Tuesday, 10 June 2025
NewsFeed

พาณิชย์ หาช่องส่งออกผลไม้ไทยไปต่างประเทศ 1.8 แสนล.ในปีนี้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยในงานความตกลงซื้อขายผลไม้ล่วงหน้า (MOP) ทางออนไลน์ ว่า ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายว่าจะส่งออกผลไม้เพื่อทำรายได้เข้าประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30% โดยผลไม้ไทยถือเป็นสินค้าเป้าหมายสำคัญในการส่งออกเพื่อทำรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งยอดส่งออกรวม 7 เดือนในปีนี้ มีการส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปมีมูลค่าสูงถึง 131,166 ล้านบาท ขยายตัว 48.31% 

ทั้งนี้ในการส่งเสริมการส่งออกผลไม้นั้น ได้วางแผนการจัดงานสำคัญ คือ 1.กิจกรรมจัดคู่เจรจาทางการค้าออนไลน์ OBM หรือ Online Business Matching 2.กิจกรรมการส่งเสริมการขายการบริโภคผลไม้ในห้างสรรพสินค้าและตลาดสำคัญในต่างประเทศ 3.กิจกรรมการจัด Thai Fruits Golden Months หรือเดือนทองของการบริโภคผลไม้ไทยในประเทศต่างๆ 4.กิจกรรมขายผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆโดยเฉพาะแพลตฟอร์มสำคัญในระดับโลกเช่น bigbasket.com ของอินเดีย Tmall ของจีน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในการการจัด Thai Fruits Golden Months ในประเทศจีน ได้จัดไปแล้วใน 8 เมือง ประกอบด้วย หนานหนิง ไห่หนาน ฉงชิ่ง ชิงต่าว เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ต้าเหลียน และฝอซาน สามารถทำรายได้ถึง 15,466 ล้านบาท และยังมีแผนงานที่เหลืออีก 5 เมืองคือ เซี่ยเหมิน หนานชาง คุนหมิง อู่ฮั่น และหนานหนิง คาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท รวมแล้วเฉพาะการจัด Thai Fruits Golden Monthsในจีน 13 เมืองทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท 

ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 มีคำสั่งให้ ‘ผู้กำกับโจ้-ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ พ้นสภาพจิตอาสา เรียกคืนเครื่องแต่งกาย หลังต้องคดีอาญาทั้งคู่

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ออกหนังสือคำสั่งศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เรื่อง ให้บุคคลพ้นสภาพจากการเป็นจิตอาสา 904

พร้อมมีคำสั่ง เรียกคืนเครื่องแต่งกาย หมวก ผ้าพันคอ เครื่องหมายจิตอาสา 904 (ปีกโลหะ ปีกผ้า) บัตรประจำตัวและประกาศนียบัตร ของ พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนพล และ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก

สำหรับประกาศคำสั่งพ้นสภาพเป็นจิตอาสาของ พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ ระบุว่า นื่องจากพันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนพล ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ที่เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ร่วมกันตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป

ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

ส่วนนายประสิทธิ์ เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน


ที่มา : https://www.posttoday.com/social/general/661557


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ประกาศปี 65-66 เป็น “ปีแห่งการประชุมในประเทศ"

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 65 ว่า ในปีหน้าอุตสาหกรรมไมซ์ยังมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มจะคลี่คลายลง โดยทีเส็บได้ประกาศให้ปี 65 – 66 เป็นปีแห่งการประชุมในประเทศไทย ผ่านการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนาในประเทศ และการเร่งดึงงานสำคัญระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อดึงรายได้ของอุตสาหกรรมไมซ์กลับมาอีกครั้ง หลังจากในปี 62 ไทยเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน โดยมีรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้มมากถึง 5 แสนล้านบาท แต่เมื่อเกิดโควิดขึ้นทำให้ต้องสูญเสียรายได้ส่วนนี้ไปมากถึง 70% 

ทั้งนี้การประกาศปีแห่งการประชุมในประเทศไทยนั้น จะอยู่ภายใต้กลยุทธ์การช่วงชิงโอกาสระดับสากล มุ่งเน้นการผลักดันไมซ์ไทยสู่เวทีโลก ผ่านการจัดทำแคมเปญตลาดเชิงรุกเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการต่อยอดจากการเป็นเจ้าภาพจัดงานเอเปค 2022 อีกทั้งจะเร่งดึงงานสำคัญระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย ทั้งงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์โชว์ หรืองานประชุมองค์กรระหว่างประเทศ เช่น งานเวิลด์แบงก์ หรืองานแสดงสินค้าระดับท็อป 5ของโลก 

