Monday, 9 June 2025
NewsFeed

ผบ.ตร.เยี่ยม สภ.นครชุม และ รร.ตำรวจตระเวนชายแดน จ.พิษณุโลก เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตตำรวจ เปิดแนวทางรับทหารเกณฑ์เป็นนายสิบชี้แก้ปัญหากำลังพลขาดแคลน ย้ำตำรวจเข้าเวรแทนครูไม่ได้ เล็งอัปเกรดครู ตชด.รับวุฒิ ป.ตรี เพิ่มศักยภาพ

วันนี้ (26 มกราคม 2567) เวลา 09.00 น.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  เดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก ตรวจเยี่ยม สภ.นครชุม อ.นครไทย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ สอบถามถึงสภาพการทำงาน เป็นแนวทางในการช่วยแก้ไขข้อขัดข้องต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานบริการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตำรวจมีขวัญกำลังใจที่ดี โดยมี พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (ผบช.ภ.6 ) , พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก และข้าราชการตำรวจในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยน รับฟังนโยบายจาก ผบ.ตร. ด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ได้รับฟังรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของ สภ.นครชุม ซึ่งเป็นโรงพักขนาดเล็ก มี พ.ต.ท.สุรศิลป์ สมศรี เป็นสารวัตรหัวหน้าสถานี โดยมีกำลังพล 24 นาย จากอัตราที่พึงมีอนุญาต 37 นาย ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน หน่วยงานราชการต่าง ๆ พื้นที่อุทยานแห่งชาติชาติตระการ พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูขัด โดย ผบ.ตร.ได้สอบถามถึงจำนวนสถานศึกษาในพื้นที่ ซึ่งพบว่ามีโรงเรียน 9 แห่ง ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้มอบเงินเพื่อให้ตำรวจ สภ.นครชุม นำไปใช้ทำงาน และจัดเลี้ยงปีใหม่แก่ตำรวจและครอบครัวตำรวจในโรงพักด้วย

ผบ.ตร.กล่าวว่า สถานีตำรวจ หรือโรงพัก ถือเป็นฟันเฟืองหลักจักรสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เป็นหน่วยงานแขนขาที่สำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ ตนสั่งการกำชับทั่วประเทศให้ดูแลกำลังพลในโรงพัก ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย มีทักษะการปฏิบัติหน้าที่ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันสมัย โดยเร็ว ๆ นี้ จะมีการส่งมอบปืนไฟฟ้าให้ทุกโรงพัก 1,484 สถานีทั่วประเทศไปใช้งาน พร้อมกำชับให้ทุกกองบัญชาการไปจัดหาอุปกรณ์ไม้ง่ามระงับคนคลุ้มคลั่งเตรียมไว้ใช้งานในโรงพักให้พร้อม เพราะเหตุการณ์คนคลุ้มคลั่งเกิดขึ้นได้เสมอ รวมทั้งควรสร้างทักษะให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนมีความรู้เรื่องการเอาตัวรอดในเหตุวิกฤตต่าง ๆ โดยเฉพาะทักษะ หนี ซ่อน สู้ เพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน 

และที่สำคัญคือต้องดูแลขวัญกำลังใจของตำรวจในโรงพัก เบี้ยเลี้ยงห้ามตกหล่น ห้ามหาย ต้องไปดูไปตรวจสอบความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติงานอย่างมีขวัญกำลังใจมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดูแลแก้ปัญหาในเชิงนโยบาย ซึ่งล่าสุดได้ทำโครงการ “ธนาคารตำรวจ” เป็นโครงการทำแหล่งปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินที่พอกพูนของตำรวจช่วยให้ตำรวจ และครอบครัวตำรวจมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อคุณภาพการทำงานที่ดี

