Saturday, 19 April 2025
Central

กรุงเทพฯ - นิพนธ์ เดินหน้าจัดของเติมตู้ปันสุข ของกระทรวงมหาดไทย เชิญชวน พี่น้องประชาชนผู้มีกำลังฯร่วมกิจกรรม เพื่อเติมกำลังใจให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด

ที่ บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกิจกรรม “คนมหาดไทย แบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน มาเติมเต็มที่ตู้ปันสุข เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยรอบกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลายความทุกข์ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

สำหรับกิจกรรม “มหาดไทยปันสุข ส่งต่อความห่วงใย สู้ภัยโควิด 19” กรมการปกครอง โดยกระทรวงมหาดไทย จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม ตามปรัชญากระทรวงมหาดไทยที่ว่า "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก จัดระเบียบผู้ที่มาเลือกหยิบของจาก "ตู้ปันสุข" ให้เป็นไปตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) วัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ รมช.มท.ได้กล่าวเชิญชวน ว่า "ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้ที่พอมีกำลังทรัพย์ที่จะนำสิ่งของมาใส่ในตู้ปันสุขได้ ก็ขอให้มาร่วมเติมกำลังใจ ให้ได้มาร่วมกิจกรรมกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ยังคงมีอยู่ต่อไปอีกสักระยะ ซึ่งยังมีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด ดังนั้น การจัดกิจกรรมของเราก็จะคงจัดอยู่ไปจนกว่าสถานการณ์โดยรวมจะเข้าสู่สภาวะปกติ"


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

เพชรบุรี – นักอนุรักษ์เฮ ! เต่ากระ ขึ้นวางไข่เกาะทะลุต่อเนื่อง

วันที่ 27 พ.ค. นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นายภัทร อินทรไพโรจน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม(เตรียมการ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม ขณะลาดตระเวนและเฝ้าระวังการขึ้นวางไข่ของเต่ากระในพื้นที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์

พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของแม่เต่ากระอย่างต่อเนื่องแต่ไม่พบตัวแม่เต่ากระ บริเวณอ่าวเทียน พิกัด 47 P 560368 E 1223962 N ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) เจ้าหน้าที่จึงสำรวจบริเวณโดยรอบ พบหลุมวางไข่และได้ทำการขุดหลุมรังไข่เพื่อทำการย้ายรัง นับเป็นรังที่ 3 มีจำนวนไข่ทั้งหมด 86 ฟอง วัดขนาดรอยพายได้ 78 เซนติเมตร ความกว้างของหลุม 25 เซนติเมตร ความลึกของหลุม 44 เซนติเมตร ก่อนทำการเคลื่อนย้ายไข่เต่าไปยังจุดอนุบาลฯ ต่อไป ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับ "เต่ากระ" ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Eretmochelys imbricata (Linnaeus,1766) เป็นสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ สถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และจัดอยู่ใน Appendix 1 ของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ด้วย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เพชรบุรี - “วราวุธ” มอบ “ยุทธพล” ปลูกต้นไม้ที่เพชรบุรี ย้ำความสำคัญป่าชายเลน

