Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

“โฆษกรัฐบาล” เผย ตั้งเป้าส่งออกสินค้าฮาลาลโต 3 เปอร์เซ็นต์ มูลค่ากว่าแสนล้าน เจาะตลาดประเทศมุสลิม ชี้ ใช้โมเดล “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เป็นผู้นำการผลิต สร้างมาตรฐานคุณภาพ

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นโอกาสการผลิตและการส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลและผลผลิตสินค้าเกษตรมาตรฐานที่โตต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ไปสู่ตลาดกลุ่มประเทศมุสลิม และประเทศที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก เช่น อินเดีย จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา คาดว่ามีประชากรชาวมุสลิมทั่วโลกกว่า 2 พันล้านคน มูลค่าตลาดประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทางกระทรวงพาณิชย์ จึงตั้งเป้าการส่งออกสินค้าฮาลาลทุกประเภทไปยังกลุ่มประเทศมุสลิม ของปี 2564 ไว้ที่ 1.22 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 1.18 แสนล้านบาท โดยประเทศไทยได้เปรียบที่สามารถผลิตสินค้าหลากหลาย มีมาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดี และขณะนี้มีบริษัทที่ได้รับรองมาตรฐานอาหารฮาลาลประมาณ 5,000 บริษัท มีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองฮากว่า 160,000 รายการ จึงเชื่อมั่นว่าประเทศไทย มีศักยภาพเป็นประเทศผู้นําในการพัฒนา ผลิต และส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่ได้รับความเชื่อมั่นในตลาดโลก

น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาลใช้โมเดล “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อขับเคลื่อนการเป็นผู้ผลิตในตลาดโลก โดยร่วมกับหลายภาคส่วน ให้ครอบคลุมเพิ่มศักยภาพหน่วยงานรับรองมาตรฐานฮาลาล ใช้เทคโนโลยีทันสมัยตรวจสอบพร้อมสร้างองค์ความรู้ในการผลิต การบริหารจัดการตั้งแต่ระดับฟาร์มจนถึงผู้บริโภค และพัฒนาฐานข้อมูลฮาลาล เป็นต้น นอกจากนั้นมีกิจกรรมพัฒนาศักยภาพการตลาดฮาลาลสู่สากล อาทิ จัดอบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการผลิตสินค้าฮาลาลที่ถูกต้องตามหลักศาสนา และคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างค้าปลีก ซุปเปอร์สโตร์ชั้นนำ จับคู่เจรจาค้าสินค้าอาหารฮาลาลออนไลน์ ในอาเซียน จีน แอฟริกา และตะวันออกกลาง รวมถึงประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าฮาลาลไทย และการสร้างความร่วมมือที่ดีกับผู้เกี่ยวข้องกับสินค้าฮาลาลในตลาดประเทศมุสลิม เป็นต้น ทั้งนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้ประกอบการที่มีความสนใจตลาดสินค้าฮาลาลที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มช่องทางการค้าออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคตามวิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน 

'หมอแล็บ' ชี้สถานการณ์วิกฤต คนไม่ได้เตียง นอนรอที่บ้านเพียบ

24 มิ.ย. 64 เพจเฟซบุ๊ก “หมอแล็บแพนด้า” ของนักเทคนิคการแพทย์ (ทนพ.) ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ โพสต์รายงานสถานการณ์วิกฤตเตียงผู้ป่วยโควิด-19 โดยระบุว่า อินบ๊อกซ์แตกมากครับ คนไม่ได้เตียงและนอนรอที่บ้านเพียบเลย จะวิกฤติแล้วนะผมว่า ภารกิจส่วนหนึ่งของผมคืนนี้ อ่อ! แล้วใครบอกเตียงพอผมจะโกรธมากนะ

ที่มา : https://www.facebook.com/photo?fbid=349642673185868&set=a.327235612093241


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สายพันธุ์เดลต้าถล่มสหรัฐฯ แพร่ระบาดหนักใน 40 รัฐ เตือนปชช. เร่งฉีดวัคซีน ขณะที่อินเดียอ่วมติดทะลุ 30 ล้าน ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกยังอ่วม ติดโควิดแล้วกว่า 179 ล้านคน ตายทะลุ 3.89 ล้านราย

