Saturday, 18 May 2024
Lite

เปิด 10 อันดับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง รายการกีฬาต่อสู้ รายใหญ่ที่สุดของโลก

จากการจัดอันดับฐานข้อมูลด้านสมาชิกของ 10 แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีการถ่ายทอดสดรายการกีฬาการต่อสู้สู่บรรดาสมาชิกทั่วโลก ปรากฏว่า Prime video (ไพร์มวิดีโอ) สัญชาติอเมริกัน นำมาเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนสมาชิกมากถึง 200 ล้านแอ็กเคานต์ ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ ONE เริ่มถ่ายทอดสดรายการ ONE Fight Night นัดแรก ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.65 เป็นต้นมาจนปัจจุบัน 

ตามมาด้วยสองค่ายยักษ์จากจีนคือ Tencent (เทนเซนต์) และ iQIYI (อ้ายฉีอี้) ซึ่งมีฐานสมาชิกทั่วโลก 124 ล้านแอ็กเคานต์ และ 108 ล้านแอ็กเคานต์ ต่างก็เป็นพันธมิตรถ่ายทอดสดรายการของ ONE เช่นเดียวกันกับอันดับ 4-7 อันได้แก่ ABEMA (อะเบมา) จากญี่ปุ่น, beIN Sports (บีอิน สปอร์ตส) จากกาตาร์, Disney+ Hotstar (ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์) จากอินเดีย, Globoplay (โกลโบเพลย์) จากโปรตุเกส ซึ่งมีฐานสมาชิกรวมกัน 218 ล้านแอ็กเคานต์ 

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่ารายการ ONE มีศักยภาพที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้สูงถึง 650 ล้านแอ็กเคานต์ จากฐานสมาชิกของแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่เป็นพันธมิตร
ส่วนอีก 3 ค่ายที่ติดอันดับท็อป 10 ได้แก่ ESPN+ (อีเอสพีเอ็นพลัส) สัญชาติอเมริกัน, CANAL+ (เคเนลพลัส) จากฝรั่งเศส ซึ่งมีฐานสมาชิกรวมกัน 49 ล้านแอ็กเคานต์ เป็นพันธมิตรถ่ายทอดสดรายการ UFC ด้านสตรีมมิงสัญชาติอังกฤษอย่าง DAZN (ดะโซน) ก็เพิ่งประกาศเป็นพันธมิตรกับรายการ RWS เมื่อไม่นานมานี้ 

ข้อมูลอ้างอิงจาก Nielsen และ FlixPatrol

‘แน็ก ชาลี’ พระเอกหน้าหล่อ ควงแม่จัดเต็ม ไลฟ์สด ขาย ‘ซินไฟเบอร์’  ‘เก๋ไก๋ สไลเดอร์’ สาวคู่จิ้น เข้ามาดู-กดไลค์ ทำให้เขิล ไปไม่เป็น

เก็บทรงไม่อยู่เลยทีเดียวสำหรับพระเอก หนุ่ม แน็ก ชาลี พระเอกหน้าฟ้าประทาน ที่ล่าสุด ไลฟ์ขาย SYN FIBER ที่หนุ่มแน็ก ขนมาไลฟ์ช่วยกันทั้งบ้าน ในขณะที่กำลังขายกันอย่างเมามันส์ ก็ดันต้องเสียอาการเมื่อสาวคู่จิ้น "เก๋ไก๋ สไลเดอร์" เข้ามาชมไลฟ์แถมกดไลค์ให้อีกด้วย งานนี้แฟนคลับก็เม้นท์แซวกันแบบรัวๆ จนทำให้หนุ่มแน็ก พูดจาตะกุกตะกักเก็บทรงไม่อยู่ พูดชื่อสินค้าผิดอีกด้วย เพราะความเขิล อร้าย! ไลฟ์หน้า Syn Fiber ต้องชวนน้องเบ๋ไบ๋ (เก๋ไก๋ สไลเดอร์) มาด้วยแล้วน้า แฟนคลับจะได้ไปฟินแลนด์ด้วยกันให้ถ้วนหน้า

ส่วนใครที่พลาดไลฟ์แล้วอยากได้สินค้าดีๆอย่าง  SYN FIBER  ก็ไม่ต้องเสียใจ สามารถไปหาซื้อกันได้ที่ Tiktok ช่อง synfiber.official อยากสุขภาพดี  ผิวสวย หุ่นแซ่บ ไปตำกันได้เลย  ถ้าเอ็นดูความน่ารักของคู่นี้ ก็อย่าลืมไปอุดหนุน SYN FIBER กันเยอะๆนะ

