหรือสถานที่ต่างๆ สำหรับผู้ป่วยติดเตียง, ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการเดินทาง ไม่สามารถมาฉีดวัคซีนบริเวณที่ สสจ. จัดไว้ได้ ซึ่ง รพ.ทบ. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้ว 137,678 ราย

ขณะที่หน่วยทหารกองทัพบกได้สนับสนุนกำลังพลจิตอาสา ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้และทันต่อสถานการณ์ให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนรอบค่าย พร้อมมอบหน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์ และแผ่นภาพประชาสัมพันธ์คู่มือวินัยทหารต้านโควิด เพื่อให้สามารถดูแลป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 รวมทั้งร่วมดูแลอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนในสถานที่ของจังหวัดที่ สสจ. กำหนด เพื่อแบ่งเบาภาระทั้งด้านการเดินทางและค่าใช้จ่าย อาทิ บริการยานพาหนะรับ-ส่งประชาชน, บริการรถวีลแชร์เคลื่อนย้ายผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว, จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรอง ซักประวัติ วัดอุณหภูมิและความดัน รวมทั้งสังเกตอาการภายหลังจากได้รับวัคซีน, บริการรถครัวสนามประกอบอาหารแจกจ่ายพร้อมน้ำดื่ม ตลอดจนจัดแสดงดนตรีบรรเลงเพลงจากหมวดดุริยางค์กองทัพบก เพื่อสร้างบรรยากาศความเพลิดเพลิน สร้างความสุข คลายกังวลให้กับประชาชนที่มารับบริการรวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องตลอดทั้งวันอีกด้วย 

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและเป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนเพื่อส่งเสริมและป้องกันสุขภาพประชาชนของรัฐบาล กองทัพบกจะดำรงในภารกิจดังกล่าว พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ดูแลช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งของประชาชน เพื่อข้ามผ่านสถานการณ์ในครั้งนี้ และกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติสุขได้โดยเร็ว

ทบ. ระดมกำลังพลจิตอาสาบริจาคโลหิตช่วงโควิด-19 ร่วมแก้วิกฤต โลหิตขาดแคลน บริจาคแล้วรวม 25.8 ล้านซีซี

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.ท.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนและขยายเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีจำนวนผู้บริจาคโลหิตลดน้อยลงเนื่องจากความกังวลใจและความไม่สะดวกในการเดินทาง ประกอบกับการตั้งจุดรับบริจาคเลือดของหน่วยบริการเคลื่อนที่ทำได้ลำบากมากขึ้น ในขณะที่สถานพยาบาลหลายแห่งยังคงมีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องรับการผ่าตัด หรือผู้ป่วยที่ต้องใช้เลือดในการรักษาอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้สถานพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศประสบปัญหาปริมาณโลหิตสำรองลดลงและไม่เพียงพอต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วย

โดยพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้น้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ถึงการเป็นแบบอย่างของข้าราชการที่ดี มีจิตอาสา เสียสละอุทิศตน ทำความดีเพื่อส่วนรวม ในการช่วยบรรเทาปัญหาจากวิกฤตการขาดแคลนปริมาณโลหิตสำรองที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้ป่วยได้ โดยได้มอบหมายให้หน่วยทหารทั่วประเทศนำกำลังพลจิตอาสา พร้อมด้วยครอบครัว และประชาชนร่วมบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย และสถานพยาบาลประจำจังหวัดทุกแห่ง เพื่อเป็นการสำรองโลหิตสำหรับการรักษาพยาบาลผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ภายใต้โครงการ “บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ” โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ม.ค. 64 จนถึงปัจจุบัน มีกำลังพลจิตอาสาร่วมบริจาคโลหิตรวม 63,620 นาย และได้ปริมาณโลหิตสะสม 25,826,852 มิลลิลิตร โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมากองทัพบกได้จัดกำลังพลร่วมบริจาคโลหิตเพื่อส่งต่อให้กับสถานพยาบาลในหลายพื้นที่ ทั่วประเทศ อาทิ จ.กรุงเทพมหานคร, สระบุรี, ลพบุรี, แม่ฮ่องสอน, พิษณุโลก, เชียงราย, น่าน, ขอนแก่น, สุรินทร์, อุดรธานี, บุรีรัมย์, ชุมพร, นราธิวาส เป็นต้น 

