Saturday, 17 May 2025
Lite

‘BEC Studio’ ส่ง 2 ซีรีส์คุณภาพเข้า ‘Prime Video’ ผลงานจากนักแสดงมากฝีมือ เตรียมฉาย พ.ย. - ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา คุณบอย อภิชาติ์ หงษ์หิรัญเรือง กรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจ BEC Studio นำทีมผู้กำกับและนักแสดงร่วมงาน ‘แกะกล่องไทยบันเทิง’ โดย Prime Video ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งระดับโลก เป็นแหล่งรวบรวมภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ และคอนเสิร์ตสุดประทับใจ พร้อมส่งตรงความบันเทิงแบบครบทุกอารมณ์ 

โดยทาง BEC Studio ได้ผลิตผลงานคุณภาพมาเสริมทัพความบันเทิง และพร้อมนำเสนอซีรีส์เรื่องใหม่สู่สายตาแฟน ๆ ทั่วโลกผ่าน Prime Video 2 เรื่อง ได้แก่

1.เรื่อง ‘ร้อยเล่มเกมส์ออฟฟิศ’ นำแสดงโดย มิ้นต์ ชาลิดา, นนกุล ชานน เริ่มฉาย 23 พฤศจิกายน 2566 เป็นเรื่องราวของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศที่พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในแต่ละวัน โดยใช้สารพัดเล่ห์เหลี่ยมเพื่อพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ ‘อลิศ’ (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) นักขายปากแจ๋วที่แบกโลกทั้งใบภายใต้คำว่าความอยู่รอดของครอบครัว เมื่ออาชีพเซลล์ขายรถไปต่อไม่ได้ ครอบครัวกำลังจะไม่มีที่อยู่ เธอจึงต้องนำพาชีวิตให้รอด ไม่ต่างกับ ‘เมษ’ (ชานน สันตินธรกุล) วิศวกรหนุ่มชีวิตพัง เพราะตึกที่เขาออกแบบดันถล่มลงมา เขาทั้งคู่จึงเดินเข้าสู่โลกใหม่ที่ท้าทายด้วยการมาเป็นพนักงานขายกองทุนให้กับธนาคารไทยธนา ที่เป็นดั่งสมรภูมิรบและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงเพื่อแย่งชิงยอดขาย ไม่มีคำว่าเพื่อนหรือพี่น้อง แต่แล้วเมื่ออลิศและเมษพบว่า ทั้งหมดเป็นเพียงหลุมพรางของนักฉ้อฉลทางการเงินที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากนักบริหารที่ประสบความสำเร็จ และเมื่อเป้าหมายเดียวในชีวิตคือความอยู่รอดของครอบครัวมันไม่มีค่าอีกแล้ว เมษจึงช่วยอลิศกระชากหน้ากากเปิดโปงจอมบงการที่ทำลายชีวิตของเธอ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมกลับมา

2.เรื่อง ‘มือปราบกระทะรั่ว’ นำแสดงโดย เต้ย จรินทร์พร, เต๋อ ฉันทวิชช์ เริ่มฉาย 21 ธันวาคม 2566 เป็นเรื่องราวของ ‘มาวิน’ (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) มือปราบหัวร้อน ถูกพักงานเพราะความบุ่มบ่าม ทำให้เอเย่นต์ค้ายาหลุดรอดไปได้ มาวินยังมุ่งมั่นตามล่าเอเย่นต์คู่ปรับ จนมาพบว่าแหล่งผลิตยาเสพติดซ่อนอยู่ในชุมชนสันติสุข โดยมี ‘เฮียหมา’ เป็นหัวหน้าแก๊งขาใหญ่ พวกมันมักมารวมตัวกันที่ร้านเภาโภชนา มาวินจึงวางแผนแฝงตัวเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านเพื่อจับเฮียหมาเข้าคุก แต่มันไม่ง่ายเพราะ ‘ขิง’ (จรินทร์พร จุนเกียรติ) ยูทูบเบอร์สาว หลาน ‘ป้าเภา’ เจ้าของร้าน ไม่ชอบขี้หน้ามาวิน ขิงคอยแกล้งไม่ให้มาวินทำภารกิจสำเร็จเพราะตัวเองต้องการให้ป้าเภาปิดร้านและออกจากชุมชนที่เต็มไปด้วยอาชญากร แต่ป้าเภาซึ่งผูกพันกับคนในชุมชนมาทั้งชีวิตไม่อยากทิ้งชุมชนไป มาวินจำต้องพิสูจน์ให้ขิงเห็นว่าการหนีไม่ใช่ทางออกของปัญหา ขิงจึงตัดสินใจร่วมมือกับมาวินเปลี่ยนย่านอาชญากรรมให้กลายเป็นย่าน Street Food เพื่อให้ชุมชนน่าอยู่อีกครั้ง มาวินจากมือปราบหัวร้อนจำต้องกลายเป็นมือปราบกระทะรั่ว

