Wednesday, 28 May 2025
NewsFeed

บรูไนฟังเสียงประชาชน เบรกเรือรบอินเดียขึ้นฝั่ง เหตุเป็นห่วงเสี่ยงเชื้อระบาด

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nina Nutthinee ซึ่งเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศบรูไน ได้โพสต์ข้อความถึงความเด็ดขาดในการรับมือกับเชื้อโควิดของบรูไนว่า...

ทราบข่าวว่าเรือรบจากอินเดีย 2 ลำ จะมาถึงบรูไน

บอกว่ามาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือ 2 ประเทศ

แต่คนเข้าไปคอมเมนต์ต่อว่ากันใหญ่

จนกระทรวงกลาโหมบรูไน ต้องออกมาบอกว่า

จะไม่มีการร่วมฝึกใด ๆ

และจะไม่อนุญาตให้ลงมาจากเรือด้วยค่ะ

เรื่องนี้ถือเป็นอีกตัวอย่างของมาตรการป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลตา

ดีนะฟังเสียงประชาชน และ Take Action, Very Fast.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอยง’ ชี้ ไทยต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 85% ย้ำ ต้องพัฒนาวัคซีนมาสู้ให้ทันเชื้อที่ระบาดหนัก

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอธิบายถึงโควิด-19 ภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ herd immunity ที่ต้องการเพื่อหยุดยั้งการระบาดว่า...

ถ้าประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันป้องกันโรคเป็นจำนวนมาก ปัญหาการระบาดก็จะทุเลาลง และจะสามารถควบคุมได้ หรืออัตราการตายต้องน้อยลง ภูมิคุ้มกันหมู่ที่ต้องการ เราคำนวณมาจากความสามารถในการกระจายโรค แต่เดิมสายพันธุ์อู่ฮั่นการกระจายโรคจาก 1 คนติดไปสู่ผู้อื่นประมาณ 2-3 คน การคิดภูมิคุ้มกันหมู่ เรามีสูตร 1-1/อํานาจการกระจายโรค ถ้าอํานาจการกระจายโรคเป็น 3 ภูมิคุ้มกันหมู่ที่ต้องการยุติโรค 1-1/3 หรือเท่ากับ 66% เราจึงคิดจะให้วัคซีนกับประชากรไทยให้ครอบคลุมให้ได้ 70% หรือประมาณ 50 ล้านคน ต้องใช้วัคซีน 100 ล้าน dose

แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไปไวรัสตัวจากสายพันธุ์อู่ฮั่น ให้การกระจายโรคเท่ากับไข้หวัดใหญ่อยู่ที่ 2 ต่อมา เป็นสายพันธุ์ G ติดง่ายขึ้น สมมุติเป็น 1.5 เท่า และต่อมาเป็นสายพันธุ์ Alpha (อังกฤษ) ก็ติดต่อได้ง่ายขึ้นอีก สมมุติเป็น 1.5 เท่าอีก และเมื่อมาเป็นสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ก็ติดได้ง่ายขึ้นอีกสมมุติเป็น 1.5 เท่าอีก เมื่อเป็นเช่นนี้การกระจายโรคตั้งแต่อยู่ที่จีนถ้ามีค่าเท่ากับ 2 เมื่อมาถึงสายพันธุ์เดลตาหรืออินเดีย ก็จะเท่ากับ 2X1.5X1.5X1.5 คือ 6.75 หรือกล่าวว่าผู้ป่วย 1 คนสามารถกระจายโรคไปให้ผู้อื่นได้ 7 คน จึงทำให้เห็นโรคนี้ติดต่อกันง่ายมากขึ้น หาต้นต่อการติดต่อไม่ได้เลย

ภูมิคุ้มกันหมู่ที่ต้องการ ก็จะเปลี่ยนไปเป็น 1-1/7 หรือเท่ากับ 85% แสดงว่าเราต้องการให้วัคซีน ในประชากรเพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อย 85 เปอร์เซ็นต์ และถ้าทั่วโลกต้องการเพิ่มกันหมดทุกประเทศ ในการควบคุมการระบาดของโรค ปริมาณวัคซีนที่ขณะนี้ก็มีไม่เพียงพออยู่แล้วก็จะยิ่งไม่เพียงพอใหญ่ และบางประเทศจะเริ่มให้เข็ม 3 อีก ก็จะทำให้ยิ่งขาดแคลนมากขึ้น

