Thursday, 9 May 2024
NewsFeed

'เชียงราย' เราไม่ทิ้งกัน!!นายกโป่งผาลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่เกิดเหตุพายุฤดูร้อนและฝนฟ้าคะนองพัดเข้าพื้นที่อำเภอแม่สายส่งผลให้พื้นที่ตำบลโป่งผาอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายทั้งตำบลโป่งผาได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนโดยมีบ้านเรือนของประชาชนถูกพายุพัดพังเสียหายเป็นจำนวนมากล่าสุด ดร.ณัชชา กันทะดง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผาพร้อมคณะทีมงานเข้าช่วยเหลือมอบถุงยังชีพและวัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดพังความเสียหายอย่างไรก็ตามสำหรับจำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้จำนวน12หมู่บ้านประกอบด้วยหมู่ที่1ถึงหมู่ที่12และอยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดต่อไป

เปิดประวัติ-วิสัยทัศน์ ‘รศ.ดร.พิภพ อุดร’ หนึ่งในแคนดิเดตท้าชิงเก้าอี้อธิการบดี ‘มธ.’

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 67 คณะกรรมการสรรหาอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำหนดให้มีการเสนอชื่อเพื่อหยั่งเสียงผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนใหม่ แทน 'รศ.เกศินี วิฑูรชาติ' อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนปัจจุบันที่จะดำรงตำแหน่งครบวาระในวันที่ 24 พ.ค. 67 โดยกำหนดให้มีการเสนอชื่อเพื่อหยั่งเสียงผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนใหม่ จำนวน 51 ส่วนงาน

ต่อมาวันที่ 19 เม.ย. 67 คณะกรรมการสรรหาฯ กำหนดให้ผู้ตอบรับการทาบทามหรือผู้สมัครเข้ารับการสรรหาได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินงานและแถลงแนวทางการบริหารต่อคณะกรรมการสรรหาฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย นักศึกษา และศิษย์เก่าของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ารับฟังการแถลงด้วย

สำหรับหนึ่งในรายชื่อผู้ที่ได้รับเสนอ คือรศ.ดร.พิภพ อุดร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ โดยมีประวัติดังนี้

>>คุณวุฒิการศึกษา
-ปี 2542 บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (Ph.D.) สาขาการตลาด จาก Kenan-Flagler Business School, University of North Carolina at Chapel Hill, USA
-ปี 2535 บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (M.B.A.) สาขาการตลาด จาก School of Business and Public Administration, George Washington University, USA
-ปี 2532 บัญชีบัณฑิต (B.Acc.) จาก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

>>การทำงาน/การดำรงตำแหน่งทางด้านบริหาร
-คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมระบบธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรควบ 5 ปี ตรี-โท
-รองคณบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์

>>ประสบการณ์อื่น ๆ
-คณะกรรมการตรวจสอบ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-อนุกรรมการสภามหาวิทยาลัยด้านกฎหมาย/ระเบียบ/ข้อบังคับ
-ประธานคณะกรรมการวิชาการประจำคณะฯ
-กรรมการสภาอาจารย์
-กรรมการสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

>>ประวัติการฝึกอบรมที่สำคัญ    
- หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 14
- หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 23
- Directors Certification Program (DCP) รุ่นที่ 270
- Directors Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 155
- Advanced Audit Committee Program (AACP) รุ่นที่ 36

ทั้งนี้ รศ.ดร.พิภพ อุดร ได้เปิดเผยแนวคิด Thammasat Next หรือ Thammasat for Better Life..Better Society แนวทางสร้างสรรค์ ชีวิตทำงาน เพื่อประชาคม ผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pipop Udorn’ โดยมี 4 หัวข้อหลัก คือ
1. ระบบงาน ‘ยืดหยุ่น’ และ ‘สมาร์ท’
-เลิกใช้ไม้บรรทัดเดียววัดทุกหน่วยงาน
-Work From Anywhere
-ใช้ AI ช่วยลดปริมาณงาน และเพิ่มคุณภาพงาน