‘อ้วน รังสิต’ ท้อ!! ‘ถนนเข้าบ้านชำรุด’ ยื่นคำร้อง 3 ปี แต่ไม่คืบหน้า เผย ตัดสินใจยื่นซ้ำอีกรอบ หากยังไม่ได้คงต้องยอมแพ้

(5 ต.ค.66) ทำเอาพระเอกคุณพ่อลูกหนึ่งอย่าง ‘อ้วน รังสิต’ ถึงกับออกมาโพสต์ระบายความในใจ หลังต้องประสบปัญหา ทางเข้าบ้านชำรุด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยยื่นเรื่องไปแล้วทั้งทางออนไลน์ รวมถึงเดินทางไปเองที่เขต แต่กลับไม่มีความคืบหน้า โดยจากคลิปวิดีโอที่เจ้าตัวได้ลงจะเห็นว่า ถนนค่อนข้างขรุขระ และมีน้ำขังเป็นจำนวนมาก

ภาพทางเข้าบ้าน ‘อ้วน รังสิต’ ถูกโพสต์ผ่านทาง IG auan_rangsit พร้อมแคปชันระบุว่า ยื่นคำร้องขอถนนมา 3 ปี ทั้งไปที่เขตและทางออนไลน์ฟองดูว์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้ก็ไปยื่นเรื่องมาอีกรอบ ถ้ายังไม่ได้คงต้องยอมแพ้แล้วอยู่ไปแบบนี้แหละ #ความเจริญอยู่แค่เอื้อม #ถนนหน้าบ้านผมเอง #อยากมีถนนดีๆใช้บ้าง

จากนั้นก็มีแฟนๆ เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก มีทั้งที่แชร์ประสบการณ์เดียวกันกับที่เคยพบเจอ อาทิ “เหมือนกันเลยครับ หนองจอก กทม.สุวินทวงศ์ 51 รอมา 30 ปี ตั้งแต่ผมเกิด ตอนนี้ยังเป็นแบบนี้อยู่เลยครับ”, “น่าจะยากหน่อยนะคะ งบประมาณการทำถนนต้องดูว่ามีประชากรกี่หลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบ ดูแล้วเหมือนไม่มาก”

ก่อนที่จะมีผู้ใช้งานโซเชียลเข้ามาแนะนำว่า “ถ้าอยู่เขตกทม.ไปร้องคุณชัชชาติได้เลยค่ะ เช็กว่ามีประมาณกี่ครัวเรือนในซอยนี้ ถ้าอยู่ในเกณฑ์คงจะได้ แต่จะชอบพูดว่ารองบ แจ้งนักข่าวตีข่าวในโซเชียล พอคนสนใจมาก ได้แน่นอนค่ะ (และควรมีเสาไฟแสงสว่างด้วย)”

‘หนิง ไอลีน’ ขอโทษ หลังทัวร์ลง ปมโพสต์ถึงเหตุกราดยิง ล่าสุดโดนต้นสังกัดลงดาบ สั่งระงับงานทั้งหมดแล้ว

