Sunday, 8 June 2025
MOU

สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับโรงเรียนสิงห์สมุทร

วันนี้ 24 พฤษภาคม 2567 พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายถาวร เขียนเสมอ ผู้อำนวยการโรงเรียนสิงห์สมุทร ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมพัฒนากีฬาเรือใบ ระหว่าง สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับ โรงเรียนสิงห์สมุทร ณ สรุป ห้องประชุมสิงห์สมุทรชั้น 2 อาคารอำนวยการ โรงเรียนสิงห์สมุทร จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก ธานี ผุดผาด และ พลเรือเอก สมชาย ณ บางช้าง อุปนายกสมาคม ฯ 

นางสุทิศา ศรีตังนันท์ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน นางสาวปาริชาติ สันติเลขวงษ์ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ตลอดจน คณะผู้บริหารสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่ง ฯ และ คณะผู้บริหารโรงเรียนสิงห์สมุทร ร่วมเป็นสักขีพยาน
 
สำหรับการลงนาม ความเข้าใจ และบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ และ โรงเรียนฯ ในการส่งเสริมพัฒนากีฬาเรือใบ การให้โอกาสเข้าศึกษาในโรงเรียนสิงห์สมุทร และ ได้รับการจัดสรรเวลาจากโรงเรียนในการฝึกซ้อมและการแข่งขันกีฬาเรือใบ ตลอดจนสนับสนุนและส่งเสริมการเล่นกีฬาเรือใบให้กับนักเรียนของโรงเรียนฯ ซึ่ง สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจัดตั้งชมรมกีฬาเรือใบของโรงเรียนฯ และให้การฝึกสอนนักเรียนในชมรมดังกล่าว

และมีข้อตกลงในการนำนักเรียนของชมรมกีฬาเรือใบของโรงเรียนฯ ที่มีความสามารถ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเรือใบในรายการต่างๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนฯ รวมทั้งพัฒนาต่อยอดศักยภาพนักเรียนในชมรมกีฬาเรือใบของโรงเรียนฯ ให้ประสบความสำเร็จ ในรายการแข่งขันระดับนานาชาติและระดับโลก โดยที่ผ่านมา นักเรียนของโรงเรียนสิงห์สมุทร สามารถสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา สามารถคว้าเหรียญรางวัลประกอบด้วย 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถคว้าเหรียญทองมาได้ 1 เหรียญทอง 

รวมทั้งในรายการแข่งขันเรือใบข้ามอ่าว ในมหกรรมเรือใบเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เมื่อเดือน เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ณ อ่าวดงตาล อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นักกีฬาเรือใบของโรงเรียนสิงห์สมุทร ได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือใบทางไกล ประเภท Over all ระยะทาง 15 ไมล์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เชียงใหม่-คณะพยาบาล มช. MOU พัฒนาวิจัยและนวัตกรรมร่วมกับ Yonsei University

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกับ Yonsei University มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐเกาหลี นำโดย Professor Dr. Eui Geum Oh, Dean, College of Nursing, Yonsei University ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุฑารัตน์ มีสุขโข รองคณบดีด้านวิจัย นวัตกรรมและบูรณาการพันธกิจสากล พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วันเพ็ญ ทรงคำ รองคณบดีด้านพัฒนาการศึกษาปริญญาตรี ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อพัฒนางานวิจัย สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการพยาบาล รวมทั้งส่งเสริมโอกาสการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาและคณาจารย์บนเวทีระดับนานาชาติ ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองสถาบัน ณ Yonsei University กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567

พัฒนชัย/เชียงใหม่ 

กองทัพเรือ ร่วมลงนาม MOU การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนสตรีวัดระฆัง

วันนี้ 17 มิ.ย.67 พลเรือโทณัฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ ในนามกองทัพเรือ ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนสตรีวัดระฆัง ตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ระยะเวลา 5 ปี (ปีการศึกษา 2566-2570) โดยความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการประสานความร่วมมือทางวิชาการด้านการแพทย์ ระหว่าง กรมแพทย์ทหารเรือ กับโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านสื่อการเรียนการสอน แหล่งเรียนรู้ เครื่องมือและอุปกรณ์ด้านการแพทย์ รวมไปถึงการสนับสนุนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญของกรมแพทย์ทหารเรือ มาให้ความรู้กับนักเรียน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมนักเรียนสตรีวัดระฆัง รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานด้านอายุรศาสตร์การแพทย์ สามารถดูแลและอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและต่อยอดด้านอาชีพในอนาคต อีกด้วย การลงนามในครั้งนี้ มีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมการลงนาม ได้แก่ พลเรือตรีวสุธา ข่ายแก้ว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ, ว่าที่นาวาเอกหญิง กนกนุช ขำภักตร์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ, พลเรือเอกเชษฐา ใจเปี่ยม ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนสตรีวัดระฆัง และ นายถนอม บุญโต รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

🔎'สหพัฒน์' เล่นใหญ่!! เซ็น MOU 18 ฉบับ ครอบคลุมธุรกิจอนาคตไกลตัวไหนบ้าง?

'สหพัฒน์' สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ จัดลงนามบันทึกความเข้าใจและการลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน บุกธุรกิจที่มีโอกาสในอนาคตรวม 18 ฉบับ ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 28

โดยนายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่า สหกรุ๊ปแฟร์ แอนด์ เฟส จัดระหว่าง วันที่ 27-30 มิถุนายน 2567 ที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา ปีนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของเครือสหพัฒน์ ที่จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจและการลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้ง จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน รวม 18 ฉบับ ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวด้านการลงทุนครั้งใหญ่ และยังเป็นการประกาศทิศทางของเครือสหพัฒน์ที่จะมุ่งไปในอนาคต

นายธรรมรัตน์ เผยอีกว่า สำหรับเนื้อหาบาง MOU เช่น ความร่วมมือกับ เอตัวล์ ไคโตะ ผู้นำค้าส่งสินค้าจากญี่ปุ่น มีเป้าหมายเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ของแต่ละฝ่ายขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยที่สหพัฒน์จะนำสินค้าของเอตัวล์เข้ามาขาย สินค้าขายดีเช่น ชุดชั้นใน ขนม อาหาร ส่วนเอตัวล์ก็นำสินค้าสหพัฒน์ไปจำหน่าย ในแพลตฟอร์มที่มีอยู่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ส่วนความร่วมมือกับ ฟาสต์ บิวตี้ ธุรกิจร้านทำสีผมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เพื่อเปิดร้านทำสีผม fufu ในประเทศไทย วางเป้าหมาย 20 สาขาใน 3 ปี โดยจะเปิดสาขาแรกที่ทองหล่อสแตนด์อโลน ราคาบริการตั้งแต่ 1,500 – 5,000 บาท

ขณะที่ความร่วมมือกับ โตคิว คอร์เปอเรชั่น และดุสิตธานี เพื่อพัฒนาโครงการคิงสแควร์ เรสซิเดนซ์ และโครงการดุสิต สวีต คิงสแควร์ กรุงเทพฯ จะมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 10,000 ล้านบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับ 17 หน่วยงานทางการศึกษา ทำ MOU การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี มุ่งเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ

วันนี้ (23 กรกฎาคม 2567) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับผู้แทนหน่วยงานทางการศึกษา 17 หน่วยงาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บัญชาการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.อาคม ไตรพยัคฆ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนหน่วยงานทางการศึกษาทั้ง 17 หน่วยงาน ร่วมพิธี ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , มหาวิทยาลัยมหิดล , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยบูรพา , มหาวิทยาลัยนเรศวร , มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ , มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย , มหาวิทยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยกรุงเทพ , สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย , สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหงชาติ และสมาคมปญญาประดิษฐ์ประเทศไทย ร่วมพิธี

การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกับหน่วยงานทางการศึกษา 17 หน่วยงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการคิดค้น แลกเปลี่ยน นวัตกรรมทางเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ ระบบอัตโนมัติ (Automation) เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robotics) ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีให้แก่สมาชิก เพิ่มจำนวนคุณภาพบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม , เพื่อผลิตและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมของประเทศที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ให้เพียงพอทั้งภาคการผลิต บริการ สังคม และชุมชน เพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์ของเครื่องมือและการจัดการทรัพยากรร่วมกันระหว่างสมาชิกทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมโยง ประสานงานกับหน่วยงานหรือเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายกันทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อรวบรวม จัดทำฐานข้อมูลนักวิจัยด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระหว่างสมาชิก

ผบ.ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีภารกิจสำคัญยิ่ง คือการปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการดูแลรับผิดชอบด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งปัจจุบันสถิติการก่ออาชญากรรมด้านเทคโนโลยีมีแนวโน้มสูงขึ้น สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคิดค้น แลกเปลี่ยน และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเชื่อมโยงกับหน่วยงานหรือเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันทั้งในและต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติต่อไป

ทั้งนี้ ภายในงานบริเวณห้องประชุมแจ้งยอดสุข หน่วยงานต่างๆ ได้มาออกบูทจัดแสดงผลงานทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีด้วย โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหน่วยงานที่มาจัดแสดง ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ,สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ,ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1 , โรงพยาบาลตำรวจ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีบูทจัดแสดงผลงานของ 17 สถาบันการศึกษา และในส่วนภาคเอกชนที่มาร่วมจัดแสดง ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) , บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) , บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด (HUAWEI) , บริษัท ดิจิตอล ไดอาล็อก จำกัด (Digital Dialogue) , บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน) (IT Green) และบริษัท ซัมซุง (ประเทศไทย) จำกัด (SAMSUNG)

อีอีซี ผนึกกำลัง อบจ.ระยอง สถานศึกษา ภาคเอกชน ส่งเสริมการใช้ระบบสารสนเทศในการขนส่งสาธารณะ ในพื้นที่ อีอีซี

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2567 ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนการใช้ระบบสารสนเทศสำหรับการขนส่งสาธารณะ ร่วมกับ ดร.ปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา รองศาสตราจารย์ ดร.สถาพร เชื้อเพ็ง รองอธิการบดีวิทยาเชตศรีราชามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศผ่านระบบแอปพลิเคชั่นให้บริการรถโดยสารสาธารณะ ผ่านความร่วมมือจากหน่วยงานดังกล่าว ณ ห้อง Conference 1-2 สำนักงานอีอีซี ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือสำคัญ เพื่อสร้างต้นแบบการใช้ระบบสารสนเทศสำหรับการขนส่งสาธารณะในพื้นที่อีอีซี โดยนำระบบแอปพลิเคชั่น ViaBus ที่พัฒนาโดยบริษัทเอกชนมาใช้ประโยชน์ในการติดตามรถโดยสารสาธารณะ ในแบบเรียลไทม์ โดยจะนำร่องให้บริการในรถโดยสารสวัสดิการของ มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงรถโดยสารสาธารณะของ อบจ.ระยอง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ นักเรียน นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้ระบบฯ ดังกล่าว ซึ่งจะช่วยยกระดับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ให้มีความทันสมัย ปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้เกิดการบริหารเวลา รองรับการวางแผนเดินทางของประชาชนในพื้นที่อีอีซี