วันที่ 27 พ.ค. นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  เป็นประธานกิจกรรมปลูกต้นไม้เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 มีนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายไพโรจน์ นาครักษา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายจำลอง จงศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ผู้บริหารในสังกัด ทส.ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมบริเวณชายหาดพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งต้นไม้ที่ปลูกในวันนี้ ประกอบด้วย ต้นจิกทะเลจำนวน 20 ต้น ต้นข่อย ต้นมะนาวผี ต้นแจง ต้นกุ่มบก ต้นเกด อีก 30 ต้น พร้อมเตรียมวางแผนจัดการป่าชายเลนอย่างเป็นระบบทั่วประเทศ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่าตนได้เปิดเผยบ่อยครั้งถึงความสำเร็จและความร่วมมือของพี่น้องประชาชนที่ได้มีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่และอนุรักษ์ป่าชายเลนให้ดีขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่อาจส่งผลให้การรวมกลุ่มกันของพี่น้องประชาชนในการแสดงพลังเพื่อปลูกและบำรุงป่าอาจจะเห็นได้ไม่บ่อยครั้งนัก สำหรับวันนี้ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา และเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2532 หลายหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ได้จัดเตรียมกิจกรรมปลูกป่าบกและป่าชายเลนร่วมกับจิตอาสาและพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อเป็นเครื่องหมายที่สะท้อนให้เห็นว่า พวกเรายังให้ความสำคัญกับทรัพยากรป่าไม้และพร้อมที่จะดูแลและฟื้นฟูผืนป่าให้คงอยู่และเพิ่มขึ้นเช่นนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามวันนี้ผมได้มอบหมายให้ นายยุทธพล อังกินันนทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่และเป็นประธานในกิจกรรมปลูกไม้ป่าชายเลนในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ร่วมกับพี่น้องประชาชนและจิตอาสา นอกจากนี้ตนได้กำหนดแนวนโยบายในการขยายความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศอาเซียน ภายใต้โครงการ Thailand Plus One โดยมุ่งเน้นการรักษาผืนป่าและการลดการเผาที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างแถบภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ตนจะได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยหรือนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยในการสำรวจ ลาดตระเวน และติดตามการดำเนินงานและสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ได้แบบ Real time ขอฝากให้ทุกคนช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมบูรณ์และคงความสมดุลอย่างยั่งยืนเช่นนี้ต่อไป เพื่อพวกเราเองและเพื่อลูกหลานของเราทุกคน

นายยุทธพล กล่าวว่า วันนี้ตนได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนและจิตอาสาในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ร่วมปลูกป่าชายเลนเนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ บริเวณพื้นที่ชายหาด ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงพลังและความร่วมมือของพี่น้องชาวจังหวัดเพชรบุรี ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนในจังหวัด ซึ่งตนได้หารือกับหน่วยงานในพื้นที่ถึงแนวทางการเพิ่มพื้นที่ป่าบกและป่าชายเลนในจังหวัดโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกและการจัดหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับผู้ที่ประสบปัญหาในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบให้อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำรวจพื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดเพชรบุรี รวมถึง 24 จังหวัดชายฝั่งทะเลเพื่อวางแผนการบริหารจัดการ รวมถึงการกำหนดมาตรการและแนวทางการตรวจลาดตระเวนร่วมกับภาคประชาชนและอาสาสมัครในพื้นที่อย่างเป็นระบบและเกิดความยั่งยืนในการดำเนินงานต่อไป

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทช. กำลังเร่งรัดประชาสัมพันธ์เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนโดยทั่วไปเข้ามาร่วมปลูกฟื้นฟูป่าชายเลนให้คืนสู่ความสมบูรณ์ในการปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ซึ่งขณะนี้ กรม ทช.ได้เตรียมพื้นที่พร้อมดำเนินการไว้แล้วประมาณ 1 หมื่นไร่ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมอีกทั้งหน่วยงานในสังกัดกรม ทช. ได้จัดเตรียมกล้าไม้ป่าชายเลนไว้บริการแจกฟรีสำหรับหน่วยงานและประชาชนที่มีความประสงค์จะขอรับกล้าไม้ไปปลูกในพื้นที่เอกสารสิทธิ์หรือพื้นที่สาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามเหมาะสมโดยติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1-10 และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนทุกแห่งในพื้นที่


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สมุทรสงคราม - ศรชล.รับเรื่องร้องเรียนแจกจ่ายวัคซีนไม่เป็นธรรม จากชาวประมง

วันที่ 27 พ.ค.64 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรสงคราม (ศรชล.จว.สส.) โดย นายชรัส บุญณสะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรสงคราม/ผวจ.สมุทรสงคราม