2. เส้นทางอาชีพเลือกได้
-เลือกเติบโตได้ตามสถานบริการ หรือ วิชาชีพ
-สร้างทักษะรองรับอาชีพที่ 2
เรียนต่อ ป.โท ฟรี ในแพลตฟอร์ม ‘TUXSA’

3. คุณภาพชีวิตดีขึ้น
-สวัสดิการยืดหยุ่นทั้งวงเงิน และวงเวลา
-ดูแลตั้งแต่แรกเข้าถึงหลังเกษียณ
-สวัสดิการบุคลากร ชัดเจน และ เท่าเทียม

4. คุณภาพชีวิตดีขึ้นอีก
-จัดสิทธิพิเศษและส่วนลดค่ารักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
-เพิ่มจำนวนหอพักบุคลากร
-โรงอาหาร คือ สวัสดิการ ร้านค้าไม่เสียค่าเช่า ปรับราคาให้ถูกลงและเพิ่มคุณภาพ

นอกจากนี้ รศ.ดร.พิภพ อุดร ได้แสดงถึงวิสัยทัศน์และทิศทางและแนวโน้มในการพัฒนามหาวิทยาลัยในอนาคต ผ่านเวทีดีเบต ‘เวทีสุดท้าย โค้งสุดท้าย’ 

รศ.ดร.พิภพ กล่าวว่า มีความตั้งใจอยากจะนำพามหาวิทยาลัยให้ก้าวไกลไปในเวทีโลก ปรับเปลี่ยนหลายรูปแบบเพื่อที่จะทำให้มหาวิทยาลัยตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของสังคม ของโลก เพราะว่าโลกในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย

ปัจจุบันเราอยู่ในโลกที่เรียกว่า ‘ความรู้อายุสั้น’ แต่ ‘คนอายุยาว’ มหาวิทยาลัย เดินในรูปแบบเดิมไม่ได้ ถนนทุกสายไม่มุ่งสู่มหาวิทยาลัยอีกต่อไป

จึงมีหลายเรื่องที่ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อที่จะทำให้ยังมีความหมายในสังคม จึงอยากอาสาพามหาวิทยาลัยไปเวทีโลก สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยและก็ยืนหยัดในจิตวิญญาณความเป็นธรรมศาสตร์ เดินหน้าสร้างความสุขให้กับบุคลากรให้กับนักศึกษาในทุก ๆ กลุ่ม

รศ.ดร.พิภพ กล่าวต่อว่า ต้องการให้มหาวิทยาลัยกลายเป็น Platform ในการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงการเรียนรู้นอกห้องเรียน นอกมหาวิทยาลัย การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง การเรียนรู้จาก Partner ต่าง ๆ และคอยทำหน้าที่เป็นแกนกลาง ในการระดมทรัพยากรจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก มาเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้กับประเทศ เราจะตอบโจทย์ ของการที่จะทำให้ คนมีอายุยืนยาวอย่างมีความสุข สุขภาพดีและแข็งแรงขึ้นด้วย

“โลกที่ ความรู้อายุสั้น คนอายุยาว ความรู้ที่ได้เรียนจากมหาวิทยาลัย ไม่เพียงพอให้ทำงานไปได้จนเกษียณ ทำอย่างไร จะเปิดให้คนกลับมาเติมเต็มความรู้ และทักษะที่ขาดหายได้ง่าย ๆ และตอบโจทย์การเรียนรู้ในทุก ๆ Generation อันนี้คือหัวใจ โดยปลูกฝังจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ในการคิดในการทำ เพื่ออะไร เพื่อประโยชน์ที่ใหญ่กว่าตัวเองเสมอ และนี่คือจุดสำคัญของมธ."

