Friday, 6 June 2025
NewsFeed

เปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมเมืองประวัติศาสตร์ ล่องเรือชมโบราณสถาน พร้อมแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

(16 ก.ย.66) วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ดำเนินการโดยฝ่ายบริการวิชาการเพื่อสังคม วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม) ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ใช้องค์ความรู้ที่เป็นความถนัดของวิทยาลัยทำงานร่วมกับชุมชน โดยคณาจารย์ และนิสิตระดับปริญญาตรี ร่วมลงพื้นที่กับ นายธเนศ สนธิ นายกเทศมนตรีตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำ  ร่วมกันพัฒนาสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำของตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในประเทศไทยที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ โบราณสถาน รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนตามลุ่มแม่น้ำน้อยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยล่าสุด เทศบาลตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เดินหน้าเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชน พร้อมรับนักท่องเที่ยว ชูจุดเด่นการท่องเที่ยวทางน้ำเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะสักการะ ไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดเส้นทาง

ซึ่งจุดเด่นของตำบลหัวเวียงมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลากหลาย  นอกจากมีวัดเก่าแก่ ศาสนสถาน และบ้านเรือนไทยโบราณ ตำบลหัวเวียงยังเป็นบริเวณที่ไม่มีอุตสาหกรรมในพื้นที่ จึงทำให้มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่น  เช่น งานจักรสานที่มีการผลิตเพื่อขายและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งมรดกวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ประวัติยาวนานหลายปีนั่นก็คือ เมรุลอยอยุธยา ซึ่งนอกจากทำเป็นอาชีพแล้วยังพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปกรรมเมรุลอย

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเดินทางมาเที่ยวทางน้ำตามเส้นทางเลียบแม่น้ำน้อย จุดเริ่มต้นจะเริ่มจากวัดหัวเวียง ตามตำนาน ‘อิฐเก่าเล่าตำนานของคำว่าหัวเวียง’ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา กองทัพจะผ่านมาเส้นทางนี้ และมีการต่อสู้กับพวกข้าศึก และข้าศึกมีการปล้นเรือสินค้าชาวบ้านที่จะนำสินค้าไปค้าขายกับต่างประเทศ ตัดหัวแล้วเหวี่ยงขึ้นมา 2 ฝั่งแม่น้ำ จึงเรียกกันว่าหัวเหวี่ยง และเรียกต่อ ๆ กันมาเป็น ‘หัวเวียง’ ส่วนจุดเด่นคือการแวะไหว้หลวงพ่ออ้วน ซึ่งชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า คนที่มาไหว้หลวงพ่ออ้วน จะขอเรื่องหน้าที่การงานและความเจริญชีวิต 

จากวัดหัวเวียง ตามเส้นทางเรือจะพาเราไปวัดบางกระทิง ซึ่งเป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สร้างในปลายรัชสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยจุดเด่นที่นี่คือ มณฑปประดิษฐานรูปเหมือนองค์สมเด็จพุทธาจารย์ (โต) พรหมรังสี คนที่มาไหว้หลวงพ่อต่อจะขอเรื่องความปลอดภัย แคล้วคลาด นั่งท่องเที่ยวสามารถขึ้นทางท่าน้ำและเดินไปด้านหลังวัดได้ ส่วนวัดประดู่โลกเชษฐ์ วัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีตู้พระธรรมลายรดน้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ ความสวยงามเอาไว้ให้ได้ชมกัน ชาวบ้านจะไหว้หลวงพ่อเจาะ หลวงพ่อเณร ก็จะเด่นเรื่องสุขภาพ แคล้วคลาดปลอดภัย 

จากนั้น สุดท้ายจะมาสิ้นสุดเส้นทางที่วัดโบสถ์ (บน) เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามแฝงด้วยปริศนาธรรม และศาลาการเปรียญเก่าตามคำเล่าขานว่าสร้างจากพระตำหนักพระราชทานในรัชกาลที่ 4 ชาวบ้านนิยมเรียกวัดนี้อีกชื่อว่า วัดโบสถ์บ้านกระทุ่ม นอกจาก 4 วัดที่กล่าวไป ยังมีวัดที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางเลียบแม่น้ำน้อยอีกหลายวัด 