ทั้งนี้ ความร่วมมือตาม MOU จะเป็นการร่วมกันผลักดันให้เกิดการใช้ระบบสารสนเทศ สำหรับระบบขนส่ง สาธารณะในพื้นที่อีอีซี ให้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายต่อไป โดยจะประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน และผู้ที่สนใจอื่น ๆ เพื่อยกระดับโครงข่ายการเดินทาง ระบบคมนาคมในพื้นที่อีอีซี ด้วยเทคโนโลยีที่ ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการเดินทางของประชาชนอย่างไร้รอยต่อ ยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชนภายในพื้นที่อีอีซีอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ดร.ปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง กล่าวว่า การมีระบบขนส่งมวลชนที่ดีสำหรับจังหวัดระยอง เป็นความฝันของคนระยอง และของผมที่อยากจะทำให้กับคนระยอง แต่จากการพูดคุยในหลายครั้ง หลายเวที การที่จะปฏิรูประบบขนส่งในจังหวัดระยองอย่างเต็มรูปแบบ มันมีข้อจำกัดในการดำเนินการอยู่หลายประเด็น ทั้งทางด้านภาระทางงบประมาณ ด้านกฎหมาย และด้านผลกระทบต่อระบบเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นประเด็น ละเอียดอ่อนและไม่ได้ขึ้นอยู่กับ อบจ.ระยอง แต่เพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นภาพความฝันที่สมบูรณ์ของผมคงต้องใช้เวลา แต่ผมยังคงเชื่อว่ามันต้องเกิดขึ้นได้แน่นอน การร่วมมือกับ อีอีซี ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเติมความฝันของผมให้มีภาพชัดขึ้น ผมเชื่อว่าการนำแอปพลิเคชั่น ViaBus ไปประยุกต์ใช้ จะส่งประโยชน์ต่อคนระยอง ต่อ อบจ.ระยอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาโครงการ “รถสาธารณะไฟฟ้าวิ่งเลียบชายหาดแหลมเจริญ” ที่ อบจ.ระยอง กำลังดำเนินการอยู่ แอปพลิเคชั่น ViaBus นี้จะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของโครงการ ที่จะสร้างความสะดวกให้แก่กลุ่มผู้ใช้บริการโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ และจะเป็นประโยชน์ในการต่อยอดสำหรับโครงการอื่นๆ ของ อบจ.ระยอง ต่อไปได้อย่างแน่นอน
รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยบูรพา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในครั้งนี้ ในการร่วมกับ อีอีซี นำแอปพลิเคชั่น ViaBus มาใช้ประโยชน์เป็นระบบเพิ่มเติมจากแอปพลิเคชั่น BBUTransit ที่มหาวิทยาลัยได้พัฒนาและใช้ติดตามรถสวัสดิการของมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน เพื่อขยายการอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มนิสิต บุคลากร ประชาชน และผู้รับบริการภายในมหาวิทยาลัยให้กว้างขวางมากขึ้น ทั้งนี้จากเป้าหมายของมหาวิทยาลัยบูรพาที่ว่า “เราจะทำให้ ม.บูรพา ให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่ง EEC” มหาวิทยาลัยบูรพาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือกับ อีอีซี ผ่านแอปพลิเคชั่น ViaBus ในครั้งนี้ จะสามารถเป็นต้นแบบให้สามารถขยายผลการใช้ประโยชน์ไปยังพื้นที่อื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ อีอีซี สามารถผลักดันการเชื่อมต่อโครงข่ายด้านคมนาคมขนส่งและยกระดับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่ได้สำเร็จ ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความทันสมัย ปลอดภัย อำนวยความสะดวก ให้เกิดการบริหารเวลา รองรับการวางแผนการเดินทางของประชาชนในพื้นที่อีอีซีต่อไป
รองศาสตราจารย์ ดร.สถาพร เชื้อเพ็ง รองอธิการบดีวิทยาเชตศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับ อีอีซี นำแอปพลิเคชั่น ViaBus ไปใช้ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถสวัสดิการของวิทยาเขตศรีราชาในปัจจุบัน ให้มีความมีความ ทันสมัยมากขึ้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือกับ อีอีซี ในครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์ต่อนิสิตบุคลากร รวมถึงประชาชนและผู้มาติดต่อ เพื่อการวางแผนการเดินทางในพื้นที่วิทยาเขตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทาง วิทยาเขตศรีราชาหวังว่า การร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถเป็นต้นแบบได้อย่างสมบูรณ์ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ และมีความยินดีให้การสนับสนุนในการขยายผลการใช้ประโยชน์ไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งในพื้นที่ อีอีซี และในวิทยาเขตอื่นของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ต่อไป นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทเวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยยกระดับระบบขนส่งสาธารณะ อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในการวางแผนและบริหารเวลาการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะประจำทางและรถโดยสารให้บริการของหน่วยงาน โดยนวัตกรรม ViaBus นั้นให้บริการด้านการติดตามและนำทางรถโดยสารแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางในระบบรถโดยสารได้ง่ายขึ้น เช่น ตำแหน่งรถ สถานี(ป้าย) เส้นทาง ทำให้ผู้โดยสารสามารถตัดสินใจในการเดินทาง รวมถึงบริหารเวลาและวางแผนการการเดินทางได้ดีขึ้นและไม่ใช่เพียงผู้โดยสารเท่านั้น นวัตกรรม ViaBus นี้ยังนำเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการ มาช่วยเหลือผู้ประกอบการเดินรถให้สามารถบริหารจัดการการเดินรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความอัตโนมัติและตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสารมากขึ้นทั้งนี้ ความร่วมมือตาม MOU ในครั้งนี้จะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาการยกระดับการคมนาคมขนส่งแบบบูรณาการ ทำให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ช่วยให้เสริมสร้างเศรษฐกิจ เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้เดินทางได้รับการเดินทางที่ทันสมัยและไร้รอยต่อ และสามารถยกระดับการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกต่อไป