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19จากประเทศต่างๆทั่วโลก ว่ามีผู้ติดเชื้อรวม 179,905,984 คน ผู้เสียชีวิตรวม 3,897,136 คน และรักษาหายรวม 164,653,745 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดียว่า กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานสถิติผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบวันที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 50,848 คน ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นอย่างน้อย 30,028,709 คน ยังคงมีผู้ติดเชื้อรักษาตัวในระบบอย่างน้อย 643,194 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,358คน ทำให้สถิติผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 390,660 คน

ขณะเดียวกัน รายงานของกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย กล่าวถึงเชื้อเดลตาพลัส ที่เป็นการกลายพันธุ์อีกระดับหนึ่งของเชื้อเดลตา ซึ่งพบแล้วในอย่างน้อย 3 รัฐ ได้แก่ รัฐมหาราษฏระ รัฐเกรละ และรัฐมัธยประเทศ มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 22 คน โดยผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าสายพันธุ์นี้จัดอยู่ในกลุ่มน่าวิตกกังวล

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย แถลงว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินเดียลดลงไปถึงร้อยละ 90 จากที่เคยมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงถึง 400,000 คน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา น่าจะเป็นผลมาจากการที่อินเดีย สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้มากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา สามารถฉีดวัคซีนได้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 8.5 ล้านโดส โดยราว 2 ใน 3 เป็นการฉีดให้ชาวบ้านตามชนบท

ส่วนสื่อท้องถิ่นรายงานว่า วัคซีนโควาซิน ซึ่งเป็นวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท ภารัต ไบโอเทค มีประสิทธิภาพร้อยละ 77.8 ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างการทดลองทางคลินิก ระยะที่ 3 โดยมีรายงานระบุว่าเมื่อพิจารณาข้อมูลการทดลองกับผู้เข้าร่วมทั่วอินเดีย 25,800 คน พบว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้ถึงร้อยละ 77.8 จึงได้ยื่นข้อมูลการทดลองให้กับองค์การควบคุมยาแห่งอินเดีย และเตรียมยื่นกับองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ต่อไป

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐอเมริกา ยังคงเผชิญหน้าภัยคุกคามจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ที่ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ แม้ทำเนียบขาว เผยว่าสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ไปมากกว่า 300 ล้านโดสแล้ว

นายสกอตต์ กอตเลียบ อดีต ผอ.สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอส ว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ระดับการติดเชื้อจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีนในแต่ละพื้นที่ โดยแบบจำลองการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา บ่งชี้ว่าช่วงฤดูใบไม้ร่วงพบการติดเชื้อร้อยละ 20 แต่ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เช่น รัฐคอนเนตทิคัต ไม่พบการติดเชื้อ แต่รัฐมิสซิสซิปปี้ อลาบามา อาคันซอ มิสซูรี พบการติดเชื้อมหาศาล โดยสายพันธุ์เดลตา พบครั้งแรกในสหรัฐฯ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และกำลังแพร่ระบาดไปยังมากกว่า 40 รัฐของประเทศ

ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานผลการวิจัยฉบับใหม่ว่าพื้นที่ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยนักวิทยาศาสตร์จากเฮลิกซ์ วิเคราะห์ตัวอย่างเกือบ 200,000 รายการ พบสายพันธุ์เดลตา เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในพื้นที่ซึ่งผู้อาศัยอยู่ได้รับวัคซีนน้อยกว่าพื้นที่อื่น โดยผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าวัคซีนคือกุญแจสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ต่างๆ

ด้านนาย จาง จั้วเฟิง ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและรองคณบดีฝ่ายวิจัยคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่างานวิจัยเกี่ยวกับระยะเวลาออกฤทธิ์ป้องกันของวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 และเวลาที่จำเป็นต้องใช้วัคซีนกระตุ้น ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการจึงเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด

 

 

ที่มา: https://www.naewna.com/inter/582499


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ดร.ครรชิต ผิวนวล ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่ง โพสต์เฟซบุ๊ก ให้กำลังใจ หมอยง ภู่วรวรรณ หลังมีคนพยายามดิสเครดิต ยันเป็นคลังความรู้ของจุฬาฯ ของวงการแพทย์ และของประเทศชาติ ย้ำคนที่เสนอปลดหมอยงจากจุฬาฯ เป็นเรื่องไร้สาระ