ทั้งนี้ กองทัพบกจะดำเนินการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทยและสถานพยาบาลทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มจำนวนการบริจาคโลหิตให้สูงขึ้นเพื่อเป็นการสำรองโลหิตไว้ให้มีเพียงพอพร้อมสำหรับการดูแลรักษาชีวิตผู้ป่วยผู้บาดเจ็บทั้งในยามปกติและยามวิกฤต พร้อมกันนี้ กองทัพบกขอเชิญชวนกำลังพล และประชาชนจิตอาสาที่มีสุขภาพดีร่วมบริจาคโลหิตผ่านโครงการ “บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ” หรือที่ศูนย์รับบริจาคโลหิตและโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศเพื่อสำรองโลหิตคงคลังให้มีเพียงพอต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย

'เดินเกมแบบสีจิ้นผิง' รอจังหวะ แยบยล ไม่โฉ่งฉ่างแต่เฉียบขาด ซื้อใจประชาชนชาวจีนด้วย 'ผลงาน'

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่ง วช. ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า... 

หลายคนสนใจ #ระบบแบบจีน กลยุทธ์ของผู้นำจีน #การกระชับอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในยุคสีจิ้นผิงที่ไม่โฉ่งฉ่างแต่เฉียบขาด และเดินหน้าต่อเนื่องอย่างเป็นขั้นเป็นตอน #วางแผนดีมีชัย

สีจิ้นผิงและพรรคคอมมิวนิสต์จีน รอคอย Right Timing ในการ #ปลูกฝังความคิดและจัดระเบียบสังคม หลังจากได้สร้างผลงานเชิงประจักษ์และได้รับ Popularity จากผลงานที่โดนใจ/ได้ใจปวงชนชาวจีนส่วนใหญ่ของประเทศแล้วนะคะ   

ล่าสุด กระทรวงศึกษาจีนจึงนำ #ความคิดสีจิ้นผิง ไปใส่ในหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังเยาวชนจีน ตั้งแต่ระดับประถมฯ จนถึงมหาวิทยาลัย รวมทั้งบางเมืองของจีนได้สั่ง ban ตำราฝรั่ง Text Book ที่จะใช้สอนเยาวชนจีนในระดับประถมฯ จนถึงมัธยมต้นด้วยค่ะ #ตัดไฟแต่ต้นลม 

ท่านรู้หรือไม่ว่า กว่าจะถึงวันนี้ของสีจิ้นผิงและพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีการเตรียมการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร ? 

เดินเกมแบบสีจิ้นผิง : รอจังหวะ แยบยล ไม่โฉ่งฉ่าง แต่เฉียบขาด (Xi's Strategic Move : Well-planned, Step by Step, Sequencing, Right Timing)

ฉะนั้น ในปัจจุบัน สีจิ้นผิงและพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งรอคอย Right Timing ในการปลูกฝังความคิดและจัดระเบียบสังคม ก็เริ่มเป็นผล เมื่อได้รับ Popularity จากผลงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจนและได้ใจปวงชนชาวจีนแล้ว ดังนี้... 