(ผอ.ศรชล.จว.สส./ผวจ.สส.) พร้อมด้วย น.อ.นิคม  แจ่มยิ่ง รอง ผอ.ศรชล.จว.สส. และคณกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับเรื่องร้องเรียน จากสมาคมประสมุทรสงคราม, สมาคมประมงเรือลากคู่สมุทรสงคราม และสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด กรณีไม่พอใจการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากกรมควบคุมโรคติดต่อ เพื่อจ่ายให้กับ จว.สส. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงมาก เพราะอยู่ท่ามกลางระหว่างจังหวัดพื้นที่สีแดงและพื้นที่สีแดงเข้ม ทำให้โอกาสแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มีโอกาสสูงมาก โดยตลาดปลาสหกรณ์แม่กลองเป็นตลาดกลางซื้อสัตว์น้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เปิดทำการซื้อขายสัตว์น้ำทุกวันจากชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ซึ่ง จว.สส. ตามแผนที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะได้รับวัคซีนมากสุดช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.64 โดยเกรงว่าจะไม่ทันกับการระบาดของโรคโควิด-19      

ผอ.ศรชล.จว.สส./ผวจ.สส. ได้ชี้แจง พร้อมนำหนังสือที่ได้ทำเรื่องเสนอกรมควบคุมโรคติดต่อ ด่วนที่สุด ที่ สส.0017.1/7098 ลง 26 พ.ค.64 เรื่องขอรับการสนับสนุนการปรับแผนการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับจังหวัดสมุทรสงคราม ให้ผู้ที่มาร้องเรียนได้ดูและรับทราบ ทำให้ผู้ที่มาร้องเรียนเข้าใจและพึงพอใจ จึงได้สลายการรวมตัวในครั้งนี้

 


ภาพ/ข่าว ปชส.ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

สุโขทัย - ส.อบต หญิงน้ำใจงามควักงบส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัยแจกชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าที่ตำบลบ้านแก่งมีสมาชิก อบต ใจดีใช้งบประมาณส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัยมาแจกให้กับชาวบ้านถึงสองหมู่บ้านในตำบลบ้านแก่ง อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย จึงเดินทางไปยังสองหมู่บ้านดังกล่าว พบนางปัทมา สอนโต อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นสมาชิก อบต. มา 8 ปีถึง 2 สมัย กำลังแจกหน้ากากอนามัยให้กับชาวบ้าน จากการสอบถามนางปัทมา สอนโต ทราบว่าตนเองเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก่ง มาหลายสมัย จนเป็นที่รู้จักมักคุ้นและเป็นที่รักของพี่น้องในตำบลบ้านแก่ง

เนื่องจากตนเป็นคนที่ใส่ใจในการพัฒนาชุมชนและชอบช่วยเหลือชาวบ้าน สำหรับเรื่องการแจกหน้ากากอนามัยตนเองมองเห็นว่าขณะนี้จังหวัดสุโขทัยมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019(โควิด19)เพิ่มขึ้น ตนจึงมีความคิดว่าอยากมีส่วนร่วมในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคดังกล่าวตนจึงใช้งบประมาณส่วนตัวซื้อหน้ากากอนามัยมาแจกให้ชาวบ้านสองหมู่บ้านคือหมู่บ้านป่าคาและหมู่บ้านห้วยหยวก ที่ตนเองเลือก 2 หมู่บ้านเนื่องจากอยู่ห่างไกลตัวเมืองประกอบกับชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่ทำสวนไม่ค่อยได้มีเวลาเดินทางไปตัวเมืองบ่อยนักที่สำคัญไม่อยากให้ชาวบ้านออกเดินทางไปต่างพื้นที่เพื่อป้องกันตัวเองในเรื่องโรคโควิด-19 ด้วย โดยมีหน้ากากอนามัยที่ตนนำมาแจกมีจำนวน 350 กล่อง หรือจำนวน 17,500 ชิ้น ซึ่งเพียงพอต่อพี่น้องประชาชนแน่นอน


ภาพ/ข่าว  พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย

กรุงเทพฯ - ด้วยความห่วงใย ศาลเยาวชนฯ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 นางอโนชา ชีวิตโสภณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง นางอุไรรัตน์ น้อยสุวรรณ นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง และคณะผู้พิพากษาสมทบ (โครงการติดตามด้วยความห่วงใย โดย ดร.นิลุบล ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานโครงการฯ และโครงการติดตามด้วยใจ