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ กล่าวด้วยว่า ตำรวจมีปัญหาเรื่องกำลังพลที่ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะงานในโรงพัก ในปีนี้ได้เปิดรับนักเรียนนายสิบตำรวจ 5,000 นาย เป็นกำลังพลใหม่เข้ามาเสริมการปฏิบัติงานในโรงพัก  แต่กลุ่มนี้ต้องไปเรียนและฝึกระยะเวลา 1 ปี ครึ่ง จึงจะพร้อมออกมาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลังจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้งดเว้นการเปิดรับนักเรียนนายสิบมาช่วงหนึ่ง ส่งผลให้กำลังพลตำรวจโรงพัก โดยเฉพาะในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1 , ภาค 2 และภาค 7 ขาดแคลน มีอัตราการครองตำแหน่งแค่ 40% เท่านั้น ขณะที่ประชากรในพื้นที่มีเพิ่มขึ้น ดังนั้น ปีนี้มีแนวทางในการรับทหารเกณฑ์ซึ่งปลดประจำการแล้วเข้ามาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจในสัดส่วน 10% ซึ่งกลุ่มนี้จะช่วยร่นระยะเวลาในการฝึก ทำให้สามารถผลิตตำรวจที่มีทักษะความพร้อมออกมาปฏิบัติหน้าที่ในโรงพักได้เร็วขึ้น และลดการโยกย้ายกลับภูมิลำเนาเพราะกลุ่มนี้เน้นการรับทหารเกณฑ์จากคนพื้นที่

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งกำลังตำรวจเข้าไปรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนแทนครูเวร ว่า เรื่องนี้ตนได้มอบหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ไปดูแล้ว ทั้งนี้ หน้าที่ของตำรวจคือการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคน เราคงไม่สามารถเข้าไปดูแลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นพิเศษได้ ซึ่งการดูแลความปลอดภัยโรงเรียนนั้น ตำรวจเราจะเข้าเป็นช่วยดูในลักษณะของการให้คำปรึกษาด้านการดูแลความปลอดภัย โดยต้องร่วมมือกับโรงเรียน อาสาสมัคร อปพร. ภาคสังคมในการช่วยกันดูแล โดยการให้คำปรึกษาอาจเป็นเรื่องการวางระบบการรักษาความปลอดภัย วางระบบกล้องวงจรปิด การประสานงานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เพิ่มความถี่ในการออกตรวจ ไม่ใช่ให้ตำรวจเข้าไปทำหน้าที่แทน 

ต่อมา ผบ.ตร. และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาทรอุทิศ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดย ผบ.ตร. ได้มอบของใช้จำเป็น และเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครู ตชด. และบุคลากรใน รร.ตชด.อาทรอุทิศ ก่อนที่จะไปเยี่ยมเยียนนักเรียนในโรงเรียน ตชด.แห่งนี้ ซึ่งมีอยู่ 44 คน โดย ผบ.ตร.ได้เลี้ยงอาหารกลางวัน เมนูข้าวหมูแดง และร่วมตักอาหารใส่ถาดหลุม และเสิร์ฟอาหารให้แก่เด็ก ๆ ด้วยตัวเอง สร้างความตื่นเต้น เรียกรอยยิ้มสร้างความสุข ให้แก่เด็ก ๆ อย่างมาก โดย ผบ.ตร.ได้มอบเงินเพื่อไว้จัดเลี้ยงไอศครีมแก่เด็ก ๆ ในโรงเรียน ตชด.ด้วย

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ตรวจเยี่ยมดูการจัดห้องเรียน ห้องพยาบาล ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และพื้นที่แปลงเกษตรภายในโรงเรียน ตชด. ได้รับฟังแนวทางการเรียนการสอน การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กนักเรียนและชุมชนโดยรอบ ก่อนร่วมรับประทานอาหารกลางวัน พูดคุย รับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับตำรวจภาค 6 และคณะครู ตชด. อย่างเป็นกันเอง

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ กล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาครู ตชด.ให้มีประสิทธิภาพ โดยจะไปศึกษาแก้ไขระเบียบให้สามารถรับผู้มีวุฒิปริญญาตรีจากบุคคลภาคนอกเข้ามาเป็นครู ตชด.ได้ เพื่อยกระดับคุณภาพของครู ตชด. และโรงเรียน ตชด.ซึ่งมี 222 แห่งทั่วประเทศ

‘วธ.’ ลุ้น!! ‘ภูพระบาท’ เตรียมเข้าสู่วาระบอร์ดมรดกโลกกลางปีนี้ หวัง ‘ยูเนสโก’ ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 67 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อเร็วๆ นี้ รับทราบความคืบหน้าการเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมในประเทศไทย ซึ่งได้รับการบรรจุชื่อในบัญชีชั่วคราว (Tentative List) ขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เพื่อเสนอขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยแหล่งอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี หลังจากที่กรมศิลปากรจัดส่งเอกสารนำเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกฉบับสมบูรณ์ ไปยังศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแล้ว อาจเข้าสู่การพิจารณาในวาระการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ในช่วงกลางปี 2567