เรือดำน้ำชุดแรก 4 ลำ ที่รัฐบาลไทยสั่งซื้อ เดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาถึงประเทศไทย

รู้หรือไม่ ในอดีตประเทศไทยเคยมีเรือดำน้ำที่สั่งซื้อจากประเทศญี่ปุ่น มาแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2481 

29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เรือหลวงสินสมุทร, เรือหลวงพลายชุมพล, เรือหลวงมัจฉาณุ (ลำที่ 2) และ เรือหลวงวิรุณ ซึ่งเป็นเรือดำน้ำชุดแรกที่รัฐบาลไทยสั่งต่อมาจากประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย

เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ได้รับการต่อที่อู่ต่อเรือ บริษัท มิตซูบิชิ ที่เมืองโกเบ เมื่อปี พ.ศ. 2479 ในสนนราคาลำละ 882,000 บาท วางกระดูกงูและปล่อยลงน้ำไล่เลี่ยกันคือระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม พ.ศ. 2479  ดังนี้ 

พิธีวางกระดูกงู ร.ล.มัจฉาณุ และ ร.ล.วิรุณ โดยพระมิตรกรรมรักษา เมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2479

พิธีวางกระดูกงู ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล โดยพระมิตรกรรมรักษา เมื่อ 1 พ.ศ. ตุลาคม 2479

ปล่อยลงน้ำ ร.ล.มัจฉาณุ และ ร.ล.วิรุณ โดยนางมิตรกรรมรักษา เมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2479

ปล่อยลงน้ำ ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล โดยพระมิตรกรรมรักษา เมื่อ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 (มีการถ่ายทำภาพยนตร์โดย ร.ท.นิตย์ สุขุม)

ทำพิธีมอบเรือ ร.ล.มัจฉาณุ และร.ล.วิรุณ เมื่อ 4 กันยายน พ.ศ. 2480 ถือวันนี้เป็น “วันที่ระลึกเรือดำน้ำ”

พิธีมอบเรือ ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล เมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2481 เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ถอนสมอเคลื่อนที่ออกจากท่าน้ำประเทศญี่ปุ่น สู่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2481 และเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2481 

หลังจากมาถึงประเทศไทยก็ได้ขึ้นระวางประจำการพร้อมกันคือวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 และปลดระวางประจำการพร้อมกันคือวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 เมื่อครั้งกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส หลังจาก เรือหลวงธนบุรี และ เรือตอร์ปิโด ถูกเรือฝรั่งเศสยิงจมแล้ว เรือหลวงมัจฉาณุ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล ได้ไปลาดตระเวนเป็น 4 แนวอยู่หน้าบริเวณฐานทัพเรือเรียมของอินโดจีนฝรั่งเศส ใช้เวลาดำอยู่ใต้น้ำทั้งสิ้นลำละ 12 ชั่วโมง ขึ้นไปนับเป็นการดำที่นานที่สุด ตั้งแต่ได้เริ่มมีหมวดเรือดำน้ำมาจนกระทั่งได้ถูกยุบเลิกไป ปัจจุบันเรือหลวงมัจฉานุได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ

แม่ค้ายิ้ม!! เมนู ‘ตำมะม่วง’ ขายดีจนทำแทบไม่ทัน หลังคนแห่สั่งซื้อเพียบ ตามรอย ‘ลิซ่า BLACKPINK’

วันที่ (29 มิ.ย. 66) ถือเป็นอีกหนึ่งพลัง Soft Power ของเมืองไทย จากกรณีที่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ศิลปินชื่อดัง ได้โพสต์ภาพตำมะม่วงพร้อมข้อความระบุว่า “ตำมะม่วงส่งตรงจากไทยแลนด์” จนได้กลายเป็นกระแสอีกครั้ง จากที่ครั้งก่อนๆ ไม่ว่าลิซ่าจะโพสต์เมนูไหน เมนูนั้นก็ขายดีในชั่วข้ามคืน อย่างเช่น ที่ร้านโกเปี๊ยกคาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองท์ ซอยเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ 16 (หลัง สภ.นาโยง) อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ขณะนี้เมนูส้มตำถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี หลังจากมีภาพและข่าว ‘ลิซ่า BLACKPINK’ รับประทานตำมะม่วง ทำให้ทางร้านต้องเตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุงเมนูส้มตำเพิ่มจากปกติ เช่น มะม่วงเบา มะละกอ ปลาร้า มะเขือเทศ เป็นต้น เพื่อรองรับการสั่งของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

