Tuesday, 23 April 2024
Google

‘กูเกิล’ งัดไม้แข็ง!! ประกาศ ‘งดจ่ายเงินเดือน’ พร้อมไล่ออก หากพนักงานไม่ยอมฉีดวัคซีน

บริษัท กูเกิล (Google) ออกหนังสือเตือนพนักงานว่าอาจถูกงดจ่ายเงินเดือน หรือถึงขั้นไล่ออก หากปฏิเสธการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

สื่อ CNBC อ้างถึงเอกสารภายในที่ออกโดยกูเกิล ซึ่งระบุให้พนักงานทุกคนแจ้งสถานะการฉีดวัคซีนและอัปโหลดเอกสารยืนยัน หรือส่งหลักฐานเพื่อขอรับการยกเว้นด้วยเหตุผลทางการแพทย์หรือศาสนา ภายในวันที่ 3 ธ.ค. นี้ และหากพ้นจากวันดังกล่าวไปแล้ว บริษัทจะเริ่มติดต่อไปยังพนักงานที่ไม่ได้ส่งเอกสารยืนยันต่อไป (เอกสารยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือการขอยกเว้นไม่ได้รับอนุมัติ)

สำหรับพนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายฉีดวัคซีนนั้น ภายในวันที่ 18 ม.ค. ปี 2022 จะถูก ‘พักงานโดยได้รับเงินเดือน’ เป็นเวลา 30 วัน และหากยังไม่ทำตามกฎก็จะถูก ‘พักงานโดยงดจ่ายเงินเดือน’ อีก 6 เดือน ตามมาด้วยการ ‘เลิกจ้าง’

กางชื่อองค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่ปี 2022 กูเกิลเต็งหนึ่ง!! ส่วนบริษัทไอทีติดโผเพียบ

WorkVenture ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มค้นหางานที่หลายคนรู้จัก ได้ทำแบบสำรวจ Top 50 Employers in Thailand 2022 องค์กรที่คนรุ่นใหม่ลงความเห็นว่า เป็นองค์กรที่น่า ‘ทำงาน’ ด้วยมากที่สุดในปี 2022 ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายของหลายองค์กรอย่างมากที่ต้องรับมือจัดการปรับตัวให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำงานในปัจจุบัน แทบทุกองค์กรต้องปรับรูปแบบการทำงาน Work from Home สลับกับการเข้าออฟฟิศ 

ในขณะเดียวกันก็ยังต้องรักษามาตรฐานในการ ทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กร รวมถึงการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรให้ได้ เพราะโจทย์ใหญ่อีกโจทย์หนึ่งที่องค์กรได้รับนั่นก็คือปัญหาภาวะหมดไฟของคนทำงานจากความกดดันต่างๆ ในช่วงนี้ที่ทำให้เกิดการลาออกครั้งใหญ่ของพนักงาน เพื่อแสวงหาองค์กรที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้น

ทางทีม WorkVenture ได้รวบรวมข้อมูลจากทั้งกลุ่มนักศึกษาและหนุ่มสาววัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง 21-35 ปี จำนวนกว่า 10,000 คน ผ่านการทำผลสำรวจแบบออนไลน์ พบว่าปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกองค์กรยังคงมีอิทธิพลจากปัจจัยหลัก อย่างผลตอบแทน-เงินเดือน สวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กรหรือไลฟ์สไตล์ในที่ทำงานตามลำดับ ส่วนปัจจัยที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือเรื่อง “อิสระในการทำงาน” ทำให้บริษัทที่มีนโยบายการ ทำงาน รูปแบบไฮบริดกลายเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ

หากมองในด้านกลุ่มธุรกิจพบว่ากลุ่มทางด้านเทคโนโลยีได้รับความสนใจมากที่สุดในปีนี้ รองลงมาจะเป็นกลุ่มเครื่องอุปโภคบริโภคที่ผู้คนต้องใช้ทุกวัน ด้วยเหตุผลเรื่องความเติบโตของบริษัทและโอกาสเติบโตในสายงาน และกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำในวงการเพราะมีความมั่นคงท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้สื่อโซเชียลมีเดียยังทำให้ผู้คนรู้จักกับบริษัทมากขึ้น ยิ่งเป็นบริษัทที่มีผู้ติดตามมากอย่างสายบันเทิงก็ยิ่งเป็นที่น่าสนใจในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะได้เห็นภาพว่าการทำงานที่นั่นเป็นเช่นไร และนี่คือ 10 องค์กรชั้นนำที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดในปี 2022

TOPIC 26 : ปิดบังอะไรรึเปล่า? วิศวกร Google ถูกไล่ออก หลังบอก AI มีความรู้สึกเหมือนคน

ปิดบังอะไรรึเปล่า? วิศวกร Google ถูกไล่ออก หลังบอก AI มีความรู้สึกเหมือนคน

Click on Clear Original
โดย ปริม THE STATES TIMES (กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา)

.