โดยนางณัฐา อินทวงศ์ คณะทำงานและผู้ประสานงาน) เป็นตัวแทนมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนราธิวาส บ้านกรุณา บ้านมุทิตา บ้านอุเบกขา บ้านปรานี บ้านสิรินธร และบ้านกาญจนา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 ณ โถงกลาง ชั้น 2 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จตุจักร กรุงเทพฯ

อยุธยา - เร่งฉีดวัคซีนโควิด เข็มที่ 2 ให้บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า

วันที่ 28 พฤษภาคม 64 ที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชน ร่วมเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 รวมทั้ง 298 ราย ในภาคเช้า และในภาคบ่ายจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 152 นาย จะเข้ารับวัคซีนสำหรับเข็มที่ 1

สำหรับประชาชนกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 โรคเรื้อรัง จะเริ่มฉีดในวันที่ 7 มิย 64 กำหนดจะเริ่มฉีดวัคซีน (Astrazeneca) จำนวน 38,000 โดส ให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” และลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ฯแล้ว จำนวน 32,942 คนอย่างแน่นอน สำหรับส่วนเกินจากกลุ่มดังกล่าว จะพิจารณาจัดสรรให้กับกลุ่มองค์กรภาครัฐและภาคธุรกิจยุทธศาสตร์ ทั้งใน 16 อำเภอ เพื่อจะได้รับวัคซีนได้ครบตามเป้าหมาย พร้อมทั้งขอให้ทุกหน่วยเชิญชวนประชาชน ร่วมลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน โดยการสแกน QR Code “อยุธยาพร้อม”

นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวถึง ข้อห้ามสำหรับผู้ที่ไม่ควรรับวัคซีนคือ 1.ผู้ที่รับวัคซีนแล้วเกิดแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง ถึงขั้นช็อก แต่วัคซีนนี้เป็นวัคซีนใหม่ทุกคนจึงไม่อยู่ในข้อนี้ แต่ถ้าให้เข็มแรกแล้วแพ้รุนแรง เข็ม 2 ให้ไม่ได้แน่นอน ต้องเปลี่ยนชนิดวัคซีน รวมถึงผู้ที่รู้ว่าแพ้ส่วนประกอบในวัคซีน ก็ไม่สมควรให้ 2. ผู้ที่เจ็บป่วย มีไข้ หรือเป็นโรคปัจจุบันที่ต้องการการรักษา ผู้ป่วยวิกฤต ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะสุดท้ายของโรค และผู้ป่วยที่รักษา โดยเฉพาะนอนในโรงพยาบาล ก็ให้เลื่อนการฉีดไปก่อน จนกว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพคงที่และกลับบ้านแล้ว จะเห็นว่าจะมีข้อห้ามเด็ดขาดน้อยมาก ดังนั้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวและดูแลรักษาอยู่มีภาวะคงที่ ถึงจะกินยาประจำอยู่ ก็สามารถให้วัคซีนได้ เบาหวาน ความดัน ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ ถ้ารักษาและดูแลอยู่ตลอดอยู่แล้ว ยกเว้นเสียแต่ความดันที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือเบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้มีน้ำตาลสูงมาก ขนาดมีอาการที่ต้องรักษาในโรงพยาบาลก็ให้เลื่อนการฉีดไปก่อน


ภาพ/ข่าว  สุจินดา  อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

พิจิตร - นายก อบต.โพธิ์ประทับช้าง ปลุกพลังชาวบ้านฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันโควิด

วันที่ 31 พ.ค. 2564 นายปิติพล  ปานทิม  นายก อบต.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร และ เรืออากาศตรี บุญเกิด มีทวี  รองนายก อบต.โพธิ์ประทับช้าง รวมถึง นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร รองนายก อบจ.พิจิตร ได้ร่วมกันทำกิจกรรมในการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด โดยมีประชาชน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และ สมาชิก อบต. รวมเกือบ 100 คน ที่นำเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ใช้ฉีดพ่นไม้ผลหรือสวนส้มโอมาดัดแปลงเป็นเครื่องฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโวิด รวมถึง อบจ.พิจิตร ก็นำเครื่องฉีดพ่นที่เป็นนวัตกรรมมาร่วมดำเนินการในครั้งนี้ด้วย  

