Saturday, 17 May 2025
Lite

'ผบ.ทบ.' นำ 211 นายพล ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ขอรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า

(2 ต.ค.66) พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีแก่นายทหารชั้นนายพล สังกัดกองทัพบก ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น ประจำปี 2566 โดย ผบ.ทบ. ได้กล่าวแสดงความยินดีพร้อมทั้งให้โอวาท เพื่อเป็นสิริมงคลและขวัญกำลังใจแก่นายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพล ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้นทุกนาย

พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมว่า การที่ภารกิจของกองทัพบกสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันที่เป็นรากฐานด้านความมั่นคงของชาตินั้น มีกำลังพลทุกนายเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนให้สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรม ด้วยความเสียสละ อุทิศตน ปฏิบัติหน้าที่อย่างประสานสอดคล้องกัน โดยยึดถือเอกราชและอธิปไตยของชาติ รวมถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมาย ส่งผลให้กำลังพลทุกนายได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา จนทำให้ได้เลื่อนยศสูงขึ้นในครั้งนี้ และขอให้กำลังพลทุกนายพัฒนาตนเองให้ทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนาระบบงานให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

จากนั้น พล.อ.เจริญชัย ได้นำคณะนายทหารชั้นนายพล ที่ได้รับพระราชทานชั้นยศสูงขึ้น กระทำพิธีกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตน เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5

โดยในปีนี้ นายทหารสัญญาบัตรสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานชั้นยศสูงขึ้น เป็นพลเอก 15 นาย พลโท 55 นาย พลโทหญิง 1 นาย พลตรี 122 นาย และพลตรีหญิง 18 นาย รวมเป็นจำนวน 211 นาย ซึ่งนายทหารทุกนาย ได้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ และมีประสิทธิภาพ จนได้รับการเชื่อถือและไว้วางใจ ส่งผลให้ได้ดำรงยศสูงขึ้นในชั้นนี้

พล.อ.เจริญชัย กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศให้กับนายทหารชั้นนายพลของกองทัพบกนั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นเกียรติยศอันสูงยิ่งของการรับราชการ ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงข้าพระพุทธเจ้า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยแห่งนี้ขึ้น ทั้งยังทรงมีพระเมตตาเปิดโอกาสให้ลูกหลานของประชาชนชาวไทยทั่วไป ได้เข้าศึกษาเล่าเรียน โดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ เพื่อให้ได้เข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณ ช่วยกันปกปักรักษาเอกราช อธิปไตย ของประเทศชาติราชอาณาจักรไทยให้อยู่มาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ปวงข้าพระพุทธเจ้ายังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงพระราชทานกระบี่ และพระราชทานยศนายทหารสัญญาบัตรมาโดยตลอด

“ห้วงเวลาการรับราชการที่ผ่านมาพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่องค์พระมหากษัตริย์องค์จอมทัพไทย แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์มีต่อปวงข้าพระพุทธเจ้า ปวงข้าพระพุทธเจ้า จักสำนึกและเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พร้อมทั้งขอถวายสัตย์ปฏิญาณจักจงรักภักดี จักยอมอุทิศตน พร้อมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศชาติราชอาณาจักรแห่งนี้ และจักเทิดทูนรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดซานุภาพแห่งองค์ พระมหากษัตริย์เจ้าพระบรมราชจักรีวงศ์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่” ผบ.ทบ. ระบุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้สั่งทำความเคารพ และขอให้ทุกคนนั่งคุกเข่าพนมมือ โดย พล.อ.เจริญชัย ได้ให้นายพลกล่าวถวายคำสัตย์ปฏิญาณตน กล่าวคาถาในดวงตรามหาจักรี “ติระตะเน สะกะรัฏเฐ จะ…สัมพังเส จะ มะมายะนัง สะกะราโชชุจิตตัญฺจะ.. สะกะรัฏฐาภิวัฑฒะนังฯ ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า และจักธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหาร”

หลังจากนั้นทั้งหมดเปล่งเสียงกล่าวปฏิญาณพร้อมกัน 3 ครั้ง ความว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษามรดกของท่านไว้ด้วยชีวิต”

