Friday, 16 May 2025
NewsFeed

“บิ๊กตู่” มอบรางวัลภาพถ่าย “บันทึกคนไทย หัวใจไม่เคยท้อ” ชื่นชมคนไทยร่วมมือร่วมใจช่วงวิกฤติโควิด-19 “ย้ำ” การเรียนออนไลน์เป็นสถานการณ์ชั่วคราว ขอห่วงใยนักเรียน นักศึกษา ให้มีวินัยในตนเอง

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference  

โดยก่อนการประชุม เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายโครงการศิลปินร่วมสมัย สู้ภัยโควิด ด้วยจิตสำนึก #2 ในหัวข้อ “บันทึกคนไทย หัวใจไม่เคยท้อ” โดยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำผู้ชนะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเพื่อรับโล่รางวัล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวรายงานว่า เพื่อเก็บรวบรวมเป็นบันทึกประวัติศาสตร์และภาพความทรงจำสำหรับคนไทยทั้งประเทศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยมีประชาชนส่งภาพเข้าร่วมประกวด 8,012 ภาพ แบ่งออกเป็นรางวัลประเภทนักเรียน/นักศึกษา ประเภทบุคคลทั่วไป และ รางวัลภาพถ่ายดีเด่นประจำภูมิภาค 7 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 1,121 รางวัล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งหวังให้คนได้เห็นมุมมองที่ดี แม้จะมีสถานการณ์ที่ยากลำบากของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนเกิดความรักความสามัคคีการ เพื่อนำพาประเทศชาติต่อไป และ ร่วมมือกับรัฐบาลที่มีความตั้งใจดี หลายเรื่องรัฐบาลทำ หลายคนอาจจะไม่เห็น แต่เชื่อว่าทุกคนตรงนี้เห็น และ เห็นว่าอะไรที่ดีในประเทศไทย มีมากกว่าไม่ดีแน่นอน แต่จะทำอย่างไร ให้สิ่งที่ดี มีมากกว่าสิ่งที่ไม่ดี แม้วันนี้จะมีสถานการณ์โควิด แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจกันแล้ว ในระยะที่ 1 ยังมีระยะที่ 2 และ 3 ก็จะยิ่งร่วมมือให้มากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้สำเร็จ ไม่มีปัญหาใดที่รัฐบาลทำได้เพียงผู้เดียว ต้องทำไปด้วยกันกับทุกคน เดินหน้าไปสู่อนาคต คือ การเปิดประเทศให้ได้ตามนโยบายที่กำหนด จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร หากตำหนิกันไปมา ก็จะติดหล่มอยู่ที่เดิม อยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้า  และ ตระหนักว่า สิ่งที่กำลังทำนั้น ทำให้เราเดินไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น หรือ ช้าลง จึงขอให้ทุกคนคิดอย่างมีวิสัยทัศน์และมีกระบวนการคิด  โดยทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่ก้าวแรก เริ่มตัวเรา จากนั้นก็จะมีก้าวต่อไป

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวทักทายเด็กนักเรียนที่เข้ารับรางวัล พร้อมแสดงความห่วงใยและสอบถามนักเรียน นักศึกษาถึงการเรียนหนังสือออนไลน์ในช่วงนี้ ก่อนกล่าวว่า การเรียนออนไลน์ในช่วงนี้เป็นสถานการณ์ชั่วคราว ขอให้ทุกคนใส่ใจ ที่สำคัญต้องมีวินัยในตนเอง เพราะกระบวนการคิด วิสัยทัศน์ เริ่มจากตัวเราเองแล้วคิดต่อยอดจากหนังสือตำรา รวมทั้งการวางแผนอาชีพในอนาคต นายกรัฐมนตรียังย้ำว่าเยาวชนทุกคนคืออนาคตของชาติที่จะสามารถทำให้ประเทศไทยพัฒนาต่อไปได้

เดนมาร์กพลิกวิกฤติเข้ารอบด้วยพลังใจจากกองเชียร์

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

ต้องบอกว่า มันส์สะเด่าอารมณ์อย่างมาก สำหรับศึกยูโร 2020 คู่ ‘เดนมาร์ก-รัสเซีย’ ที่ฟาดแข้งกันไปเมื่อคืนนี้ ก่อนเกม หลายฝ่ายคาดการณ์แล้วว่า แมทซ์นี้คงมีอัตราความมันส์แบบร้อยแรงถีบ แต่ปรากฎว่า เมื่อลงสนามไปแล้ว โอ้ย มันส์ที่สุดของแจ้เลยละจ่ะ