น.ส.สุนิสา อินจุ้ย อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า หลังจากที่ลิซ่าได้โพสต์เมนูตำมะม่วง ทำให้ต้องเตรียมวัตถุดิบไว้รับตามกระแสทันที เพราะตอนนี้ลิซ่า รีวิวอะไรก็สะเทือนทันที และปังทุกอย่าง จนตอนนี้มีลูกค้าสั่งตำมะม่วงมากขึ้น ซึ่งปกติที่ร้านมีพวกเมนูส้มตำ และอาหารอีสานอยู่แล้ว โดยเฉพาะซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ ตำมะม่วงเบา ด้วยการเก็บมะม่วงสดๆ จากต้นที่ปลูกไว้หลังร้านมาตำแบบสไตล์บ้านๆ แล้วใส่กะปิลงไปด้วยนิดหน่อย ซึ่งถือว่าเป็นสูตรดั้งเดิม แต่หากหมดฤดูมะม่วงเบาไปแล้ว จะใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ หรือมะม่วงแก้วขมิ้นมาตำแทน โดยเมนูตำมะม่วงจะขายในราคาจานละ 60 บาท ดังนั้น ตนจึงอยากขอบคุณลิซ่า ที่ช่วยชูอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ข้าวเหนียวมะม่วง ลูกชิ้นทอด หมูกระทะ มาถึงตำมะม่วง จนทำให้อาหารไทยขายดีขึ้น

ส่วนบรรยากาศตามร้านขายส้มตำที่ จ.สงขลา หลังจากที่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ ไอดอลสาวชาวไทยแห่งวง BLACKPINK โพสต์ IG Story เป็นภาพ ‘ตำมะม่วง’ พร้อมข้อความ “ตำมะม่วง ส่งตรงจากไทยแลนด์” ปรากฏว่าฮิตติดกระแส เพราะลูกค้าพากันสั่งตำมะม่วงแบบลิซ่า เช่น ที่ร้านเจ๊รุ่งตำแซ่บเวอร์สงขลา ตั้งอยู่หัวมุมถนนศรีสุดาตัดถนนปละท่า ในเมืองสงขลา ซึ่งเป็นร้านของ น.ส.รุ่งรัศมี เชาวลิต หรือ ‘เจ๊รุ่ง’ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งบรรยากาศในร้านคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น หลังจากที่ลิซ่าโพสต์ IG Story สั่งตำมะม่วงจากเมืองไทยไปกิน

เจ๊รุ่ง บอกว่า ก่อนหน้านี้ลูกค้าที่มากินในร้านจะสั่งเมนูปกติทั่วๆ ไป เช่น ตำไทย ตำปูปลาร้า แต่มาวันนี้เปลี่ยนเป็นสั่งตำมะม่วงแบบลิซ่าแทน เพราะอยากลอง และจะต้องเอาสูตรตำมะม่วงแบบลิซ่าเท่านั้น ไม่เอาสูตรของร้าน นั่นคือ ‘ตำมะม่วงสูตรแบบลิซ่า’ จะไม่ใส่ถั่วฝักยาว แต่ใส่มะเขือเทศหรือแครอทแทน รวมทั้งใส่น้ำปลาร้าด้วย และมีทั้งสั่งกินที่ร้าน และใส่ถุงกลับไปกินที่บ้าน 

ทำให้ทางร้านต้องเตรียมมะม่วงไว้รองรับมากขึ้นจากปกติ เพราะกระแสตำมะม่วงลิซ่ากำลังมาแรง ทำให้เมนูนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น มาแล้วต้องได้กิน ขาดไม่ได้ สำหรับตำมะม่วงสูตรลิซ่า ทางร้านยังคงขายราคาปกติคือจานละ 40 บาท ตอนนี้เวลาลูกค้าสั่งตำมะม่วง จะต้องถามว่าเอาแบบธรรมดา หรือว่าตำมะม่วงแบบลิซ่า ซึ่งส่วนใหญ่จะบอกว่าเอาแบบลิซ่า

