Sunday, 8 June 2025
NewsFeed

‘โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์กรุงเทพฯ’ จัดพิธีไหว้ครูประจำปี 66 แม้สอนโดยครูชาวต่างชาติ แต่ไม่ละทิ้งวัฒนธรรมอันดีของไทย

โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์กรุงเทพฯ ได้จัดพิธีไหว้ครูประจำปีการศึกษาในวันที่ 14 กันยายน 2566 ภายใต้ธีม ปลูกฝังจิตสำนึกความกตัญญูในการศึกษาแบบโรงเรียนนานาชาติที่สอนโดยครูชาวต่างชาติ

การจัดงานวันไหว้ครู ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณครูและนักเรียนทุกคนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมไทยซึ่งได้มีการจัดขึ้นในทุกๆ ปี

โดย มร.แอนดี้ เอ็ดมอนด์ ครูใหญ่ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับคุณครู นักเรียนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ ตลอดจนกล่าวถึงความสำคัญของพิธีไหว้ครู เนื่องจากรีเจ้นท์เป็นโรงเรียนนานาชาติ ที่มีนักเรียนชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินทางมาจากทั่วโลกเพื่อศึกษาจนจบระดับชั้น Year 13 นอกจากชาวไทยแล้วเรายังมีนักเรียนชาวอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อาร์มีเนีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ

ปัจจุบันผู้ปกครองไทยนิยมส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติมากขึ้น คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ เด็กๆ จะยังคงธำรงวัฒนธรรมไทยอันดีงามอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะความเคารพและกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ

วันนี้จะพาไปดูโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ที่มีความห่วงใยถึงเรื่องการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ความกตัญญู ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่งดงาม จากการจัดพิธีไหว้ครู มอบพานดอกไม้ พวงมาลัย เพื่อแสดงถึงความเคารพนอบน้อมด้วยความรักที่มีต่อคุณครูทุกท่าน

ชมภาพบรรยากาศภายในงานที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เเละความซาบซึ้งใจต่อพระคุณครู ได้ที่ >>> https://youtu.be/nU9hMfZBAKU?si=w1hwlK6m6ONLs1rI

'ดร.สุวินัย' เชื่อ!! หาก 'ชัยธวัช' นั่งหัวหน้า ก็เพื่อรอการกลับมาของ 'ธนาธร' เตรียมคืนชีพ 'อนาคตใหม่' ดันแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' เต็มสูบ

(19 ก.ย.66) ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Suvinai Pornavalai' ถึงกรณีหากพรรคก้าวไกลเลือก 'ชัยธวัช ตุลาธน’ นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า...

อันที่จริงนี่คือ การตระเตรียมคืนชีพ 'พรรคอนาคตใหม่' แบบเต็มตัวด้วยการยืนกรานผลักดันการแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' โดยถือเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคที่สำคัญที่สุด

การผลักดัน ชัยธวัช เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อจากพิธา จึงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ก้าวไกลที่ยอมสละโอกาสเป็นรัฐบาลและพิธาเป็นนายกฯ เพราะไม่ยอมถอยการแก้ ม.112 ออกจากนโยบายหลักของพรรค

อนึ่ง ชัยธวัช คือผู้ร่วมก่อตั้งนิตยสารฟ้าเดียวกัน ร่วมกับธนาธร ชัยธวัชเป็นมือขวาของธนาธร และเป็นร่างทรงของธนาธรด้วย

ทุก move ของก้าวไกลที่ผ่านมา ล้วนอิงกับยุทธศาสตร์ล้มเจ้าของพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น

ถ้าก้าวไกลจะเอาความนิยม ควรต้องเลือกโรมเป็นหัวหน้าพรรค แต่นี่กลับเลือกชัยธวัช ที่ไร้เสน่ห์ดึงดูดสาวกสาว ๆ มันชัดเจนว่า ขัดตาทัพเพื่อรอธนาธรกลับมานำพรรคเท่านั้น