.

27 กันยายน ของทุกปี ถือเป็นวันเกิดของ Google (กูเกิล) เสิร์ชเอ็นจิน อันดับ 1 ของโลก

27 กันยายน 2565 ครบรอบวันเกิด 24 ปี ของกูเกิล (Google) เว็บไซต์เสิร์ชเอ็นจิน (Search Engine) อันดับหนึ่งของโลก ที่คนทั่วไปรู้จักกันเป็นอย่างดี

กูเกิล ก่อตั้งโดย แลร์รี เพจ (Larry Page) และเซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) สองนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Stanford University โดยบริษัทกูเกิลจดทะเบียนในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2541 แต่ทั้งสองคนเปิดตัวบริษัทของพวกเขาในโรงรถ เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2541 ภายหลังจึงใช้วันที่ 27 กันยายนนี้เป็นวันเฉลิมฉลองวันเกิดกูเกิล

สำหรับที่มาของชื่อกูเกิล (Google) มาจากคำว่า Googol มาจากจำนวนทางคณิตศาสตร์ 1.0 × 10100 เพื่อแสดงถึงการรวบรวมข้อมูลมากมายมหาศาลในระบบคอมพิวเตอร์

แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากการค้นหา แต่กูเกิลก็สร้างซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และสมาร์ตโฟน บางบริการปิดตัวลง แต่ส่วนหนึ่งก็ยังถูกใช้งานอย่างเป็นที่นิยม อาทิ

Google เปิดตัว Bard AI Chatbot สู้กระแส ChatGPT โชว์ฟีเจอร์เด่นกรองข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น

(7 ก.พ. 66) Techsauce เผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 กุมภาพันธ์ 2566) Sundar Pichai CEO ของ Alphabet บริษัทแม่ Google ประกาศผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการว่า พวกเขาเตรียมจะเปิดตัว Bard เทคโนโลยี AI Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล LaMDA 

ซึ่งแม้เวอร์ชั่นนี้จะเป็น LaMDA ตัวเล็กเพื่อให้ทำงานกับผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ด้อยไปกว่า GPT 3.5 และคาดว่าจะกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ ChatGPT จากค่าย OpenAI ที่มี Microsoft หนุนหลัง 

>> Bard คืออะไร 
Bard เป็นชื่อของ AI Chatbot ที่ Google เตรียมจะเปิดให้คนทั่วไปใช้ หลังจากผ่านการทดลองภายในองค์กรมาแล้ว ของเล่นใหม่จาก Google นี้ใช้เทคโนโลยี LaMDA (Language Model for Dialogue Applications) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ Google หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าแบบจำลองภาษาสำหรับแอปพลิเคชันการสนทนาของ Google นั่นเอง โดยขั้นตอนหลังจากนี้ บริษัทจะทำการทดสอบในแวดวงผู้ทดสอบที่เชื่อถือได้ก่อน จากนั้นจึงจะเปิดให้บริการในวงกว้างมากขึ้น 

>> การขยับตัวอย่างรวดเร็วของ Google 
หลังจากกระแสความนิยมของ ChatGPT เกิดขึ้นได้ไม่นาน ผู้บริหารระดับสูงของ Google ก็เริ่มส่งสัญญาณความกังวลถึงภัยคุกคามต่อธุรกิจตน โดยในขณะนั้น Sundar Pichai  เร่งประชุมทีมกลยุทธ์ AI ของบริษัท พร้อมสั่งการให้ทุกฝ่ายหาทางรับมือ 

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา CNBC เพิ่งจะรายงานถึงความคืบหน้าของ Google ว่าบริษัทกำลังทำการทดสอบการใช้งาน Apprentice Bard เครื่องมือ Chat ถามตอบคล้ายของ ChatGPT แบบภายในบริษัทก่อน โดยตั้งใจจะนำคุณสมบัติของเทคโนโลยีใหม่นี้เข้าไปรวมกับ Search engine หรือ โปรแกรมค้นหาของเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อล่าสุดก็ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าเตรียมเปิดทดสอบสู่สาธารณะ