(6 ต.ค. 66) กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าเลยทีเดียว หลังจากที่ศิลปินอินดี้ร้อยล้านวิว ‘หนิง ไอลีน’ ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีเด็ก 14 กราดยิงที่สยามพารากอน ซึ่งทำให้มีคนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย โดยเจ้าตัวได้ทวิตข้อความว่า…

“โลกนี้โสมม ประชากรล้นโลก สมควรแล้ว” และ “เป็นเราจะไม่ยิงแค่นี้หรอก #กราดยิงพารากอน”

ล่าสุดต้นสังกัดอย่าง ‘ไทดอล มิวสิค’ ก็ประกาศระงับงานหนิง ไอลีนทั้งหมดทันที พร้อมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าไม่สนับสนุนพฤติกรรมและการกระทำดังกล่าวของศิลปิน ซึ่งล่าสุด หนิง ไอลีน ก็ได้ออกมาโพสต์ขอโทษแล้ว

“หนิงต้องขอโทษทุกคนกับสิ่งที่หนิงได้ทำลงไป ทั้งหมดเกิดจากความผิดของหนิงเอง หนิงขอโทษทางค่าย และแฟนคลับหนิงเอง ทุกๆ คนที่เห็นโพสต์ของหนิง หนิงขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ หนิงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความผิดทั้งหมดหนิงขอรับไว้คนเดียวค่ะ”

นอกจากนี้ ‘หนิง ไอลีน’ ยังเคยตกเป็นกระแสดรามา หลังจากที่ ‘ชาล็อต ออสติน’ มาเล่นเอ็มวีให้ แต่กลับให้สัมภาษณ์เรื่องฉากจูบกับชาล็อต ที่ระบุว่า “ตอนถ่ายจริงๆ เต็มปาก” ทำให้ถูกมองว่าฉวยโอกาส และไม่ให้เกียรติชาล็อต จนเกิดแฮชแท็ก #แบนหนิงไอลีน และเจ้าตัวก็ออกมายกมือไหว้ขอโทษ บอกจะนำมาเป็นบทเรียน ไม่ทำแบบนี้อีก

7 ตุลาคม พ.ศ. 2463 ‘เรือหลวงพระร่วง’ เรือรบหลวงลำแรกของไทย เดินทางมาถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา

วันนี้ เมื่อ 103 ปีก่อน ‘เรือหลวงพระร่วง’ เรือรบหลวงลำแรกของไทย เดินทางมาถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้การบังคับการโดย ‘กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์’ 

เรือหลวงพระร่วง เป็นเรือหลวงลำแรกในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งข้าราชการและประชาชนผู้มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างเรือรบไว้เพื่อป้องกันราชอาณาจักรทางทะเล จึงร่วมกันจัดตั้ง ราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (The Royal Navy League of Siam) ขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2457 เพื่อเรี่ยไรทุนทรัพย์ซื้อเรือรบถวายเป็นราชพลี 

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีความยินดีและเห็นชอบ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามเรือนี้ว่า พระร่วง อันเป็นสิริมงคลตามวีรกษัตริย์อันเป็นที่นับถือของชาวไทยทั่วไป พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญในการหาทุนเพื่อสร้างเรือลำนี้ เช่น ได้แก้ไขบทละครเรื่อง ‘มหาตมะ’ ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2475 ทรงนำเรื่องการเสียสละทุนทรัพย์สมทบทุนสร้างเรือรบเข้ามาเป็นหัวใจของเรื่อง และได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการแสดงเพื่อเก็บเงินสมทบทั้งในพระนครและต่างจังหวัด ทั้งยังมีการแสดงละครพระราชนิพนธ์อีกหลายเรื่องตลอดจนโปรดเกล้าฯ ให้มีการประกวดภาพเพื่อหารายได้อีกด้วย 

