Thursday, 29 May 2025
NewsFeed

ส.ส. ก้าวไกลยอมรับสับสน รัฐรุนแรงแต่ยัดเยียดข้อหาอั้งยี่-ซ่องโจรให้ผู้ชุมนุม รุดใช้ตำแหน่งประกันตัว ม็อบ 7 สิงหาคม

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ส.ส. พรรคก้าวไกล ประกอบไปด้วย สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม, ทองแดง เบญจะปัก ส.ส. สมุทรสาคร, เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, และธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมใช้ตำแหน่ง ส.ส.ยื่นประกันตัวสมาชิกกลุ่ม WEVO จำนวน 8 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกควบคุมตัวที่บ้านพัก 2 ราย และที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว 6 ราย ก่อนหน้าการชุมนุมวันที่ 7 สิงหาคม 2564 โดยไม่มีการแสดงหมายค้น หมายจับ หรือแจ้งข้อหาในระหว่างการควบคุมตัวทั้งสองกรณี

ต่อมา พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาสมาชิกกลุ่ม WEVO ทั้ง 8 ราย (โดยมีเยาวชน 1 ราย) ว่ากระทำความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และ 210 ก่อนจะนำตัวมาขออำนาจศาลฝากขังในวันนี้

ธัญวัจน์ ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากข้อหาแล้ว ตนสับสนว่าวันนี้การเรียกร้อง การชุมนุมที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน กลายเป็นความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร การก่อความวุ่นวายไปได้อย่างไร ผู้ติดตามเหตุการณ์ต่างทราบดีว่าความรุนแรงล้วนเริ่มมาจากการใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง จากฝ่ายรัฐ ไม่ใช่การชุมนุมตามสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน

“การใช้อำนาจรัฐโดยไม่คำนึงถึงสิทธิและเสียงของประชาชนจะนำพาประเทศสู่ทางตัน และการกระทำแบบนี้จะยิ่งสร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับประชาชน ซึ่งในวันนี้เรามีประชาชนจำนวนมากได้ “ตื่น” และมองสังคมไทยเปลี่ยนไปจากเดิม” ธัญวัจน์กล่าว

ด้านสุทธวรรณ ระบุว่าจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ว่าการจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงหมายจับหรือหมายค้น โดยอ้างว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า อีกทั้งยังมีการนำตัวไปควบคุมไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 ทำให้ญาติและทนายติดตามไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ถูกจับกุมไปไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 นี่เป็นการกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำแล้ว และทำกันจนชิน

นอกจากนั้น การสลายการชุมนุมยังไม่เป็นไปตามหลักสากล ต้องใช้กำลังเท่าที่จำเป็น แต่ตำรวจกลับเล็งปืนที่บรรจุกระสุนยางไปยังผู้ชุมนุมโดยตรง ยิงปืนอย่างพร่ำเพรื่อ ยิงจากที่สูง ตั้งใจยิงใส่ตัวบุคคล เป็นการกระทำที่น่าละอายในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

“การใช้กำลังในวันนั้นเป็นการใช้กำลังที่ไม่ได้สัดส่วนกับการกระทำของผู้ชุมนุม เราขอประณามเจ้าหน้าที่ที่มาสลายการชุมนุมที่กระทำไปด้วยความสะใจ มีคลิปวิดีโอจากประชาชนหลายรายที่บันทึกไว้ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหันมาเยาะเย้ยและแสดงท่าทีสะใจกับการกระทำของตนเอง ซึ่งไม่เพียงแค่ไม่เหมาะสมกับการเป็นตำรวจ แต่ไม่เหมาะสมกับการเป็นคนเลยด้วยซ้ำ” สุทธวรรณกล่าว