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโอกาสเข้ารอบของทั้งคู่ยังเปิดอยู่ ของรัสเซียนั้นเปิดกว้างหน่อย ส่วนของเดนมาร์กที่แพ้มา 2 นัดรวด แม้จะริบหรี่ แต่มันก็ยังมีโอกาสเข้ารอบอยู่ จนเมื่อเกมเริ่ม กลายเป็นเดนมาร์กที่มาเต็มจัดหนัก เปิดเกมบุกใส่รัสเซียชนิดสุดพลังนมวัว แต่ทางรัสเซียเองก็ใส่เต็มไม่มียั้งเช่นกัน เกมจึงดูสนุกตื่นเต้น มีโอกาสยิงประตูกันอยู่ตลอดเวลา

แต่ผลสุดท้าย กลายเป็นเดนมาร์กที่เอาชนะไปได้ 4-1 จากประตูที่ต้องบอกว่า ยิงกันสวย ๆ หลายลูก แถมยังมีโบนัสด้วยผลของอีกคู่หนึ่งในสายเดียวกัน ที่เบลเยี่ยมเอาชนะฟินแลนด์ไป 2-0 นั่นจึงทำให้สถานการณ์กลับตาลปัตร

เดนมาร์กกลายเป็นทีมที่สองที่ผ่านเข้ารอบไปเฉย จากการมีคะแนน 3 แต้ม แต่เป็น 3 แต้มที่มีลูกได้เสียดีกว่า ฟินแลนด์ และรัสเซีย ทำให้ตัวเองผ่านเข้ารอบในฐานะที่สองของกลุ่ม ส่วนฟินแลนด์ต้องไปลุ้นเข้ารอบในฐานะทีมอันดับสามที่ดีที่สุด ส่วนรัสเซีย ตกรอบ!

ความดีงามของเดนมาร์กเมื่อคืนนี้ ต้องให้เครดิตนักเตะทั้งทีม ที่เล่นกันได้ดีมากๆ วิ่งสู้ฟัดกันทั้งเกม รวมไปถึงบรรดากองเชียร์ในสนามที่มากันเนืองแน่นในฐานะเจ้าภาพ และไม่ทำใผ้ผิดหวัง เชียร์กันแบบฟ้าถล่มดินทลาย (และขวดน้ำ & แก้วเบียร์ปลิวว่อน)

แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ลืมไปไม่ได้ คือพลังแฝงที่ได้จาก ‘ผู้เล่นคนที่ 12’ นั่นคือ คริสเตียน อีริคเซ่น จอมทัพของทีมที่ประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยก่อนแข่งนัดนี้ มีรายงานว่า อีริคเซ่นได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนเพื่อนๆ ร่วมทีมถึงสนามซ้อม เพื่อให้กำลังใจเอาชนะรัสเซียในนัดสุดท้ายให้ได้

สุดท้ายผลก็เป็นใจทุกอย่าง เดนมาร์กผ่านเข้ารอบแบบพลิกชะตากรรม เหมือนเดินผ่านพายุลูกใหญ่ มุ่งหน้าสู่หนทางที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันสดใส


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Fitch Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับมีเสถียรภาพ

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 บริษัท Fitch Ratings (Fitch) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.) ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) มีความแข็งแกร่งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและเป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง แม้ว่าหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นจากการกู้เงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินมาตรการทางการคลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 เช่น การจัดทำงบประมาณรายจ่ายขาดดุล การตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท และพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท แต่ Fitch เชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทย สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีกลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่เข้มแข็ง ส่งผลให้หนี้สาธารณะของประเทศไทย ณ เดือนเมษายน 2564 มีอายุเฉลี่ย (Average Time to Maturity: ATM) ค่อนข้างยาว คือ 9.5 ปี และมีสัดส่วนหนี้สาธารณะสกุลเงินบาทมากกว่าร้อยละ 98 ซึ่งอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน (BBB peers) เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส ฮังการี บัลกาเรีย รัสเซีย และคาซัคสถาน เป็นต้น ที่มีค่ากลางของหนี้สกุลท้องถิ่นอยู่ที่ร้อยละ 68.8

