“บิ๊กบี้” กำชับ กกล.ชายแดน ตรึงกำลังลาดตระเวน พร้อมบูรณาการมุ่งสู่การดำเนินคดีถึงผู้นำพา เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองและขบวนการผิดกฎหมายทุกรูปแบบ
ที่กองบัญชาการทหารบก (บก.ทบ.) พ.ต.หญิง จุฑาทิพย์ วุฒิรณฤทธิ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองกำลังชายแดนของกองทัพบกทั้ง 7 กองกำลัง ยังคงเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมามีการเพิ่มกำลังพลและจัดอุปกรณ์เข้าสนับสนุนการเฝ้าระวังและป้องกันพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจภายใต้สถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มที่ และจากการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกห้วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
โดยผู้บัญชาการกองทัพบก ได้กล่าวขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจของกองกำลังป้องกันชายแดน ในการสกัดกั้นยาเสพติดโดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวัง และพบการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดบ่อยครั้งในภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีผลการจับกุมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ในห้วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สามารถสกัดกั้นยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายตรวจพบการกระทำผิด 136 ครั้ง จับกุมผู้กระทำผิด 155 คน ยึดได้ของกลางยาบ้า 6,517,999 เม็ด, ไอซ์ 423 กิโลกรัม, เฮโรอีน 35 กก., กัญชาแห้ง/สด 2,497 กก., พืชกระท่อม 2,355 กก., ฝิ่น 200 กก. ตลอดจนเฝ้าตรวจสินค้าผิดกฎหมายประเภทอื่นและการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรทุกชนิด เดือนที่ผ่านมายึดของกลาง อาทิ บุหรี่ 5,650 ซอง, ยางพารา 9,550 กก., หน้ากากอนามัย 175,250 ชิ้น และถังออกซิเจน 100 ถัง
สำหรับการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายบริเวณแนวชายแดน ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งกองกำลังชายแดนกองทัพบก คงดำรงกำลังพลและใช้ทุกทรัพยากรที่มีในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมง
โดยเฉพาะตามเส้นทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เข้าประเทศโดยผิดกฎหมายตามเส้นทางต่าง ๆ โดยในห้วงเดือนที่ผ่านมา พบการกระทำผิด 194 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 700 คน ประกอบด้วย คนไทย 247 คน, กัมพูชา 19, คน ลาว 38 คน, เมียนมา 348 คน เวียดนาม 15 คน จีน 29 คน บังคลาเทศ/ญี่ปุ่น 1 คน เกาหลีใต้ 2 คน
ทั้งนี้จากการทำงานของกองกำลังชายแดนกองทัพบก ยังคงมีการปรับรูปแบบ ให้เหมาะกับสถานกาณ์ในแต่ละพื้นที่ อาทิ การวางกำลังให้เหมาะสมในพื้นที่เฝ้าระวัง, การใช้เทคโนโลยีในการตรวจตราพื้นที่หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย, การสำรวจเส้นทาง ที่เปลี่ยนแปลงอาจมีเส้นทางธรรมชาติที่สามารถข้ามผ่านได้, การสนับสนุนแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ในชุมชนแนวชายแดนที่ยากต่อการเข้าถึง ตลอดจนยังคงดำรงความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนร่วมกัน
นอกจากนี้จากนโยบายของกองทัพบกในการบูรณาการร่วมติดตามคดีเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำพาแรงงานผิดกฎหมาย ยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ได้รับโทษตามกฎหมายเพื่อสกัดต้นทางการกระทำผิดให้หมดไปจากประเทศ ขณะนี้ในทุกกองทัพภาค และกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก เป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าติดตามกระบวนการต่างๆเพื่อให้เกิดผลในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ซึ่งการดำเนินการของกองกำลังป้องกันชายแดนในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19
“กองทัพบกยังคงต้องมีการปฏิบัติตนตามมาตรการ ศบค. และมาตรการ“พิทักษ์พล”อย่างต่อเนื่อง เพื่อพร้อมปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศ ตลอดจนสิ่งผิดกฎหมายและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ”พ.ต.หญิง จุฑาทิพย์ กล่าว