Thursday, 9 May 2024
BNK48

‘Jiwaru DAYS’ เพลงพิเศษเพื่อ BNK48 รุ่นแรก ความทรงจำสุดท้าย ก่อนแยกย้ายไปตามฝันตน

ดูเหมือน Jiwaru DAYS เพลงใหม่ของวง BNK48 ที่ถูกร้อยเพลงขึ้นมาเป็นเพลงของรุ่น 1 โดยเฉพาะนี้ กำลังส่งสัญญาณแห่งการจากลาระหว่าง ‘เหล่าโอตะ’ และ ‘พวกเธอ’ BNK48 1ST Generation 

Jiwaru DAYS เป็นบทเพลงที่สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และมิตรภาพที่ดีของ BNK48 รุ่นแรก และน่าจะเป็นอีกบทเพลงที่ชวนให้คิดถึงเรื่องราวในวันวาน จนเรียกน้ำตาจากเมมเบอร์และแฟนๆ ได้ทั่วทั้งงานที่จะจัดขึ้นแบบในช่วงปลายปีนี้ ก่อนที่ BNK รุ่นแรกจะแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง

คิดๆ แล้วก็ใจหาย!! เพราะนี่ คือ โมเมนต์ที่อาจจะทำให้แฟนคลับได้สัมผัส 2 ห้วงอารมณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้ง ‘ความสุข’ + ‘ความเศร้า’ ใต้วินาทีแห่งการจากลาที่คงไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้น แต่สุดท้ายมันก็ฉุดรั้งเอาไว้ไม่ได้ คงจะเหลือไว้แค่เพียงภาพความทรงจำของวันเก่าๆ ที่ผ่านมาร่วมกัน เมื่อนึกถึงทีไร ก็จะมีแต่ความสุข เหมือนกับความหมายของชื่อเพลง ‘Jiwaru Days’ 

โดยซิงเกิลพิเศษนี้ จะเน้นสื่อสารถึงเรื่องราวการจากลาของกลุ่มเพื่อนที่มีความผูกพันร่วมกัน เสมือนเป็นบทสรุปตลอด 6 ปีที่ผ่านมาของกลุ่มเด็กสาวผู้พกความฝันอันยิ่งใหญ่ในหัวใจ กอดคอกันก่อร่างสร้าง BNK48 ให้เป็นที่รู้จักอย่างทุกวันนี้ จนถึงปัจจุบันที่พวกเธอจะต้องแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางใหม่และรับบททดสอบอีกขั้นในหนทางข้างหน้า ซึ่งสไตล์ของเพลงจะมาในแนว J-pop จังหวะสนุกสนาน แบบฉบับ 48 Group เน้นเมโลดี้เพราะๆ น่ารักๆ...ถึงได้บอกไงว่า เป็นการจากลาที่จะเต็มไปด้วยความสุขผสมความเศร้าแบบไม่ต้องปฏิเสธ!! 

สำหรับวง BNK48 ซึ่งมีเพลงที่โด่งดังอย่างมากจาก Koisuru Fortune Cookies (คุ้กกี้เสี่ยงทาย) ภายใต้บริษัท independent Artist Management (iAM) เป็นวงไอดอลของประเทศไทย ที่มีแนวคิดเหมือนวงพี่ AKB 48 จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมี Concept ชวนฝันแก่แฟนๆ คือ ‘ไอดอลที่คุณสามารถไปพบได้ (Idols you can meet)’ 

คอนเซปต์นี้สำคัญมากนะคะ เพราะเป็นการเปลี่ยนความคิดแบบเก่าที่ปกติแฟนคลับจะสามารถพบเจอเกิร์ลกรุ๊ปทั่วไปได้เฉพาะตามงานคอนเสิร์ต หรือรายการโทรทัศน์เท่านั้น แต่วง BNK48 นั้นจะพยายามลดระยะห่างระหว่างสมาชิกและแฟนคลับ โดยการเพิ่มการปฏิสัมพันธ์ด้วยหลากหลายวิธี ได้แก่ การสร้างโรงละครประจำวงที่มีการแสดงทุกสัปดาห์ การจัดตั้งงานจับมือ การถ่ายทอดสดในไลฟ์สตูดิโอ (ตู้ปลา) ฯลฯ 