ส่วนการใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยในการแสดงออกทางการเมือง รศ.ดร.พิภพ บอกว่า จิตวิญญาณธรรม ศาสตร์ มี 3 เสาหลัก คือ ประชาธิปไตย เสรีภาพ และความเป็นธรรม ซึ่งจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มหาวิทยาลัยต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย สำหรับนักศึกษาและบุคลากรทุกกลุ่ม ในการแสดงความคิดเห็นโดยเสรีภาพ ภายใต้กฎหมาย ขอบเขตของรัฐธรรมนูญ และความรับผิดชอบของผู้แสดงความคิดเห็น

ในฐานะอธิการบดีเราจะต้องเจรจากับหน่วยงานความมั่นคง หากมีการมาคุกคามพื้นที่ปลอดภัยในสถาบันการศึกษา เป็นสิ่งที่ไม่ได้และไม่ควรทำ

ร.ศ.ดร.พิภพ ย้ำว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา ต้องเจรจากับตำรวจที่ดูแลเรื่องความมั่นคงโดยรอบมหาวิทยาลัย และวิทยาเขตทั้ง4 ศูนย์ หากไม่ใช่เหตุละเมิด หรือรุนแรงเฉพาะหน้า ที่ต้องเร่งเข้ามาแก้ไข จัดการ ต้องขออนุญาตมหาวิทยาลัยเพื่อเข้าพื้นที่ ต้องปฏิบัติต่อกันอย่างให้เกียรติ และเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการอย่างจริงจัง

โดยต้องการให้เกิดการแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคม อย่างมีสันติภาพ และความสร้างสรรค์ การขัดขวางการแสดงออกไม่ใช่สิ่งที่ดีและมันจะกลายเป็นระเบิดเวลาของสังคมในที่สุด

ร.ศ.ดร.พิภพ ย้ำว่า มหาวิทยาลัยควรเป็นหนึ่งในพื้นที่ปลอดภัย ที่การันตีเสรีภาพและความปลอดภัยในเรื่องของการแสดงความคิดเห็นทั้งนักศึกษา อาจารย์และบุคลากร หน่วยงานความมั่นคงต้องทำงาน อันนี้เราเข้าใจ แต่ต้องปฏิบัติต่อกันอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน และก่อนเข้าพื้นที่ควรจะต้องมีการขออนุญาตและเจรจากับเราเสมอ โดยที่เราจะจัดบุคลากรของเราร่วมกันปฏิบัติหน้าที่คู่กับฝ่ายมั่นคงและความปลอดภัย

‘ก้อง ห้วยไร่’ ประกาศขออัดฉีด ฟุตซอลไทยนัดชิง 2 แสน ย้ำ!! นักเตะสมควรได้รับ เพราะสร้างความสุข ให้คนไทย

(27 เม.ย. 67) ‘ก้อง ห้วยไร่’ ประกาศอัดฉีดฟุตซอลไทยนัดชิง 2 แสนบาท พร้อมชวนแฟนคลับร่วมสมทบทุนมอบมาลัยนักฟุตซอล

หลังจาก ‘โต๊ะเล็กช้างศึก’ ทีมชาติไทย เอาชนะทาจิกิสถาน โดยการดวลจุดโทษ ผ่านเข้ารอบชิงในศึกฟุตซอลเอเชียน คัพ 2024 เมื่อวานนี้ โดยหนึ่งในกองเชียร์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ‘ก้อง ห้วยไร่’ นักร้องชื่อดัง ที่ร่วมเชียร์ฟุตซอลทีมชาติไทยเกาะติดขอบสนาม

ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า 

“นัดชิงชนะเลิศ แชมป์ พี่ให้ 200,000 พี่ ๆ ท่านอื่น สนใจอยากเปย์ ให้กับผู้สร้างความสุข ของคนไทยเราลุยเลยนะครับ พวกเขาสมควรได้รับ”

จีน เผยภารกิจ ‘ฉางเอ๋อ-7’ จับมือ 6 ประเทศ ร่วมพัฒนา สำรวจวิจัย โครงสร้างของดวงจันทร์

(27 เม.ย. 67) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า องค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีนประกาศว่าภารกิจสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ-7 (Chang’e-7) ของจีนจะบรรทุกเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ 6 รายการ ซึ่งพัฒนาโดย 6 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 1 แห่ง ได้แก่ อียิปต์ บาห์เรน อิตาลี รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ไทย และสมาคมหอสังเกตการณ์ดวงจันทร์นานาชาติ

