Saturday, 18 May 2024
NewsFeed

สมุทรปราการ- “พระครูแจ้” ทำบุญใหญ่!! เนื่องในโอกาสอายุวัฒนมงคลครบ 62 ปี เดินหน้าช่วยเหลือผู้ยากไร้ “รถโรงฟรี”

ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ คณะศิษย์ยานุศิษย์ ข้าราชการทุกหมู่เหล่าตลอดจนประชาชนจำนวนมากร่วมเดินทางมาแสดงมุทิตาสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด อายุวัฒนมงคลครบรอบ 62 ปี พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จัดพิธีทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์จากวัดต่างๆ ตลอดจนคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ต่างร่วมแสดงมุทิตาสักการะ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอายุวัฒนมงคลครบ 62 ปี

โดยมีท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร  (พระครูจาบ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนามแดง พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา โดยมีคณะไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  คณะผู้บริหาร คณะแพทย์พยาบาล คณะครู ข้าราชการตำรวจ ตลอดจนคณะศิษย์ยานุศิษย์และพี่น้องประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธีแสดงมุทิตาสักการะท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

โดยท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เปิดเผยว่า วันนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ อายุวัฒนมงคลครบ 62 ปี ถือโอกาสนี้ทำการเปิดที่พักตำรวจจราจร (ป้อมตำรวจ) จำนวน 2 แห่ง ในเขตพื้นที่ สภ.บางแก้ว โดยทางวัดบางพลีใหญ่กลางดำเนินการช่วยเหลือในการปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่พักตำรวจจราจร หรือป้อมตำรวจให้ใหม่เพื่อให้ข้าราชการตำรวจจราจรปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในการดูแลรับใช้พี่น้องประชาชน

อีกทั้ง ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ที่ไม่มีเงินเผาศพ ศพไร้ญาติ ซึ่งทางวัดจะดำเนินการเผาให้ฟรีทุกกรณีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด พร้อมทั้ง ทางวัดจัดเตรียมรถตู้ไว้คอยบริการรับศพฟรี ภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้โครงการ แบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือสังคม (รถโรงฟรี) โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ผู้ริเริ่มโครงการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ ประกอบกับ ที่ผ่านมาทางวัดบางพลีใหญ่กลางก็ดำเนินการช่วยเหลือเผาศพโควิด-19 ให้ฟรี โดยไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดมาจำนวนหลายร้อยศพแล้ว และในวันนี้ก็จะดำเนินการช่วยเผาศพผู้เสียชีวิตด้วยโรค โควิด -19 จำนวน 2 ราย ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิดเช่นเดียวกัน

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

เปิดไทม์ไลน์ 'ตึกเน่าปลาย-ตึกร้าง' หลังทุนจีนแห่หนี 'สีหนุวิลล์' ปล่อย 'กัมพูชา' ดิ้นหาทุนพันล้านเหรียญ ชุบชีวิตเมืองเอง

(19 เม.ย.67) แต่ดั้งเดิม สีหนุวิลล์ เมืองเอกของจังหวัดพระสีหนุทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา ห่างจากกรุงพนมเปญ 246 กิโลเมตร เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม มีชายทะเลหาดทรายสวยงามบนฝั่งอ่าวไทย ที่อาจพัฒนาเป็นเมืองรีสอร์ตเป็นสวรรค์ท่องเที่ยวระดับโลก ทว่า เวลานี้ สีหนุวิลล์ ไม่ผิดอะไรกับเมืองร้าง กลายเป็น 'เมืองตึกร้าง-ตึกเน่า' ไปได้อย่างไร

มาดูไทม์ไลน์ช่วงของการเปลี่ยนแปลงและความพลิกผันของสถานการณ์ที่น่าเป็นอุทาหรณ์ในการพัฒนาบ้านเมืองกัน

-ปี 2010  สีหนุวิลล์ เริ่มเปลี่ยนไป หลังจากที่กัมพูชาประกาศแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในสีหนุวิลล์ และเป็นเมืองยุทธศาสตร์รองรับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน แน่นอนต้องอาศัยทุนต่างชาติเข้ามาช่วยขับดันการเติบโตเศรษฐกิจ และกลุ่มทุนจีนก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา

-ปี 2016 สีหนุวิลล์ พลิกโฉมอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นเมืองทันสมัย มีโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือสมัยใหม่ ถนนใหญ่ ทางด่วน คอนโดมิเนียม โรงแรม ตึกอาคารสูง กาสิโน ร้านอาหาร จนผู้คนกล่าวขวัญว่า สีหนุจะเจริญเติบโตเป็น 'เซินเจิ้นน้อย'

สีหนุวิลล์ เป็นขุมพลังเศรษฐกิจอันดับสองอันดับสามของกัมพูชา รัฐบาลพนมเปญฝันหวานจะพัฒนาชาติเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับสูงภายในปี ค.ศ.2030

-ปี 2018 ทุนจีนไหลบ่าเข้ามาในสีหนุวิลล์ราวกระแสน้ำเชี่ยวกราก ขณะเดียวกัน รัฐบาลกัมพูชาก็สนับสนุนธุรกิจบ่อนกาสิโน ผลักดันสีหนุวิลล์ เป็น 'มาเก๊าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้'

ช่วงไม่กี่ปีนี้เองการเติบโตเศรษฐกิจของสีหนุวิลล์ พุ่งแรงเร็วเป็นติดจรวด ราคาอสังหาฯ ในท้องถิ่นสูงปรี๊ด เจ้าของโครงการอสังหาฯ ร่ำรวยในชั่วข้ามคืน ชาวจีนหลายหมื่นคนหลั่งไหลเข้าทำงานในบ่อนและภาคบริการของสีหนุวิลล์