‘Google’ สั่งปลดพนักงานฝ่ายบุคคลหลายร้อยตำแหน่ง อ้างเหตุผล บริษัทชะลอการจ้างงาน เพื่อลดต้นทุนธุรกิจ

(14 ก.ย. 66) รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ‘อัลฟ่าเบท’ (Alphabet) บริษัทแม่ของ ‘กูเกิล’ (Google) ตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานจากทีมสรรหาบุคลากรหลายร้อยตำแหน่ง เนื่องจากบริษัทยังคงชะลอการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง

การตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานครั้งนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเลิกจ้างครั้งใหญ่ เพราะบริษัทจะยังคงรักษาพนักงานส่วนที่สำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป และผลักดันให้พนักงานค้นหาบทบาทการทำงานในบริษัทที่ตรงกับความต้องการของตนเอง

Alphabet เป็นบิ๊กเทคแห่งแรกที่เลิกจ้างพนักงานในไตรมาสนี้ หลังจากที่บริษัทอื่น ๆ เช่น เมตา (Meta), ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และแอมะซอน (Amazon) ปรับลดขนาดองค์กรและลดจำนวนพนักงานในช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจอ่อนแอ

ก่อนหน้านี้ ในเดือน ม.ค. 2566 Alphabet เลิกจ้างพนักงานในรัฐแคลิฟอร์เนียประมาณ 12,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 6% ของพนักงานทั้งหมด

นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังอ้างอิงรายงานของ Challenger, Grey & Christmas บริษัทจัดหางานในสหรัฐที่ระบุว่า การเลิกจ้างในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในเดือน ส.ค. จากเดือน ก.ค. และเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าปี

‘ธปท. - Google - TB-CERT’ จัดแคมเปญ #31Days31Tips เพิ่มทักษะดิจิทัลให้คนไทย รู้เท่าทันภัยทางออนไลน์

เมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 66) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) Google ประเทศไทย และศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร ภายใต้สมาคมธนาคารไทย (TB-CERT) ร่วมกันจัดแคมเปญ #31Days31Tips ที่จะนำเสนอคอนเทนต์ความรู้ด้านดิจิทัลและเคล็ดลับความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของแต่ละองค์กรตลอดเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นเดือนแห่งการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Awareness Month) เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและการแบ่งปันความรู้ความเข้าใจ ซึ่งจะช่วยให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์และใช้เทคโนโลยีออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย

ปัจจุบัน กลโกงบนโลกออนไลน์ยังคงเป็นปัญหาที่คนไทยยังต้องเผชิญอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พบว่ากลโกงของมิจฉาชีพมีหลากหลายรูปแบบ และที่พบบ่อย ได้แก่ หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการ หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน หลอกให้กู้เงิน และหลอกให้ลงทุน เป็นต้น ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายจากการถูกหลอกลวงกว่า 9 พันล้านบาท ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (17 มีนาคม - 25 สิงหาคม 2566) โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยทำให้การเตือนภัยทางออนไลน์สามารถเข้าถึงประชาชนในวงกว้างขึ้นผ่านเนื้อหาข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์และเข้าใจง่าย อยู่ในรูปแบบที่สามารถแบ่งปันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่หลายหลากได้ เพื่อให้ความปลอดภัยบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ไม่ไกลตัวประชาชนอีกต่อไป 

แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ในระยะเวลา 25 ปีที่ Google ได้ดำเนินธุรกิจทั่วโลก เราได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความปลอดภัยบนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนแห่งการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เราจึงได้จัดแคมเปญ #31Days31Tips เพื่อให้คนไทยมีเครื่องมือและข้อมูลในการท่องโลกออนไลน์อย่างปลอดภัย รวมถึงสามารถแบ่งปันกับคนที่ห่วงใยได้ โดยแคมเปญนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Google ในการทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนผ่านกลยุทธ์ใน 3 ด้าน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ (Products) ที่มีความปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น พร้อมด้วยการรักษาความปลอดภัยในตัว เครื่องมือ (Tools) ที่ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวด้วยตนเอง เช่น การตรวจสอบความปลอดภัย (Security Checkup) ตรวจสอบความเป็นส่วนตัว (Privacy Checkup) รวมถึงเครื่องมือจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) และโครงการ (Programs) ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ และช่วยให้คนไทยท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างมั่นใจ โดยเป็นการต่อยอดจากกิจกรรม “Safer Songkran” ภายใต้โครงการ Safer with Google ที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในการส่งมอบความห่วงใยและส่งเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัลให้กับตัวเองและครอบครัว”