อีกทั้งยังมีกลยุทธ์การเสริมความแกร่งระดับชาติ เน้นยกระดับความพร้อมของจังหวัดที่มีศักยภาพ ก้าวสู่การรองรับกิจกรรมไมซ์ พร้อมกับการสร้างงานใหม่ และยกระดับกิจกรรมไมซ์ให้มีคุณภาพระดับนานาชาติ รวมทั้งกระตุ้นและขับเคลื่อนองค์กรภาครัฐและเอกชนจัดประชุมสัมมนาและจัดกิจกรรมไมซ์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญการสื่อสารจัดงานไมซ์ทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ และสนับสนุนงบประมาณผ่านโครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า ซึ่งขณะนี้มีองค์กรและหน่วยงานได้รับการสนับสนุนแล้วกว่า 645 โครงการ และแสดงความจำนงมากกว่า 1,000 งาน

ส่วนกลยุทธ์สุดท้าย คือการยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรม สานต่อการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการไมซ์ และหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐในและต่างประเทศ ทั้งในด้านการพัฒนาบุคลากร มาตรฐานสถานที่จัดงาน และการพัฒนาหลักสูตรอบรมต่างๆ เพื่อให้ไมซ์ไทยก้าวทันความต้องการของโลกในยุคหลังโควิด รวมถึงส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีและเครื่องมือแพลตฟอร์มดิจิทัลต่อเนื่อง 

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมแก้กฎหมายสื่อ เพื่อควบคุมข่าวปลอม ด้านฝ่ายค้านระบุ เป็นการปิดปากสื่อและริดรอนสิทธิเสรีภาพ

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมแก้กฎหมายสื่อ (Act on Press Arbitration and Remedies) เพื่อควบคุมข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์ ท่ามกลางเสียงคัดค้านว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการจำกัดเสรีภาพของสื่อไม่ให้ขุดคุ้ยการทำผิดของผู้มีอำนาจและเป็นข้ออ้างในการปิดปากฝ่ายตรงข้ามที่วิจารณ์รัฐบาล

การแก้ไขกฎหมายสื่อครั้งนี้ให้อำนาจศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่ปล่อยเฟกนิวส์จนละเมิดสิทธิ์และสร้างความเสียหายทางจิตใจแก่โจทก์จ่ายค่าชดเชยความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 5 เท่า สำหรับเคสที่ไม่สามารถคำนวณความเสียหายที่แน่ชัด ผู้ที่เผยแพร่ข่าวปลอมต้องจ่ายค่าเสียหายตั้งแต่ 50-100 ล้านวอน หรือ 1,400,355 - 2,800,711 บาท

และยังกำหนดให้สื่อมวลชน รวมทั้งผู้ให้บริการข่าวทางอินเทอร์เน็ตดำเนินการแก้ไขข่าวที่ผิดพลาดหรือข่าวปลอมที่เผยแพร่ด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า การรายงานที่ผิดพลาดของสื่อมวลชนทำให้เกิดความเสียหายและผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งยังเป็นอันตรายที่แก้ไขไม่ได้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และยังชี้แจงว่าการเพิ่มโทษดังกล่าวจะทำให้สื่อมวลชนที่จะเผยแพร่ข่าวมีความรับผิดชอบมากขึ้น

อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์โจมตีว่ากฎหมายดังกล่าวทำให้ประชาธิปไตยถอยหลังลงคลอง และปิดกั้นขัดขวางไม่ให้สื่อมวลชนรายงานหรือเขียนข่าวเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายหรือเรื่องอื้อฉาวของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง

ด้านริว เจฮวา พนักงานอัยการที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสื่อและคดีการเมืองเผยว่า กฎหมายนี้สะท้อนว่ารัฐบาลต้องการปิดปากสื่อมวลชน

การสำรวจความคิดเห็นของชาวเกาหลีใต้ 1,024 คนโดย WinGKorea Consulting พบว่า 46.4% สนับสนุนกฎหมายใหม่ และ 41.6% มองว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพสื่อ

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนของเกาหลีใต้มีอันดับค่อนข้างดีในดัชนีเสรีภาพสื่อ (World Press Freedom Index) โดยอยู่ในอันดับ 42 จาก 180 ประเทศ แต่ต้องเผชิญกับข่าวปลอมและการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ในช่วงไม่กี่ปีนี้