นักท่องเที่ยวสามารถขอคำแนะนำจากทางชุมชนและข้อมูลได้เพิ่มเติมจากทางชุมชนโดยตรง โดยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายธเนศ สนธิ นายกเทศมนตรีตำบลหัวเวียง โทร. 093 641 9363

จับตา ‘พลอย เฌอมาลย์-โต้ง ทูพี’ ส่อแววรักสะดุด หลังฝ่ายหญิงโพสต์ตัดพ้อ ส่วนฝ่ายชายลบสตอรี่เกลี้ยง

(16 ก.ย.66) กลายเป็นประเด็นให้จับตามองทันที หลังจาก ‘พลอย เฌอมาลย์’ ออกมาโพสต์สตอรี่ไอจี ด้วยข้อความแปลก ที่ทำให้หลายคนสงสัย

โดยสาวพลอยได้โพสต์สตอรี่รัวๆ ระบุว่า “พลอย=ทำอะไรก็ผิด” และ “เพิ่งรู้ว่าตั้งแต่เกิดมาพลอยไม่มีสิทธิง่วง”

ทั้งที่ เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) เป็นวันเกิดของสาวพลอย แต่กลายเป็นว่า ทาง ‘โต้ง ทูพี’ แร็พเปอร์ชื่อดัง หวานใจของสาว ที่ลงสตอรี่อวยพรวันเกิด กลับลบสตอรี่นั้นไปแล้ว!!

ทำให้หลายคนมองว่า สาวพลอย ทะเลาะกับหนุ่มโต้ง ทูพี หวานใจหรือไม่?

ซึ่งทางเพจดังอย่าง ‘เจ๊มอย 108’ ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า

“มัมเป็นอะไรนะ? เมื่อคืนโต้ง ทูพี ลงสตอรี่อวยพรมัมรัวๆ แต่ตอนนี้ เอ้า!! สตอรี่หายไปละนะ
บ้า.. จะมาทะเลาะ ผิดใจกันในวันเกิดไม่ได้จิ วันหยุด แต่..ลุกมาทำการบ้านค่ะ”

'กทพ.' สานต่อเมกะโปรเจกต์ เล็งศึกษา 'ทางด่วนเชื่อมเกาะช้าง' ช่วยลดระยะเวลาเดินทาง-เพิ่มทางเลือกนอกเหนือจากเรือเฟอร์รี่

(16 ก.ย.66) ที่ผ่านมา ‘กทพ.’ เร่งผลักดันทางด่วนในภูมิภาคหลายแห่งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทางและคนในพื้นที่สามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหารถติดในอนาคต

รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนประมาณ 15,000 ล้านบาท ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการให้กทพ.ประสานงานร่วมกับกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในการดำเนินการศึกษาและออกแบบสะพานข้ามเกาะช้าง โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 กทพ.ได้ประสานขอความอนุเคราะห์ข้อมูลจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เพื่อนำมาประกอบการศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ 

ทั้งนี้ ในปัจจุบันกทพ.อยู่ระหว่างจัดทำร่างขอบเขตของงาน (TOR) เพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบกรอบรายละเอียดของโครงการฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการศึกษาได้ภายในปลายปีนี้หรือต้นปี 2567 ระยะเวลาศึกษาประมาณ 2 ปี เนื่องจากโครงการอยู่ในพื้นที่ของอุทยานฯ คาดว่าจะดำเนินการศึกษาแล้วเสร็จภายในปี 2569  

หากโครงการฯ ศึกษาแล้วเสร็จ เบื้องต้นกทพ.จะเสนอรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯพร้อมรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาเห็นชอบอนุมัติโครงการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณปี 2570 ใช้ระยะเวลาเร็วสุดประมาณ 1 ปี และเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในปี 2569-2570

“หากโครงการดังกล่าวสามารถขออนุมัติได้ภายใน 1 ปี กทพ.ประเมินว่า โครงการจะเริ่มกระบวนการเปิดประมูลได้ภายในปี 2571 ซึ่งคาดว่าการประมูลอาจจะใช้ทางเลือกในรูปแบบการประมูลระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2572 ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 4 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2576”

รายงานข่าวจากกทพ.กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่กทพ.ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้ เพราะได้รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคมให้ดำเนินการรับโอนโครงการดังกล่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.)  

