Thursday, 5 June 2025
NewsFeed

ทัวร์ราชมรรคาพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เส้นทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์อันแนบแน่น ‘ไทย-กัมพูชา’

📌ห้ามพลาด!!
ทัวร์ราชมรรคาพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 
เส้นทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์อันแนบแน่น ‘ไทย-กัมพูชา’ 

🗓ระหว่างวันที่ 12 - 20 ตุลาคม 2566 (8 คืน 9 วัน)

จัดโดย: คณะอนุกรรมการพลังวัฒนธรรมไทย สภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

🎤คณะวิทยากร: อาจารย์เทพมนตรี ลิมปพยอม และอาจารย์กฤษณพงศ์ เกียรติศักดิ์

ประเทศไทยและประเทศกัมพูชามีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่อดีต มีแผ่นดินเดียวกันมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ มีมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันมานานนับพันปี อีกทั้งให้อิทธิพลซึ่งกันและกันในบางยุคสมัยโดยเฉพาะ รัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้มีการสร้างเส้นทางทางการค้า ศาสนา และการเมืองที่เราเรียกว่า ‘ราชมรรคา’ ซึ่งในปัจจุบันยังปรากฏ เมือง ศาสนสถาน โรงพยาบาล ที่พักสำหรับผู้คนที่เดินทางไปจาริกแสวงบุญ อันเป็นประจักษ์ พยานหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์

ปัจจุบัน ‘ราชมรรคา’ จึงกลายเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่สำคัญ คณะอนุกรรมการพลังวัฒนธรรมไทย สภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ไทย ไท แชนเนล เห็นความสำคัญของเส้นทางราชมรรคา เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ทั้งทางด้านเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรมกับประเทศกัมพูชาให้มีความแนบแน่นมากขึ้น จึงได้จัดทัศนศึกษาขึ้น โดยมีสถานที่ที่น่าสนใจดังนี้ เมืองศรีเทพ-ปราสาทพิมาย-ปราสาทพนมรุ้ง-ปราสาทเมืองต่ำ-อโรคยศาลา-ปราสาทพระวิหาร-นครธม-ตงเลสาป-นครวัด-สมโบร์ไพรกุก-พนมเปญ-พิพิธภัณฑ์-ทำเนียบรัฐบาลกัมพูชา

📌ค่าบริการ : พักคู่ ท่านละ 79,000 บาท 
พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ 25,000 บาท

📌รายละเอียดกำหนดการในแต่ละวัน อ่านเพิ่มเติมในคอมเมนต์

🟢ค่าบริการดังกล่าว รวม :
✅️ค่าเดินทางรถโค้ชปรับอากาศ พร้อมคนขับ รวมค่าน้ำมัน
✅️ค่าตั๋วเครื่องบิน ขากลับ พนมเปญ-สุวรรณภูมิ ชั้นประหยัด สายการบินบางกอกแอร์เวย์
✅️ค่าอาหารที่ระบุตามรายการ
✅️ค่าที่พัก 8 คืน (พัก 2 ท่านต่อห้อง)
✅️ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และพิพิธภัณฑ์
✅️คู่มือนำชม ราชมรรคา
✅️กิจกรรมพิเศษและค่าวิทยากรบรรยาย
✅️หัวหน้าทัวร์ คอยอำนวยความสะดวก จำนวน 1 ท่าน ทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา
✅️ประกันการเดินทางเฉพาะอุบัติเหตุ (ไม่รวมสุขภาพ) ตามเงื่อนไขกรมธรรม์

🔴ค่าบริการดังกล่าว ไม่รวม :
❌️ค่าบริการ 30 - 5 กรณีที่ชำระค่าใช้จ่ายตอนต้นด้วยบัตรเครดิต
❌️ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีนิติบุคคล)
❌️ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ
❌️ค่าทิปคนขับรถ ผู้ช่วยคนขับ และหัวหน้าทัวร์ไทยและกัมพูชา