ประเทศสหรัฐอเมริกา เจอสายพันธุ์ที่ติดง่ายขึ้น เดลตา แบบที่เราเจอ ก็มีผู้ป่วยร่วมแสนต่อวัน ฝรั่งเศส อังกฤษ ประชากรใกล้เคียงกับไทยมีการติดเชื้อต่อวัน ไม่น้อยกว่าประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนมากกว่าประเทศไทยมาก อัตราตายที่เกิดจากการฉีดวัคซีนแล้วจะน้อยกว่า

ประชากรเด็กจะเป็นประชากรอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จะต้องกระตุ้นให้มีภูมิต้านทานเกิดขึ้นเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเด็กจะไม่มีอาการมาก แต่ก็จะแพร่กระจายเชื้อได้เป็นอย่างดี ถ้าต้องการให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ตามเป้าหมาย และวัคซีนในยุคต่อไปจะต้องพัฒนาให้ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาดใหญ่อยู่ตลอดเวลา


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=6093988397310393&id=100000978797641


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พท.เตือนความจำรัฐเร่งจัดสรรไฟเซอร์ให้เด็กกลุ่มเสี่ยง พร้อมจัดหาวัคซีนให้เยาวชนเพิ่ม อัดเชื้อโรคไม่มีวันหยุดเหมือนผู้นำ

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้น ในจำนวนดังกล่าวพบว่ามีผู้ติดเชื้อเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ  โดยมีเด็กติดเชื้อสะสมระหว่าง 1 ม.ค. – 6 ส.ค. สูงถึง 70,153 คน และล่าสุดวันที่ 6 ส.ค. มีเด็กติดเชื้ออยู่ที่ 2,469 คน เฉลี่ยอัตราการติดเชื้อในเด็กอยู่ที่ 10% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด ในจำนวนนี้มีเด็กกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีโรคประจำตัวรวมอยู่ด้วย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคมาจากสหรัฐ จำนวน 1,503,450 โดส ให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ตามโควต้าที่ได้จัดสรรไว้โดยเร็ว ขณะเดียวกันต้องเร่งติดตามความคืบหน้าการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง และต้องเร่งเจรจาสั่งซื้อวัคซีนยี่ห้ออื่น ที่กำลังจะได้รับการรับรองให้ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ เช่น โมเดอร์นา ก่อนที่จะสายเกินไป  อย่าให้พลาดซ้ำเหมือนการจัดหาวัคซีนของผู้ใหญ่อีก 

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาวัคซีนไฟเซอร์ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) ให้ใช้ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องประวิงเวลารอคอยพิธีการในการเร่งฉีดวัคซีนในเด็กและประชาชนกลุ่มเสี่ยง เมื่อปรับเกณฑ์การฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้ว ก็ต้องรีบฉีดบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน เด็ก และเยาวชนกลุ่มเสี่ยงอย่างโปร่งใส และรวดเร็ว  เราไม่มีเวลามากพอที่จะต้องรอ เชื้อโรคไม่มีวันหยุดเหมือนผู้นำประเทศบางท่าน

“ประวิตร” เร่งฟื้น "แสนแสบ" ให้ใสสะอาด กำชับแผนงานป้องน้ำท่วมให้ทันกรอบเวลา 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ครั้งที่ 4/2564  ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์

