Monday, 13 May 2024
ChuweedBar

‘สนธิ’ แฉ!! คนใกล้ตัว ‘ชูวิทย์’ เปิดบาร์กัญชาสุดหรูกลางกรุงฯ

(27 ก.พ. 66) นายสนธิ ลิ้มทองกุน ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘คุยทุกเรื่องกับสนธิ’ ตอนหนึ่งว่า จากกรณีที่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและเจ้าของธุรกิจอาบอบนวด ได้ออกมาโจมตีในกรณีปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์ โดยโพสต์ข้อความ 2 โพสต์ติด ๆ กัน คือ กัญชา พี้เพื่อชาติ! และ กัญชา เหรียญสองด้าน สนองกิเลสพรรคภูมิใจไทย

ต่อมาได้มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กเข้าไปโพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กนายชูวิทย์ ระบุข้อความว่า “ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ขอให้กิจการรุ่งเรือง เฮง ๆ นะครับ” พร้อมแนบภาพ ร้าน ชูหวีด บาร์ (Chuweed Bar) ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายกัญชาเพื่อสันทนาการภายในโรงแรมดังกลางกรุง ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวนายชูวิทย์ด้วย และช่วงค่ำวานนี้ เฟซบุ๊กเพจ Channel Weez Thailand ได้โพสต์ภาพ และรายละเอียด Chuweed Bar ของครอบครัวนายชูวิทย์ ระบุว่า “กัญชาพรึ่บ! บาร์สมุนไพรสุดฟิน ในโรงแรมของชูวิทย์ การตกแต่งร้านโดดเด่นมีสไตล์ เรียบง่ายบนความหรูหรา มีหลายโซนให้ลูกค้าได้ฟินกับความ high เหนือระดับ เช่นเดียวกับโลโก้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วรู้เลยว่า คือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

โดยบาร์กัญชาดังกล่าว ตั้งอยู่ในโรงแรมของเสี่ยชูวิทย์ แว่วมาว่า ปัจจุบันโรงแรมนี้บริหารงานโดยรุ่นลูกและคนในครอบครัว ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าของก็ตาม แต่ร้านนี้ถือเป็นบาร์สมุนไพรที่น่าแวะไปชมสักครั้ง แถมยังได้รับแรงบันดาลใจจากคนชื่อดัง เผื่อมีโอกาสได้นั่งเติมกัญสักครั้ง เห็นร้านสวย ๆ แบบนี้แล้ว สหายสายเขียวฝากสะกิดมาบอกพี่น้องว่า อย่าอคติกับสมุนไพรไทยโบราณเลย มาช่วยกัญรันวงการเพื่อเศรษฐกิจของลูกหลานดีกว่า กัญชาถูกย่ำยีจากเกมการเมืองมามากพอแล้วท่าน อนึ่ง จากการสืบค้นข้อมูลย้อนหลังพบว่า บาร์กัญชา Chuweed Bar ภายในโรงแรม เดอะ เดวิส บางกอก ของครอบครัวนายชูวิทย์นั้นมีการเปิดให้บริการเชิงสันทนาการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 หรือกว่าครึ่งปีแล้ว

สำหรับโรงแดมดังกล่าว เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีจำนวนห้องพัก 240 ห้อง ของครอบครัวนายชูวิทย์นั้นบริหารงานโดย บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด ซึ่งหุ้นทั้งหมดถือครองในครอบครัวนายชูวิทย์ทั้งหมด โดย ณ เดือนกรกฎาคม 2565 ผู้ถือหุ้น ประกอบไปด้วยลูกสาว น.ส.ตระการตา กมลวิศิษฎ์ ถือหุ้น 24.75%, ลูกชาย 3 คน คือ นายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ถือหุ้น 24.75%, นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ ถือหุ้น 24.75%, นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ ถือหุ้น 24.75%, บริษัท ต้นตระกูล จำกัด ถือหุ้น 1% และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถือหุ้น 0.01%