📢เงื่อนไขและความรับผิดชอบ

ทางบริษัททัวร์ฯ เป็นเพียงตัวแทนด้านการท่องเที่ยว ซึ่งไม่อาจรับผิดชอบต่อความเสียหาย รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง 1 ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ ทั้งก่อนเดินทางและระหว่างการเดินทาง อาทิ การนัดหยุดงาน การประท้วง เหตุจลาจล การก่อการร้าย โรคระบาด การประกาศฉุกเฉิน เหตุจากภัยธรรมชาติ สภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน และเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ที่เป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือการเลื่อน หรือต้องยกเลิกการเดินทาง รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือการสำรองค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงทางอ้อมระหว่างการเดินทาง อาทิ การเจ็บป่วยทางสุขภาพ - โรคประจำตัว อุบัติเหตุ การสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัว ความเสียหายที่เกิดจากความล่าช้าในการเดินทาง การถูกทำร้าย การถูกจับหรือกักตัว

'เมียนมา' เล็ง!! เสนอวีซ่าท่องเที่ยว 1 ปี ให้ 'ชาวจีน-อินเดีย' เที่ยวได้ทุกแห่ง เว้นพื้นที่ต้องห้าม หวังดึงเม็ดเงินกลับมา

(16 ก.ย.66) หนังสือพิมพ์ Global New Light of Myanmar ของทางการเมียนมารายงานว่า เร็วๆ นี้รัฐบาลจะประกาศโครงการนำร่องหนึ่งปีให้วีซ่าท่องเที่ยวขอได้ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (visa on arrival) แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียสามารถท่องเที่ยวในเมียนมาได้ทุกที่ยกเว้นพื้นที่ต้องห้ามด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เทียบกับปัจจุบันที่นักท่องเที่ยวจีนและอินเดียต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวออนไลน์หรือไปที่สถานทูตเมียนมา

ทั้งนี้ หากมองรัฐบาลทหารเมียนมาที่ยังคงจัดการฝ่ายต่อต้านการรัฐประหารเมื่อปี 2564 โดยยอมรับว่า ยังควบคุมพื้นที่ไม่ได้ทั้งหมดนั้น ทำให้หลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย จึงแนะนำไม่ให้คนของตนมาเมียนมา เนื่องจากความขัดแย้งยังมีอยู่

ต่างจากจีนและอินเดียซึ่งมีพรมแดนติดกับเมียนมา อีกทั้งยังมีสัมพันธ์กับเหล่านายพลนับตั้งแต่ก่อรัฐประหาร

ไม่เพียงเท่านั้น กระทรวงการท่องเที่ยวเมียนมากำลังทำงานเพื่อดึงดูดนักเดินทางจากรัสเซีย พันธมิตรหลักและประเทศผู้จัดหาอาวุธอีกรายด้วย

ไม่กี่วันก่อนสายการบินแห่งชาติเมียนมาเริ่มบนตรงไปยังเมืองโนโวซีบีสค์ของรัสเซีย รัฐบาลทหารเผยว่ากำลังจะอนุญาตให้ใช้บัตร Mir ของรัสเซียชำระเงินได้โดยตรง

เมียนมา หลังจากกองทัพปกครองประเทศมาหลายสิบปี จนกระทั่งเมียนมาได้เปิดประเทศเมื่อปี 2554 และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่พอเจอช่วงโควิดระบาดก็ต้องปิดประเทศ ซ้ำยังตามด้วยการรัฐประหาร และปราบปรามฝ่ายต่อต้าน จนทำให้นักท่องเที่ยวหายไป

ขณะเดียวกันเศรษฐกิจเมียนมาตกต่ำอย่างหนัก ค่าเงินจ๊าดดิ่งมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลายเมืองหลักประสบปัญหาไฟฟ้าดับ เอทีเอ็มและเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหายาก

มาตรการนี้ จึงน่าจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลทหารเมียนมาคงต้องเร่งทำ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติและเม็ดเงินกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะ 'ชาวจีน-อินเดีย' ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ 