ดร.ครรชิต ผิวนวล วิศวกรที่ปรึกษาด้านการขนส่งอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Kunchit Phiu-Nual’ ให้กำลังใจ นพ.ยง ภู่วรวรรณ ว่า ผมเป็นแฟนคนหนึ่งในประมาณล้านคนของหมอยง ผมรู้จักชื่อเสียงท่านตั้งแต่สมัยอยู่ที่จุฬาฯ เคยพบเจอท่านไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง เพราะเคยทำเรื่องการจัดการจราจรที่ รพ. จุฬาฯ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว และเคยประชุมเรื่องนี้กับบุคลากรทางการแพทย์ พวกเราชาวจุฬาฯ มีความภาคภูมิใจในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เป็นอย่างยิ่ง

ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่เป็นคลังความรู้ของมหาวิทยาลัย ของวงการแพทย์ และและของประเทศชาติ แต่ที่สำคัญพอๆ กับเรื่องนี้ คือ ท่านเป็นคุณหมอที่ดี

ผมเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์ แต่ในเรื่องโควิด-19 นี้ แรกๆ ผมอ่านนิตยสารต่างประเทศ เกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดนี้จริงๆ จังๆ ค้นคว้าหาความรู้เอง ซึ่งเป็นปกติวิสัยของคนที่ศึกษาในระดับอย่างผม แต่หลังๆ นี้ ผมไม่ต้องทำเลย ผมฟังแต่คุณหมอยง และคุณหมอต่างๆ จากจุฬาฯ บ้าง ศิริราชบ้าง ผมจึงสามารถมีเวลา และใช้เวลาทำงานการเล็กๆ น้อยๆ ตามภาษาคนแก่ ที่ยังคง active

ฉะนั้นเว็บ Change ที่พยายามนำเสนอให้ปลดคุณหมอจากจุฬาฯ นั้น เป็นเรื่องไร้สาระ คนที่ทำเรื่องนี้ ไม่รู้จักจุฬาฯ และไม่รู้จักวงการแพทย์ที่แท้จริง ผมแนะนำว่า อย่าไปยุ่งกับเว็บนี้อีกต่อไป และอย่าไปเชื่อ

เอาแน่ๆ ดีกว่า อย่าไปฟัง อย่าไปสังสรรค์ กับเว็บนี้เลย เพราะได้กลายเป็นเครื่องมือของพรรคก้าวหน้าไปแล้ว

ผมมั่นใจว่า "หมอ" ที่ไม่มี "คุณ" นำหน้า ที่ออกมาพยายามใส่ความและไล่ "คุณหมอ" ยง เป็นหมอที่จิตใจไม่ดี แม้จะไม่เคยรู้จัก แต่ก็มั่นใจมาก อย่าไปสนับสนุนหรือเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้เลยครับ

ขออนุญาตนำความหมายของประโยคทองของในหลวงรัชกาลที่ 9 มานำเสนอในที่นี้ สังคมเรามีทั้งคนดี และไม่ดีครับ ในเมื่อเป็นคนไม่ดี ก็คือตนพาล พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า คบพาล พาลพาไปหาผิด อย่าไปยุ่งกับคนพวกนี้เด็ดขาดเลยครับ

 

https://www.facebook.com/100000984763806/posts/4197747893601328/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

จับกุมได้แล้ว! ‘อดีตทหารเกณฑ์’ ก่อเหตุยิงกราด รพ.สนามปทุมฯ และร้านสะดวกซื้อ ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดตำรวจจับกุมตัวได้แล้วที่จังหวัดระนอง พบเป็นคน 2 บุคลิก มีประวัติป่วยทางจิต เคยเข้ารับการรักษา เมื่อปี 2562-2563

24 มิ.ย. 2564 จากเหตุการณ์นายกวิน แสงนิลกุล อดีตทหารเกณฑ์ อายุ 23 ปี ก่อเหตุยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อตาย 1 ราย ก่อนกราดยิงใน รพ.สนาม จังหวัดปทุมธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ก่อนจะขับรถหนีไปทางจังหวัดระนอง โดยมีรายงานว่า ได้ไปก่อเหตุใช้ปืนจี้แม่ค้าใน จังหวัดระนอง จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่ามีความเคลื่อนไหวในเส้นทางหินแก้ว ท่าเรือระนอง

