Friday, 16 May 2025
Lite

‘เต่า เชิญยิ้ม’ เปิดอาชีพใหม่ เดินสายตัดผมหัวละร้อย พร้อมพูดถึงความภาคภูมิใจที่ปลดหนี้ได้-ส่งลูกเรียนจบ

(18 ก.ย.66) หายหน้าไปนาน ตำนานตลกวลีฮา ‘ฮานาก้า’ หลายคนคงคิดถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ‘เต่า เชิญยิ้ม’ ที่เจอดรามาข่าวเม้าท์เป็นตลกตกอับ ไร้งานไร้บ้าน

ล่าสุดเดินทางมานั่งโต๊ะเคลียร์ อัปเดตชีวิตความเป็นอยู่ กับพิธีกรคนเก่ง ‘หนูแหม่ม สุริวิภา’ เผยงานใหม่ที่กำลังเลือกเดิน รับจ้างตัดผมหัวละร้อยบาท พร้อมพูดถึงเรื่องความภาคภูมิใจปลดหนี้ ส่งลูกชายถึงฝั่งฝันเรียบร้อยแล้ว

>>เห็นว่ามีอาชีพใหม่กลายเป็นช่างตัดผมเดลิเวอร์รี่ไปแล้ว? 

"ผมมาทำจริงจังช่วงโควิด ตอนนั้นร้านทำผมปิด บ้านนั้นบ้านนี้ก็เรียกผมไปตัด เราก็คิดว่าก็ดีนะ ตัดแป๊ปๆ ก็ได้เงินคิดหัวละร้อย แต่บางคนไปตัดถึงบ้าน 500 เขาก็บอกว่าไม่ต้องทอน ผมเคยคิดจะไปเรียนจริงๆ เพื่อเปิดร้าน แต่ช่างที่สอนบอกว่าถ้าตัดตัวเองได้ ก็ไม่ต้องเรียนแล้ว ผมแปลกตรงที่ว่าไม่ชอบทำงานอยู่กับที่ ผมชอบเดินทาง ถ้าขายของอยู่กับที่มันก็เบื่อ ตอนแรกเมียก็จะเปิดร้านให้ แต่ผมรู้สึกว่าแก่แล้ว ไม่ใช่ความจำไม่ดีนะ ไม่ได้เสื่อมนะ (หัวเราะ) เอาจริงเคยวางแผนเหมือนกัน อยากเปิดเป็นร้านแล้วจ้างลูกน้อง แต่ตอนนี้คิดว่ายัง เพราะลงทุนหลายแสนนะ"

>> เป็นอีกหนึ่งคนที่เจอดรามา ตลกตกอับบ่อยมาก ผ่านเรื่องเหล่านี้มาได้ยังไง?

"ข่าวที่ออกมา มันเคยมีข่าวในเฟซบุ๊กเอาไปลง พาดหัวจั่วหัวให้คนดู ถ้าพาดหัวเต่าเป็นช่างตัดผม คนขายรถ คนก็อาจจะไม่ดู ถ้าแบบนี้มันก็ธรรมดา เราก็เลยโดนเขียนว่าตลกตกอับ เต่า เชิญยิ้ม คนก็เข้าไปดูกัน แต่จริงๆ แล้วมันไม่เห็นมีอะไรเลย มันก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป เป็นอาชีพเรา ตอนนี้เราก็ทำงานปกติ ขายรถ เล่นตลก มีรับตัดผมในหมู่บ้านชีวิตปกติ"

>> เห็นว่ามีอิสระทางการเงิน ไม่เป็นหนี้ใครแล้ว?

"ใช่ครับ ไม่เป็นหนี้ใครแล้ว คือลูกเต้าเราก็ทำมาหากิน ทำงานกันหมดแล้ว ตอนนี้ผมเหมือนฝรั่งที่บอกว่า 50 ให้พักผ่อนแล้ว เกษียนตัวเอง ผมก็เหมือนพักผ่อนละ ได้ตื่นออกกำลังกายทุกเช้า ทุกวันนี้ตื่นตี 5 ออกกำลังกายประมาณ 50 กิโลฯ ได้นะที่ผมปั่น สบายใจที่ลูกจบหมดแล้ว ทำงานเกี่ยวกับการบินคนนึง อีกคนนึงทำโปรแกรมเมอร์ มีทั้งหมดลูกชายสองคน เมียไม่ต้องถาม มีแค่คนเดียว (หัวเราะ) นอกจากออกกำลังกายแล้ว ก็สวดมนต์ มันดีนะเป็นการปลง ปล่อยวาง มองบวกไว้อย่ามองลบ คือแล้วมันจะไม่เครียดอ่ะ"