อีอีซี ร่วม ทน.แหลมฉบัง เซ็น MOU ส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City)

ที่ ห้องประชุมเมืองใหม่ 2 เทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และนางจินดา ถนอมรอด นายกเทศนตรีเทศบาลนครแหลมฉบัง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การอนุญาต หรือรับแจ้ง รวมถึงการบังคับการตามกฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และกฎหมายว่าด้วยโรงาน และเรื่อง การส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยมี นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ สายงานเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ อีอีซี และนายสันติ ศิริตันหยง รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง  คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า การลงนามฯ MOU ระหว่าง อีอีซี และเทศบาลนครแหลมฉบัง ครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการในเขตส่งเสริมพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ได้รับบริการจากภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (EEC One Stop Service) และจะช่วยลดขั้นตอนในการประกอบธุรกิจให้นักลงทุน หรือผู้ที่ต้องการขอใบอนุมัติ ใบอนุญาต ได้รับบริการสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยอีอีซี จะเป็นผู้ให้บริการทั้งในส่วนการรับคำขอรับใบอนุญาต ใบรับแจ้งตามกฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และเทศบาลนครแหลมฉบัง จะร่วมสนับสนุนในกระบวนการออกใบอนุญาต ใบรับแจ้ง และใบรับรองตามกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นการบูรณาการการปฏิบัติงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐทั้งสองหน่วยงาน อันเป็นการส่งเสริมการลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การลงนาม MOU ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในพื้นที่ อีอีซี ทั้ง 2 หน่วยงาน จะร่วมกันสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมดิจิทัล หรือระบบบริการเมืองอัจฉริยะ รวมทั้งจะสนับสนุนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ทั้งด้านพัฒนาข้อมูล และพัฒนาระบบให้บริการเมือง ที่เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมบริการดิจิทัล เพื่อการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลนครแหลมฉบัง นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีเทศบาลนครแหลมฉบัง กล่าวเสริมว่า ทางเทศบาลนครแหลมฉบัง พร้อมให้การสนับสนุนโครงการร่วมกับ อีอีซี ซึ่งทางรัฐบาลได้มอบหมายให้พื้นที่นครแหลมฉบัง เป็นส่วนหนึ่งของอีอีซี  ซึ่งในวันนี้ทางนครแหลมฉบัง ได้มีโอกาสลงนามความร่วมมือ MOU นับเป็นแนวทางการดำเนินการร่วมกันในการอนุมัติ  การขออนุญาตถมดินขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่แหลมฉบัง การอนุญาตตามขอบเขตของกฎหมาย มุ่งเน้นการพัฒนาการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานทั้งสอง ลดความสับสน และความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติหน้าที่ และจะเป็นการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร หรือ One Stop Service ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงได้ร่วมกันสนับสนุนขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่จะเป็นโอกาสสำคัญเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และประชาชนทั่วไป ถึงการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของพื้นที่และชุมชม เพื่อพัฒนาให้แหลมฉบังเจริญเติบโตตามนโยบายของรัฐบาล ได้อย่างต่อเนื่อง

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

กรมแพทย์ทหารเรือ ลงนาม MOU ทางการแพทย์ฯ กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กรมการแพทย์ทหาร 3 เหล่าทัพ และ สตช.