ล่าสุดเวลา เมื่อเวลา 12.15 น. พล.ต.ต.นภัสวุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 เปิดเผยว่า นายกวิล แสงนิลกุล ได้ยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว จากนี้จะควบคุมตัวคนร้ายไปสอบสวนหามูลเหตุการณ์ลงมือต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 24 มิถุนายน นายกวิน กับเพื่อนได้พากันมาซื้อเบียร์ที่เซเว่นที่เกิดเหตุ พากันไปดื่มกินที่โรงแรมการ์เด้นอินน์ พอกินเบียร์หมดได้มาซื้อเบียร์เป็นครั้งที่ 2 ตอนเวลาประมาณ 23.00 น. โดยได้ทำเบียร์ตกแตก ทางพนักงาน จึงขอเก็บเงินเพิ่ม แต่ทางผู้จัดการเซเว่นบอกกับพนักงานเก็บเงินว่าไม่เป็นไร

จากนั้นนายกวินฯ กับนายอุราญ พากันกลับที่พัก ต่อมา เวลาประมาณ 02.33 น. นายกวินได้กลับที่เซเว่นอีกครั้ง แล้วได้ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยิงนายรัฐวิทย์ จำนวน 3 นัด บริเวณลำตัวด้านหลัง เป็นเหตุให้เสียชีวิต สาเหตุน่าจะมาจากความไม่พอใจที่ถูกคิดเงินเพิ่มจึงก่อเหตุดังกล่าว จากนั้น ขับรถยนต์กระบะ ISUZU DMAX สีขาว ทะเบียน 3ฒข 233 กทม. หลบหนีตาม ถนนลาดพร้าว

 

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/945159


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘โรนัลโด้’ ขึ้นแท่นนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดในนามทีมชาติ

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

เมื่อคืนใครที่อดนอนชมฟุตบอล 2 คู่ ทั้ง ‘เยอรมัน-ฮังการี’ และ ‘ฝรั่งเศส-โปรตุเกส’ ต้องบอกเลยว่า เป็นการอดนอนที่คุ้มค่า เพราะทั้ง 2 คู่ เล่นกันได้สนุกมาก!

โดยเฉพาะคู่ ‘ฝรั่งเศส-โปรตุเกส’ ที่พลิกกันไป พลิกกันมา เดี๋ยวตกรอบ เดี๋ยวไม่ตกรอบ สรุปสุดท้ายกอดคอเข้ารอบ เสมอกันไป 2-2 แต่เป็นเกมการแข่งขันระดับคุณภาพ ดูสนุก ตื่นเต้น และมีไฮไลท์ที่ขาดไปไม่ได้ นั่นคือ พี่โด้ยิงประตูอีกแล้ว!!

เรื่องยิงประตูก็น่าสนใจระดับหนึ่ง แต่เรื่องการยิงประตูของพี่โด้ที่ทำลายสถิตินู่นนี่ บอกเลยว่า ณ นาทีนี้ ทีมงานผู้จัดทำสถิติเริ่มปั่นป่วน เพราะพี่โด้สร้างสถิติไม่หยุดไม่หย่อนจริงๆ

เมื่อคืนซัดลูกจุดโทษไป 2 เม็ด ก็ขึ้นนำดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นท์นี้แบบเดี่ยวๆ อยู่ที่ 5 ประตู ในคราวเดียวกัน ทำให้พี่โด้ทะยานขึ้นเป็นผู้นำดาวซัลโวตลอดกาลในศึกฟุตบอลยูโร อยู่ที่ 14 ประตู

มากไปกว่านั้น พี่โด้ยังขึ้นไปทาบสถิตินักเตะที่ทำประตูในนามทีมชาติสูงที่สุด จำนวน 109 ประตู (จากการลงเล่น 178 นัด) เทียบเท่า อาลี ดาอี ตำนานกองหน้าทีมชาติอิหร่าน ที่ทำไว้เท่ากัน แต่ประเด็นคือ พี่โด้เตรียมแซงหน้าอย่างแน่นอน เผลอๆ จะขึ้นแซงนำในทัวร์นาเม้นท์ยูโรนี้นี่เอง

