Saturday, 7 June 2025
NewsFeed

ชาวทวิตเตอร์ตอกกลับ แรปเปอร์สาวชื่อดัง 'มิลลิ-ดนุภา' ใช้เส้นยื่นสิทธิสอบล่าช้าแบบวีไอพี ทั้งที่กฎของมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำได้ และตนเองได้ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมอยู่เสมอ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มิลลิขอโทษอาจารย์ที่มิลลิได้ออกมาด่า ทั้งที่ไม่มีความผิดด้วย

จากกรณีแรปเปอร์สาวดัง 'มิลลิ-ดนุภา' แจงปมปัญหาเรียนออนไลน์ อาจารย์ประกาศไม่มีคะแนน โทษกระทรวงการศึกษาฯ แนะควรประกาศให้หยุดเรียน 1 ปี อย่าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วปล่อยลอยแพได้ไหม สรุป ที่ไม่มีคะแนนเพราะเพื่อนยืมโน้ตบุ๊กไปใช้ แล้วพอสแกนนิ้วดันเข้าสู่ระบบเพื่อน ทำข้อสอบของเพื่อน สุดท้ายคณบดีช่วยทำเรื่องสอบล่าช้า เสียเงินไปพันนึง จนทำให้อาจารย์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องดังกล่าวถูกผู้ที่เข้าใจผิดจากการที่แรปเปอร์สาวดังได้ออกมาเปิดเผย และชาวโซเชียลมองว่าอาจารย์ถูกด่าฟรีตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

(17 ส.ค.) เพจ “วันนี้ยุวชนคิดอะไรบ้าง” ได้ออกมาเผยหลังชาวทวิตเตอร์ได้มีกระแสตีกลับ จากกรณีดังกล่าวเนื่องจากมองว่า แรปเปอร์สาวดัง “มิลลิ-ดนุภา” ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลในการทำเรื่องสอบล่าช้า ไม่เหมาะสม และไม่เป็นไปตามกฎของมหาวิทยาลัยตามที่นักศึกษาท่านอื่นได้รับ ซึ่งหมายความว่า มิลลิ-ดนุภา กลับได้สิทธิการสอบล่าช้า เป็นสิทธิพิเศษ ทั้งนี้ มิลลิ-ดนุภา แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในการเรียกร้องความความเท่าเทียม เรียกร้องประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายตนเองกลับใช้เส้นสาย และมีอีกหลายรายมองว่าการกระทำที่เข้าสอบด้วยไอดีเพื่อนเหมือนการโกงข้อสอบด้วยซ้ำ และบางรายเรียกร้องให้มิลลิต้องลงเรียนใหม่และขอโทษอาจารย์ด้วย


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000081002
https://www.facebook.com/105552537932743/posts/339951547826173/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"บิ๊กตู่”ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย “สั่ง” มท.กำชับ 76 จังหวัดติดตามและ วางแผนจัดการน้ำตลอดฤดูฝนนี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งล่าสุดนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้รายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่เชียงรายทั้ง 8 อำเภอ กลับสู่ภาวะปกติ รวมทั้งไม่กระทบต่อการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 และการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กับประชาชนในพื้นที่ยังทำได้ต่อเนื่อง เนื่องจากไม่ได้เป็นพื้นที่คลัสเตอร์  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายกระทรวงมหาดไทยกำชับทั้ง 76 จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อวางแผนจัดการน้ำตลอดฤดูฝนนี้

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่ได้รับผลกระทบ ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว โดยในพื้นที่อำเภอเชียงของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำสำหรับระบายน้ำ อำเภอแม่สาย ระดับน้ำ ณ สะพานมิตรภาพกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว รวมทั้งที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง ได้ดำเนินการแก้ไขดินโคลนสไลด์และเสาไฟที่ล้มปิดถนนเรียบร้อยแล้วเช่นกัน  ในส่วนอำเภอแม่จัน  ผู้ว่าราชการ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ สมาคมในพื้นที่ ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มาจากเหตุฝนตามฤดูกาล 