ส่วนที่มาของชื่อ BNK48 (เผื่อใครยังไม่ค่อยคุ้น) มาจาก BANGKOK หรือ กรุงเทพมหานคร และเลข ‘48’ มาจากนามสกุลของ โคตาโระ ชิบะ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เอเคเอส โดยคำว่า ‘ชิ’ และ ‘บะ’ เป็นคำพ้องเสียงของภาษาญี่ปุ่น สามารถแปลความหมายได้เป็นเลข ‘4’ และ ‘8’ ตามลำดับ

BNK 48 เป็นหนึ่งในวงน้องสาวที่มีอยู่ 12 วง โดยมีสถานะเป็นวงน้องสาวต่างประเทศลำดับที่ 2 ของ AKB 48 ซึ่งวงเหล่านี้มีรูปแบบการจัดการและลักษณะคล้ายๆ กันหลายประการ เช่น การก่อตั้งโรงละครประจำวง, การจัดกิจกรรมร่วมกันอย่างงานเลือกตั้งเซ็มบัตสึ และหากวงน้องสาวมีต้นกำเนิดนอกประเทศญี่ปุ่น ก็จะมีการออกซิงเกิลเพลงที่เป็นการแปลจากเพลงต้นฉบับของวงพี่สาวให้อยู่ในฉบับภาษาท้องถิ่น เป็นต้น รวมไปถึงระบบแลกเปลี่ยนสมาชิกที่เปิดโอกาสให้สมาชิกวงสามารถย้ายไปเป็นสมาชิกวงอื่นในเครือเดียวกันได้ นอกจากนี้ วง BNK 48 ยังมีวงน้องสาวเป็นของตัวเองในประเทศไทยคือ CGM 48 ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2562 โดยมีที่ตั้งและทำกิจกรรมอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก

ทั้งนี้ BNK48 ได้เริ่มเปิดรับสมัครสมาชิกครั้งแรกเมื่อกลางปี พ.ศ. 2559 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560 พร้อมกับซิงเกิลแรกในชื่อ อยากจะได้พบเธอ ด้วยสมาชิก 30 คน ทั้งนี้ สมาชิกของวงนั้นมีจำนวนไม่แน่นอน เนื่องจากมีการเปิดรับสมาชิกรุ่นใหม่และมีการจบการศึกษาอยู่ตลอดเวลา 

จากนั้นในช่วงแรกได้มีการประชาสัมพันธ์วงผ่านรายการโทรทัศน์ BNK48 Senpai และผลงานเพลงตามงาน Roadshow ต่างๆ จนมีชื่อเสียงขึ้นในปี พ.ศ. 2560 ในผลงานเพลง ‘คุกกี้เสี่ยงทาย’ รวมถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในไทยครั้งแรกอย่าง งานจับมือ, งานถ่ายรูปคู่ หรือ 2-shot, งานเลือกตั้งเซ็มบัตสึ และการแสดงในโรงละคร ทำให้วงเป็นที่กล่าวถึง และมีผลงานต่างๆ ตามมาทั้งตัวบุคคลและทีม ตั้งแต่งานเพลง การแสดงซีรีส์ และภาพยนตร์ ตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา จนเกิดปรากฏการณ์ ‘เหล่าโอตะ’ (แฟนคลับ) ที่ตามติดพวกเธอมากขึ้นๆ และกลายเป็นวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อไอดอลวงอื่นๆ ที่มีแฟนคลับน่ารักๆ จนศิลปิน ไอดอล มีพลังในการผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง จนถือเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ให้แก่วงการไอดอลไทยกันเลยทีเดียว 