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี มีณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้ง ส.ส.เบญจา และทองแดง ซึ่งเดินทางตามมาสมทบจากศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร่วมกันกับอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวผู้ชุมนุมและแกนนำกลุ่มราษฎรรวม 9 ราย จากเหตุการชุมนุมเพื่อเรียกร้องปล่อยตัวผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้า ที่หน้าตชด.ภาค 1 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กนอ. เผยภาพรวมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม 9 เดือน ปีงบประมาณ 64 พุ่งกว่า 130,000 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 138% อีอีซียังเนื้อหอม หลังพบทุนจีน - ญี่ปุ่นแห่ย้ายฐานการผลิตซบไทยอย่างต่อเนื่อง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.63-มิ.ย.64) มีการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศชั่วคราว โดยในภาพรวมของนิคมอุตสาหกรรม มียอดขาย/เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม ประมาณ 927.09 ไร่ ประกอบด้วยยอดการขาย/เช่าในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวน 747.99 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี จำนวน 179.10 ไร่ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 49.59 (ปี 2563 ยอดขาย/เช่า ช่วง 9 เดือน อยู่ที่ 1,838.96 ไร่) เนื่องจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงเลื่อนออกไปจากมาตรการจำกัดการเดินทาง

ขณะที่มูลค่าการลงทุนรวมช่วง 9 เดือนปี 2564 คิดเป็นมูลค่า 130,289.44 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 เป็นจำนวนร้อยละ 138.27 (มูลค่าการลงทุนปี 2563 อยู่ที่ 54,681.37 ล้านบาท) จากการขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าเดิมในนิคมอุตสาหกรรมที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กระบวนการผลิต สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการลงทุน ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักรและอะไหล่

โดยกลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรกที่นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุน ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง ร้อยละ 13.77 อุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ ร้อยละ 10.83 อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม ร้อยละ 7.80 อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ ร้อยละ 7.01 และอุตสาหกรรมปุ๋ย สี และเคมีภัณฑ์ ร้อยละ 6.05 โดยนักลงทุนจากประเทศจีนให้ความสนใจมาลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่ง ร้อยละ 15.15 รองลงมา คือ นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ร้อยละ 12.12 และสิงคโปร์ เกาหลี และสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 9.09

“ปัจจุบันมีนักลงทุนแสดงความสนใจที่จะซื้อ/เช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Warehouse) ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดต่อเนื่อง ผนวกกับกระแสการย้ายการลงทุนออกจากประเทศจีนของกลุ่มนักลงทุนชาวจีน ญี่ปุ่น และอเมริกามายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น และประเทศไทยยังมีศักยภาพและความแข็งแกร่งในการรองรับการลงทุนเพื่อเป็นฐานและศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาค

รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศที่มีต่อการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมทุกนิคมฯ ทั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ. ดำเนินการเอง และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเชื่อว่าในช่วงปลายปี 2564 การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมจะดีขึ้น หลังคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะควบคุมการระบาดระลอก 3 ได้ในระดับหนึ่งจากการจัดหาและกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 และสร้างระดับภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวขึ้นได้” นายวีริศฯ กล่าว

สำหรับการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสะสมสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนประมาณ 178,891 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ที่นิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง ประมาณ 37,724 ไร่ และเป็นนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน ประมาณ 141,167 ไร่ เป็นพื้นที่ขาย/ให้เช่า ประมาณ 118,667 ไร่ /เป็นพื้นที่ขาย/ให้เช่าแล้ว ประมาณ 90,972 ไร่ จึงยังคงมีพื้นที่คงเหลือสำหรับขาย/ให้เช่าอีกประมาณ 27,695 ไร่ มีมูลค่าการลงทุนสะสม ประมาณ 4.70 ล้านล้านบาท มีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 4,944 โรง และมีการจ้างงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 815,942 คน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พบว่า ปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าตั้งแต่กลางปี 2561 จนถึงปัจจุบันมีนักลงทุนมาลงทุนในไทยแล้วกว่า 230 โครงการ เงินลงทุนรวม 1.2 แสนล้านบาท ขณะที่ยังมีกลุ่มที่ตัดสินใจขยายการลงทุนในไทย เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามด้านซัพพลายเชน ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่มีพื้นฐานของระบบซัพพลายเชนที่ดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการตั้งฐานธุรกิจในระยะยาว


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'นายกเทศมนตรี เมืองแพรกษาใหม่'​ ร่วม 'หมู่บ้านพฤกษา 15'​ แจกน้ำขิง 4,000 ขวด ฝ่าวิกฤต Covid-19

นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ ลงพื้นที่ภายในชุมชนหมู่บ้านพฤกษา 15 นำคณะผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ โดยประสานความร่วมมือกับทางคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านพฤกษา 15 โดยนางกัญญดากร เรืองฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท BR 2020 ProPerTy

โดยการใช้ความรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านนำขิงสดซึ่งเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน นำมาต้มเป็นน้ำสมุนไพร นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชนหมู่บ้านพฤกษา 15 เพื่อเป็นการป้องกันและยับยั้งการติดเชื้อโรคโควิด19 ซึ่งในวันนี้ทางเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ร่วมกับคณะกรรมการนิติบุคคลจัดเตรียมน้ำขิง จำนวน 4,000 ขวด พร้อมแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในชุมชน โดยมีการจัดระเบียบตามมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด

ด้าน นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ทางเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ได้ให้ความสำคัญและได้ลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่มีทั้งผู้ที่ติดเชื้อโควิด19 อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ก็ได้ร่วมกับทางคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านพฤกษา 15 ได้ต้มน้ำขิงซึ่งเป็นน้ำสมุนไพร นำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชน 

อีกทั้ง ทางเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ได้ดำเนินการทำมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้มีการรวมกลุ่มของทางชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ โดยการนำสมุนไพรใช้รักษาควบคู่กับยาแผนปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษา และการป้องกันยับยั้งโรคโควิด19 ได้ในระดับหนึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ตำรวจสภ.กาฬสินธุ์ จับหนุ่มวัย 24 ปี ขายยา ‘ทรามาดอล’ ให้กลุ่มวัยรุ่น พบสั่งซื้อทางออนไลน์

ตำรวจสภ.เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซ้อนแผนจับหนุ่มวัย 24 ปี พร้อมของกลางยาแก้ปวดทรามาดอล หรือยาเขียวเหลือง โดยในกลุ่มวัยรุ่นเรียก “ยาเสียสาว” จำนวน 110 เม็ด หลังสั่งซื้อทางออนไลน์มาขายให้กับกลุ่มนักเรียนหญิง นำมาผสมน้ำอัดลมดื่มช็อคล้มทั้งยืนเกือบเสียชีวิต พร้อมออกขอความร่วมมือร้านขายยาในพื้นที่ห้ามจำหน่ายให้กับวัยรุ่น ขณะที่พ่อเด็กหญิงวัย 14 ปี ขอให้ลูกสาวเป็นกรณีตัวอย่าง

จากกรณีพ่อวัย 36 ปี ชาวอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โพสต์เตือนภัยเกือบสูญเสียลูกสาว หลังทานยาแก้ปวด ทรามาดอล หรือยาเขียวเหลือง โดยในกลุ่มวัยรุ่นเรียก “ยาเสียสาว” มาผสมน้ำอัดลมดื่ม ก่อนมีอาการเคลิ้มช็อคล้มทั้งยืนเกือบเสียชีวิตโชคดีแพทย์รักษาได้ทัน

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.กันตพัฒน์  ภาคธรรม ผกก.สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ทางตำรวจสภ.เขาวงได้ทราบเรื่องจากของผู้ปกครองที่โพสต์เรื่องราวของลูกสาวตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 5 สิงหาคม 2564 แล้ว จากนั้นวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เขาวง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเขาวง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จับกุมตัวนายธีรุตม์  อุทโท อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 2 ต.คุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ หลังจากเจ้าหน้าที่ขยายผลจากกลุ่มเด็กนักเรียนพบว่าได้ซื้อยา ยาทรามาดอล มาจากนายธีรุตม์ 

โดยเจ้าหน้าที่ได้วางแผนติดต่อซื้อยาทรามาดอลทางเฟสบุ๊ค จำนวน  20  เม็ด เป็นเงิน  140  บาท จากนายธีรุตม์ กระทั่งได้นัดให้มารับยาที่สั่งซื้อ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวได้ที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่งใน ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาทรามาดอลที่ล่อซื้อ 20 เม็ด และจากการตรวจค้นในร่างกายอีก 90 เม็ด รวมเป็น 110 เม็ด จึงนำตัวมาสอบสวน