'ตั๊น' พ้นมลทิน หลังเกรียนคีย์บอร์ดโพสต์อ้างพาคนเหยียบป้าย สตช. ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ลั่น!! ขอรับคําขอโทษเป็นคุกเท่านั้น

(16 ก.ย.66) น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รักษาการรองเลขาธิการพรรค และอดีต สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอขอบพระคุณกระบวนการยุติธรรมที่ให้ความเป็นธรรมกับตั๊น จากกรณีที่มีบุคคลแสดงความคิดเห็นใส่ร้าย ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ‘กรณีกล่าวหาว่าทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ ลงในโซเชียล

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตั๊นได้อดทน อดกลั้นจากการดูถูก ด่าทอ และโดนกระทำฝ่ายเดียวมาตลอด จนมาถึงวันนี้กระบวนการศาลได้ตัดสินลงโทษปรับและจำคุก เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

ขอให้กรณีนี้เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้เกิดขึ้นจริงในสังคม ในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ไตร่ตรอง การวิพากษ์วิจารณ์ ข้อมูลข่าวสารที่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงค่ะ

จากข้อมูลผู้สื่อข่าวพบว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ศาลแขวงพระนครเหนือ ได้มีคำพิพากษาว่า ข้อกล่าวหาที่จำเลยกล่าวถึง น.ส. จิตภัสร์ว่าเป็นแกนนำพาคนไปทำลายป้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.จิตภัสร์ มีหนังสือจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และกรมสอบสวนคดีพิเศษ อันเป็นหน่วยงานราชการแสดงว่า น.ส.จิตภัสร์ มิได้กระทำดังเช่นที่จำเลยกล่าว

ทั้งไม่ปรากฏชัดว่า น.ส. จิตภัสร์ เข้าไปเกี่ยวข้องโดยเป็นแกนนำพาคนไปทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นผู้ที่เหยียบย่ำยศและเครื่องแบบพระราชทานจริงหรือไม่อย่างไร เป็นเพียงภาพที่มีการส่งต่อๆกันโดยไม่ทราบแหล่งที่มาที่แท้จริง ข้อความที่หมิ่นประมาทจึงไม่ใช่ความจริง

จำเลยจึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ปอ.มาตรา 326 จำคุก 1 เดือนและปรับ 12,000 บาท โดยจำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาและลบข้อความที่หมิ่นประมาทแล้ว คงจำคุก 20 วันและปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามปอ. มาตรา 56 ยกฟ้องความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน

#รับคําขอโทษเป็นคุกเท่านั้น #ความจริงไม่มีวันตาย 

‘พาณิชย์’ นำร่อง 20 จังหวัด เปิดจุด ‘ขายไข่ราคาถูก’ 50 จุด หวังเพิ่มช่องทางเลือกซื้อ-ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับปชช.

(16 ก.ย.66) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เปิดจุดจำหน่ายไข่ไก่ราคาประหยัด ณ ศาลากลางจังหวัด โดยได้ทยอยเปิดจุดจำหน่ายแล้ว 20 จังหวัด กว่า 50 จุด นำไข่ไก่เบอร์ 3 จำหน่ายถาดละ 105-120 บาท หรือเฉลี่ยฟองละ 3.50-4.00 บาท

เพื่อเพิ่มช่องทางเลือกซื้อไข่ไก่ราคาประหยัดให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ โดยเน้นในจังหวัดที่อยู่ไกลแหล่งผลิตไข่ไก่

สำหรับ 20 จังหวัดที่กรมได้นำร่องนำไข่ไก่ราคาประหยัดไปจำหน่าย ได้แก่ นครสวรรค์ ตรัง พังงา นราธิวาส สตูล ลำปาง นครราชสีมา ภูเก็ต มุกดาหาร พิจิตร สุราษฎร์ธานี นนทบุรี เลย ปราจีนบุรี สุรินทร์ กำแพงเพชร นครปฐม นครพนม นครนายก และปทุมธานี

ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กรมได้จัดรถโมบายธงฟ้าเคลื่อนที่เข้าไปยังในพื้นที่ชุมชนจำนวน 100 จุดหมุนเวียนกันไป ซึ่งนอกจากไข่ไก่ราคาถูกแล้ว ยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นอื่น ๆ ที่นำมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาดด้วย เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจปริมาณไข่ไก่ในช่วงนี้ พบว่า ผลผลิตมีเพียงพอกับความต้องการบริโภค และไข่ไก่เบอร์ใหญ่มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนที่มีปริมาณน้อยในตลาด โดยกรมจะมีการกำกับดูแลและติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อสร้างความเป็นธรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ผู้เลี้ยงไก่ไข่จนถึงประชาชนผู้บริโภคในราคาในทุกระดับการค้ามีความสอดคล้องกัน ตามโครงสร้างที่กรมกำกับดูแล

โดยประชาชน หากพบผู้ค้ารายใดมีพฤติกรรมจำหน่ายไข่ไก่ในราคาสูงเกินสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และหากพบการกระทำผิด จะมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

'อุ๊งอิ๊ง' ยังสู้!! จับซอฟต์พาวเวอร์ สร้างบารมี ต่อคิวนายกฯ ก้าวไกลว้าวุ่น 'ขุนพลฝ่ายค้าน' แต่มีคนหวงแท่น ประธานสภา 1

เลียบการเมือง...ช่วงสุดสัปดาห์นี้...ไม่มีอะไรดีไปกว่าขอสรุปหมายเหตุประเทศไทยว่าด้วยการเมืองแบบเนื้อๆ สัก 3-4 เรื่อง...ตามสไตล์ของ 'เล็ก เลียบด่วน'

เรื่องแรก - การแบ่งงานให้รองนายกฯ ทั้ง 6 คน ของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ต้องบอกว่า 'รองอ้วน' ภูมิธรรม เวชยชัย นอกจากเป็น สร.2 รองจาก สร.1 เศรษฐาแล้ว งานกำกับดูแลก็ล้นหน้าตัก นอกจากคุมกระทรวงพาณิชย์ที่ตัวเองนั่งว่าการแล้ว ยังคุมกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ที่ต้องขีดเส้นใต้ 5 เส้น คือ ข้ามฟากไปคุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของพรรคพลังประชารัฐ ด้วย...

วิเคราะห์เจาะลึกสั้นๆ งานนี้...เป็นที่ยินยอมพร้อมใจของ เจ้ากระทรวงฯ คือ ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า ที่รู้อยู่แก่ใจว่า...ได้เก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ มานั้น เพราะใคร...จากนี้ไปชวนให้จับตามองว่าสมัยหน้าคุณผู้กองน่าจะถึงเวลากลับบ้านเพื่อไทย ช่วยเป็นขุนพลคนสำคัญดูภาคเหนือ และอีสานบางส่วน...อ้าว!! ตามไปดู

เรื่องที่สอง - คำสั่งที่น่าสนใจที่สุดคำสั่งหนึ่งคือ คำสั่งที่ 230/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการ 29 คน มีนายกฯ เป็นประธาน 'อุ๊งอิ๊ง' แพทอง ธารชินวัตร เป็นรองประธาน 'หมอเลี้ยบ' สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี เป็นกรรมการและเลขานุการ...

อืมม...กรณีนี้วิเคราะห์เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากว่า...หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเธอกัดไม่ปล่อย ตอนเปิดตัวเข้าร่วมเวทีเลือกตั้งเพื่อไทยชูธงนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์...พอตั้งรัฐบาลนี้ก็กระโดดมาจับงานนี้หวังให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเพื่อไทย...

ที่สำคัญที่สุด...นี่คือใบเสร็จยืนยันว่า 'อุ๊งอิ๊ง' จะเดินต่อไปบนเส้นทางการเมือง ด้วยความอดทน พิสูจน์ตัวตน โชว์ผลงาน...เป้าหมายคือนายกฯ คนต่อไปต่อจากเศรษฐา...

