Monday, 19 May 2025
เพื่อไทย

'ก้าวไกล' สะอึก!! ถูกปาดหน้าคะแนนนิยมสมรสเท่าเทียม หลัง ‘โพล’ เช็กเสียงสังคม ‘เพื่อไทย’ ผู้ผลักดันเป็นรูปธรรม

(13 มิ.ย.67) ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,100 คน ในช่วงวันที่ 3-6 มิ.ย.67 ถึงกรณีสมรสเท่าเทียม โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ผลักดัน ทั้งนี้การสำรวจจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศพบว่าสังคมไทยให้การยอมรับความหลากหลายทางเพศ และมีความเห็นด้วย กับการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมของพรรคเพื่อไทย และคู่รักหลากหลายทางเพศควรได้รับสิทธิตามกฎหมายเช่นเดียวกับสิทธิที่คู่สมรสชายหญิง

โดยการสำรวจนั้นได้ถามถึงว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการผลักดันกฎหมายรับรองการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของพรรคเพื่อไทย โดยผลสำรวจ พบว่า เห็นด้วย 82.5% ไม่แน่ใจ 8.9% และ ไม่เห็นด้วย 8.5%

นอกจากนั้นยังได้สำรวจต่อว่ายอมรับได้หรือไม่หากมีเพื่อนร่วมงานเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) พบว่า ยอมรับได้ 91.4% และไม่สามารถยอมรับได้ 8.6% พร้อมทั้งถามต่อว่า หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) พบว่า ยอมรับได้ 85.9% ไม่สามารถยอมรับได้ 7.9% และยังไม่แน่ใจ 6.2%

พร้อมทั้งถามถึงกรณีที่คู่รักหลากหลายทางเพศควรได้รับสิทธิตามกฎหมายเช่นเดียวกับสิทธิที่คู่สมรสชายหญิงได้รับหรือไม่ พบว่า ควรได้รับสิทธิทุกอย่างเหมือนกัน 56.2% ควรได้รับสิทธิบางอย่าง 38.4% และ ไม่ควรได้รับสิทธิใด ๆ 5.5%

'ภูมิธรรม' ตอกกลับ 'สุดารัตน์' ปูดแก้ รธน.ไม่มีปาร์ตี้ลิสต์ สวน!! ไปฟังใครมา วอน!! สื่ออย่าเต้าข่าว ควรให้ค่าความจริง

(25 มิ.ย. 67) นายภูมิธรรม เวชชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากรรระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ออกมาเปิดเผยว่ามีข่าวจากคนในพรรคเพื่อไทย จะการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะให้ไม่มี สส.แบบบัญชีรายชื่อ ว่า หากตนเองได้รับผิดชอบเป็นเรื่องประธาน คณะกรรมาธิการการประชามติ 

ตนเองพูดหลายครั้งว่าการทำประชามติในครั้งนี้ ก็เพื่อหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อจำกัด ซึ่งหากแก้ไขต้องแก้ไขให้ได้ร้อยละ 20 ของฝ่ายค้านและร้อยละ 20 ของวุฒิสภา แล้วจะมาบอกว่าเราจะแก้เพื่อทำร้ายพรรคก้าวไกลนั้น แล้วคะแนนร้อยละ 20 ของพรรคก้าวไกลมาจากไหน ซึ่งรัฐธรรมนูญก็ตกแน่นอน นั่นหมายความว่าไม่มีมูลความจริง และตนเองพูดมาตลอดว่าต้องทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้นได้

“ที่คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ฟังมาจากพวกจริง ๆ หรือฝันไป ผมสงสัย” 

นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า ขออย่าไปทำข่าวที่ไม่มีพื้นฐานของความจริง พร้อมถามกลับสื่อมวลชน ทำข่าวที่ไม่เป็นความจริง คืออะไร ข่าวเต้า หรือเต้าข่าว อย่าไปทำเลย ทำงานสร้างพรรคให้แข็งแรงและเป็นกำลังสร้างประชาธิปไตยให้ได้ หากทำแบบนี้จะเป็นปัญหากับตัวเอง