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการย้ำเตือนจุดยืนว่า ธปท. ตระหนักและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาภัยทางการเงินให้ได้ครบวงจร โดยการสื่อสารให้ความรู้และข้อมูลต่าง ๆ กับประชาชนในเชิงรุกและต่อเนื่อง จะช่วยให้ประชาชนรู้เท่าทัน สามารถป้องกันตนเอง และมีภูมิคุ้มกันจากภัยออนไลน์ ซึ่งจะสอดรับกับชุดมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินที่ ธปท. ได้ดำเนินการแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เช่น การขอให้ธนาคารยกเลิกแนบลิงก์ SMS และการยืนยันตัวตนขั้นต่ำด้วย biometrics รวมถึงการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”  

ด้าน ดร.กิตติ โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการ TB-CERT กล่าวว่า “วิถีชีวิตปัจจุบันในยุคดิจิทัล มีการใช้เทคโนโลยีในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเพื่อการสื่อสาร ความบันเทิง สุขภาพ รวมถึงการทำงาน ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งาน แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีควบคู่กันคือ การยกระดับความตระหนักรู้ให้เท่าทันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคารภายใต้สมาคมธนาคารไทยได้ให้ความสำคัญ โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดการภัยทางไซเบอร์ รวมทั้งสื่อสารให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการหลักเพื่อสังคมไทย ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเสริมภูมิคุ้มกันให้สังคมไทยมีความแข็งแกร่งต่อการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ และภัยไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเช่นกัน”

ทั้งนี้ แคมเปญ #31Days31Tips ตลอดเดือนตุลาคมนี้ จะนำเสนอเคล็ดลับและเครื่องมือที่เสริมความปลอดภัยออนไลน์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ ธปท. Google และ TB-CERT โดยเนื้อหาจะประกอบด้วย 4 หมวดหมู่ ได้แก่ การรักษาความปลอดภัยของบัญชีออนไลน์ การป้องกันตัวเองจากสแกม การตรวจเช็กข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และการปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ เพื่อเสริมทักษะดิจิทัลให้คนไทยรู้เท่าทันกลลวงออนไลน์รอบด้าน

ส่อง 3 ยักษ์เทคฯ 'Google-Microsoft-Amazon' ปักหมุดไทย ความฝันสู่ศูนย์กลาง 'เทคโนโลยี-นวัตกรรม' แห่งเอเชีย ไม่ไกล!!

(29 พ.ย. 66) เพจ ‘BOI News’ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้เปิดเผยถึงกรณี ‘ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภูมิภาคเอเชีย’ ระบุว่า…

ด้วยการลงทุนจากยักษ์ใหญ่ของวงการเทคโนโลยีระดับโลก เช่น #Google #Microsoft และ #Amazon Web Services หรือ #AWS ที่อาจพูดได้ว่า เป็นการพาประเทศไทยเข้าสู่ #DigitalTransformation เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างทันโลก 

#ไทยผนึกกำลังกับ 3 ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีระดับโลก 🌎
1️⃣ #Google

🔺 แผนลงทุน Data Center ในไทย: ประเทศไทยเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ Google กำลังพิจารณาสร้าง Data Center เป็นประเทศที่ 11

🔺Google Cloud Region ในกรุงเทพฯ: แผนก่อตั้ง Cloud Region แห่งแรกในไทย ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้มากกว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.4 แสนล้านบาท) และสร้างงานได้อีกกว่า 50,000 ตำแหน่งในปี พ.ศ. 2573

🔺การนำเทคโนโลยี Google Cloud ที่รวดเร็วและปลอดภัยมาใช้กับองค์กรภายในประเทศ: ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการก่อตั้ง National CyberShield Alliance เพื่อป้องกันการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศทางไซเบอร์

🔺การพัฒนาด้าน AI ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม: โดยเบื้องต้นบริษัทได้เซ็น MOU เป็นที่เรียบร้อยเพื่อส่งเสริมการใช้งาน AI ในการบริการภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีด้านการเงิน การพัฒนาภาคสาธารณสุข การศึกษา การขนส่งมวลชน

🔺การพัฒนาทักษะดิจิทัลในประเทศไทย: มอบทุนการศึกษา Google Career Certificate ให้กับคนไทย 

โดย Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลฯ และบีโอไอมอบทุนการศึกษาสำหรับใบรับรองทักษะอาชีพของ Google เพิ่มเติมจำนวน 12,000 ทุน ภายใต้โครงการ Samart Skills เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพในสาขาที่มีความต้องการสูง อาทิ การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ อีคอมเมิร์ซและหลักสูตร ‘Introduction to Generative AI Path’ จาก Google Cloud Skills Program ที่เปิดให้เรียนออนไลน์ฟรี