- ปี 2019 รัฐบาลจีนปราบปรามอย่างจริงจังล้างบางแก๊งอาชญากรรมจีนที่แพร่กระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งแรงกดดันต่อกัมพูชา จนรัฐบาลกัมพูชาประกาศในเดือน ส.ค. 2019 ให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย กลุ่มทุนจีนเริ่มถอนทุนออกจากสีหนุวิลล์ จากนั้นมาเศรษฐกิจสีหนุวิลล์ก็เริ่มซบเซาและตกฮวบอย่างรวดเร็ว

- ปี 2020 โรคโควิดแพร่ระบาดใหญ่ไปทั่วโลก ยิ่งซ้ำเติมสีหนุวิลล์ สำนักงานบริษัทหลายแห่งทยอยปิดตัว อาคารที่ว่างเปล่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์เข้ายึดเป็นศูนย์ปฏิบัติการ

ดังที่ทราบกันดีทั่วโลก ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนมีปัญหายืดเยื้อมาหลายปี จนกระทั่งบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่อย่าง ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ (China Evergrande Group) ล้มละลายถูกสั่งเลิกกิจการในต้นปีนี้ คันทรี่ การ์เดน (Country Garden) กำลังถูกฟ้องร้องให้ปิดกิจการ เป็นต้น...ด้วยหนี้สินนับแสน ๆ ล้านเหรียญสหรัฐ

ผู้อ่านที่ติดตามปัญหาอสังหาฯ ในจีน จะได้ยินปรากฏการณ์ 'เมืองร้างเมืองผี' หมายถึงโครงการอสังหาฯ มหึมาที่สร้างเสร็จแต่ไม่มีการเปิดใช้ ไม่มีคนซื้อคนลงทุน จนมาถึงมายุคของ 'ตึกเน่าปลาย' ซึ่งเป็นคำที่แปลตรงตามอักษรภาษาจีน หล่านเว่ยโหลว (烂尾楼) หมายถึง ตึกอาคารที่สร้างไม่เสร็จ หรือสร้างค้างไว้เพราะปัญหาขาดเงินทุน

ด้วยปัจจัยลบที่กลุ้มรุมเช่นนี้ กลุ่มทุนจีนจึงแห่ถอนตัวออกจากสีหนุวิลล์ราวเผ่นหนีสงครามใหญ่ คนท้องถิ่นตกงานกันระนาว ความขัดแย้งในภาคเศรษฐกิจโผล่พรึ่บขึ้นมา โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างนักลงทุนอสังหาฯ จีนกับคนท้องถิ่นที่ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน

ภาคเศรษฐกิจแทบทั้งหมดของสีหนุวิลล์นั้น ขับเคลื่อนไปด้วยทุนจีนที่ไหลบ่าเข้ามาไม่หยุดหย่อน จากข้อมูลสถิติของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา ระบุว่า ปี 2022 ภาคการลงทุนต่างประเทศในสีหนุวิลล์ มูลค่า 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ราวร้อยละ 90 มาจากจีน

สีหนุวิลล์ กลายเป็น 'เมืองตึกร้าง-ตึกเน่า' เช่นเดียวกับปัญหาอสังหาฯ ในจีน

-ปี 2022 สื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างข้อมูลเจ้าหน้าที่ในสีหนุวิลล์ว่า จากปี 2019 ตึกในเมืองมากกว่า 1,000 หลัง ถูกปล่อยทิ้งร้าง...

- ปี 2023 สื่อท้องถิ่นอ้างตัวเลขของหน่วยงานรัฐบาลกัมพูชาล่าสุด ที่นับถึงเดือน ก.ย.2023 ระบุว่าโครงการก่อสร้างตึกอาคารขนาดใหญ่ในเมืองสีหนุวิลล์ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,069 โครงการ มูลค่าการลงทุนสูงถึง 4,056 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากการสำรวจของกระทรวงการก่อสร้างและวางแผนที่ดินแห่งชาติ ระบุจำนวนโครงการใหญ่ที่ก่อสร้างค้างไว้มีประมาณ 364 โครงการ นอกไปจากนี้ มีตึกที่สร้างแล้วเสร็จ แต่ไม่สามารถเปิดใช้กลายเป็นตึกร้าง มีจำนวน 177 โครงการ เมื่อรวมตึกเน่าปลายและตึกร้างก็มีจำนวนราว 540 โครงการ

หลังจากผ่านพ้นช่วงโควิดระบาดใหญ่ การปราบปรามบ่อนพนันที่ยังเข้มข้นและปัญหาของภาคอสังหาฯ จีนที่ทรุดหนัก ทำให้กลุ่มทุนจีนที่จะหวนกลับมาสีหนุวิลล์เป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก ๆ

หันมาดูกระแสนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมายังกัมพูชา สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชาเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว (2023) นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวกัมพูชาเพียง 550,000 คน ลดลงจากปี 2019 ร้อยละ 77 และกลุ่มผู้โดยสารที่มาลงที่สนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ มีเพียง 15,754 คน ลดลงจากปี 2019 ถึงร้อยละ 98

- ปี 2024 ปีแห่งการยก 'ภูเขาตึกเน่า' ออกไปเพื่อไปต่อ ในเดือน ม.ค.ปีนี้ นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา นายฮุน มาเนต ประกาศมาตรการส่งเสริมการลงทุนในสีหนุวิลล์ โดยมาตรการแรกสุด คือ ให้สิทธิพิเศษและยกเว้นภาษีรายได้สำหรับนักลงทุนที่ประสงค์มารับช่วงการก่อสร้างตึกที่สร้างค้างไว้

รัฐบาลกัมพูชาประมาณว่าจะต้องใช้เงินทุนก้อนใหม่ถึง 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อฟื้นการก่อสร้างตึกเน่าให้แล้วเสร็จ

“แต่เศรษฐกิจโลกยามนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า มาตรการที่นายกฯ มาเนตประกาศต้องใช้เวลาฝ่าฟันอุปสรรคใหญ่” Ky Sereyvath ผู้อำนวยการสถาบันจีนศึกษา ที่ Royal Academy of Cambodia กล่าว

Long Dimanche รองผู้ว่าฯ จังหวัดพระสีหนุ กล่าวว่า สีหนุวิลล์ต้องสร้างความหลากหลายให้ทั้งภาคอุตสาหกรรมและประเทศที่เข้ามาลงทุน รัฐบาลฮุน มาเนต ได้แสดงการเปิดกว้างในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศแล้ว

และความเป็นไปได้หนึ่งคือการหวนคืนกลับมาของญี่ปุ่นที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในสีหนุวิลล์น้อยกว่าเวียดนามและไทย แต่ญี่ปุ่นเคยสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่มีอยู่แห่งเดียวของกัมพูชาเมื่อราว 30 ปีที่แล้ว  

“มูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม” ทำบุญครบรอบ 22 ปี ศิษย์ นพม. ร่วมมุทิตาจิตรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ สืบสานสงกรานต์วิถีไทย

วันที่ 19 เมษายน ที่อาคารเอนกประสงค์ วปอ. ห้อง 321 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคลังสมองอาวุโส วปอ. เพื่อสังคม ปวิธายุวัฒน์ เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสก่อตั้งมูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม ครบ 22 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างขวัญกำลังใจ และสร้างความรัก ความสามัคคี ระหว่างผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา โดยนิมนต์พระภิกษุ จากวัดพระราม 9 เจริญพระพุทธมนต์

ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พลเอก นรินทร์ แทบประสิทธิ์ ประธานมูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม พลโท มนัส แถบทอง ผู้อำนวยการหลักสูตรฯ กรรมการมูลนิธิฯ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ อาจารย์ และศิษย์เก่าหลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง (นพม.) ร่วมพิธี

นอกจากจะจัดพิธีทำบุญในโอกาสครบ 22 ปีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดพิธีทรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำขอพร อดีตประธานมูลนิธิคลังสมอง วปอ. และผู้อาวุโส เนื่องในโอกาสปีใหม่ไทย เพื่อส่งเสริมขนบธรรมเนียม และสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย

พลเอก นรินทร์ แทบประสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่มวลหมู่กัลยาณมิตรของคลังสมองได้มาพบปะบำเพ็ญกุศล กิจกรรมวันนี้นอกจากบำเพ็ญกุศลประจำปีวันสถาปนาของคลังสมองแล้ว ยังเป็นวันครบรอบของการจัดตั้งคลังสมอง อาวุโส วปอ. เพื่อสังคม ปวิธายุสัฒน์ ขึ้น ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ตามวัตถุประสงค์ ของมูลนิธิฯ ตลอดมา

“สิ่งหนึ่งที่เป็นอนุสรณ์สำคัญของคลังสมอง วอป. เพื่อสังคม ในการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชการที่ 9 คือ การนำโครงการร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อสืบสานรักษามรดก ทรัพย์สินทางปัญญาอันล้ำค่า ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ การเปิดหลักสูตร ผู้นำพอเพียง เพื่อสร้างความมั่นคง (นพม.) ขึ้น โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการเสริมบทบาท ของการสร้างผู้นำในอนาคต

‘ก.พลังงาน’ เตรียมพร้อมรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซล หลังหมดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลในวันนี้

กระทรวงพลังงาน โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เข้ามาบริหารจัดการราคาน้ำมันดีเซล ภายหลังจากหมดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 1 บาทในวันนี้ โดยจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเพียง 50 สตางค์ต่อลิตร พร้อมห่วงสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นทันทีหลังมีการโจมตีเกิดขึ้น

(19 เม.ย. 67) นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาทของกระทรวงการคลัง และเพื่อเป็นการลดภาระให้กับประชาชนผู้ใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้รักษาระดับราคาน้ำมันดีเซล โดยจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตรไปพลางก่อน และอาจจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาเป็นแบบขั้นบันได เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จนทำให้ปัจจุบันสถานะกองทุนฯ ติดลบไปแล้วกว่า 103,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 56,407 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,213 ล้านบาท

ปัจจุบันมีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.77 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นเงินประมาณกว่า 8,000 ล้านบาทต่อเดือน หากไม่มีการชดเชย ราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงจะอยู่ที่ประมาณ 36 บาทต่อลิตร และหากปล่อยให้มีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลในระดับเดิมต่อไปเรื่อย ๆ จะทำให้กองทุนฯ ติดหนี้เพิ่มมากขึ้น จนอาจจะกระทบกับวินัยการเงินและระดับความน่าเชื่อถือของกองทุนฯ ได้

“ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา ได้ช่วยลดราคาน้ำมันดีเซลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ แต่เนื่องจากการชดเชยราคาน้ำมันที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทุนฯ ต้องชดเชยราคาน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันสถานะกองทุนฯ ติดลบกว่า 103,000 ล้านบาทแล้ว วันนี้ กระทรวงพลังงาน โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เข้ามาบริหารจัดการราคาน้ำมันดีเซล ภายหลังจากหมดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 1 บาทในวันนี้ โดยจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเพียง 50 สตางค์ต่อลิตร และในอนาคตอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันแบบขั้นบันได เนื่องจากสถานะกองทุนฯ มีหนี้คงค้างค่อนข้างสูง อีกทั้งสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้งในวันนี้ อาจส่งผลทำให้ราคาน้ำมันทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น กระทรวงพลังงานจะพยายามรักษาระดับราคาน้ำมันให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงภาระของประชาชนเป็นหลัก แต่ก็ต้องพิจารณาถึงภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปพร้อมกันด้วย และเตรียมหามาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า” นายวีรพัฒน์ กล่าว