รัฐมนตรีว่าการ วธ.กล่าวต่อว่า ส่วนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมอื่นๆ ที่ได้รับการบรรจุชื่อในบัญชีชั่วคราวของยูเนสโก ได้แก่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช, พระธาตุพนม จ.นครพนม และแหล่งอนุสรณ์สถาน แหล่งและภูมิทัศน์วัฒนธรรมเชียงใหม่ ศูนย์กลางล้านนา จ.เชียงใหม่ อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน ตามเกณฑ์ที่ยูเนสโกกำหนด ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมอยู่ในบัญชีเบื้องต้นมากว่า 6-10 ปี ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีข้อแนะนำให้ทั้ง 3 จังหวัดปรับปรุงเนื้อหาของเอกสารให้ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

เนื่องจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาอาจจะมีข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการได้พิจารณาเอกสารขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก ของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่อยู่ในบัญชีชั่วคราว ของยูเนสโก หากแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมใดปรับปรุงเอกสารแล้วเสร็จสมบูรณ์ และผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการแล้ว ก็จะนำเสนอต่อคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทันที

“นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับรายงานจากกรมศิลปากร ภายหลัง ‘เมืองโบราณศรีเทพ’ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม จะต้องส่งรายงานการดำเนินงานของเมืองโบราณศรีเทพเสนอต่อยูเนสโก ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ประกาศขึ้นทะเบียน ‘เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวเนื่อง’ จ.เพชรบูรณ์ เป็นมรดกโลก ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม รวม 4 แห่ง ได้แก่ นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา, เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวารศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชร, แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี และเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์” นายเสริมศักดิ์กล่าว

‘ขร.’ เผย ‘รถไฟฟ้าสายสีแดง’ ทำยอดนิวไฮ 3.5 หมื่นคนต่อเที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ สะท้อน!! แรงตอบรับ 20 บาทตลอดสาย

‘กรมการขนส่งทางราง’ เผย วันศุกร์สิ้นเดือนแรกของปี 67 หลังมีนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย สำหรับสายสีแดงและสายสีม่วง ทำให้มีประชาชนใช้บริการสายสีแดงเพิ่มขึ้นสูงสุด (นิวไฮ) ต่อเนื่องตั้งแต่มีการเปิดให้บริการเดินรถมา เดินหน้า!! เตรียมความพร้อมรถไฟฟ้ารับงานเกษตรแฟร์ 2-10 ก.พ. 67

(27 ม.ค. 67) ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนแรกของปี 2567 หลังจากมีนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ตั้งแต่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการสายสีแดง 35,463 คน/เที่ยว (รวมผู้ใช้รถไฟทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 111 คน/เที่ยว) สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา โดยมีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 1,742,807 คน/เที่ยว ประกอบด้วย

1.) รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการเดินรถไฟ 212 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 83,132 คน/เที่ยว แบ่งเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 29,308 คน/เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 53,824 คน/เที่ยว

2.) รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,659,675 คน/เที่ยว ประกอบด้วย

- รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 224 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 9 เที่ยววิ่ง) จำนวน 77,223 คน/เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง จำนวน 35,463 คน/เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลใช้บริการสายสีแดงฟรี 111 คน/เที่ยว) สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง (นิวไฮ) (รวมทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 145 คน/เที่ยว) (นิวไฮสายสีแดงครั้งก่อนเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 จำนวน 34,719 คน/เที่ยว)
- รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) จำนวน 79,996 คน/เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 488 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 36 เที่ยววิ่ง) จำนวน 512,685 คน/เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยววิ่ง จำนวน 847,525 คน/เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 170 เที่ยววิ่ง จำนวน 7,102 คน/เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 40,479 คน/เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูให้บริการ 384 เที่ยววิ่ง จำนวน 59,202 คน/เที่ยว

ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้มีการจัดระบบฟีดเดอร์ (Feeder) เพื่ออำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางป้อนผู้โดยสารให้กับระบบราง โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง ภายหลังจากได้มีการปรับค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายแล้ว พบว่า มีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการในปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง จึงมีแนวทางเพิ่มศักยภาพจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญต่างๆ ที่ควรนำมาใช้อำนวยความสะดวก อาทิ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และ ศิริราช ตลอดจนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต่อไป

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสาน บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่จะมาร่วมงานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 2-10 กุมภาพันธ์ 2567 โดยใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานีบางเขน และรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากดังเช่นปีที่ผ่านมา

‘สเปน’ เผชิญ ‘ฤดูหนาวอบอุ่น’ ผลพวงจากอากาศแปรปรวน หลังอุณหภูมิพุ่งสูง 30 องศาฯ แดดแรงระอุเหมือนหน้าร้อน!!

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 67 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานถึงสถานการณ์สภาพอากาศแปรปรวนใน ประเทศสเปน หลังอุณหภูมิในช่วงฤดูหนาว อบอุ่นขึ้น จนหลายพื้นที่ระอุเกือบ 30 องศาเซลเซียส และสถานีอุตุนิยมวิทยาราว 400 แห่ง หรือเกือบครึ่งของทั้งประเทศวัดอุณหภูมิได้เกิน 20 องศาเซลเซียส

โฆษกสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นถือเป็นความผิดปกติเพราะเป็นอุณหภูมิช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนในเดือน มิ.ย. พร้อมเปิดเผยว่า อุณหภูมิสูงสุด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา วัดได้ 29.5 องศาเซลเซียสในแคว้นบาเลนเซีย ทางตะวันออก

ขณะที่แคว้นมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ วัดได้ 28.5 องศาเซลเซียส และใกล้ๆ เมืองมาลากาในแคว้นอันดาลูซิอา ทางตอนใต้ วัดได้ 27.8 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ตอนกลางคืนก็อุ่นกว่าปกติ รวมถึงพื้นที่สกีรีสอร์ทใกล้กรุงมาดริดซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,900 เมตร และปกติจะมีหิมะปกคลุมในช่วงเวลานี้ของปี แต่เมื่อค่ำวันพุธที่ 24 ม.ค. กลับวัดอุณหภูมิได้ 10 องศาเซลเซียส

อากาศร้อนในช่วงฤดูหนาวมีสาเหตุมาจาก แอนติไซโคลน เหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นายเดวิด คอเรลล์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบาเลนเซีย กล่าวว่า “ยังไม่มีการศึกษาที่ประเมินแนวโน้มระยะยาวของเหตุการณ์ประเภทนี้ แต่เป็นที่แน่ชัดว่าเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ผิดปกติประเภทนี้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ”

ก่อนหน้านี้ สเปนเพิ่งเผชิญหน้ากับอุณหภูมิในเดือน ธ.ค. ที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 29.9 องศาเซลเซียสในเมืองมาลากา ความร้อนดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางภัยแล้งที่ยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะแคว้นคาตาโลเนีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และแคว้นอันดาลูเซีย ทางตะวันตกเฉียงใต้

ในเมืองบาร์เซโลนา เมืองหลวงของคาตาโลเนีย มีระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงเมื่อกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และเหลือประมาณร้อยละ 17 ของความจุ หากลดลงต่ำกว่าร้อยละ 16 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น แคว้นคาตาโลเนียจะเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน

‘ปิยบุตร’ ชำแหละ ‘ก้าวไกล’ ไร้เงา 112 ส่งสัญญาณ ‘หมอบ’ ก่อน 31 มกราคม

(27 ม.ค. 67) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล’ ในหัวข้อ ‘กรณีก้าวไกลกับการแก้ 112’ โดยระบุว่า…

ผมมีส่วนร่วมในการตั้งพรรคอนาคตใหม่มา ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมา ยืนยันว่า การเมืองต้องผสมผสานอุดมคติของเรากับสภาพความเป็นจริงทางการเมือง มีรุก มีถอย ตามการประเมินสถานการณ์

ผมเอง ก็เคยถอย มาหลายครั้ง เพื่อองค์กร เพื่อการเดินหน้าตามสถานการณ์ เรื่องพรรค์นี้ คือ การประเมิน ไม่มีอะไรถูกร้อย ไม่มีอะไรผิดร้อย