แต่เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากตกบริเวณดอยที่สูง และไหลลงพื้นที่ลุ่ม ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการในระดับท้องถิ่นได้แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า รวมทั้งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุทันที ขณะเดียวกันจังหวัดได้เปิดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน “เราทำดี ด้วยหัวใจ” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วด้วย ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังยืนยันว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ไม่กระทบต่อการดำเนินการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของจังหวัด เนื่องจากพื้นที่น้ำท่วมไม่มีคลัสเตอร์เสี่ยง หลังจากนี้จังหวัดจะยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องและจะได้รายงานให้ผู้บริหารทราบต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีย้ำให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและคาดการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด โดยใช้ข้อมูลทรัพยากรน้ำให้เป็นประโยชน์ เพื่อวางแผนทำงานเชิงป้องกันก่อนเกิดผลกระทบโดยเฉพาะการแจ้งเตือน รวมถึงสื่อสารสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบสถานการณ์น้ำล่วงหน้าด้วย 

“สุทิน” เชื่อ ทุกศึกซักฟอกได้ผล ไม่ใช่จำนวนมือยกโหวต แต่ได้ตีแผ่ความจริง ชี้ หากจบอภิปรายฯ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความบกพร่องอยู่ที่รัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้าน-ปชช.

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายงบประมาณประจำปี 2565 ว่า วันนี้จะเริ่มประชุมเวลา 9.30 น. โดยการประชุมมีข้อเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากเดิมที่เคยตกลงไว้ว่า ส.ส. จะต้องประชุมให้จบภายใน 3 วันและแบ่งเวลาอภิปรายกัน ซึ่งที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ส.ส. มีมติว่าในการประชุมงบประมาณฯ ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ คือ เมื่อส.ส.ได้แปรญัตติและแสดงความจำนงที่จะอภิปรายก็ต้องได้อภิปราย ซึ่งคงไม่มีข้อจำกัดใดที่จะมาห้าม ส.ส. ไม่ให้อภิปราย ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับการประชุมสภาที่ประธานจะเป็นคนวินิจฉัยว่าอภิปรายออกนอกเกณฑ์หรือไม่ หมายความว่าการประชุมงบประมาณอาจจะจบภายใน 2-4 วันก็ได้ ซึ่งสมาชิกที่สงวนคำแปรญัตติไว้นั้นมีจำนวนมาก เฉพาะพรรคเพื่อไทยก็ประมาณ 70 คน ประธานต้องบริหารการประชุมให้ได้ แต่จะไปตัดสิทธิผู้อภิปรายไม่ได้ โดยการประชุมในวันนี้จะจบที่เวลา 19.30 น.

นอกจากนี้ นายสุทิน ยังได้กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งที่ผ่านมามีความเห็นว่าไม่ค่อยได้ผล ว่า ตนคิดว่าได้ผล คำว่าได้ผลนั้น หากประเมินจำนวนมือที่ยกโหวตนั้น แน่นอนว่าแพ้ แต่คำว่าได้ผลของเราคือเราสามารถตีแพร่ความจริงอันเป็นความไม่ชอบมาพากล อันเป็นความบกพร่องไม่สุจริต เป็นความเสียหายของประเทศและประชาชน เราคิดว่าเราได้นำเสนอและตีแผ่ให้สังคมได้เห็นได้พบสิ่งใหม่ๆ เพียงแต่ว่าระดับความลึกความรับผิดชอบของรัฐบาลเท่านั้นที่เป็นปัญหา ซึ่งหากถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสำเร็จหรือไม่ แม้แต่เรายังไม่ได้อภิปราย วันนี้รัฐบาลก็ควรที่จะอยู่ไม่ได้แล้ว ควรจะแสดงความรับผิดชอบแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องให้เราอภิปรายซำ้ คนอภิปรายมากพอที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาตัวเอง ตนเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้รัฐบาลจะต้องตระหนักให้มาก หากเราอภิปรายจบแล้วยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนคิดว่าความบกพร่องไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายค้านหรือประชาชนแล้ว แต่อยู่ที่รัฐบาลเต็มๆ 

"จุรินทร์"  มั่นใจ "เฉลิมชัย" ตอบปมซักฟอกได้ได้ทุกคำถามลั่น  โว ก.เกษตรฯ ผลงานติดท็อป ปชช.พอใจ ไร้ทุจริต

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นบริหารงานล้มเหลวเรื่องราคาพืชผลการเกษตร ว่า เราไม่ได้ตั้งวอร์รูมอะไร เพราะเชื่อว่า นายเฉลิมชัย สามารถชี้แจงและสามารถตอบได้ทุกคำถาม ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องโหวตก็ไม่มีปัญหาอะไร พูดคุยกับสมาชิกแล้ว