สำหรับเมมเบอร์รุ่นที่ 1 วง BNK48 มีทั้งหมด 22 คน ได้แก่ เฌอปราง-เฌอปราง อารีย์กุล, โมบายล์-พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค, เนย-กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน, ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร, เจนนิษฐ์-เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ, มิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์, ตาหวาน-อิสราภา ธวัชภักดี, อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ, ปูเป้-จิรดาภา อินทจักร, จ๋า-ณปภัช วรพฤทธานนท์, ไข่มุก-วรัทยา ดีสมเลิศ, แก้ว-ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ, น้ำใส-พิชญาภา นาถา, ก่อน-วฑูศิริ ภูวปัญญาสิริ, จิ๊บ-สุชญา แสนโคต, มายด์-ปณิศา ศรีละเลิง, เคท-กรภัทร์ นิลประภา, มิโอริ-มิโอริ โอคุโบะ, ซัทจัง-สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์, เจน-กุลจิราณัฐ วรรักษา และเปี่ยม-รินรดา อินทร์ไธสง 

BNK48 1st Generation Dan D’1ion Concert ‘ความทรงจำ-ความผูกพัน’ ระหว่าง ‘BNK48 - โอตะ’

ปิดฉากลงไปแล้ว สำหรับ ‘BNK48 1st Generation Dan D’1ion Concert’ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ไบเทค บางนา ซึ่งถือว่าเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่พวกเธอ หรือ BNK48 รุ่นที่ 1 ได้แสดงร่วมกัน โดยในคอนเสิร์ตครั้งนี้เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพันที่สมาชิกในวงมีต่อแฟนคลับ (โอตะ) ทุกคน ตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ปีที่ผ่านมา

และถือเป็นเรื่องที่น่าใจหายมากๆ เพราะเดือนธันวาคมนี้จะเป็นเดือนสุดท้ายที่พวกเธอ (BNK48 รุ่นที่ 1) จะได้ทำงานร่วมกันในนาม BNK48 และศิลปินที่รักของชาวโอตะ และเป็นเดือนสุดท้ายที่จะสามารถเก็บเกี่ยวเรื่องราวความทรงจำที่ประทับใจตลอด 6 ปีไว้ในความทรงจำ ก่อนที่พวกเธอจะแยกย้ายไปเดินตามทางของตัวเอง ในเส้นทางใหม่ๆ ที่แต่ละคนเลือกเดิน

ขอบอกเลยว่าคอนเสิร์ต ‘BNK48 1st Generation Dan D’1ion Concert’ ครั้งสุดท้ายนี้อัดแน่นไปด้วยความรัก ความผูกพันธ์ของเหล่าสมาชิกในวง และเป็นคอนเสิร์ตที่ดึงอารมณ์พาให้แฟนคลับย้อนกลับไปยังวันวานเมื่อครั้งแรกที่ได้เจอกับเหล่าสาวๆ BNK48

เชื่อว่าหากใครได้เข้าไปร่วมในคอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมาจะต้องอิ่มเอมไปกับบรรยากาศที่สุดแสนจะประทับใจ ส่วนใครที่รับชมผ่าน AIS play ก็คงรู้สึกไม่น้อยไปกว่ากัน และที่พิเศษมากๆ เลยคือคอนเสิร์ตในครั้งนี้ได้หยิบยกเพลง ‘PARTY ga Hajimaru yo’ มาแสดงด้วย ที่บอกว่าพิเศษคือโดยปกติแล้วเพลงนี้จะนำมาแสดงเฉพาะในเธียเตอร์เท่านั้น ในฐานะแฟนคลับของ BNK48 ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนความรักของเหล่าโอตะได้อย่างสมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียว

และสิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ คำบอกเล่าของเฌอปราง กัปตันวง BNK48 ที่เธอได้กล่าวว่า “ครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่พวกเราทำ (เกือบ) ทุกอย่าง” เพียงแค่นี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่า พวกเธอตั้งใจจัดการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้มากๆ เพื่อให้โอตะที่รักของพวกเธอได้รับความสนุกและมีความทรงจำครั้งสุดท้ายที่ดีร่วมกัน

‘ปัญ BNK48’ สาวน้อยมากความสามารถ ทั้ง ‘เรียน-เต้น-แร็ป’ โอตะปลื้มทั้งประเทศ

เรียกว่ากลายเป็นอดีตสมาชิกของ BNK48 ไปซะแล้ว สำหรับสายน้อยมากความสามารถอย่าง ปัญ ปัญสิกรณ์ ติยะกร หรือที่เคยเรียกติดปากว่า ปัญ BNK48 ถึงแม้จะเป็นอดีตสมาชิก แต่ก็อยากนำเรื่องของสาวคนนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะเชื่อว่าน่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนเลย

สำหรับ ปัญ BNK48 นั้นเธอเป็นสมาชิกรุ่นที่ 1 ของ BNK48 และเป็นกัปตันทีมบีทรี (BIII) อีกด้วย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอได้ประกาศจบการศึกษาไปพร้อมๆ กับเพื่อนๆ อีก 17 คน ได้แก่ พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค (โมบายล์), วรัทยา ดีสมเลิศ (ไข่มุก), เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ (เจนนิษฐ์), สุชญา แสนโคต (จิ๊บ), วฑูศิริ ภูวปัญญาสิริ (ก่อน), พิชญาภา นาถา (น้ำใส), พัศชนันท์ เจียจิรโชติ (อร), ณปภัช วรพฤทธานนท์ (จ๋า), กุลจิราณัฐ วรรักษา (เจน), กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล (เนย), อิสราภา ธวัชภักดี (ตาหวาน), รินรดา อินทร์ไธสง (เปี่ยม), มิลิน ดอกเทียน (น้ำหนึ่ง), จิรดาภา อินทจักร (ปูเป้), กรภัทร์ นิลประภา (เคท), ปณิศา ศรีละเลิง (มายด์) และ ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ (แก้ว)

โดยปัญมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมเกิน 1 ล้านคน และได้รับขนานนามว่า ‘น้องหลาม’ เนื่องจากเวลาเธอยิ้มจะดูละม้ายคล้ายฉลากในอนิเมะ อีกทั้งเธอยังมีเสน่ห์ที่ทำให้เหล่าโอตะใจละลาย ใครๆ ก็ต่างบอกว่าเธอน่ารัก สดใส และเปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานด้านบวกอยู่เสมอ

หากใครเป็นโอตะหรือตามปัญมาตั้งแต่เดบิวต์ก็คงจะรับรู้ถึงตัวตนของปัญได้เป็นอย่างดี ตอนที่เธอมา Audition เป็นสมาชิกวง BNK48 นั้น เธอดูเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาแต่แท้จริงแล้วซุกซ่อนความสามารถไว้เหลือล้น ทั้งด้านการเรียน การร้อง และแร็ป อีกทั้งยังทำหน้าที่ในฐานเป็นสมาชิกของวง BNK48 ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

คราวนี้เรามารู้ประวัติคร่าวๆ ของปัญกันบ้างดีกว่า

​ปัญ จบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง เมื่ออายุครบ 14 ปี ได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมฟอร์ด โดยการสอบเทียบ GED 

เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกด้วยวัยเพียง 15 ปี ด้วยการแสดงหนังเรื่อง ‘เมย์ไหน.. ไฟแรงเฟร่อ’ จากค่าย GTH ที่ฉายในปี 2558 โดยในตอนนั้นได้รับบทเป็นนักแสดงสาว ม.2 ดาวรุ่งที่เป็นสมาชิกแก๊งเชียร์ลีดเดอร์ หลังจากปิดกองถ่ายก็ได้ไปออดิชั่นจนได้เป็นสมาชิกของ BNK48 รุ่นแรก 

ในวันที่ 24 ธันวาคม 2560 ในระหว่างงานคอนเสิร์ตได้มีการประกาศตั้งทีม BIII โดยในทีมประกอบด้วยสมาชิก 24 คน (ในปัจจุบัน มีการแบ่งเป็น 2 ทีม คือ ทีม BIII และทีม NV) ปัญก็ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมนี้ โดยความสามารถพิเศษของปัญคือ ด้านการเต้น ซึ่งเป็นการเต้นธรรมดา เต้นบัลเลต์ เต้น Hip-Hop โดยครูที่สอนเป็นคนเกาหลี ทำให้เต้นแนว K-Pop ได้ด้วย แถมยังสามารถร้องเพลงได้ทั้งไทย สากล และเกาหลี 