การแก้ไขกฎหมายสื่อมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดี มุน แจอิน บังคับใช้กฎหมายเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ให้จำคุกบุคคลที่เผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับการประท้วงควังจูในช่วงทศวรรษ 1980


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

100 ศพ เหยื่อโควิด! “พระครูแจ้” เจ้าอาวาสวัดดัง เปิดวัดเผาต่อเนื่องพร้อมอนุเคราะห์ญาติโยม

ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทอดผ้าบังสุกุลประกอบพิธีฌาปนกิจศพให้ผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 รายที่ 100 รวมแล้วจำนวน 100 ศพ ที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง รับเผาร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยทางวัดไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการเผาศพแต่อย่างใด

โดยมี นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีทอดผ้าบังสุกุลฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี / นายฉะโอด รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ / พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ร่วมฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตและร่วมกดปุ่มสวิตช์ไฟฟ้าเผาร่างผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายที่ 100 โดยมีญาติผู้เสียชีวิตร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแบบ New normal

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า วัดได้รับฌาปณกิจศพเหยื่อโควิด-19 มาหลายศพแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 64 ซึ่งขณะนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้รับอนุเคราะห์เผาศพเหยื่อโควิด-19 ไปแล้วครบ 100 ศพ โดยที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดพิธีทำบุญทักษิณานุปทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน  ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  อย่างต่อเนื่องจึงมีความรู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกคนรวมถึงสงสารครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 และมีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ ที่ยังคงปฎิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย

อย่างไรก็ตาม วัดบางพลีใหญ่กลาง จะประกอบพิธีทำบุญทักษิณานุปทานให้กับศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เป็นครั้งที่ 3 ในวันพฤหัสบดี ที่ 9 กันยายน 64 และวัดบางพลีใหญ่กลาง  ยังคงรับอนุเคาระห์เผาศพผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ทางวัดไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดเพื่อเป็นการช่วยเหลือญาติโยม

ปัจจุบันนี้เตาเผาศพที่ใช้เผาศพโควิดอาจมีการเสื่อมสภาพได้เพราะต้องใช้ความร้อนสูงมากและเผาอยู่ตลอดแทบไม่ได้หยุดพัก เตาเผาศพก็อาจมีการเสื่อมสภาพได้เป็นธรรมดาแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ทางวัดจะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลตรวจสอบพร้อมทั้งประเมินสภาพการใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด 

ท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ( พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ยังกล่าวต่ออีกว่า ทางวัดจะรับอนุเคราะห์เผาศพโควิดให้ญาติโยมต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเตาเผานั้นจะแตก หรือจนกว่าจะไม่สามารถเผาต่อได้ ขณะนี้วัดบางพลีใหญ่กลาง มีญาติผู้เสียชีวิตเข้ามาติดต่อขอให้ทางวัดช่วยเผาศพโควิด และมีคิวจองเผาศพโควิด-19 อีกหลายราย ทางวัดก็มีความยินดีโดยจะรับอนุเคราะห์ให้ทุกราย แต่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจะไม่รับฌาปนกิจศพเฉพาะวันศุกร์เท่านั้น


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา จัดกิจกรรม "แบ่งปันปวงประชา ตำรวจทางหลวงโคราช ร่วมสู้โควิด" โดยนำถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่ชุมชนราชนิกูล 2 เทศบาลเมือง นครนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตร ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. จิตอาสา 904 พร้อมด้วย นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ รองประธานหอการค้านครราชสีมา ชมรมฮักเขาใหญ่ และจิตอาสาตำรวจทางหลวงนครราชสีมา

ร่วมกันนำถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำปลา น้ำมัน แอลกอฮอล์ หน้ากาก และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ไปมอบให้ชาวบ้านเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่วนมากเป็นชุมชนแออัด มีรายได้น้อย เป็นคนยากไร้ ผู้ป่วย และผู้พิการ จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน

ทั้งนี้ การเข้าช่วยเหลือประชาชนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย พล.ต.ท. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ. จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล. และ พ.ต.อ. พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล. ด้วยสโลแกน "แบ่งปันปวงประชา ตำรวจทางหลวงโคราช ร่วมสู้โควิด" ที่ได้ให้การช่วยเหลือ มาหลายอำเภอในพื้นที่แล้ว