'กวาง กมลชนก' เคลื่อนไหวในฐานะลูกตำรวจ "ขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจน้ำดีทุกคนยึดมั่นในการทำความดี"

(19 ก.ย. 66) จากกรณีที่ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์’ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามคำสั่งให้โอนสำนวนการสอบสวน คดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดีคนร้ายก่อเหตุยิง ‘สารวัตรแบงค์’ เสียชีวิต แต่ยังคงสอบปากคำพยานในฐานความผิดเกี่ยวกับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสอบพยานในคดีที่บริษัทกำนันนกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลนั้นกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เช่นเดิม

หลังจากนั้นที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ‘พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช’ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) แถลงว่า ปัจจุบันรับโอนคดีจาก สภ.เมืองนครปฐม ทั้ง 2 คดี ทั้งคดีฆ่าตำรวจและคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มอบให้ตำรวจสอบสวนกลางสืบสวนสอบสวนต่อ อย่างไรก็ตาม ดำเนินคดีตำรวจ 6 นายไปแล้ว มีพฤติการณ์ช่วยเหลือซ่อนเร้นอำพรางกลุ่มผู้ต้องหาพ้นการกระทำผิด

เเละล่าสุด ‘กวาง กมลชนก’ อดีตนางเอกดัง นั้นก็ได้เคลื่อนไหวแล้ว ในฐานะลูกสาวตำรวจท่านหนึ่ง หลัง ‘บิ๊กก้อง’ รับโอนคดีสารวัตรแบงค์

โดยเธอนั้นได้ระบุข้อความว่า “สารวัตรศิวกร สายบัว คือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ทำให้ทุกคนยอมรับว่าตำรวจน้ำดี ตงฉิน ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลยังมีอยู่จริงในยุคนี้ ขอให้การจากไปของท่านไม่สูญเปล่า ขอให้การทำคดีนี้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ขออย่าเข้าข้างคนผิดไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือผู้มีอิทธิพลคนใด เพื่อกู้ศักดิ์ศรีตำรวจกลับคืนมาให้ได้ ขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจน้ำดีทุกคนยึดมั่นในการทำความดีต่อไป #ลูกสาวนายตำรวจตงฉินคนหนึ่ง #ชีวิตคิดบวกของกวางกมลชนก”

20 กันยายน วันพระราชสมภพ 2 พระมหากษัตริย์ไทย ล้นเกล้า รัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 8

วันนี้ นับเป็นอีกวันรำลึกที่สำคัญยิ่ง เพราะวันที่ 20 กันยายน เป็นวันพระราชสมภพของพระเจ้าแผ่นดินถึง 2 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งประสูติเมื่อวันนี้ของ 166 ปีก่อน ตรงกับวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 แรม 3 ค่ำเดอน 10  ปีฉลู

และ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 ซึ่งพระราชสมภพเมื่อวันนี้ของ 94 ปีก่อน ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลูเหมือนสมเด็จพระบรมอัยกาธิราช (ปู่) อีกด้วย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี  ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระองค์แรกในพระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์ (ในเวลาต่อมาทรงได้รับการสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศเป็น สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ พระบรมราชชนนี ตามลำดับ)

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสวยราชสมบัติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. 2411 เสด็จสวรรคต เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 11 แรม 4 ค่ำ ปีจอ ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453

เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน”

สำหรับ พระราชประวัติของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร หรือ ล้นเกล้า ร.8 นั้นพระองค์เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) และหม่อมสังวาลย์ (ภายหลังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี)

พระองค์มีพระเชษฐภคินี และพระอนุชาร่วมพระชนกชนนีอีก 2 พระองค์ ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช (ภายหลังทรงขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร)

พระองค์เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 ขณะที่มีพระชนมายุเพียง 8 พรรษา และทรงประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดังนั้น จึงมีการแต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินจนกว่าพระองค์จะทรงบรรลุนิติภาวะ

พระองค์เสด็จนิวัตพระนครครั้งแรกภายหลังทรงราชย์เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2488