นอกจากนั้นพระองค์ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวน 80,000 บาท กับเงินที่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการได้พร้อมใจกันออกทุนเรี่ยไรถวายเมื่อครั้งจัดงานพระราชพิธีทวีธาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งยังเหลือจากการใช้จ่ายเป็นจำนวนเงิน 116,324 บาท ทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่งโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์อีกเป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท เมื่อรวมกับเงินที่เรี่ยไรทั่วพระราชอาณาจักร ได้จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,514,604 บาท 1 สตางค์ ในปี พ.ศ. 2463

ต่อมา นายพลเรือโท พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นข้าหลวงพิเศษออกไปจัดซื้อเรือในภาคพื้นยุโรปพร้อมด้วยนายทหารอีก 5 นาย คณะข้าหลวงพิเศษตรวจการซื้อเรือในภาคพื้นยุโรปชุดนี้คัดเลือกได้เรือพิฆาตตอร์ปิโด มีนามว่า ‘เรเดียนท์’ (RADIANT) ของบริษัทธอร์นิครอฟท์ (Thornycroft Co.,) ประเทศอังกฤษ ซึ่งเห็นว่าเหมาะสมแก่ความต้องการของกองทัพเรือและเป็นเรือที่ต่อขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459 ระหว่างมหาสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้นสงครามยุติลงเมื่อ พ.ศ. 2461 อังกฤษจึงยินดีขาย คณะข้าหลวงพิเศษได้ตกลงซื้อเรือลำนี้เป็นเงิน 200,000 ปอนด์ ส่วนเงินที่เหลือจากการซื้อเรือนั้นได้พระราชทานให้แก่กองทัพเรือไว้สำหรับใช้สอย เสด็จในกรมฯ ได้เป็นผู้บังคับการเรือลำนี้จากประเทศอังกฤษเข้ามาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2463 นับเป็นเกียรติประวัติครั้งแรกที่คนไทยเดินเรือทะเลได้ไกลถึงเพียงนี้

สำหรับสมรรถนะของเรือหลวงพระร่วงมีดังนี้ คือ มีระวางขับน้ำ 1,046 ตัน ความยาวตลอดลำ 83.57 เมตร ความกว้างสุด 8.34 เมตร กินน้ำลึก 4 เมตร อาวุธปืน 102 ม.ม. 3 กระบอก ปืน 76 ม.ม. 1 กระบอก ต่อมาติดปืน 40 ม.ม. 2 กระบอก ปืน 20 ม.ม. 2 กระบอก มีตอร์ปิโด 21 นิ้ว 4 ท่อ มีรางปล่อยระเบิดลึก และมีแท่นยิงปืนระเบิดลึก 2 แท่น เครื่องจักรเป็นแบบไอน้ำแบบ บี.ซี. เกียร์ เทอร์ไบน์ จำนวน 2 เครื่อง ใบจักรคู่ กำลัง 29, 000 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 35 น นอต ความเร็วมัธยัสถ์ 14 นอต รัศมีทำการเมื่อความเร็วมัธยัสถ์ 1,896 ไมล์ ทหารประจำเรือ 135 คน

๘ ตุลาคม วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี กับวีระยุทธ ดิษยะศริน เป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นพระภาคิไนยในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

>>พระประวัติ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ หรือพระนามลำลองว่า พระองค์หริภา ประสูติเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2525 ณ พระตำหนักใหม่ สวนจิตรลดา เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี กับนาวาอากาศเอกวีระยุทธ ดิษยะศริน มีพระขนิษฐาหนึ่งพระองค์ คือพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ

เมื่อประสูติพระองค์ดำรงพระยศที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ด้วยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระโอรสพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ให้ดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ทุกพระองค์ ซึ่งพระยศดังกล่าวเทียบเท่าตำแหน่ง "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า"