2️⃣ #Microsoft

🔹โครงการ Microsoft Data Center ไทย: ศึกษาความเป็นไปได้ของแผนการลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ในไทยเพื่อสนับสนุนการให้บริการภาครัฐสาธารณะด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

🔹การพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ในประเทศไทย: พัฒนาทักษะทางดิจิทัลผ่านโครงการและการฝึกอบรมต่าง ๆ

🔹การสนับสนุนด้านพลังงานสะอาดและ ESG: สนับสนุนพลังงานสะอาดและนโยบาย ESG ในการดำเนินธุรกิจ และปรับปรุงการให้บริการสาธารณะด้วยเทคโนโลยีที่ยั่งยืน

3️⃣ #Amazon Web Services (#AWS)

🔸AWS Asia Pacific (Bangkok) Region: สร้างศูนย์ข้อมูล #Hyperscale ระดับโลกแห่งแรกในไทยด้วยงบประมาณกว่า 190,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 15 ปี เพื่อให้เกิดการใช้ Cloud ให้ครบในทุกภาคส่วนของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาการบริการด้านดิจิทัลให้แก่ประชาชน

🔸 การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล: เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

🔸 การพัฒนาเทคโนโลยี AI, Machine Learning, Data Analytics และ IoT: ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลที่สำคัญที่จะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และพัฒนาประเทศทางด้านเศรษฐกิจ 

#บีโอไอ ได้มีส่วนในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและส่งเสริมการลงทุน รวมถึงยังสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมทั้งมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลของคนไทยเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงงานที่อาศัยทักษะทางดิจิทัลให้กับคนไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีให้กลายเป็นแรงดึงดูดอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องจากทั่วโลกมาลงทุนในไทย

‘เศรษฐา’ ชี้!! เดินสายทั่วโลก ช่วยดึงดูดนักลงทุนชั้นนำ ยกเคส Google ร่วมไทย นำเทคโนโลยีใหม่เอื้อ ‘ชีวิต-งาน’

‘เศรษฐา’ โชว์วิสัยทัศน์ พร้อมขอบคุณ Google ร่วมมือรัฐบาลไทย นำเทคโนโลยี มาใช้ทำงานในชีวิต เชื่อ AI-Cloud ตอบโจทย์พันธกิจ พัฒนาธุรกิจไทย ลั่น!! วันนี้สวมหมวกรัฐบาล ทำงานเชิงรุก หวังคนไทยกินดีอยู่ดี ย้ำ!! ไม่ทิ้งคนไหนไว้ข้างหลัง

(8 ธ.ค.66)  ที่ห้องแมคโนเลียบอลรูม โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน ‘Google Digital Samart Thailand’ ว่า ขอขอบคุณผู้บริหาร Google และหลายภาคส่วนที่สำคัญ ทั้งภาคธุรกิจประชาชนคนไทยและอีกหลายท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่าง Google และรัฐบาลไทยในวันนี้การนำเทคโนโลยี Google มาใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวันการพัฒนาขีดความสามารถและการใช้งานจำนวนมากในภาคประชาชนและธุรกิจล้วนเป็นจุดเริ่มต้นสารตั้งต้นของงานในวันนี้

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาพูดในงาน Google ประเทศไทย ครั้งแรกจำได้ดีตอนอยู่ภาคเอกชนเดือนมิถุนายนปีที่แล้วประสบการณ์ของตนและ Google ทำให้ทราบว่านอกจากเป็นผู้นำทางด้านดิจิทัลแล้ว ยังใส่ใจในความแตกต่างความหลากหลายของผู้คนในสังคมหน่วยงานในภาครัฐและภาคธุรกิจขนาดใหญ่ขนาดกลางและขนาดเล็ก วันนี้ตนได้เห็นภาพชัดเจนของโครงการและการลงทุนต่างๆ ของ Google โดยเฉพาะด้าน AI และ Cloud นั้นจะตอบโจทย์พันธกิจ ของ Google ช่วยประเทศไทยและพัฒนาคนไทยและธุรกิจไทยอย่างแน่นอน 