‘ชาวเน็ต’ วิจารณ์ ‘ลิซ่า’ ไร้ขอบเขต-ใช้คำหยาบคาย-เกลียดชัง ลามปามถึงคุณแม่ หลังร่วมแสดงที่ ‘Crazy Horse Paris’

ทำเอาแฟนคลับของ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ ออกอาการหัวเสียทีเดียวเมื่อพบว่า ‘คุณแม่จิตทิพย์ มโนบาล’ ได้ลบอินสตาแกรมเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังเจอชาวเน็ตพากันมาถล่มคอมเมนต์ไม่หยุด

ก่อนหน้าที่คุณแม่จิตทิพย์ จะเดินทางไปชมโชว์ Crazy Horse ไอจี @chitthipbruschweiler ของคุณแม่ ก็โดนชาวเน็ตยกโขยงพาทัวร์มาลงอย่างมากมาย โดยแสดงความคิดเห็นไปในทางเกลียดชัง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีรายงานว่า คุณแม่ ได้เดินทางไปชมโชว์รอบสุดท้ายของ ลิซ่า บนเวที Crazy Horse ด้วยตนเอง คุณแม่ของลิซ่า ก็โดนชาวเน็ตต่างชาติที่ไม่พอใจการตัดสินใจขึ้นโชว์ของ ลิซ่า พากันมาถล่มหนักกว่าเดิม พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อต้านต่าง ๆ นานา

จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงทำให้หลาย ๆ คนเชื่อว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ คุณแม่จิตทิพย์ ตัดสินใจปิดอินสตาแกรมลงทันที เพราะคุณแม่ ได้ชื่อว่าเป็นแรงกำลังใจสำคัญที่ผลักดันให้ ลิซ่า ได้ทำในสิ่งที่ตนรัก และยังไปร่วมชมโชว์ของลูกสาวที่ปารีส

ลิซ่า ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของศิลปินเค-ป็อป ด้วยการขึ้นโชว์บนเวที Crazy Horse ที่ชาวเน็ตจีนต่างมองว่าเป็นเวทีที่ไม่เหมาะสม

ทางด้านนักแสดงสาวชาวจีน ‘สวีเจียว’ ผู้เคยแสดงเป็นลูกชายของโจวซิงฉือเรื่อง CJ7 คนเล็กของเล่นใหญ่ เมื่อปี 2008 และแสดงเป็นพี่สาวของจ้าวลู่ซือในซีรีส์ ดาราจักรรักลำนำใจ (Love Like the Galaxy) ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิและไม่เห็นด้วยกับโชว์ของลิซ่า 

สวีเจียว แชร์ภาพหน้าจอที่รีวิวการแสดงของลิซ่า ในช่วงที่ทำการแสดงเพลง ‘Crisis? What Crisis?’ โดยเป็นฉากที่ลิซ่าปรากฏตัวด้วยชุดพนักงานออฟฟิศหญิง เชิ้ตขาว กระโปรงสั้นสีดำ ใส่เนกไทและแว่นตา กำลังทำหน้าเครียดที่หุ้นตก แต่หลังจากนั้นก็ปลดปล่อยความเครียดด้วยการถอดชุดข้างนอกออกจนเหลือแต่ชุดชั้นในสีดำแล้วเต้น โดยในรีวิวที่เธอแชร์โพสต์มาระบุว่า เป็นชุดชั้นในบางๆ

สวีเจียวแชร์โพสต์รีวิวในส่วนนั้นแล้วแสดงความคิดเห็นว่า "我只看到被性化的职业女性” (​​​ฉันเห็นผู้หญิงทำงานถูกทำให้เป็นวัตถุทางเพศ) ทำให้มีแฟนคลับของเธอ แฟนคลับลิซ่า และคนจีนทั่วไปเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย บางส่วนเห็นด้วยกับคำพูดของเธอโดยบอกว่าเธอมีความกล้าที่จะพิมพ์ความเห็นนี้ออกมาจริง ๆ แต่บางส่วนก็ไม่เห็นด้วย และเตือนเธอว่า เธอเองก็เป็นบุคคลสาธารณะ เธอควรรับผิดชอบกับคำพูดของเธอ และการพิมพ์แสดงความเห็นเช่นนี้อาจส่งผลกระทบถึงตัวเธอด้วย ควรระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เคยถูกวิจารณ์หลังทำผมสีชมพู ใส่ชุดว่ายน้ำสีฟ้า ถ่ายรูปริมทะเลมาแล้ว