ขณะเดียวกันในปัจจุบันการเดินทางข้ามเกาะช้างโดยเรือเฟอร์รี่ที่นำรถยนต์ข้ามเกาะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางนาน โดยเฉพาะการรอขึ้น-ลงเรือเฟอร์รี่ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลสำคัญที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก หากโครงการแล้วเสร็จจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางได้มากขึ้น

ที่ผ่านมาพบว่าทางจังหวัดตราดได้ขอความอนุเคราะห์ให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ศึกษาออกแบบโครงการฯแต่กรมได้พิจารณาแล้วเป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องใช้งบประมาณก่อสร้างมาก ซึ่งต้องใช้เทคนิคและข้อกำหนดพิเศษทางด้านวิศวกรรมในการออกแบบก่อสร้าง จำเป็นต้องศึกษาความเหมาะสมและความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ประกอบกับแนวก่อสร้างโครงการพาดผ่านทะเลอ่าวไทย, ผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติและพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 2 ซึ่งจะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย

ทั้งนี้ จังหวัดตราดได้ดำเนินการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน โดยแจ้งผลให้ทราบเพื่อประกอบการพิจารณาของโครงการฯ เชื่อมเกาะช้าง ซึ่งจังหวัดตราดได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและคณะทำงานดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็น 3 ครั้ง โดยเป็นการทำแบบสำรวจภาคประชาชน ใน 3 พื้นที่ ประกอบด้วย อ.เกาะช้าง, อ.แหลมงอบ และพื้นที่อื่น ๆ พบว่า เห็นด้วย 95.19% ที่ไม่เห็นด้วย 4.81% เห็นว่าสิ้นเปลืองงบประมาณ ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้จะเสียหาย ส่วนพื้นที่ อ.เกาะช้าง เห็นด้วย 98.63%

สำหรับโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง จังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร (กม.) มีจุดเร่งต้นโครงการบริเวณพื้นที่อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราดเชื่อมข้ามทะเลอ่าวไทยไปสิ้นสุดโครงการที่อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด

อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางซึ่งส่งผลดีต่อการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่เกาะช้างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

‘แพรรี่’ โพสต์ภาพเหลืองแดงสมานฉันท์ให้กำลังใจ ‘ชลน่าน’ ถาม!! ไปเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ด้านชาวเน็ตแนะ!! ให้มองบวก

(16 ก.ย.66) ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ โพสต์ภาพและข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ‘ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ โดยระบุว่า 

“ไปเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไร เวลาตอนไหนเอาไปจีบกัน พลอดรักกันให้เตลิด เชิญรักกันให้ตลอด ใครจะตายช่างหัวมัน จบ”

นอกจากนี้ยังคอมเมนต์ในโพสต์ของตนเพิ่มเติมว่า “ขอให้ความรักมีแต่ความสดใส ไม่ว่าสิ่งไหนเข้ากันหมดทุกอย่าง” อีกด้วย

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามากดถูกใจกว่า 6 พันคน แสดงความคิดเห็นและแชร์จำนวนมาก เช่น “ที่ผ่านมาเรียกว่าอะไร”, “อะไรที่ไม่เคยก็ได้เห็น 555”, “การเมืองรอบนี้ อะไรที่เราคิดว่าจะไม่ได้เห็นก็ได้เห็น”, “มองบวกนะคะ ถ้าสามัคคีทำงานร่วมกันด้วยความจริงใจก็จะเกิดผลดีต่อสังคม, ประเทศค่ะ”