รายงานระบุว่าภารกิจฉางเอ๋อ-7 มีกำหนดเดินทางสู่อวกาศช่วงปี 2026 โดยเป้าหมายคือการสำรวจสภาพแวดล้อมพื้นผิวดวงจันทร์ น้ำ น้ำแข็ง และองค์ประกอบที่ระเหยง่ายของดินบนขั้วใต้ของดวงจันทร์ รวมถึงทำการวิจัยภูมิศาสตร์ องค์ประกอบ และโครงสร้างของดวงจันทร์

ยานลงจอดฉางเอ๋อ-7 จะบรรทุกตัวสะท้อนแสงแบบเลเซอร์ที่พัฒนาโดยอิตาลีสำหรับทำการวัดแบบแม่นยำสูงบนพื้นผิวดวงจันทร์และการบริการระบุตำแหน่งของยานโคจร รวมถึงบรรทุกเครื่องมือวัดฝุ่นและสนามไฟฟ้าบนดวงจันทร์ที่พัฒนาโดยรัสเซียสำหรับตรวจสอบสภาพแวดล้อมพลาสมาบนพื้นผิวดวงจันทร์ที่เต็มไปด้วยฝุ่น

ขณะเดียวกันยานลงจอดฉางเอ๋อ-7 ยังจะบรรทุกกล้องโทรทรรศน์บนดวงจันทร์ที่พัฒนาโดยสมาคมฯ สำหรับการสังเกตการณ์ดาราจักร โลก และท้องฟ้าทั้งหมด

ด้านยานโคจรจะบรรทุกกล้องไฮเปอร์สเปคตรัมที่พัฒนาโดยอียิปต์และบาห์เรนสำหรับจำแนกวัตถุบนพื้นผิวและสภาพแวดล้อมของดวงจันทร์ รวมถึงบรรทุกเครื่องสเปกโตรมิเตอร์แบบสองช่องสัญญาณสำหรับการวัดรังสีโลกที่พัฒนาโดยสวิตเซอร์แลนด์และจีนสำหรับเฝ้าติดตามปริมาณรังสีที่เข้าและออกจากระบบภูมิอากาศของโลกจากมุมมองดวงจันทร์เป็นครั้งแรก

นอกจากนั้นยานโคจรยังจะบรรทุกชุดเซ็นเซอร์ตรวจจับสำหรับการเฝ้าติดตามสภาพอวกาศทั่วโลก เพื่อแจ้งเตือนการรบกวนทางแม่เหล็กและการแผ่รังสีจากพายุสุริยะด้วย

‘ลิซ่า BLACKPINK’ อวดโฉมอาร์ตทอย จาก ‘คาซิง ลุง’ เผย!! ตุ๊กตาตัวนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีตัวเดียวในโลก

(27 เม.ย. 67) นาทีนี้ไม่ว่าใครก็อยากครอบครองเจ้า ‘Labubu’ (ลาบูบู้) อาร์ตทอยสุดน่ารักที่กำลังครองใจผู้คนมากมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ทั้งยังสั่นสะเทือนวงการอาร์ตทอยเข้าไปอีก เมื่อไอดอลสาวอย่าง 'ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล' หรือ ลิซ่า BLACKPINK ก็ยังคลั่งรัก โพสต์ภาพกับเจ้าลาบูบู้ลงในไอจีสตอรี่ แถมห้อยไว้ที่กระเป๋าอีกด้วย

ล่าสุดทางด้าน ‘Kashing Lung’ (คาซิง ลุง) ศิลปินผู้ออกแบบลาบูบู้ ก็ได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้ลิซ่า ที่มีตัวเดียวในโลก ซึ่งเป็นตุ๊กตาสีน้ำตาลที่ชื่อ ‘Zimomo’ (ซิโมโม่) เป็นหนึ่งในตัวละครในจักรวาล The Monsters เช่นเดียวกับลาบูบู้