Fitch คาดว่า สัดส่วนหนี้ภาครัฐบาล (General Government Debt) ต่อ GDP ของประเทศไทย ในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 52.7 ต่อ GDP จากการดำเนินนโยบายการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และการมีกฎหมายการกู้เงินเพิ่มเติม ซึ่งยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่ากลางของกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกันที่ร้อยละ 59.4 อย่างไรก็ดี Fitch เชื่อมั่นว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 จะเริ่มฟื้นตัวเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้าและการเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการลงทุนของภาครัฐ อีกทั้ง คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2565 จะขยายตัวที่ร้อยละ 4.2 เนื่องจากการขยายตัวของอุปสงค์ภายนอกประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์การระบาดคลี่คลาย เศรษฐกิจฟื้นตัวและรายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นจะทำให้รัฐบาลจัดทำงบประมาณขาดดุลลดลง

2.) ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ที่ยังคงมีความเข้มแข็ง และส่งผลต่อการจัดอันดับความเชื่อถือของประเทศไทย โดยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง เพียงพอสำหรับใช้จ่ายถึง 10.8 เดือน ขณะที่กลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน (Peers) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9.3 เดือน นอกจากนี้ คาดว่าในปี 2564 ดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทยจะยังคงเกินดุลที่ร้อยละ 0.5 ต่อ GDP และจะเกินดุลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างกว้างขวางให้ครอบคลุมประชากรกว่าร้อยละ 70 ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2564 และแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและปานกลางตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยจะเริ่มจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง (Phuket Sandbox) ภายในเดือนตุลาคม 2564

ประเด็นที่ Fitch ให้ความสนใจและจะติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ธรรมาภิบาล รายได้เฉลี่ยต่อหัวหนี้ครัวเรือน และความเสี่ยงทางการเมือง รวมทั้งโครงสร้างประชากรสูงอายุที่จะส่งผลต่อการเติบโตของประเทศในระยะปานกลาง


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘อธิบดีกรมการขนส่งทางราง’ ให้การต้อนรับพร้อมหารือกับ ‘สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย’

ณ ที่ทำการ ‘กรมการขนส่งทางราง’ แขวงมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพฯ ‘นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์’ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ขร. ให้การต้อนรับ 'อาจารย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์' ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ‘นายภัทรพันธ์ กฤษณา’ ประธานฝ่ายสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการ สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ‘นายชัยพร ภูผารัตน์’ ผู้อำนวยการสำนักงานและที่ปรึกษาอาวุโสสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ‘นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล’ นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เพื่อร่วมหารือประเด็นเกี่ยวกับปัญหาและความต้องการในการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคนพิการและประเด็นอื่นๆ ในระบบขนส่งทางราง โดยสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอเพื่อขอให้ ขร. รับไปพิจารณาให้การอนุเคราะห์ในประเด็นต่างๆ ดังนี้

1.) ขอเข้าสำรวจพื้นที่สถานีกลางบางซื่อร่วมกับผู้แทน ขร. รฟท. และคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส เพื่อตรวจประเมินความพร้อมด้านการจัดสภาพกายภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีและบริเวณเชื่อมต่อ เนื่องจากทางสภาคนพิการฯ ได้มีการสำรวจบริเวณทางเข้าออกสถานีเบื้องต้นพบว่า ยังมีปัญหาในการเดินทางสำหรับคนพิการที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง เช่น การขาด ‘ทางลาด’ บริเวณทางเท้าเชื่อมต่อเข้าสถานีเป็นอุปสรรคในการสัญจรของคนพิการ ระบบป้ายสัญลักษณ์ (คนพิการ) และป้ายแนะนำทางในบางจุดยังไม่ได้ติดตั้งสร้างความสับสนแก่ผู้เดินทาง

ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันสถานีกลางบางซื่อได้ใช้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ทาง ขร. จะได้ประสาน รฟท. และสภาคนพิการฯ เพื่อกำหนดนัดหมายการลงสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมร่วมกันต่อไป

2.) เสนอให้มีการอบรมทักษะการบริการและการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารกลุ่มคนพิการ แต่ละประเภทให้มีความเหมาะสมตามหลักสากลเพื่อความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้โดยสารในระบบขนส่งทางรางกลุ่มดังกล่าว โดยทาง ‘สภาคนพิการฯ’ ยินดีให้ความร่วมมือในการดำเนินการสนับสนุนวิทยากรเพื่อให้ความรู้ ความชำนาญกับผู้เกี่ยวข้อง

