แค่เห็นบริบทแรกของการเมืองแห่งเมืองปทุมธานี ก็ดูท่าจะสนุกแล้ว หลังจากเดิมสนามแห่งนี้พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าอยู่ แต่อาจจะมีพรรคโน้นพรรคนี้แซมเข้ามาบ้าง พรรคละคนอะไรประมาณนี้!!
หลังจาก “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้มีวันนี้เพราะพี่ให้ ได้รับเลือกเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี 'การใหญ่ก็แว่บขึ้นมา' เพราะลูกชายก็ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีนครรังสิตด้วยอีกคน
การใหญ่ที่ว่าคือสนามเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยต้องยึดทั้งจังหวัด
บิ๊กแจ๊สขอจัดทีมเอง และเลือกคนของตนเองลงสมัครเป็นส่วนใหญ่ นั่นจึงทำให้ ส.ส.เก่าบางคนก็ไม่ได้รับการพิจารณาส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ทัพจึงเริ่มแตก โดยมี “เกียรติศักดิ์ ส่องแสง” อดีต ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนแรกๆ ที่เดินออกมาจากทีมบิ๊กแจ๊ส
“ผมตัดสินใจแล้วครับ
ยอมตายในดาบหน้า
แพ้เท่ากับศูนย์ เสมอได้กำไร
ชนะคือกำไรมหาศาล
ไม่มีอะไรจะต้องเสียไปมากกว่านี้แล้วครับ”
“ผมขอเดินทางไปกับพรรคที่ให้เกียรติผม ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้คิดถึงเขาเลย ผมขอขอบคุณ พรรคที่ให้เกียรติผม (พปชร.) แต่บางคนในพรรคที่ผมอยากไปอาศัยชายคาด้วย ไม่ให้ราคากันบ้างเลย
“ผมขอพิสูจน์ครับ ผมขอน้อมรับครับ ผมขอเกาะไปกับขบวนตู้ท้ายนี้แล้วครับ ถึงจะเปลี่ยนผู้โดยสารคนสุดท้ายให้ใหม่ ผมมิอาจรอได้จริงๆ”
กล่าวถึงเกียรติศักดิ์ ส่องแสง สมัยอยู่ประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็น ส.ส.ที่ขยันลงพื้นที่ต่อเนื่อง แม้จะเป็นคนต่างถิ่น แต่ก็แจ้งเกิดในสนามยากได้ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน การเมืองเปลี่ยน เกียรติศักดิ์หันหัวเรือไปยังพรรคเพื่อไทยกับกระแสแลนด์สไลด์ แต่เมื่อเข้าไปแล้วเจอตอ ก็ต้องถอยออกมาดีกว่าให้เรืออับปาง หรือเดินออกมหาสมุทรแล้วเจอหินโสโครก ที่ไม่อาจรู้อนาคตได้ พายุใหญ่ก่อตัวอยู่กลางมหาสมุทรใหญ่ด้วย
พลันที่ เกียรติศักดิ์ เดินออกจากเพื่อไทย ฟาก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็อ้าแขนรับเข้าสู่อ้อมอกอันอบอุ่น ในสนามเลือกตั้ง “แพ้-ชนะ” ว่ากันในอีก 7 เดือนข้างหน้า
เลือกตั้งครั้งหน้าปทุมธานี จึงเป็นอีกสนามเลือกตั้งที่น่าจะฟาดฟันกันดุเดือด ไม่ว่าจะเป็น ทีมก้อย พรพิมล ธรรมสาร ที่ถีบตัวออกจากเพื่อไทยอีกคน และมีคนพร้อมจะลุยสู้ศึก เปิดหน้าลุยกันอยู่แล้ว ย่านลาดสวาย ลำลูกกา ก็มี “โอม-จิรชาติ” เจ้าของแนวคิดลาดสวายโมเดล ช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ก็พร้อมขึ้นเวทีตะบันหน้ากับทุกพรรค แม้คราวที่แล้วโอมจะลงสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐและก้าวไม่ถึงฝัน แต่ประสบการณ์และความขยันลงพื้นที่คลุกคลีชุมชน ก็น่าจะเรียกคะแนนได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมในนามพรรคสร้างอนาคตไทย เรียกว่าเป็นอีกเขตพื้นที่สุดท้าทายเพื่อไทยไม่น้อยกับฝันยึดจังหวัดของบิ๊กแจ๊ส
ยังไม่พูดถึงเขตอื่นที่พรรคภูมิใจไทยก็จ่อจ้องเข้ามาเบียดแทรกอยู่เหมือนกัน อย่าลืมว่าสนามเล็กอย่างคลองหลวง เด็กบิ๊กแจ๊สก็แพ้ให้กับ “เอกพจน์ ปานแย้ม” นักร้องลูกทุ่งดังในอดีตมาแล้วกับตำแหน่งนายกเทศมนตรีคลองหลวง เพราะดีกรีอดีต ส.ส.ของเอกพจน์ก็ยังมีอยู่
ก่อนหน้านี้ เมื่อเกียรติศักดิ์ เข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยใหม่ ๆ ก็เจอแรงต้านจากเจ้าของพื้นที่เดิมตั้งแต่ก้าวแรกแล้ว
ด้าน นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวนายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีตส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ ขนทีมงานร่วม 80 ชีวิต มาสมัครเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกมองว่าอาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า เรื่องนี้ทำให้พี่น้องประชาชนจังหวัดปทุมธานี สับสน เดิมทีนายเกียรติศักดิ์ เคยเป็นส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ เคยเคลื่อนไหวสมัยการชุมนุมกลุ่มกปปส. เคยขึ้นเวทีด่า นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเสียหาย ทำให้ต่อมาเกิดการรัฐประหารจากพล.อ.ประยุทธ์ และชาวบ้านเองก็ไม่ยอมรับ คนที่สนับสนุนให้เกิดการรัฐประหาร ไม่รู้ว่าทาง ผู้ใหญ่ในพรรคได้ทราบประเด็นตรงนี้หรือไม่ ในเวลาต่อมานายเกียรติศักดิ์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากชาวบ้าน ทราบมาว่า การเดินทางมาสมัครของนายเกียรติศักดิ์ ได้รับการทาบทามจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายอบจ.ปทุมธานี
นายชัยยันต์ กล่าวว่า กรณีนี้เหมือนเป็นการบีบตน พยายามทำให้เห็นว่า มีความขัดแย้งกับพรรค เป็นพวกงูเห่า สุดท้ายทนไม่ได้จึงต้องหนีไป ทั้งที่ยังไม่มีความคิดจะย้ายพรรค ยังรักอุดมการณ์พรรคเพื่อไทย ยังยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่เอาลุงตู่ อยากให้ทางพรรคเข้ามาจัดการ แก้ปัญหา เพราะชาวบ้านเองคงไม่ยอมรับแน่ ในการนำคนที่เคยสนับสนุนรัฐประหาร ขึ้นเวทีโจมตีนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาอยู่กับพรรค รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้พรรคการเมืองอื่นเข้ามาแทรกแซงได้อีกด้วย