เรื่องที่สาม - เล็ก เลียบด่วน เขียนถึงบ่อยกรณี...บรรดาอดีตบิ๊กทหารที่จะมาช่วยหัวหน้าคณะรำวงย้อนยุค...สุทิน คลังแสง ที่ย่างสามขุมไปคุมกระทรวงกลาโหม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามโผ...ดังจะสรุปตำแหน่งทางการเมืองที่ ครม. ต้องประทับตราแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ 'บิ๊กทิน' ดังนี้

- ที่ปรึกษา พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 19 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
- เลขานุการรัฐมนตรี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ ตท.20 อดีตเลขาธิการสมช.
- ผู้ช่วยรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ ตท.20 อดีตรองผบ.ทอ.
- หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี พล.อ.มล.สุปรีดี ประวิตร หรือ 'หม่อมเป๊ป' อดีตอาจารย์ รร.นายร้อยจปร. และศึกษาอบรมบางช่วงกับตท.20

ใครจะตีความว่า...ที่จะรายล้อมช่วยงานท่าน 'บิ๊กทิน' คือ ตท.20 และแก่นแกนของรุ่นนี้เป็นสายตรงของ 'ลุงตู่' ก็ไม่ผิด...ก็รู้อยู่แล้วนี่นา...ว่า รัฐบาลเศรษฐาเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้ ก็เพราะ สว.สายลุงตู่...ไม่ต้อง งง…

เรื่องที่สี่ - แถมท้าย เล็ก เลียบด่วน ทำโพลส่วนตัวมาแล้วว่าโอกาสที่รัฐบาลเศรษฐาจะตีตั๋วยาวอย่างน้อยครึ่งเทอมหรือสองปีนั้น ชิลๆ...บีบบังคับให้พรรคก้าวไกลต้องปรับกระบวนท่า ยอมรับตำแหน่ง 'ผู้นำฝ่ายค้าน' พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงต้องช่วยปลดล็อกลาออกจากหัวหน้าพรรค...รอก็แต่กรณี 'หมออ๋อง หมูกระทะ' ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ยังอิดออดหวงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไม่ยอมลาออกปลดล็อกข้อกฎหมาย แต่อยากให้พรรคขับออกไปอยู่กับพรรคเป็นธรรม กอดตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เอาไว้...

ซึ่งถ้าก้าวไกลใช้แม่ไม้ ฉลาดเเกมโกงอย่างที่ว่าจริง…ต้องฟันธงว่าหมดหล่อ จะเสียหายหลายล้าน...อย่าหาทำ...ขอบอก!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

‘เซเว่นฯ’ เปิดพื้นที่สร้างโอกาสให้กับ ‘คุณยายจำลอง’ หน้าสาขาพระองค์ดำ เพื่อเป็นสถานที่ขายสินค้า ‘นำมาสู่รายได้-เลี้ยงตนเอง’ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

(16 ก.ย.66) ซีพี ออลล์ เปิดพื้นที่หน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาพระองค์ดำ (พิษณุโลก) (RC 5072) อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ให้กับคุณยายจำลอง วงค์หงษา อายุ 104 ปี เพื่อเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้า โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นำมาสู่รายได้และการพึ่งพาตนเอง ตลอดจนส่งมอบกำลังใจ ในนาม ‘ซีพี ออลล์’ โดยวันนี้ 12 กันยายน 2566 คุณธีระสิทธิ์ เตียมคำ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สำนักปฏิบัติการ 1 พื้นที่ RN ให้เกียรติเป็นประธาน เปิดงาน พร้อมด้วยคุณบุศริน ศิริจันทเวท ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป สำนักปฏิบัติการ 1 พื้นที่ RN, คุณสาวิตรี บุญนะ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแผนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก, คุณดาหวัน กลิ่นเกษม อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ให้เกียรติเข้าร่วมแสดงความยินดี ใครผ่านไปแถวนั้นสามารถอุดหนุนสินค้า เพื่อเป็นกำลังใจแก่คุณยายจำลอง ได้ที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาพระองค์ดำ (พิษณุโลก)