ทั้งนี้ บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด มีกรรมการ 5 คน ประกอบด้วย นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์, นายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์, นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์, นางสาวตระการตา กมลวิศิษฎ์ และ พล.ต.ต.คงเดช ชูศรี

ส่วนผลประกอบการตามรายงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรากฏข้อมูลงบการเงินล่าสุด บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด สิ้นสุด ณ ปี 2563 ระบุว่า มีรายได้รวม 22,313,415 บาท ขาดทุน 27,758,836 บาท โดยมีสินทรัพย์รวม 211,023,896 บาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น นายสนธิ ได้พูดฝากเตือนไปถึงนายชูวิทย์ จากกรณีที่ออกมาเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์ ปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลปัจจุบัน โดยเฉพาะความไม่โปร่งใส โครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม พร้อมอ้างมีเงินตกหล่นอยู่สามหมื่นล้าน ใจความสำคัญตอนหนึ่ง ระบุว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของนายชูวิทย์ และทำวิชาชีพสื่อมวลชนมากว่าห้าสิบปี มีประเด็นที่อยากจะเตือน ให้ข้อคิดแก่นายชูวิทย์ในการแฉ เปิดโปงเรื่องเหล่านี้ ว่า มีเรื่องที่นายชูวิทย์ต้องระวังให้มากๆ เพราะภาพรวมตอนนี้ นายชูวิทย์ต้องรู้ว่าเป็นการฟาดฟันกันระหว่างกลุ่มคนรอบตัว ‘ลุงตู่’ และกลุ่มคนรอบตัว ‘ลุงป้อม’ โดยใช้ลูกน้องออกมาฟาดฟันกัน จึงอยากจะเตือนว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร

“คุณชูวิทย์ไปหานายกฯ ทีไร ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ หรือที่ทำเนียบรัฐบาล ก็จะมี ‘เสธ.หิ’ คุณหิมาลัย ผิวพรรณ หรือมีคนอย่างคุณวรัญชัย โชคชนะ ยืนอยู่ข้าง ๆ พอพูดเสร็จ คนโน้นคนนี้ลงมาจัดการ กรณีนี้ คุณพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรคฯ เลขาธิการนายกฯ ก็ลงมาจัดการ คุณชูวิทย์ต้องระวังว่า คนจะมองว่าคุณมีนอกมีในกับคนพวกนี้หรือเปล่า

“ที่สำคัญ คุณชูวิทย์ ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการเลือกตั้งใหญ่ ที่กำลังจะยุบสภาฯ ภายในเดือนหน้า คือมีนาคมนี้ คงมีการจัดการให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม เรื่องเหล่านี้คุณชูวิทย์ต้องระวังให้มากๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะขณะนี้สายลุงตู่ กับสายลุงป้อม ฟาดฟันกันอย่างหนัก”

พร้อมย้ำว่า “การพูดจาอะไรต้องระวัง เพราะว่าในการประมูลของภาครัฐทุกครั้ง ทุกรอบ ทุกยุค ทุกสมัย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีทั้งเอกชนที่สมหวังและผิดหวัง มีคนได้ มีคนเสีย ผมเกรงว่าจะมีคนกล่าวหาคุณชูวิทย์รับงานมา ว่า พอคุณชูวิทย์เริ่มดังขึ้นมา ก็เริ่มรับงานร้องเรียนที่เกี่ยวกับประเด็นปัญหาการประมูลที่เป็นคู่แข่งระหว่างเอกชนกับเอกชน”

‘ชูวิทย์’ เดือด!! 'สธ.' บุก รร.เดวิส ตรวจบาร์กัญชา เชื่อ!! ถูกกลั่นแกล้ง หลังพูดแตะเรื่องกัญชา