‘นายกฯ’ เตรียมโชว์โมเดล ‘โคกหนองนา’ บนเวทียูเอ็น หวังให้ทั่วโลกได้เห็นภูมิปัญญาที่คนไทยภาคภูมิใจ

(16 ก.ย.66) ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายเศรษฐา กล่าวว่าในการเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้ามีโอกาสก็ จะนำโมเดลโคกหนองนา ไปเสนอในเวทียูเอ็น ถึงภาพรวมของโครงการ เพราะแน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความน่าภาคภูมิใจของคนไทย ที่ต้องนำไปเสนอ

ส่วนการเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ใช้งบประมาณในการเหมาลำเครื่องบินสูงถึง 30 ล้านบาทนั้น นายเศรษฐา กล่าวยืนยันว่า มีราคาเปรียบเทียบไว้อยู่แล้วว่าถูกกว่า เรื่องนี้อย่าให้พูดต่อเลย เพราะโฆษกและรองเลขาฯ ได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งการเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง จะมีการทำราคาเปรียบเทียบไว้ เป็นไปตามระบบการจัดซื้อจัดจ้างทุกอย่าง

นายเศรษฐา กล่าวว่า ในการเดินทางไปร่วมประชุมยูเอ็น ครั้งนี้ก็จะได้มีโอกาส ให้สัมภาษณ์และพบกับสื่อมวลชนรายใหญ่ของโลก ซึ่งอาจจะมากกว่า 3 สื่อ แต่คงต้องขอดูก่อนว่าแต่ละสื่อจะมีประเด็นอะไรบ้าง เพราะไม่อยากให้เป็นประเด็นเดียวกัน บางสื่ออาจจะอยากให้พูดถึงเรื่องพลังงานสะอาด เรื่องของเศรษฐกิจ บางสื่อก็ต้องการพูดถึงเรื่องความมั่นคง ก็คงต้องให้ข้อมูลทุกมิติ ซึ่งไม่เชิงเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ ให้กับสื่อต่างประเทศ และที่ผ่านมาก็พูดมาตลอด หากมีสื่อใดต้องการสัมภาษณ์ ตนก็ยินดีตอบ หากมีความพร้อม และเป็นคำถามที่เหมาะสม และรัฐบาลมีความพร้อมที่จะตอบ ในทุกมิติที่ถามมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกจะชี้แจงอย่างไรในประเด็นทางการเมืองเพราะมีสื่อบางแห่ง ไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองของไทย และมีผลกระทบหลายๆ ด้าน ในการบริหาร ของประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า "ให้สื่อต่างประเทศเขาถามผมเองดีกว่า ถ้าเขาถามมา ผมคิดว่าผมตอบได้ แล้ววันนี้ผมมี 300 กว่าเสียง เป็นเสียงจากประชาชน วันนี้ก็เดินหน้าทำงาน ไม่หยุด"

เมื่อถามความคืบหน้าในการนัดหมายกับทางผู้นำเยอรมัน ที่จะพูดคุยในเรื่องของเรือดำน้ำว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่มีรายงานมาจากทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอเวลานิดนึงยังมีเวลาอยู่ ตอนนี้ตารางแน่นมาก พยายามเกลี่ยกันไปเกลี่ยกันมา และวันจันทร์ที่ 18 ก.ย. ช่วงบ่าย จะมีตารางประมาณ 80-90% และระหว่างเดินทางก็จะมีการเจรจา มีการขอนัดพบกันอยู่

เมื่อถามว่า แต่ยังไม่มีการยอมรับที่ใช้เครื่องยนต์จากจีนใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้คุยจึงตอบไม่ได้ แต่เป็นวาระหนึ่งที่ตนให้ความสำคัญ อะไรที่เป็นเรื่องเก่า และยังไม่ถูกสะสางก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลของเราทั้ง 11 พรรคที่ต้องช่วยสะสางกันไป เพราะถือเป็นโครงการต่อเนื่องมา ต้องทำให้สำเร็จ