>>การศึกษา
พระองค์เข้ารับการศึกษาระดับอนุบาลปีที่ 1 - ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนจิตรลดา, ประถมศึกษาปีที่ 5 - มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนฮอล์ตัน-อามส์ (Holton-Arms School) รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา, ระดับเกรด 8 โรงเรียนเฮอร์เบิร์ตฮูเวอร์มิดเดิล (Herbert Hoover Middle School) สหรัฐอเมริกา, ระดับเกรด 8-11 โรงเรียนมัธยมวอลเตอร์ จอห์นสัน (Walter Johnson High School) สหรัฐอเมริกา ภายหลังได้นิวัติกลับประเทศไทยและเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 โรงเรียนจิตรลดา

ส่วนระดับอุดมศึกษา ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาภาพพิมพ์ (เกียรตินิยมอันดับ 2) คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาศิลปไทย ภาควิชาศิลปไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร

>>พระกรณียกิจ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงประกอบพระกรณียกิจทั้งในด้านการสนองพระเดชพระคุณในฐานะพระราชวงศ์ และพระกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อาทิ

- รองประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
- นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬาทางอากาศและการบินแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
- ประธาน ศูนย์ปฏิบัติการบินอาสา อนุรักษ์และกู้ภัย สิริภาจุฑาภรณ์ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติ
- โครงการงานบ้านกู้ภัย ‘โครงการบ้านกู้ภัยร่วมใจสิริภา’ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติภัย

>>ด้านศิลปะ
ทรงส่งเสริมงานด้านต่าง ๆ ของคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย ต่าง ๆ อาทิ

- ทรงจัดประมูลงาน ‘ภาพฝีพระหัตถ์พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์’ เพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัด ในงาน ‘นิทรรศการศิลปะเพื่อสุนัข My Friends’
- งานบูรณะพระวิหาร บูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนังบูรณะศาลาบ่อทิพย์ และปรับพื้นที่ภูมิทัศน์ วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการจัดสร้างสวนประติมากรรม ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพุทธศาสนา’ เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชุมชน
- โครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังพระวิหารวัดหนองน้ำขุ่น ตำบลวังหว้า อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

9 ตุลาคม ของทุกปี ตรงกับ ‘วันไปรษณีย์โลก’ ย้อนรำลึกวันวานส่งข่าวสารผ่านจดหมาย

วันไปรษณีย์โลก (World Post day) จะมีขึ้นทุกปีในวันที่ 9 ตุลาคม เพื่อเป็นการระลึกถึง วันเริ่มก่อตั้งสหภาพไปรษณีย์สากล

ก่อนที่จะมีสหภาพไปรษณีย์สากล การที่ประเทศหนึ่งจะแลกเปลี่ยนไปรษณีย์กับประเทศอื่นได้ต้องมีการทำสนธิสัญญากับแต่ละประเทศคู่สัญญา อีกทั้งการส่งจดหมายระหว่างประเทศมักต้องติดแสตมป์ของประเทศต่าง ๆ ที่จดหมายเดินทางผ่าน จึงมีการเรียกร้องให้มีการประชุมนานาชาติในเรื่องนี้ จนกระทั่ง เมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2417 ในการประชุมที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ลงนามในสนธิสัญญาเบิร์น จัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศได้สำเร็จ ใช้ชื่อว่า สหภาพไปรษณีย์ทั่วไป และในการประชุมไปรษณีย์สากลสมัยถัดไป พ.ศ. 2421 (ค.ศ. 1878) ที่กรุงปารีส เห็นว่าจำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้น จึงได้ลงมติเปลี่ยนมาใช้ชื่อ สหภาพไปรษณีย์สากล Universal Postal Union จนถึงปัจจุบัน

ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 สมาชิกสหภาพสากลไปรษณีย์ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ได้กำหนดให้วันที่ 9 ตุลาคม เป็นวันไปรษณีย์โลก World Post Day และประเทศสมาชิกตกลงร่วมกันที่จะเฉลิมฉลองในโอกาสนี้โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเขียนจดหมาย อันเป็นการสร้างสัมพันธภาพ และเสรีภาพผ่านตัวอักษร โดยไม่จำกัดเชื้อชาติหรือศาสนา ให้ทุกคนบนโลกใบนี้สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้อย่างทั่วถึง