สวนนงนุชพัทยา ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดการประชุมประจำปี “สพฐ. โปร่งใส ร่วมใจต้านทุจริต” ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ (NICE)

วันนี้สวนนงนุชพัทยาโดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ  และบุคลากรที่เข้ามาจัดประชุมอบรม บุคลากร สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โครงการ “สพฐ. โปร่งใส ร่วมใจต้านทุจริต” จำนวน 1,050 ท่าน ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา(NICE)   สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี  

หลังพิธีเปิดการอบรม ทางคณะร่วมปลูกต้นไม้ ที่สวนรุกขชาติ บริเวณเขาบันไดกฤษ ซึ่งเป็นโครงการรวบรวมพันธุ์ไม้และปลูกไม้ยืนต้นชนิดต่างๆที่มีมูลค่าและหายากจากทั่วทุกมุมโลกมาปลูกไว้ ต้นไม้ที่นำมาปลูกในวันนี้คือต้นไทรนิโครธ และการอนุรักษ์พันธุ์ไม้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทางสวนนงนุชพัทยาดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นได้นำท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะเยี่ยมชมสวนสวยมากกว่า 50 สวน บนพื้นที่ 1,700 ไร่ โดยเฉพาะศูนย์เรียนรู้ในสวนนงนุชพัทยาเด็กจะได้สัมผัสแหล่งเรียนรู้ในเรื่องต้นไม้ เรื่องสัตว์ วัฒนธรรม ศาสนา และอาหารไทย จะทำให้ในอนาคตเด็กๆจะรู้สึกชอบสิ่งต่าง ๆเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว จึงเป็นสถานที่เหมาะกับเด็ก นักเรียน และนักท่องเที่ยวทั่วไป

มุกดาหาร -ทหารกกล.สุรศักดิ์มนตรี ตรวจยึดบุหรี่เถื่อนขณะลักลอบข้ามโขงส่งมุกดาหาร

เมื่อวันที่ 19 เมษายน ร.ท.ภานุพงษ์ คงรัตน์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยทหารราบ กองกำลัง(กกล.)สุรนารี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีจากแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว บรรทุกใส่เรือข้ามแม่น้ำโขงมาส่งในเขตพื้นที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงได้ใช้กล้องส่องทางไกลเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเรือที่แล่นในลำแม่น้ำโขง กระทั่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบเรือเหล็กขนาดใหญ่บรรทุกสินค้าแล่นจากแขวงสะหวันนะเขต ข้ามแม่น้ำโขงมายังฝั่ง จ.มุกดาหาร จึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณที่เรือแล่นเข้ามาจอด พบว่าเป็นท่าเรือประมงบ้านบางทรายใหญ่  เมื่อไปถึงพบกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังขนกระสอบบรรจุสิ่งของขึ้นจากเรือมาทิ้งไว้บริเวณใต้กอไผ่ริมตลิ่ง  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจสอบ แต่เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไป จากการตรวจสอบภายในกระสอบป่านพบว่าเป็นถุงดำบรรจุกล่องบุหรี่จำนวน 2 กล่องใหญ่ เมื่อเปิดกล่องออกดูพบเป็นบุหรี่ยี่ห้อ JN RED และ JN GREEN กล่องละ 50 แท่ง รวมทั้งหมดเป็น 100 แท่งจึงได้ทำการตรวจยึดบุหรี่ดังกล่าวไว้เป็นของกลางเพื่อนำส่งสรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร 092-5259777

แผนร้าย Jimmy Lai จุดชนวนการล่มสลายของจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อสถาปนาประชาธิปไตยตามแบบสหรัฐฯ

Jimmy Lai เจ้าพ่อสื่อชาวฮ่องกงวัย 76 ปี ผู้ก่อตั้ง Giordano International แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง, Next Digital (เดิมชื่อ Next Media) บริษัทสื่อที่จดทะเบียนในฮ่องกง และ Apple Daily หนังสือพิมพ์ของฮ่องกงและไต้หวัน 

เขาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ และเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนสำคัญในค่ายสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะต่อพรรค Democratic ที่เป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงกระทั่งกลายเป็นการจลาจลทางการเมืองของฮ่องกง 

ทั้งนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นที่รู้จักว่า เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญทางการเมืองของฮ่องกง แต่จริง ๆ แล้วเขาถือสัญชาติอังกฤษมาตั้งแต่ปี 1996 

Lai ซึ่งมักจะวิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนอยู่เสมอ ถูกตำรวจฮ่องกงจับกุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2020 ในข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ต่อมาได้รับอนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม แต่ในวันที่ 3 ธันวาคม 2020 Lai ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง และถูกเพิกถอนการประกันตัว ศาลฮ่องกงตัดสินจำคุก Lai จนถึงเดือนเมษายน 2021 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เขาถูกควบคุมตัว แต่ตัว Lai เองกลับมองว่า การจำคุกของเขาเป็น 'จุดสูงสุดในชีวิตของเขาเอง'

ในเดือนกรกฎาคม 2019 Lai ได้พบกับ Mike Pence รองประธานาธิบดี Mike Pompeo รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และ John Bolton ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ของสหรัฐฯ Lai กล่าวว่า "พวกเราในฮ่องกงกำลังต่อสู้กับจีนเพื่อค่านิยมร่วมกันของสหรัฐฯ เรากำลังต่อสู้ในสงครามของพวกเขาในพื้นที่ของศัตรู"