‘เพื่อไทย’ เฮ!! ทวงเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี คืนได้สำเร็จ ตอกย้ำมนต์ขลัง ’ทักษิณ‘ ไม่เสื่อม แม้คู่แข่งไม่ธรรมดา

(1 ก.ค. 67) ที่ จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ในนามของพรรค พท. ชนะการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ. ว่า ถือโอกาสนี้ขอบคุณประชาชนชาวปทุมธานีทุกคนที่ยังให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครของพรรค พท. ซึ่งจากการนับคะแนนไม่เป็นทางการ ผลปรากฏว่านายชาญชนะการเลือกตั้ง 

“ถือเป็นการหักล้างคำสบประมาทว่ากระแสของพรรคเพื่อไทยยังครองใจประชาชน ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่สมศักดิ์ศรี และผลออกมาก็แสดงว่าพี่น้องทั้งจังหวัดยังให้ความชื่นชอบพรรคเพื่อไทยอยู่” นายประเสริฐ กล่าว

เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่เสื่อมมนต์ขลังใช่หรือไม่ นายประเสริฐ ตอบทันทีว่า “ไม่เสื่อมครับ ไม่เสื่อม นี่เห็นได้ชัดเลยว่า แม้เราจะต้องทำตามนโยบายหลายอย่าง แต่เราก็สามารถคว้าชัยมาได้” 

เมื่อถามว่า การได้ชัยชนะในพื้นที่ปริมณฑล จะเป็นการล้างภาพที่พรรค พท. เคยแพ้การเลือกตั้งในพื้นที่ปริมณฑลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จ.ปทุมธานีเป็นพื้นที่สำคัญ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ 

เมื่อถามว่า มองว่าจะเป็นโดมิโนให้พรรคพท. คว้าชัยในปริมณฑลอื่นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เราต้องทำการเมืองอย่างต่อเนื่อง และชัยชนะครั้งนี้ทำให้เราต้องทำงานหนัก 

เมื่อถามย้ำว่า การชนะแค่คะแนนไม่ถึงหลักพันต้องทำการบ้านหนักขึ้นใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ใช่ เพราะคู่ต่อสู้ไม่ธรรมดา ซึ่งการชนะเขตปริมณฑล และการที่จะมีการเลือกตั้งนายกอบจ.ในต้นปีหน้า พรรคคงต้องปรับกระบวนการยุทธศาสตร์เพื่อการต่อสู้ในครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า ที่จ.ปทุมธานีสะท้อนภาพบ้านใหญ่ร่วมแรงกัน จังหวัดอื่นจะมีการรวมบ้านใหญ่เพื่อมาชูพรรค พท. หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่าไปรวบรวมอะไร แต่ตนคิดว่านี่คือเสียงของประชาชนที่ยังไว้ใจพรรค พท. แล้วเชื่อว่ากระแสเหล่านี้ยังมีอยู่ และจะสามารถทำให้พรรค พท.คว้าชัยชนะได้

เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ยอมรับแล้วใช่หรือไม่ว่า จ.ปทุมธานียังเป็นหัวใจของคนเสื้อแดง นายประเสริฐ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งชี้เช่นนั้น และขอรอให้การเลือกตั้งที่เป็นทางการก่อน

'สส.เพื่อไทย-ปทุมธานี' ลั่น!! ถูกกล่าวหารีดส่วยรถบรรทุก แจง!! ปชช. เดือดร้อนจากการบรรทุกดิน จึงลงไปตรวจสอบ

(9 ก.ค.67) นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.เพื่อไทย ปทุมธานี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่มีการแชร์คลิปสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตน ในประเด็นส่วนรถบรรทุก โดยระบุว่า…

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปที่มีเนื้อหาไม่ครบถ้วนทั้งเหตุการณ์ จงใจสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผม 

1.เหตุการณ์ในคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลา 23:47 น. วันที่ 11 มีนาคม 2567 