‘ก้อย อรัชพร’ เลิกกับ ‘นิกกี้ ณฉัตร’ แต่ก็ยังช่วยกันดูแล ‘น้องไนล่า’ ย้ำ ไม่ได้เลี้ยงแบบหมา แต่เลี้ยงแบบลูก

แม้ว่าจะเลิกรากันไปแล้ว แต่อดีตคู่รักอย่าง นิกกี้ ณฉัตร และ ก้อย อรัชพร ก็ตัดสินใจช่วยกันดูแลน้องหมา “ไนล่า” เหมือนเดิม เพราะรักและผูกพันเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่ไม่วายเจอดราม่า คนมาว่า สาวก้อย กั๊กความสัมพันธ์ นิกกี้ ไม่ยอมคืนน้องหมาไปทั้งที่เลิกกันไปแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว

ดราม่าเรื่องน้องหมา ที่หลายคนมองว่ายังไปเจอ “นิกกี้” ถูกตีความไปเองโดยที่ยังไม่ได้ฟังเรา? “อ๋อ จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ก้อยคุยกับพี่นิกกี้ชัดเจนตั้งแต่วันที่เราตัดสินใจแยกกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง คิดว่าไม่ได้ดราม่าอะไร ก้อยคิดว่ามันเป็นเรื่องปัจเจกมาก บางคนอาจจะมองว่าความสัมพันธ์ยื้อยึง”

“แต่ก้อยกับพี่นิกกี้ได้คุยกันชัดเจนมากๆ แล้วว่านี่คือทางร่วมและการตัดสินใจร่วมกัน อย่างที่บอกคือก้อยไม่ได้เลี้ยงน้องหมาตัวนึงแบบหมา ก้อยเลี้ยงเขาแบบลูกและเราทั้งคู่ต่างมีความสุขที่ให้เขาได้อยู่กับเราทั้งคู่ ถึงแม้ผ่านวันที่ดราม่ามาก็ยังได้คุยกันว่า เราก็เดินต่อทางนี้แหละเพราะนี่คือเส้นทางที่เราทั้งคู่ตัดสินใจแล้ว”

เราทั้งคู่ทำใจแล้วว่าต้องมีเรื่องทำนองนี้ออกมา? “ใช่ๆ เราเลือกสิ่งที่เรารักเป็นที่ตั้ง นั่นคือ “ไนล่า” อาจจะมีคนที่ไม่ได้เข้าใจในความสัมพันธ์ของเราซึ่งนั่นก็ไม่เป็นไร พอเกิดดราม่าเรามาคุยกันมันก็ยังเป็นในรูปแบบเดิม มันคือสิ่งที่เราตัดสินใจกันถึงความรักที่เรามีต่อน้อง มันก็เลยไม่ได้มีอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าใจในความสัมพันธ์แบบนี้ แต่ละคนก็มีแนวทางที่ไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจได้ค่ะ”

จริง ๆ มันกระทบไหมกับคอมเมนต์ด้านลบที่มาวิจารณ์เรา? “ตอนนั้นที่หนูเลือกที่จะพูดออกไป เพราะปกติคอมเมนต์ด้านลบมันมีมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ทีนี้มันจะมีไอจีของน้องหมา ซึ่งสำหรับหนูมันเป็นไอจีบริสุทธิ์ น้องหมาก็วิ่งเล่นทุกวันก็จะมีคนเข้ามารุมใส่ลบๆ แต่ก็คือรุมด่าหนูแหละส่วนใหญ่ แต่มาลงในช่องไอจีนี้ คือพลังลบในชีวิตมันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว”

“แต่เรารู้สึกว่าพื้นที่นี้มันเป็นพลังบวกของเรา มันเหมือนไปโดนเส้นเรา จริงๆ พลังงานลบเข้ามาในชีวิตหนูมันไม่น้อยอยู่แล้ว แต่ ณ เส้นนั้นมันคือพลังบวกของหนู เราก็เลยเอาซะเลย เป็นแค่โมเมนต์เดียว แค่พอผ่านโมเมนต์นั้นมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หนูคือคนที่เข้าใจได้ว่าหนูทำสิ่งนี้เพื่ออะไร ทำไปทำไม ถ้าคนที่เรารู้จัก เรารัก เราเคยคุยสิ่งนี้ไปแล้วมันก็ตามนั้น”