พร้อมจรดชื่อ 'ลิซ่า' บริเวณหูของตุ๊กตาให้เองกับมือ เพื่อเป็นการขอบคุณ หลังเธอทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์ ยอดขายถล่มทลาย

โดยทางด้าน ลิซ่า ก็ได้โพสต์ภาพตุ๊กตาตัวนี้ และแท็กไปที่ไอจีของ คาซิง ลุง และ Popmart อีกด้วย

‘สาวจีน’ เข้าขอบคุณ ‘สนง.กฎหมายดีทีแอล’ ช่วยทวงความยุติธรรม หลังถูกสามีผลักตกหน้าผา หวังฮุบสมบัติ เมื่อ 5 ปีก่อน

(27 เม.ย. 67) คุณมัทนา มูลจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสำนักงานกฎหมายดีทีแอล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Matthana Moonjan’ ถึงกรณีหญิงนักท่องเที่ยวชาวจีน เข้ามาแสดงความขอบคุณที่เคยได้ช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย หลังรอดชีวิตจากการถูกสามีผลักตกหน้าผา โดยระบุว่า...

“ดีใจที่เขายังจำเราได้ และกลับมาขอบคุณเราอีกครั้ง เนื่องด้วยคดีนี้เราทำตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนถึงศาลฎีกา ต่อสู้เอาความยุติธรรมมาให้เขาให้ได้มากที่สุด ๆ ตื้นตันมากที่เขากลับมาขอบคุณพร้อมทั้งมอบ ธงเชิดชูความดีให้กับทางสำนักกฎหมายดีทีแอลของเรา”

คุณมัทนา ระบุอีกว่า “วันนั้นกับสภาพจิตใจของคนต่างชาติที่ถูกกระทำแล้วไม่ไว้ใจใครเลย ระแวงไปหมดทุกอย่าง หาที่พึ่งไม่ได้ สุดท้ายมาขอความช่วยเหลือจากสำนักงานกฎหมายดีทีแอล เราทำให้เขาไว้ใจ ทำให้เขาอุ่นใจ ทำให้เขาสบายใจ และเชื่อมั่นกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และร่วมฝ่าฟันอุปสรรคกับเขาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนถึงศาลชั้นฎีกาสุดท้าย ได้ผลที่ตัวคุณหวางหนานเอง พอใจกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และชื่นชมกับหน่วยงานต่าง ๆ ของไทยที่ให้ความยุติธรรมและช่วยเหลือเขา”

“ในครั้งนี้เขายังพูดอีกว่าสิ่งที่เขาอยากจะทำคืออย่าให้ข่าวสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอาไปแปดเปื้อนกับความดีของประเทศไทยที่มีอยู่ เพราะในประเทศไทยก็ยังมีความยุติธรรมและก็มีคนเชื่อถือได้ คนที่ช่วยเหลือคนที่มีจิตใจดีถึงทำให้เขาได้ความยุติธรรมมาจนถึงทุกวันนี้” คุณมัทนาระบุ

คุณมัทนาระบุทิ้งท้ายว่า “ยืนหยัดในการเรียกร้องชื่อเสียงของประเทศไทยในด้านบวกกลับขึ้นมา เพราะเราคือคนไทยคนหนึ่งและเป็นสิ่งเดียวที่เราคนไทยทุกคนสามารถช่วยกันทำได้” 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน นางหวาง ชาวจีนจากเมืองเจียงซู ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนมาเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พร้อมกับนายยู เสี่ยวตง ผู้เป็นสามี เช้าวันที่ 9 มิ.ย. 2562 ได้พลัดตกหน้าผาอเล็กซานเดอร์มหาราช ความสูง 34 เมตร ลงไปถูกต้นไม้เบื้องล่าง ก่อนร่างกระแทกพื้น ทำให้กระดูกต้นขาซ้ายหัก กระดูกเข่าแตกทั้งสองข้าง แขนซ้ายหัก ไหปลาร้าซ้ายหัก กระดูกเชิงกรานหัก ตาขวาช้ำ และมีบาดแผลตามใบหน้า ส่วนบุตรในครรภ์เสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะผลกระทบจากการที่นางหวางกินยาระหว่างรักษาตัว 

ทีแรกนางหวังยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกับสามี แต่ที่ตกลงไปเพราะหน้ามืดจากอาการตั้งครรภ์ ขณะที่นายยูอ้างว่าได้แยกตัวไปเข้าห้องน้ำ กลับมาอีกทีก็ไม่พบภรรยา และได้ยินเสียงรถพยาบาล จึงตามมาดูและรู้ว่าภรรยาตกลงไปแล้ว

แต่ภายหลังนางหวางให้การกับตำรวจว่า นายยู สามีตั้งใจจะฆ่าโดยผลักตกมาจากหน้าผาเพราะหวังจะฮุบสมบัติ แต่ที่ไม่บอกแต่แรกเนื่องจากเกรงว่าสามีจะทำร้ายตนและลูกในท้อง และยังให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนอย่าง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ระบุว่า ระหว่างที่ยืนบนหน้าผา นายยูค่อย ๆ หอมแก้ม นางหวังหลับตาเคลิ้ม ก่อนที่นายยูจะกล่าวว่า "ลงนรกไปซะ" แล้วผลักนางหวังลงจากหน้าผา ที่ผ่านมานายยูแสร้งทำเป็นร่ำรวย แต่กลับสร้างหนี้สินมากมายเพราะติดการพนัน เคยให้นางหวางช่วยใช้หนี้ 2 ล้านหยวน แต่นางหวางให้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งให้หามาเอง เพื่อนเคยเตือนให้ระวังตัว แต่ด้วยรักและไว้ใจจึงมาเที่ยวด้วยกัน

‘สินค้าแพง - เศรษฐกิจไม่ขยับ’ ภาระหนักอึ้ง ‘ครม. เศรษฐา 2’

เรื่องวุ่น ๆ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (ดิจิทัลวอลเล็ต) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังเคลียร์ไม่จบ ปัญหาเศรษฐกิจ ยังถาโถมมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้า อุปโภคบริโภค ที่แทบจะปรับตัวยกแผง

ราคาผักสด ปรับราคาสูงขึ้นหลังสงกรานต์ รายงานข่าวจาก สวท.สงขลา แจ้งว่า ที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา ผักหลายชนิดปรับราคา เช่น ถั่วฝักยาว จากกิโลกรัมละ 50 บาท เป็น 100 บาท ผักกาดหอม จากกิโลกรัมละ 60 บาท เป็น 100 บาท ผักชี จากกิโลกรัมละ 200 บาท เป็น 250 บาท ต้นหอม จากกิโลกรัมละ 90 บาท เป็น 120 บาท ผักบุ้งจีน จากกิโลกรัมละ 30 บาท เป็น 50 บาท มะนาว จากกิโลกรัมละ 120 บาท เป็น 150 บาท มะระ จากกิโลกรัมละ 40 บาท เป็น 60 บาท และ แตงกวา จากกิโลกรัมละ 25 บาท เป็น 40 บาท

เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับราคาไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ขึ้นราคาอีกแผงละ 6 บาท หรือฟองละ 20 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ส่งให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม อยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท  

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ปรับราคาขึ้นอีกกิโลกรัมละ 4 บาท ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งที่ 3 ในเดือนเมษายน จากก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 4 บาท ในวันที่ 17 มีนาคม 2567 และวันที่ 8 เมษายน 2567 รวมทั้งสิ้นเป็นการปรับขึ้น 12 บาทต่อกิโลกรัม 

ซึ่งก่อนหน้านี้ ช่วงต้นปี ราคาขายปลีกเนื้อไก่ ก็มีการปรับขึ้นราคา ขาไก่ตัดเล็บ จากราคา กิโลกรัมละ 80 บาท ขึ้นมาเป็น กิโลกรัม ละ 110 บาท ปีกเต็ม จากราคากิโลกรัมละ 90 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 100 บาท ปีกปลาย จากราคา กิโลกรัมละ 90 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 125 บาท