2.ก่อนหน้านี้ทางผู้ใหญ่บ้าน ทางเทศบาล และผม ในฐานะ สส.ปทุมธานี ได้รับการร้องเรียนทางวาจา และเป็นลายลักษณ์อักษรจากประชาชนในพื้นที่ ประมาณ 30 ราย ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการบรรทุกดิน ทั้งผลกระทบจากฝุ่นละออง เสียงดังรบกวน และแรงสั่นสะเทือน จนทำให้บ้านเรือนประชาชนมีรอยแตกร้าว ชำรุดเสียหาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจ ไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ 

3.ผมในฐานะตัวแทนพี่น้องประชาชนชาว จ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งโทรศัพท์สอบถามข้อมูลไปยังนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งเป็นบิดาว่าพื้นที่คลองหก ได้มีการขออนุญาตให้มีการบรรทุกดินหรือไม่ ซึ่งพบว่า ‘มีการขออนุญาตบรรทุกดิน’ แต่เป็นการกระทำการในยามวิกาล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน อาจเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้

4.ต่อมาในวันที่ 12 มีนาคม 2567 กลุ่มคนดังกล่าวหยุดดำเนินการ พร้อมขนย้ายอุปกรณ์ออกจากพื้นที่ทั้งหมด 

5.คลิปที่มีการเผยแพร่นั้น ‘ถูกนำเสนอแค่บางช่วงบางตอน’ ในแคปชัน ยังมีการตั้งคำถามเชิงกล่าวหาว่า มีการรีดไถเงินหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง คลิปดังกล่าวจงใจบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม

หากไม่ยุติการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จดังกล่าว ผมจะขอใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมาย และขอเรียกร้องให้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลนี้ หยุดการกระทำดังกล่าวด้วยครับ 🙏

'เฉลิม' ท้า!! ‘เพื่อไทย’ ขับพ้นพรรคตามระเบียบ หลัง 'อิ๊งค์-เศรษฐา' ไม่ปลื้ม ‘วัน’ โผล่เชียร์ 'บิ๊กแจ๊ส'

(10 ก.ค. 67) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีที่มีภาพไปร่วมติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ที่บ้านพักของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทราบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แสดงความไม่พอใจนายวันในเรื่องนี้อย่างรุนแรง ถึงขั้นระบุว่าจะต้องหยุดทำงาน นายวันเลยทำหนังสือลาออกเองเลย

“เมื่อหนุ่ม (นายวัน) ลาออกแล้ว ผมจะอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อได้อย่างไร ก็เลยขอให้พรรคขับผมออกจากพรรคตามระเบียบพรรคการเมือง เพื่อจะได้ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมือง 2-3 พรรคติดต่อเข้ามาแล้ว ยืนยันว่าผมตกได้ แต่ผมต่ำไม่ได้“ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

‘อุ๊งอิ๊ง’ ใจถึง!! ดีด ‘เฉลิม’ ออกกลุ่มไลน์พรรค ขจัดความอึดอัดใจสมาชิก ส่วนจะต้องขับใครออกจากพรรคหรือไม่? ยืนยัน!! ไม่มีนโยบายนี้

(25 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กทม. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีดีด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกจากกลุ่มไลน์ของพรรคเพื่อไทย ภายหลัง ร.ต.อ.เฉลิม เปิดบ้านริมคลอง แถลงข่าวท้าให้พรรคเพื่อไทยขับออกจากพรรค เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า เป็นเรื่องจริง เพราะไลน์กลุ่มมีไว้สื่อสารเรื่องต่าง ๆ กับสมาชิกพรรคให้รับรู้รับทราบ จากที่ตนเห็นข่าวเมื่อวานแล้ว สิ่งแรกที่รู้สึกคืออยากให้คนในพรรค หรือคนที่อยู่ในกลุ่มไลน์นี้ ไม่อยากให้เกิดความบั่นทอน ตนก็ไม่อยากให้มีประเด็น และทุกคนรู้สึกกังวลไปด้วยว่าข่าวเป็นแบบนี้แล้วในพรรค และในกรุ๊ปไลน์นี้จะคุยกันอย่างไร

