Tuesday, 22 April 2025
แก้112

‘ก้าวไกล’ ก้าวไม่หยุด เดินหน้าต่อแก้ 112 ทำตามนโยบายหาเสียงที่ให้ไว้ต่อประชาชน

(21 ต.ค. 65) นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่หลายพรรคการเมืองแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายที่พรรคก้าวไกลประกาศออกมาว่า อันที่จริงแล้วเรายื่นขอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับความผิดฐานหมิ่นประมาทที่รวมถึงมาตรา 112 ไปเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ท้ายที่สุดทางเจ้าหน้าที่ของสภายังไม่ได้นำเข้าสู่ระบบ ซึ่งเท่ากับว่าจะไม่สามารถบรรจุวาระได้ เราเสียดายโอกาสตรงนี้เป็นอย่างยิ่งเพราะคิดว่า หากมีการเข้ากระบวนการตามปกติ ก็จะนำไปสู่การพูดคุยกันในสภา ว่ากฎหมายนี้ควรจะต้องมีการแก้ไขหรือไม่ รวมไปถึงคนที่ไม่เห็นด้วยก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้เช่นกัน แต่นั้นก็คือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว แต่เราเชื่อว่าอีกไม่กี่เดือนที่เหลือ ก็คงไม่ทันที่จะบรรจุวาระแน่นอน 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่มีหลายพรรคแสดงความคิดเห็นออกมานั้น ตนมองว่ามันปนกันอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือ แต่ละพรรคค่อนข้างเห็นด้วยว่าสมควรที่จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ความจริงบางพรรคเสนอว่าเห็นควรที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ โดยสภาผู้แทนราษฎรโดยการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งหากกล่าวเช่นนี้ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องพิจารณาทุกหมวดตั้งแต่หมวดที่หนึ่ง หมวดที่สอง หรือหมวดอื่น ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ก็มีบางพรรคการเมืองให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้รวมถึงการไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

'ก้าวไกล' โดดเดี่ยว พรรคการเมืองแห่ประกาศไม่แก้ 112 จับตา 'เพื่อไทย' หนุนหรือค้าน?

จากกรณีพรรคก้าวไกล เปิดนโยบายหาเสียงเลือกตั้งชุดแรก โดยหนึ่งในนั้นคือนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นการเปิดหน้าชัดเจน และยังเป็นการโยนความกดดันให้กับพรรคพันธมิตรอย่างพรรคเพื่อไทยว่าจะตัดสินใจอย่างไร หากวันข้างหน้าต้องเจรจาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพื่อไทยจะสนับสนุนนโยบายนี้หรือไม่ เพราะหากเพื่อไทยยอมรับนโยบายนี้ก็เท่ากับสนับสนุนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่หากไม่สนับสนุน ก้าวไกลก็อาจไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตามจะมีวันนั้นหรือไม่ถึง เรามาสำรวจจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นๆต่อกฎหมายมาตราดังกล่าว ซึ่งชัดเจนว่าส่วนใหญ่ต่างประกาศไม่แก้ไขมาตรา 112

เริ่มที่ พรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้พูดในหลายครั้งว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจนคือ ปกป้องชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายและไม่มีความคิดเรื่องแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งไม่เข้าใจว่าคนที่เสนอแก้ไขเดือดร้อนอะไรกับมาตรา 112 พร้อมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่ากฎหมายมาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะทำผิดกฎหมาย จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมายให้สิ่งที่ตนจะทำเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะขัดขวางการแก้ไขถึงที่สุด รวมทั้งจะไม่ร่วมมือหรือร่วมทำงานกับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรืออีกกี่ครั้งก็ตาม

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำจุดยืนของพรรประชาธิปัตย์ว่า พรรคยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีประเทศใดในโลก ที่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ไม่ว่าจะปกครองในระบอบใด

ส่วนนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ตำหนิพรรคก้าวไกลว่า นโยบายหาเสียงไม่สร้างสรรค์ เป็นการสร้างความแตกแยก นอกจากนี้พรรคไทยภักดีได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต .เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนโยบายของพรรคก้าวไกล ว่าการเสนอนโยบายให้มีการแก้ไขกฎหมาย ม.112 และ ม.116 ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Top Talk ทางท็อปนิวส์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ว่า มาตรา 112 ต่างจากกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทประชาชนทั่วไปอย่างไร ถ้าเราไม่ทำผิดเราก็ไม่ถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งถามว่ากฎหมายในลักษณะเดียวกับ 112 สหรัฐอเมริกามีหรือไม่ ทำไมไม่ไปเลิกที่สรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศแม่บท ทำไมต้องเลิกที่ประเทศไทย