ในเดือนธันวาคม 2020 Lai ได้รับรางวัล 'Freedom of Press Award' จาก Reporters Without Borders ภายหลังการก่อตั้ง Apple Daily สำนักข่าวภายใต้การนำของ Lai ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งกล้าวิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครองของจีนอย่างเปิดเผย ทั้งยังสนับสนุนการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยโดยครอบคลุมอย่างกว้างขวาง 

ในวันที่ 29 ธันวาคม 2020 Lai ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการและประธานคณะกรรมการของ Next Digital ในเดือนเมษายน 2021 เขาถูกตัดสินจำคุกเพิ่มอีก 14 เดือนจากการจัดชุมนุมประท้วงโดยผิดกฎหมาย Lai ถูกจำคุกในห้องขังเดี่ยวที่เรือนจำ Stanley ของฮ่องกง

ระหว่างการไต่สวนคดีความมั่นคงที่ Lai ตกเป็นจำเลย Wayland Chan (Chan Tsz-wah) นักกฎหมายซึ่งเป็นพยานในการดำเนินคดีให้การว่า Lai ได้เล่าถึงแผนการที่จะโน้มน้าวรัฐบาลต่างประเทศระหว่างการพบปะหารือกันที่บ้านพักของ Lai ในเมืองหยางหมิงซาน กรุงไทเปในเดือนมกราคม 2020 โดยขณะนั้น Jimmy Lai ได้บอกว่า "จากประสบการณ์ในอดีต เขาเชื่อว่า การล่มสลายทางการเมืองและเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนระดมทรัพยากรจำนวนมากเพื่อใช้ในการติดตามตรวจสอบพลเมือง" 

ขณะที่ Chan เสริมว่า "การล่มสลายดังกล่าวมีอิทธิพลต่อนโยบายต่างประเทศของประเทศตะวันตก ซึ่งที่สุดจะเป็นการปูทางไปสู่การนำประชาธิปไตยแบบอเมริกันมาใช้ในจีน"

นอกจากนั้น Chan ยังให้การด้วยว่า Lai ต้องการที่จะ 'ฟอกตัว' ผู้ประท้วงหัวรุนแรงในฮ่องกงปี 2019 เนื่องจากเกรงว่า จะสูญเสียการสนับสนุนจากนานาชาติ โดย Lai กังวลว่า การกระทำที่รุนแรงของบรรดาผู้ประท้วงในฮ่องกงบางคนจะทำให้ขบวนการประท้วงสูญเสียการสนับสนุนจากนานาชาติ โดยเฉพาะการสนับสนุนจากสหรัฐฯ 

ถึงตรงนี้ คงพอจะเห็นได้ว่า ‘ประชาธิปไตย’ ยังคงเป็นคำที่ถูกใช้เครื่องมือที่ชาติตะวันตกใช้ในการแทรกแซงประเทศต่าง ๆ ที่รัฐบาลของประเทศนั้น ๆ เห็นต่าง ไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายและเอื้อผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจตะวันตก จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนที่มีภูมิคุ้มกันทางการเมืองน้อยและยอมเชื่อตาม ซึ่งก็มีบทเรียนที่เกิดขึ้นในประเทศตะวันออกกลางหลายประเทศให้เห็นชัดเจนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสงครามกลางเมืองใน อิรัก, ลิเบีย และซีเรีย ที่ยังไม่สามารถใช้ ‘ประชาธิปไตย’ สร้างความสงบสุขร่มเย็นให้กับประเทศเหล่านั้นได้จนทุกวันนี้

ขอนแก่น - วันคล้ายวันสถาปนา "คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข." ครบรอบ 32 ปี

คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มีวิสัยทัศน์ในการเป็น "สถาบันการศึกษาชั้นนำและเป็นเลิศด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี ที่ได้มาตรฐานสากล" โดยมีเป้าหมายของวิสัยทัศน์คือ อันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ และ 1 ใน 20 ของอาเชียน ภายในปี พ.ศ.2567

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ ห้องวังเลิศ Smart Classroom คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธีทำบุญถวายปานะ ถวายจตุปัจจัย ถวายสังฆทาน แด่พระสงฆ์ 9 รูป เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ครบรอบ 32 ปี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี พระมหาบุญตา ชาตปุญโณ เจ้าอาวาสวัดเกาะทองบ้านหนองเต่า และพระเถรานุเถระ พระมหาบุญตา ตลอดจน รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ,ผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ผู้บริหารจากส่วนงาน หน่วยงาน และศูนย์ต่างๆ ผู้บริหารและผู้แทน 8 องค์กรเศรษฐกิจขอนแก่น เครือข่ายชมรมศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี คณาจารย์และบุคลากร นักศึกษา สื่อมวลชน และผู้มีเกียรติ ร่วมงาน

รศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ในนามคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนาคณะในวันนี้ ตามที่คณะวิทยาการจัดการ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2535 และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ตามราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 21 เมษายน 2559 ดังนั้น วันที่ 21 เมษายนของทุกปีจึงถือได้ว่าเป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 32 ปี ด้วยวันที่ 21 เมษายน 2567 ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ แต่เพื่อให้บุคลากรและนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการระลึกถึงวันสถาปนาคณะ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาขึ้นในวันนี้ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 

รศ.ดร.เพ็ญศรี กล่าวอีกว่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อให้บุคลากร นักศึกษา และศิษย์ก่าของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีเข้าร่วมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและสถาบัน 2. เพื่อร่วมรำลึกถึงความสำคัญของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี และเป็นการรวมพลังให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะและความภาคภูมิใจในสถาบันร่วมกัน3. เพื่อเป็นการสีบสานและถ่ายทอดวัฒนธรรมให้เป็นประเพณีที่ดีงามต่อไป