กระทรวงพาณิชย์ ผู้มีหน้าที่หลักในการดูแล และควบคุมสินค้า ได้กำหนดนโยบายสำคัญ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เน้นการรดน้ำที่ราก ดูแลคนตัวเล็ก’ ยังไม่ค่อยมีข่าวคราวในโครงการช่วยเหลือคนตัวเล็กมาก เท่าใดนัก นอกจากข่าวการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ของยุครัฐบาลก่อนหน้า  เรามักได้เห็น ได้ยิน ข้อความตามสื่อต่าง ๆ ว่า คนไทยจะอดตายกันหมดแล้ว” หรือ “ราคาสินค้าแพง รายได้น้อย ต้องการให้มีรัฐบาลใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย” 

ปัจจุบัน ในขณะที่ราคาสินค้าปรับขึ้นราคาสูงกว่าที่ผ่านมา เสียงก่นด่าเหล่านี้ กลับไม่ดังเหมือนแต่ก่อน 

พร้อมทั้งข่าว การแจ้งยุติกิจการ ของ วอยซ์ ทีวี (Voice TV) เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ที่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจ ในปี 2567 โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท และการปรับ ครม.เศรษฐา 2 จะเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้หรือไม่...รอติดตามกันต่อไป 

เรื่อง: The PALM

ตำรวจภาค 4 รวบ 2 เครือข่ายยาเสพติด ขณะขนยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด

ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ให้ปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน และเพิ่มความเด็ดขาดในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่มีปัญหา และนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ให้ปฏิบัติการเชิงรุก ปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดในทุกพื้นที่และสืบสวนขยายผลทุกคดี เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดทุกราย พล.ต.ท.สรายุทธ  สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ตำรวจภาค 4 เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ตามนโยบายดังกล่าว

ล่าสุดตำรวจภาค 4 ได้จับกุม 2 เครือข่ายยาเสพติด ขณะกำลังลำเลียงยาเสพติดไปส่งลูกค้า ยึดยาบ้าได้จำนวน 1,042,000 เม็ด                    

คดีแรก เวลา 15.00 น. ของวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติด ได้สืบสวนทราบว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดขนยาเสพติดไปส่งลูกค้าในจังหวัดร้อยเอ็ดจึงติดตามจับกุม พบรถกระบะ 2 คัน ตรงตามข้อมูลที่ได้รับจากการสืบสวน จึงขับรถไล่ติดตาม ซึ่งผู้ขับขี่รถกระบะดังกล่าวพยายามหลบหนี และนำยาเสพติดไปทิ้งข้างทาง แต่ตำรวจชุดจับกุมสามารถติดตามจับกุมได้ทั้งหมด 5 คน  พบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บว 46xx สกลนคร ใช้เป็นรถนำเพื่อตรวจสอบเส้นทาง มี นายธรรมสรณ์ เป็นผู้ขับขี่ และนายกิตติวัฒน์ โดยสารข้างคนขับ ส่วนรถอีกคันคือ กระบะวีโก้สีดำ หมายเลขทะเบียน ผพ 4xx อุดรธานี เป็นรถที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดมีนายสุรศักดิ์ เป็นผู้ขับขี่ โดยสารมากับนายฉลอง และนายวิโรจน์ สอบถามผู้ต้องหาทั้งหมด รับสารภาพว่าร่วมกันรับจ้างขนยาบ้า โดยมีผู้สั่งการจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ให้ไปรับยาบ้าที่เขต อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ก่อนจะไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด และอีกส่วนหนึ่งให้นำไปส่งลูกค้าที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี จากนั้นตำรวจคุมตัวทั้ง 5 คน ไปชี้จุดทิ้งกระสอบต้องสงสัย 2 กระสอบ บริเวณป่าละเมาะข้างสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. บริเวณบ้านหนองไฮ หมู่ 6 ต.โพธิ์ทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ตรวจสอบภายในพบยาบ้า 350 มัด รวม 700,000 เม็ด จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนิน และขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป 