(4 ก.ย. 67) กรมแพทย์ทหารเรือ โดย พลเรือโท ณัฐ  อิศรางกูร ณ อยุธยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ และคณะเข้าร่วมในพิธี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทางการแพทย์และสาธารณสุข ระหว่างคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กรมการแพทย์ทหาร 3 เหล่าทัพ และสำนักงานแพทย์ใหญ่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ณ ห้องประชุมสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช เมื่อ 3 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ MOU ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อเป็นสถาบันพี่เลี้ยงและจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นปีที่ 1-3 กับคณะแพทยศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผลิตแพทย์ที่มีอัตลักษณ์ตำรวจที่มีประสิทธิภาพ

(17 ก.ย. 67) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมาย พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อเป็นสถาบันพี่เลี้ยงและจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นปีที่ 1-3 ให้กับคณะแพทยศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ณ ห้องพรหมนอก อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ ตามเจตนารมณ์นโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ในเรื่องศักดิ์ศรี ขวัญกำลังใจ คุณภาพชีวิต สวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว จึงมอบหมายให้โรงพยาบาลตำรวจดำเนินการเปิดหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตของสำนักงกงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อผลิตแพทย์ที่มีอัตลักษณ์ตำรวจ มีลักษณะเด่น คือ มีความรู้ด้านการแพทย์ ด้านกฎหมาย ด้านนิติเวชศาสตร์ และด้านนิติวิทยาศาสตร์ โดยมอบหมายให้โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในการสนับสนุนการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 1-3 และเป็นสถาบันพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือแก่คณะแพทยศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ 

โดยในปี 2529 จนถึงปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติและมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือให้โรงพยาบาลตำรวจเป็นโรงพยาบาลสมทบ ในการจัดการเรียนการสอนและการฝึกปฏิบัติทางคลินิกให้กับนิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเป็นสถาบันที่มีประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาแพทย์ ตรงตามข้อกำหนดของแพทยสภา ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 สถาบัน ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ในโอกาสนี้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒจึงจะได้เป็นสถาบันพี่เลี้ยงให้กับคณะแพทยศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และให้การสนับสนุนการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาแพทย์ตำรวจ ชั้นปีที่ 1-3 คณะแพทยศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ต่อไป

พล.ต.อ.สราวุฒิฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติตกลงทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒยินดีเป็นสถาบันพี่เลี้ยงให้แก่คณะแพทยศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และจะให้การสนับสนุนการศึกษาเพื่อผลิตแพทย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของทั้งสองฝ่าย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติยินดีให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ แก่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตามการดำเนินการตามบันทึกความร่วมมือนี้ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาทางการแพทย์ งานวิชาการ งานวิจัยและด้านอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาด้านการเรียนการสอนด้านการแพทย์อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง

สมุทรปราการ-โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับจังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อวันที่ (18 ก.ย. 67) ณ Feeling Bar & Restaurant ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานในพิธี การลงนามครั้งนี้ มุ่งเน้นการส่งเสริมมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่ง

โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนและลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ นำโดย ดร.มัทนิน พฤติธนาภัทร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ได้มีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าว

โดยมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนมาตรการด้านความปลอดภัยให้กับชุมชน และมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการพัฒนาและดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนในพื้นที่

ซึ่งการลงนามครั้งนี้ สะท้อนถึงการสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ถนนในจังหวัดสมุทรปราการ

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top