3.) เสนอให้ ขร. พิจารณาให้การสนับสนุนการส่งเสริมอาชีพสำหรับคนพิการ โดยผลักดันให้มีการพิจารณาจัดสรรพื้นที่ภายในสถานีรถไฟ และรถไฟฟ้า เพื่อให้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าของคนพิการ เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพของกลุ่มแรงงานคนพิการได้สามารถมีช่องทางในการประกอบอาชีพ ซึ่ง ขร. จะได้ประสานข้อมูลจาก ‘สภาคนพิการฯ’ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

4.) เสนอให้มีการจัดทำสื่อที่คนพิการสามารถเข้าถึงได้ เช่น สื่อล่ามภาษามือ หรือสื่อที่คนตาบอดสามารถรับรู้ได้เพื่อให้ ‘คนพิการทุกประเภท’ สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารของ ขร.หรือหน่วยงานภาคคมนาคมอื่น โดยทาง ‘สภาคนพิการฯ’ ยินดีการบูรณาการให้ความร่วมมือในการจัดทำสื่อต่างๆร่วมกันกับ ขร.

5.) เสนอให้มี ‘Information Center’ ภายในสถานีเพื่อเป็นจุดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปและสามารถให้บริการหรือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสาร ‘กลุ่มคนพิการ’ ซึ่งมีอุปสรรคในการเดินทางมากกว่ากลุ่มคนอื่น

ทั้งนี้ ‘นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์’ อธิบดีกรมการขนส่งทางรางได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ขร. ดำเนินการประสาน ‘สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย’ ในรายละเอียดเพื่อให้การอนุเคราะห์และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเน้นย้ำให้การดำเนินงานต่างๆ ตามภารกิจของ ขร. ให้คำนึงถึงกลุ่มผู้โดยสารที่เป็นคนพิการแต่ละประเภทให้สามารถเข้าถึงและใช้บริการระบบขนส่งทางรางได้อย่างสะดวก ปลอดภัย เท่าเทียมและเป็นไปตามมาตรฐานสากล

อีกทั้ง ‘นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์’ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ได้ให้เกียรติสัมภาษณ์พิเศษ ประวัติความเป็นมา การก่อตั้ง ‘กรมการขนส่งทางราง’ และ บทบาท หน้าที่ พันธกิจ การดำเนินงานตามนโยบาย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนคนไทยได้รับทราบ กับทางรายการ ‘เปิดฟ้า’ ช่วง ‘คนละไม้ คนละมือ’ ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 14.30 - 15.00 น. ทาง ททบ. 5

เป็นอีกประสบการณ์ที่น่าศึกษาสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่หวังรวยไวจากเหรียญดิจิทัล เมื่อเพจ 'เด็กประกอบการ The Business Boy' ได้โพสต์เกี่ยวกับการลงทุนขุดเหรียญดิจิทัลเพื่อเก็งกำไรว่า...

หลังจากที่ผมขาดทุนแบบหมดตัว

ในการลงทุนกับเครื่องขุด BTC (บิตคอยน์) ในปี 2017

เงินเก็บเกือบ 4 ล้าน ในวัย 23 ปี ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงในการทำเกมออนไลน์...

'หายวับไปกับตา'

เหลือไว้แค่เครื่องทับกระดาษ กับการ์ดจอที่แทบหมดมูลค่า เพราะขุดไม่คุ้มค่าไฟ!!

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในครั้งนั้น นอกจากเรื่องนี้ คือ...

“รวยเร็วเป็นไปได้ แต่รวยง่ายๆ ไม่มีอยู่จริง”

แล้วผมยังได้เรียนรู้อีกเรื่องนึง ซึ่งสำคัญมากๆ คือ...