โดยที่ประชุมเห็นชอบให้เร่งขับเคลื่อนแผนงานที่สำคัญ อาทิ จัดหาเครื่องมือจัดการตะกอนท้องคลอง สร้างเขื่อนแนวคลอง การควบคุมคุณภาพน้ำทิ้ง โครงการบำบัดน้ำเสีย แก้ไขปัญหาการรุกล้ำริมคลอง จัดการจราจรทางน้ำให้ปลอดภัย ไร้มลพิษทางเสียงและกลิ่น ติดตั้งกล้องซีซีทีวีทุกท่าเรือ ใช้เรือไฟฟ้าแทนเรือน้ำมันดีเซล กำจัดสิ่งกีดขวางและระบายน้ำ รวมถึงส่งเสริมกิจกรรมกลุ่มเยาวชนรักษ์น้ำ คืนความใสให้ลำคลองให้ต่อเนื่อง ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพื่อฟื้นฟูคลองแสน แสบ ซึ่งขุดขึ้นมาตั้งแต่สมัย รัชกาลที่3 เพื่อใช้สัญจรและขนส่ง เชื่อมเส้นทางแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำเจ้าพระยา และปัจจุบันเป็นเส้นทางโดยสาร ให้กลับมาสวยงาม น้ำใสสะอาด มีความปลอดภัย และเป็นคลองระบายน้ำ ป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 

นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าแผนปฏิบัติการพัฒนา ฟื้นฟูสภาวะแวดล้อมคลองแสนแสบ จำนวน 84 โครงการ เพื่อเสนอครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ กทม. กรมชลประทาน กรมเจ้าท่ากรมโยธาธิการและผังเมืองกรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และกรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งพัฒนาฟื้นฟูคลองแสนแสบ และบริหารจัดการน้ำให้เสร็จทันตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปรับแผนให้รองรับตามมาตรการป้องกันโควิด-19

กระทรวงแรงงาน รับมอบไข่ไก่ 56,440 ฟอง จากภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน รับมอบไข่ไก่จากบริษัท เบทาโกร บริษัท ซันฟู๊ด ร่วมกับเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร จำนวน 56,440 ฟอง เพื่อให้กระทรวงแรงงานนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยมี นายวรรณรัตน์ ศรีสุกใส รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ บริเวณโถงชั้นล่าง อาคารกระทรวงแรงงาน

ทั้งนี้ อาหาร และสิ่งของที่จำเป็นที่กระทรวงแรงงานได้รับมอบจากภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน กระทรวงแรงงานจะได้นำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาทิ แคมป์คนงานต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คนขับรถแท็กซี่ รวมทั้งสมาคม องค์กรสาธารณกุศล และผู้นำชุมชนต่าง ๆ เพื่อจะได้นำไปแจกจ่ายให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกทางหนึ่งด้วย

นายสุทธิ กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวงแรงงาน โดยท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้มอบหมายให้ผมรับมอบไข่ไก่จากภาคเอกชนอย่างบริษัท เบทาโกร บริษัท ซันฟู๊ด ร่วมกับเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร นำไข่ไก่มามอบให้กระทรวงแรงงาน จำนวน 56,440 ฟอง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งนี้ ท่าน รมว.แรงงาน ยังได้ฝากขอบคุณภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงานที่ได้เห็นความตั้งใจในการช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงานในยามยากลำบาก ซึ่งสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีและนโยบายของรัฐบาล โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกด้วย

'สัณหพจน์' ย้ำ การเสนอสลับตำแหน่งบิ๊กป๊อก-อนุทิน เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ประกาศลาออกจากตำแหน่งในพรรคหากหลายฝ่ายไม่สบายใจ

9 ส.ค. 64 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ตนแสดงความคิดเห็น เป็นข้อเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรื่องการปรับสลับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขนั้น ขอยืนยันว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ในฐานะของผู้แทนประชาชน และชัดเจนว่าไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นในนามของพรรคพลังประชารัฐ หรือมีกลุ่มบุคคล หรือบุคคลใดอยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด

ทั้งนี้ทราบดีว่า การปรับคณะรัฐมนตรี หรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีในครม.นั้น เป็นอำนาจโดยตรงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะพิจารณาว่าผู้ใดเป็นผู้เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งให้ความเคารพต่ออำนาจการพิจารณาดังกล่าว ขณะที่ตนเป็น ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ การนำเสนอความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าว อาจทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นทั้งในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคการเมืองอื่น ๆ เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ตนต้องกราบขออภัยอย่างสูง มา ณ ที่นี่ด้วย