ระดมสมอง!! หาเหตุให้ 'หมออ๋อง' ออกจากก้าวไกลอย่างไร้ข้อกังขา ช่วยรักษาไว้ทั้งสองตำแหน่ง 'ผู้นำฝ่ายค้าน-รองประธานสภาฯ'

พลัน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรค ยังเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปได้ 

เพียงแต่เมื่อถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่ ก็จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ตามกฎหมายกำหนด เพราะผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน (ไม่มีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร และสภา) 

เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไว้ พิธา จึงต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อเปิดทางให้เลือก สส.คนใหม่มาเป็นหัวหน้าพรรค จะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน

แต่ต้องติดต่อกับข้อกำหนดกฎหมาย ผู้นำฝ่ายค้าน จะต้องไม่มีตำแหน่งในสภา เช่น ประธาน หรือรองประธานสภา จะทำอย่างไรกับ หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่นั่งเป็นรองประธานสภาฯ อยู่ในนามพรรคก้าวไกล

“เราต้องรักษาไว้ทั้งสองตำแหน่ง เพราะเราสูญเสียมามากแล้ว” ความคิดหนึ่งแว่บขึ้นมาในสมองของนักการเมืองระดับอ๋อง

ว่าแล้ว จึงน่าจะใช้มติพรรคขับหมออ๋องออกจากพรรค ไปหาพรรคใหม่สังกัด และยังเป็นรองประธานสภาอยู่ได้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ก็เป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ด้วย รักษาไว้ทั้งสองตำแหน่ง

เพียงแต่จะหาเหตุผลอะไรมาอธิบายกับสังคมในการขับหมออ๋องออกจากพรรค ในเมื่อหมออ๋องยังไม่ทำผิดอะไรต่อพรรค ไม่ได้ทำอะไรให้พรรคเสียหาย

มีคนพยายามอธิบายว่า ก็อดีตเคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อ สส.กลุ่ม รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต้องการออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อตั้งพรรคใหม่ พรรคเศรษฐกิจไทย ก็เสนอให้พรรคมีมติขับพวกเขาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และในที่สุดพรรคพลังประชารัฐก็มีมติขับ สส.กลุ่ม รอ.ธรรมนัสออกจากพรรคจริงๆ และไปขับเคลื่อนพรรคเศรษฐกิจไทย

เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้จึงน่าจะเกิดกับหมออ๋อง-พรรคก้าวไกล เพียงแต่พรรคก้าวไกลต้องหาเหตุหาผลไปอธิบายกับสังคม กับการทำการเมืองแนวสร้างสรรค์ แนวก้าวหน้า แต่การทำแบบที่ว่า เป็นการทำแบบ 'ศรีธนนชัย' เพื่อรักษาไว้ทั้งตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน และตำแหน่งรองประธานสภา

ใครจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ให้จับตาดูการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะเป็นใคร จะเป็นพริษฐ์ วัชรสินธุ์, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, รังสิมันต์ โรม, ศิริกัญญา ตันสกุล หรือไม่หรือจะเป็นใคร

แต่สำหรับหมออ๋อง มีข่าวแพลมออกมาแล้วว่า เมื่อถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล ก็จะไปสังกัดพรรคเป็นธรรม หรือไม่ก็พรรคสามัญชน แต่มีความเป็นไปได้กับพรรคเป็นธรรมมากกว่า

ที่มา: นายหัวไทร

'ดิว วีรวัฒน์' แชร์มุมมองที่มีต่อ ‘รถซูเปอร์คาร์’ หลังหันกลับมาใช้รถธรรมดาแทน

เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.66) จากช่องยูทูบ ‘CK Cheong’ ได้เชิญ คุณวีรวัฒน์ วลัยเสถียร หรือ ‘คุณดิว’ เจ้าของธุรกิจส่งออกปลา ซึ่งช่วงหนึ่งของรายการ คุณดิว ได้แชร์มุมมองต่อ ‘รถซูเปอร์คาร์’ ว่าตนมีความคิดที่เปลี่ยนไปและหันกลับมาใช้รถธรรมดาแทน โดยระบุว่า…