เพชรบูรณ์ - สื่อมวลชนเพชรบูรณ์​ส่งกำลังใจ​ มอบอาหารกล่องให้บุคคลากร​ทางการแพทย์​ที่ปฎิบัติงานฉีดวัคซีน​ให้ประชาชน

ที่อาคารโดม​ โรงเรียนเพชรพิทยาคม​ อ.เมือง​เพชรบูรณ์​ จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายกฤษณ์​ คงเมือง​ ผู้ว่าราชการจังหวัด​เพชรบูรณ์​ พร้อมด้วยนายสืบพงศ์​ นิ่มพูลสวัสดิ์​ รองผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นพ.ชัยวัฒน์​ ทองไหม​ สาธารณสุข​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายชัยสิทธิ์​ ชัยสัมฤทธิ์​ผล​ นายอำเภอเมือง​เพชรบูรณ์​ ร่วมรับมอบข้าวกล่อง​ ขนมหวาน​ อาหารว่างและน้ำดื่ม​  จำนวน​ 150​ ชุดจากสื่อมวลชนจังหวัดเพชรบูรณ์​โดยการนำของนายสุทัศน์​ บุตรสุวรรณ​ ประชาสัมพันธ์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายวิริทธิ์พล​ หิรัญ​รัตน์​ นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นายชาติ​ วิศิษย์โกมุท​ ผู้อำนวยการเพชรชัยออนไลน์​และเครือข่ายสื่อมวลชนในพื้นที่​จังหวัด​เพชรบูรณ์ได้ร่วมกันสนับสนุนจัดทำ เพื่อ​ส่งมอบกำลัง​ใจให้บุคคลากรที่ปฏิบัิติงานในการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิท-19เข็มที่ 2 ให้กับประชาชนในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเสี่ยงในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ที่เดินทางมารับวัคซีน​ จำนวน​ 3,000  คนโดยจัดทำข้าวกล่อง​ ขนมหวาน​ น้ำดื่ม​ จำนวน​ 150​ ชุดมอบให้กับบุคลากร​ดังกล่าว

ทั้งนี้สื่อมวลชน​ในจังหวัด​เพชรบูรณ์​หลากหลายแขนงได้ร่วมกันสนับสนุนปัจจัยในการที่จัดทำอาหาร​ ขนม​ อาหารว่างและน้ำดื่มร่วมในกิจกรรม​ดังกล่าว​ประกอบด้วยนายสุทัศน์​ บุตรสุวรรณ​ ประชาสัมพันธ์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นายยุทธ​ ศรีทองสุข​ ที่ปรึกษา​สมาคม​นัก​วิทยุ​และ​โทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายสมพร​ พูลสวัสดิ์​ ที่ปรึกษาสมาคม​นัก​วิทยุ​และ​โทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายวิริทธิ์พล​ หิรัญ​รัตน์​ นายกสมาคมนัก​วิทยุ​และ​โทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นายนที   บุญรอด​ ผู้สื่อข่าว​ นสพ.คู่แผ่นดิน  นายชาติ วิศิษย์โกมุท ผู้สื่อข่าวเพชรชัยออนไลน์  นาย ศักดิ์ชัย   วัชรลิมปกรณ์​ ผู้สื่อข่าว​13 สยามไทยนาย​ยรรยง   วิพิธกาญจน์​ วิทยุชุมชน​ ร้อยตรี อรัญชัย โบราณรัตน์​ วิทยุชุมชน​  นายเสวก​ ศรลัมพ์​ นายกสมาคมสื่อมวลชนภูมิภาค​ นางราตรี พลอยแดง​ ผู้สื่อข่าวตำรวจท่องเที่ยว​ ร.ต.ต.สุข​สัณห์​ ภิชัย​ นายกสมาคมเครือข่ายนักสื่อสาร​ชุมชน​  น.ส.วรรณิกา​ หาญกลิ้ง​ นายกสมาคมองค์กร​สาธารณประโยชน์เพื่อสังคมไทยเข้มแข็ง​ จ.เพชรบูรณ์​ น.ส.มนสิชา​ คล้าย​แก้ว​ ผู้สื่อข่าว บริษัท​ซีพีออล์​ จำกัด​ (มหาชน)​  สำนักงานพาณิชย์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นางพัชมน​  จันทร์แสง วิทยุ​ชุมชน​นายศุภผล​ จริงจิตร​  ผอ.นิตยสารตำรวจภาค​ 6​ ร้อยตรีประเทือง​ สระทองแดง​ วิทยุชุมชน​  นางปุณณดา​ คนมาก​ วิทยุชุมชน​ น.ส.ชลธิชา​ ภูจุ้ย​ ปชส.​ม.ราชภัฏเพชรบูรณ์​  นางพริ้ม​ ศรีบ้านโนน​ วิทยุชุมชน​ นายพรเทพ​ เพชร​รุ่งทอง​ วิทยุชุมชน