แต่ก่อนถึงกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพียง 4 วัน พระองค์ก็ได้เสด็จสวรรคตด้วยทรงต้องพระแสงปืนเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ณ ห้องพระบรรทม พระที่นั่งบรมพิมาน ภายในพระบรมมหาราชวัง รวมระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติทั้งสิ้น 12 ปี

และเนื่องจากด้วยวันที่ 20 กันยายน เป็นวันที่เป็นสิริมงคล เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ แห่งราชวงศ์จักรีถึงสองพระองค์ด้วยกัน และได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ จึงถือเอาวันนี้เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ อีกด้วย

‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ โพสต์ให้กำลังใจตัวเอง บอกปล่อยทุกอย่างไป หลังถูกมือดีปล่อยภาพลับ ท่ามกลางแฟนๆ พร้อมซัพพอร์ตเต็มที่

(19 ก.ย.66) กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล สำหรับนักร้องสาวเสียงดี ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ หรือ ‘เบียร์ ภัสรนันท์’ หลังถูกผู้ไม่หวังดีปล่อยภาพลับหลุดว่อนเน็ต จนเจ้าตัวต้องตั้งทนายความขึ้นมาเพื่อเอาผิดกับคนที่ปล่อยภาพลับนั้น

ล่าสุด ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรม โดยเขียนข้อความเป็นการให้กำลังใจตัวเองด้วยการลงข้อความภาพที่เขียนว่า “let it all go see what stays” (ปล่อยทุกอย่างไป และดูว่าอะไรคงอยู่บ้าง)

งานนี้ก็มีแฟนคลับต่างเข้ามาให้กำลังใจสาวเบียร์กันอย่างล้นหลาม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความผิดของตัวเอง

คุณแม่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ เปิดวาร์ปละครเรื่องแรกที่ลูกสาวเล่น โซเชียลเอ็นดู พร้อมยกนิ้วให้!! ‘การแสดงสีหน้า-แอ็กติ้ง’ เลิศตั้งแต่เด็ก

(19 ก.ย. 66) ปิดฉากการเดินทางอันยาวนานกับคอนเสิร์ต World Tour สาวๆ BLACKPINK ซึ่งยังไม่ได้ออกมายืนยันหรือแถลงการณ์ว่า จะต่อหรือไม่ต่อสัญญากับค่ายวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์จนเกิดเสียงลือแว่วไปทั่วโลกว่า อาจมีการไม่ต่อสัญญามากกว่า 1 คน หากเป็นข่าวลือเป็นจริงจะมีผลกระทบใหญ่กับอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีกระแสไวรัลในโลกออนไลน์เลยทีเดียวที่ชาวทวิตเตอร์ต่างแชร์คลิปวิดีโอพรีเดบิวต์ของสาวลิซ่า ลลิษา มโนบาล ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก BLACKPINK ซึ่งเคยมีผลงานด้านการแสดงละครมาก่อน

โดยการแชร์ครั้งนี้เกิดจาก คุณแม่ของลิซ่าได้โพสต์คลิปวิดีโอ ‘ผลงานละครเรื่องแรก’ ผ่านทางไอจีสตอรี่ เผยวินาทีหญิงตัวน้อยช้อนตามองกล้องให้ดูน่าสงสารพร้อมพูดว่า หนูหิว ซึ่งเรื่องราวของละครเรื่อง เจ้าหญิงขอทาน ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ในปี 2550

งานนี้ ทำหลายๆ คนสงสัยว่า เอ้ะ นี่จะเป็นละครเรื่องแรกของสาวลิซ่าหรือเปล่านะ ทำให้บลิ๊งค์แต่ละคนพร้อมใจกันย้อนกลับไปชมและตัดคลิปช่วงที่เด็กหญิงที่ลักษณะคล้ายลิซ่าแสดงละครทั้งเต้น แอ็กติ้ง และการแสดงสีหน้า เรียกได้ว่าปังตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว เป็นเหตุให้หลายๆ คนอยากให้สาวลิซ่าลองงานแสดงดูบ้าง

‘เฌอปราง’ ประกาศจัดคอนเสิร์ตจบการศึกษา BNK48 เผย บัตร VVIP ราคา 150,000 บาท โซเชียลคอมเมนต์สนั่น