หนียังไงก็ไม่พ้น? “ทุกคนแหละ ไม่ใช่แค่ก้อย ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในวงการ ทุกคนไม่สามารถทำให้ใครเข้าใจเราได้เสมออยู่แล้ว ตอนนั้นมันองค์ประธานไง มันคือความน่ารักแต่ก็มีมาแบบแน่นๆ แน่นเดียวไม่พอ แน่นไม่หยุด เราก็เลยคิดในหัวว่าหรือเขาต้องการ การสื่อสารบางอย่างจากเรา ก็เลยสื่อสารบางอย่างกลับไป แต่เราสื่อสารสิ่งนั้นไปก็ไม่ได้ช่วยอยู่ดี เราไม่สามารถทำให้เขาเข้าใจได้ ก็โนพอยท์อยู่ดี แต่ก็อาจจะทำให้บางคนเข้าใจมากขึ้น”

เราทั้งคู่มองข้ามดราม่า? “โห เราเจอกันมาไม่น้อยอ่ะ ทั้งหนู ทั้งพี่นิกกี้ ยิ่งผ่านมาเราก็ยิ่งได้รู้ว่าพื้นที่ไหนคือพื้นที่ที่เรารัก พื้นที่ไหนที่เราหวังดีต่อกัน เราคิดดี คิดทุกอย่างบวก แล้วเราเลือกแล้วว่ามันคือการตัดสินใจของเรามันก็แค่นั้นเอง”

‘โต้ง ทูพี’ โพสต์แคปชั่น ขออีกคืน โปรโมทซิงเกิ้ลใหม่ ‘พลอย เฌอมาลย์’ รีบคอมเมนต์ตอบ ให้ทุกคืนเลยค่ะ

 

เดินหน้าสาดความหวานให้ไทม์ไลน์กลายเป็นสีชมพูเป็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับคู่รักซุปตาร์ป้ายแดง พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และ โต้ง-พิทวัส พฤกษกิจ หรือ โต้ง ทูพี

แถมล่าสุด! ทั้งคู่ยังได้ตอกย้ำสถานะ #คนคลั่งรัก ให้แฟนๆ ที่ติดตามอินสตาแกรม @twopee ต้องเผลอฟินจิกหมอน เมื่อฝ่ายชายได้โพสต์คลิปวิดีโอและแคปชั่นเด็ดโปรโมทซิงเกิ้ลใหม่ "ขออีกคืน" โดยมีเนื้อหาใจความในทำนอง "ขออีกคืน (one more night) ขออีกคืนเดียว พรุ่งนึ้ 18.00pm ละเจอกัน"

ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ทางด้านของ พลอย เฌอมาลย์ ก็ไม่รอช้า ใช้พื้นที่บนช่องคอมเมนต์เขียนข้อความส่งตรงไปถึงหวานใจแรปเปอร์แบบชัดเจนตรงประเด็นว่า "ให้ทุกคืนเลยค่ะ" พร้อมกับตบท้ายด้วยอีโมจิประทับรอยจูบ!!!!!

งานนี้นอกจากจะทำเอาแฟนๆ ทั้งฟิน ทั้งกรี๊ด ให้กับโหมดอินเลิฟของทั้งคู่แล้ว น้องสาวคนสนิท อย่าง พลอย หอวัง ก็ยังเข้ามาอวยยศ ไอดอลตัวแม่ ให้กับ พลอย เฌอมาลย์ อีกด้วย

‘เก้า สุภัสสรา’ ประกาศชัด ไม่ได้จิ้นกับ ‘พีช พชร’ เผยฝ่ายชายมีแฟนแล้ว หมอดูทักจะมีคู่ตอนอายุ 32

เรียกว่าตั้งแต่โสดออร่าความสวยก็พุ่งเกินเบอร์ สำหรับนักแสดงสาว เก้า สุภัสสรา ที่ตอนนี้ถูกจับตามองความสัมพันธ์กับหนุ่ม พีช พชร ซึ่งชาวเน็ตก็ลุ้นจิ้นอยากให้เป็นคู่จริงสักที 

ล่าสุด เก้า สุภัสสรา เปิดเผยกับสื่อว่า สำหรับที่คนจับคู่กับ พีช พชร ตอนนี้เขาเปิดตัวไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ภาพแต่งงาน คือตนไปหน้างานได้เจอกับ พี่คริส ก่อนเพราะถ่ายละครด้วยกัน ไปหน้างานไม่มีเพื่อน เลยจับพี่คริส แล้วเห็น พี่พีช พอดีเลยจับมาถ่ายรูปด้วยกัน ณ ตอนนั้นที่คนโฟกัสเราทั้งคู่ ตนไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาโสดไหม ก็ได้เห็นคนเชียร์บ้าง แต่ไม่ได้คิดอะไร เรียกว่าเรือลำนี้พายไม่ไป