ทั้งนี้ องค์กร​สื่อในพื้นที่​  จ.เพชรบูรณ์​ ขอขอบคุณในความเสียสละของทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้า ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดูแลผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเต็มที่ และขอร่วมเป็นพลังให้ทุกคนปลอดภัย มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

'สหรัฐฯ' ปลุก 'เวียดนาม-ชาติเอี่ยวทะเลจีนใต้' ต้านจีน ลั่น พร้อมจะหนุนหลังกดดันจีนอย่างเต็มที่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมาเยือนภูมิภาคอาเซียนของรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 'กมลา แฮริส' ในสัปดาห์นี้ เต็มไปด้วยนัยยะทางการเมืองอย่างเปิดเผย แบบไม่อ้อมค้อมอีกแล้ว เพราะสหรัฐฯ กำลังเดินเกมหวังที่จะสกัดอิทธิพลของจีนในย่านทะเลจีนใต้ อย่างจริงจังนับจากนี้เป็นต้นไป

หลังจากที่ได้ไปเยือนสิงคโปร์มาแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา รองประธานาธิบดี 'กมลา แฮริส' ก็เดินทางมาปิดทริปที่เวียดนาม เพื่อพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีเวียดนาม 'เหงียน ซวน ฟุก' ก่อนเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันนี้ (26 สิงหาคม)

ในระหว่างที่มาเยือนเวียดนาม 'กมลา แฮริส' ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่พูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม ก็ได้กล่าวในที่ประชุมผู้นำเวียดนามว่า...

"พวกเราจะต้องหาทางกดดัน และต้องยกระดับการกดดันรัฐบาลปักกิ่งให้มากขึ้นไปอีก เพื่อให้จีนรู้จักเคารพกฏหมาย และข้อตกลงเรื่องสิทธิ์ทางทะเลขององค์การสหประชาชาติ เราต้องรวมตัวกันต่อต้านการกดขี่ และรุกรานทางทะเลอย่างแข็งกร้าวของจีน" 

แฮริสย้ำว่า รัฐบาลของนายโจไบเดน ต้องการยกระดับความสัมพันธ์ในเชิงยุทธศาสตร์กับเวียดนาม โดยพร้อมที่จะสนับสนุนทุกอย่างให้อย่างเต็มที่นับจากนี้ 

กมลา แฮริส ไม่ได้พูดประเด็นนี้แค่ครั้งเดียว แต่กล่าวย้ำถึง 2 ครั้งในตลอด 2 วันที่มาเยือนเวียดนาม เพื่อส่งสัญญาณถึงประเทศในย่านทะเลจีนใต้ที่มีข้อพิพาททางทะเลกับจีน ทั้งเวียดนาม, บรูไน, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน ให้ออกมาร่วมมือกันตอบโต้จีน โดยสหรัฐฯ พร้อมจะหนุนหลังอย่างเต็มที่ 

สิ่งที่น่าสนใจจากการมาของรองผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ก็คือ การเลือกเวียดนาม เป็นพันธมิตรด้านยุทธศาสตร์อย่างเปิดเผย ทันทีที่บรรลุข้อตกลงความร่วมมือ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ประกาศบริจาควัคซีน Pfizer ให้เวียดนามจำนวน 1 ล้านโดส บินตรงจากสหรัฐฯ ถึงมือรัฐบาลเวียดนามทันทีภายใน 24 ชั่วโมง 

นอกจากวัคซีนจะมาแล้ว สหรัฐฯ ยังตัดสินใจเปิดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ หรือ CDC ที่กรุงฮานอย เพื่อเป็นศูนย์การประสานงานด้านการควบคุมโรคระบาดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด และยังบริจาคเงินให้กองทุนวัคซีนอีก 5 แสนดอลลาร์ 

เท่าน้้นยังไม่พอ ยังมีโครงการสร้างสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงฮานอยแห่งใหม่ ด้วยงบประมาณสูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญ ในที่ดินย่าน Cau Giay เป็นระยะเวลา 99 ปี โดยได้เซ็นสัญญากันในวันที่ กมลา แฮริส มาพบผู้นำเวียดนาม และรองรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม รวมทั้ง อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ พร้อมด้วยผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติเวียดนามมาเป็นสักขีพยาน

การปักหมุดยุทธศาสตร์แบบอยู่ยาวที่เวียดนามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในครั้งนี้ บวกกับถ้อยแถลงของกมลา แฮริส ที่สื่อสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นการ "Call Out" เพื่อให้ประเทศย่านอาเซียนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านจีน โดยเลือกเวียดนามเป็นฐานทัพนั้น นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่จะสะเทือนไปทั้งทะเลจีนใต้ในอนาคตอันใกล้... 