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน เรื่องของทูตสันถวไมตรี อย่างเรื่องหมีแพนด้าที่จะหมด MOU ในเดือนหน้าจะมีการเจรจา หรือนำกลับมาเลี้ยงอีกหรือไม่ว่า ความสัมพันธ์กับประเทศจีนเราถือว่า เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง และตนมีกำหนดที่จะเดินทางไปประเทศจีนระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค.นี้

ฉะเชิงเทรา-บริษัทไทยเมทัลโพรเซสซิ่ง จัดงานครบรอบ 60 ปี บริษัทในเครือไทยยาซากิ

บริษัทในเครือไทยยาซากิ จัดงานครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งบริษัทในเครือไทยยาซากิ 60 ปี  “60 ปี ที่อยู่คู่กับสังคมชาวฉะเชิงเทรา ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน สร้างอาชีพและพัฒนาบุตรหลานของชาวฉะเชิงเทราให้เป็นคนที่มีคุณภาพ”

วันที่ 16 กันยายน 2566 ที่บริษัทไทยเมทัลโพรเซสซิ่ง จำกัด อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้จัดงานครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งบริษัทในเครือไทยยาซากิขึ้น โดยมี Mr.Naomi Sawai Director & Factory Manager (TMP) ผู้จัดการบริษัท ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และพนักงานที่เกษียณอายุ ร่วมด้วย นายคเชนท์ เที่ยงมณี ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางปะกง นายพสธร พันธุ์สุวรรณ กำนันต.ท่าข้าม คุณเนาวรัตน์ เมฆสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ท่าข้าม คุณพิชัย พันธุ์สุวรรณ ประธานสภาเทศบาลตําบลท่าข้ามรวมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เข้าร่วมภายในงาน

บริษัทไทยเมทัลโพรเซสซิ่ง เป็นบริษัทในเครือไทยยาซากิ อยู่คู่กับสังคมชาวฉะเชิงเทรามาอย่างยาวนาน มีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน ทั้งยังสร้างอาชีพและพัฒนาบุตรหลานของชาวฉะเชิงเทราให้เป็นคนที่มีคุณภาพ ซึ่งคนเหล่านี้ได้ย้อนกลับมาตอบแทนสังคมในรูปแบบต่างๆ เป็นการคืนคุณค่าสู่สังคมอย่างแท้จริง ในระยะเวลาแห่งการดำเนินธุรกิจ 60 ปีที่ผ่านมา ไทยยาซากิได้ผ่านปัญหาและอุปสรรคน้อยใหญ่มาอย่างมากมาย กว่าจะมาถึงวันนี้ การที่บริษัทก้าวข้ามผ่านวิกฤติการณ์เหล่านั้นมาได้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งมั่นคง ความร่วมมือที่ดีต่อภาครัฐ และที่สำคัญยิ่งคือความสามัคคีของคนในองค์กร ดังสโลแกนที่ว่า “บริษัทจะก้าวเดินไปพร้อมกับโลก และเราจะเป็นสิ่งที่สังคมต้องการ”

ทั้งนี้ภายในงานได้มีการแสดงวีดิทัศน์ของไทยยาซากิในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา มีการแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การผลิตสายไฟ การผลิตชิ้นส่วน การผลิตเทปพันสายไฟ และการประกอบชุดสายไฟในรถยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวกับสายไฟอีกหลายรายการ

‘เซเลนสกี’ เตรียมพบ ‘โจ ไบเดน’ ขอความช่วยเหลือต่อสู้กับรัสเซีย  เชื่อ!! สหรัฐฯ หนุนต่อ แม้เสียงคัดค้านจาก ‘รีพับลิกัน’ เริ่มหนาหู

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 66 ที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนจะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเข้าประชุมร่วมกับรัฐสภาสหรัฐฯ

ด้าน นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า การเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำยูเครนในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาวิกฤต และประธานาธิบดีไบเดน ยืนยันที่จะให้การสนับสนุนยูเครน ซึ่งกำลังปกป้องเอกราช อธิปไตย และบูรณาภาพแห่งดินแดน จากการรุกรานของรัสเซีย

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน กำลังเผชิญกับการคัดค้านสมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกัน ในการจัดส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครน อีก 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอีก 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน

‘กรณ์’ เตือน!! ‘แจกเงินดิจิทัล’ รัฐบาลต้องแบกดอกเบี้ยเพิ่ม ชี้!! กลไกเศรษฐศาสตร์ ทุกอย่างมีต้นทุน มี ‘ราคาที่ต้องจ่าย’

(17 ก.ย. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij’ ระบุว่า...