ดังนั้น การวิจารณ์จังหวะก้าวของพรรคการเมือง จึงอาจมีผู้เห็นด้วย มีผู้เห็นต่าง คนทำพรรค อาจไม่เห็นด้วยกับข้อวิจารณ์ นับเป็นเรื่องปกติ

ผมไม่เห็นด้วยกับการแถลงการณ์แผนการพรรคก้าวไกลในปี 2567

ผมเข้าใจดีว่า ทีมงานของพรรคต้องการจัดแถลงการณ์นี้ขึ้นมา เพื่อต้อนรับการกลับมาของพิธา แต่เมื่อผมเห็นเนื้อหาทั้งหมดแล้ว ผมเห็นว่า… ผิดพลาด โดยเฉพาะ แผนเสนอร่าง พ.ร.บ.47 ฉบับ โดยไม่มีร่างแก้ไข 112

พรรคอาจไม่ได้คิดว่าต้องพูดเรื่องนี้ แต่สื่อเขาคิด และสื่อถาม จี้ ขยายผลว่า สรุป 47 ฉบับในปี 67 ไม่มีแก้ 112 ใช่มั้ย?

กรณีนี้ ส่งผลอย่างไร?

1.) ย้ำความคิดว่า เราต้องยอมรับให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาอยู่เหนือฝ่ายนิติบัญญัติ การเสนอร่างกฎหมาย ต้องฟังว่าศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไร?

2.) การไม่เสนอ และพูดว่าไม่เสนอ เพราะ รอศาลรัฐธรรมนูญ เสมือนกับส่งสัญญาณ ‘หมอบ’ ก่อนคำวินิจฉัยในวันที่ 31 นี้

3.) หากพรรคก้าวไกลคิดแบบเฉลียวเจ้าเล่ห์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องแถลงในวันนี้เลย อดใจรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 31 ม.ค. นี้ก่อนก็ได้ เผื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะหา ‘ทางลง’ ให้พรรคก้าวไกล ด้วยการตีกรอบการแก้ 112 ไว้

ต่อไป พรรคก้าวไกลก็พูดตอบประชาชนโหวตเตอร์ได้ว่า แก้ 112 ไม่ได้ เพราะแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญบอกไว้

ผมไม่ได้ไร้เดียงสา ถึงขนาดว่าจะต้องแก้ 112 ให้ได้ จะต้องทำเรื่องนี้อย่างเดียว โดยไม่ต้องทำเรื่องอื่น

ผมตระหนักดีถึงการรุก/รอ/ถอย แต่ผมเห็นว่า การเคลื่อนตลอดสัปดาห์นี้ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.ที่ศาลจะตัดสิน ที่ทำๆกันนั้น ไม่ได้คิดประเมิน รุก ถอย บริหารจัดการความคาดหวังคนเลือก แต่มุ่งไปในทิศทาง ‘หมอบ’ เสียมากกว่า ด้วยคิดว่าจะช่วยทำให้รักษาพรรคได้

แล้วพอเป็นแบบนี้ ก็เข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่เขารอ ‘เอาคืน’ จากการที่พวกเขาถูกหาว่า ‘ตระบัดสัตย์’

ผมคาดเดาไว้แล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยแบบใด…

ผมได้แต่หวังว่า คณะผู้นำพรรคก้าวไกลทั้งหมด จะประเมินเรื่องทั้งหมดให้รอบด้าน โดยมิได้ตั้งเป้ารักษาพรรค และกรรมการบริหารพรรค จนถึงขนาดต้องแลกกับทุกอย่าง

ผมคาดหวังว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแล้ว จะได้ยินเสียงการวิจารณ์จากพรรคก้าวไกลบ้าง หากพรรคก้าวไกลไม่วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญเลย ผมจะออกมาวิจารณ์พรรคก้าวไกลเป็นคนแรกๆ แน่นอน

และผมจะวิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ตามปกติครรลองของกระบวนวิชาการตามที่ผมฝึกฝนมา

ปล. ดักคอกองเชียร์พรรคก้าวไกลไว้ก่อน ที่จะมาด่าว่า ทำไมผมไม่ไปบอกก่อน ไม่คุยภายใน ผมไม่รู้เรื่องที่พวกเขาทำกัน ผมเป็นคนนอก รู้เรื่องก็จากการอ่านข่าว รู้พร้อมๆ กับประชาชนคนทั่วไปที่ดูจากสื่อนั่นแหละ