รศ.ดร.เพ็ญศรี กล่าวต่อไปว่า  คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มีวิสัยทัศน์ ในการเป็น "สถาบันการศึกษาชั้นนำและเป็นเลิศด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี ที่ได้มาตรฐานสากล" โดยมีเป้าหมายของวิสัยทัศน์คือ อันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ และ 1 ใน 20 ของอาเชียน ภายในปี พ.ศ. 2567 ซึ่งคณะฯได้ดำเนินการพัฒนาคณะฯ ตามพันธกิจที่กำหนดไว้คือ 1. สร้างและพัฒนานักบริหารธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และผู้ประกอบการให้มีความรู้ความสามารถในการแข่งขันทั้งในยุคปัจจุบันและอนาคต 2. สร้างสรรค์ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ 3. บริการวิชาการแก่สังคมอย่างมีคุณภาพ และ 4. การบริการโรงแรมและร้านอาหารภายใต้คุณภาพมาตรฐาน

รศ.ดร.เพ็ญศรี  กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 31 ปี คณะฯ ได้ทุ่มเทในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องส่งผลให้คณะผ่านการประเมินคุณภาพระดับ 300 คะแนน ซึ่งนับเป็นคณะแรกของกลุ่มคณะวิชาทางด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ ในประเทศไทย และจากการจัดอันดับของสถาบัน SCIMAGO  ประเภทสาขาวิชาด้าน BUSINESS, MANAGEMENT AND ACCOUNTING อยู่ในอันดับ 3 ของประเทศ นอกจากนี้คณะฯ ยังมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเพื่อตอบสนองนโยบายและการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าตามที่ท่านคณบดี คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ได้กล่าวรายงานไปแล้วนั้น ตนมีความชื่นชมและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความสำเร็จและการเติบโตของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี และในวันที่ 21 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนาของคณะ และในปีนี้ครบรอบ 32 ปี เป็นที่ทราบกันว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี เป็นอีกหนึ่งคณะในมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่มีความโดดเด่น และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านวิชาการ และการบริหารจัดการ ในวันอันเป็นมงคลนี้ กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดช่วยดลบันดาล ปกปักรักษา ให้ท่านคณบดี พร้อมด้วยบุคลากรคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีทุกท่านจงประสบแต่ความสุขความเจริญ พบแต่ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป และก้าวไปพร้อมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นพ.ชาญชัย  กล่าวอีกว่า คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีเป็นคณะที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันนี้คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี นั้นมีหลักสูตร ที่น่าสนใจ และทันสมัยเป็นทั้งหลักสูตร มาตรฐานระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ซึ่งคณะเองก็อยู่บนเส้นทาง และในปีหน้าก็จะผ่านมาตรฐานสากล ซึ่งมีไม่กี่แห่งในเมืองไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา ในหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน นานาชาติให้การรับรอง ดังนั้นคิดว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีเอง เป็นคณะที่มีอายุถึง 32 ปี และสร้างผลงานที่โดดเด่น และมีผลงานเชิงประจักษ์มากมาย และเป็นอีกหนึ่งคณะที่สร้างผลงานให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นพ.ชาญชัย  กล่าวด้วยว่าในโอกาสนี้จึงขอแสดงความยินดีและความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี เนื่องในวันเฉลิมฉลองวันสถาปนาครบรอบ 32 ปี และหลังจากนี้ไปคิดว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ก็ได้มีรากฐานที่แข็งแรง มีความเข้มแข็ง ก็ยังเป็นคณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความเจริญเติบโตก้าวหน้า โดยที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีอายุ 60 ปี ในปีนี้ กำลังเข้าก้าวข้าสู่ปีที่ 61 ในขณะเดียวกันคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีก็จะเข้าสู่ปีที่ 33 ก็คิดว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี เป็นคณะหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความเจริญก้าวหน้าสืบต่อไป

เปิดใจ 'น้องปีใหม่' นร.ทุนโอลิมปิกวิชาการ เตรียมอุดมฯ ตะลุยด้านวิชาการ บนแนวคิด 'ไม่เครียด-ไม่กดดันตัวเอง'

จากรายการ Y WORLD THE MAGNET ดึงมาคุย ลุยความคิด ตอนที่ 4 ออกอากาศเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 67 ได้สัมภาษณ์ 'น้องปีใหม่' หรือ ปาณิสรา โฆษิตสุรังคกุล นักเรียนทุนโอลิมปิกวิชาการ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยน้องปีใหม่ได้มาแชร์การเตรียมตัวสอบ อาชีพในอนาคต และแนวทางด้านการศึกษาของตัวเอง ดังนี้

❓️Q: ความรู้สึกของการสอบเข้าเตรียมอุดม เป็นอย่างไรบ้าง?
👩น้องปีใหม่: ก็ถือว่าข้อสอบก็ยาก แต่คิดว่าอยู่ในขอบเขตที่หนูเตรียมตัวมาค่ะ

❓️Q: เล่าประวัติการศึกษาและการแข่งขัน
👩น้องปีใหม่: เรียนอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลฉัตรเฉลิม เรียนประถมที่โรงเรียนสาธิตเกษตรฯ เรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนมัธยมปัญญารัตน์ แล้วก็จะศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ส่วนการแข่งขันที่ผ่านมาของหนู หนูเริ่มแข่งขันตั้งแต่ ป.2 เริ่มจากสนามราชภัฏพระนครเป็นแข่งขันคณิตศาสตร์ค่ะ

ในตอนนั้นคุณแม่เห็นแววว่าหนูสอบได้เหรียญทองแดง โดยที่หนูไม่ได้เรียนพิเศษหรือเตรียมตัวอะไรมากสําหรับสอบ จึงเริ่มปั้นให้เป็นเด็กแข่ง และก็แข่งมาเรื่อย ๆ จนถึงตอนนี้ค่ะ