(27 ก.พ. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษษฏ์ ได้ไลฟ์สด ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ หลังกรมการแพทย์ไทยและการแพทย์ทางเลือก ของกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาตรวจสอบบาร์กัญชา ในโรงแรมเดอะ เดวิส ซึ่งตั้งอยู่ย่านสุขุมวิท โดยเจ้าตัวเผยว่า ถือเป็นการกลั่นแกล้งประชาชน พอพูดความจริงก็รับไม่ได้

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ และสอบถามว่าจะกลั่นแกล้งเหรอ พอตนพูดถึงเรื่องกัญชา ก็มาตรวจ ถือว่าใช้ได้ที่ไหน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้มาแนะนำ ทำหน้าที่ ทางนายชูวิทย์จึงสอบถามว่าทำไมเพิ่งมาร้านแห่งนี้ อยากรู้เหตุผล เพราะพอตนพูดถึงกัญชา กลับเดินทางมา ทั้งที่เจ้าหน้าที่ไม่เคยออกกฎห้ามเลย เรื่องเยาวชนมาซื้อ เอาแต่พูดถึงข้อดี แต่ไม่เคยพูดถึงเด็กเล็ก ๆ กลับเล่นกัญชา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อ้างว่า เพิ่งได้ข้อมูลมา โดยได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งนายชูวิทย์ได้สอบถามอย่างเดือดระอุว่า “ใครสั่งมา”

‘อธิบดีแผนไทยฯ’ แจง ปมตรวจบาร์กัญชาโรงแรม ‘ชูวิทย์’ ชี้ เป็นหน้าที่ ยืนยัน ไม่ได้กลั่นแกล้ง-ทำตามคำสั่งใคร

(28 ก.พ. 66) อธิบดีกรมแพทย์แผนไทย แจงที่มาเจ้าหน้าที่กรมฯ ตรวจร้านจำหน่ายช่อดอกกัญชาโรงแรม ‘ชูวิทย์’ ยัน ไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือทำตามคำสั่งใคร เผย ตรวจสอบแล้วไม่ได้มีความผิด พร้อมรับฟังเสนอคุมปริมาณการขาย

จากกรณี เจ้าพนักงานของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายช่อดอกกัญชาภายในโรงแรม เดอะ เดวิส บางกอก ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและเจ้าของธุรกิจอาบอบนวด เป็นเจ้าของ ทำให้นายชูวิทย์ระบุว่า ถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากออกมาวิจารณ์นโยบายกัญชาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และวิจารณ์กระทรวงสาธารณสุขที่เห็นชอบกับนักการเมือง

นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ตนได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กรมฯ แล้ว ซึ่งทุกคนก็เข้าใจ ตนอยากชี้แจง 2 ประเด็น คือ

1.) อยากขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ที่เป็นข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจของกฎหมาย

2.) การตรวจสอบนี้เป็นไปตามแผนที่กรมฯ วางไว้อยู่แล้วเป็นรายเดือน เพียงแต่ไม่ได้แจ้งให้ทราบ เพราะจะเกิดได้ 2 แง่ คือ 1.) ทุกคนเข้าระบบจริง ทำให้จับผู้กระทำผิดไม่ได้ และ 2.) ผู้กระทำผิดรู้และไหวตัวทัน ทำให้เราจับไม่ได้

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า เรามีตารางลงพื้นที่ โดยวันที่ 27 ก.พ. จะลงพื้นที่เขตบางแค ประกอบกับร้านดังกล่าวมีประชาชนส่งข้อมูลมาที่กรมฯ เมื่อ 4-5 วันก่อนว่า มีการโฆษณาขายดอกกัญชาในร้าน ซึ่งมีความผิดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) พ.ศ. 2565 ฉบับปรับปรุง เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2565 ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ก็ไปตรวจสอบ ซึ่งโดยปกติเราจะไปพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยการโฆษณาเป็นความผิดที่กรมฯ ดำเนินการได้เอง คือการพักใช้ใบอนุญาต เราจึงไม่ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย เรื่องนี้ทำให้เราต้องรอบคอบในเรื่องนี้มากขึ้นว่า ต้องเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วยทุกครั้ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top