(20 ก.ย. 66) กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังเพจ ‘BNK48’ โพสต์ภาพและรายละเอียด คอนเสิร์ตจบการศึกษาของ ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ หรือ ‘เฌอปราง’ หลังจากที่เฌอปรางได้ประกาศจบการศึกษาจาก BNK48 ภายในงาน ‘BNK48 Janken Tournament 2023’ ซึ่งเป็นอีเวนต์เป่ายิ้งฉุบค้นหาสมาชิก 16 คนที่จะได้เป็นเซ็มบัตสึเพลงใหม่ของ BNK48 จากสมาชิกทั้งหมดของ BNK48 และ CGM48 ทั้ง 74 คน

เฌอปรางจะมีงานสุดท้ายในฐานะเมมเบอร์ของวง BNK48 คือ จะมีคอนเสิร์ตจบการศึกษาวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่ Thunder Dome โดยทางเพจ โพสต์ข้อความระบุว่า…

“#BNK48_DepartCHER BNK 072 SHN 4812 – Cherprang BNK48’s Graduation Concert – DATE: 29 OCT 2023 TIME: 15:00 VENUE: Thunder Dome, Muang Thong Thani

บัตรราคา 150,000 / 6,500 / 4,800 / 3,800 / 3,200 / 3,000 / 2,800 / 2,200 / 2,000 / 1,800 / 1,200 / 720 THB

Ticket Sale: 7 OCT 2023 @ eventpop.me”

สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนคลับอย่างมากคือ การขายบัตร VVIP ราคา 150,000 บาท หลังจากที่เห็นราคาบัตรแล้ว หลายคนที่ไม่เข้าใจ ต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อไปดูรายละเอียด บัตรราคานี้ จะเปิดขายแค่ 2 ใบเท่านั้น โดย 1 ใบ มีสิทธิที่จะรวมกลุ่มกันได้ 15 คน

ผู้ที่ซื้อบัตร VVIP นี้ จะได้ถ่ายรูปกับ เฌอปราง ตัวต่อตัว 2 ช็อตอีกด้วย

โดยมีแฟนคลับมาอธิบายว่า บัตรราคา 150,000 บาท เมื่อหารกัน 15 คน จะตกคนละ 10,000 บาท ซึ่งมีแฟนคลับเข้ามาอธิบายสาเหตุการขายบัตรราคานี้ ดังนั้น บัตรราคา 150,000 บาท ที่ขายเพียงแค่ 2 ใบนั้น จึงเป็นบัตรที่ออกแบบมาเพื่อแฟนคลับของเฌอปรางเป็นหลักอยู่แล้ว

21 กันยายน ของทุกปี เป็นวันสันติภาพโลก (The International Day of Peace) ร่วมรณรงค์หยุดใช้ความรุนแรงทั่วโลก

วันที่ 21 กันยายน ของทุกปี กำหนดให้เป็น วันสันติภาพโลก (The International Day of Peace) เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนหยุดใช้ความรุนแรงกันทั่วโลก

ย้อนไปในปี ค.ศ. 1981 คณะกรรมการสหประชาชาติได้ลงประกาศรับรองโดยคอสตาริกา โดยประกาศให้ทุกวันอังคารที่ 3 กันยายนที่เป็นวันเปิดประชุมสามัญนั้นเป็น วันสันติภาพโลก หรือ วันสันติภาพสากล เพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับสันติภาพ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา เดิมแล้ววันสันติภาพไม่ได้กำหนดไว้แน่นอนเช่นทุกวันนี้ จากนั้นในปี ค.ศ. 2001 หรืออีกประมาณ 20 ปีต่อมา ก็ได้มีมติใหม่จากสหราชอาณาจักรและคอสตาริกากำหนดให้วันที่ 21 กันยายนของทุกปีเป็นวันยุติการสู้รบ และประกาศให้เป็นวันสันติภาพโลก หรือวันสันติภาพสากล (The International Day of Peace) เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนหยุดใช้ความรุนแรงกันทั่วโลก และหยุดการทำสงครามตลอดทั้งวัน 

อีกทั้งยังได้มีการเชิญประเทศสมาชิก หน่วยงานต่าง ๆ มาเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองและร่วมมือกันสร้างสันติภาพทั่วโลก ทั้งยังกำหนดให้ ค.ศ. 2001 - 2010 เป็นทศวรรษสากลเพื่อวัฒนธรรมสันติภาพและความไม่รุนแรงเพื่อเด็กของโลก มีจุดมุ่งหมาย 6 ประการดังต่อไปนี้