พ.ต.อ.กันตพัฒน์กล่าวอีกว่า จากการสอบถามเบื้องต้น นายธีรุตม์  ยอมรับว่าได้นำยาทรามาดอลขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นนักเรียนหญิงจริง โดยสั่งซื้อทางออนไลน์ และส่งมาทางพัสดุจากนอกพื้นที่ ก่อนจะนำมาขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น  โดยในพื้นที่ อ.เขาวง เจ้าหน้าที่เพิ่งพบเป็นเคสแรก ซึ่งจะทำการขยายผลไปยังแหล่งที่มาของยา  ส่วนนายธีรุตม์ได้นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา "ขายซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต (ความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510)

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.กันตพัฒน์ ภาคธรรม ผกก.สภ.เขาวง พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ยังได้ออกรณรงค์กับร้านจำหน่ายยาในพื้นที่ อ.เขาวง เพื่อขอความร่วมมือห้ามจำหน่ายยาดังกล่าวให้กับวัยรุ่น และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งร้านขายยาทุกแห่งต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมทั้งฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นที่อยากลองอาจจะเสี่ยงเกิดอันตรายถึงชีวิต และฝากเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบขายหากถูกจับได้จะต้องถูกดำเนินคดีโทษหนักจำคุก 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

ขณะที่อาการของเด็กหญิงวัย 14 ปี ล่าสุดแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามอาการกับนายปรีดา ศรีวรขันธุ์  36 ปี ผู้เป็นพ่อ ทราบว่า ลูกสาววัย14 ปี ซึ่งได้ออกจากโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา และมารักษาตัวต่อที่บ้าน ซึ่งล่าสุดลูกสาวมีอาการดีขึ้นตามลำดับแต่ยังรับประทานยาฆ่าเชื้ออยู่ ในส่วนของด้านสภาพจิตใจคงต้องใช้เวลารักษาสักระยะเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนจิตใจของเด็กและครอบครัวมากตน เพราะเกือบเอาชีวิตไม่รอดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากลอง แต่ก็อยากฝากเตือนภัย และอยากฝากถึงผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก ให้กรณีของลูกสาวตนเป็นเคสสุดท้าย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

"ไทยไม่ทน” จัดกิจกรรมคาร์ม็อบแรลลี่ ขับไล่นายกรัฐมนตรี ร้องตรวจสอบจรรยาบรรณสื่อบางราย ระบุบ้านเมืองถึงขั้นวิกฤติ ประชาชนตายรายวันเศรษฐกิจพินาศ ชี้!! “ประยุทธ” ต้องลาออกสถานเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (8 ส.ค.) นายวันเฉลิม กุนเสน เลขาธิการคณะกรรม การประชาชนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ เป็นแกนนำนัดหมายกลุ่มคนพัทยารักประชาธิปไตย และคณะไทยไม่ทน รวมตัวกันที่บริเวณหน้าที่ทำการอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ริมถนนสายสุขุมวิทขาเข้า จ.ชลบุรี เพื่อร่วมขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ในรูปแบบ “คาร์ม็อบแรลลี่” ปิดป้ายประกาศ โบกธงและบีบแตรโดยมีวัตถุประสงค์ในการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง โดยมีผู้เข้าร่วมเป็นขบวนรถและกลุ่มที่ร่วมเรียกร้องเข้าร่วมกว่า 500 คน อย่างไรก็ตามได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่จากเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จำนวนกว่า 50 นาย เข้ามาควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของรัฐ

ในการนี้ พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล ผกก.สภ.บางละมุง ได้อ่านประกาศคำสั่งไม่ให้มีการชุมนุม หรือรวมกลุ่มของผู้คนตามแนวทางของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ที่ลงนามโดย นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมระบุว่า จ.ชลบุรี ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่เฝ้าระวังที่ห้ามไม่ให้มีการชุมนุม การทำกิจการที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้เลิกการชุมชน รวมถึงการจัดกิจกรรมภายใน 30 นาที