ซึ่งการรณรงค์ในครั้งนี้เนื่องจาก ต.โพธิ์ประทับช้าง เป็นพื้นที่ตั้งของวัดโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว อบต.โพธิ์ประทับช้างจึงได้ดำเนินการดังกล่าว สำหรับพื้นที่ ต.โพธิ์ประทับช้าง ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม และทำสวนปลูกส้มโอ โดยที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้ไม่เคยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเลยแม้แต่รายเดียว สาเหตุเนื่องจากชาวบ้านให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง จึงทำให้รอดพ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดดังกล่าว

สำหรับสถานการณ์ของจังหวัดพิจิตรประจำวันที่ 31 พ.ค. 64 วันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว ผู้ป่วยสะสมระลอก 3 เดือนเมษายน 64 จนถึงวันนี้มีผู้ป้วยสะสม 144 รายรักษาหายแล้ว 95 ราย  ผู้ป่วยยังรักษาตัวอยู่ 47 ราย มีเสียชีวิต 2 ราย 


ภา/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

สมุทรสงคราม - ผอ.ศรชล.ภาค 1/ผบ.ทรภ.1 ตรวจเยียมหน่วยงาน ศรชล.จังหวัด และหารือข้อราชการ

พล.ร.ท.โกวิท อินทร์พรหม ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 และผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 (ผอ.ศรชล.ภาค 1/ผบ.ทรภ.1) พร้อมคณะฯ เข้าเยี่ยมพบปะและหารือข้อราชการกับ นายชรัส บุญณสะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรสงคราม/ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม (ผอ.ศรชล.จว.สส./ผวจ.สส.) เพื่อหารือข้อราชการ พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ ศรชล.จว.สส.และศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสมุทรสงคราม (ศคท.จว.สส.) ศคท.จว.สส.เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับกำลังพล ตลอดจนให้แนวทางในการปฏิบัติราชการในด้านต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานและยกระดับการให้บริการในด้านต่าง ๆ กับประชาชนและพี่น้องชาวประมงในพื้นที่ ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว ปชส.ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

อุทัยธานี - หน่วยทหารยื่นมือช่วยชาวบ้าน แก้ปัญหาน้ำท่วม กำจัดผักตบชวาในลำคลอง เขาฆ้องชัย หมู่ 11 บ้านวังหน้าศาล ต.ประดูยืน อ.ลานสัก

ณ ลำคลองเขาฆ้องชัย บ้านวังหน้าศาล หมู่ 11 ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โดยมี นาวาเอกเอกปิ่นแก้ว สาระปัญญา รองผู้บังคับบัญชาหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 พร้อมหน่วยข้าราชการในพื้นที่ ที่ขาดไม่ได้ ก็คือความร่วมมือของชาวบ้าน ที่ร่วมใจกัน ดำเนินการแก้ไขปัญหาผักตบชวาบ้านวังหน้าศาล และขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และแนวทางการดำเนินการ บูรณาการ เพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวาให้เกิดความเรียบร้อย เป็นรูปธรรม เกิดความต่อเนื่องอย่างยั่งยืนให้ประชาชนในพื้นที่ ที่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำรักษาความสะอาดและจัดเก็บขยะมูลฝอยในพื้นที่สาธารณะ คูคลอง ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะปัญหาน้ำเน่าเสีย และสิ่งปฏิกูลจากการปล่อยลงแม่น้ำลำคลอง สารเคมี การสะสมของวัชพืชต่าง ๆ ส่งผล ให้คุณภาพน้ำต่ำลง คูคลอง ตื้นเขิน ไม่สามารถระบายน้ำได้ทันเมื่อฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมตามมา


ภาพ/ข่าว ภาวิณี ศรีอนันต์ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top