เมื่อถามว่ากรณีที่นายเฉลิมชัย ถูกตั้งคำถามว่าไม่ปกป้องทรัพย์สินทางราชการ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องถามฝ่ายค้าน เพราะบางครั้งเมื่อติดตามญัตติกับคำอภิปรายอาจจะไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเนื้อหาสาระเป็นอย่างไร แต่ถ้าตั้งข้อหาว่าบริหารทางการเกษตรล้มเหลว ตนคิดว่าไม่น่าใช่ เพราะว่ากระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงหนึ่งที่สามารถบริหารงานจนที่พอใจของประชาชนและเกษตรกรทั่วทั้งประเทศได้ดีที่สุดกระทรวงหนึ่ง และตนมั่นใจว่านายเฉลิมชัย สามารถตอบได้ทุกคำถาม ส่วนราคาพืชผลการเกษตรที่ผ่านมาก็แก้ไขปัญหาทางการเกษตรในเรื่องตลาดในประเทศและการส่งออก สามารถคลี่คลายได้ แม้ว่าจะต้องมาเผชิญวิกฤตปัญหาสถานการณ์ โควิด-19 ในบางช่วงเวลาก็ตาม 

เมื่อถามถึงกรณีการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคปฏิเสธเรื่องข้อหาการทุจริตมา นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องไปถามฝ่ายค้าน ตั้งแต่เริ่มทำงานด้วยกันมา ทำให้เชื่อมั่นว่านายเฉลิมชัยสามารถชี้แจงได้ และไม่มีข้อสงสัยในส่วนของพรรคเรา 

“ศักดิ์สยาม” มั่นใจไม่มีพฤติกรรมมั่วสุม ชี้ อย่าเอาเป็นประเด็นการเมือง ยัน พร้อมชี้แจงศึกซักฟอก ไล่ไปดูพจนานุกรมเสเพลแรงหรือไม่

ที่รัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกฝ่ายค้านตั้งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยใช้ข้อกล่าวหาว่าเป็นรัฐมนตรีเสเพล ว่า เป็นการใช้คำที่รุนแรง จริงๆ ตนได้ชี้แจงผ่านสื่อมวลชนหลายครั้งแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่สามารถชี้แจงได้ ส่วนเรื่องซูเปอร์สเปรดเดอร์ กระทรวงสาธารณสุขทราบดี เพราะอยู่ในกระบวนการตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าชี้แจงได้ แต่ขอให้อภิปรายอยู่ในประเด็น อย่าใช้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง เพราะขณะนี้ประเทศเราอยู่ในช่วงต่อสู้กับการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งนายกรัฐมนตรีเหนื่อยกับเรื่องนี้มากและทุกคนก็กำลังช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ถ้ามีอะไรที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายประพฤติมิชอบและเกิดความเสียหายต่อราชการ หรือมีการทุจริตก็ว่ามาได้เลย 

เมื่อถามว่าการใช้คำว่ารัฐมนตรีเสเพลเป็นการใช้อารมณ์ทางการเมืองหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ต้องไปถามคนตั้ง ส่วนตัวพร้อมชี้แจง 

เมื่อถามต่อว่าดูเหมือนเป็นการเอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นประเด็นอภิปรายมากกว่าผลงานการทำงาน นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ต้องถามผู้ตั้ง เป็นสิทธิของผู้อภิปราย ตนมีหน้าที่ชี้แจง

เมื่อถามว่าแล้วคำว่าเสเพลจะชี้แจงอย่างไร นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ให้ไปดูพจนานุกรมและขอให้สื่อตัดสินว่าเป็นคำที่แรงหรือไม่ 

เมื่อถามว่ามีความกังวลในพรรคร่วมรัฐบาลที่จะลงมติในทิศทางที่ต่างกันหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ล่วงหน้า รอดูการอภิปรายก่อนและคำชี้แจงที่ตนจะตอบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณาและไม่รู้สึกกดดันเพราะมองว่าเป็นนัยยะทางการเมือง และเป็นเรื่องของแต่ละพรรค จะนำไปประชุมหารือและมีการลงมติกัน 

เมื่อถามว่ามีการกล่าวหาว่าเข้าไปมั่วสุมในแหล่งอบายมุข จะชี้แจงอย่างไร นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขอให้รอดูผู้อภิปรายจะมีหลักฐานอะไรมาแสดง ถามต่อว่ามั่นใจใช่หรือไม่ ว่าไม่มีพฤติกรรมตามข้อกล่าวหา นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า “ไม่มีครับ”

รมว.เกษตรฯ สั่งตรวจสอบส่งออกผลไม้กันปนเปื้อนโควิด

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เร่งพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลไม้และระบบตรวจสอบย้อนกลับ รวมทั้งมาตรการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 กับสินค้าเกษตรที่ส่งออกทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่ส่งออกไปยังจีนด้วย ซึ่งคุมเข้มตั้งแต่สวน โรงคัดบรรจุ และการขนส่ง