กลับกัน ทางด้านนักแสดงสาว ‘แองเจลา เบบี้’ ที่เดินทางไปชมโชว์ของลิซ่าด้วย ก็ถูกชาวเน็ตจีนโจมตีอย่างหนักเพราะมองว่าเวทีดังกล่าวไม่ต่างจากเวทีระบำเปลื้องผ้า ซึ่งการแสดงลักษณะนี้ถูกแบนในเมืองจีน จากเหตุดังกล่าว แองเจล่า เบบี้ ได้รับผลกระทบเพราะสื่อจีนได้ลบโพสต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแองเจล่า เบบี้ ออก เป็นการบอกเป็นนัยถึงการโดนแบนไปทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามชาวเน็ตจำนวนมากที่สนับสนุนการตัดสินใจของลิซ่า ได้ออกมาระบุว่า ชาวเน็ตจีนควรมีสติ แยกแยะ ไม่ควรไปโจมตีหรือคุกคามสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวของศิลปิน

‘จ๊ะ นงผณี’ ประกาศเลิก ‘แจ๊ค ธนพล’ หลังปลูกต้นรักมา 7 ปี พยายามปรับกันแล้วแต่ไปไม่รอด ยัน!! จบกันด้วยดี ไร้มือที่สาม

(2 ต.ค.66) ทำเอาแฟนๆ ต่างช็อกไปตามๆ กัน เมื่อนักร้องลูกทุ่งสาว ‘จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย’ ได้ประกาศยุติความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม ‘แจ๊ค-ธนพล สัมมาพรต’ ลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย ‘จ๊ะ นงผณี’ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยมีเนื้อหาใจความว่า "จ๊ะขอชี้แจงในพื้นที่ของจ๊ะนะคะ ... จ๊ะ กับ พี่แจ๊ค เราตกลงเลิกกันแล้ว สถานะตอนนี้เราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน คอยซัพพอร์ตกัน ธุรกิจที่ทำร่วมกันก็ยังทำด้วยกันอยู่ ผู้จัดการก็ยังใช้คนเดียวกันอยู่

จ๊ะอยากให้คนรอบข้าง ผู้ใหญ่ เพื่อน พี่น้อง และแฟนคลับ สบายใจได้ว่า เราจบกันด้วยดี!!!

เหตุผลในการเลิกครั้งนี้ เป็นปัญหาที่เราพยายาม ปรับกันมาตลอด 7 ปีที่คบกัน (ไม่มีเรื่องมือที่ 3)

สุดท้ายนี้จ๊ะและพี่แจ๊คขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ทุกคนคอยสนับสนุนคู่เรามาโดยตลอดนะคะ”

ทั้งนี้ ‘จ๊ะ นงผณี’ ยังได้เขียนแคปชันพร้อมแท็กถึง ‘แจ๊ค ธนพล’ อีกด้วยว่า "ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา @jack_tha"

‘พิมรี่พาย’ สติหลุดกลางไลฟ์ ‘ทุ่มสินค้า-วีนพนง.-หยิบน้ำมันราดหน้า’ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเป็นห่วง-ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม

(3 ต.ค. 66) กลายเป็นกระแสดรามาสนั่น แม่ค้าออนไลน์เบอร์ต้น ‘พิมรี่พาย’ หลังจากเมื่อคืนไลฟ์ขายแป้ง แล้วเหมือนหลุดฟิวส์ขาดสติแตกวีนกลางไลฟ์ ขว้างปาข้าวของพังกระจาย ตะโกนดังลั่นตำหนิการทำงานพลาดของลูกน้องใส่รหัสสินค้าผิด อาทิ มึงพลาดได้ไง ไอ้…… มึงแก้ยัง แก้หรือยัง มึงเอารุ่นดีๆ ขึ้นมา เอาออกไป ทำไมมมมมมม…….. ก่อนจะลบไลฟ์ดังกล่าวทิ้ง