‘นายกฯ’ จีบทูตอิตาลี ช่วยดันไทย เข้าวีซ่าเชงเกน พร้อมถกความร่วมมือ หลังโรมสนใจลงทุนใน EEC

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 67 ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตฯ ทักทายพร้อมแสดงความยินดีที่ได้พบ ทั้ง 2 ฝ่ายยินดีกับความสัมพันธ์ไทย-อิตาลี ต่างเห็นพ้องว่า ต่างฝ่ายมีซอฟต์พาวเวอร์ที่เข้มแข็ง อาทิ อาหารของไทย และการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ของอิตาลี ทั้ง 2 ประเทศต่างมีศักยภาพ และสามารถร่วมมือกันได้ นายกรัฐมนตรีหวังที่จะได้นำคณะไปเยือนอิตาลีในอนาคตอันใกล้ เพื่อเดินหน้าความร่วมมือ รวมถึงด้านการค้าและการลงทุนให้ใกล้ชิดและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

โอกาสนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายหารือประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า อิตาลีถือเป็นประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมการเกษตรในยุโรป และเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่ใหญ่ในยุโรป และกำลังต้องการแรงงานเกษตรกรอย่างมาก โดยเฉพาะเกษตรกรไทย เป็นแรงงานที่มีทักษะ และขยันตั้งใจ (Hard worker) นายกรัฐมนตรียินดีและพร้อมร่วมมือกับอิตาลี ความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายอย่างมาก

นอกจากนี้ อิตาลีให้ความสนใจลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) อย่างมาก เมื่อปีที่ผ่านมาเอกอัครราชทูตฯ เป็นผู้นำคณะผู้แทน EEC ของไทยไปยังกรุงโรม ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทางอิตาลี นายกรัฐมนตรียินดีและพร้อมเดินหน้าเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านนี้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ภาคเอกชนอิตาลีให้ความสนใจและอยากรับทราบข้อมูลโครงการ ‘แลนด์บริดจ์’ นายกรัฐมนตรีพร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายและโครงการต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อศักยภาพ และโอกาสในการลงทุนของภาคเอกชนต่อโครงการนี้

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอการสนับสนุนจากอิตาลี เรื่องการขอยกเว้นการตรวจลงตราให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย ในการเดินทางเข้าเขตเชงเกน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการไปมาหาสู่ระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โดยนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีและชาวไทยต่างเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีของกัน ไทยจึงหวังจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากอิตาลีมายังประเทศไทยมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี ยังได้โพสต์ข้อความว่า “ได้พูดคุยหารือกับ H.E. Mr. Paolo Dionisi เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย กันถึงเรื่องความร่วมมือกันในหลายมิติอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน Soft Power ที่ทั้ง 2 ประเทศต่างมีศักยภาพ ท่านทูตเล่าให้ฟังว่าอิตาลีมีโรงเรียน Design and Creativity ที่มีชื่อเสียงหลายที่ครับ ซึ่งไทย-อิตาลีสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ได้ นอกจากนี้ อิตาลียังมีความต้องการแรงงานด้านการเกษตรของไทย เพราะมีทักษะและขยันตั้งใจอีกด้วยครับ”

‘เพจหมอแล็บแพนด้า’ เผย ห่วงนักเรียนถูกครูทำโทษพิสดาร ใช้เข็มเล่มเดียวกันทิ่มปากเด็กทั้งห้อง ชี้!! เสี่ยงติดเชื้อหลายโรค

(27 ม.ค. 67) จากกรณี ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าแจ้งความหลังถูกครูผู้หญิงลงโทษโดยการใช้เข็มทิ่มปากยกชั้นเรียน เนื่องจากเด็กนักเรียนกินหมากฝรั่งกันในห้องแล้วคายทิ้งไม่เป็นที่ ครูเข้ามาในห้องเรียนแล้วเหยียบหมากฝรั่ง จึงนำเข็มทิ่มปากเด็กทุกคนจนเป็นแผล

ล่าสุด ทางเพจ ‘หมอแล็บแพนด้า’ หรือ ‘ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน’ นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ถึงความเสี่ยงที่จากการใช้เข็มร่วมกัน โดยระบุว่า…

“อะไรครับเนี่ย!! เสี่ยงติดเชื้อนะครับครู ถ้าเป็นจริงก็แปลกประหลาดมาก เด็กเล่าว่า ครูลงโทษเด็ก ป.2 พิสดาร ด้วยการเอาเข็มเล่มเดียวกันทิ่มปากเด็กนักเรียน 30 กว่าคน!!

อันตรายมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าเด็กบางคนกำลังติดเชื้ออะไรอยู่รึเปล่า ซึ่งพวกไวรัสมันมักจะแฝงตัวอยู่ในร่างกาย แต่ยังไม่แสดงอาการให้เห็น ก็เหมือนการบริจาคเลือดนั่นแหละครับ ดูสุขภาพดีทุกคนตอนมาบริจาค แต่พอตรวจแล็บปุ๊บ รู้เลยว่าใครติดเชื้ออะไรบ้าง

ทีนี้เชื้อไวรัสมันส่งต่อผ่านเลือดจากการใช้เข็มร่วมกันได้น่ะสิ ทั้ง เอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี CMV HTLV WNV เชื้อแบคทีเรียก็มี อย่างเช่น ซิฟิลิส และเชื้อโรคอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่ติดมากับเลือดคนก่อนหน้า

เอาไงกันดีล่ะทีนี้ สงสัยต้องพาเด็กไปตรวจ HIV HBV HCV ก่อนเลยรอบนึง ด้วยวิธี PCR และตรวจซ้ำอีกภายใน 1 เดือน เพื่อยืนยันอีกรอบ หัวจะปวดเลย แค่เด็กทิ้งหมากฝรั่งแล้วครูไปเหยียบเข้า"

‘นายกฯ’ โชว์ภาพสบายๆ อุ้ม ‘เจ้าเฉาก๊วย’ สุนัขตัวโปรด พร้อมบอก “ลงพื้นที่บ่อยจนน้อยใจ ต้องอ้อนให้หายคิดถึง”

(27 ม.ค. 67) หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้เดินทางลงพื้นที่ และประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในเวทีต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งนั้น

ล่าสุดนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin’ ขณะยืนอุ้มสุนัขตัวโตสีดำอยู่ภายในบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมระบุข้อความว่า…

“ลงพื้นที่บ่อยจนเฉาก๊วยน้อยใจครับ เลยต้องอ้อนให้หายคิดถึงซักหน่อย”

อิริยาบถสบายๆ ของนายกฯ ดังกล่าวถูกแชร์ และมีผู้เข้าไปคอมเมนต์เป็นจำนวน ส่วนใหญ่ให้กำลังใจนายกฯ รวมทั้งฝากไปยังเจ้าเฉาก๊วยด้วย อาทิ

- “สนุกกับงานนะคะท่านนายกฯ”
- “พักผ่อนครับท่านนายก”
- “น่ารักกกค่ะ”
- “เฉาก๊วยอบอุ่นขึ้นมาเลยนะคะ”
- “น้องเฉาก๊วยอ้อนน่ารักค่ะ มีความสุขนะคะท่านนายก”
- “น่ารักจ้าท่านนายก”

63 ครอบครัว ‘แม่เมาะ’ เฮลั่น!! ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ช่วยได้ ประสาน กฟผ.เยียวยาเงินค่าที่ดินทำกิน 72 ล้านบาท 31 ม.ค.นี้

(27 ม.ค. 67) นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนและเข้าช่วยเหลือชาวบ้านพื้นที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เขตพื้นที่บ้านห้วยคิง 62 ครอบครัว และ ชาวบ้านเวียงหงศ์อีก 1 ครอบครัว รวม 63 ครอบครัว ที่มีความประสงค์จะรับเงินเยียวยาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ทั้งนี้ เนื่องจากมีมติ ครม.ปี 2562 ที่ นร. 0505/15899 ลงวันที่ 2 พ.ค.2562 มีมติไม่ขัดข้องที่จะจ่ายเงินเยียวยยา ค่าที่ดินทำกิน 72 ล้านบาท (เป็นค่าที่ดิน สิ่งปลูกสร้างเต็มจำนวน)

นางศิริวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องได้ดำเนินจาก กฟผ.ไปยัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตามเลขที่หนังสือ กฟผ. s520A0/76526 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2566

จึงขอความอนุเคราะห์ได้นัดวัน เวลา เพื่อไปยื่นเรื่องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยมีนางศิริวรรณ และ ดร.นงค์เยาว์ อาทิตยานนท์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 3 ลำปาง เป็นผู้พาไปยื่นหนังสือดังกล่าว

นางศิริวรรณ กล่าวว่า ล่าสุด กฟผ.พร้อมที่จะเยียวยาเงินจำนวน 72 ล้านบาท ให้กับบุคคลในพื้นที่จำนวน 63 ราย และจะมีการมอบเช็คจำนวนเงินดังกล่าว ให้แก่ชาวบ้านในวันที่ 31 มกราคม 2567 นี้ เวลา 9.00 น.

‘ไทย’ ครองแชมป์!! ยอดนักท่องเที่ยว 28.09 ล้านคน เพิ่มขึ้น 153% สูงเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน

(27 ม.ค. 67) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ร่วมประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 27 (ASEAN Tourism Forum : ATF 2024) ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีนางสวนสวรรค์ วิยะเกต รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว เป็นประธานการประชุมร่วมกับ นายเตียง คิง ซิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม สหพันธรัฐมาเลเซีย

โดยรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน 10 ประเทศ ได้ร่วมแสดงเจตนารมณ์ ที่จะฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ รับผิดชอบ และยั่งยืน มุ่งเน้นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของอาเซียน และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ผ่านการดำเนินกิจกรรมภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปี 2559 – 2568

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจที่ได้จากการประชุม พบว่าในปี 2566 ตัวเลขท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียน มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพิ่มขึ้น 153% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า โดยแคมเปญการตลาดในปี 2566 ทั้ง 2 แคมเปญ ได้แก่ แคมเปญ ‘imag in ASEAN’ และแคมเปญฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมมากถึง 2,500 ล้านคนทั่วโลก

ทั้งนี้ ยังได้รับทราบรายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวปัจจุบัน ของประเทศสมาชิกอาเซียน มีดังนี้

- ประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสูงสุดในปี 2566 จำนวน 28.09 ล้านคน เพิ่มขึ้น 153.94% จากปีก่อนหน้าที่มี 11.06 ล้านคน
- เวียดนาม มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 12.06 ล้านคน เพิ่มขึ้น 344.2% จากปีก่อนหน้าที่มี 3.66 ล้านคน
- สิงคโปร์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 130% จากปีก่อนหน้ามี 5.37 ล้านคน
- กัมพูชา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.45 ล้านคน เพิ่มขึ้น 139.5% จากปีก่อนหน้ามี 2.27 ล้านคน
- ฟิลิปปินส์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.45 ล้านคน เพิ่มขึ้น 105.38% จากปีก่อนหน้ามี 2.65 ล้านคน
- บรูไน มีนักท่องเที่ยว 82,109 คน เพิ่มขึ้น 345.61% จากปีก่อนหน้ามี 18,426 คน

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้ติดตามมาตรการและกิจกรรมภายใต้แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวอาเซียน ภายหลังโควิด-19 ได้ดำเนินการไปแล้ว หรือกำลังดำเนินการอยู่ผ่านแผนปฏิบัติการภายใต้แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวอาเซียนฯ ถึง 60% จึงได้ส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทบทวนกิจกรรมสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมเหล่านี้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปี 2559-2568 และข้อริเริ่มสำคัญอื่นๆ

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการดำเนินการกิจกรรม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปี 2559-2568 ตลอดจนประเด็นสำคัญอื่น ๆ ในปี 2566-2567 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวที่รวดเร็วของภาคการท่องเที่ยวในอนาคต ให้สอดคล้องกับแนวทาง ‘การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบ : มุ่งสู่อนาคตอาเซียนที่ยั่งยืน’ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าการท่องเที่ยวอาเซียนจะมีความสามารถในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง และยั่งยืน

สำหรับ ในปี 2568 การประชุมด้านการท่องเที่ยวอาเซียน จะจัดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม 2568 ภายใต้หัวข้อ ‘Unity in Motion : Shaping ASEAN’s Tourism Tomorrow’ โดยมีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top