ทั้งนี้ยังได้มอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เป็นประธานในการจัดทำแผนปฏิรูปการบริหารจัดการผลไม้เชิงโครงสร้างทั้งระบบภายใน 90 วัน เพื่อสร้างกลไกที่พร้อมปฏิบัติการฉุกเฉินได้ทันทีที่เกิดปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในปีนี้ ซึ่งประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของผลไม้ไทย รวมทั้งเวียดนามและลาวที่เป็นเส้นทางการขนส่งได้ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้นมากขึ้น 

"ประวิตร" ลั่น ไม่ทอดทิ้งแรงงานได้รับผลกระทบโควิด กำชับ ก.แรงงาน เร่งเยียวยาผู้ประกันตนทุกกลุ่ม-จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว-ป้องกันค้ามนุษย์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ของกระทรวงแรงงาน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับแรงงาน 76จังหวัด สำนักงานแรงงานใน ต่างประเทศ โดยก่อนประชุม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นำ นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมการค้าแท็กซี่ไทย นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย และนางญาดา พรเพชรรัมภา นายกชมรมหาบเร่แผงลอย กทม. เข้าพบเพื่อขอบคุณและมอบของที่ระลึกแก่พล.อ.ประวิตร ที่ช่วยเหลือ เยียวยาแรงงานทั้ง 3 กลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 

จากนั้นพล.อ.ประวิตร รับฟังรับฟังการรายงานผลงานของ ก.แรงงานในรอบ 1 ปี มีผลงานสำคัญ อาทิ ยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ ผ่านการอบรมแล้ว 110,110 คน มีงานทำแล้วคิดเป็น ร้อยละ 69.79 มีรายได้เฉลี่ย 14,152 บาทต่อเดือน การส่งเสริมการมีงานทำสามารถบรรจุงานได้ 1,313,591 คน ก่อให้เกิดรายได้ 75,728 ล้านบาทเศษ การคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ให้ลูกจ้าง 16,000 คน วงเงิน 850 ล้านบาท การเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กม.โดยมีการตรวจสถานประกอบกิจการ เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ 1,211 แห่ง  และเยียวยาแรงงาน ผู้ประกันตน ลดเงินสมทบกว่า 12 ล้านคน นายจ้างกว่า 480,000คน เยียวยาเหตุสุดวิสัย 50% ให้ผู้ประกันตน 198,432 คน โครงการ ม.33 เรารักกัน 8,140,000 คน รวมทั้งการเยียวยาในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ในการตรวจเชิงรุก และการรักษาโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอชื่ชมการทำการของรัฐมนตรี ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของ ก.แรงงานทุกคน ที่ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและเป็นธรรม มีผลงานเชิงประจักษ์ และขอให้กระทรวงแรงงาน เร่งช่วยเหลือทั้งนายจ้าง และผู้ประกันตน ม.33 ,39 และ 40 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่รอการช่วยเหลือให้ครบถ้วนและทั่วถึง รวมทั้งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และเน้นย้ำป้องกันการค้ามนุษย์โดยมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด

ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบ ผู้ว่าการ รฟม. ปม เปิดประมูลรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้-สายสีส้มตต. ส่อขัด พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ขอให้ไต่สวนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าการ รฟม.) และวินิจฉัยกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังจัดประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและสายสีม่วงใต้ อันมีเงื่อนไขที่แตกต่างจากสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ทั้งๆที่ทั้งสองสายนี้มีเส้นทางลอดใต้เกาะรัตนโกสินทร์และใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกัน ซึ่งอาจเป็นการกำหนดเงื่อนไขและใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การเปิดประมูลสายสีส้มและสายสีม่วงใต้มีลักษณะกีดกันผู้ประมูลจากต่างชาติ แม้จะกำหนดว่าเป็นการเปิดประมูลนานาชาติ โดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่าผู้เข้าประมูลจะต้องมีผลงานก่อสร้างอุโมงค์หรือรถไฟฟ้าบนดินหรือลอยฟ้ากับ “รัฐบาลไทย” ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ผลงานในต่างประเทศห้ามนำมาใช้ ซึ่งเงื่อนไขเยี่ยงนี้ ท้ายที่สุดก็คงเหลือผู้รับเหมาไทยขนาดใหญ่เพียง 4-5 รายเท่านั้นที่สามารถผ่านด่านนี้ไปได้ และคงได้งานครบกันทุกราย เนื่องจาก รฟม.แบ่งงานประมูลงานโยธาออกเป็น 6 สัญญาไว้ให้แล้ว แบบนี้จะเรียกว่าล็อคสเป็กหรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ที่สำคัญเงื่อนไขในทีโออาร์ที่ผ่านมาในโครงการของรัฐขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง จะมีการกำหนดการพิจารณาคัดเลือกโดยการเปิดซองด้านเทคนิคก่อน แล้วจึงมาเปิดซองด้านราคา ดังกรณีตัวอย่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แต่โครงการนี้กลับใช้วิธีการเปิดซองเทคนิคและซองราคาไปพร้อมๆ กัน ทำให้สามารถใช้ดุลยพินิจลำเอียงให้ผู้ประมูลรายหนึ่งรายใดเป็นการเฉพาะได้ จึงอาจมีลักษณะอย่างไม่เป็นธรรม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของ รฟม. อาจขัดต่อ พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ม.8(2) ที่บัญญัติไว้ว่า “ต้องเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน” และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ข้อ 45 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “ต้องไม่มีการกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม” 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การกำหนดทีโออาร์ที่อาจมีลักษณะย้อนแย้งตามความพิใจของผู้มีอำนาจแต่ละยุค แต่ละสมัยเยี่ยงนี้ อาจกลายเป็นปัญหาและนำไปสู่การร้องเรียนและฟ้องร้องเป็นคดีความกันมากมายไม่จบสิ้น ดังกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ที่มีการฟ้องร้องกันในศาลปกครองและศาลทุจริตฯในขณะนี้ กรณีดังกล่าว จึงเป็นข้อพิรุธที่ส่อไปในทางมิชอบ หรืออาจทุจริตต่อหน้าที่ได้ ที่ก่อสร้างไปด้วยดีและได้เปิดใช้งานแล้ว แต่เมื่อ รฟม.มาเปิดประมูลสายสีส้มและสายสีม่วงใต้ กลับเปลี่ยนการใช้เกณฑ์ประมูลที่แตกต่างจากเดิม จนนำไปสู่การร้องเรียนและฟ้องร้องเป็นคดีความกันอยู่ในขณะนี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.ได้เปิดการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ซึ่งต้องก่อสร้างอุโมงค์ใต้พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ และอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แต่ทว่า รฟม.ยังคงมีการกำหนดเงื่อนไขหรือเกณฑ์ของการประมูลใหม่ที่แตกต่างจากการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่เคยประสบผลสำเร็จในการก่อสร้างไปด้วยดีและเปิดใช้งาน จึงไม่น่าจะมีเหตุผลหรือข้ออ้างอื่นใดมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประมูลที่เคยสำเร็จมาแล้ว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีการจับเป็นข้อพิรุธได้หลายประการ ที่ส่อไปในทางมิชอบ หรืออาจทุจริตต่อหน้าที่ได้ สมาคมฯ จึงนำความ พร้อมพยานหลักฐานมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ไต่สวนและวินิจฉัยการกำหนดเงื่อนไขทีโออาร์ของการประมูลรถไฟฟ้าดังกล่าวว่า เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร หากพบว่าเป็นการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์หรือล็อคสเป็กให้เอกชนรายใดๆ เป็นการเฉพาะ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เอาโทษขั้นสูงสุด

ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เผยการตัดสินใจถอนกองกำลังออกจากอัฟกานิสถาน เหตุผู้นำการเมืองและความไม่เต็มใจสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจได้สำเร็จ

วอชิงตัน/คาบูล (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยืนยันอย่างหนักแน่นเรื่องการตัดสินใจถอนกองกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน พร้อมกับกล่าวโทษผู้นำการเมืองและความไม่เต็มใจสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจได้สำเร็จ ขณะที่มีรายงานว่า ประธานาธิบดีอัชราฟ กานีแห่งอัฟกานิสถาน หนีออกจากประเทศพร้อมรถหรู 4 คัน และเฮลิคอปเตอร์ที่ขนเงินไปด้วยมหาศาล ก่อนที่กลุ่มตาลิบันจะยึดกรุงคาบูล