คุณแม่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ เปิดวาร์ปละครเรื่องแรกที่ลูกสาวเล่น โซเชียลเอ็นดู พร้อมยกนิ้วให้!! ‘การแสดงสีหน้า-แอ็กติ้ง’ เลิศตั้งแต่เด็ก

(19 ก.ย. 66) ปิดฉากการเดินทางอันยาวนานกับคอนเสิร์ต World Tour สาวๆ BLACKPINK ซึ่งยังไม่ได้ออกมายืนยันหรือแถลงการณ์ว่า จะต่อหรือไม่ต่อสัญญากับค่ายวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์จนเกิดเสียงลือแว่วไปทั่วโลกว่า อาจมีการไม่ต่อสัญญามากกว่า 1 คน หากเป็นข่าวลือเป็นจริงจะมีผลกระทบใหญ่กับอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีกระแสไวรัลในโลกออนไลน์เลยทีเดียวที่ชาวทวิตเตอร์ต่างแชร์คลิปวิดีโอพรีเดบิวต์ของสาวลิซ่า ลลิษา มโนบาล ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก BLACKPINK ซึ่งเคยมีผลงานด้านการแสดงละครมาก่อน

โดยการแชร์ครั้งนี้เกิดจาก คุณแม่ของลิซ่าได้โพสต์คลิปวิดีโอ ‘ผลงานละครเรื่องแรก’ ผ่านทางไอจีสตอรี่ เผยวินาทีหญิงตัวน้อยช้อนตามองกล้องให้ดูน่าสงสารพร้อมพูดว่า หนูหิว ซึ่งเรื่องราวของละครเรื่อง เจ้าหญิงขอทาน ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ในปี 2550

งานนี้ ทำหลายๆ คนสงสัยว่า เอ้ะ นี่จะเป็นละครเรื่องแรกของสาวลิซ่าหรือเปล่านะ ทำให้บลิ๊งค์แต่ละคนพร้อมใจกันย้อนกลับไปชมและตัดคลิปช่วงที่เด็กหญิงที่ลักษณะคล้ายลิซ่าแสดงละครทั้งเต้น แอ็กติ้ง และการแสดงสีหน้า เรียกได้ว่าปังตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว เป็นเหตุให้หลายๆ คนอยากให้สาวลิซ่าลองงานแสดงดูบ้าง

‘ปูติน’ เตรียมเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง พบ ‘สี จิ้นผิง’ ตุลาฯ นี้ นับเป็นทริปนอกประเทศครั้งแรก หลังถูก ‘ไอซีซี’ ออกหมายจับ

(19 ก.ย. 66) ทางการรัสเซียประกาศแล้วว่าประธานาธิบดี ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ของรัสเซีย จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดี ‘สี จิ้นผิง’ ของจีน ซึ่งจะนับเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกเท่าที่รับรู้ของปูติน หลังจากที่เขาถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ออกหมายจับในข้อกล่าวหา ‘ก่ออาชญากรรมสงคราม’ จากการเนรเทศเด็กๆ ชาวยูเครนไปรัสเซีย

“ในเดือนตุลาคม เราตั้งตารอการเจรจาทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในกรุงปักกิ่ง” นายนิโคไล ปาทรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซีย กล่าวถึงแผนการเยือนดังกล่าว หลังการหารือกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ที่กรุงมอสโก

นายปาทรูเชฟ กล่าวอีกว่า รัสเซียต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีน “รัสเซียมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนให้ก้าวหน้า” พร้อมเสริมว่ามหาอำนาจทั้งสองเป็นหุ้นส่วนและมีความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างกัน

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีปูตินจะมาร่วมการประชุมความริเริ่มแถบและเส้นทางครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่ง ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี ที่มีขึ้นในระหว่างที่ผู้นำจีนเดินทางเยือนกรุงมอสโก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้าที่นายสีจะเดินทางเยือนมอสโกในครั้งนั้นเพียงไม่กี่วัน ศาลไอซีซี ได้ออกหมายจับปูติน กรณีการเนรเทศเด็กชาวยูเครนจำนวนหลายร้อยคนจากยูเครนไปรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัสเซียปฏิเสธ

'ดร.เสรี' เปิดไทม์ไลน์ 'เมืองโบราณศรีเทพ' หลังได้ขึ้นบัญชีมรดกโลก ถูกเสนอไว้ตั้งแต่ปี 62 ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลประยุทธ์

(20 ก.ย.66) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร ได้เผยถึงจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เมืองโบราณศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลก ไว้ว่า...

เกี่ยวกับ 'เมืองโบราณศรีเทพ' มรดกโลกแห่งใหม่ของไทย อยากให้พวกเราได้ข้อมูลที่ถูกต้องนะคะ

รัฐบาลไทย (รัฐบาลลุงตู่) ได้เสนอเมืองโบราณศรีเทพขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกในอนาคต เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2562

หลังจากนั้น ได้ทำข้อมูลที่สมบูรณ์ส่งให้คณะกรรมการของ UNESCO เมื่อ 28 กุมภา 2565

คณะกรรมการมาตรวจสอบ กันยายน 2565 เพื่อพิจารณาพื้นที่และองค์ประกอบว่าสอดคล้องกับเอกสารหรือไม่ มีคุณค่าสำหรับชาวโลกหรือไม่ มากน้อยเพียงใด สมควรที่ชาวโลกจะช่วยกันอนุรักษ์หรือไม่

หลังจากนั้น มาถึงวันนี้ การทำงานของรัฐบาลลุงตู่ก็ประสบความสำเร็จ นั่นคือ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียน อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นแหล่งมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานทวารวดีที่เกี่ยวเนื่อง (The Ancient Town of Si Thep and its Associated Dvaravati Monuments) 

>> ผลงานของลุงตู่ ได้รับการประกาศความสำเร็จเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 (ในสมัยของรัฐบาลเศรษฐา)

จึงเรียนให้ทุกคนทราบนะคะ ว่ากว่าเมืองโบราณศรีเทพจะได้เป็นแหล่งมรดกโลกใช้เวลา 4 ปีกว่านะคะ ไม่ใช่ 2 เดือนนะคะ

งานนี้เริ่มสมัยลุงตู่ เป็นผลงานของรัฐบาลลุงตู่นะคะ FYI สำหรับคนไทยทุกคนที่ดีใจกับการที่ประเทศไทยมีแหล่งมรดกเพิ่มอีก 1 แหล่งนะคะ

‘สกุลธร’ น้องชายธนาธร ให้การปฏิเสธทุกข้อหา ยัน!! ขอสู้คดี ปมติดสินบน 20 ล้าน-เช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 ที่ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชัน ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เป็นจำเลยซึ่งเป็นน้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจให้กระทำการ และประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่” และ “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น ให้ขอให้ หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อจูงใจให้กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบ ด้วยหน้าที่ และได้กระทำไปในฐานะเป็นผู้แทนนิติบุคคล และเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคล

กรณีนายสกุลธร มีพฤติการณ์กระทำผิดติดสินบนเจ้าพนักงาน และนายหน้าเป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเช่าที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2 แปลงในซอยร่วมฤดี และย่านชิดลม

โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 นายสกุลธร พร้อมทนายความ เดินทางมาศาล

ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายสกุลธรได้ออกจากห้องพิจารณา และเดินทางกลับขึ้นรถยนต์ออกจากศาลทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้นายสกุลธร จำเลยฟัง และได้สอบถาม ว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า นายสกุลธร แถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีทุกข้อหา โดยศาลนัดคู่ความตรวจสอบพยานเบื้องต้นกับเจ้าพนักงานศาลก่อน ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ และนัดตรวจคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย มาตรวจพยานหลักฐานกับศาลวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต 3 ได้เป็นโจทก์ฟ้องนาย สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เป็นจำเลย กรณีนายสกุลธรติดสินบนเงินจำนวน 20 ล้านบาทเจ้าหน้าที่และนายหน้าในการเช่าที่ดิน จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รวม 2 แปลง ในซอยร่วมฤดี และย่านชิดลม โดยยื่นฟ้องนายสกุลธร ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี

'นายกฯ เศรษฐา' ประกาศความมุ่งมั่นการขับเคลื่อน SDGs ที่สหรัฐฯ ชู!! 'ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง-เศรษฐกิจ BCG' ให้สมาชิกยูเอ็นประจักษ์

(20 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ณ Trusteeship Council Chamber สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปี ค.ศ. 2023 (Sustainable Development Goals (SDG) Summit 2023)

ทั้งนี้นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ว่านายกฯ รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2023 ซึ่งถือเป็นการกล่าวถ้อยแถลงครั้งแรกของนายกฯ ที่องค์การสหประชาชาติ ซึ่งรัฐบาลยังคงเน้นย้ำเจตนารมณ์ในการให้ความสำคัญที่จะดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

ทั้งนี้ ความร่วมมือของทุกประเทศในการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030 ของสหประชาชาติ ได้เผชิญกับความท้าทายร่วมกันมาถึงในช่วงครึ่งทางของวาระดังกล่าว และในทศวรรษนี้ ซึ่งสหประชาชาติได้กำหนดให้ทศวรรษนี้เป็นทศวรรษแห่งการลงมือทำ (Decade of Action) นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนกรอบความร่วมมือพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ และสถาปัตยกรรมทางการเงินระหว่างประเทศให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งมุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อนการจัดสรรแหล่งทรัพยากรและเงินทุน การลดช่องว่างทางการเงิน รวมถึงสรรหานวัตกรรมเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ทุกประเทศสามารถรับมือกับความท้าทาย และการร่วมกันขับเคลื่อน SDGs ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ไทยสนับสนุนข้อเรียกร้องของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติในการปฏิรูปสถาปัตยกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ ผ่านมาตรการกระตุ้นการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Stimulus) เป็นจำนวนเงิน 500,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี จนถึงปี ค.ศ. 2030 ซึ่งสำหรับการดำเนินการของไทย รัฐบาลได้ออกมาตรการทางการเงิน 12,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว และ Thailand Green Taxonomy เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ผ่านการกระตุ้นการกำหนดกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจของไทย โดยสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (Global Compact Network Thailand: GCNT) ซึ่งมีบริษัทมากกว่า 100 บริษัททั่วประเทศ ตั้งเป้าขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และจะลงทุนจำนวน 43,000 ล้านดอลลาร์ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ SDGs ภายในปี ค.ศ. 2030

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีมองว่าการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จำเป็นต้องมีแนวทางที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่าน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างเป้าหมายเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งประเทศไทยได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และนโยบายเศรษฐกิจ BCG มาเป็นแนวทางเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยประเทศไทยพร้อมประกาศความมุ่งมั่นระดับประเทศเพื่อขับเคลื่อน SDGs รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนี้

ผบ.ตร. ร่วมพิธีมอบเงินรายได้ จัดสร้างพระพุทธโสธรรุ่น “ตร.108 ปี” ให้ 4 หน่วยงาน (มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลตำรวจ สมาคมตำรวจ และมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว ) พร้อมนำตัวแทน นรต.รุ่น 38 และภาคเอกชนร่วมบริจาคสมทบ ได้ยอดรวมกว่า 57 ล้านบาท

วานนี้ (19 ก.ย.66) เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีมอบเงินรายได้จากการเปิดให้เช่าบูชาพระพุทธโสธรรุ่น “ตร.108 ปี” โดยมี พล.ต.อ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ รองประธานมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นผู้แทนมอบ