แต่ว่าพอเริ่มเป็นเด็กแข่งแล้ว หนูก็ไปติว เพื่อให้มีความรู้เพิ่มเติม นอกจากที่โรงเรียนสอน

❓️Q: มาสอบเข้าเตรียมอุดมฯ โควตาโอลิมปิกวิชาการได้อย่างไร?
👩น้องปีใหม่: หนูก็รู้ข่าวจากพ่อแม่ค่ะ เพราะว่าหนูก็มีรุ่นพี่ และพ่อแม่ของรุ่นพี่เขาก็แนะนำมาว่ามีเข้าด้วยโอลิมปิกวิชาการ เนื่องจากเป็นกลุ่มเด็กแข่งเหมือน ๆ กัน ก็เลยได้รับคำแนะนำต่าง ๆ มาเยอะเลยค่ะ ทั้งเรื่องการสอบ การทำพอร์ต และขั้นตอนต่าง ๆ 

สําหรับขั้นตอนการสมัครก็คือจะต้องไปยื่นพอร์ตก่อนที่จะสอบรอบจริง แต่ว่าโควตาโอลิมปิกวิชาการ จะประกาศผลก่อนวันสอบธรรมดาประมาณ 3 วัน จะมีประกาศรายชื่อคนผ่านเข้าเกณฑ์ก่อน 

หลังยื่นพอร์ตเสร็จแล้วก็ต้องไปสัมภาษณ์ ซึ่งการสัมภาษณ์ ก็จะดูว่าสามารถพรีเซนต์พอร์ตอย่างไรบ้าง ได้ไปทํามาจริง ๆ หรือไม่?

❓️Q: แนะนำการเตรียมตัวสำหรับการยื่นพอร์ตหน่อย ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง?
👩น้องปีใหม่: ลองศึกษาจากพอร์ตของคนที่เคยยืนติดก็ได้ค่ะ สำหรับหนูก็แต่งพอร์ตให้มีความสวยงาม ใส่ผลงานของเรา เช่น เกียรติบัตร และเขียนคําอธิบายไว้ด้วย ส่วนตอนเข้าห้องสัมภาษณ์ ก็เล่าประสบการณ์ กิจกรรมที่เคยทำ หรือเล่าผลงานที่เคยได้รับรางวัล ตามที่เขียนไว้ในพอร์ตค่ะ

❓️Q: ขณะสัมภาษณ์กดดันมากไหม? แล้วเตรียมตัวเยอะไหม?
👩น้องปีใหม่: ค่อนข้างกดดันค่ะ แต่ว่าหนูก็ยิ้มสู้ เพราะว่าก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ส่วนเรื่องการเตรียมตัว หนูเตรียมตัวไม่เยอะค่ะ เพราะว่าเขาไม่ได้ถามคําถามเพื่อวัดอะไร แต่แค่ฟังเราพรีเซนต์ในสิ่งที่เราทำมาค่ะ

❓️Q: สอบติด 3 โรงเรียน (มหิดลวิทยานุสรณ์ กําเนิดวิทย์ เตรียมอุดมฯ) ทําไมถึงเลือกโรงเรียนเตรียมอุดม?
👩น้องปีใหม่: หนูเลือกเรียนเตรียมอุดม เพราะว่าเดินทางสะดวก อยู่ใกล้ที่พัก และเตรียมอุดมฯ น่าจะตอบโจทย์ที่สุด หนูฝันอยากเป็นแพทย์จุฬาฯ เมื่อเทียบแล้ว คนที่จบเตรียมอุดมฯ ส่วนใหญ่ไปเรียนแพทย์จุฬา ถ้าหนูอยู่เตรียมอุดมฯ ก็จะมีเพื่อนที่ช่วยเรียนแล้วก็ผลักดันให้เป็นแพทย์จุฬาฯ ไปด้วยกันค่ะ 

❓️Q: ด้วยความเป็นเด็กวิชาการ คิดว่าตัวเองเครียดไหม?
👩น้องปีใหม่: ความเครียดมันไม่ค่อยอยู่ในพจนานุกรมของหนูค่ะ เพราะว่าหนูปรับตัวมาตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ แล้วที่ต้องเรียนเพิ่มจากที่เรียนในโรงเรียน และก็ปรับตัวมาเรื่อย ๆ จนไม่ได้รู้สึกว่ากดดันเพิ่มจากปกติค่ะ

หนูคิดว่าความเครียดไม่ได้ช่วยให้งานเราดีขึ้น เราต้องประเมินตัวเอง แล้วทําตามความสามารถเรามากกว่า

❓️Q: งานอดิเรกที่ชอบทำมีอะไรบ้าง?
👩น้องปีใหม่: หนูชอบดูอะนิเมะมากค่ะ นอกจากนี้จะเป็นการตัดต่อภาพวิดีโอ คอสเพลย์ และเล่นเกมค่ะ

❓️Q: คิดครอบครัวมีส่วนช่วยในเรื่องของการเรียนมากน้อยแค่ไหน?
👩น้องปีใหม่: ครอบครัวหนูสนับสนุนด้านการเรียน แต่ไม่เคยบังคับค่ะ ส่วนมากแม่จะหาข้อมูลแล้วให้หนูตัดสินใจเอง เช่น เรียนต่อที่โรงเรียนไหน บางครั้งก็คิดไม่ตรงกัน แต่แม่ก็ตามใจหนูค่ะ แม่บอกเสมอว่าชีวิตหนู หนูก็ต้องเลือกและตัดสินใจเอง ซึ่งก็ทําให้หนูพยายามแล้วก็ภาคภูมิใจมากขึ้น 