>> Nov 2012 ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประกาศ "ความฝันของจีน" Chinese Dream

>> March 2013-2017 ในฐานะประธานาธิบดีจีน เน้นปราบคอร์รัปชัน และขจัดความยากจน เพื่อชนะใจประชาชน

>> Sep 2013 ด้านต่างประเทศ ปลุกฟื้นคืนซีพเส้นทางสายไหม One Belt, One Road - BRI และเน้นฟื้นฟูชาติ Fuxing

>> 2014 เริ่มใช้เทคโนโลยีมาจัดระเบียบสังคมผ่านระบบ Social Credit System

>> March 2018 มติการประชุมสภาฯ NPC ให้มีการระบุ "ความคิดสีจิ้นผิง" ว่าด้วย "แนวคิดสังคมนิยมอันเป็นคุณลักษณะเฉพาะสำหรับชาวจีนในศักราชใหม่" Xi Jinping Thought on Socialism with Chinese Characteristics for a New Era ไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศจีน

>> Nov 2020 เริ่มลงดาบจัดระเบียบ Big Tech จีนที่ครองตลาด/ตักตวงผลประโยชน์จาก Data มานาน/ออกกฎเข้มคุม Micro Lending : กรณี Ant และปรับ Alibaba ด้วยกฎหมาย Anti-Monopoly

>> Dec 2020 สามารถขจัดความยากจนหมดสิ้นแผ่นดินจีน

>> March 2021 Alaska Meeting เริ่มแข็งกร้าวใช้นโยบายตาต่อตาฟันต่อฟันกับสหรัฐ Wolf Warrior Diplomacy ชัดเจน เป็นจุดเริ่มต้น New Cold War อย่างจริงจัง

>> July 2021 ครบรอบ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน สีจิ้นผิงประกาศไม่ยอมให้ต่างชาติย่ำยี/จะจับหัวโขกกำแพงที่สร้างด้วยเลือดเนื้อชาวจีน โดย... 

- เริ่มจัดระเบียบทุน จัดการบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เคยตักตวงหาประโยชน์จาก Data เช่น
- CSRC ประกาศเงื่อนไขบริษัทจีนจะ IPO ต่างประเทศ ต้องขออนุญาต
- CAC ถอดแอป DiDi ประเด็นความมั่นคง sensitive data
- คุม รร. กวดวิชา ลดเหลื่อมล้ำการศึกษา และบางเมืองในจีนสั่ง ban ตำราเรียนจากต่างประเทศในระดับประถมศึกษาและมัธยมฯ ต้น ฯลฯ

- Aug 2021 หลังประชุมที่ Beidaihe สีจิ้นผิงประกาศแนวคิด Common Prosperity: บีบคนรวยช่วยคนจน เพื่อลด income gap และกระทรวงศึกษาจีนเตรียมนำ "ความคิดสีจิ้นผิง" ไว้ในหลักสูตรการศึกษา เพื่อปลูกฝังเยาวชนจีนตั้งแต่ระดับประถมฯ จนถึงมหาวิทยาลัย

#เดินเกมแบบสีจิ้นผิง รอจังหวะ แยบยล ไม่โฉ่งฉ่างแต่เฉียบขาด Xi’s Strategic Move: Well-planned, Step by Step, Sequencing, Right Timing รวบรวมโดย ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น 

Note: ส่วนใครจะเอาอย่างจีน กรุณาดูตาม้าตาเรือ และศึกษา #กลยุทธ์ผู้นำจีน ที่แสนลุ่มลึกและแยบยล นี้ก่อนนะคะ


ที่มา : https://www.facebook.com/1037140385/posts/10223853212251696/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

อานิสงส์วัคซีน-โควิดเริ่มคุมอยู่ ทำดัชนีอุตสาหกรรมขยับดีขึ้น

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค. 2564 พบว่า อยู่ที่ระดับ 91.41 ขยายตัว 5.12% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัว คือ รถยนต์และเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ หลังจากมีความต้องการตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

ส่วนการนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัว 35.40% คือ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ รวมถึงการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัว 50.11% ทั้งเคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 

นายทองชัย กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการยังมีแนวโน้มที่จะมีการผลิตเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป และมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งด้านการเงินและการคลัง รวมถึงการเร่งกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 และแผนการเปิดประเทศในครึ่งปีหลัง 

อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ ทั้ง การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ปัญหาการขาดแคลนชิปและตู้คอนเทนเนอร์ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยกว่าคาดการณ์ ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top