โดย นายวันเฉลิม กุนเสน เลขาธิการคณะกรรม การประชาชนขับไล่เผด็จการแห่งชาติ ได้รับฟัง พร้อมกล่าวว่าคณะรัฐบาลชุดนี้มาอย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้น พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน จึงเป็นกฎหมายที่ไม่สามารถรับฟังได้และจะไม่ขอปฏิบัติตาม พร้อมกันนี้ได้อ่านแถลงการณ์ว่าการรวมตัวดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศเพื่อโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลที่ทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤตอย่างหนัก ทั้งสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้มีประชาชนป่วยตายรายวัน ขณะที่กรณีเรื่องของวัคซีนก็ไม่มีความชัดเจน สิ่งสำคัญคือปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดอย่างหนัก ประชาชนยากไร้ ตกงาน โดยรัฐบาลไร้ศักยภาพในการบริหาร จึงได้ร่วมกับทุกองค์กรจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ และจะมีการยกระดับเพิ่มมากขึ้นในหลายภูมิภาค ซึ่งมีจุดหมายเดียวคือ “พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่งทันที

พร้อมกันนี้นายวันเฉลิม ได้ยื่นหนังสือต่อนายอัมพร แสงแก้ว นายกสมาคมนักข่าวพัทยา กรณีที่ให้ตรวจสอบจรรยาบรรณของผู้สื่อข่าวบางราย ที่กระทำหน้าที่และใช้วาจาอย่างไม่เหมาะสมลงในโลกโซเชียลเน๊ตเวิร์ค อีกทั้งยังเข้าร่วมการทำงานกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งขัดต่อหลักการทำงานในสายวิชาชีพสื่อสารมวลชน โดยทางนายกสมาคมนักข่าวพัทยา ได้รับเรื่องไว้พร้อมรับปากว่าจะทำการตรวจสอบต่อไป

กองทัพอากาศ สนับสนุนอากาศยานในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

เมื่อวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2564 นาวาอากาศเอก ภูศิษฏ์ ทิมเกิด ผู้บังคับการกองบิน 41 พร้อมด้วยนายสำเริง ไชยแสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมรับมอบผลผลิตมังคุดจำนวน 4 ตัน จากกลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และส่งมอบลำไย จำนวน 4 ตัน จากกลุ่มแปลงใหญ่ลำไยขัวมุง และกลุ่มแปลงใหญ่ลำไยท่ากว้าง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ตามโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรมอบให้แก่จังหวัดสุราฏร์ธานี โดยมี นาวาอากาศเอก พุทธพงศ์ ผลชีวิน ผู้บังคับการกองบิน 7 เป็นผู้รับมอบ ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้มีการขยายตัวเป็นวงกว้าง และมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ประกอบกับราคาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาดและมีราคาตกต่ำ เนื่องจากไม่สามารถขนส่งไปยังพื้นที่ปลายทางได้ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และผู้ประกอบการ ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

กองทัพอากาศ จึงสนับสนุนปฏิบัติภารกิจการเลียงทางอากาศ เพื่อขนส่งผลผลิตทางการเกษตรของจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำมาแลกเปลี่ยนกับผลผลิตทางการเกษตรของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน เพื่อกระจายและแลกปลี่ยนผลิตผลระหว่างกัน โดยจะทำการลำเลียงแลกเปลี่ยน ระหว่างวันที่ 9-10 สิงหาคม 2564 นี้


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เริ่มฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มเข็มแรกให้แก่ประชาชน จำนวน 11,800 โดส ตั้งแต่วันที่ 9 -23 สิงหาคม

วันที่ 9 สิงหาคม 2564 นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา / นายพงษ์ศักดิ์ ร่มโพธิ์ทอง รองนายกเทศมนตรี / นายบุญทวี สุขรัตน์อมรกุล คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พร้อมเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา

ลงพื้นที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ฉะเชิงเทรา เพื่อร่วมอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการฉีดวัคซีน ชิโนฟาร์ม เข็มแรกสำหรับประชาชนที่ไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน สำหรับวัคซีนชิโนฟาร์มรอบแรกที่เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้รับจัดสรรมาจำนวน 5,900 คน หรือ 11,800 โดส จะเริ่มฉีดให้กับประชาชนตั้งแต่วันที่ 9 -23 ส.ค. 64 จำนวนวันละ 600 คน มีการนัดเป็นรอบเวลาเพื่อป้องกันการแออัด และลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด ซึ่งมีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้กับเทศบาล ได้เดินทางมาเข้ารับการฉีดวัตซีนตามนัด โดยเทศบาลและโรงพยาบาลได้จัดให้มีจุดคัดกรองเบื้องต้น จุดลงทะเบียน และจุดรอรับการฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสมตามมาตรการสาธารณสุข

ภาคีบุคลากรสาธารณสุข รวบรวมรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ พร้อมเสนอ 4 ข้อเรียกร้อง #ทวงไฟเซอร์ให้ด่านหน้า หวังให้รัฐจะกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรม

ภายหลังจากมีการเรียกร้องให้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา ให้กับแพทย์บุคลากรด่านหน้าอย่างทั่วถึง แต่กลับพบว่า หลายโรงพยาบาลที่ได้ร้องขอไปกลับได้ไม่เท่ากับจำนวนตามที่ขอ

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก ‘ภาคีบุคลากรสาธารณสุข’ ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยเชิญชวนให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ผ่านเกณฑ์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ แต่ไม่ได้รับ ร่วมลงชื่อเพื่อส่งเสียง พร้อมเสนอ 4 ข้อเรียกร้อง เพื่อทวงวัคซีนไฟเซอร์ให้ด่านหน้า ข้อความทั้งหมดมีดังนี้

“บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทุกคนที่คุณสมบัติเข้าเกณฑ์ควรได้รับไฟเซอร์!”

เครือข่ายบุคลาการทางการแพทย์ ขอเชิญบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์และแสดงเจตจำนงขอรับแล้วแต่ไม่ได้รับร่วมลงชื่อ เพื่อส่งเสียงบอกว่ามีด่านหน้าอีกจำนวนเท่าใดที่ไม่ได้รับวัคซีนที่ควรได้รับ เพื่อช่วยกันส่งข้อมูลการบริหารจัดการวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามคำสัญญามารวบรวมไว้อย่างเป็นระบบเพื่อนำไปขับเคลื่อนเชิงนโยบายในอนาคตต่อไป อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกให้ผู้เกี่ยวข้องกับการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ตระหนักถึงพลังของบุคลากรทางการแพทย์

เมื่อวัคซีน mRNA ที่เราเรียกร้องให้เป็นวัคซีนหลักมาถึงแต่กลับมีอุปสรรคมากมายทำให้พวกเราไม่อาจได้รับวัคซีน เช่น หลายโรงพยาบาลจัดสรรโควตาวัคซีนไฟเซอร์ไม่เพียงพอต่อจำนวนบุคลากรผู้ผ่านเกณฑ์ ทำให้ต้องจัดสรรวัคซีนโดยลำดับความเสี่ยงของบุคลากรฯ ด่านหน้าจากมากไปน้อย ทั้งที่ในความเป็นจริงด่านหน้าทุกคนล้วนมีความเสี่ยงไม่ต่างกัน อีกทั้งเกณฑ์ที่ใช้กำหนดยังไม่อาจสอบทานได้, บางโรงพยาบาลยืนยันว่าจะฉีดไฟเซอร์ให้บุคลากรเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น (booster dose) หลังบุคลากรฯ ได้รับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) 2 เข็มเท่านั้น ซึ่งเป็นการยึดตามเกณฑ์เก่าไม่ใช่เกณฑ์ปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการจัดสรรไฟเซอร์ให้แต่ละจังหวัดอย่างไม่สอดคล้องกับการระบาด ไม่มีข้อกำหนดชัดเจนแจ้งว่า เหตุใดบางจังหวัดจึงได้รับวัคซีนมากกว่าจังหวัดที่มีการระบาดมากกว่า ฯลฯ

ภาวการณ์เหล่านี้บั่นทอนขวัญกำลังใจ และทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการวัคซีนอย่างมาก เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ จึงมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ต่อกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้

1.) จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น (booster dose), เป็นวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่สองสำหรับผู้ไม่เคยฉีด, เป็นวัคซีนเข็มที่สองสำหรับผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว, อีกทั้งจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า “ทุกคน” ที่ประสงค์จะรับวัคซีน ทั้งนี้หากจำนวนวัคซีนที่จัดสรร 700,000 โดสไม่เพียงพอ เราขอเรียกร้องให้รัฐจัดหาวัคซีน mRNA ให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นการเร่งด่วน