“ก่อนหน้านี้ คุณเฉลิม ก็ไลน์มาเรื่องว่าจะย้ายพรรค ซึ่งข้อความต่อ ๆ ไปทุกคนก็เริ่มอึดอัดใจ ซึ่งตนคิดว่าตรงนี้ถ้าตนนำไปปรึกษาใครว่าเอาออกดีไหม ทุกคนก็จะมีความเกรงใจกันเกิดขึ้น ซึ่งตนคิดว่ากรุ๊ปไลน์นี้ต้องเป็นกรุ๊ปของการคุยเรื่องการทำงาน เป็นกรุ๊ปของการนัดแนะ สส.ให้ทราบข้อมูลตรงกัน จึงมีการมูฟ คุณเฉลิม ออกไปดีกว่า ก็แค่นั้น เราก็บอกตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วว่าเราไม่อยากมีดรามามากขึ้น จริง ๆ ก็ไม่ทราบว่าการมูฟ คุณเฉลิม ออกจากกลุ่มไลน์จะเป็นข่าว แค่คิดว่าไม่อยากให้ในกลุ่มอึดอัดใจมากกว่า อันนี้คือความตั้งใจ เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นข่าวก็พร้อมจะอธิบายว่าเราต้องการจบจริง ๆ” นางสาวแพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม ก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจดีดออกจากไลน์ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้ปรึกษาใครก่อน เพราะคิดแล้วว่าก็ต้องทำงานต่อไป นั่นคือสิ่งสำคัญ

เมื่อถามว่ามองอย่างไรกรณี ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาแถลงข่าวท้าให้ขับออกจากพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของท่าน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น ตนพร้อมเสมอที่จะพูดคุย แต่ต้องมาคุยที่พรรคเพื่อไทย และการพูดคุยก็จะต้องมีเลขาธิการพรรค และผอ.พรรค หรือมีคนอื่นอยู่ด้วย เพื่อให้เป็นทางการ เพราะเรื่องของพรรคไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะคุยกันเรื่องนี้ก็อยากให้มาคุยกันที่พรรค

เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะขับ ร.ต.อ.เฉลิม ตามที่ร้องขอหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เราจะมูฟออกอย่างเดียว ไม่มีนโยบายขับออกจากพรรค

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวัน และ ร.ต.อ.เฉลิม ไปสนับสนุน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในวันนับคะแนนผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าตนไม่ทราบเลยว่า ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไปด้วย และทั้งหมดนี้ตนก็ไม่เคยไล่ และข้อความก็ไม่เคยพูดสักคำว่าจะให้ ร.ต.อ.เฉลิม และนายวันออกจากพรรคเพื่อไทย และก็ไม่เคยแสดงเจตนาเช่นนั้นด้วย จึงอยากจะชี้แจงให้ชัดเจนตรงนี้

“แต่ว่าทุกคนโตแล้วก็ตัดสินใจเองได้หมดว่าจะทำอย่างไรกับการแพลนชีวิตไปข้างหน้า ก็เคารพเสมอ ก็ขออวยพรให้โชคดีให้ประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้น ขอให้ไม่มีเรื่องนี้ต่อแล้ว ขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้แล้ว ให้ทุกคนทำงานต่อ สำหรับฝั่งนี้ไม่มีดราม่าอะไรทั้งนั้น และขอให้เรื่องนี้จบ” นางสาวแพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่านอกจากเรื่องนี้แล้วมีเรื่องอื่นสะสมอีกหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ไม่มี ไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะขอดีเบตกับคุณพ่อ ก็ให้ไปถามคุณพ่อละกัน ตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่าแม้พรรคเพื่อไทยไม่ขับออก แต่บทบาทในสภาอาจจะเปลี่ยนไป อาจจะอภิปรายมาทางฝั่งพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า นั่นก็เป็นเรื่องที่พรรคต้องจัดการ และรับมือไปตามเรื่องนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 26 ก.ค.เป็นวันเกิดของคุณพ่อ จะเปิดบ้านจันทร์ส่องหล้าให้คนสนิทเข้าไปอวยพรหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ช่วงเช้าจะมีการทำบุญภายในครอบครัว ตอนเที่ยงคิดว่าจะมีคนสนิทของคุณพ่อมาทานข้าวด้วยกันบ้าง มีคนใกล้ชิด หรือนักการเมืองเข้าไปอวยพรบ้าง ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย คุณพ่อไม่ได้ทำบุญแบบนี้มานานแล้ว