1. ให้ความเคารพต่อชีวิตทั้งมวล เคารพชีวิตและศักดิ์ศรีของแต่ละบุคคล โดยไม่แบ่งชนชั้น หรือลำเอียง
2. ไม่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะต่อเด็กและเยาวชน
3. แบ่งปันกับผู้อื่นอย่างมีน้ำใจ เพื่อขจัดการแบ่งแยก ความไม่ยุติธรรม และการกดขี่ทางการเมืองและเศรษฐกิจ
4. รับฟังเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อกัน เคารพเสรีภาพในการแสดงออก และยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม
5. สงวนรักษาผืนโลก ฝึกดำเนินชีวิตอย่างรับผิดชอบ และเคารพต่อทุกชีวิตในโลก เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติบนผืนโลก
6. สร้างความสมานฉันท์ เคารพต่อหลักประชาธิปไตย และให้โอกาสทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรี

สำหรับสัญลักษณ์ของสันติภาพในการแทนความหมายของ สันติภาพ จะใช้เป็นภาพของนกพิราบคาบกิ่งมะกอกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้กันอย่างสากล เนื่องจากชาวตะวันมีความเชื่อว่า นกพิราบ เป็นวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ตามพระคัมภีร์ไบเบิล อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของเรียนเรียกร้องสิทธิมนุษยชน รวมถึงเป็นการแสดงสัญลักษณ์ทางวิชาชีพสื่อสารมวลชนอีกด้วย เพราะนกพิราบนั้นมีความสามารถในการจดจำเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ผู้คนส่วนใหญ่จึงใช้นกพิราบในการสื่อสาร ส่วน กิ่งมะกอก ก็เป็นสิ่งที่ชาวกรีกโบราณใช้งานพิธีสำคัญ เป็นมงกุฎสวมให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งและมอบให้ผู้ชนะในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกด้วย

‘บอย ถกลเกียรติ’ เร่งสืบหาข้อมูล เรื่อง ‘สไมล์-มาตัง’ เผื่อสื่อสารผิดพลาด หลังสองสาวแฉพฤติกรรมผู้จัดการเก่าคุกคาม จนกลายเป็นคนวิตกจริต

(21 ก.ย. 66) ‘บอย ถกลเกียรติ’ ให้สัมภาษณ์ ขณะนี้กำลังสืบหาความจริง หลังสองนักร้องสาวจากบ้านเดอะสตาร์ ‘สไมล์ ภาลฎา’ และ ‘มาตัง ระดับดาว’ เปิดใจพูดถึงพฤติกรรมของผู้จัดการเก่า จนเกิดเป็นประเด็นร้อนทั่วโซเซียล

กลายเป็นประเด็นร้อนยิ่งกว่าเดิม หลัง ‘มาตัง ระดับดาว ศรีระวงศ์’ หรือ ‘มาตัง เดอะสตาร์ 11’ นักร้องสาวเสียงเพราะ หนึ่งในผู้เข้าประกวดรายการเดอะสตาร์ ได้ออกมาเผยถึงพฤติกรรมของผู้จัดการเก่า โดยตนไม่เคยถูกคุกคามทางเพศแต่อย่างใด เพียงแต่เคยถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวจนเครียดหนัก กลายเป็นคนวิตกจริต

ซึ่งผู้จัดการคนที่มาตังกล่าวถึงนั้นเป็นบุคคลเดียวกับที่นักร้องรุ่นพี่ ‘สไมล์ ภาลฎา ฐิตะวชิระ’ หรือ ‘สไมล์ เดอะสตาร์ 8’ ได้ออกมาเผยปมในใจในวัย 15 ปี ในช่วงเวลาก่อนหน้าผ่านรายการ De – Talk EP.17 เกี่ยวกับการถูกคุกคามทางเพศ เนื่องจากโดนผู้ใหญ่ที่เคารพเหมือนแม่ มีความคิดกับตนในเชิงชู้สาว แต่กลับไม่มีใครเชื่อ และตราหน้าสไมล์ว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ

ล่าสุด เมื่อบรรดาผู้สื่อข่าวได้เจอกับ ‘บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ’ ผู้บริหารใหญ่ จึงมีการสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งได้ความว่า “ผมก็เพิ่งรู้เรื่องเมื่อวานนี้ กำลังสืบหาข้อมูลอยู่ว่ามันคืออะไร เรื่องมันเกิดขึ้นเป็นสิบกว่าปีแล้วมั้ง เราก็ต้องดูดีๆ ว่ามันคืออะไร มันมีการสื่อสารที่ผิดพลาดกันไปหรือเปล่า เราไม่ทราบได้ เราก็ต้องดูดีๆ ครับ”