ยัง ยังไม่หมดเท่านี้ พี่โด้ยังสร้างสถิติเป็นผู้เล่นยุโรปคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ยิงประตูในรายการระดับเมเจอร์ ทั้งฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลก รวมกันแตะหลัก 20 ลูกขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อย และแน่นอนว่า ด้วยวัย 36 ปี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังสามารถทำสถิติต่างๆ ได้อีกมากมาย ลำพังแค่ในรายการยูโร 2020 หนนี้ เดี๋ยวก็ต้องมีสถิติใหม่เกิดขึ้นอีก

เป็นต้นว่า เป็นดาวเตะอายุมากที่สุดที่ยิงประตูในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบ 8 ทีมสุดท้าย รอบรองชนะเลิศ หรือรอบชิงชนะเลิศ พูดง่ายๆ ว่า ยิ่งโรนัลโด้พาโปรตุเกสเข้าไปในรอบลึกๆ ได้มากเท่าไร สถิติต่างๆ ก็เตรียมบันทึกกันได้มากเท่านั้น

ถึงบอกว่า คณะผู้จัดทำเรื่องสถิติพากันปั่นป่วนในเวลานี้ เอาเป็นว่า เราชิงมอบตำแหน่งให้พี่โด้ไปอีกหนึ่งรางวัลก่อนก็แล้วกัน ชื่อว่ารางวัล ‘นักเตะผู้สร้างสถิติมากมายที่สุดในโลก’ โปรดรับไปด้วยเถอะนะพี่ อะไรมันจะขนาดน้าน!


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘เยอรมัน’ และ ‘อังกฤษ’ คู้แท้ฟุตบอลที่ดวลกันมาแล้ว 32 ครั้ง

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

ถึงกับต้องร้องซี้ดดด! ไม่ได้มีใครเหยียบเท้า แต่พอเห็นการประกบคู่ของทีมในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็ถึงกับต้องลูบริมฝีปาก โดยเฉพาะการโคจรมาเจอกันอีกครั้งของ ‘เยอรมัน’ และ ‘อังกฤษ’

ย้อนไปสักนิด อังกฤษ จบรอบแรกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม D ส่วนเยอรมันเอาตัวรอดเสมอกับฮังการีในนัดสุดท้ายมาได้ ทำให้ได้เป็นรองแชมป์กลุ่มเอฟ ตามเส้นทางจึงทำให้ทั้งคู่ ต้องมาเจอกัน

คู่นี้พบกันทีไร รับประกันความมันส์แบบ 5 ดาว แต่เมื่อลองสืบย้อนประวัติศาสตร์กลับไปดู ทั้งคู่ผูกพันกันมาเนิ่นนาน ถ้านับการพบกันอย่างเป็นทางการ เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 ผ่านมาจนถึงวันนี้ ทั้งคู่ดวลฝีเกือกกันมาแล้วกว่า 32 ครั้ง

โดยเป็นอังกฤษชนะไป 13 ครั้ง และเยอรมันก็ชนะ 13 ครั้งเท่ากัน ที่เหลือเสมอกัน 6 ครั้ง ลงลึกไปในรายละเอียดอีกสักหน่อย ทั้งคู่พบกันในรายการฟุตบอลระดับเมเจอร์ ทั้งฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลก รวมกันทั้งสิ้น 11 นัด (นับรวมตั้งแต่รอบคัดเลือก) เป็นอังกฤษเอาชนะไปได้ 3 ครั้ง ส่วนเยอรมันชนะไป 4 ครั้ง ที่เหลือเสมอกัน 4 ครั้ง แต่ในการเสมอกัน 2 ครั้งที่มีการดวลจุดโทษหาผลแพ้ชนะ เป็นเยอรมันทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ทั้งหมด