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จุดยืนของพรรคพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ไปยุ่งอะไรกับมาตรา 112 เพราะตั้งแต่ตนเกิดมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่เห็นคนทั่วไปมีปัญหา อีกทั้งปัจจุบันขนาดบุคคลธรรมดายังมีคดีหมิ่นประมาทอยู่ในศาลตั้งหลายร้อยหลายพันคดี มาตรา 112 ไม่ใช่มาตราที่หาเรื่องใคร แต่ใช้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก หากมีใครอุตริไปหาเรื่องเราจะต้องมีอุปกรณ์หรือกฎหมายปกป้องสถาบันได้ ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดก็ต้องมีมาตรา 112 รอให้ดินกลบหน้า ตนไม่ยอมแก้มาตรา 112 แน่นอน

ขณะที่นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า จุดยืนของพรรคเราชัดเจนคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก็เป็นมาแบบนี้โดยตลอด และไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 เพราะสถาบันไม่ได้ทำอะไรให้ และตนก็ไม่เข้าใจพรรคก้าวไกลว่าทำไมจึงเสนอนโยบายแบบนั้น และหากพรรคก้าวไกลเสนอเรื่องดังกล่าวเข้ามาในสภาฯ ทางพรรคพลังท้องถิ่นไทก็จะคัดค้านอย่างแน่นอน

ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค แสดงความเห็นเรื่องนี้โดยไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลคิดอะไร แต่ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้าชัดเจนว่าจะไม่นำเรื่องนี้ และเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันมาเป็นนโยบายหาเสียง ตอนนี้ใกล้จะเลือกตั้ง ตนไม่อยากให้หยิบยกเรื่องมาตรา 112 มาเป็นประเด็น อย่าทำทุกอย่างไปสู่ความขัดแย้ง

ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรครวมพลัง หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทยเดิม เคยกล่าวถึงจุดยืนต่อมาตรา 112 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ว่า เนื้อหาสาระของกฎหมายคือการห้ามไม่ให้ไปดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แล้วที่ต้องมีกฎหมายนี้เพราะเป็นการถวายพระเกียรติยศ ถวายความเคารพสักการะในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประมุขของประเทศ เหมือนกับประชาชนในประเทศอื่นทั้งหลายที่เขาให้ความเคารพยกย่องประมุขของประเทศเขา ตนยืนอยู่ข้างกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขมาตร112 เพราะตนเองเห็นว่าที่บัญญัติไว้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้วหรับประเทศไทย

ส่วนท่าทีของพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ขอวิจารณ์นโยบายแก้มาตรา112ของพรรคก้าวไกล อยู่ที่ประชาชนจะพิจารณาแล้วตัดสินใจ โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชน

'ส.ส.อมรัตน์-ก้าวไกล' ง้างปากเพื่อไทย เผยจุดยืน 112 ไม่ต้องขนาดเป็นนโยบาย ขอแค่กล้าพูดถึงบ้างก็ยังดี

(21 พ.ย. 65) จากกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แสดงจุดยืนในนามพรรคเพื่อไทย ไม่มีนโยบาย เกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ล่าสุด นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า...

‘พิธา’ ให้สัมภาษณ์ CNN อ้างต้องแก้ 112  เพื่อรักษาสถาบันฯ ตามมาตรฐานสากล

‘พิธา’ ให้สัมภาษณ์ CNN เชื่อมั่นรัฐบาลประชาธิปไตยจัดตั้งได้ ย้ำ การแก้ไขมาตรา 112 เพื่อรักษาสถาบันให้คงอยู่ในสังคมไทย แต่เป็นไปตามมาตรฐานสากล

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์คลิปสัมภาษณ์สด กับ Christiane Amanpour ผู้สื่อข่าวและหัวหน้าข่าวต่างประเทศ สำนักข่าว CNN ในอินสตาแกรม pita.ig ความยาว 10 นาที ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ นอกจากการกล่าวถึงการออกชุมนุมประท้วงของประชาชน หลังยังไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เป็นการออกมาแสดงจุดยืนที่ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตยแล้ว ยังเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจัดตั้งได้ ส่วนประเด็นแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งกลายเป็นเงื่อนไขที่หลายพรรคการเมืองไม่ต้องการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล และอาจทำให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน หากไม่ลดเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล โดยนายพิธา ยืนยัน การแก้ไขมาตรา 112 เพราะอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่สังคมไทย เป็นไปตามมาตรฐานสากล 

คลิปสัมภาษณ์ :
https://www.instagram.com/reel/CvIV52_MtFr/?igshid=MzRlODBiNWFlZA== 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top