นายสัณหพจน์ กล่าวว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผมในครั้งนี้นั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทย ในวันนี้ที่พี่น้องประชาชนกำลังเผชิญกับการแพร่รระบาดของโควิด-19 และต้องประสบกับปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดนั้น ผมในฐานะที่เป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชน และยึดหลักการมาโดยตลอดว่า เมื่อครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้รับโอกาสนี้แล้ว จะต้องทำหน้าที่เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของพี่น้องประชานให้ดีที่สุด ในการที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช”

"ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบในกรณีนี้ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ และกระทบกระเทือนถึงพรรคพลังประชารัฐ ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และตำแหน่งเลขาธิการภาค 8 พรรคพลังประชารัฐ” นายสัณหพจน์ ระบุ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

หาบเร่แผงลอยซึ้ง 'ลุงตู่ รมว.เฮ้ง' ช่วยปันน้ำใจทำข้าวกล่องร้านค้าสู่แรงงาน มีรายได้ สู้โควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ นางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร และสมาชิก เข้าพบเพื่อมอบกระเช้าให้กำลังใจและขอบคุณ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่าน รมว.แรงงาน ที่ได้ให้ความช่วยเหลือสมาชิกชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานครในการทำข้าวกล่องส่งแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามโครงการปันน้ำใจร้านค้าสู่แรงงาน ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายจำลอง ช่วยรอด คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า โครงการปันน้ำใจร้านค้าสู่แรงงาน กรมการจัดหางานจะให้ความช่วยเหลือด้านอาหารวันละ 1 มื้อ ตั้งแต่วันที่ 12 – 27 กรกฎาคม 2564 เป้าหมายแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 520 แห่ง 750,000 กล่อง และปริมณฑล จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม สมุทรปราการ รวมจำนวน 797 แห่ง 500,000 กล่อง โดยมีผู้ร่วมโครงการ ได้แก่ ชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ขับขี่รถรับจ้างแห่งประเทศไทย สมาคมภัตตาคารไทย และร้านค้าบริเวณแคมป์ก่อสร้าง รวม 132 แห่ง

นางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันนี้ดิฉันและสมาชิกชมรมหาบเร่แผงลอยได้เดินทางมามอบกระเช้าเพื่อขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ผ่านท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ท่านเมตตาและเห็นความสำคัญแม่ค้าหาบเร่แผงลอยที่ได้ช่วยเหลือชมรมให้ได้เข้าร่วมโครงการปันน้ำใจร้านค้าสู่แรงงาน โดยการจัดทำข้าวกล่องส่งแคมป์คนงาน ซึ่งสมาชิกที่ได้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 12-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 16 วัน ทุกคนต่างพ้นวิกฤตจากความทุกข์ร้อนไปได้ และในวันนี้ดิฉันในฐานะประธานชมรมหาบเร่แผงลอยได้พูดคุยกับสมาชิกในชมรมและให้แรงบันดาลใจว่า เมื่อเราได้มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือแล้ววันหนึ่งเราควรจะคืนโอกาสให้สังคม โดยหลังเสร็จสิ้นโครงการเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมแล้ว ชมรมได้จัดทำข้าวกล่องเพื่อแจกจ่ายให้กับคนเร่ร่อน จำนวน 5,500 กล่อง 


 นางสาวศศิมล หุ้ย หรือ ป้าไก่ ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันนี้พวกเรามาขอบคุณรัฐบาล ท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านรัฐมนตรีสุชาติ ชมกลิ่น ที่ให้โอกาสพวกเรา ได้มีงานทำและมีรายได้ เพื่อเงินยังชีพ เลี้ยงครอบครัวได้

“มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการเสริมที่กระทรวงแรงงานขอความร่วมมือนายจ้าง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 นอกจากจะดูแลคนงานในแคมป์แล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการขนาดเล็ก หาบเร่แผงลอยที่ได้รับผลกระทบจากโควิดให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว ก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามนโยบายของรัฐบาล” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