จากนั้นไลฟ์ใหม่แต่ยังมีพฤติกรรมที่หลายคนมองว่าแปลกไปอีก ทั้งเอาลิปสติกมาเขียนที่ฟัน เอาแป้งมาทาที่ฟันด้วยแบบไม่สนความสวยกันแล้ว หรือเอาน้ำมันราดที่หน้าทดสอบแป้งกันไปเลย

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเป็นห่วงทั้งไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม อาทิ เข้าใจเลยค่ะ เงินหายไปเท่าไหร่ เขาเหนื่อยนะ จากคนขายออนไลน์เหมือนกันค่ะ, เสียดายของแตกหมดล่ะมั้งบ่ได้ขายพอดี, อะไรจะขนาดนั้น, เขาจริงจังกับการขายวันนี้มากๆ จริงๆ ค่ะ ต้องไปดูไลฟ์เต็มเลยอาจจะทำโมโหมาก 1 นาที คนกดหลายออเดอร์มากๆ วันนี้, แล้วเอาของที่หล่นส่งให้ลูกค้าไหมคะ มันจะแตกไหม แค่สงสัย, ช่วงขาลง/ก็จะเรียกเรตติ้ง เป็นธรรมดา เป็นต้น

‘ทีน สราวุฒิ’ แวะบุรีรัมย์เยี่ยมสุสาน ‘ปอ ทฤษฎี’ บอกเล่าภาพรวมประเทศไทย ‘เละเทะทุกวงการ’

เพื่อนรักเพื่อนกันตลอดกาลจริง ๆ สำหรับ ‘ทีน สราวุฒิ พุ่มทอง’ กับพระเอกดังที่จากโลกนี้ไปนานแล้วอย่าง ‘ปอ ทฤษฎี’ ซึ่งหลายครั้งที่หนุ่ม ‘ทีน’ เดินทางไปบุรีรัมย์ก็จะต้องแวะเวียนไปเยี่ยมเพื่อนที่สุสานเสมอมา ล่าสุดเจ้าตัวได้ไปหา ‘ปอ’ พร้อมบอกกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองไทยในขณะนี้ว่า…

“ตามสัญญา ถ้ามาบุรีรัมย์ กูต้องแวะมาหามึง : Wrap up สั้น ๆ ของปี 66 ทุกวงการ ทุกสายงานอาชีพอย่างกับหนังสงครามเลยนะมึง ตีกันไปตีกันมา ละคงละครแทบไม่ต้องดูแล้ว แค่ตามข่าวในแต่ละวันแต่ละเรื่องก็เหนื่อยแย่แล้วววว เละเทะบอกเลย คิดถึงเหมือนเดิมเพิ่มคือกูแก่ขึ้น #ว่าแล้วก็ไป”

4 ตุลาคม พ.ศ. 2313 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนา ‘กรุงธนบุรี’ เป็นราชธานี

วันนี้ เมื่อ 253 ปีก่อน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนาราชธานีแห่งใหม่ มีนามว่า กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร 

หลังการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เมื่อปี  2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงรวบรวมกำลังพลและกองทัพเรือจากเมืองจันทบุรี ล่องมาตามชายฝั่งจนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงต่อสู้โจมตีค่ายโพธิ์สามต้นจนสามารถขับไล่ทหารพม่าออกจากอาณาจักรได้และสามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจากการยึดครองได้ ในเวลาเพียง 7 เดือน จากนั้นโปรดให้อัญเชิญพระบรมศพพระเจ้าเอกทัศมาประกอบพิธีโดยสังเขปและพระราชเพลิงพระบรมศพเรียบร้อย

จากนั้นพระองค์ได้เสด็จสำรวจความเสียหายของบ้านเมือง และประทับแรมในพระนคร ณ พระที่นั่งทรงปืน ทรงพระสุบินนิมิตว่า พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา “มาขับไล่ไม่ให้อยู่” พระเจ้าตากสินมหาราชทรงเล่าให้ขุนนางทั้งหลายฟัง แล้วดำรัสว่า

“เราคิดสังเวชเห็นว่าบ้านเมืองจะร้างรกเป็นป่า จะ มาช่วยปฏิสังขรณ์ทํานุบํารุงขึ้นให้บริบูรณ์ดีดังเก่า เมื่อเจ้าของเดิม ท่านยังหวงแหนอยู่แล้ว เราชวนกันไปสร้างเมืองธนบุรีอยู่เถิด แล้วตรัสสั่งให้เลิกกองทัพกวาดต้อนราษฎร แลสมณพราหมณาจารย์ ทั้งปวงกับทั้งโบราณขัติยวงษ์ซึ่งยังเหลืออยู่นั้น ก็เสด็จกลับลงมาตั้งอยู่ ณ เมืองธนบุรี”