ถ้าใครยังจำกันได้ แมทซ์เสมอกันแล้วต้องยิงจุดโทษ ครั้งแรกเกิดขึ้นในฟุตบอลโลก ปี 1990 ในรอบรองชนะเลิศ เยอรมันเอาชนะอังกฤษในการดวลจุดโทษ ก่อนจะผ่านเข้าไปคว้าแชมป์โลกมาครอง และอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลยูโร ปี 1996 เยอรมันก็สามารถเอาชนะจุดโทษอังกฤษไปได้ และผ่านเข้าไปสู่รอบชิง ก่อนจะคว้าแชมป์ยูโรมาครองได้ในที่สุด

ดูจากประวัติศาสตร์แล้วหนาวแทนอังกฤษ แถมการพบกันครั้งที่ 33 หนล่าสุดนี้ แม้อังกฤษจะได้เล่นในสนามเวมบลี่ย์ บ้านของตัวเอง แต่จากสถิติอีกเช่นกัน ทั้งคู่ลงเล่นในสนามแห่งนี้มาแล้ว 12 ครั้ง อังกฤษเอาชนะไปได้แค่ 4 ครั้ง เป็นเยอรมันที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ถึง 6 ครั้ง ที่เหลือเสมอกัน 2 ครั้ง

เขียนมาถึงตรงนี้ ไม่ได้บอกว่าอังกฤษจะแพ้ แต่เยอรมันมีสถิติที่ดูดีกว่า แต่เอาเข้าจริง หากดูฟอร์มโดยรวมจากในรอบแรก อังกฤษดูดีกว่านิดๆ แต่คงประมาทเยอรมันทีมสายพันธุ์เครื่องดีเซลไม่ได้ เป็นพวกประเภทเครื่องร้อนช้า มักจะทำผลงานได้ดีขึ้นเป็นลำดับในรอบลึกๆ

สรุปคือ ไม่ควรพลาดแมทซ์ 5 ดาวนี้ด้วยประการทั้งปวง คืนวันอังคารที่ 29 มิถุนายน เวลา 5 ทุ่ม สองทีมคู่แค้นแสนรักนี้จะลงทำศึกกันอีกครั้ง และงานนี้จะต้องมีทีมที่มีสถิติชนะมากกว่า เกิดขึ้นอย่างแน่นอน!


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ไขปม!! Moderna ไม่ได้ล่าช้า แต่ต้องรอตามคิว หลังวัคซีนมีจำกัด ประเทศอื่นก็กระทบ

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค.โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Warat Karuchit’ ระบุถึง...

เรื่อง Moderna ผมเข้าใจแบบนี้นะครับ

เรื่องมันไม่ได้มีอะไรมาก คือ วัคซีนจะนำเข้าโดย บ.ซิลลิก ตัวแทนของโมเดิร์นน่า ซึ่งก็มีการให้ข่าวไปแล้ว ว่าของจะมาใน Q4 คือเริ่มเดือนต.ค. จากนั้นซิลลิกก็จะขายต่อให้องค์การเภสัช แล้วก็ขายต่อให้กับร.พ.เอกชนอีกที ตามกฎหมาย และนโยบายของโมเดิร์นน่า ที่จะดีลกับหน่วยงานรัฐโดยตรง เนื่องจากต้องมีข้อยกเว้นเรื่องการรับผิดชอบกรณีเกิดผลข้างเคียง

ซึ่งในระหว่างที่รอนี้ ทาง ร.พ.เอกชน ก็เลยเปิดให้ลงทะเบียนจอง เพื่อให้ทราบจำนวนว่าควรจะสั่งซื้อเท่าไหร่ ส่วนทาง อภ. (องค์กรการเภสัชกรรม) กับซิลลิก ก็จัดการเรื่องระเบียบ เรื่องเอกสาร เรื่องกฎหมายต่างๆ ให้ถูกต้อง (ซึ่งตามข่าวว่า ส.ค. นี้ก็เสร็จแล้ว) พอวัคซีนมาก็จะได้เดินหน้าจัดสรรต่อเลย

มันไม่ใช่ว่าวัคซีนรออยู่ที่สนามบินแล้ว เอาเข้ามาไม่ได้ เพราะเรื่องยังไม่เรียบร้อย ไม่เกี่ยวกับการรอให้ทาง อภ. ดำเนินการอะไร

คนที่คิดว่าช้าที่ อภ.!!