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้สวมหมวกใหม่ในฐานะรัฐบาลเราให้ความสำคัญในการทำงานเชิงรุกที่สร้างความอยู่ดีกินดีให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามดำเนินนโยบายหลังเร่งด่วนมาโดยตลอด ขณะเดียวกันขอย้ำเสมอว่าประเทศไทยอยู่ท่ามกลางความท้าทายของสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และตนได้ออกไปเชิญนักธุรกิจทั่วโลกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์ดีว่าเพื่อประกาศให้โลกรู้ประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับการทำธุรกิจ และเราจะทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นจุดมุ่งหมายของการลงทุนของนักลงทุนชั้นนำอีกด้วย ยกระดับเศรษฐกิจไทยให้ไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลนำ AI และ Cloud เข้ามาพัฒนาการให้บริการพี่น้องประชาชน นำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูงด้วยกลยุทธ์การดำเนินการที่กล่าวไปแล้วเราได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในหลายมิติ

“การไปประชุมที่นิวยอร์กเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้พบปะกับ ประธานบริหารการลงทุนและประธานบริหารการเงิน ของ Google ซึ่งหารือถึงการทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยโดยรวม นับจากนั้นเป็นต้นมา คณะทำงานของทั้งสองฝ่าย ต้องขอขอบคุณทาง Google ประเทศไทยและทีมงานของตนที่ได้ทำงานกันอย่างหนักเชิงรุกร่วมกันอย่างเข้มแข็ง จนบรรลุถึง MOU ความร่วมมืออย่างเป็นทางการ ระหว่างไทยและ Google ที่การประชุมเอเปคกลางเดือนที่ผ่านมาความร่วมมือทั้งสองฝ่ายประกาศร่วมกัน 4 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ การต่อยอดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น การลงทุนขยาย Data Center ในประเทศไทยการส่งเสริมการใช้ Cloud และ AI อย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัยเพื่อยกระดับการให้บริการของภาครัฐการวางหลักการเกี่ยวกับนโยบายการใช้งานระบบ Cloud เป็นหลัก หรือที่เรียกว่า Cloud first Policies และการทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลได้อย่างมากขึ้น” นายกฯกล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ประกาศนโยบายการใช้ระบบ Cloud เป็นหลัก ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างแข็งแรงในยุคเศรษฐกิจ AI รัฐบาลได้จัดทำนโยบายและแผนเพื่อเป็นกรอบการขยายงานใช้งาน Cloud และเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเน้นการใช้งาน Public Ground ที่มีมาตรฐานในการดูแลข้อมูลของภาครัฐ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะเป็นผู้เรื่องขับเคลื่อนนโยบาย เน้นบูรณาการด้านเทคโนโลยี Cloud กับการดำเนินงานของภาครัฐ ซึ่งทำให้เกิดผลได้เชิงปฏิบัติโดยเร็ว โดยอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้นอกจากจะเร่งให้เกิดการยกระดับการให้บริการในภาครัฐแล้ว ยังยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายการลงทุนของระบบ บริษัทชั้นนำของทั่วโลก เรื่องที่ 2 เรากำลังวางแนวทางจัดแผน ในหน่วยงานรัฐและที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มีมาตรฐานลดความซ้ำซ้อนเพิ่มการป้องกันการคุกคามภัยทางไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ ได้มีการคิกออฟการทำงานไปแล้ว ต้นปีหน้าเราจะเห็นแผนการทำงานที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเรื่องที่ 3 อัปสกิล-รีสกิล ตนยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือกับ Google และกระทรวงและหน่วยงานราชการ ซึ่งจะพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร และหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดทำให้การบริการพี่น้องประชาชนได้ดียิ่งขึ้น เริ่มโครงการนำร่องใช้ในงานของภาครัฐ ความร่วมมือดังกล่าว

“ต้องขอบคุณกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ในการส่งเสริมผลักดันความร่วมมือกับ Google และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นของโลกทั้งในเรื่อง AI Cloud และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์การดำเนินการเชิงรุกของรัฐบาลยกระดับเศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่ และดีใจที่วันนี้เรามีการร่วมมือกับทาง Google จะทำงานกันต่อไป โดยไม่ทิ้งคนไทยคนไหนไว้ข้างหลัง” นายกฯกล่าว

ด้านนาย Karan Bajwa Vice President Asia Pacific Google Cloud กล่าวว่า จากผลการวิจัยพบว่าหากภาคส่วนและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยนำนวัตกรรม AI มาใช้งานจะสามารถปลดล็อกผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้อย่างน้อย 2.6 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบดั้งเดิมยังขาดความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่น เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ความสามารถของเทคโนโลยี Cloud AI ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระดับองค์กร โดยเฉพาะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม

ดังนั้น เราจึงได้ร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการร่างนโยบาย Go Cloud First เพื่อสร้างแนวทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับองค์กรต่างๆ ในการเข้าถึงความสามารถเหล่านี้อย่างรวดเร็ว ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงคมนาคม และสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ เราจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปในการเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการแก่ประชาชนในการสร้างและปรับใช้โซลูชั่น Generative AI โดยใช้ความสามารถของ Cloud AI ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายทำให้องค์กรต่างๆ ได้รับประโยชน์ที่มีอยู่ Generative AI เพื่อช่วยพลิกโฉมเศรษฐกิจประเทศไทย และสร้างประโยชน์ในวงกว้างต่อคนไทยทุกคนได้อย่างรวดเร็ว

Google เผย 18 หมวดหมู่ คำค้นหายอดนิยม-กระแสแห่งปี 2023  สงคราม 'อิสราเอล-ฮามาส-กาซา' มาแรงในหมวดข่าว

‘Google Search’ ในปีนี้ก็เดินทางมาถึงปีที่ 25 และทาง Google ก็ได้เปิดเผยคำค้นหายอดนิยม และเป็นกระแสประจำปี 2023 ทั้งหมด 18 หมวดหมู่ ดังนี้

>> News (ข่าว)
-War in Israel and Gaza
-Titanic submarine
-Turkey earthquake
-Hurricane Hilary
-Hurricane Idalia
-Hurricane Lee
-Maine shooting
-Nashville shooting
-Chandrayaan-3
-War in Sudan

>>People (บุคคล)
-ดามาร์ แฮมลิน (Damar Hamlin)
-เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner)
-แอนดรูว์ เทต (Andrew Tate)
-คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé)
-ทราวิส เคลซี (Travis Kelce)
-เจนน่า ออร์เทกา (Jenna Ortega)
-ลิล เทย์ (Lil Tay)
-แดนนี่ มาสเตอร์สัน (Danny Masterson)
-เดวิด เบคแฮม (David Beckham)
-เปโดร ปาสคาล (Pedro Pascal)

>>Passings (บุคคลที่เสียชีวิตแล้ว)
-แมทธิว เพอร์รี (Matthew Perry)
-ทีน่า เทิร์นเนอร์ (Tina Turner)
-ซิเนด โอคอนเนอร์ (Sinéad O’Connor)
-เคน บล็อค (Ken Block)
-เจอร์รี่ สปริงเกอร์ (Jerry Springer)
-แองกัส คลาวด์ (Angus Cloud)
-นิโคลา บูลลีย์ (Nicola Bulley)
-เจน เบอร์กิ้น (Jane Birkin)
-จิมมี่ บัฟเฟตต์ (Jimmy Buffett)
-แลนซ์ เรดดิก (Lance Reddick)

>>Actors (นักแสดง)
-เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner)
-เจนน่า ออร์เทกา (Jenna Ortega)
-เอนโนสุเกะ อิชิคาว่า (市川 猿之助 : Ichikawa Ennosuke IV)
-แดนนี่ มาสเตอร์สัน (Danny Masterson)
-เปโดร ปาสคาล (Pedro Pascal)
-เจมี ฟ็อกซ์มอร์ เวิร์ต (Jamie Foxxmore vert)
-เบรนแดน เฟรเซอร์ (Brendan Fraser)
-รัสเซล แบรนด์ (Russell Brand)
-เคียรา แอดวานี (Kiara Advani)
-แมตต์ ไรฟ์ (Matt Rife)

>>Athletes (นักกีฬา)
-ดามาร์ แฮมลิน (Damar Hamlin)
-คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé)
-ทราวิส เคลซี (Travis Kelce)
-จา โมแรนต์ (Ja Morant)
-แฮร์รี เคน (Harry Kane)
-โนวัค ยอโควิช (Novak Djokovic)
-คาร์ลอส อัลการาซ (Carlos Alcaraz)
-ราชิน ราวินทรา (Rachin Ravindra)
-ชับแมน กิลล์ (Shubman Gill)
-ไครี เออร์วิง (Kyrie Irving)

>>Games (เกม)
-Hogwarts Legacy
-The Last of Us
-Connections
-Battlegrounds Mobile India
-Starfield
-Baldur’s Gate 3
-スイカ ゲーム
-Diablo IV
-Atomic Heart
-Sons of the Forest

>>Movie (ภาพยนตร์)
-Barbie
-Oppenheimer
-Jawan
-Sound of Freedom
-John Wick: Chapter 4
-Avatar: The Way of Water
-Everything Everywhere All at Once
-Gadar 2
-Creed III
-Pathaan