เรื่องเมืองธนบุรีนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงแสดงความคิดเห็นไว้ว่า
“…ที่เจ้าตากลงมาตั้งเมืองธนบุรีเป็นราชธานี ครั้งนั้นเหมาะแก่ประโยชน์ทุกอย่าง ถ้าหากว่าสมเด็จพระอดีตมหาราชได้มาขับไล่เจ้าตากมิให้ตั้งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา ก็ขับไล่ด้วยไมตรีจิต ตักเตือนมิให้พลาดพลั้งไปด้วยเห็นแก่เกียรติยศ

เพราะกรุงศรีอยุธยาถึงเป็นที่มีชัยภูมิด้วยลําน้ำล้อมรอบ และเป็นเมืองมีป้อมปราการมั่นคงก็จริง แต่รี้พลของเจ้าตากที่มีอยู่ไม่พอจะรักษากรุงศรีอยุธยาต่อสู้ข้าศึก และขณะนั้นศัตรูก็ยังมีมาก ทั้งพม่าและไทยก๊กอื่นอาจจะยกมาย่ำยีในเมื่อหนึ่งเมื่อใด กรุงศรีอยุธยาอยู่ในทางที่ ข้าศึกจะมาถึงได้สะดวกทั้งทางบกและทางน้ำ ถ้ามีกําลังไม่พอรักษา ขืนตั้งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาก็คงเป็นอันตราย

การที่ลงมาตั้งอยู่เมืองธนบุรีก็ไม่ห่างไกลกับกรุงศรีอยุธยา มีอํานาจอยู่ที่เมืองธนบุรีก็เหมือนมีอํานาจอยู่ในกรุงศรีอยุธยา แต่ได้เปรียบที่เมืองธนบุรีตั้งอยู่ที่ลําน้ำลึกใกล้ทะเล แม้ข้าศึกมาทางบกไม่มีทัพเรือเป็นกําลังด้วยแล้วก็ยากที่จะมาตีเมืองธนบุรี”

ภายหลังเมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบชุมนุมต่างๆ แล้ว พระองค์ได้ทรงสถาปนาเมืองธนบุรี ขึ้นราชธานีแห่งใหม่ ทรงสร้างพระราชวังขึ้นทางทิศใต้ของกรุงธนบุรี ขนาบข้างด้วยวัดแจ้ง หรือวัดมะกอก (ปัจจุบันคือ วัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร) และวัดท้ายตลาด (ปัจจุบันคือวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร) เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2313 พระราชทานนามว่า “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร”

5 ตุลาคม ‘วันนวัตกรรมแห่งชาติ’ รำลึกพระอัจฉริยภาพ ในหลวง ร. 9 ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย

วันที่ 5 ตุลาคม ของทุกปี กำหนดให้เป็นวันนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 รำลึกถึงพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านนวัตกรรม

เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินโครงการของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และทรงได้มีพระราชดำรัสแสดงถึงความเป็นนวัตกรรมของ ‘โครงการแกล้งดิน’ ที่ไม่มีใครทำมาก่อนและทั้งนี้ได้ทรงพระราชทานพระราชดำริให้ทำเป็นตำรา คือ ‘คู่มือปรับปรุงดินเปรี้ยวจัดเพื่อการเกษตร’ สำหรับที่จะใช้พัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยวอื่น ๆ ต่อไป

ด้วยพระปรีชาสามารถทางด้านนวัตกรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และความตั้งพระราชหฤทัยที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยนั้น เป็นที่ประจักษ์และเป็นที่สรรเสริญพระเกียรติคุณกันทั่วทิศานุทิศ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเทิดพระเกียรติพระองค์เป็น ‘พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย’ จากการใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาสภาพดินเปรี้ยว ให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พุทธศักราช 2549 ให้ดำเนินโครงการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้

1. เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น 'พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย'
2. ให้วันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี เป็น 'วันนวัตกรรมแห่งชาติ'

ทั่วโลกจับตา!! ความสัมพันธ์ ‘ลิซ่า-เฟรเดอริก’ หนุ่มมหาเศรษฐี หลังพบทั้งคู่ ‘ปาร์ตี้-ดินเนอร์’ ที่ปารีส แฟนๆ ลุ้น หรือรักกำลังผลิบาน?