ไม่สงสัยเหรอครับว่าทำไม ทำเอกสารเสร็จเดือนส.ค. แต่เริ่มจัดสรรวัคซีนได้เดือนต.ค. เดือนก.ย. อยู่เฉยๆ ทำอะไร?

ซึ่งเรื่องที่ Moderna “ของขาด” นี้ ไม่ได้เป็นเฉพาะที่ไทย แต่ก็น่าจะคล้ายกันสำหรับหลายๆ ประเทศที่สั่งซื้อ

ถ้าใครจำได้ ผมเคยโพสต์เรื่องรัฐต่างๆ ในอินเดียพยายามสั่งซื้อไฟเซอร์กับโมเดิร์นน่า เพราะโรงงาน AZ ต้องปิดไป แต่ติดที่ต้องซื้อกับรัฐบาลกลางเหมือนกัน แล้วก็เจอปัญหาเดียวกันคือกว่าจะได้ก็อีกนาน ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์ Times of India อัพเดตว่า ไฟเซอร์น่าจะได้ปลายเดือนก.ค. นี้แล้ว แต่โมเดิร์นน่า น่าจะได้ปลายปีเลย ซึ่งถ้าไทยได้เดือนต.ค. อาจจะได้เร็วกว่าอินเดียด้วยซ้ำ

สรุปอีกทีว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับความล่าช้าของไทย แต่เป็นเพราะวัคซีนมีจำกัด และต้องรอตามคิวนั่นเอง ไม่รู้ว่ากลายเป็นดราม่าได้อย่างไรเหมือนกัน เพราะข้อมูลก็เป็นข่าวไปนานแล้ว คนที่ติดตามข่าว โดยเฉพาะสื่อเองน่าจะทราบดีกว่าคนอื่นนะครับ

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4709196802429255&id=100000169455098

อ้างอิง : https://www.hfocus.org/content/2021/06/21967

https://timesofindia.indiatimes.com/life-style/health-fitness/health-news/coronavirus


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"ศักดิ์สยาม" เผย คมนาคม พร้อมรับมือ เปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ทั้ง 3 มิติ เชื่อเป็นผลดี ต่อเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง สวท.กทม. ยืนยัน พร้อมรับนโยบายการเปิดประเทศ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยให้ความมั่นใจด้านขนส่งคมนาคม ทั้งทางบก น้ำ และอากาศคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เตรียมความพร้อมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใน 120 วัน นำร่องจังหวัดภูเก็ต หรือ Phuket Sandbox 1 ก.ค.นี้ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ นำร่องจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกของไทยที่มีการดำเนินการตามแผนของโครงการ "แซนด์บ็อกซ์"  

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านคมนาคม เพื่อรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ดังกล่าวครบถ้วนทุกด้าน เพื่อรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ทั้ง 3 มิติ ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ  

โดยมิติทางอากาศ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้เตรียมความพร้อมตรวจการจราจรทางอากาศ และมาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐาน ICAO ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมีการจองมาแล้วกว่า 300 เที่ยวบิน ทางหน่วยงานได้มีการจัดการบริหาร SLOT การบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวไว้แล้ว 

ด้านสนามบินท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต มีการเตรียมความพร้อมให้กับกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งศูนย์คัดกรองโควิด-19 จะมีการตรวจหาเชื้อแบบ Swab ซึ่งจะทราบผลภายใน 2-3 ชั่วโมง พร้อมเตรียมแผนฉุกเฉิน หากมีการตรวจพบเชื้อ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำตัวไปรักษาในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ 

มิติทางน้ำ กรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย จัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยดูแลนักท่องเที่ยว เฝ้าระวังไม่ให้นักเที่ยวเดินทางไปสถานที่อื่น 

ส่วนมิติทางบก ได้มีการปรับปรุงเส้นทางคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัย ในการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้เส้นทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ทางจังหวัดได้มีการตั้งด่านจุดคัดกรอง ทั้งขาเข้า-ออก และได้มีการประสานกับภาคเอกชนในบูรณาการเรื่องมาตรการการป้องกันการแพร่เชื้อระบาด

"หากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทำสำเร็จ จะสามารถขยายไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นได้ ทั้งจังหวัด กระบี่ พังงาเชียงใหม่ พัทยา บุรีรัมย์ จะเกิดการเชื่อมั่นจากประชาชน เกิดการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศได้" นายศักดิ์สยาม กล่าว 