“ให้ลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ยอมรับผลขาดทุนไหว เราเรียนรู้และลองสิ่งใหม่ๆ ได้ ตราบใดที่ผิดพลาดขึ้นมาต้องไม่หมดตัว เจ็บได้ แต่ต้องไม่ตาย”

เป็นบทเรียนราคาแพงที่ผมยึดถือในการลงทุนมาจนถึงวันนี้ และจากนี้ไป

หลังจากนั้นได้มีลูกเพจท่านหนึ่งได้เข้ามาสอบถามถึงสาเหตุของการขาดทุนว่า "2017 น่าจะยังทันนะครับ อะไรทำให้ขาดทุน"

เจ้าของโพสต์ก็ได้ตอบว่า "ตอนนั้นเหรียญขึ้นไปสูงสุดที่ 600,000 กว่าๆ ครับ แล้วมันมีเรื่องค่า diff (ความยากในการขุด) ที่สูงขึ้นตาม ทีนี้อยู่ดีๆ เหรียญก็ร่วงลงมาเหลือไม่ถึง 200,000 แต่ค่า diff มันไม่ลดตาม สุดท้ายขุดได้เหรียญมา แต่พอไปขายแล้วไม่พอจ่ายค่าไฟครับ"

 

ที่มา: https://www.facebook.com/223380415617997/posts/470524760903560/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แบบนี้ไม่ต้องง้อเสื้อเกราะ! ของเขาแรงจริงๆ เมื่อ ‘บิ๊กแขก’ พลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล ผบ.นทพ. เข้ารับการเจาะเลือด แต่สร้างความตะลึง เมื่อเข็มแทงไม่เข้า! ต้องถอดพระออกวางบนโต๊ะ ก่อนที่พยาบาลจะสามารถแทงเข็มเข้าเนื้อได้

วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า ‘บิ๊กแขก’ พลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) มาตรวจการฉีดวัคซีน ที่กำลังพล ครอบครัว และ ประชาชน ที่อาคารอเนกประสงค์ นทพ.

และมารับการตรวจเลือด ตรวจร่างกาย เจาะเลือด แต่ปรากฏว่า พยาบาลแทงเข็มไม่เข้าถึง 2 ครั้ง จน บิ๊กแขกต้องถอดเหรียญที่เหน็บเครื่องแบบอยู่ออกมาวาง…

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ! ทีนี้พยาบาลแทงเข็มเข้าเส้นเลือดได้

พอมาขอดูพระที่บิ๊กแขกห้อย คือเหรียญนะโมของแม่ให้และเหรียญ ‘ในหลวง ร.10 ทรงผนวช’ งดงามมาก

สาธุ!!

 

ที่มา : https://www.facebook.com/photo?fbid=4206389876086105&set=a.440635312661599


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พิธีกรดัง เทยเที่ยวไทย ‘ป๋อมแป๋ม’ เข้าพิธีอุปสมบทแล้ว เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา ได้รับฉายาทางธรรม ‘ฐิติโก’ แปลว่า ผู้ตั้งมั่น

พิธีกรอารมณ์ดี ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร ได้เข้าพิธีอุปสมบทบวชทดแทนพระคุณบิดามารดาอย่างเรียบง่าย ณ วัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีครอบครัว และเพื่อนสนิทมาร่วมงาน

โดยในวันนี้ (21 มิ.ย.) ป๋อมแป๋ม นิติ หรือที่คนในวงการบันเทิงเรียกติดปากว่า ยาย หรือ ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย ได้เข้าพิธีอุปสมบท โดยได้รับฉายาทางธรรม คือ ฐิติโก แปลว่า ผู้ตั้งมั่น และจะใช้เวลาศึกษาปฏิบัติธรรมเป็นระยะเวลา 11 วัน

ซึ่งงานบวชครั้งนี้ มีเพื่อนพ้องที่สนิทกันเท่านั้นที่ได้ไปร่วมงาน โดยฝนผู้จัดการส่วนตัว “เจนนี่ ปาหนัน” ซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทของยายป๋อมแป๋มด้วย ได้โพสต์ภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว @monsterfon ซึ่งเป็นภาพตัวเองกำลังปลงผมนาคป๋อมแป๋ม รวมถึงคุณแม่ของพิธีกรคนดังที่กำลังปลงผมนาคอยู่ พร้อมข้อความว่า “อนุโมทนาพระใหม่ @theniti” งานนี้ก็มีคนบันเทิง เข้ามาคอมเมนต์อนุโมทนาบุญจำนวนมาก อาทิ “หญิง รฐา, แก้ม วิชญาณี, น้องฉัตร (ช่างแต่งหน้า)” รวมถึงแฟนคลับและเพื่อนร่วมวงการอีกเพียบ