ปัญได้เปิดตัวในฐานะ Center ครั้งแรกในซิงเกิลที่ 5 ในชื่อเพลง ‘BNK Festival’ ในวันประกาศผลการเลือกตั้ง senbatsu general election ใน single ที่ 6 ซึ่งเป็นการจัดการเลือกตั้งครั้งแรกของ BNK48 เธอได้เสียงตอบรับด้วยคะแนนโหวตมากถึง 44,140 คะแนน ทำให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 9 กระทั่งได้เป็น senbatsu ใน single ที่ 6 ซึ่งใช้ชื่อว่า ‘Beginner’ 

ต่อมาเธอได้เข้าร่วม Project LYRA (ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อเป็น QRRA) ที่ทาง BNK48 ร่วมกับค่ายเพลงระดับโลกอย่าง Universal music แต่ปัญก็ได้ประกาศยุติบทบาทจากการเป็นสมาชิกในงาน ‘Lyra Exclusive Party - Galaxy แห่งความคิดถึง’ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565

ส่วนด้านผลงานการแสดงก็มีซีรีส์เรื่อง One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ ที่ออกอากาศผ่านทาง Line TV หลังจากนั้นเธอได้มีโอกาสร่วมงานพากย์เสียงภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดเป็นครั้งแรก โดยได้รับหน้าที่ให้พากย์เสียงตัวละครเอกหญิง ‘ชาร์ลี’ ที่รับบทโดย ‘เฮลีย์ สไตน์เฟลด์’

สำหรับผลงานส่งท้ายก่อนที่เธอจะยุติบทบาทจากการเป็นสมาชิก BNK48 เนื่องจากสิ้นสุดสัญญา คือ การได้แสดงภาพยนตร์ The Cheese Sister รวมถึงได้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ ชื่อ ‘ชีส’ เป็นเพลงจังหวะไม่ช้าไม่เร็วฟังสบาย ๆ นอกจากจะร้องเองแล้ว ยังเขียนเนื้อร้อง และทำดนตรีเองด้วย (เก่งสุดๆ) และถือเป็นครั้งแรกที่มีเพลงเดี่ยวออกมาให้ทุกคนได้ฟัง (เมื่อปล่อยออกมาแล้วทุกคนชอบ ก็ดีใจมากๆ)

‘ป๊อบ ปองกูล’ ทดลองใช้ ChatGPT ค้นหาชื่อของตน ดันพบข้อมูลว่า ตัวเองเป็นสมาชิกวงไอดอลหญิง BNK48

เพราะความอยากรู้อยากลองระบบ AI ของแอปพลิเคชั่น ChatGPT นักร้องชื่อดังอย่าง ป๊อบ ปองกูล เจ้าของเพลงสลักจิต จึงได้ทดลองค้นหาชื่อของตัวเอง แต่ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นบอกว่า ป๊อบเป็นหนึ่งในสมาชิกวงไอดอลหญิง BNK48

งานนี้คำตอบที่ได้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับไปไม่เป็น โดยนักร้องหนุ่มได้ออกมาโพสต์ภาพจากในแอปพลิเคชั่นพร้อมระบุข้อความบอกว่า 'เมื่อฉันลองหาชื่อฉัน ใน Chat GPT #วงในบอกมา รู้แล้วเหยียบให้มิด' ด้านแฟนๆ พอได้รู้คำตอบก็แห่เข้ามาคอมเมนต์แซว เช่น แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ เต้นคุกกี้เสี่ยงทายให้ดูหน่อยพี่ป๊อบBNK48

‘เฌอปราง’ ประกาศจัดคอนเสิร์ตจบการศึกษา BNK48 เผย บัตร VVIP ราคา 150,000 บาท โซเชียลคอมเมนต์สนั่น

(20 ก.ย. 66) กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังเพจ ‘BNK48’ โพสต์ภาพและรายละเอียด คอนเสิร์ตจบการศึกษาของ ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ หรือ ‘เฌอปราง’ หลังจากที่เฌอปรางได้ประกาศจบการศึกษาจาก BNK48 ภายในงาน ‘BNK48 Janken Tournament 2023’ ซึ่งเป็นอีเวนต์เป่ายิ้งฉุบค้นหาสมาชิก 16 คนที่จะได้เป็นเซ็มบัตสึเพลงใหม่ของ BNK48 จากสมาชิกทั้งหมดของ BNK48 และ CGM48 ทั้ง 74 คน