หลังจากที่ ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ ได้เข้าร่วมแสดงที่ ‘เครซีฮอร์ส คาบาเร่ต์’ เมื่อวันที่ 28-30 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 3 คืน ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดย หลังจากจบการแสดงรอบสุดท้าย ลิซ่าได้เข้าร่วมปาร์ตี้หลังการแสดงกับเพื่อนๆ ซึ่งมีคลิปหลุดที่แชร์กันทั่วโลกออนไลน์ ที่เห็นลิซ่ากำลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน และที่น่าสังเกตคือ ‘เฟรเดอริก อาร์โนลต์’ หนุ่มที่มีข่าวลือกับเธอก็อยู่ในงานเช่นกัน และยืนอยู่ใกล้กับลิซ่าในปาร์ตี้นี้ด้วย

ต่อมา ในคืนวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา แฟนคลับผู้โชคดีบางส่วนได้มีโอกาสเห็น ลิซ่า แบล็กพิงก์ และเฟรเดอริก อาร์โนลต์ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงปารีส โดยที่ทั้งคู่ปรากฏตัวแบบดูสบายๆ ในระหว่างที่พวกเขากำลังออกเดต และไม่ได้วิ่งหนีกล้องถ่ายรูป หรือดูจะไม่กลัวคนสนใจที่จะมองเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของพวกเขา

เรื่องนี้เริ่มทำให้หลายคนสงสัยว่า นี่อาจเป็นสัญญาณที่พวกเขาทั้งสองกำลังพิจารณาเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อสาธารณะ

นอกจากนี้ ยังมีคนเห็นเฟรเดอริกไปรับลิซ่าที่สนามบินในฝรั่งเศส และมีคลิปหลุด เป็นภาพของพวกเขาร่วมในงานปาร์ตี้ล่าสุดยังได้รับความสนใจมากมายจากแฟนๆ ทั่วโลกโซเชียลมีเดีย
อีกทั้ง เฟรเดอริก อาร์โนลต์ ยังไปดูการแสดงของลิซ่าทุกวัน กับเพื่อนๆ และครอบครัวของเขาที่คลับ เครซีฮอร์สคาบาเร่ต์

ซึ่งก่อนหน้านี้ แฟนๆ เชื่อว่าลิซ่าได้ไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่กรีซกับครอบครัวของอาร์โนลต์มาแล้วอีกด้วย

ถึงแม้ลิซ่าและเฟรเดอริกจะยังไม่ได้ยืนยันความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเป็นทางการ รูปภาพและคลิปหลุดที่แสดงความรักของพวกเขา ได้ทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นและมีความสุขที่จะเชียร์คู่รักคู่นี้ มีบรรดาแฟนคลับของลิซ่าได้แสดงความยินดีกับพวกเขาบนโซเชียลมีเดีย หลังจากเห็นลิซ่าและเฟรเดอริก อาร์โนลต์ มารับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารในกรุงปารีส

แม้จะยังไม่มีคำแถลงอย่างเป็นทางการจากทั้งจากลิซ่าและเฟรเดริก แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขากลายเป็นเรื่องฮอตในโลกออนไลน์ และดึงความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลกอย่างมาก

‘ร้านแดง ซีฟู้ด คลองโคน’ ร้านอาหารทะเลพื้นบ้านบรรยากาศดี การันตี ‘ความสด-สะอาด-อร่อย’ 10 ปี ปรุง-เสิร์ฟแบบจานต่อจาน

‘ร้านแดง ซีฟู้ด คลองโคน’ จังหวัดสมุทรสงคราม ร้านอาหารทะเลพื้นบ้าน สด สะอาด บรรยากาศดี การันตีความอร่อยมายาวนาน ขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบสด ๆ จากทะเล ปรุงอาหารเลิศรสแบบ ‘จานต่อจาน’