ในขณะที่ เพื่อนสนินร่วมวงการที่ยายป๋อมแป๋มสนิทและรักมากอย่าง “เจนนี่ ปาหนัน” ก็ไม่พลาดที่จะมาร่วมงานนี้ด้วย โดยสาวเจนนี่ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ซึ่งเป็นภาพขณะที่ตัวเอง กำลังปลงผมนาคป๋อมแป๋มอยู่ งานนี้เรียกว่าเป็นการบวชแบบเรียบง่ายและอบอุ่นมากจริงๆ

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/107134


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาได้ปล่อยคลิปภาพการทดสอบระเบิดลูกใหญ่เกือบ 20 ตัน ที่นอกชายฝั่งตะวันออก ห่างจากหาดเดย์โทน่า รัฐฟลอริด้า ออกไปประมาณ 180 กิโลเมตร

กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาได้ปล่อยคลิปภาพการทดสอบระเบิดลูกใหญ่เกือบ 20 ตัน ที่นอกชายฝั่งตะวันออก ห่างจากหาดเดย์โทน่า รัฐฟลอริด้า ออกไปประมาณ 180 กิโลเมตร

แต่การซ้อมระเบิดที่ชื่อว่า "full ship shock trials" อันน่าสะพรึง ที่รุนแรงจนทำให้เกิดแผ่นดินไหว 3.9 ริกเตอร์ ซึ่งจริงๆ แล้วทัพมะกันดูจะไม่ได้ต้องการจะทดสอบอานุภาพความรุนแรงของมันเป็นหลัก แต่เพื่อทดสอบความทนทานของเรือบรรทุกเครื่องบินรบ USS Gerald R Ford หนึ่งในเรือรบรุ่นล่าสุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐฯ ที่มีความยาว 333 เมตร สูง 77 เมตร และมีขนาดระวางถึง 1 แสนตัน

การทดสอบเรือบรรทุกเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุด กับระเบิดพลังทำลายล้างสูงเช่นนี้ เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยเป้าหมายของทดสอบนี้ เพื่อให้แน่ใจในศักยภาพของเรือรบ USS Gerald R Ford ว่าจะทนทายาด สมบุกสมบันพอสำหรับสนามรบจริงแค่ไหน?

และดูเหมือนว่าเรือรบรุ่นนี้ จะสามารถทรงตัวได้อย่างดี แม้จะอยู่ใกล้รัศมีระเบิดพลังสูงเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และหลังประเมินผลการทดสอบ ก็จะนำมาพัฒนาต่อ คาดว่าพร้อมใช้งานในกองทัพสหรัฐฯ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

โดยกองทัพสหรัฐฯ ยืนยัน ได้ประเมินความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมไว้แล้ว แต่ไม่มีรายงานข่าวว่านักสิ่งแวดล้อมมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้

นับเป็นการทดสอบอย่างเล่นใหญ่ จัดเต็ม เป็นอย่างยิ่ง และเป็นการบอกให้รู้ว่าใครคิดจะมาคว่ำเรือบรรทุกเครื่องบินรบสหรัฐฯ ที่จอดตากอากาศอยู่กลางน่านน้ำยุทธศาสตร์ คงทำไม่ได้ง่ายๆ

อ้างอิง : https://www.abc.net.au/news/2021-06-21/us-navy-uss-gerald-r-ford-explosion-full-ship-shock-trial/100230276

https://www.mirror.co.uk/news/us-news/navy-detonates-huge-40000lb-bomb-24361557


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ออมสิน รับมอบนโยบายรัฐบาล พักหนี้ให้ SMEs ท่องเที่ยวทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 6 เดือน เปิดให้ โรงแรม-รีสอร์ต-เกสต์เฮาส์-เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ แจ้งเข้าร่วมมาตรการได้ถึง 23 ก.ค. นี้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังมอบหมายธนาคารออมสินออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ที่ขณะนี้ต้องประสบภาวะยากลำบาก ขาดรายได้หล่อเลี้ยงธุรกิจ และไม่สามารถชำระหนี้ได้