❓️Q: ช่วยเล่าที่มาของความฝันอยากเป็นแพทย์จุฬาหน่อย
👩น้องปีใหม่: ความฝันของหนูเริ่มมาจากว่าหนูเกิดมาจากฝีมือหมอค่ะ หนูก็เลยคิดว่าอาชีพหมอสูติฯ ที่ทํากิฟต์เพื่อให้คนมีลูก จะทําให้คนมีความสุข สมหวัง แม้ว่าพ่อแม่จะจบวิศวะ แต่ก็ไม่ได้กดดันให้หนูเรียนวิศวะค่ะ หนูอยากเป็นหมอ ครอบครัวก็ให้หนูตัดสินใจเอง ก็เลยตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นหมอที่แพทย์จุฬาฯ แล้วก็อาจจะไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ

❓️Q: แนะนำเพื่อน ๆ ที่อยากสอบติดโควตาโอลิมปิกหน่อย ต้องทำอย่างไรบ้าง?
👩น้องปีใหม่: ควรเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ ค่อย ๆ เก็บไปทีละน้อย ต้องมีวินัยค่อนข้างมาก จะได้ไม่ต้องมาเรียนอัดตอนช่วงใกล้สอบ 

❓️Q: ให้กำลังใจเพื่อน ๆ ที่กำลังท้อกับการเรียน การสอบหน่อย
👩น้องปีใหม่: ต้องดูเป็นขั้นตอน หากรู้สึกว่ายังทำไม่ได้ แต่เป้าหมายใกล้เข้ามาแล้ว ก็ต้องเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้น แต่ไม่ใช่กดดันตัวเองนะคะ เพราะยิ่งกดดัน ทุกอย่างก็ยิ่งแย่ลง

❓️Q: กรณีอ่านหนังสือสอบไม่ทัน ช่วยแนะนำทริกอ่านหนังสือสอบให้เพื่อน ๆ หน่อย
👩น้องปีใหม่: ปกติหนูจะฝึกจากแนวข้อสอบเก่าค่ะ 
อาจจะไปหาหนังสือที่มีแนวข้อสอบเก่ามาอ่าน ฝึกทำข้อสอบเก่า ๆ ดูว่าเรื่องไหนออกบ่อย จึงไปอ่านเรื่องนั้น ๆ ค่ะ

❓️Q: หากคุยกับตัวเองในอีก 10 ข้างหน้าได้ อยากจะบอกหรือถามอะไรตัวเอง?
👩น้องปีใหม่: 10 ปีข้างหน้าหนูก็จะบอกว่าหนูจะสามารถเป็นอาชีพที่หนูต้องการได้ ซึ่งอาจจะถามว่าหนูมีความสุขกับการที่เป็นหมอจริง ๆ ใช่ไหม เพราะเป็นอาชีพที่หนูอยากเป็นมาตลอด อยากถามตัวเองว่าเรียนหมอแล้วมีความสุข ได้ลองดูอาจารย์ใหญ่ ได้เรียนชีววิทยาแบบที่ต้องการ มีความรู้สึกยังไงบ้าง อยู่สบายดีไหม ถามประมาณนี้ค่ะ

❓️Q: ยึดถือคติอะไรในการดำเนินชีวิต?
👩น้องปีใหม่: สำหรับหนู 'อะไรที่ผ่านไป แล้วอะไรที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว มันดีเสมอ' เพราะว่าการที่เราจมปลักกอยู่กับความผิดพลาดในอดีต มันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย แต่ว่าในทางกลับกัน ต้องยอมรับว่ามันเกิดขึ้นไปแล้ว แล้วคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันเรามาถึงตอนนี้ เพราะว่าก่อนจะประสบความสําเร็จก็ต้องเคยผ่านความล้มเหลวมาก่อน ต้องเปลี่ยนมุมมองที่เราจะมองความผิดพลาดค่ะ

❓️Q: อยากขอบคุณใครบ้างที่ช่วยผลักดันเราจนมาถึงวันนี้?
👩น้องปีใหม่: หนูขอขอบคุณการสนับสนุนจากครอบครัวและโรงเรียนค่ะ เพราะที่โรงเรียนไม่ได้บังคับหรือรั้งให้หนูเรียนต่อที่เดิม แต่กลับส่งเสริมและให้กำลังใจหนูค่ะ และขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ช่วยกันติว แบ่งปันความรู้กันค่ะ

📌ติดตามชมสัมภาษณ์เต็มได้ที่: https://youtu.be/XjJB5ruN6ow?si=p-zddn5KEBMcnGK4

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่ม ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ส่งผลให้ ปชช.ชาวเมียนมา หนีตายเข้ามาฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

(20 เม.ย.67) สถานการณ์บริเวณชายแดน ไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ทางกองกำลังชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสหภาพเมียนมา ได้ใช้ปืนเล็ก ปืนกล และ เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. และใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) โจมตี พัน.ร.275 ภาคทหารบกตะวันออกเฉียงใต้ (ภทบ.ตอ./ต.) และ พล.ร.เบา 44 ซึ่งกระจายกำลังอยู่บริเวณพื้นที่ สะพานมิตรภาพ ไทย - เมียนมา แห่งที่ 2 (ฝั่งเมียนมา) บ.เยปู่ (MU 449471) อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยงสหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม บ.วังตะเคียนใต้ ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1.5 กม. อย่างหนัก 

โดยขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการปะทะ กินเวลากว่า 3 ชั่วโมง ยังไม่ทราบผลการสูญเสีย โดยฝั่งไทย บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 งดการผ่านเข้า-ออก

ทางหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้วางกำลัง ตามแผนเผชิญเหตุ และได้นำอาวุธยิงสนุนเข้าที่ตั้ง เพื่อปกป้องอธิปไตยและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนตลอดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา 

โดยล่าสุดเวลา 08.30 น. มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่บริเวณ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ.วังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้หลบหนีข้ามมายังฝั่งไทย จำนวน 217 คน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top