เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.66) จากช่องยูทูบ Nickynachat ซึ่งเป็นช่องของ ‘นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์’ ล่าสุดได้เชิญ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ มาเปิดใจและเล่าถึงชีวิต ‘4 ปีในเรือนจำกับเรื่องที่ไม่กล้าพูดที่ไหนมาก่อน’ โดยช่วงหนึ่งของรายการ ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ ได้ระบุว่า..
ผมรู้จัก ‘ไซซะนะ’ เจ้าพ่อยาเสพติดชาวลาวจากข่าว…ซึ่งผมก็นั่งดูข่าว ก็คิดว่าใครคือ ไซซะนะ แต่คนก็ดันคิดไปแล้วว่าเบนซ์กับไซซะนะเป็นเครือข่ายเดียวกัน เวลาไปไหนมาไหน เจอใครก็แล้วแต่ หรือเวลาขับรถเข้าด่านตรวจ ก็จะเกิดเหตุการณ์ที่ อ๋อ…นี่ไง เบนซ์ ไซซะนะ
หากถามว่าเจ็บไหม? คือ มันเหนื่อยที่จะอธิบายแล้ว และการที่มาพูดวันนี้ คนอาจจะคิดว่ามาแก้ตัวหรือเปล่า? คือมันพูดไปแล้วก็ไม่ได้อะไร และจริงๆ อยากจะบอกว่า สิ่งที่สื่อเขานําเสนอไปมันไม่ใช่ความจริงเลย
โดยสื่อได้เสนอออกไปประมาณว่า ไซซานะเชื่อมโยงรถหรูลัมโบร์กีนี และฟอกเงินอะไรแบบนี้…แต่ในเอกสารคดีของผม 4-5 พันแผ่น ที่มีการอ่านครบทุกแผ่น ปรากฏว่าเอกสารทั้งหมดนี้ไม่มีรายชื่อ ‘ไซซะนะ แก้วพิมพา’ เลย ซึ่งอันนี้เราไม่ได้โทษสื่อนะ ว่าเขามาออกข่าวแกล้งเราหรือเปล่า อาจจะเป็นการที่เขาได้ข้อมูลมาแบบนั้น
เพราะเรื่องส่วนตัวที่มีความเชื่อมโยงกับผม คือ ‘นายบอย นาคคำ’ ซึ่งเป็นเครือข่ายของไซซะนะ โดยได้มีการเอาลัมโบร์กีนีมาฝากไว้กับบอย เผื่อเวลาเขามาเที่ยวเมืองไทยก็เอาไปรับเขา แต่ในความเป็นจริงคือผมก็ขายรถคันเก่ามา แล้วก็ไปดาวน์ แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับไซซะนะที่เอารถมาฝาก
ส่วนคดีที่โดนจับ จริงๆ นั้น แม้ต้นเรื่องที่ทุกคนเขาฟังจะเรื่องยาเสพติด เช่น มันต้องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือมีการซื้อขายยาเป็นเครือข่ายข้ามชาติอะไรก็แล้วแต่ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเลยถ้าจะให้มาสรุป มันเป็นแค่ ‘เส้นทางการเงิน’
ต้องบอกว่าตั้งแต่เริ่มต้นคดีนี้ ผมไม่เคยถูกจับ และถูกจับคืออะไร…ออกข่าวแล้วตำรวจมารอรวบใส่กุญแจมือ ซึ่งผมไม่เคยถูกจับแบบนี้ ตํารวจไปที่บ้านจริง แต่ไปเพื่อตรวจค้นหาพยานหลักฐาน และผมก็ติดต่อไปว่าเดี๋ยวจะเข้าไปให้การ จากนั้นเราก็เข้าไปให้ข้อมูลกับเขา แล้วเขาก็ปล่อยให้เรากลับบ้าน ซึ่งเราก็ให้ความร่วมมืออย่างดีมาตลอด