เผยไม่ได้หลุดโป๊ะว่า พี่พีช มีแฟน เขาหลุดเองหรือเปล่า พูดขำๆ ถ้าถามตนก็ไม่รู้หรอก แต่ถ้าเอาจริงๆก็รู้มาตลอดเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกัน ส่วนอย่างอื่นก็ไปถามเขาเอง ไม่ได้มีพามาแนะนำ เจอกันที่งานแต่งครั้งแรก ตอนที่มีกระแสคู่จิ้นตนกับพี่พีช ก็เห็นข่าวก็ได้แต่ขำ พูดอะไรมากไม่ได้ ส่วนตัวพี่พีชไม่ค่อยได้คุยกันอยู่แล้ว เพราะรู้ว่ามันคืออะไร เรียกว่าผีผลักไม่ไป เพราะเขาไม่ได้จีบตน ตนไม่ใช่สเปคเขา ยืนยันเลย

ทางด้านความรักตอนนี้ไม่มี ไม่ได้คุยกับใครเลย ผีผลักมาให้หน่อย โสดมาจะ 2 ปีแล้ว ตอนนี้ก็เปิดไดเรกไอจีแล้ว แต่มันก็ไม่มีใคร พร้อมถ้ามีคนมาจีบ เปิดใจ แต่มันไม่มีจริงๆ ถ้ามีแล้วถูกใจใช่เลย แต่ก็ลองคุยดูก่อน มีคนผ่านมา แต่ก็ผ่านไป มันไม่คลิ๊กก็ไม่ได้คุย ส่วนมาทางเพื่อนก็ไม่มีเลย

มีหมอดูเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าไม่มี เขาบอกรอไปเลยจนอายุ 32 ปี ตอนนี้พึ่ง 28 ไม่รู้ต้องโสดต่อไปไหม แต่เขาบอกยังไม่มี ถ้ามีก็ยังไม่ใช่ ตอนนี้ไม่กล้าเปลี่ยนหมอดู เพราะเปลี่ยนกี่คนก็พูดเหมือนเดิม ก็ถามย้ำว่าจะมีเข้ามาไหมปีนี้ แต่หมอดูบอกไม่เห็นเลย เนื้อคู่ให้รอก่อน มีแน่ๆแต่อีกนาน ตนเลยทำใจ มาโฟกัสงาน 

ลั่นไม่ได้เหงา อยู่กับหมาก็พอแล้ว ชีวิตวุ่นวายมากพอแล้ว ทำงานเยอะ ถึงบ้านก็อยากนอน ไม่เคยโสดนานขนาดนี้มาก่อน เพราะวัยรุ่นเราก็หมกมุ่นเรื่องความรัก แต่พออายุใกล้ 30 เริ่มโฟกัสเรื่องความมั่นคงของชีวิต เลยไม่ได้คิดเรื่องรักมาก ความสุขตอนนี้ก็มาจากตัวเอง และเงินเท่านั้นที่น็อคเอฟเวอรี่ติง

ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติตุรกี เวลา 20.30 น. ในศึก VNL2023 ‘โค้ชด่วน’ เร่งแก้จุดอ่อน ยอมรับคู่แข่ง สูงใหญ่ แข็งแกร่ง

ความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขันวอลเลย์บอลศึกเนชั่นส์ ลีก 2023 (VNL2023)สนามที่ 3 กลุ่ม 6 ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพฯ หลังจากเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ประเดิมนัดแรกแพ้ให้กับ เนเธอร์แลนด์ 0-3 เซต 26-28, 18-25, 20-25 ทำให้มีสถิติแข่ง 9 นัด ชนะ 2 แพ้ 7 นัด มี 8 คะแนนเท่าเดิม
ล่าสุด "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้นำลูกทีมลงทำการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบใช้เวลาฝึกซ้อมประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น. ของค่ำวันพุธที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับการซ้อมครั้งนี้ได้เน้นการทำบอลแรก การขึ้นบล็อค และแก้ไขข้อผิดพลาดเมื่อเข้าระบบเกมรุก รวมทั้งติวเข้มกับลูกทีมถึงข้อบกพร่องแต่ละคน แต่ละตำแหน่ง เพื่อเตรียมความพร้อมสู้กับทีมแข็งแกร่งอย่าง ทีมชาติตุรกี ซึ่งเป็นนัดที่สอง ของสนามที่ 3 ในคืนวันนี้ พฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลา 20.30 น. 