‘สุทิน’ การันตี ‘ชัยเกษม’ สุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีปัญหา ความรู้ความสามารถประสบการณ์ไม่ได้เป็นรองใคร

(15 ส.ค. 67) ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและรักษาการรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม สส. พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนมองว่าแทรกแซงจากบุคคลภายนอก ว่า เขารู้จักกันก็เรียกไปปรึกษาหารือเป็นธรรมดา ไม่มีอะไรเป็นทางการ ปรึกษาหารือธรรมดา

ต่อข้อคำถามว่า ‘ห่วงว่าจะมีคนยื่นเอาผิดภายหลังหรือไม่ กรณีคนนอกเข้ามาแทรกแซงพรรค?’ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่น่ามีอะไรถึงขั้นนั้น เพราะสถานการณ์เป็นแบบนี้ คนรู้จักกัน ต้องหารือกัน ซึ่งการหารือดังกล่าว ไม่ใช่การเคาะชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ให้เสนอชื่อโหวตเป็นนายกฯ ทั้งนี้ชื่อดังกล่าวเป็นการคาดหมายกันเท่านั้น เพราะการเสนอชื่อต้องเป็นมติพรรคที่ต้องออกมาอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามถึง ‘ความพร้อมของนายชัยเกษมต่อการรับตำแหน่งนายกฯ เพื่อบริหารประเทศ’ นายสุทิน กล่าวว่า ดูแล้วล่าสุดนายชัยเกษมสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีปัญหา และโดยความรู้ความสามารถประสบการณ์ไม่ได้เป็นรองใคร ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อนายชัยเกษมต่อสภาฯ มั่นใจว่า จะได้รับเสียงโหวตเพราะพรรคเห็นด้วย แต่หากที่ประชุมมีมติไม่ส่งชื่อนายชัยเกษมแสดงว่าพรรควิเคราะห์แล้วว่าไม่ได้รับการยอมรับ 

“เราเป็นพรรคเดียวกันและทำงานต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาต่อความเชื่อมั่น อีกทั้งยังทำงานเป็นทีมและมีทีมที่ดีจึงไปต่อไป ทั้งนี้ผมเชื่อว่าหากสส. และสภาฯ ยอมรับก็ขายได้ ส่วนประชาชนจะยอมรับหรือไม่ ที่ผ่านมานายชัยเกษมเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตั้งแต่ต้น ถือว่าผ่านการเสนอตัวและพิจารณาจากประชาชนมาแล้ว” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามถึง ‘ปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีหลังจากนี้’ นายสุทิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องรอหลังจากได้ตัวนายกฯ แล้ว

สุดท้ายเมื่อถามย้ำว่านายสุทิน ‘ยังดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหมต่อหรือไม่’ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่แน่ เรากำหนดตัวเองไม่ได้ ไม่รู้จะอยู่ที่ไหนอย่างไร เมื่อถามว่าเหนื่อยหรือยังกับตำแหน่งนี้ นายสุทิน กล่าวว่า “ยังฟิตอยู่ อยู่ที่โอกาส” 

ย้อนคำ ‘ชัยเกษม’ ติด 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และความรู้สึกหากได้นั่งเก้าอี้ ‘นายกรัฐมนตรี’

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปมเสนอชื่อ ‘พิชิต ชื่นบาน’ ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าขาดคุณสมบัติในความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ต่อมา ได้มีข่าวออกมาว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนถัดไป

สำหรับเรื่องการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และอาจจะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้น ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ เคยได้เอ่ยถึงไว้เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ในงานปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ภายใต้แนวคิด ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน’ ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรค ตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ได้นำชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (ในขณะนั้น) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

โดยน.ส.แพทองธาร ได้ให้สัมภาษณ์ ไว้ว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะประกาศให้ประชาชนทราบว่าเราพร้อม พรรคเพื่อไทยพร้อมฟูลทีม สำหรับจุดเด่นของทั้ง 3 คนนั้นไม่เหมือนกันเลย บอกแล้วว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ทั้ง 3 คนไปทำงาน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกแคนดิเดตเบอร์ 1 มาจากอะไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครคือเบอร์ 1 2 3 ทุกบัญชีเราเสนอชื่อเต็มหมด ไม่ว่าจะเป็น สส.เขต / ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงความชัดเจนของรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย เพราะอาจจะเป็นแรงดึงดูดให้ประชาชนเลือกพรรค น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับแคนดิเดตนายกฯ 3 คนของพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครเหมือนกันเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ไหนก็ทำงานร่วมกันอยู่ดี นี่คือสิ่งสำคัญ วันนี้จะอาศัยแค่พรรคเพื่อไทย เราต้องชนะไปด้วยกัน ประชาชนต้องออกมาเลือกอนาคตของตัวเองไปพร้อมกับพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่ามั่นใจกว่าพรรคอื่นหรือไม่ที่มีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ในขณะที่พรรคอื่นมีคนเดียว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเราเจออะไรกันมาเยอะ และเราตั้งใจกันจริง ๆ ในเรื่องนโยบาย พวกเราทั้ง 3 คนพร้อมเป็นตัวเลือกให้ประชาชน เพราะเราอยากได้นายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อพลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้เป็นจริงได้

ต่อมาผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามว่า หลังการเลือกตั้งจะไปร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร บอกว่าเร็วเกินไปที่จะพูด ขอโฟกัสที่การเลือกตั้ง สนใจผลการเลือกตั้งของพรรคเราเป็นอันดับแรกก่อน

ผู้สื่อข่าวถามนายเศรษฐาว่ามองแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า แม้ทั้ง 3 มีบุคลิกที่ต่างกันแต่เราทำงานเป็นทีม นายชัยเกษม ก็มาด้วยความอาวุโส เป็นนักวิชาการทางด้านกฎหมาย เป็นบุคคลที่มีคุณภาพของพรรค ส่วนหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ นั้น ขอให้เป็นทีละขั้นตอน ขอให้ผ่านวันที่ 14 พ.ค. แล้วค่อยว่ากันอีกครั้ง เราจะพยายามไปพบปะพี่น้องให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขอให้รอฟังนโยบาย ซึ่งจะมีการประกาศตัวเลขบางตัว ซึ่งน่าตื่นเต้น

ผู้สื่อข่าวถามนายชัยเกษมว่า รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ ที่ได้ตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง นายชัยเกษม กล่าวว่า “ไม่เห็นมีเหตุที่จะต้องตื่นเต้น”

ระหว่างนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวเสริมติดตลกว่า "เก่าแล้วๆ" นายชัยเกษม กล่าวต่อว่า “รู้สึกเฉยๆ เพราะโอกาสเป็นนายกฯ จะมาลงที่ตนมันยาก” ทำให้ น.ส.แพทองธาร หัวเราะ นำศีรษะพิงไหล่นายชัยเกษม พร้อมกล่าวว่า "อาจารย์พูดแบบนี้ได้อย่างไร" ขณะที่ นายเศรษฐากล่าวเสริมว่า "อ.ชัยเกษม พูดถ่อมตัวมาก"

‘สส.เพื่อไทย’ หนุน ‘อุ๊งอิ๊ง’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ฟาก ‘กก.บห.’ ต้องฟังเสียง สส. ก่อนมีมติเด็ดขาด