ผู้เขียน : ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: VN Express / Straits Times


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"ทีมพรรคกล้า กทม." ยื่นข้อเสนอ 9 ข้อ ยกระดับมาตรการแก้วิกฤตโควิด-19 ชี้ตัวเลขระบาดยังสูง ปัญหาต้องรีบแก้ มั่นใจข้อเสนอทำได้จริง  

ทีมพรรคกล้า กทม. นำโดยนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง เขตคลองสามวา, นายเอกชัย ผ่องจิต เลขานุการพรรคกล้า กทม., ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ ทีมสาธารณสุข พรรคกล้า พร้อมด้วยผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. รวมตัวกันยื่นหนังสือข้อเสนอยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 ถึงผู้ว่าราชการ กทม. ผ่านเลขานุการผู้ว่า กทม. เนื่องจากปัญหาการระบาดยังคงยาวนาน จํานวนผู้ติดเชื้อยังมีจำนวนสูงหลักหมื่นถึงสองหมื่นคนต่อวัน 

นายณัฐนันท์ กล่าวว่า ข้อเสนอที่นำมายื่นเกิดจากประสบการณ์ ที่สมาชิกพรรคกล้าไปประสบพบเจอระหว่างลงพื้นที่ แม้ทาง กทม. จะตอบสนองแนวทางการจัดตั้งศูนย์พักคอย แต่บางพื้นที่ยังมีปัญหาเกิดขึ้น บางศูนย์ใช้เวลาพิจารณา 3 ถึง 5 วัน กว่าจะได้รับการแยกตัวพักคอย ทำให้เกิดการระบาดในครอบครัวอยู่ดี ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งนโยบายไว้ 

"ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการจัดการให้เร็วที่สุด ซึ่งพรรคกล้ารวบรวมประสบการณ์ลงพื้นที่จริง เป็นข้อเสนอ 9 ข้อ ที่ทำได้จริง คือ 

1.) เร่งเพิ่มหน่วยตรวจเชิงรุกให้เพียงพอ 
2.) ต้องรับผลการตรวจ ATK เข้าศูนย์พักคอยทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ขอขยายการดูแลไปถึงระดับสีเหลือง ขยายช่วงอายุถึง 75 ปี 
3.) เพิ่มศักยภาพให้ศูนย์พักคอยที่พร้อมจับคู่กับโรงพยาบาลสนาม 
4.) สนับสนุนให้มีการตั้งศูนย์พักคอยในระดับชุมชน 
5.) เพิ่มอำนาจหน้าที่สำนักอนามัยและศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่ ขับเคลื่อนเชิงรุกดูแลผู้ป่วย Home Isolation 
6.) เพิ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานและคู่สายให้เพียงพอต่อการติดต่อ 
7.) เร่งเสนอปลดล็อกการจัดซื้อวัคซีนและกระจายการฉีดวัคซีน 
8.) ครอบคลุมการให้บริการแก่คนต่างด้าว 
9.) ให้กรุงเทพมหานครเพิ่มศักยภาพในทุก ๆ ด้านเพื่อรองรับสถานการณ์" นายณัฐนันท์ กล่าว


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"เจนนิเฟอร์ คิ้ม" เดินหน้าฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด หลังเจอป่วนโพสต์ภาพในหลวง ร.9

เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่โดนคอมเมนต์ป่วนหลังลงรูปพ่อหลวง ร.9 สำหรับนักร้องรุ่นใหญ่ "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" ที่ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้โพสต์ภาพข้อความผ่านไอจีสตอรี่เตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด โดยระบุว่า

"ไม่เคยคิดจะเอาเรื่องใครที่เมนต์เลย มึงเป็นคนแรกที่กูจะให้มึงเอาเงินมากราบตีนกูให้ได้!!..มึงรอกูเลยนะ"


ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9640000084204


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top