ส่วนส่องสถิติของนักวอลเลย์บอลตุรกี ที่น่าสนใจ ก่อนพบกับ วอลเลย์บอลหญิงไทย  ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติตุรกี ทีมอันดับ 6 ของโลก ทำผลงานหลังจบเกมแรกของศึกวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ ลีก 2023 สนามที่ 3 กลุ่ม 6 ที่อินดอร์ หัวหมาก ด้วยสถิติ แข่ง 9 นัด ชนะ 6 แพ้ 3 นัด มี 20 คะแนน อยู่อันดับ 5 ของตารางการแข่งขัน 

ทีมชาติตุรกี นำทีมโดย แดเนียล ซานตาเรลลี หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวอิตาลี่ ที่ผ่านมาเคยเป็นโค้ชทีมชาติเซอร์เบียก่อนมารับงานคุมทีมตุรกี สำหรับ สตาร์ดังของทีม ได้แก่ 

เอดา เออร์เด็ม บอลเร็วกัปตันทีม พี่ใหญ่ของทีมวัย 36 ปี,อีบราร์ คาราคูร์ต บีหลังตัวหลักของทีมวัย 23 ปี (หมายเลขสวย 99) , ฮันเด บาลาดิน หัวเสาวัย 27 ปี, เซห์รา กูเนส บอลเร็ววัย 23 ปี, อิลคิน อัยดิน หัวเสาวัย 23 ปี 
ทีมนักตบสาวตุรกี เต็มไปด้วยผู้เล่นรูปร่างที่สูงใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญ ที่ที่สร้างความหนักใจให้กับทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ที่เสียเปรียบรูปนร่างชัดเป็นอย่างมาก และที่สำคัญ "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลสาวไทย ได้กล่าวถึงทีมตุรกีชุดนี้ว่า" เขามีการเปลี่ยนระบบการเล่นไปเยอะจากเดิม  ทีมไทยต้องรักษารูปแบบการเล่นให้ดี เพราะตุรกีมีทั้งความรุนแรง และความสูงใหญ่ แข็งแกร่ง ทีมไทยต้องรักษาระบบของไทยให้ดีขึ้น"
 
สถิติการพบกัน วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย พบ ตุรกี 5 ครั้งหลังสุด ปรากฏว่าทีมไทย ชนะได้เพียง 1 และแพ้ถึง 4 ครั้ง

ประกอบด้วย 
ศึกชิงแชมป์โลก 2022 วันที่ 24 กันยายน 2022  
ทีมไทย ชนะ ตุรกี 3-2 เซต 1
เนชั่นส์ ลีก 2022 วันที่ 14 กรกฏาคม 2022  
ทีมไทย แพ้ ตุรกี 1-3 เซต 
เนชั่นส์ ลีก 2021 วันที่ 6 มิถุนายน 2021
ทีมไทย แพ้ ตุรกี 1-3 เซต 
เนชั่นส์ ลีก 2019 วันที่ 6 มิถุนายน 2019
ทีมไทย แพ้ ตุรกี 0-3 เซต 
มงเทรอซ์ วอลเลย์ มาสเตอร์ส 2019 วันที่ 17 พฤษภาคม 2019 
ทีมไทย แพ้ ตุรกี 1-3 เซต 

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สนามที่ 3 กลุ่ม 6 ที่อินดอร์ สตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพฯ  ในคืนวันนี้ พฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน 2566 จะลงสนามนัดที่สองพบกับ ตุรกี เวลา 20.30 น. ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ช่อง 7 HD ถ่ายทอดสด 23

30 มิถุนายน พ.ศ. 2448 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ นำเสนอ ‘ทฤษฎีสัมพัทธภาพ’

วันนี้ เมื่อ 118 ปีก่อน ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ เผยแพร่บทความ ‘On the Electrodynamics of Moving Bodies’ ซึ่งนำเสนอ ‘ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ’ (The Special Theory of Relativity)