แต่จุดที่มันเชื่อมต่อกันจริงๆ มันเป็นแค่เรื่องเส้นทางการเงินจากคนที่มาซื้อขายรถกับเรา แล้วเขาไปโดนจับเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้นเลยกลายเป็นว่าเงินที่โอนมาเป็นเงินค่ายาเสพติด
ซึ่งผมถามหน่อยว่า เวลามีลูกค้าที่แต่งตัวเต็ม ทรงใส่ทอง ซึ่งดูก็รู้ว่าทรงเอแน่ และอยากจะได้รถสักคันหนึ่ง แล้วผมจะถามว่า เอ่อ…คุณพี่ครับ คุณพี่ทํางานอะไร? ถ้าเกิดว่าทํายาเสพติดผิดกฎหมาย ผมไม่ขายให้นะ ... เรากล้าถามเขาไหม? แล้วเขาจะมาบอกเราไหม? ดังนั้น แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไง…
เมื่อถามว่าได้ชี้แจงแบบนี้ไหม? ผมชี้แจงตั้งแต่ยังไม่ได้ถูกจับอะไรเลย เอกสารผมมีทุกอย่าง ความรู้สึกตอนนั้นมันงงไปหมดเลยว่าเกิดอะไรขึ้น? เพราะไม่เคยมีคดีความอะไรสักอย่าง ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนทางกฎหมายเลยว่าเราจะต้องสู้คดี และอัยการคืออะไร ซึ่งเคยได้ยินแต่ก็ไม่เคยรู้จักเลยว่าเขาทําหน้าที่อะไร ส่วนในคดีของผม เขาแจ้งเป็น 2 ฐานความผิด คือเรียกว่า 1 คดี แต่ทําผิด 2 มูลฐาน
...ซึ่งในข่าวตอนนี้ อาจจะพูดไปทํานองว่า ‘สมคบยาเสพติด’ หากถามว่าคืออะไร…ถ้าตามมาตรากฎหมาย คือ สมคบกันกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ก็คือว่าแบ่งหน้าที่กัน เช่น นิกกี้ไปเปิดบ้านเก็บงานนะ เดี๋ยวผมให้ลูกน้องไปรับงานจากข้างบน แล้วเดี๋ยวน้องคนนี้เปิดบัญชีรอรับ ซึ่งนี่คือ การสมคบกัน โดยไม่จําเป็นต้องรู้จักกัน และกฎหมายตัวนี้มันทํามาเพื่อครอบคลุม
เมื่อก่อนจะไม่มีกฎหมายตัวนี้ การที่จะไปจับนายทุนยาเสพติด มันจับเขาไม่ได้ เพราะมันไม่มียา เพราะว่าพอมาจับปุ๊บ แล้วเขาบอกไม่มียา จะมาจับผมเรื่องอะไรอีก
แถมยังมีศัพท์ ‘นักบิน’ ที่ฟังดูเหมือนเป็นอาชีพที่ดีนะ แต่นักบินในที่นี้จะเรียกคนที่ ‘ลำเลียงยาเสพติด’ เขาจะว่าเรียกนักบินกัน สมมติไปรับงานจากภาคเหนือ ในขั้นตอนในการลําเลียงก็จะแบ่งเป็นพาหนะสัก 3 คัน ไว้ทําอะไรบ้างรู้ไหม … คันแรกดูต้นทาง ก็ขับเซอร์เวย์ไปเลย วิ่งทิ้งระยะไปเลย กี่กิโลๆ ว่ามีด่านหรือไม่มีด่าน แล้วทุกคนจะเสียบหูฟังพร้อมสแตนด์บาย…
ก็เรียกว่าเป็นอีกความในใจของ เบนซ์ เรซซิ่ง ที่วันนี้ได้ออกมาเผยแบบหมดเปลือก ซึ่งคนดูคนฟังก็คงต้องลองใช้วิจารณญาณในการพิจารณาตัดสินกันตามความเหมาะสม