‘นิ้ง กุลสตรี’ เผยค่ายาที่ใช้รักษาอาการป่วย เพียง 1 ถุง ราคาเกือบล้าน พร้อมเอ่ยขอบคุณประเทศ หลังสามีใช้สิทธิ์เบิกได้ ทำให้จ่ายไม่เท่าไหร่

เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.66) เป็นอีกหนึ่งอดีตนางเอกสาวขวัญใจชาวไทยยุค 90 ที่แฟน ๆ ยังคงคิดถึงอยู่เสมอ ‘นิ้ง-ณิชชยาณัฐ ศิริพงศ์ปรีดา’ หรือ ‘นิ้ง กุลสตรี’ วัย 50 ปี ที่ก่อนหน้านี้ ได้หันหลังให้วงการบันเทิงไป ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินดัง จนกระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อน เธอได้ล้มป่วยด้วยโรคไขกระดูกบกพร่อง ร่างกายไม่สามารถสร้างเกล็ดเลือดด้วยตัวเองได้ ทำให้เธอต้องเข้า-ออกโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาอาการป่วยและภาวะแทรกซ้อนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางแฟน ๆ ที่คอยติดตามอาการและส่งกำลังใจให้อย่างมากมาย

ล่าสุด ‘นิ้ง ณิชชยาณัฐ’ ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @nink_nichayanaht เผยภาพยาที่ตนเองใช้ทานรักษาอาการป่วย เพียง 1 ถุง ราคาเกือบล้าน พร้อมกับเล่าว่า…

"ยาถุงนี้ทานสำหรับ 3 เดือน ราคาเกือบ 1 ล้านบาท (ยาพุ่งเป้า (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) target therapy / ยาโรคซึมเศร้า / ยาแก้ปวด) โชคดีที่พี่ใหญ่เป็นทหารอากาศมาก่อนเลยได้สิทธิ์เบิกตรง เสียส่วนต่างค่ายาไม่เท่าไหร่ ไม่รวมค่าห้องพักรักษา ขอบคุณประเทศ สรุป....ชีวิตนี้อยู่ได้เพราะยาเท่านั้น 'ไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ' มาบริจาคเงินให้ธนาคารเลือดที่ศิริราชมูลนิธิ"

ซึ่งโพสต์นี้ก็มีแฟน ๆ เข้ามาร่วมให้กำลังใจอย่างล้นหลาม อาทิ ยาต่อให้แพงและดีแค่ไหน...ถ้าไม่กำลังใจที่เข้มแข็ง...ยาก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ...สู้ ๆๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ โรคทั้งหลายแพ้กำลังใจค่ะ, เป็นกำลังใจให้นะคะ นางเอกคนสวยของคนไทย, เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้พลังแห่งความรักทำให้คุณนิ้ง แข็งแรงอยู่กับครอบครัวที่รักไปนาน ๆ นะคะ, คุณไม่ได้อยู่ได้เพราะยา คุณอยู่ได้เพราะความรักจากคนรักและคนอื่น ๆ ที่อยู่ไกล ๆ แต่เขาก็รักคุณ, อนุโมทนาสาธุค่ะ แม้ร่างกายจะป่วย แต่โชคดีที่จิตใจดีมีเมตตาเต็มเปี่ยม ส่งต่อสิ่งดี ๆ ด้วยการเป็นผู้ให้ต่อไปค่ะ

‘ลิซ่า’ นั่งอันดับ 1 ‘ตัวแม่ด้านความงาม’ ประจำปี 2023 จากการจัดอันดับของ Influencer Magazine ประเทศอังกฤษ

เมื่อวันที่ 5 ต.ค.66 สร้างตำนานไม่หยุดอีกแล้วสำหรับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ ที่นอกจากความสำเร็จด้านวงการเพลงแล้ว ด้านวงการแฟชั่นและความงามก็กำลังยืนหนึ่งไม่แพ้กัน