กรณีที่มีกระแสข่าวว่าบ้านจันทร์ส่องหล้าเคาะจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนถัดไป ในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) ว่า…

จริง ๆ มีการพูดคุยกัน แต่ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตนอยู่ที่สภาฯ เพื่อเคลียร์วาระการประชุมต่าง ๆ กับวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล อย่างไรก็ตามแม้จะมีข่าวออกมาแล้ว แต่ตนก็มองว่าเป็นแค่การพูดคุยกัน ส่วนเรื่องอื่นต้องรอสรุป หลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคบ่ายวันนี้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เหมือน สส. ส่วนใหญ่จะสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นบุคคลที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์กล่าวว่า จริง ๆ แล้วพรรคเพื่อไทยยังเหลือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน ซึ่งต้องดูความเหมาะสม และจะมีการประชุม กก.บห. ซึ่งจะมีการประชุม สส. เพื่อเรียกกำลังใจกลับมา การที่เราจะปฏิบัติหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป ส่วนเรื่องของฝ่ายบริหารขอให้เป็นมติของที่ประชุม กก.บห.

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มว่า มติ สส. ที่สนับสนุน น.ส.แพทองธาร จะสามารถสู้มติของกก.บห.พรรคได้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า แน่นอนว่ากก.บห.ก็ ฟังมติของสส. ฉะนั้นหากมีประชุม ยกเหตุผลมาแล้ว ก็น่าจะสรุปได้ในบ่ายวันนี้

'พีระพันธุ์' ยัน!! รทสช. ย้ำจุดยืนหนุนแคนดิเดต พท. เป็นนายกฯ ต่อ แต่ยังยึดหลักเดิม 'ห้ามแก้ 112' ชี้!! หยุดปั่นดึง 'ลุงตู่' เอี่ยวเก้าอี้นายกฯ

(15 ส.ค. 67) ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รักษาการรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วยสมาชิกพรรค ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมพรรค โดยนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคขอสนับสนุนให้แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ อย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยสร้างชาติยังยืนยันว่าต้องไม่มีนโยบายที่จะแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี กลับมาเป็นนายกฯ? นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า "พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่กลับมา เพราะเป็นองคมนตรีแล้ว อย่าเอาข่าวแบบนี้มาทำให้มีปัญหาเพราะองคมนตรีไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อีกทั้งตามมารยาทแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแต่แรก ก็ต้องให้สิทธิกับพรรคแกนนำรัฐบาลก่อน ทั้งนี้ การทำงานของรัฐบาลยังคงต่อเนื่อง เพียงแค่เปลี่ยนตัวนายกฯ เท่านั้น โดยโควตาของรัฐมนตรีเท่าที่ทราบมา ทุกพรรคก็ทำงานต่อเหมือนเดิม ส่วนความพึงพอใจนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติก็พอใจการทำงานที่ผ่านมา ส่วนพรรคอื่นต้องไปถามเอาเอง"

เมื่อถามถึงความกังวลในด้านสุขภาพของนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย? นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า "ตนก็ไม่ทราบเพราะจากข่าวก็ยังไม่มีการสรุปว่าแคนดิเดตจะเป็นนายชัยเกษม ซึ่งจากข่าวที่ออกมาก็ทราบเพิ่มว่าพรรคเพื่อไทยจะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ เรื่องโดยมารยาทต้องเป็นเรื่องของพรรคแกนนำ ส่วนเรื่องปัญหาก็ต้องให้พรรคหลักเป็นผู้จัดการ"

เมื่อถามว่าทางพรรคพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคเพื่อไทยต่อใช่หรือไม่? นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า "ในเรื่องของนโยบายยังยึดเช่นเดิม แม้ว่าก่อนหน้านี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะกังวลว่านโยบายนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จนกระทั่งมีการชี้แจงจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และกระทรวงการคลังว่าสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ชี้แจงว่าจะมีปัญหาหรือทำต่อไปได้หรือไม่"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top