ว่าด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กับ ภาระทางการคลัง

ระหว่างที่ถกเถียงกันเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขอให้สังเกตประมาณการสถานะทางการเงินล่าสุดของประเทศให้ดีครับ

กระทรวงการคลังเสนอประมาณการชุดนี้ในการประชุมครม.แรกของ #รัฐบาลเศรษฐา สำหรับใครที่ไม่ชอบดูตารางข้อมูลแบบนี้ ผมขอสรุปประเด็นสำคัญให้ดังนี้…

1.) รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้น

2.) แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า

3.) รัฐบาลเลยจะขาดดุลมากขึ้น (3% ของ GDP จากที่เดิมคาดว่าจะลดลงเหลือ 2.8% ในปีหน้า)

4.) ในขณะที่เศรษฐกิจโตช้ากว่าที่คาดไว้เดิม

5.) ดังนั้น สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จึงสูงขึ้นมาก (64% vs. เดิม 61.35%)

แล้วไง?

ประมาณการใหม่นี้กำลังสร้างความกังวลให้นักเศรษฐศาสตร์อย่างมาก เพราะอะไร?

เพราะทุกอย่างมีต้นทุน คือมี ‘ราคาที่ต้องจ่าย’ ซึ่งราคาที่ว่านี้ปรากฏชัดเจนในส่วนของต้นทุนดอกเบี้ยของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น อย่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ทะลุ 3% ไปแล้ว เพิ่มขึ้นมากว่า 50bps ในช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา

… และประมาณการนี้ยังไม่ได้รวมนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทของรัฐบาล ซึ่งอย่างไรรัฐบาลก็ต้องกู้ หรือยืมรัฐวิสาหกิจมาแจก

วันนี้หนี้รัฐบาลมีอยู่ 11 ล้านล้านบาท

รัฐบาลต้องออกพันธบัตรใหม่มาชำระชุดเก่าตลอดเวลา ซึ่งต้นทุนก็จะมีแต่สูงขึ้น เป็นภาระต่องบประมาณมากขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยเราจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยหลากหลายปัจจัย เช่นการส่งออกที่ซบเซา ราคาน้ำมันโลกที่สูงขึ้น รวมไปถึงรายจ่ายภาครัฐจากนโยบาย ‘กระตุ้นเศรษฐกิจ’ ของรัฐบาลใหม่

จุดแข็งของไทยเราคือ เราแทบไม่มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศ แต่อย่างไรเราก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจของโลก ไม่ระวังไม่ได้ครับ

‘ชลน่าน’ เดินหน้าลุยฉีดวัคซีน HPV 1 ล้านโดส ฟรี!! ปกป้องหญิงไทยห่างไกลมะเร็งปากมดลูกทั่วประเทศ

‘หมอชลน่าน’ ประกาศเดินหน้านโยบาย 100 วันแรก เร่งฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้หญิงไทยอายุตั้งแต่ 11 - 20 ปีทั่วประเทศ จำนวน 1 ล้านโดสฟรี หลังตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มปีละประมาณ 6,500 ราย

เมื่อวานที่ 16 ก.ย. 66 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศเดินหน้าโครงการ Quick Win ที่จะเห็นเป็นรูปธรรมภายใน 100 วัน หลังรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขโดยหนึ่งในนั้น คือ การฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้กับหญิงไทยที่มีอายุ 11 - 20 ปีทั่วประเทศอย่างน้อย 1 ล้านโดส หลังพบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 6,500 ราย