โดยล่าสุดได้รับการจัดอันดับให้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งตัวแม่ด้านความงามอย่าง ‘Beauty Mogul of the Year’ จาก Influencer Magazine Awards 2023 ในอังกฤษ ที่เคยมีตัวแม่อีกคนอย่าง ไคลี เจนเนอร์ เคยได้ติดอันดับท็อปมาแล้ว

ความนิยมของ ‘ลิซ่า’ กำลังทะยานพุ่งขึ้นไม่หยุดเพราะล่าสุดยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของเธอก็แตะ 98 ล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำเอาแฟนๆ ลุ้นว่ายอด 100 ล้านคงจะแตกเร็วๆ นี้แน่นอน

ถอดถ้อยคำ ‘แอฟ ทักษอร’ กล่าวอาลัย ‘คุณพ่ออนุสรณ์’ เป็นครั้งสุดท้าย สุดกลั้นน้ำตาแห่งความคิดถึงจากหัวใจลูกสาว ถึงคุณพ่อผู้เป็นที่รักยิ่ง

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเศร้าโศก ณ วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีฉาปนกิจ ‘คุณพ่ออนุสรณ์ ภักดิ์สุขเจริญ’ คุณพ่อของนักแสดงสาวชื่อดัง ‘แอฟ ทักษอร’

โดยในช่วงหนึ่งของพิธีการทางศาสนา ‘แอฟ ทักษอร’ ได้มีโอกาสขึ้นกล่าวประวัติ และเส้นทางชีวิตของคุณพ่ออนุสรณ์ ผู้เป็นที่รักยิ่ง รวมทั้งถ้อยคำไว้อาลัยซึ่งถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ภายในหัวใจ จนถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความรักและความคิดถึงเอาไว้ไม่อยู่…

“การได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ คือสิ่งที่แอฟภูมิใจ การได้เป็นที่รู้จักในฐานะแอฟ ลูกคุณอนุสรณ์ สถาปนิกสุดเท่ ผู้เป็นที่รักของลูกค้ามากมาย แอฟลูกอาจารย์อนุสสอนน์ อาจารย์ที่เคารพรักของลูกศิษย์ และสุดท้ายในฐานะแอฟลูกพ่อสอนน์ คุณพ่อที่รักและใจดีกับลูกที่สุด เราสนิทกันมาก มากที่สุดเท่าที่พ่อกับลูกสาวจะสนิทกันได้

พ่อเป็นที่พึ่งทั้งกายและใจให้ลูกเสมอ พ่อเป็นคนเดียวในโลกที่แอฟอุ่นใจได้ว่าติดต่อได้ตลอดเวลา เพราะสำหรับพ่อลูกสำคัญกว่าสิ่งใดเสมอ แอฟจะจดจำทุกคำสอน ทุกหนังสือที่พ่อได้อ่าน โดยเฉพาะหนังสือปรัชญาที่พ่อชอบ ตอนเด็กๆ พ่ออ่านให้แอฟฟัง พอโตขึ้นแอฟกลับได้อ่านให้พ่อฟังตอนที่พ่อป่วย

แต่พ่อยังยิ้มทุกครั้งแม้พ่อจะเจ็บป่วย พ่อยิ้มให้ลูกทุกครั้งที่ลูกอ่านให้ฟังอย่างตั้งใจ หนังสือ 3 เล่มโปรดที่พ่อเคี่ยวเข็ญให้ลูกอ่านตั้งแต่เล็กจนโต คือ โจนาธาน ลิฟวิงสตัน นางนวล, โลกของโซฟี และสุดท้ายคือ เจ้าชายน้อย The Little Prince ซึ่งแอฟขอยกประโยคหนึ่งที่เรารัก นั่นก็คือ ‘เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา’ แอฟจะไม่ลืมความรักความพัน และช่วงเวลาแห่งความสุขของเรา แอฟขอกราบพ่อด้วยหัวใจ พ่อจะอยู่ในใจของลูกตลอดไป”