ทั้งนี้ รายได้จากการเปิดให้เช่าบูชาพระพุทธโสธรรุ่น “ตร.108 ปี” จำนวนทั้งสิ้น 46,010,000 บาท ได้ถูกแบ่งบริจาคเป็น 4 ส่วน ตามวัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง ดังนี้ 

1) มอบให้ มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อปรับปรุงห้องฟอกเลือดล้างไต และจัดซื้อเครื่องฟอกเลือดล้างไต และอุปกรณ์ที่จำเป็น จำนวน 30,010,000 บาท 
2) มอบให้โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสมทบจัดซื้อเครื่อง เพทซีทีสแกน (PET CT Scan) เพื่อประสิทธิภาพสูงในการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็ง จำนวน 10,000,000 บาท โดยมี พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) เป็นผู้รับมอบแทนมูลนิธิฯ และ รพ.ตร. /
3) มอบให้ สมาคมตำรวจ เพื่อกิจกรรมสาธารณกุศล หรือสาธารณประโยชน์ จำนวน 3,000,000 บาท โดยมี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง เป็นผู้รับมอบ  
4) มอบให้มูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นสวัสดิการ หรือช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 3,000,000 บาท โดยมี พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล

ผบ.ตร. ยังร่วมกับ พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ และ พล.ต.อ. มนตรี ยิ้มแย้ม เป็นตัวแทนนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 38 มอบเงินสมทบอีกจำนวน 9,800,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1) จัดซื้อเครื่องเพทซีทีสแกน (PET/CT Scan) จำนวน 5,000,000 บาท / 2) บริจาคเครื่องบำบัดทดแทนไตต่อเนื่อง รุ่น PrisMax จำนวน 2 เครื่อง มูลค่า 2,800,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลตำรวจ และ 3) มอบให้สมาคมแม่บ้านตำรวจ เพื่อบำรุงขวัญแก่ข้าราชการตำรวจ จำนวน 2,000,000 บาท โดย คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นผู้รับมอบ

นอกจากนี้ ยังได้มีภาคเอกชนร่วมบริจาคเงินแก่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นแก่การช่วยเหลือผู้ป่วยและสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีรายนามของผู้บริจาค ดังนี้ 1) บริษัท สหพิพัฒนกิจ จำกัด โดย คุณคุปโกเมน วิริยาภิรมย์กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้แทนมอบ จำนวน 1,000,000 บาท / 2) บริษัทโรลลิ่ง คอนเซปต์ อินโนเวชั่น จำกัด  โดย คุณประสงค์ สุดอำพัน ตัวแทนผู้บริหาร เป็นผู้แทนมอบ จำนวน 500,000 บาท / 3) คุณไกรสร จันศิริ จำนวน 200,000 บาท และ 4) คุณพิพัฒน์ เตียรวัฒน์ จำนวน 200,000 บาท  รวมยอดรวมการบริจาคในครั้งนี้ทั้งสิ้น 57,710,000 บาท

‘สวนนงนุชพัทยา’ เปิดพิพิธภัณฑ์พระพุทธคุณ รวบรวมพระเก่าล้ำค่า เปิดให้นักท่องเที่ยว-ผู้ศรัทธา เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น.

(19 ก.ย. 66) นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้ทำพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์พระพุทธคุณ แหล่งเรียนรู้ทางพุทธศาสนา และรวบรวมสมบัติอันล้ำค่าของแผ่นดิน ณ สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี โดยมีเจตนารมณ์ในการจัดสร้างคือ ต้องการให้เด็ก เยาวชน และผู้มีความสนใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้เข้ามาเยี่ยมชมศึกษาพระพุทธรูป พระเครื่อง และสมบัติอันเก่าแก่ รวมถึงได้เจริญจิตภาวนานำไปสู่การมีสติที่ตั้งมั่น มีปัญญาอันประเสริฐ และมีจิตที่บริสุทธิ์

สำหรับพระพุทธรูป เหรียญ และวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ได้นำมาจัดแสดง ได้รับการสนับสนุนจาก นายคมสัน จันทร์สืบสาย ซึ่งเป็นผู้เก็บรวบรวมของเก่าแก่ล้ำค่าไว้จำนวนมากที่ล้วนผ่านช่วงเวลาแห่งความศรัทธาในแต่ละยุค แต่ละสมัย อายุยาวนานนับร้อยปี บางชิ้นหลายร้อยปี และเป็นสมบัติตกทอดมารุ่นสู่รุ่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.30 น.