คดีที่ 2 เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่  26 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง        ภ.จว.ขอนแก่น ได้ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบบริเวณถนนหลังวัดป่าศิริธรรม พื้นที่หมู่บ้านหนองบัว หมู่ที่ 8 ต.หนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ระหว่างนั้นมีรถกระบะต้องสงสัยขับผ่านมาจึงได้เรียกให้หยุดรถ เพื่อขอทำการตรวจสอบ พบนายจินดา หรือ เขียว อายุ 41 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถพบยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด จากนั้นจึงสอบถามผู้ต้องหา รับว่ายังคงมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในที่พักอีกจำนวนมาก จึงคุมตัวมาตรวจค้นที่ ห้องเช่าเลขที่ 160 ม.3 บ้านหัวนา ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ก็พบยาบ้าอีกจำนวน 340,000 เม็ด รวมทั้งสิ้น 342,000 เม็ด ผู้ต้องหายอมรับว่ายาบ้าเป็นของตนจริง จึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินตามกฎหมาย และขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายทั้งหมดต่อไป

‘ปั๊บ POTATO’ โพสต์เตรียมแจกปิ๊กกีต้าร์ ‘รุ่น พระดล’ ย้ำ!! ทำมาให้ฟรี ไม่มีจำหน่าย เอาใจแฟนคลับโดยเฉพาะ

(27 เม.ย. 67) นับเป็นซีรีส์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากสังคม กระตุ้นการตั้งคำถามกับความศรัทธา ทั้งยังหยิบ ‘ศาสนาพุทธ’ มาขุดปมให้ลึก เปิดเผยอีกด้านของวงการผ้าเหลืองกับ ‘ซีรีส์ สาธุ’ จากเน็ตฟลิก ที่มีนักแสดงตัวท็อปจากวงการมากมาย อาทิ พีช พชร, เจมส์ ธีรดนย์, แอลลี่ อชิรญา ฯลฯ

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการเชิญนักร้องระดับตำนานอย่าง ปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข หรือ ปั๊บ POTATO นักร้องนำวง POTATO มาร่วมแสดงด้วย ซึ่งรับบทบาท ‘พระดล’ เรียกเสียงฮือฮาจากโซเชียล จนได้มีมจากชาวเน็ตสุดฮา ‘บวชปุ๊บ เป็นพระปั๊บ’

ล่าสุด ก็ยังคงเรียกเสียงฮาจากโลกโซเชียลต่อ เมื่อ ปั๊บ POTATO ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Patchai Pakdeesusuk ระบุว่า “ปิ๊กรุ่น #พระดล พบกันตามงานนะครับ” พร้อมแนบภาพ ปิ๊กกีต้าร์ที่เหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา พระมีรูปตัวละคร ‘พระดล’ จากซีรีส์สาธุ ยืนอยู่

โดยมีทั้งหมด 2 สี งานนี้เจ้าตัวก็ย้ำอีกด้วยว่า “ไม่มีเช่า หรือจำหน่ายนะครับ แจกตามงานอย่างเดียวครับ” ทำเอาแฟนคลับฮือฮา เข้ามาคอมเมนต์กันยกใหญ่ อาทิ

สาธุค่ะหลวงพี่

อยากบูชา

มีบูชาไหมคะ

ของแท้

รุ่นดีดแล้วไม่สึก…หรอ

ต้องอัดกรอบห้อยขึ้นคอละครับพี่

สนใจเช่าค่ะ

อัดกรอบห้อยคออย่างเดียว

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีแฟนคลับทำผลงานศิลปะเป็นรูป ‘พระดล’ อีกมากมาย เรียกได้ว่านอกจากจะประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินนักร้องแล้ว ปั๊บ POTATO ก็ยังประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงอีกด้วย เพราะสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้สมบทบาท จนทำให้ครองใจแฟน ๆ ได้รับเสียงชื่นชมและความนิยมมากมาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top