นายแพทย์ชลน่าน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่พบมากในหญิงไทยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม  มีผู้เสียชีวิตปีละประมาณ 2,000 รายโดยมะเร็งชนิดนี้ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human papillomavirus (HPV) ที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนที่ต้องฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้กำหนดให้บริการฉีดวัคซีน HPV จำนวน 2 เข็ม เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับนักเรียนหญิงชั้น ป. 5 ตั้งแต่ พ.ศ. 2560 (ปัจจุบันมีอายุ 17 ปี) ดังนั้น ผู้หญิงอายุ 18 ปีขึ้นไป จึงยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนี้ ประกอบกับในปี 2562-2565 ทั่วโลกประสบปัญหาวัคซีนขาดชั่วคราวในช่วงโควิดระบาด ทำให้กลุ่มเป้าหมาย ป.5 ในปีนั้น ซึ่งปัจจุบันอายุ 13-15 ปีไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

จึงได้กำหนดให้การฉีดวัคซีน HPV เป็นหนึ่งในนโยบาย Quick win “มะเร็งครบวงจร” โดยเร่งรัดการฉีดวัคซีนสำหรับหญิงอายุ 11-20 ปี ซึ่งได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคเร่งกำหนดแนวทางการให้วัคซีน และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประเมินจำนวนกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งมอบให้ สปสช. เร่งจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม

“การฉีดจะมี 2 ส่วน คือ กลุ่มเด็ก ป.5 - ม.6 จะฉีดผ่านสถานศึกษา (School-based program) โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการฉีดเป็นกลุ่มเหมือนกับที่เคยฉีดวัคซีนโควิด ส่วนอีกกลุ่มที่เป็นเด็กนอกระบบการศึกษา รวมถึงหญิงอายุ 18-20 ปี ที่จบชั้น ม.6 แล้ว จะได้รับการฉีดที่สถานพยาบาล ตั้งเป้าหมายว่าต้องฉีดวัคซีน HPV ให้ได้อย่างน้อย 1 ล้านโดสภายในเวลา 100 วัน” รมว.สาธารณสุข กล่าวสรุปทิ้งท้าย

แฟนคลับถกสนั่น!! หลัง ‘ลมพัดผ่านดาว’ เรตติงไม่มา เพราะช่อง 7 ปรับผังเวลาฉายใหม่ หรือละครไม่สนุก?

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 66 ตอนนี้คนทีวีแต่ละช่องกำลังงัดกลยุทธ์ต่างๆ มาสู้กันในทุกวิธี เพื่อเอาตัวรอดในยุคเปลี่ยนผ่าน ที่ผู้ชมมีตัวเลือกมากมาย ทำให้ช่องกระแสหลักเรตติงตกฮวบฮาบ ซึ่งเริ่มมีผลต่อการซื้อขายโฆษณาที่เป็นรายได้หลักสถานี

ช่อง 7HD ได้ตัดสินใจปรับกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการเปลี่ยนแปลงตารางออกอากาศละครใหม่ในเดือนกันยายน ด้วยการฉายละครต่อเนื่อง 4 วันติดในแต่ละสัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 20.30-21.30 น. และต่อด้วยซีรีส์เกาหลีดัง ในช่วงเวลา 21.30-22.30 น. โดยละครเรื่องแรกประเดิมด้วยละครฟอร์มยักษ์สุดโรแมนติกแห่งปี ‘ลมพัดผ่านดาว’ ที่ได้นักแสดงสาวระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง ‘อั้มพัชราภา ไชยเชื้อ’ มารับบทนำ ‘ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี’ มารับบทนำควบบทบาทผู้ผลิตละครกับทางช่อง 7HD เป็นครั้งแรก พร้อมด้วยพระเอกตัวท็อปของช่อง ‘เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล’

ท่ามกลางแฟนๆ ที่กำลังจับตามองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ปรากฎว่า ละครลมพัดผ่านดาวที่ฉายไปแล้ว 4 ตอนเรตติงกลับไม่ปัง กระแสเงียบ ในขณะที่ช่อง 3 ‘เกมรักทรยศ’ กลับทำได้ดี