ล่าสุดธนาคารออมสินจึงออกมาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือน แก่ผู้ประกอบการ SMEs โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการ ให้สามารถประคับประคองธุรกิจจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะคลี่คลาย และกิจการกลับมามีรายได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ มาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ทำให้เงินงวดเป็นศูนย์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม-เดือนธันวาคม 2564 โดยให้สิทธิ์แก่ผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 250 ล้านบาท และมีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่บัดนี้ ที่สาขาธนาคารออมสิน หรือศูนย์สินเชื่อธุรกิจลูกค้า SMEs ที่ได้ติดต่อขอสินเชื่อไว้ หมดเขตแจ้งความประสงค์วันที่ 23 กรกฎาคม 2564

อนึ่ง นอกเหนือจากความช่วยเหลือตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายแล้ว ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้จัดทำมาตรการเสริมสภาพคล่องโดยการให้สินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรน แก่ผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจท่องเที่ยวอีกหลายมาตรการ โดยปัจจุบันมี 2 มาตรการที่ยังคงเปิดรับลงทะเบียน ได้แก่ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินให้กู้สูงสุดรายละ 500,000 บาท และมาตรการสินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ใช้ที่ดินเป็นหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.1% วงเงินให้กู้สูงสุดสำหรับบุคคลธรรมดารายละไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับนิติบุคคลรายละไม่เกิน 50 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถยื่นขอกู้ได้ โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือติดต่อที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ

 


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"พรรคกล้า" ร่าง จม.เปิดผนึก ถึง "บิ๊กตู่" หากพบผู้ติดเชื้อ นำตัวแยกจากครอบครัวทันที ป้องกันระบาดแบบทวีคูณ เสนอรัฐจัดยา Favipiravir ให้ผู้ติดเชื้อทันที ไม่ต้องรอได้เตียงก่อน ย้ำต้องรีบรักษา ลดโอกาสอาการหนัก

ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคกล้า และนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายและผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งเขตคลองสามวา พรรคกล้า ร่างข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบทวีคูณ สนับสนุนการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ว่า ผู้ติดเชื้อวันนี้ยังสูงมากกว่า 4,000 คน ดังนั้นการจะยับยั้งการแพร่ระบาดและนำไปสู่การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ต้องมีมาตรการที่รวดเร็ว ชัดเจน 

1.) เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ให้รับการรักษาหรือแยกตัวผู้ป่วยออกจากครอบครัวและคนใกล้ชิด และนำผู้ติดเชื้อไปไว้สถานที่กักตัวทันที หากมารับตัวช้า ผู้ป่วยอยู่บ้านร่วมกับครอบครัว ติดเชื้อทีละคนสองคน สุดท้ายติดยกครัว บางบ้านมี 15 ถึง 20 คน สรุปติดเชื้อจาก 1 คน เป็น 20 คน ติดเชื้อทวีคูณ! 

2.) เมื่อทราบว่าติดเชื้อ แต่อยู่ระหว่างกักตัว รอเข้ารับการรักษา ก็ควรได้ยาต้านไวรัส (favipiravir) ทันที โดยใช้หน่วยแพทย์เชิงรุก, อสส., อาสาสมัครอื่นๆ เพื่อลดโอกาสเชื้อลงปอด ลดโอกาสอาการหนัก ลดโอกาสเกิดการสูญเสีย โดยอ้างอิงจากงานวิจัยหลายๆ ฉบับ จะพบว่า ยิ่งผู้ติดเชื้อเข้าถึงยาต้านไวรัสได้ไว ยิ่งลดความรุนแรงของโรคได้ ลดโอกาสแออัดในโรงพยาบาล ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ 

"ทำทั้งหมดนี้ไม่ง่าย ต้องใช้ทั้งเงิน และบุคลากรจำนวนมาก แต่ก็ต้องทำครับ รัฐบาลต้องเร่งหาสถานที่กักตัวแยกตัวผู้ป่วยออกจากครอบครัว แยกครอบครัวออกจากกัน โดยใช้โรงแรม หรือสถานที่ราชการต่างๆ และโดยประการสำคัญ ให้ยารักษาทันทีที่ทราบผลการติดเชื้อ เพื่อยุติสถานการณ์โดยเร็วที่สุด หากยังปล่อยให้มีการติดเชื้อเป็นทวีคูณแบบนี้แน่นอนครับว่า เป้าหมายเปิดประเทศ 120 วัน ที่เป็นความมุ่งมั่นร่วมกันของคนไทยคงไม่สามารถสำเร็จได้" นายณัฐนันท์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top