คุณศิริวรรณ จือเหลือง หรือ เจ๊แดง เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เปิดร้านมากว่า 10 ปี ซึ่งตนเป็นคนในพื้นที่คลองโคนอยู่แล้ว ครอบครัวมีอาชีพทำประมงชายฝั่ง ตนเป็นแม่บ้าน ชอบทำกับข้าว โดยเฉพาะการนำวัตถุดิบจากทะเลที่พ่อบ้านหามาได้มาทำเป็นอาหารกินในครอบครัว จนกระทั่งมีความคิดว่า น่าจะช่วยทางบ้านหารายได้เสริม จึงเปิดร้านขายอาหารทะเล วัตถุดิบจากทะเลบางอย่างก็เป็นของพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง ทำให้อาหารของทางร้านราคาไม่แพง

เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด ‘ปูทะเลไข่นึ่ง’ ที่นำปูไข่สด ๆ จัดใส่ในจาน มีแต่ไข่เน้น ๆ เนื้อแน่น ๆ ตัวใหญ่ ๆ นำไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของร้าน อาหารอร่อยถูกปากเข้ากันสุด ๆ

‘หมึกผัดกะปิ’ ที่นำกะปิมาคั่วผัดกับปลาหมึกจนหอม ‘แกงคั่วกุ้งชะคราม’ กุ้งสด ตัวใหญ่ ในน้ำแกงกะทิคั่วเข้มข้น รสชาติจัดจ้านถึงใจ 

นอกจากนี้ยังมี ‘ปลาทูผัดพริกขี้หนู’ อาหารพื้นเมือง ปลาทูแม่กลอง อาหารทุกจานรับรองเลยว่าคัดแค่คุณภาพเน้น ๆ อร่อยเต็มคำ และไม่แน่ว่าคุณอาจจะต้องกลับมาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่

หนึ่งในร้านอาหารชื่อดังของคลองโคน ใครที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรกอาจจะต้องตกใจกับจำนวนคนเยอะมาก แต่ไม่ต้องหงุดหงิดไป ลองได้สั่งแล้วก็รอไม่นาน สั่งปุ๊บอึดใจไม่นานก็ได้ปั๊บ

ใครสนใจลิ้มลองอาหารรสเลิศ สามารถแวะมาได้ที่ ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม (ใกล้กับวัดคลองโคน) หรือแผนที่ https://maps.app.goo.gl/WwzD4gqkskzVyVPF6 

ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. 
โทรศัพท์: 093-6659651

6 ตุลาคม พ.ศ. 2502 กัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลโลก เรียกร้องกรรมสิทธิ์เหนือเขาพระวิหาร

วันนี้ เมื่อ 64 ปีก่อน กัมพูชา ยื่นฟ้องต่อศาลโลก เรียกร้องกรรมสิทธิ์เหนือเขาพระวิหาร ในเขตอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษของไทย

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2502 รัฐบาลกัมพูชา นำโดย เจ้านโรดม สีหนุ ได้ยื่นฟ้องต่อ ศาลโลก หรือ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เรียกร้องกรรมสิทธิ์เหนือ เขาพระวิหาร ในเขตอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษของไทย โดยอ้างว่าประเทศไทยละเมิดอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารซึ่งเป็นของกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2497 เป็นต้นมา และขอเรียกร้องให้คืนอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารคืนแก่กัมพูชา 

การไต่สวนพิจารณาคดียาวนานถึง 3 ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด 73 ครั้ง จนในที่สุด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน 9 ต่อ 3 เสียง ยังผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อของกัมพูชา 

หลังจากแพ้คดี จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ยินยอมให้นักศึกษาเดินขบวนประท้วงคำตัดสิน และปิดทางขึ้นปราสาทซึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย เป็นการตอบโต้กัมพูชา เหลือเพียงทางขึ้นเป็นช่องเขาแคบ ๆ สูงชันและอันตราย ในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของกัมพูชา เขาพระวิหารก็ถูกปิด ๆ เปิด ๆ ให้เข้าชมอยู่หลายครั้งตามสถานการณ์ภายในประเทศ ก่อนจะเกิดความร่วมมือกันอีกครั้งระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบันนี้ เขาพระวิหารนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จ. ศรีสะเกษ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top