“ผมเก็บเงินไว้ลงทุนต่อเพื่อคิดว่าอยากจะลงทุนเพื่อสร้างเครื่องจักรที่สามารถผลิตเงินได้จนวันหนึ่งไม่ต้องทํางานแล้ว และเครื่องจักรนี้ยังใหญ่พอที่จะผลิตเงินออกมาให้เราใช้ แต่ก็ต้องอดทนอีกสัก 20 30 ปี เพื่อจะสร้างมันให้สําเร็จ จึงอยากให้คนมองตรงนี้ เพราะมันคือแนวคิดที่เราพยายามที่จะให้มันเป็น…”

“นอกจากนี้ ทุกวันนี้ถ้าคุณมาบ้านผม คุณจะไม่เห็นรถซูเปอร์คาร์ 60 คันแล้ว เพราะมีอยู่วันหนึ่ง ผมฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า ‘เสียดายเงิน’ เท่ากับว่าพอร์ตรถผมประมาณพันกว่าล้าน มันไม่ได้สร้างรายได้ (Passive Income) ให้กับผม ในทางกลับกันมันทําลายเงินผมอีกต่างหาก ด้วยเหตุผล 1.ค่าผ่อนรถ 2.จ่ายค่าต่อภาษี 3.จ่ายค่าประกัน และ 4.ต้องจ้างคนมาเป็นพิเศษอีก 3 คน เพื่อมาดูแลรถไม่ให้เสื่อมสภาพ ซึ่งผมบอกเลยนะตอนนี้ถ้าคุณไปบ้านผม คุณจะไม่เห็นรถเหล่านั้นอีกแล้ว เพราะผมทยอยค่อย ๆ ปล่อยออกไปทีละคัน สองคัน ปล่อยไปเรื่อย ๆ เพราะผมคิดว่าพอร์ตพันล้านนี้ ถ้าเอากลับไปซื้อหุ้นปันผล ผมจะได้ 7% ต่อปี ซึ่งปีหนึ่งก็จะได้ 70 ล้าน จากรถที่ไม่ค่อยได้ใช้ จากพอร์ตประมาณพันกว่าล้าน ตอนนี้รถผมเหลือประมาณไม่ถึง 200 ล้านแล้ว ผมขายไป 80% ตอนนี้ถ้าเข้าไปบ้านผมจะเห็นเพียงแค่รถธรรมดา ซึ่งซูเปอร์คาร์ก็ยังมีเก็บ แต่เก็บสมัยก่อนคือเก็บ 10 คัน 20 คัน เดี๋ยวนี้เก็บเหลือประมาณ 2-3 คัน เอาเฉพาะคันที่เราชอบจริง ๆ อย่าง Rolls Royce ก็ยังอยู่ ตอนนี้ไปส่งลูกก็ขับ Camry เพราะ Camry เนี่ยดีที่สุด นอกจากนี้ยังมี ฮอนด้า แอคคอร์ด ด้วยที่ดี”

“และเพราะอะไรอีกรู้ไหม? เวลาไปห้างหรือไปอะไร จะไม่มีคนมายุ่งกับคุณ แต่เวลาคุณขับ Rolls Royce 50 ล้านไป จะมีคนมายุ่งกับคุณเยอะมาก คอยบริการโบกซ้ายโบกขวา ทั้ง ๆ ที่ที่จอดมีเยอะแยะมากมายไปหมด เราสามารถจอดตรงไหนก็ได้ แต่เขาต้องการให้จอดตรงนี้ ซึ่งเขาก็จะรอคุณอยู่แถว ๆ นั้น และถ้าคุณให้ทิป 20 บาท เขาก็จะไม่พอใจ แล้วถ้าเขาอยู่กัน 3 คน คุณจะต้องให้ทิป 300 บาท ดังนั้น คุณขาดทุนแล้ว 300 บาท ทั้งที่ยังไม่ทันได้เดินเข้าห้างเลย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วที่จอดรถตรงนั้นมันจอดได้ฟรี แต่คุณก็ต้องให้ เพราะเขาอุตส่าห์มาโบก...แต่กลับกันตอนขับ Camry ประกัน 2 หมื่นต่อปี เติมน้ำมันพันนึง ก็วิ่งได้ไกล…”