บทความ ‘On the Electrodynamics of Moving Bodies’ ซึ่งนำเสนอ ‘ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ’ (The Special Theory of Relativity) ของ ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ เป็นการรวมกลศาสตร์ดั้งเดิมเข้ากับ electrodynamics ของ Clark Maxwell โดยกล่าวถึงการเคลื่อนที่ของสิ่งต่างๆ ในมิติของเวลา, สถานที่ และทิศทาง ต่อมาได้กล่าวถึงมวลสารที่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ และพลังงานก็สามารถเปลี่ยนเป็นมวลสารได้ หรือมวลสารกับพลังงาน คือ ‘สิ่งเดียวกัน’ (mass and energy equivalent) ดังสมการที่ลือชื่อ คือ ‘E=mc2’ เมื่อ E เป็น พลังงาน m คือ มวลที่มีหน่วยเป็นกรัม c คือ ความเร็วของแสง มีหน่วยเป็นเซนติเมตรต่อวินาที

‘ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ’ (Special Relativity) จะเกี่ยวข้องกับระบบที่มีความเร็วคงที่คือเป็น ระบบที่ไม่มีความเร่ง การอธิบายทฤษฎีนี้อย่างง่ายที่สุดก็เปรียบเทียบให้เห็นว่า เมื่อเรารู้สึกว่าทุกสิ่งกำลังหยุดนิ่งหรือมีความเร็วที่เท่ากัน เราไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งใดกำลังเคลื่อนที่ เช่น โลกหมุนรอบตัวเองและรอบดวงอาทิตย์ เรายังรู้สึกว่าทุกสิ่งกำลังอยู่กับที่ แต่ที่จริงสิ่งที่เรานึกว่า หยุดอยู่กับที่กลับเคลื่อนที่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ (Special Relativity) ถูกเสนอขึ้นในปี พ.ศ.2448 (ค.ศ.1905) โดยอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในบทความของเขา ‘เกี่ยวกับพลศาสตร์ไฟฟ้าของวัตถุซึ่งเคลื่อนที่ (On the Electrodynamics of Moving Bodies)’ 

สามศตวรรษก่อนหน้านั้น หลักสัมพัทธภาพของกาลิเลโอกล่าวไว้ว่า การเคลื่อนที่ ด้วยความเร็วคงที่ทั้งหมดเป็นการสัมพัทธ์ และไม่มีสถานะของการหยุดนิ่งสัมบูรณ์และนิยามได้ คนที่อยู่บนดาดฟ้าเรือคิดว่าตนอยู่นิ่ง แต่คนที่สังเกตบนชายฝั่งกลับบอกว่า ชายบนเรือกำลังเคลื่อนที่ทฤษฎีของไอน์สไตน์รวมหลักสัมพัทธภาพของกาลิเลโอเข้ากับสมมติฐานที่ว่า ผู้สังเกตทุกคนจะวัดอัตราเร็วของแสงได้เท่ากันเสมอ ไม่ว่าสภาวะการเคลื่อนที่เชิงเส้นด้วยความเร็วคงที่ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร

ทฤษฎีนี้มีข้อสรุปอันน่าประหลาดใจหลายอย่างซึ่งขัดกับสามัญสำนึก แต่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการทดลอง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษล้มล้างแนวคิดของสเปซสัมบูรณ์และเวลาสัมบูรณ์ของนิวตันโดยการยืนยันว่า ระยะทางและเวลาขึ้นอยู่กับผู้สังเกต และเวลากับสเปซนั้นถูกรับรู้ต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้สังเกต มันนำมาซึ่งหลักการสมมูลของสสารและพลังงาน ซึ่งสามารถแสดงเป็นสมการชื่อดัง ‘E=mc2’ เมื่อ c คือ อัตราเร็วของแสง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษสอดคล้องกับกลศาสตร์นิวตันในสำนึกทั่วไป และในการทดลองเมื่อความเร็วของสิ่งต่างๆ น้อยมาก เมื่อเทียบกับอัตราเร็วแสง

ทฤษฎีนี้เรียกว่า ‘พิเศษ’ เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป โดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่วไปกล่าว คือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง และทฤษฎีดังกล่าวยังรวมผลของความโน้มถ่วง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่งได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์ เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน ถึงกระนั้น มันก็มีปริมาณบางอย่างที่เป็นปริมาณสัมบูรณ์ทั้งๆ ที่เราคิดว่ามันน่าจะเป็นปริมาณสัมพัทธ์ กล่าวให้ชัดคือว่า อัตราเร็วของแสงจะเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกต แม้ว่าพวกเขาจะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘แสง’ เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐานที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า “ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่า ไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top