เปิดจีดีพีเกษตรไตรมาส 2 พลิกบวก 1.2% 

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2564 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 2 ปี 2564 ขยายตัว 1.2% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อน ที่หดตัวถึง 3.1% เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ละช่วงต้นปี 2564 ทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกได้มากขึ้น 

รวมทั้งสภาพอากาศโดยทั่วไปที่เอื้ออำนวย และไม่ประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้สถานการณ์การผลิตพืชและปศุสัตว์ดีกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณการผลิต โดยแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตร ทั้งปี 2564 สศก. ยังคาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วง 1.7 – 2.7% ตามเดิมที่คาดการณ์ไว้

จากการวิเคราะห์ผลกระทบโควิด-19  พบว่า ภาคเกษตรได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับภาคอื่น ๆ โดยผลกระทบที่ได้รับมีสาเหตุหลักมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อสินค้าเกษตรที่อ่อนตัวลง เพราะมาตรการ ที่ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น การล็อคดาวน์ และการควบคุมพื้นที่ การจำกัดเปิดร้านค้า และ ร้านอาหารต่าง ๆ โดยผลวิเคราะห์พบว่า กรณีโควิด-19 กระทบ 5 เดือน (เมษายน - สิงหาคม 2564) มูลค่าทางเศรษฐกิจการเกษตรในส่วนของการบริโภคสินค้าเกษตรในประเทศ จะลดลงรวมทั้งสิ้น 13,895 ล้านบาท           

‘ทักษิณ’ เตรียมเปิดพื้นที่ให้ประชาชน แลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง ให้ข้อเสนอแนะ และร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทยกับการสื่อสารช่องทางใหม่ ผ่านทาง ‘THAKSINOFFICIAL’

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัว ถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ โดยการเปิดพื้นที่ประชาชน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มุมมองและข้อเสนอแนะ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศว่าช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คุณพ่อผมให้ความสำคัญกับการชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ให้กับพี่น้องประชาชนเสมอครับ

จะเห็นได้จากรายการ "นายกทักษิณฯ คุยกับประชาชน" ซึ่ง ณ เวลานั้น ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่นายกรัฐมนตรีของไทยมาจัดรายการออกสื่อ เพื่อสื่อสารกับประชาชนโดยตรงเป็นประจำทุกสัปดาห์

นอกจากข้อมูลที่ชัดเจนจะถูกสื่อสารตรงไปถึงพี่น้องประชาชนโดยตรงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ “การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น” โดยคุณพ่อจะจริงจังในเรื่องการรับฟังเสมอ คุณพ่อเคยรับสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาร้องทุกข์ด้วยตัวเอง เพราะเชื่อว่าการสื่อสารที่ดีที่สุดคือสื่อสารสองทาง ไม่ใช่พูดอย่างเดียวไม่รับฟังเสียงประชาชน

ภาพที่ผมได้นำมาลงนี้ เป็นภาพที่ตัวผมและน้อง ๆ ได้เห็นมาตลอด ทั้งภาพเบื้องหลังการเตรียมตัว และการเดินทางไปเพื่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการไปคุยกับกลุ่มประชาชนที่ประสบปัญหาในท้องถิ่นต่าง ๆ จนถึงการเตรียมข้อมูลเพื่อที่จะพูดคุยในคลับเฮาส์ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่คนรุ่นใหม่นิยมใช้ในการสื่อสารแบบ Two Way Communication

มาช่วงนี้ถึงแม้ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร แต่เมื่อประเทศชาติเกิดวิกฤติ คุณพ่อผมซึ่งอัปเดตตัวเอง โดยเรียนรู้วิทยาการใหม่ ๆ ในโลกตลอดเวลา ก็อยากที่จะนำความรู้และวิทยาการสมัยใหม่ต่าง ๆ มานำเสนอให้กับประเทศไทย ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ทำให้วิกฤติปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น สามารถบรรเทาเบาบางลงได้