‘วงซูซู’ ตัดพ้อ!! แก่แล้ว เพลงไม่ฮิต เล่นไม่ดี ไม่มีงาน หลังตั้งวงดนตรีเล่นในปั๊มน้ำมัน โซเชียลแห่ส่งกำลังใจ

(16 ก.ย.66) เป็นวงดนตรีชื่อดัง ที่มีเพลงฮิตอยู่ไม่น้อย ล่าสุด ‘วงซูซู’ ก็ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊ก วงซูซู ชีวิตนักดนตรี - ZUZU Ontour เผยคลิปวิดีโอ เล่นดนตรีในปั๊มน้ำมัน ชะอำ ขาขึ้นกรุงเทพ โดยว่า “แก่แล้ว ..เพลงไม่ฮิต เล่นไม่ดีไม่มีงาน ต้องมาขอเงินที่ปั๊มน้ำมัน สู้ๆ เด้อพี่น้องบ้านเฮา”

ซึ่งก็มีเหล่าแฟนคลับเข้าไปร่วมให้กำลังใจ อาทิ ชื่นชมครับชีวิตต้องสู้, ดูแลสุขภาพนำป๋า ไอดอลผมแต่เข้าป.เด็กเล็ก, คิดถึงครับน้า ดูแลสุขภาพด้วยครับผม, โอ้ยคิดฮอดบุญบั้งไฟเด้ครับ ยโสธรบ้านเฮาครับ และ ม่วนคือเก่าครับน้า มาขอนแก่นนำแน่ครับ

นอกจากนี้ ก็ยังมี บิลลี่ โอแกน ที่เข้าไปคอมเมนต์ว่า “น้า น่ารักที่สุด” ที่วงซูซู ก็เข้าไปคอมเมนต์ “ขอบคุณ”

'ธนาธร' เชื่อ!! 'พิธา' เข้มแข็ง พรรคไร้ห่วงปัญหาหัวหน้าคนใหม่ วอน!! ด้อมโฟกัส 'ประชาธิปไตย' เรื่องนี้ใหญ่กว่าเรื่องบุคคล

เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.66) ที่ร้าน Sol Bar อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยภายหลัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อให้ที่ประชุมพรรคเลือกหัวพรรคคนใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน โดยนายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่าคุณพิธาเข้มแข็ง ตนให้กำลังใจคุณพิธา

เมื่อถามว่ามองคุณสมบัติหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ต้องเป็นอย่างไร? นายธนาธร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีบุคลากรที่มีคุณภาพเยอะแยะ ใครเป็นหัวหน้าพรรค ก็จะทำพรรคก้าวไกลตามแนวทางที่สืบสานกันมา ตั้งแต่อนาคตใหม่-ก้าวไกล อย่างมั่นคง

"เรื่องบุคลากรที่จะดำรงตำแหน่ง ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะพรรคก้าวไกลมีคนที่มีคุณภาพเยอะแยะไปหมดเลย" นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่าผู้สนับสนุนหลายคนรู้สึกเสียขวัญ ที่นายพิธา ต้องลาออก นายธนาธร ตอบว่า อย่าเสียกำลังใจ เดินหน้าด้วยกันต่อไป 'อนาคตใหม่-ก้าวไกล' จะเป็นยังไงต่อ 'ไม่สำคัญ' ขอให้เรายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย แล้วร่วมผลักดัน สร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยต่อไป

"ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้ใหญ่กว่าเรื่องบุคคล เป็นเรื่องของอนาคตของประเทศไทย เรื่องนี้ใหญ่กว่าคน ใหญ่กว่าพรรคไปแล้ว เป็นเรื่องวาระที่จำเป็นของประเทศไทยที่จะต้องผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย" นายธนาธร กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top