เฌอปรางจะมีงานสุดท้ายในฐานะเมมเบอร์ของวง BNK48 คือ จะมีคอนเสิร์ตจบการศึกษาวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่ Thunder Dome โดยทางเพจ โพสต์ข้อความระบุว่า…

“#BNK48_DepartCHER BNK 072 SHN 4812 – Cherprang BNK48’s Graduation Concert – DATE: 29 OCT 2023 TIME: 15:00 VENUE: Thunder Dome, Muang Thong Thani

บัตรราคา 150,000 / 6,500 / 4,800 / 3,800 / 3,200 / 3,000 / 2,800 / 2,200 / 2,000 / 1,800 / 1,200 / 720 THB

Ticket Sale: 7 OCT 2023 @ eventpop.me”

สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนคลับอย่างมากคือ การขายบัตร VVIP ราคา 150,000 บาท หลังจากที่เห็นราคาบัตรแล้ว หลายคนที่ไม่เข้าใจ ต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อไปดูรายละเอียด บัตรราคานี้ จะเปิดขายแค่ 2 ใบเท่านั้น โดย 1 ใบ มีสิทธิที่จะรวมกลุ่มกันได้ 15 คน

ผู้ที่ซื้อบัตร VVIP นี้ จะได้ถ่ายรูปกับ เฌอปราง ตัวต่อตัว 2 ช็อตอีกด้วย

โดยมีแฟนคลับมาอธิบายว่า บัตรราคา 150,000 บาท เมื่อหารกัน 15 คน จะตกคนละ 10,000 บาท ซึ่งมีแฟนคลับเข้ามาอธิบายสาเหตุการขายบัตรราคานี้ ดังนั้น บัตรราคา 150,000 บาท ที่ขายเพียงแค่ 2 ใบนั้น จึงเป็นบัตรที่ออกแบบมาเพื่อแฟนคลับของเฌอปรางเป็นหลักอยู่แล้ว

‘ฮูพ BNK48’ โดนจวกแรง เต้นในรพ. แฟนคลับงง ผิดตรงไหน เพราะเต้นในห้องพิเศษ

(9 มี.ค.67) ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย หรือ ‘ฮูพ สมาชิกรุ่นที่ 3 ของ BNK48’ กลายเป็นดราม่า หลังเจ้าตัวโพสต์คลิปวิดีโอเต้นเพลงใหม่ของหนุ่มธามไทขณะรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

คลิปวิดีโอของ ฮูพ กลายเป็นไวรัล มียอดเข้าชมนับล้านครั้ง เพราะความมีเสน่ห์เฉพาะตัวและความสวยเป๊ะแม้จะอยู่โรงพยาบาล

แต่ไม่วายกลับมีดราม่าจนได้ เมื่อชาวเน็ตส่วนหนึ่งมองว่า พฤติกรรมนี้อาจเป็นอันตรายเพราะ ฮูพ เต้นขณะที่ยังคงใส่สายน้ำเกลือ จะทำให้เลือดย้อนขึ้นรึเปล่า บางคนก็ตั้งคำถามว่าไม่รบกวนคนไข้คนอื่นเหรอ หรือ ทำไมเด็กรุ่นใหม่ต้องทำคอนเทนต์ตลอดเวลา

เป็นการจุดชนวนให้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่มองว่าก็ไม่เห็นเป็นปัญหาอะไรออกมาตอบโต้ บอกว่า ไม่รบกวนใครหรอก จากคลิปวิดีโอก็เห็นว่าอยู่ห้องพิเศษ ส่วนเรื่องอันตรายก็ไม่ต้องห่วงเพราะเขาใส่เครื่อง Infusion pump เรียบร้อย ที่เขาออกมาเต้นอาจจะเพราะว่าใกล้หายดีแล้วก็ได้

อย่างไรก็ตาม หากอยู่ในการดูแลของแพทย์ แล้วไม่รบกวนคนอื่น การเต้นในห้องพักก็อาจจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงขนาดที่จะต้องดราม่ากันใหญ่โต


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top