“ผบ.ทบ.” สั่งสอบกรณีทหารคลั่ง อ้างถูกทำร้ายช่วงเป็นพลอาสาจู่โจม ด้านครูฝึกยันไม่เคยทำร้ายร่างกาย เปิดประวัติ หน่วยก้านดี เป็นผู้บังคับหมวด ชอบปืน-ดูหนังสงคราม มารดาเผยลูกเคยรักษาอาการป่วย 

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้ พล.ท.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีอดีตทหารเกณฑ์ยิงผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามและพนักงานร้านสะดวกซื้อเสียชีวิต 2 รายอ้างถูกกดดันจากอดีตผู้บังคับบัญชา โดย ข้อมูลเบื้องต้นในการสอบย้อนประวัติอดีตทหารเกณฑ์ดังกล่าว พบว่าเข้ามาเป็นพลอาสา (ทหารเกณฑ์) ระหว่างเดือน พ.ย. 2560 ปลดประจำการเดือน พ.ย.2562 โดยเจ้าตัวไม่ได้สมัครอยู่ต่อ สำหรับบุคลิกลักษณะเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบปืน และ ชอบดูหนังสงคราม

ทั้งนี้ พ.ท.มงคล ปุริสา ผู้บังคับกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ (รพศ.3 รอ.) ได้เรียก จ.ส.อ.ยงยุทธ สุขเกษม ครูฝึก มาสอบถามข้อเท็จจริงหลังจากมีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของผู้ก่อเหตุว่าไม่พอใจที่ถูกครูฝึกทำร้ายเมื่อช่วงที่อยู่ในค่ายทหาร ซึ่งทางครูฝึกได้ยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายร่างกาย ปฏิบัติตามกรอบของการฝึกทหารใหม่ 10 สัปดาห์ 

โดยอดีตทหารเกณฑ์ดังกล่าวมีผลการฝึกค่อนข้างดี ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บังคับหมวดบรรจุที่กองร้อยที่ 2 ซึ่งครูฝึกก็อยู่กองร้อยดังกล่าวด้วย แต่อดีตทหารเกณฑ์ผู้นี้ก็อยู่ไม่นาน และหมุนไปอยู่กองร้อยที่ 3 เกือบสองปี ส่วนรุ่นพี่ที่ถูกระบุว่าทำร้ายร่างกายปลดออกไปก่อน 1 ปี และเมื่อย้อนดูประวัติการป่วยทางจิตเวชพบว่าก่อนการเข้ามาเป็นพลทหารไม่มีการแจ้งประวัติดังกล่าว แต่มารดาเคยให้ข้อมูลในช่วงที่เข้ามาประจำการแล้วว่าเคยรักษาอาการและหายเป็นปกติแล้ว จนกระทั่งเมื่อปลดประจำการก็เข้ารับการรักษาอาการอีกครั้ง 

แหล่งข่าว จากกองทัพบก ระบุอีกว่า ทางหน่วยต้นสังกัดกำลังรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดจากการสอบครูฝึก เพื่อนในรุ่นและรุ่พี่ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมา 2 ปี และรุ่นพี่พลทหารอาสาก็ปลดประจำการไปแล้ว แต่ครูฝึกยืนยันว่าไม่มีการซ้อมหรือทำร้ายร่างกาย แต่ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปว่าในช่วงการฝึกปรับพื้นฐานกองพันจู่โจม ซึ่งมีฝึกหนักทดสอบความอดทนทางร่างกาย และจิตใจ มีรายละเอียดอย่างไร เพราะหากมีการทำเกินกว่าเหตุ มีการร้องเรียนและสอบสวนพบว่าผิดจริงก็ต้องลงโทษ อีกทั้งนโยบายของกองทัพบกในปัจจุบันเคร่งครัดในเรื่องดังกล่าว และกำชับไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงกับทหารใหม่  แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ผ่านมา 2 ปีแล้วทำไมถึงนำมาอ้างเป็นเหตุหลังยิงผู้อื่นเสียชีวิตและยังนำชุดทหารมาใส่เพื่อยิงผู้อื่นต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top