ประธานาธิบดีไบเดนออกมาแถลงที่ทำเนียบขาวผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลุ่มตาลิบันประกาศยึดการปกครองอัฟกานิสถานว่า เขาโทษผู้นำการเมืองที่หลบหนีออกนอกประเทศและความไม่เต็มใจต่อสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานที่ได้รับการฝึกโดยสหรัฐฯ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจการปกครองประเทศ และเตือนผู้นำตาลิบันว่า จะต้องเผชิญกับพลังการทำลายล้างรุนแรง หากกลุ่มตาลิบันเข้าไปแทรกแซงการถอนกำลังทหารของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเพิ่มเติมว่าเขาสนับสนุนการตัดสินใจถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานอย่างหนักแน่นหลังจากที่เขาเรียนรู้ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถอนกำลังทหารสหรัฐตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เขาได้เห็นภาพเหตุการณ์โกลาหลบางส่วนในกรุงคาบูลที่น่าสะเทือนใจ แต่ไม่ได้เริ่มสั่งอพยพผู้คนให้เร็วกว่านี้ เพราะประธานาธิบดีอัชราฟ กานีของอัฟกานิสถานไม่ต้องการให้มีการอพยพเป็นจำนวนมาก

ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวยอมรับว่า กลุ่มตาลิบันได้บุกยึดพื้นที่ของอัฟกานิสถานรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การรุกคืบอย่างว่องไวของกลุ่มตาลิบันทำให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ประหลาดใจ เพราะคาดว่ากองทัพของอัฟกานิสถานจะขับไล่กลุ่มตาลิบันหรือยับยั้งพวกเขาไว้ได้เป็นเวลาหลายเดือน พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานเป็นผลมาจากที่เขาได้ให้คำมั่นกับกองทหารสหรัฐฯ ว่า จะไม่ขอให้ทหารสหรัฐเสี่ยงชีวิตต่อไปเพื่อสงครามที่ควรจะจบสิ้นมาตั้งนานแล้ว เขารู้ดีกว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เขาขอน้อมรับทั้งหมดไว้เองดีกว่าที่จะส่งต่อการตัดสินใจนี้ให้ประธานาธิบดีคนต่อไป

ด้าน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า สหรัฐฯ ยังยอมรับรัฐบาลของประธานาธิบดีกานีเป็นรัฐบาลของอัฟกานิสถานอยู่หรือไม่ และปฏิเสธที่จะเรียกกานีว่าเป็นประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน หลังจากที่กานีหนีออกนอกประเทศไปแล้ว โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังกางเงื่อนไขที่จะทำให้สหรัฐฯ ยอมรับรองรัฐบาลใหม่ของตาลิบันด้วยว่า รัฐบาลใหม่จะต้องเป็นรัฐบาลที่รวมทุกฝ่าย และต้องเคารพในสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิสตรี พร้อมขู่ว่า รัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถาน จะต้องได้รับผลของการกระทำหากละเมิดสิทธิมนุษยชน และพฤติกรรมของตาลิบัน จะเป็นตัวตัดสินว่า สหรัฐฯ จะยอมรับรองรัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานหรือไม่

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานว่า ก่อนที่กลุ่มตาลิบันจะยึดประเทศได้สำเร็จเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีกานี ได้หนีออกจากประเทศ พร้อมด้วยรถยนต์ 4 คัน ที่อัดแน่นด้วยเงินสด แล้วยังนำเงินอีกจำนวนหนึ่งไปไว้บนเฮลิคอปเตอร์เพื่อขนหนี แต่รถ 4 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ก็ยังขนเงินและสิ่งของมีค่าไปไม่หมด จนต้องทิ้งเงินบางส่วนไว้ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่กานีจะเดินทางหนีออกนอกประเทศ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นที่ทาจิกิสถาน หรืออุซเบกิสถาน ทำให้นักการทูตรัสเซียประจำอัฟกานิสถาน วิจารณ์การหนีออกจากประเทศของกานีว่า “ไร้เกียรติ” และควรถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/595642


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ’ รอง ผบช.สตม.ตรวจเยี่ยม จุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรอง การเดินทางเข้า-ออก จังหวัดสมุทรปราการ

ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ให้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

วันที่ 17 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 16.30 น. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. เดินทางมาตรวจเยี่ยมจุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรองการเดินทางเข้า - ออก ป้องกันการแพร่ระบาด โรคไวรัสโควิด-19 จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ถ.สุขุมวิท(ขาเข้า) ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พบ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ , เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง ว.4 ร่วมบริเวณจุดตรวจ

ทั้งนี้ ได้แสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และการใช้ชีวิต เนื่องจาก ห้วงเวลานี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และได้กล่าวขอบคุณในความเสียสละ และอวยพรให้เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19

ทั้งนี้ ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top