ด้วยความที่คุณพ่อชอบที่จะฟังเสียงประชาชน เคารพในความคิดเห็นผู้อื่น และเห็นว่าข้อเสนอแนะของประชาชน คือทางออกและเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ

ดังนั้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณพ่อได้ คุณพ่อผมเตรียมเปิดพื้นที่ให้กับพี่น้องได้มาแลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง ให้ข้อเสนอแนะ และร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทยกับการสื่อสารช่องทางใหม่ เตรียมพบกับ #THAKSINOFFICIAL เร็ว ๆ นี้ครับ

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้โพสต์ข้อความในทำนองเดียวกันกับนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายว่า “เพิ่งผ่านวันเกิดคุณพ่อมาไม่นาน ขอแอบเล่าความประทับใจในตัวคุณพ่อเพิ่มหน่อยนะคะ

พ่อคือ นักเล่าประจำบ้าน

คุณพ่อมักอยากจะแชร์ให้ลูก ๆ ฟังอยู่เสมอ พ่อจะโทรหาทุกคน พ่อจะเล่าซ้ำ ๆ โทรติดใครก่อนก็เล่าก่อน เล่าทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องสมัยจีบกับคุณแม่ใหม่ ๆ วีรกรรมช่วงเรียน เรื่อยมาจนถึงการลงพื้นที่ ความสนุกและความภูมิใจที่ได้ไปคลุกคลีกับประชาชน

การเล่าที่พ่อจะอินที่สุด คือเวลาพ่อคิดนโยบายอะไรได้ พ่อจะโทรบอกลูกก่อนเลย อย่างเช่น เล่าว่าลูกรู้ไหมคนที่เขาต้องไปวิ่งยืมเงินคนอื่นมารักษาโรค อีกหน่อยเขาจ่ายแค่ 30 บาท เขาก็จะหายป่วยได้ เขาจะได้ผ่าตัดโดยเสียเงินแค่ 30 บาท

อิ๊งค์ก็ถามกลับว่า จริงเหรอพ่อ มันจะเกิดขึ้นเหรอ และพ่อก็ตอบกลับว่า "พ่อทำได้ลูกคอยดูนะ"

สิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากคุณพ่อมาเต็ม ๆ คือ การมีแรงบันดาลใจเสมอ มีความหวังในวันนี้ เพื่อสร้างพรุ่งนี้ให้ดีขึ้น

เรื่องเล่าของพ่อยังมีอีกมากเล่าวันเดียวก็คงไม่จบ ซึ่งเรื่องเล่าเหล่านี้เราอยากแบ่งปันและตีแผ่ออกไปให้ทุกคนได้สร้างแรงบันดาลใจร่วมกันนะคะ เพราะเราทุกคนต้องมีความหวังในวันนี้และพรุ่งนี้ค่ะ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมอบอาหารจากโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ และถุงปันสุขจากทีมมะหาคัท เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนเขตทุ่งมหาเมฆ

วันที่ 9 สิงหาคม 64 เวลา 10.30 น. พันตำรวจเอกหญิงศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พันตำรวจเอกชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ รับมอบอาหารจากโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ ในโครงการ "Banyan Tree Caring By Sharing" 

โดยมี น.ส.นพรัตน์ อำภา ผู้จัดการทั่วไป นายอำนาจ กฤตพิทยบูรณ์ ผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่มและนายสมเกียรติ ธนชูทิพย์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เป็นตัวแทนมอบอาหารกลางวันเมนู ปลากระพง 3 รส จำนวน 250 กล่อง เพื่อนำไปมอบแก่ข้าราชการตำรวจและประชาชนในเขตสน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งทางโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆเป็นสื่อกลาง ในการช่วยเหลือชาวบ้านในเขตทุ่งมหาเมฆต่อไป

นอกจากนี้ทางทีม "ช่างช่วยช่าง ช่างช่วยชาติ" โดยมีคุณเจเจ(พนิดา แซ่จิว) ประธานกรรมการบริษัทมะหาคัท มอบถุงปันสุขจำนวน 10 ถุง ให้กับข้าราชการตำรวจเพื่อนำไปใช้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top