2.) เปิดเผยว่ารัฐใช้เกณฑ์ใดในการจัดสรรวัคซีนให้แก่จังหวัดต่าง ๆ และโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรม

3.) เปิดเผยจำนวนวัคซีนไฟเซอร์ที่แต่ละจังหวัดส่งชื่อยื่นขอ และจำนวนที่จัดสรรให้จริงทุกจังหวัด

4.) แจ้งแผนการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ล็อตที่สองซึ่งเตรียมส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ทั้งจำนวน และการกระจายไปยังแต่ละจังหวัด

ทั้งนี้ระหว่างข้อเรียกร้องต่าง ๆ กำลังเดินทางต่อไปถึงรัฐ เราอยากขอเชิญชวนบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับไฟเซอร์แต่ไม่ได้รับ ร่วมกันส่งข้อมูลตามลิ้งค์ https://tinyurl.com/WhereIsOurPfizer หรือ QR code ที่ปรากฎ เพื่อแสดงเจตจำนงและพลังของพวกเราอีกทางหนึ่ง อีกทั้งข้อมูลที่ได้เราจะรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบเพื่อนำไปขับเคลื่อนเชิงนโยบายต่อไป

พวกเราเป็นมนุษย์ พวกเราเหนื่อยได้ เจ็บปวดเป็น และมีโอกาสเสียชีวิตได้ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่วันนี้พวกเราแบกรับความเสี่ยง เป็นด่านหน้าให้กับศึกครั้งนี้ เราคาดหวังว่า รัฐจะกระจายวัคซีนให้พวกเราอย่างเป็นธรรม

เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์

9 สิงหาคม 2564


ที่มา : https://www.facebook.com/PHassociationTH/photos/a.108184988193611/125751139770329/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ชวน” ยันเดินหน้าประชุมสภาฯ 18-20 ส.ค.ถก งบ 65 เผยขอ ศบค.ผ่อนผันการเดินทางของ ส.ส. แล้ว ปัดตอบยุบสภาหลังงบประมาณผ่าน ชี้ไม่เกี่ยวกับประธานฯ   

ที่รัฐสภา  นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในวันที่ 18-20 ส.ค.ว่า ขณะนี้ทางสภาผู้แทนราษฎร ได้จัดทำหนังสือเรียกประชุมไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงทางสภาฯได้จัดทำหนังสือไปยังกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค.เพื่อขอผ่อนผันเงื่อนไขการเดินทางของสมาชิกฯตามความเหมาะสม เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ขอยืนยันไม่มีการเลื่อนประชุมแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่สำคัญของสภาฯในการพิจารณาตามที่ทางคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯกำหนดไว้ล่วงหน้าไว้แล้ว

นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่า หากพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯแล้วเสร็จจะมีการยุบสภานั้น ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับทางประธานสภาฯ ขณะนี้เป็นเรื่องที่ทางสภาฯ จะต้องเร่งดำเนินการพิจารณางบประมาณฯตามกฎหมายที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งเป็นเรื่องที่สภาฯต้องรับผิดชอบรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน105 วัน

"โฆษกทัพฟ้า" โร่แจง ดราม่า ใช้ เครื่องบิน SAAB 340 ช่วยขนมังคุดใต้  ไม่คุ้มค่า ยันไม่ใช่เพิ่มเที่ยวบิน แต่นำไปพร้อมกับการฝึกบินตามตาราง ย้ำเป็นการได้ประโยชน์ ไม่ปล่อยให้บินไปเสียเที่ยว 

พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ  ชี้แจงกรณี การวิพากษ์วิจารณ์ การนำเครื่องบิน SAAB 340 มาใช้ในภารกิจขนมังคุด สุราษฎร์ธานี ไปแลกกับลำไย ที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน นั้น ไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการบิน ซึ่งเป็นการใช้ทรัพย์สินผิดประเภท ว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ กองทัพอากาศ มีแผนการฝึกของนักบิน ในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อพัฒนากำลังพล ดังนั้น การช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงนี้ ควบคู่ไปกับการฝึกบิน จึงถือเป็นการได้ประโยชน์ ไม่ปล่อยให้บินไปเสียเปล่า ไม่ใช่เป็นการเพิ่มเที่ยวบินเพิ่มเติม  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top