‘แม่จูน’ ภูมิใจ ‘น้องออก้า’ คว้าแชมป์เจ็ตสกี ที่ 1 ของโลกสำเร็จ เตรียมเลี้ยงหมูกระทะชุดใหญ่ พร้อมขอบคุณที่สละเวลาวัยเด็กฝึกซ้อม

(9 ต.ค. 66) คว้าเหรียญทองในการแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก ในรุ่น Junior Ski Stock 10-12 Years Kawasaki ได้สำเร็จ อีกทั้งยังขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก 2 สมัย สำหรับ ‘น้องออก้า นครา ศิลาชัย’ ลูกชายของ ‘แม่จูน กษมา - พ่อเปิ้ล นาคร ศิลาชัย’ ล่าสุดในการแข่งขันรุ่น Junior 10-12 Yamaha เจ้าตัวก็คว้าเหรียญทองแดงมาได้อีกหนึ่งเหรียญ โดยแม่จูน โพสต์ผ่านอินสตาแกรมอย่างภาคภูมิใจในตัวลูก

“ออก้าคว้าแชมป์โลก 2 สมัยมาครองให้ชาวไทยได้สำเร็จ ออก้าได้ที่ 1 ของโลก และ ที่ 3 ของโลก สุดใจมากลูก @nakara_t666 กับอายุ 11 ขวบของออก้า ออก้าเอ๊ยยย ขอบคุณออก้านะที่เสียสละเวลาในวัยเด็กของออก้าบางส่วนทุ่มให้กับการซ้อม ซ้อม ซ้อม และซ้อม ซ้อมและแข่งขันมาตลอดทั้งปี มีหลายครั้งที่ออก้าพูดว่าก้าไม่ได้ไปกับเพื่อนอีกแล้วเหรอ แล้วแป๊บนึงออก้าก็บอกว่าไม่เป็นไรไว้เล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนก็ได้ แม่ก็คือน้ำตาคลอแตกตลอด ขอบคุณความเป็นธรรมชาติของกีฬาที่สอนออก้า ทุกอย่างที่ก้าทำอยู่ ณ ตอนนี้มันจะปลูกฝัง และสอดแทรกพัฒนาทุกสิ่งอย่างให้ออก้า โตไปเป็นเยาวชนที่สมบูรณ์ และจะนำพาให้ออก้าโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีอยู่ในสังคมที่ปลอดภัย แม่จะอยู่เป็นลมใต้ปีกให้ 4 ออ นะ กลับมาริ๊ววววๆ หมูกระทะชุดใหญ่พร้อมรอต้อนรับ

ขอบคุณ สปอนเซอร์ที่อยู่เคียงข้างออก้ามาตลอด ‘King Power’

ขอบคุณตาเปิ้ลผู้ฝึกสอนออก้ามาตลอดชีวิต @ple_nakorn และช่างอ๋องช่างเรือประจำตัวนาครมา 30 กว่าปีดูรุ่นพ่อและต้องมาดูรุ่นลูกอีก และทีมแม่ตูน พ่อเพิ่มที่สุด ที่สุด และพี่โบ้ jumbo จูนเนอร์ จูนเรือยังไงให้ฝรั่ง งง พี่นพปล่อยเรือจะอยู่ท้ายเรือกับออก้าตลอดสังเกตุได้คนอะไรใหญ่กว่าเรือ และพี่ๆ นักแข่งที่ไปเมกาครั้งนี้ด้วยกันที่คอยดูแลออก้าให้นะคะ แก๊งไลน์ลับพี่ๆ ติ้งหน่องรักน๊า JETSKI World Final 2023

ได้รับรางวัลทั้งหมด 2 รุ่น

แชมป์โลก ที่ 1 เหรียญทอง รุ่น Junior 10-12 years old Kawasaki 4 stroke
ที่ 3 เหรียญทองแดง รุ่น Junior 10-12 years old Yamaha 4 stroke”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top