งานนี้แฟนๆ ช่อง 7 ถึงกับถกกันเครียดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไม ลมพัดผ่านดาว ถึงไม่ปังอย่างที่คิดกันไว้นี่ คือละครที่ได้นางเอก ‘อั้ม พัชราภา’ ตัวท็อปของประเทศ แต่เรตติงกลับแป้กสนิท อาทิ

- “แนวละครเบาๆ จริงๆ ตอนทำแรกๆ เราก็รู้อยู่แล้วว่าเรตติงไม่มากด้วยแนวละครด้วย”

- “จริงๆ เป็น เอฟซีสามซุปตาร์เลยนะคะ เนื้อเรื่องก็สนุก น่ารัก พี่อั้มนี่ดีงามมากแต่ทำไมเรตติงสวนทางความสนุก หรือมันฟีลกู๊ดไป? ขณะที่เกมรักช่อง 3 มาถึงจุดห้ำหั่นกันเลือดสาดไปแล้ว เลยทำให้คนดูหันไปดูอีกช่อง แต่ยังไงจะติดตามกันต่อคะ เป็นกำลังใจให้พี่อั้ม และพี่ๆ ช่อง 7 ทุกคนคะ”

- “ไม่มีปมชวนลุ้น เคยเห็นช่วงมีข่าวว่าช่องจะทำหลายคนก็บอกว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ ถึงบทสนุกก็เดาทางได้อยู่ดีว่านางเอกเลือกใครแค่นั้น”

- “เหมือนเคยคอมเมนต์ถามเหมือนกันนะ ว่าลมพัดผ่านดาวมันน่าสนใจยังไง ทำไมถึงต้องดูละครเรื่องนี้เพราะอะไรจึงจำเป็นต้องดู ก็ไม่เห็นได้คำตอบอะไรจาก แฟนละครเรื่องนี้ที่มาช่วยสนับสนุนให้เราควรดูละครเรื่องนี้หน่อย เพราะภาพที่เห็นสื่อออกมาในทีเซอร์ ละครก็ไม่น่าดูตรงไหนเลยนะ เห็นได้ฉากอื่นๆ ในๆ ตัดทีเซอร์มาแต่นั้นเราเองเรายังรู้สึกว่า ลองให้โอกาสดูละครจริง แต่ได้ดูจริงๆ มันก็ ไม่ผิดจากที่คาดเอาไว้ตอนดูเลยว่าจะต้องเอื่อยเนือยแบบนี้ แล้วก็จริงด้วย เรตติงมาถึงตรงนี้ไม่ต้องโทษใครเลย โทษการดำเนินเนื้อเรื่อง มู้ดแอนด์โทนของตัวเองก็แล้วกัน ที่ทำออกมาไม่น่าสนใจเอง”

- “ละครเย็นที่เคยออน 19.00 พอปรับมาออน 18.45 เรตติงกลับตกลง บางเรื่องสนุก แต่เรตติงไม่ขึ้น จนทำให้ล่าสุด แชมป์ละครเย็นที่เคยเป็นที่ 1 แพ้ให้ช่องวันมานานแล้ว และล่าสุด หลังปรับละครหลังข่าวให้ออน 4 วัน วันละชั่วโมง 20.30-21.30  เปิดด้วยละครฟอร์มดี ลมพัดผ่านดาว เรตติงกลับไม่ปัง กระแสเงียบ ล่าสุดเรตติ้งละคร 2.3 ย้ำ ว่านี่คือละครอั้ม พัชราภา ใช่ ฟังไม่ผิด ละครอั้มเรตติง 2.3 แพ้ช่องคู่แข่ง เสียดายละคร เสียดายนักแสดง ที่อุตส่าห์ได้ระดับพระเอก นางเอกเบอร์ต้นๆ แสดง แต่กลับมาพังเพราะผังช่อง ลดเวลาละครที่เคยเป็นอู่ข้าว อู่น้ำของตัวเอง หมดแล้ว สโลแกน ความสุขครบรส”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top