>>Musicians (นักดนตรี)
-ชากีรา (Shakira)
-เจสัน อัลเดียน (Jason Aldean)
-โจ โจนาส (Joe Jonas)
-Smash Mouth
-เปปปิโน ดิ คาปรี (Peppino di Capri)
-จีโน่ เปาลี (Gino Paoli)
-ทอม เคาลิทซ์ (Tom Kaulitz)
-เคลลี พิคเลอร์ (Kellie Pickler)
-โจเซ หลุยส์ เปราเลส(José Luis Perales)
-แอนนา ออกซา (Anna Oxa)

>>Recipe (สูตรอาหาร)
-Bibimbap
-Espeto
-Papeda
-Scooped bagel
-Pasta e fagioli
-Coronation quiche
-Tacacá
-Black cake
-Ashure
-Smelt

>>Songs (เพลง)
-アイドル – Yoasobi
-Try That In A Small Town – Jason Aldean
-Bzrp Music Sessions, Vol. 53 – Shakira and Bizarrap
-Unholy – Sam Smith and Kim Petras
-Cupid – FIFTY FIFTY
-ERE – Juan Karlos
-Kill Bill – SZA
-Rich Men North of Richmond – Oliver Anthony
-Pasilyo – SunKissed Lola
-Seven – Jungkook

>>Sports Teams (ทีมกีฬา)
-Inter Miami CF
-Los Angeles Lakers
-Al-Nassr FC
-Manchester City F.C
-Miami Heat
-Texas Rangers
-Al Hilal SFC
-Borussia Dortmund
-คริกเกต ทีมชาติอินเดีย
-Boston Bruins

>>TV Shows (รายการโทรทัศน์)
-The Last of Us
-Wednesday
-Ginny & Georgia
-One Piece
-Kaleidoscope
-King the Land
-The Glory
-That ’90s Show
-The Fall of the House of Usher
-Shadow and Bone

>>Hum to Search : Top Songs (ค้นหาเพลงด้วยการฮัมเสียง และทำนองเพลง)
-Bones – Imagine Dragons
-Kesariya – Arijit Singh
-アイドル – YOASOBI
-Maan Meri Jaan – King
-Believer – Imagine Dragons
-Mockingbird – Eminem
-Until I Found You – Stephen Sanchez
-Pasoori – Ali Sethi
-Shinunoga E-Wa – Fujii Kaze
-Instasamka / Turn Off The Phone / Tik Tok Version – Pablix
.
>>Google Maps : Top Parks (สวนที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Park Güell, Barcelona, Spain
-Central Park, New York, New York
-Hyde Park, London, United Kingdom
-El Retiro Park, Madrid, Spain
-Villa Borghese, Rome, Italy
-Nara Park, Nara, Japan
-Cubbon Park, Bengaluru, India
-Red Rocks Park and Amphitheatre, Morrison, Colorado
-Parque Ibirapuera, São Paulo, Brazil
-Bryant Park, New York, New York

>>Google Maps : Top Stadiums (สนามกีฬาที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Spotify Camp Nou, Barcelona, Spain
-Santiago Bernabéu Stadium, Madrid, Spain
-Wembley Stadium, London, United Kingdom
-Tokyo Dome, Tokyo, Japan
-San Siro Stadium, Milano, Italy
-Narendra Modi Stadium, Ahmedabad, India
-Madison Square Garden, New York, New York
-Tottenham Hotspur Stadium, London, United Kingdom
-Stade de France, Saint-Denis, France
-Emirates Stadium, London, United Kingdom

>>Google Maps : Top Museums (พิพิธภัณฑ์ที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Louvre Museum, Paris, France
-The British Museum, London, United Kingdom
-Musée d’Orsay, Paris, France
-Natural History Museum, London, United Kingdom
-teamLab Planets, Tokyo, Japan
-Rijksmuseum, Amsterdam, Netherlands
-Museo Nacional del Prado, Madrid, Spain
-Van Gogh Museum, Amsterdam, Netherlands
-American Museum of Natural History, New York, New York
-Anne Frank House, Amsterdam, Netherlands

>>Google Lens : Top Categories (หมวดหมู่ที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Translate
-Arts & Entertainment
-Text
-Education
-Shopping
-Home & Garden
-Science
-Barcode
-Beauty & Fitness
-Hardware

>>Google Lens : Top Apparel (เครื่องแต่งกายที่ถูกค้นหามากที่สุด)
-Shirt
-Outerwear
-Footwear
-Dress
-Pants
-Skirt
-Shorts
-Romper
-Jumpsuit
-Sweater


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top