เมื่อถูกถามว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่ ทาง ‘บอย ถกลเกียรติ’ ก็ได้ตอบว่า “อย่าลืมว่ามันสิบกว่าปีแล้ว ผมว่าอะไรมันก็เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้สิบปีกับตอนนี้ มันก็ไม่เหมือนกับปัจจุบัน ทุกอย่างมันก็ไปหมดแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ทางผู้บริหารใหญ่ก็ได้ออกมาเผยว่า กำลังสืบความจริงถึงประเด็นร้อนแรงที่เกิดขึ้น ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ส่วนบทสรุปของเรื่องราวปมในใจที่สองนักร้องสาวได้ออกมาเปิดเผยนั้นจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

YG Entertainment ชี้แจงล่าสุดปมต่อสัญญา BLACKPINK เผย!! ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการอยู่ในขั้นตอนเจรจา

(21 ก.ย.66) จากกรณีที่สื่อเกาหลีใต้ รายงานเกี่ยวกับเรื่องการต่อสัญญาของสมาชิก BLACKPINK ของ โรเซ่ (Rosé), เจนนี่ (Jennie), จีซู (Jisoo) และลิซ่า (Lisa) กับทาง YG Entertainment อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาสัญญา 

โดยรายงานอ้างว่า โรเซ่ เป็นสมาชิกคนเดียวที่ท้ายที่สุดเลือกที่จะต่อสัญญากับ YG Entertainment ส่วนสมาชิกอีก 3 คน เจนนี่, จีซู และลิซ่า ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยในวินาทีสุดท้าย

ล่าสุดทาง YG Entertainment ได้ออกมาระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับการต่อสัญญาของสมาชิกวง BLACKPINK ใดๆ ทั้งสิ้น กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากัน

ทั้งนี้ หลังจากมีข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกมา ก็ส่งผลทำให้หุ้นของ YG ร่วง -13% กันเลยทีเดียว

‘อั้ม พัชราภา’ ลั่น!! หนักมากสุดในชีวิต หลังเห็นตัวเลขบนตาชั่ง เหตุพุ่งขึ้นมาถึง 6 กิโลฯ สัญญา!! เตรียมลดจริงจังอาทิตย์หน้า

(21 ก.ย.66) ซุปตาร์ชื่อดังอย่าง ‘อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ’ ที่สวยครบเป๊ะปังตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ไม่วายมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเหมือนกันหรือนี่ หลังโพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรมโชว์เลขน้ำหนักบนตาชั่งแบบชัด ๆ บ่นยาวหนักที่สุดในชีวิตแล้ว ขึ้นมา 6 กิโลกรัมจากตอนผอม บังคับตัวเองให้ลดด่วน

เรื่องหุ่นดีทุกคนมั่นใจว่าแม่อั้มติดทุกโผ กว่าเรียบรางวัลคนหุ่นดีศรีสยามแน่นอน แต่ล่าสุดซุปตาร์สาวของเราเพิ่งโพสต์รูปตนเองขณะชั่งน้ำหนัก เผยข้อความว่า “น้ำหนักมากสุดในชีวิตละ” โดยตัวเลขที่ปรากฏในภาพอยู่ที่ 54.8 กิโลกรัม ถึงกับเซ็งสุด ๆ เพราะเพิ่มขึ้นมาจากเดิมมากถึง 6 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม แม่อั้มให้สัญญากับตัวเองและเทรนเนอร์ประจำตัวซึ่งได้แท็กชื่อไว้ในสตอรี่ให้มาเป็นพยานว่าหลังจากนี้จะตั้งใจลดน้ำหนักจริงจังแล้วจ้า

การเป็นดารานักแสดงแน่นอนว่าเป็นอาชีพที่ใช้รูปร่างหน้าตาในการทำงาน จึงต้องหมั่นดูแลและรักษาสุขภาพให้ดีอยู่สม่ำเสมอ อาจเป็นเพราะเมื่ออยู่หน้าจอโทรทัศน์ภาพอาจทำให้นักแสดงดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นได้ ทั้งนี้ การลดน้ำหนักควรทำอย่างถูกวิธี อยู่ในการดูแลของเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ และรูปร่างที่ดีอาจขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top