ก.แรงงาน จัดสัมมนาเครือข่ายแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนภารกิจสำคัญ สู่ประชาชนระดับพื้นที่

ปลัดแรงงาน เปิดสัมมนาเครือข่ายแรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงแรงงาน ไปสู่ประชาชนในระดับพื้นที่ พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณ และเข็มประกาศเกียรติคุณให้แก่อาสาสมัครแรงงานดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2566 จำนวน 79 คน

วันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 15.30 น. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนาเครือข่ายแรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงแรงงาน ไปสู่ประชาชนในระดับพื้นที่ ณ ห้องบอลรูม 2 ชั้น 3 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ โดยกล่าวว่า การสัมมนาฯ ในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของกระทรวงแรงงาน ที่เล็งเห็นการพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการพัฒนาจะส่งผลให้บุคลากรและเครือข่ายของกระทรวงแรงงาน มีองค์ความรู้ ประสบการณ์ มีศักยภาพและสามารถที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงแรงงาน ได้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม ซึ่งได้มอบแนวทางในการจัดสัมมนาโดยให้มีการเรียนรู้ การศึกษาดูงาน การทำกิจกรรม และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงในโอกาสต่อไป กระทรวงแรงงาน จะผลักดันให้เครือข่ายของกระทรวงแรงงานได้รับสิทธิสวัสดิการและค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการเข้าร่วมขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ 

ขอแสดงความยินดีกับอาสาสมัครแรงงานและบัณฑิตแรงงานดีเด่น ประจำปี 2566 และขอขอบคุณอาสาสมัครแรงงาน และบัณฑิตแรงงานทุกท่าน ที่เข้าร่วมเป็นเครือข่ายการทำงานในระดับพื้นที่และชุมชนให้กับกระทรวงแรงงาน ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท อุทิศแรงกาย แรงใจ และเวลาอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงแรงงานที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านส่งเสริมการมีงานทำ การพัฒนาฝีมือแรงงาน การฝึกอาชีพ การคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม จนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายและมีผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม อีกทั้ง ในปีงบประมาณ 2567 กระทรวงแรงงานมีภารกิจสำคัญที่จะขับเคลื่อนเพื่อให้ผู้อยู่ในวัยทำงานได้มีงานทำเพิ่มมากขึ้น เช่น ส่งเสริมการไปทำงานในต่างประเทศ การหาตำแหน่งงานให้กับผู้ว่างงานได้มีงานทำ การเพิ่มทักษะ เพื่อการมีรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายทุกท่าน ซึ่งเป็นพลังสำคัญที่เข้มแข็ง และมีความพร้อมในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวท้ายที่สุด

นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ยังได้มอบใบประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครแรงงานดีเด่น ประจำปี 2566 จำนวน 75 คน และเข็มประกาศเกียรติคุณบัณฑิตแรงงานดีเด่น ประจำปี 2566 จำนวน 4 คน ได้แก่ นายกูไซพูดีน อาแด บัณฑิตแรงงานจังหวัดนราธิวาส นายซำซีย๊ะ มาฮะ บัณฑิตแรงงานจังหวัดยะลา นางสาวสุณัฐฐา ยอดไกร บัณฑิตแรงงานจังหวัดปัตตานี และนางสาวสาริศา ลังคง บัณฑิตแรงงานจังหวัดสงขลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top